ความคิดเห็นที่ 1 ใจเย็น ๆ เจอแบบนี้ ต้องหงุดหงิด บ้าง ธรรมดา คุยกับแฟนเลยค่ะ ญาติโยม จะใช้ไปไหน ๆ ไปได้หมดนะถ้าว่าง แต่ช่วยกรุณาจ่ายค่าน้ำมันด้วย จร้า จากคุณ : สาว แกร่งแรงเกิน 100 เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 18:23:12

ความคิดเห็นที่ 2 ยากเนอะ เราก็เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ขี้รำคาญอีกด้วย เจอแบบนี้ก็ไม่รู้จะต้องทำยังงัย แต่ก็คงไม่ยอมง่ายๆ อยู่กันสองคน ต้องเกรงใจกัน เออ พูดถึงเรื่องความเกรงใจ เดี๋ยวนี้คนเราไม่รู้จักคำนี้กันเลยเนอะ แปลกมาก จากคุณ : เห็นใจ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 18:24:48 A:171.97.135.54 X: TicketID:323097

ความคิดเห็นที่ 3 ก็กลับกันค่ะ ถ้าญาตินั้นเป็นฝ่ายเรา สามีคงรำคาญเนอะ แต่ก็อาจจะไม่เพราะผู้ชายไม่ค่อยคิดมาก ที่จริงพวกเรามีพี่น้อง ต้องสั่งสอนกันไว้เลยนะ ว่าถ้าพี่น้องมีครอบครัวแล้ว ต้องให้เขามีเวลาส่วนตัวบ้าง  คุณสมบัติผู้ดีต้องหามาอ่านเพิ่มเวลาอยู่ร่วมกะคนอื่น  แต่ไม่ใช่พอตัวเองก็บอกไม่เป็นไงนะ จากคุณ : fornatcha เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 18:34:19

ความคิดเห็นที่ 4 ครอบครัวคนไทยก็เป็นแบบนี้  ต้องทำใจนะ   ลูกของเขา  ครอบครัวของเขาเคยทำกันอย่างไร เขาก็ย่อมปฏิบัติเหมือนที่เคยทำ จากคุณ : คุณนายแดนไกล เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 18:54:18

ความคิดเห็นที่ 5 พูดตรงๆ ไปเลยครับ อย่าเก็บไว้ เดี๋ยวระเบิดแล้วคุณคงทะเลาะกับสามี พูดตอนที่อารมณ์เป็นปกติ ใช้เหตุผลในการพูด สู้ๆครับ จากคุณ : นายหมีพูห์ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 19:00:59

ความคิดเห็นที่ 6 เราเองก็มีโลกส่วนตัวสูง แต่งงานย้ายเข้ามาอยู่บ้านสามีพ่อแม่สามีทำห้องให้ใหม่ตอนแต่งงาน พี่ชายพี่สาวสามีทำงานกทม. ที่บ้านมีห้องส่วนตัวให้หมดกลับมาบ้านทีไม่นอนห้องตัวเองกันมานอนห้องเราแล้วคุยเปิดทีวี ยันตี 3 ตี 4 เล่นเกมส์กัน เราจะนอนก็นอนไม่ได้ไฟเปิดสว่างไปหมดค่ะ เสียงทีวีอีกจะอาบน้ำแต่งตัวทีไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย ทั้งๆก็รู้ว่าน้องมีครอบครัวแล้วเล่นกันพองามแล้วก็แยกย้าย แต่ไม่เลยยันเช้านอนในห้องอีก เราท้องด้วยค่ะอดนอนอยู่ 2 วันแถมเข้าห้องน้ำบ่อย เป็นลมเลยค่ะพักผ่อนไม่พอ บ่นสามีไปสะยกใหญ่ต่อไปห้องใครห้องมันเกรงใจกันบ้างโตๆกันแล้ว จากคุณ : สาวซ่าแอ๊บสวย เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 19:07:06

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นใจ จขกท จังค่ะ เหมือนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ได้ใช่มั้ยคะ จากคุณ : เขียนบน iPad (candy style) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 19:29:49

ความคิดเห็นที่ 8 ของเราเองก็กลุ้มเหมือนกัน เบื่อมากพวกที่เห็นแก่ตัวขนกันมาอยู่จนเราทนไม่ไหวต้องย้ายออกไปเช่าคอนโดอยู่ งงไหมบ้านเราแท้ๆ ไม่เคยเกรงใจเลยจะเอาแต่จะกินของดีๆไปเที่ยวไหนก็จะคอยตามไปด้วยไม่เคยจ่ายเงินอะไรซักกะแดงเดียว ขนาดสบู่ยาสีฟันครีมล้างหน้ายังไม่ซื้อใช้เลย ไม่ใช่ว่าจนนะ เห็นแก่ตัวแก้ไม่หายหรอก. เราเข้าใจนะเจอมาเยอะเหมือนกันเราอดทนไม่พูดอะไรเลยจนวันหนึ่งยื่นคำขาดกับสามีว่าจะย้ายจะไปไหมไม่ไปก็ไม่เป็นไรทนไม่ได้แล้วเบื่อจะเป็นโรคประสาท พูดกับสามีเลยค่ะรับได้ก็คือได้ไม่เข้าใจก็จะได้รู้กันไปว่าปรามกันหน่อยอย่าเยอะ เพราะว่าเงียบไม่มีประโยชน์เดี๋ยวเราจะประสาทกิน จากคุณ : memeapril เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 19:38:29

ความคิดเห็นที่ 9 บอกกับลามีไปตรงๆ ว่าลำบากใจ แล้วตกลงกันว่าไม่เกินเดือนละครั้งได้ไหม แล้วคุณก็รีบไปสอบใบขับขี่ให้ได้ไวไว จากคุณ : ถ้วยกลม เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 20:24:53

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นเหมือนกันค่ะ แต่สามีเราเข้าใจแล้วก็ตามใจเราน่ะค่ะก็เลยไม่ค่อยอึดอัด อีกทั้งเราถูกเลี้ยงมาแบบ มีปัญหาอะไรให้พูด พูดแล้วยังไม่เกรงใจค่อยด่า เจ้าของกระทู้มีสิทธิรักษาสิทธิของตัวเองค่ะ ความเกรงใจทุกคนพึงมีแต่ถ้าไม่ เราจะเกรงใจเค้าทำไม จากคุณ : แม่ลูกอ่อน-น้องต้าตง เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 20:34:55

ความคิดเห็นที่ 11 บ้านก็ใช้ชื่อสองคนสิคะ จากคุณ : Pongchan เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 20:40:40

ความคิดเห็นที่ 12 ขอโทษนะคะที่เห็นต่าง ถ้าเราเป็นสามีคุณเราจะไปรับส่งพ่อแม่ตัวเองเหมือนกันค่ะ จะไม่ปล่อยให้เค้าลำบาก ถ้าเรามีรถแล้วพอจะช่วยไปส่งเค้าไปไหนๆได้สบายขึ้น เราจะทำค่ะ ส่วนญาติพี่น้องคนอื่นก็อีกเรื่องนึง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวเองลำบากไม่พอใช้ก็จะบอกพ่อแม่เหมือนกันว่าอาจจะมาบ่อยๆไม่ได้เพราะเหตุผลอะไรต่างๆก็ว่าไปค่ะ เอาแต่พอดีทั้งเค้าและเราค่ะ จากคุณ : หมูทอดร้อนๆ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 22:36:58

ความคิดเห็นที่ 13 คหสต.นะคะ เราคิดว่าการที่สามีเรากลับไปรับส่งพ่อแม่ไม่ให้ลำบากแค่พาไปซื้อของ พาไปเที่ยวบ้าง หาอะไรกินบ้าง เธอว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณอย่างหนึ่ง แต่เราอาจจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น อาจจะบอกสามีว่าให้พ่อแม่ช่วยออกค่าน้ำมันบ้างอะไรบ้างก็ว่าไป ส่วนตัวเราแล้วมีพี่ชายแต่งงานออกไปเราไม่เคยต้องให้พี่ลำบากที่บ้านเลยคะ เหมือนยกลูกชายให้บ้านโน่นเลย พี่เราไม่เคยกลับมาดูแลครอบครัวเลยคะ มีแค่นานๆครั้งแบบน้องสาวเราไม่สบายต้องให้มารับไป รพ.อะไรแบบนี้ จากคุณ : Face 2 Face เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 23:18:13

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อก่อน เราก็เป็นแบบ จขกท พอนานเข้า ก็กลายเป็นอคติกับพ่อแม่สามี ตอนนี้โอเคแล้ว มองข้อดีของเค้า มีเยอะนะ รักหลาน(ลูกเรา)มาก เกรงใจเรา ข้อเสียก็มี เราต้องมองข้ามๆไป ไม่อยากทำให้เค้าไม่มีความสุข ถึงแม้จะรักเค้าไม่เท่าพ่อแม่เราเอง จากคุณ : HippoRacing เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 55 23:28:52

ความคิดเห็นที่ 15 เราก็โลกส่วนตัวสูงนะ โชคดีแฟนเราเข้าใจ เราบอกเค้าเลยว่า เราน่ะอะไรก็ได้ แต่ครอบครัวคุณอย่ามาวุ่นวายชีวิตเรา อย่ามาอยู่บ้านเดียวกับเรา(เราซื้อชื่อเรา) ไม่ต้องมาให้เห็นกันบ่อยๆ เราไม่ชอบเราเบื่อ อย่างว่าแหล่ะ เราเห็นพฤติกรรมครอบครัวแฟนหลายอย่างจนเราเอือม แฟนเราเองยังเอือมไม่รู้จะพูดไง จากคุณ : ตะเกียงแอลกอฮอลล์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 00:57:41

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับเรามอง 2 อย่างค่ะ เรื่องไปรับไปส่ง เราว่ามันก็ควรค่ะ สามีคุณอาจจะมองว่าตอนนี้มีรถแล้ว ก็ไม่อยากให้พ่อแม่ลำบาก พ่อแม่ก็แก่แล้ว จะอยู่อีกนานเปล่าก็ไม่รู้ มันเป็นความกตัญญูอย่างนึงค่ะ ส่วนเรื่องจะบ่อยมากน้อยแค่ไหน อันนี้คงต้องคุยกันค่ะ ส่วนตัวเราเองก็พาลูกไปหาพ่อแม่เราอาทิตย์ละครั้งค่ะ พาไปเที่ยวไปกินข้าวบ้าง แต่พ่อแม่เราก็ไม่ค่อยยอมหรอก จะเป็นคนจ่ายเงินอยู่เรื่อย (แต่สุดท้ายเราก็จ่ายอ่ะ) เราว่า เรื่องอย่างนี้อยู่ที่นิสัยคนด้วยค่ะ ว่าจะจ่ายหรือไม่จ่าย ส่วนเรื่องพากันมานอนบ้าน เอาแฟนของน้องสาวมานอนด้วยนี่แปลกค่ะ เพราะเป็นคนนอก แถมมาใช้ของในห้องนอนคุณอีก ถ้าเป็นเรา เราจะคุยกับสามีเลยค่ะ ว่าเราไม่ชอบ และถ้าเค้ามาใช้ของในห้องเรา เราคงแสดงออกให้รู้หรือพูดกับเค้า หรือไม่ก็ปิดประตูล็อกห้อง ทำยังไงก็ได้ให้เค้าเข้ามาไม่ได้ แต่แบบเนียนๆ หน่อย ให้ดูไม่น่าเกลียดนะคะ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกันค่ะ (เผื่อเค้าจะสำนึกเองค่ะ) ถ้าคุณอึดอัด เราว่าก็ต้องคุยกับสามีตรงๆ ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายเป็น 2 คน มาทะเลาะกันเพราะคนอื่นอ่ะค่ะ เห็นใจจริงๆ จากคุณ : น้องภัทรกับป๊าเล็ก เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 06:58:49

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท นะคะ ขอบคุณทุกคนมากค่ะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนหนักกว่าเราอีกเนอะ ของเราดูจิ๊บๆไปเลย ไอ้เรื่องสามีไปรับส่งพ่อเขาไปไหนมาไหน หากไม่บ่อย เดือนละครั้ง 2 ครั้งเราโอเคนะ จะว่าไงดีล่ะ ปกติ เราทำงานกันเต็มอาทิตย์ สามีเลิกงาน ดึกค่ะ 3 ทุ่มเพราะควบโอ เขาหยุดแค่วันธรรมดา 2 วัน ส่วนเราอ่ะเสาร์อาทิตย์ หยุดไม่เคยตรงกัน แต่ทุกวันหยุด แต่ก่อนเลย เขาเอาแต่กลับบ้าน ไม่เคยอยู่กับเราเลย พ่อเขาจะตามกลับไปตลอด ให้พาไปนู้นไปนี่ตลอดเงินเก็บของเราแทบไม่มีเลยนะ จนพ่อเราถามว่า เงินครอบครัวเก็บได้เยอะหรือยัง มันจำเป็นนะ เพราะหากฉุกเฉิน มีเรื่องต้องใช้ ไม่มีเงินเก็บเลยทำยังไง เราก็เลยต้องบังคับเก็บเงินร่วมกัน ทำให้เขามีเงินเหลือน้อยกว่าเดิม เพราะเขาถือเงินไม่ได้เลย เงินมีจะพาพ่อแม่พี่น้องเขาไปหากินอะไรดีๆทุกวันหยุด มันเปลืองนะ อาทิตย์นึงไปสองวัน มันมากไปน่ะ เดือนนึงก็เท่ากับ 8 วันหากมี 4 อาทิตย์ ครั้งนึงไปกันก็กินกันไม่ต่ำกว่า 500 หรอกค่าน้ำมันรถต่างหาก เราสองคนก็เงินเดือนไม่ได้มากมาย พนักงานโรงงาน จะเอาที่ไหนมาเยอะ รวมกันยังไม่ถึง 4 หมื่นเลย แต่ครอบครัวเขาทำเหมือนทำงานได้เงินเดือนละเป็นแสน อันนี้เราเลยคุยกับสามี ตกลงกันเปิดบัญชีร่วม เราให้เหตุผลแค่ว่า หากมีเหตุฉุกเฉิน เราจะทำไง ไม่มีเงินสำรองเลย สามีก็โอเค เห็นดีเห็นงาม ช่วยกันเก็บ ก็ได้มั่งไม่ได้มั่ง ในแต่ละเดือน เราเข้าใจนะ กตัญญูน่ะ เพราะเราก็อยากให้พ่อแม่เราสบาย ไม่เดือดร้อน แต่เราน่ะ ไม่เคยได้พาพ่อแม่นั่งรถไปไหนเลย ไม่เคยได้พาไปกินข้าวที่ไหนเลยทั้งที่ต้องการจะพาไปมากมาย แต่พ่อแม่เราไม่ยอม ไม่ชอบไปไหน ชอบแต่อยู่บ้าน เราก็จะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ ทำอะไรกินกันที่บ้าน ไม่มีเลยที่พ่อแม่จะร้องไปหาร้านหรูๆกิน พ่อบอกมันแพง เราทำเองกินเองที่บ้าน สบายกว่า มีความสุขกว่า เพราะงี้ไง เราถึงเปรียบเทียบ ว่าทำไมพ่อแม่เขาไม่คิดให้ได้สักครึ่งของพ่อแม่เรามั่ง แต่ก็นั่นแหละพูดอะไรไม่ได้หรอก น้ำมันท่วมปาก พ่อแม่เขานิ ครอบครัวเขานิ แตะต้องอะไรได้ล่ะ เราก็เคยคุยกับสามีนะ เรื่องมาค้าง เขาก็บอกแค่ว่า ไม่เป็นไรหรอก นานๆครัั้ง เดือนละ ครั้ง สองครั้ง คือมันจะแทบทุกครั้งที่สามีหยุดแล้วไม่ได้กลับบ้านน่ะแหละ ต้องไปรับพ่อกับน้องเขามาค้างที่บ้านเรา แบบนี้นะเราเลือกให้เขากลับบ้านทุกอาทิตย์ไปเลย ไม่ต้องพามาค้างหรอก ทุกวันนี้อยู่ด้วยกันเหมือนต่างคนต่างอยู่ วันหยุดไม่เคยได้เจอกัน วันทำงานก็ตื่นเช้าแต่งตัว ทำงาน เย็นกลับมาก็ 3 ทุ่ม กินข้าว ดูละคร อาบน้ำ นอน แทบจะไม่ได้คุยอะไรกันอยู่แล้ว กิจกรรมร่วมกันแทบจะไม่มี วันหยุด เขาก็เอาไปทุ่มให้ครอบครัวเขาหมด ไอ้เราก็นังแจ๋ว วันหยุดทำงานงกๆ หรือหากเขาไม่ได้กลับบ้าน ก็จะช่วยทำงานบ้านให้แต่ต้องแรกกับพาน้องกับพ่อเขามานอนค้าง เห้อ จากคุณ : อารมณ์เบื่อ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 08:27:02 A:110.77.249.72 X: TicketID:350691

ความคิดเห็นที่ 18 ขอเล่าต่ออีกหน่อย เมื่อวานที่พากันมาค้าง เราปิดห้องไว้ ไม่ให้เขาเข้าหรอก เสียมารยาทก็ยอมแต่เราไม่ชอบไง น้องสาวกับแฟนเขาทำเหมือนมาอยู่บ้านตัวเองอ่ะ ยึดโทรทัศน์ ดูหนังที่เขาเช่ามา เปิดเสียงดังมาก เราโคตรหนวกหูเลย ก็เลยเดินไปกดเบาเสียงลง แล้วก็เดินไปช่วยสามีกับพ่อสามีเขาทำกับข้าว น้องเขากับแฟนเขาก็ไม่สนใจไรหรอก พ่อเขาทำกับข้าวเสร็จ เรากับสามีก็ขนของขนจาน ช้อน แก้วอะไรไปให้ถึงที่ ก็เข้าใจนะ ฐานะเจ้าบ้าน ดีนะที่มากันวันที่เราไม่ได้ติดละครอะไร หากมากันวันที่มีละครที่เราชอบ เราคงไม่ได้ดูหรอก โดนยึดทีวี มีครั้งนึง เขาจะดูหนังกัน สามีเรา พ่อเขา ครอบครัวเขา ชอบดูหนังกันทั้งบ้าน แล้วชอบดูเสียงดังๆ บ้าบอ จะเปิดให้รบกวนบ้านข้างๆเขาทำไม เปิดเบาๆมันก็ได้ยินเหมือนกันแหละ เรานี่โคตรเซ็ง จะดูละครไม่ได้หรอก โดนเบรคตลอด เขายึดไปดูกันอยบ่างมีความสุข เราจะกล้าไปขัดเขาได้ยังไง ทำไรไม่ได้ก็อาบน้ำให้เรียบร้อย เข้าห้อง นอนมันซะ จบเรื่อง ไอ้เรื่องเข้าห้องน้ำอีกอย่าง พอมีผู้ชายแปลกหน้ามาอยู่ เราไม่กล้าจะทำตัวสบายเหมือนอยู่ลำพังหรอก ต้องหอบเสื้อผ้าเราไปเปลี่ยนในห้องน้ำให้เรียบร้อย จะมานุ่งชุดคลุมนุ่งผ้าเช็ดตัวไม่ได้ มันไม่เหมาะ อึดอัดจริงๆ เมื่อวานก็ดูสามีจะรู้แล้วล่ะว่าเราไม่ค่อยพอใจ เรื่องแฟนของน้องเขา คือไงล่ะ เขามานะ ไม่มีการแนะนำให้รู้จักกันหรอก น้องเขาไม่ได้สนใจจะมาแนะนำแฟนเขาให้เรารู้จัก เราก็เออเนอะ มาบ้านเราแท้ๆ เราก็ไม่ได้สนอะไร ทักทายธรรมดา ยิ้มๆไปแล้วก็ไปเดินทำอะไรของเราเรื่อยเปื่อย ตอนเช้าสามีก็มาถามนะ นอนไม่ค่อยหลับเหรอเห็นตื่นบ่อย เราก็บอกไป หลับๆตื่นๆ เสียงคนกรนน่ะ เลยนอนไม่ค่อยหลับ เขาก็ยิ้มๆ คงเข้าใจแหละนะ เพราะพ่อเขา กับแฟนน้องเขา กรนกันสนั่นหวั่นไหว ขนาดปิดประตูยังได้ยินเลย วันนี้เขาพาพ่อกับน้องกับแฟนน้องไปส่งที่บ้าน เห็นว่าจะไปทำธุระอะไรกันอีกที่ในตัวเมือง คืนนี้คงค้างที่บ้านพ่อเขา ไอ้เราก็น้อยใจนิดๆ ไม่สนใจตรูเลย แต่ก็ดีนะ จะได้นอนหลับสบาย ไม่มีเสียงกรนใครมาให้รำคาญหู จากคุณ : อารมณ์เบื่อ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 08:40:13 A:110.77.249.72 X: TicketID:350691

ความคิดเห็นที่ 19 ของเราพ่อแม่สามีดีไม่มาวุ่นวาย แตน้องชายสามีนี่สิ ทำเอาเราเกือบเลิกกับแฟนไปหลายครั้งตอนแรกสามีเช่าบ้านอยู่ด้วยกันกับครอบครัวน้องชายเพราะตอนนั้นยังไม่มีเรา แต่พอมีเราวันแรกที่แยกบ้านกัน แฟนเราก็ไม่ได้เอาอะไรออกมาซักอย่าง ทีวี เครื่องเสียง เครื่องครัว มอเตอร์ไซ น้องชายสามีใช้ทุกอย่าง เราก็ว่าสามีเราดีรักน้อง ไม่เป็นไร ของเรามีเยอะแล้ว แต่พอผ่านไปดูเหมือนจะมีเรื่องรบกวนตลอด เงินบ้าง อะไรบ้าง แต่ที่หนักสุด คือสามีไปทำเรื่องผ่อนคอนโดเอาไว้ เราก็ไม่เซ็นต์ชื่อยินยอมให้เช่าซื้อ เรายังไม่ทันเห็นเลยว่าหน้าตามันเป็นยังไง รู้อีกที น้องชายเขาย้ายเข้าไปอยู่แล้ว(เราอยู่บ้านพักราชการ) มันอึ้งสุดจะบรรยาย แต่จะโทษน้องชายเขาก็ไม่ได้ต้องโทษสามีตัวเอง ที่ไม่นึกถึงครอบครัวตัวเอง เอ้อ ทำใจ จากคุณ : Satan@2011 เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 09:54:38

ความคิดเห็นที่ 20 เข้าใจและเห็นใจ จขกท เลยค่ะ เพราะเคยตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าเวลามีปัญหาอะไร ไม่พอใจอะไร ไม่ชอบเก็บไว้น่ะค่ะ จะคุยกับคุณแฟนตลอด บอกถึงเหตุผลว่าที่เราเป็นแบบนี้คิดแบบนี้ ไม่พอใจแบบนี้เพราะอะไร ไม่ก็จะยกตัวอย่างให้เขาได้มองครอบครัวอื่น มองคนอื่นดูบ้าง ปัญหาในแต่ละครอบครัวมีมากน้อยแตกต่างกันไป อะไรที่ทนได้ก็ทน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่อะไรที่ทนไม่ได้ ก็อย่าเก็บไว้เลยนะคะ เครียดซะเปล่าๆ แล้วจะกลายเป็นครอบครัวตัวเองไม่มีความสุขค่ะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : บ้านสายไหม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:17:15

ความคิดเห็นที่ 21 รีบไปสอบใบขับขี่ให้ได้เร็วๆ แล้วก็ยึดรถมาใช้วันเสาร์อาทิตย์ซะ จัดการไปรับพ่อแม่คุณมาอยู่ด้วยบ้าง บอกเลยว่าอาทิตย์ตาพ่อแม่ชั้นค่ะ จากคุณ : earth after rain เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:32:51

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านมารู้อย่างนึง ถ้าคิดจะซื้อบ้าน อย่าเป็นชื่อสามีคนเดียว มีปัญหาแน่ ๆ พันเปอร์เซ็นต์ เพราะครอบครัวสามีคุณก็อยู่บ้านเช่า เมื่อไหร่ใครก็ตามคนในครอบครัวมีบ้านเอง พวกเขาย้ายเข้าบ้านคุณแน่นอนค่ะ ตั้งตารอได้เลย ซื้อบ้านเมื่อไหร่ ครอบครัวสามีย้ายเข้าแน่ เจอบ่อย พ่อก็อยากอวดว่าลูกรวยมีรถขับ เคยจนก็ไม่จนไม่ซะงั้น ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้รวยอะไรขึ้นจากเดิมหรอก ชวนกันไปนั่นโน่นนี่ แต่ก็พอจะเข้าใจน่ะ คนไม่เคยมี ส่วนลูก (โทษนะค่ะ) ก็อยากอวดเช่นเดียวกัน ว่าข้ามีรถอ่ะ รวยแล้วน่ะ อะไรประมาณนี้ ถ้าโสด ผู้หญิงก็มาตรึมช่วงมีรถนี่แหละ คุยไปเขาก็ไม่เข้าใจหรอก ถ้าสามีคุณก็ชอบอวดน่ะ เป็นเรา จะสอบใบขับขี่ให้ได้ แล้วใช้รถมั่ง เขาจะได้เลิกติ๊ต่างไปเอง ว่ามันเป็นแค่รถเขา ส่วนเรื่องบ้าน ถ้าคุณคิดว่าทนได้ ไปไหว ก็ซื้อได้ แต่ต้องทำใจไว้รอ และต้องเป็นชื่อคุณด้วย จากคุณ : Madam Country เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 11:57:27 A:95.166.192.18 X: TicketID:341763

ความคิดเห็นที่ 23 เลิกให้เค้าผ่อนค่ะ แล้วคุณผ่อนต่อเองทั้งหมด ที่คุณคิดอย่างงี้ เพราะคุณมีทัศนคติว่านี่รถคุณ คุณซื้อนะ คุณเป็นคนวางเงินดาวน์ แต่ทำอย่างนั้นไปก็ทะเลาะกันเปล่าๆมั้ง เราว่าเอาทั้งหมดเนี่ยเขียนลงกระดาษให้เค้าอ่าน แล้วกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ค่ะ(เอารถไปด้วยนะคะ ให้เพื่อนมาขับให้หรืออะไรก็ได้) ชีวิตจะได้พบความสงบสุขซักที เพราะเค้าทำเหมือนเป็นคนโสด แทบไม่ใช้เวลาอยู่กับคุณเลย ถ้าเค้าไม่มาตามก็คงต้องเลิกกันล่ะค่ะ หรืออีกทางก็คุยกับครอบครัวเขาตรงๆไปเลย จากคุณ : วันนี้หนูมาคนเดียว เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 14:34:28

ความคิดเห็นที่ 24 บางเรื่องก็สมควรทำ มีเหตุผล  อย่างรับ-ส่งพ่อแม่ แต่ทุกเรื่องมันก็ไม่ไหว  อย่างเอาใครต่อใครมานอนจนรบกวนเกินไป   เรื่องแฟนน้องอีกอย่าง  เป็นเรา เราก็ไม่ไว้ใจ เราเองก็เป็นนะ ถ้ามีผู้ชายอื่นในบ้าน เราก็เกร็งเหมือนกัน เคยเจอเคส พี่สาวสามีค้ายา เอายามาซุกไว้บ้านน้องชาย ยังดีไปโดนจับที่อื่น ถ้าตำรวจมาค้นที่บ้าน ซวยเลย หรือการที่มีธุระจนต้องแยกสามีให้ไปนอนบ้านพ่อแม่เค้าบ่อยๆ แล้วเราต้องนอนคนเดียว อืม แล้วเราเป็นใครคะสามี   ถ้าไม่อยากใช้ชีวิตด้วยกันก็บอกนะ -*- แยกแยะประเด็น แล้วบอกให้เค้าจัดการ ประเด็นหลัก อาจเป็นเพราะ จขกท. มองว่า รถนั้นชั้นดาวน์มานะ ชั้นรู้สึกเหมือน ไม่ได้ใช้  การเทคแคร์สามีก็ดูเหมือนลำเอียง ระวังอย่าพูดว่า รถชั้น เงินชั้นนะ ผู้ชายบางคนอัตตาเยอะ หรือคำว่า เอาเปรียบเสียเปรียบก็ระวังด้วย ส่วนเรื่องชื่อใครนั้นเรามองว่า ไม่สำคัญ หากว่าจดสมรสกัน หารสองอยู่ดี แถมถ้าใครยืมรถไป แล้วเกิดอุบัติเหตุ  เจ้าของรถรับไปเต็มๆ กระทู้ในห้องศาลามีเยอะ ประเภทพี่เมีย น้องเมียยืมแล้วชน  แล้วก็ไม่รับผิดชอบ แต่ถ้าไม่จด ก็ระวังด้วย นึกออกเท่านี้ค่ะ . จากคุณ : moonface เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 05:11:35