ความคิดเห็นที่ 1 คุณแม่ครับ ผมบอกตามตรงเลยนะครับ อย่าไปมีเรื่องกับครูประจำชั้นนะครับ ผมคิดว่าคุณครูสมัยนี้ชอบวางอำนาจเหนือเด็ก ถึงผู้ปกครองจะพูดอย่างไร เค้าก็ไม่ฟังนะครับ ช่วงนี้ผมกำลังเจอเด็กที่มีปัญหาแบบนี้อยู่ แต่เค้าไม่ว่าคุณครูเค้าเพราะกลัวครูแกล้งนะครับ สิ่งที่ทำได้คือ ทำใจนะครับ คุณแม่อาจจะเลือกโรงเรียนได้ แต่เลือกครูที่ดี ยอมรับการว่าตำนิจากคนอื่นไม่ได้หรอครับ ตอนแรกๆเด็กมาใหม่ไม่รู้จักใครก็ร้องไห้อย่างนี้แหละเพราะเค้าไม่มีเพื่อน มันต้องใช้เวลาสักหน่อยนะครับ อย่าท้อแท้นะครับ บอกน้องเค้าด้วยว่า ไม่ต้องเสียใจนะ ครูเค้าไม่อยากให้หนูทำ ก็อธิบายไป คุณแม่ส่งเสริมความสามารถน้องเค้าสักหน่อย นะครับ และค่อยหาวิธีกดดันครูให้เค้ายอมคุณแม่ให้ได้นะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : น้องเชาว์ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 22:42:21

ความคิดเห็นที่ 2 คำแนะนำของเราอาจจะไม่ตรงใจ หรืออาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุดนะคะ แต่ถ้าเป็นเรา เราจะหาซื้อขนม ของฝากติดไม้ติดมือ ไปให้ครูคนนั้นบ่อยๆค่ะ ปีใหม่ ไปเที่ยวไหนก็มีของฝากไปให้บ้าง เผื่ออะไรๆจะดีขึ้นค่ะ จากคุณ : มองผ่านแว่นสายตาเอียง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 23:05:12

ความคิดเห็นที่ 3 อ่าน 2 ย่อหน้ารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ เพราะเด็กในห้องมีเยอะ คนไหนช้าครูก็มักจะทำแบบนี้ จะมาประกบตัวต่อตัวคงไม่ได้ คุณแม่ต้องช่วยลูกด้วยการฝึกหัดและปรับนิสัยให้ลูกด้วย ส่วนย่อหน้าสุดท้ายนี่รู้สึกว่าครูทำเกินไปค่ะ ตอนนี้เหมือนน้องไม่ใช่เด็กโปรด แต่เป็นเด็กที่เป็นภาระ ครูเลยไม่ค่อยอยากจะให้ความสนใจ แต่เรื่องแค่นี้จะไปคุยกับผู้บริหารก็ดูกระไรอยู่นะคะ คงต้องปรับที่ตัวลูกเรา ให้ฝึกทำอะไรให้ทันเพื่อน ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดี ไม่ร้องไห้งอแง เข้ากลุ่มกับเพื่อนให้ได้ จากคุณ : paripan เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 23:09:19

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องลองเลียบ ๆ เคียง ๆถามลูกค่ะ ว่าครูมีดุมีตีอะไรลูกผิดปกติรึเปล่า ถ้าไม่ เราเห็นว่าครูอาจจะรู้ว่าลูกคุณไม่ค่อยชอบกิจกรรมรึเปล่า เป็นเด็กไม่ชอบทำกิจกรรม ครูก็เลยไม่ค่อยเรียกให้ทำนั่นทำนี่มาก ส่วนเรื่องที่ว่า เลือกที่รักมักที่ชัง ขนาดแสดงออกชัดเจน ก็ยากคาดเดาค่ะ พยายามปรับให้ลูกคุณเข้ากับคนอื่น ๆ ได้น่าจะง่ายกว่า เข้ากับเพื่อนร่วมห้องได้อะไรแบบนี้อะค่ะ จากคุณ : rainswatch เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 23:32:52

ความคิดเห็นที่ 5 น้องอายุเท่าไหร่คะ ยังเล็กเกินไปเลยปรับตัวยังไม่ได้หรือเปล่า แล้วทำไมได้เข้ากลางเทอมคะ จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 07:46:18

ความคิดเห็นที่ 6 เราเคยนะตอนเด็กๆติดพ่อกับแม่มาก ไม่อยากไปโรงเรียน ร้องไห้จนถึง ป.2-ป.3 ด้วยมั้ง เราว่าส่วนนึงนี่มาจากครูที่ รร เค้าไม่ชอบเราๆจำได้ขึ้นใจ เค้าไมได้มาด่าทออะไรนะคะ แต่ชอบทำเหมือนเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น ทำให้เราไม่อยากไป รร เราไม่รู้สึกสนุกที่ไป รร เกลียด รร และครูมาก(อันนั้นเป็นความคิดตอนนั้น) ทำให้เราฝังใจไม่ชอบไป รร   พอมีลูกเราๆเลยต้องทำการบ้านหนักหน่อย ตอนที่คนโตเข้าเรียนที่เมกา ครั้งแรกเราทำ research อย่างดี เข้าไปอ่านพร้อมสอบถามผู้ปกครอง คนที่มีลูกเรียนอยู่ คือเราอยากให้ลูกรู้สึกสนุกที่ไป รร เรียนรู้เข้ากับเพื่อน และครูได้ดีแต่เราเชื่อว่าครูนี่เป็นส่วนหนึ่งเลยในการทำให้เด็กอยากไป รร ลูกเราไปโรงเรียนอาทิตย์แรกมีร้องบ้างแต่ก็ดูคุณเธอสนุกดี พอย้ายกลับมาไทยก็เป็นปัญหาใหญ่เลยคือไม่ยอมพูดไทย ไม่อยากไป รร เพื่อนพูดไทย ครูพูดไทย ฟังออกแต่พูดกลับเป็นภาษาอังกฤษ แต่คุณครูบอกว่าไม่ค่อยยอมพูด  ที่ รร ที่ไทยคุณครูก็พยายามสุดๆ จนตอนนี้ลูกจากพูดไทยไม่ได้กลายเป็นพูดไม่ยอมหยุด จะพูดอังกฤษ กับพ่อเค้าเท่านั้น ตอนนี้ร้องไป รร ด้วยซ้ำ  คุณครูนี่เป็นส่วนสำคัญเลยค่ะ คุณแม่ลองค่อยๆดูนะคะ น้องยังเล็กอยู่ปรับตัวช้าบ้าง แต่ถ้าคนรอบข้าง ไม่ช่วยหรือให้ความร่วมมือ เราว่ามันยากที่น้องจะชอบไป รร ถ้าเป็นเราดูแล้วไม่เวิร์คเราคงมองหาที่ใหม่หรือย้ายห้องให้น้องค่ะ จากคุณ : nandy_gal เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 09:30:07

ความคิดเห็นที่ 7 ปกติเด็กเข้าเรียนอนุบาล1 โดยไม่เคยผ่านทอดเลอร์มาก่อน  จะใช้เวลาในการปรับตัวสักระยะ  ทั้งร้องโยเย บางคนไม่เลิกเพิร์ส บางคนไม่เข้าสังคมเพื่อน เลือกกิน ไม่ช่วยตัวเอง โอยสารพัด แล้วแต่ละคนก็แต่ละปัญหา เพราะเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน  ถ้าเจอเด็กที่พร้อมง่ายก็โชคดีไป พอเข้ารร.แล้วสักพักคุณครูก็จะปรับพฤติกรรมเด็กได้เอง ที่สำคัญต้องไว้ใจคุณครู สื่อสารกันตลอดทุกวันจะได้ช่วยกัน และเข้าใจกัน  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณเจ้าของกระทู้ต้องเลือกกรร.ที่ชอบแนวทางการเรียนการสอนด้วย คาดว่าคุณจขกท.เลือกแนววิชาการใช่ไม๊คะ  รร.แนววิชาการส่วนใหญ่จะต้องการเด็กที่พ่อแม่เตรียมความพร้อมมาดีแล้ว หรือเรียนทอดเลอร์มา  ไม่โยเยมาก อ่านabc พยัญชนะได้แล้ว ประมาณว่าเด็กเก่งแล้วค่ะ   หรือจะเจอคุณครูไม่โอเค ก็ไม่แน่ใจเพราะรายละเอียดข้อมูลน้อยไปหน่อย  เรื่องเด็กน้อยค่อนข้างละเอียดอ่อน บางทีใช้ความรู้สึกอย่างเดียวไม่ได้ ขอแนะนำว่าถ้าน้องไปรร.แล้วไม่มีความสุขก็ควรเปลี่ยนรร.ค่ะ เพราะเปลี่ยนวิธีการสอนของรร. หรือเปลี่ยนนิสัยคุณครูยากกว่าค่ะ  เด็กๆ เค้าปรับตัวกับเพื่อนใหม่รร.ใหม่ได้ง่ายค่ะ   แต่ถ้าน้องโอเคดีคุณแม่ก็สื่อสารกับคุณครูทุกวันตอนไปรับว่าเป็นไงบ้างวันนี้ เราจะได้เข้าใจวิธีคุณครูและช่วยน้องปรับจูนด้วย ต้องหาเหตุให้เจอก่อนค่ะ จะแก้ปัญหาได้  การคาดเดา ใช้ความรู้สึกเป็นตัวตัดสินจะเสียเวลาเปล่านะคะ   แล้วน้องทำไมเข้ากลางเทอมคะ ลูกก็เรียนอ.1เหมือนกันพอดีเลยค่ะ  ตอนเลือกรร.ให้น้องถึงรู้ว่ายังกับเลือกคู่เลยค่ะ  ขอให้แก้ปัญหาได้ไวๆนะคะ  รร.ที่ลูกเรียนมีนักเรียนน้อยมากแต่โอเคมากค่ะ ลูกเก่งขึ้นในทุกด้านอีคิว ไอคิว  มีเด็กจากรร.ดังแนววิชาการย้ายมาก็เยอะ ผู้ปกครองนั่งคุยกันตอนรับลูก ได้คุยกับคุณครูทั้งของลูกและระดับอื่น ตัวเองมีลูกคนแรกและไม่มีผู้ใหญ่ช่วยเลี้ยงก็ได้คุณครูทั้งหลายให้คำแนะนำทั้งเรื่องเลี้ยงดู การสอนเสริมแรงบวก เข้าใจคุณแม่ที่กลุ้มใจเลยค่ะ   ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : nisa_j เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 11:28:47

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกคนสำหรับทุกความคิดเห็นมากค่ะ ที่ให้น้องเข้ากลางเทอมเพราะว่าเมื่อต้นเทอมผู้ใหญ่ทางบ้านไม่ยอมให้น้องเข้าโรงเรียน เพราะมองว่าน้องยังเด็ก พอมากลางเทอมเขาเห็นเด็กข้างบ้านไปเข้า เลยยอมอนุญาตให้พาไปเข้าค่ะ ก่อนที่จะตัดสินใจให้น้องเข้าเราก็เข้าไปคุยกับทางโรงเรียนแล้วว่าจะมีปัญหาอะไรกับเด็กหรือเปล่า ทางโรงเรียนก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร เด็กจะปรับตัวได้เอง ทางครูจะมีวิธีจัดการกับเด็กค่ะ เราก็เลยรู้สึกเชื่อมั่น เรื่องที่เล่ามาทั้งหมด เราก็พอทำให้รับได้ก็อย่างที่เพื่อน ๆ บอกแหละค่ะ เป็นธรรมดาของเด็กที่จะงอแง ซึ่งทางครูก็อาจจะลำคาญ หรือไม่ค่อยอยากจะสนใจ แต่ที่เรารับไม่ได้ที่สุดก็คือเรื่องที่ให้ลูกเราขึ้นไปเต้นงาน คริสมาสโดยไม่มีคู่ในขณะที่เด็กคนอื่นมีคู่ รู้สึกว่ามันออกจะเกินไปอะค่ะ สำหรับคำแนะนำที่ให้ซื้อของให้ครู เราก็ทำแล้วค่ะ ก็อย่างที่เพื่อน ๆ แนะนำว่าไม่อยากให้มีปัญหากับครู เราคิดว่าก็คงจะทำตามคำแนะนำนะค่ะ คงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปก่อน ก็พยายามคิดอีกแง่หนึ่งว่าอีก 3 เดือนก็จะจบเทอมแล้ว ถ้าลูกยัง happy อยู่ก็คงจะทำเฉย ๆ ไปอะค่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะค่ะ ที่ให้คำปรึกษา จากคุณ : หนิง (unlee):) เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 21:56:33