ความคิดเห็นที่ 1 เห็นใจค่ะ คล้ายๆๆๆๆกันเลย สู้ๆๆน่ะ จากคุณ : แม่-แอร์ฟอร์ซ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 21:48:46

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าไปให้เลยนะคะ รถเนี่ย จะไม่ได้คืนตลอดไปแน่ค่ะ เงินก็อย่าไปให้ยืมด้วย เงินของเราเก็บเอาไว้เถอะค่ะ หาเหตุผลเลี่ยงไปให้ได้นะคะ เราว่าคุณต้องแข็งๆกับแม่สามีหน่อยนะคะ ยอมทุกอย่าง เดี๋ยวเค้าก็จะยิ่งไม่เกรงใจเรา น่าจะเชียร์ให้สามีแข็งขึ้นหน่อย คือว่ากตัญญูก็เข้าใจ แต่ก็อย่าให้เบียดเบียนมาถึงเรานะคะ จากคุณ : Trijack เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 21:52:44

ความคิดเห็นที่ 3 วันที่แม่สามีคุณจะมาเอารถ ให้ขับหนีไปที่อื่นเลยค่ะ ไปบ้านแม่คุณก็ได้ ไปไหนก็ได้ค่ะ อย่าให้รถอยู่ ถ้าได้ยืมครั้งนึงแล้ว ก็จะมีอีกหลายครั้งตามมา จนรถเป็นของเค้าไปเลยค่ะ จากคุณ : biological6 เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:02:14

ความคิดเห็นที่ 4 คุณควรจะพูดคุยและทำความเข้าใจกับสามีเรื่องแม่สามีให้ชัดเจนไปเลยนะคะ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ตอนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ นี่แหละค่ะ ต่างฝ่ายต่างจะได้เข้าใจกันและจะได้มีเวลาปรับตัว ถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวมันจะเรื้อรัง จะกลายเป็นได้คืบจะเอาศอกไปเรื่อยๆ นะคะ เมียกับแม่ ถ้าเปรียบเราว่ามันก็เหมือนมือซ้ายกับมือขวานะคะ สำคัญพอๆ กัน (เรามองในแง่ของความเป็นคนน่ะค่ะ) สามีคุณจะดูแลแต่แม่ ไม่พยายามเข้าใจหรือเห็นใจเมียเลยมันก็ดูไม่เข้าท่านะคะ มันต้องซ้ายบ้างขวาบ้าง ผลัดเปลี่ยนกันไป ดูแลให้ดีให้เท่าๆ กัน ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้ไม่เจ็บช้ำน้ำใจ การเป็นคนกลางจึงเป็นอะไรที่ต้องชัดเจน เด็ดเดี่ยวและยุติธรรม ถ้าสามีคุณทำหน้าที่ตรงนี้ได้ไม่ดี นอกจากว่ามันจะทำให้เมียเสียใจในตอนนี้แล้ว มันอาจจะเป็นสาเหตุให้แม่สามีและเมียผิดใจกันจนถึงขั้นเป็นเรื่องราวใหญ่ตามมาได้นะคะ อีกอย่างการทำหน้าที่ลูกที่ดีของสามีคุณ ถ้าสมัยที่ยังโสด ยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้รับใครเข้ามาในชีวิตให้ต้องดูแลและให้เกียรติ การจะทุ่มกายใจเทหมดหน้าตักให้แม่ มีอะไรๆ ก็ยกให้หมดแบบนั้นก็คงจะไม่มีใครว่าหรือบ่น แต่นี่แต่งงานแล้ว มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว มีเมียมีภาระหน้าที่ให้ต้องดูแลรับผิดชอบ มันต้องรู้จักแบ่งรับแบ่งสู้แล้วนะคะ จะมาเทหมดหน้าตักเหมือนแต่ก่อนคงไม่ได้แล้ว ไม่งั้นลูกเมียจะเอาอะไรมากินมาใช้ มีเงินก็ให้เงินไม่พอยังมาเอาเงินเมียไปให้แม่อีก มีรถก็จะให้รถทั้งๆ ที่แม่เองก็มีรถ มาเอารถเมียไปแล้วเมียจะใช้อะไร เราว่าคุณควรพูดคุยและทำข้อตกลงกับสามีแต่เนิ่นๆ นะคะ อย่าปล่อยให้เขาเข้าใจเอาเองว่าคุณไม่ว่าอะไร ไม่งั้นวันหลังจะคุยกันลำบากค่ะ บอกไปเลยว่าคุณต้องการความดูแลจากเขาเรื่องอะไร อย่างไรและแค่ไหน ถ้าเขาให้คุณได้ตามที่ขอแล้ว ส่วนที่เหลือของเขา เขาจะเอาไปทำอะไรกับแม่เขาก็ให้เขาไปค่ะ ทีนี้มาในส่วนของคุณ คุณควรชี้แจงว่าอะไรที่คุณหวงไม่อยากใช้ร่วมกับใครหรือไม่อยากให้ใครมายุ่งกับของๆ คุณก็บอกไป หรืออันไปที่พอทำใจให้ใช้ร่วมหรือหยิบยืมกันได้ก็ชี้แจงไป ถ้าเขาเข้าใจและรับได้ วันหลังถ้าคุณปฏิเสธแม่เขาอีก เขาก็จะมาว่าอะไรคุณไม่ได้ เพราะได้ตกลงกันไปแล้ว...ที่สำคัญนะคะ พยายามอย่าปฏิเสธแม่เขาด้วยตัวคุณเองนะคะ มีอะไรให้สามีออกหน้าค่ะ คุยกับสามีให้เข้าใจ ส่วนสามีจะไปชี้แจงหรือพูดกับแม่เขายังไงนั้นให้เขาจัดการกันเอง (ตรงนี้มันช่วยป้องกันเรื่องการกระทบกระทั่งกันได้ค่ะ) จากคุณ : โชคดีค่ะ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:12:32 A:110.175.41.216 X: TicketID:324687

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าสามีดีจริง คุณไม่มาทุกข์อย่างนี้หรอก บอกเหตุผล เค้าก็ต้องฟัง อย่างเป็นกลางสิ เรื่องรถถ้าด้านหน้ามาเอา ก็ขับชิ่งไปที่อื่นเถอะ ไม่งั้นก็บอกให้สามีให้ตังก์แม่ไปเปลี่ยนยางซะ จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:14:38

ความคิดเห็นที่ 6 รถเป็นของคุณเอง หรือว่าใช้เงินร่วมกันซื้อกับสามี? ถ้าเป็นของคุณคนเดียวก็ปฏิเสธได้เต็มปาก แต่ถ้าช่วยกันผ่อนกับสามีก็คงจะปฏิเสธยากค่ะ ส่วนเรื่องเงิน จัดสรรเงินให้ลงตัวแบบไมมีเหลือไว้ให้ใครยืมได้ ถ้าแม่ลูกเค้าจะขอเงินกันก็เป็นสิทธิของเขา เพราะลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่อยู่แล้ว แต่จะมาเอาเงินคุณแบบนี้ไม่ถูกต้องแน่ จากคุณ : นางในวรรณคดี เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:20:09

ความคิดเห็นที่ 7 . . . เรื่อง ซองช่วยงาน  แม่สามีขอซองที่เป็นเพื่อนของตัวเองไปทั้งหมด ทำไมไม่ไปถามสามีคะ ไปถามเลย ว่า ไปกู้มาทั้งหมด นั่นน่ะ จะมีปัีญญาจ่ายคืนไหม กู้ไปดอกละเท่าไหร่ ถ้าแม่ไม่ให้เงินคืนมาบ้าง ให้สามีไปถามแม่เค้าว่า "กระผมแย่นะครับ คิดถึงคนกู้เงินอย่างกระผมบ้างที่ต้องจ่ายดอก นะครับแม่" แม่สามีขอเงินสามีเราไปใช้หนี้หนึ่งหมื่นบาท ทำไมไม่ให้สามีไปถามแม่เค้า กลับบ้างเล่าว่า "แม่ครับผมจะไปมีเงินหมื่นบาทให้แม่ใช้หนี้ได้อย่างไร ในเมื่อผมยังต้องไป กู้สหกรณ์เพื่อนำมาให้แม่เลย ลูกที่ไหนจะกู้เงินเพื่อให้แม่ใช้หนี้บ้าง นี่ก็ กตัญญูมากแล้วครับ" แม่สามีให้สามีมายืมเงินเราอีกหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ไปจ่ายค่างวดรถ โอ้แม่เจ้า ต้องเพ่นหัวกบาลสามีค่ะ 14,000 บ. ไปหาให้แม่ ของคุณเองสิ เพราะ รถไม่ใช่ของเ้มีย ใครจะเอารถก็กรุณาไปผ่อนจ่ายกันเอง ใช่ว่าให้เงินไปแล้ว รถจะได้กับเมียหรือไง แม่สามีจะมาขอยืมรถที่เราเพิ่งซื้อมาได้ 3 เดือนไปทำงานต่างจังหวัด เพราะรถตัวเองยางเสื่อม อุแม๊!! แค่ยางเสื่อม ไม่มีเงินจ่ายค่าเปลี่ยนยาง เป็นหน้าที่เมียไหมเนี่ย แม่เรา เรารับผิดชอบโดยไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสามี  แม่ของคุณ คุณไป ดูแลกันเองเถอะ แม่ลูกกันนี่ รถใคร ใครรับผิดชอบกันเองค่ะ สรุป "สามีคุณ พูดไม่เป็นค่ะ ไม่รู้ว่าอะไรต้องพูด อะไรต้องทำ ดีแต่ให้เมีย เป็นคนรับผิดชอบ ถ้างั้นจะแต่งงานไป ก็เหมือนได้ลูกชายมาคนนึง แถมด้วยภาระแม่เรื่องมากอีกคนนึง ที่เอาเปรียบผู้หญิงที่ รับเลี้ยงลูกชายให้เขาไงคะ อาจออกความเห็นแรง แต่ให้คุณได้คิดว่า "อย่าให้คนอื่น เห็นเราเป็นเหยื่อ" วิธีที่จะหาทางออกได้มีอย่างเดียว คือต้องกล่อมให้สามีคุณรู้จักพูด และรู้จักคิดถึงจิตใจของเมียบ้าง ไม่ใช่จะเข้าข้างแต่แม่เขาคนเดียว แยกบ้านซะ หางานหาเงิน หาบ้านเอง แล้วค่อยเอาสามีไปอยู่ด้วย หรือถ้าไม่ ก็อย่าเป็นเหยื่อให้คนอื่นโขกสับเล่น พ่อแม่เราไม่ได้เลี้ยงดูให้เรามาต้องเป็น ข้ารับใช้ สนองทุกอย่างให้ กับกลุ่มคนไม่กี่คนค่ะ . . . จากคุณ : สไตล์ฺป้าเอง (ผักบุ้งตาสวย) เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:21:49

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้วนึกว่าอยู่อินเดีย บ้านพ่อแม่ตัวเองยังไม่ทำให้ หรือให้ได้ขนาดนี้ มีสะใภ้ไว้ขูดรีด เอิ้กๆๆ จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:24:31

ความคิดเห็นที่ 9 ผิดตั้งแต่ไปกู้เงินมาแต่งงานแล้วหล่ะค่ะการไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ คนปรกติเค้าไม่ยืมรถกันน่ะคะ   ต้องใจแข็งค่ะ  บอกไปเลยว่าคุณจำเป็นต้องใช้รถ ถ้าเค้าไม่เกรงใจเราเราไม่จำเป็นต้องไปเกรงใจค่ะ เริ่มต้นแบบนี้เดี๋ยวจะมีเรื่องตามมาอีกคะ ย้ำว่าต้องใจแข็งคะ จากคุณ : ช่วงหน้า เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:32:47

ความคิดเห็นที่ 10 หยุดการให้ทุกกรณีค่ะ เงินส่วนตัวคุณและเงินกองกลาง ห้ามสามีคุณมาเบิกไปให้แม่เด็ดขาด ถ้าสามีคุณอยากให้ ให้เค้าเอาเงินส่วนตัวเค้าออกเอง ถ้าเงินส่วนตัวหมดก็ช่วยไม่ได้ ถือว่าบริหารไม่ดีเอง ถ้าคุณอ่อนตอนนี้ คุณจะโดนเอาเปรียบไปตลอด บ้านเราก็มีคนหน้าด้านแบบนี้อยู่เหมือนกันค่ะ แม่แฟนเราเอง เดี๋ยวขอเงินอ้างโน่นอ้างนี่ นี่เอาเงินเราไปเป็นแสนๆละ ทองเรากับแฟนก็มายืมไปจำนำ ของเรานี่ครึ่งปีละยังไม่ได้คืน ของแฟนนี่สองปีกว่าละ ยังไม่ได้คืน อ้างแต่ว่าเดี๋ยวขายบ้านได้จะคืนเงินกับทองให้ท้งหมด สาธุ ถ้ามาคืนหมดจริงจะอนุโมทนาด้วยเลย ทุกวันนี้เราใช้วิธีแบ่งเป็นเงินเดือน พอดีเราทำธุรกิจร่วมกัน เงินเข้ามาเท่าไหร่ หักค่าใช้จ่ายจำเป็นออก เหลือเท่าไหร่หารสองเป็นเงินเดือน แฟนเราขอสเต็ปแบบนี้ห้าเดือนแล้วจะเข้าสู่โหมดเดิมคือเก็บร่วมกัน เพราะแม่แฟนมาขอเงินเค้าแล้วมันมีส่วนที่เป็นเงินเราด้วย เลยแยกเงินใครเงินมันไปเลยห้าเดือน อยากจ่ายไรให้แม่เทอ ก็จ่ายไป หมดก็เงินเทอช่วยไม่ได้ เพราะชั้นก็ไม่มีวันจ่ายให้แม่เทอแน่ๆ แล้วตอนนี้จะบอกว่าไม่ถึงเดือนเงินแฟนหมื่นห้า เหลือพันเดียวละ ทีนี้เป็นไง แฟนเราเริ่มรู้สึกว่าโดนเบียดเบียนละ เราเลยถามเค้าว่าเป็นไง เทอเข้าใจความรู้สึกชั้นแล้วยัง มาช่วงนี้แฟนเรารีบปั๊มเงินน่าดู บอกเราจะรีบเอาไปซื้อบ้าน จะได้แยกไปอยู่ข้างนอกกับเรา ก็แน่ล่ะ แฟนเราเริ่มอึดอัดแล้วนี่ อยากแยกอยู่ไกลๆละ เพราะน้องสาวแฟนมีเงินเดือนก็ไม่มาจ่ายค่าบ้านเช่า ค่าน้ำไฟก็แฟนเราออก ค่าอื่นๆมีหล่อนต้องรับผิดชอบก็แฟนเราออก น้องชายก็โดนไล่ออกจากโรงเรียนเพราะไปก่อเรื่องไว้เยอะแถมไม่เข้าเรียนอีก ตอนนี้ก็นั่งๆนอนๆคอยวาสนาอยู่ งานการไม่ทำ เพราะเดี๋ยวก็มีกิน แม่แฟนรึไม่ต่างกันคอยวาสนา แอ็บปวดหัววันเว้นวัน ปวดหัวทีไรขอเงินทุกที ก็แม่แฟนไปก่อหนี้สร้างสินเอาไว้เยอะ จะมาให้แฟนเรารับผิดชอบซะงั้น หนี้ที่ว่านี่เกิดจากการพนันนะคะ ไม่ใช่การค้าไม่รู้ว่าเค้าไม่รู้สึกละอายมั่งหรือไง แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 55 09:08:34 จากคุณ : ตะเกียงแอลกอฮอลล์ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:43:54

ความคิดเห็นที่ 11 ซื้อรถได้สามเดือน แต่แต่งงานได้สองเดือน อนุมานได้ว่าเป็นรถคุณซื้อก่อนแต่ง ขับหนีเลยค่ะ บอกว่าพ่อแม่พี่น้องคุณยืม ไม่ให้ไม่ได้ ถ้าถามว่า ทำไมมายืมตอนที่เค้ากำลังจะใช้ ก็บอกไปเลยว่า แม่สามีกล้ายืม ทำไมพ่อแม่พี่น้องจะยืมมั่งไม่ได้ คนในครอบครัวตัวเองแท้ๆ ยังไม่เคยยืม คนนอกครอบครัวจะให้ยืมทำไม ไม่ใช่ยุให้แข็งข้อหรือไม่เคารพนะคะ แต่การเคารพไม่ได้แสดงออกด้วยการ ยอม จากคุณ : Jarunya.b เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:47:56

ความคิดเห็นที่ 12 เอารถไปฝากไว้ที่บ้านตัวเอง แล้วบอกไปว่า รถเสีย เอารถเข้าศูนย์  รออะไหล่ อีก นานกว่าจะเสร็จ แต่สรุปแล้ว  สามีคุณมันห่วยค่ะ จากคุณ : panny เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:08:33

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านแล้วทำไมผู้หญิงคนนี้หน้าด้านขนาดนี้เนี่ย (เราด่าได้นี่นะ ไม่ใช่แม่ผัวเราสักหน่อย) กล้ายืมสะใภ้เนอะ ทั้งเงินทั้งรถ หาสะใภ้มาเป็นเมียลูก หรือเอามาเป็นเอทีเอ็ม สามีคุณดีจริงค่ะ(จากที่คุณบอก) แต่เรื่องนี้เฮงซวยมาก ไม่หือไม่อืออะไรกับแม่ตัวเองทั้งนั้น มันเบียดเบียนเมียเกินไปก็วางเฉยซะงั้น ถ้าคุณทนนะ ต่อไปจะยิ่งกว่านี้อีก จากที่คห.อื่นว่า วันที่มาขับรถไปที่อื่นเลยค่ะ หรือขับไปรับพ่อแม่ตัวเองมาบ้านเลย ประจานแม่สามีทางอ้อมไปเลยว่าแต่งสะใภ้มาขูดรีด เป็นเราหน่อย จะถามไปตรงๆ แค่ลูกชายหาเลี้ยงคนเดียวนี่ไม่พอกิน จนต้องมาหน้าหนาเอาของสะใภ้อีกเหรอ ขอบเขตไม่มีเลย ผู้ใหญ่ประสาอะไรอะ ถามตรงๆในใจตอนนี้ทนไหวไหมอะคะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:24:35

ความคิดเห็นที่ 14 งงอ่ะ ทำไมแต่แรกคบกันไม่เห็นแววร้ายกาจของแม่ย่าเลยหรอ .... จากคุณ : แม่น้องนลิน เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:34:58

ความคิดเห็นที่ 15 สามี จะดูแลแม่ ไม่มีใครว่า แต่นี่มาเอาเงินเมีย ไปให้แม่ แปลได้ว่า สามีไม่ได้เป็นคนดีมากอย่างที่เจ้าของกระทู้บอกค่ะ ถ้าดีจริง ต้องดูแลแม่ตัวเอง ไม่ใช่แต่งเมียเข้ามาให้ใช้หนี้ให้แม่ตัว จากคุณ : Lily of the Valley เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 00:19:00

ความคิดเห็นที่ 16 แม่สามีจขกท.มีพี่น้องที่พลัดพรากอยู่บ้านพ่อสามีเราคนนึงค่ะ นิสัยเหมือนกันเลย เก็บซองงานแต่งจากแขกฝ่ายเจ้าบ่าวเก็บกินเลียบจนปากมอมแถมทวงสินสอดคืนด้วยนะร้ายกาจมาก แรกๆเราก็ยอมนะยอมมาตลอดแต่มันเหลืออดเลยฮึดขึ้นสู้ อยากจะเลิกกับสามีแต่ดันท้องซะก่อน หลังจากนั้นก็ท้องติดๆกันรวมเป็นสาม ไปไหนไม่ได้ลูกๆลำบากแน่ๆ ทุกวันนี้เราไม่ไปสุงสิงด้วยเลย เกลียดมากลูกเราก็ไม่ให้ไปได้เจอก็แป๊บๆ เมื่อก่อนทำกับเราไว้เยอะแต่ตอนนี้ป่วยหนักใกล้ตายแล้ว ได้เวลาเอาคืนแล้วล่ะ จากคุณ : =Le 29 juin= เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 00:43:47

ความคิดเห็นที่ 17 อู๊ยยยยย อ่านมาหลายเรื่อง มีแม่ย่าเรื่องนี้แหละสุดยอดมาก เรื่องเงินที่ให้ยืมไปแล้วตัดใจได้เลยค่ะ แต่เรื่องรถนี่อย่ายอมเป็นอันขาด ไม่ต้องให้เหตุผลหรือบ่ายเบี่ยงอะไรด้วยค่ะ คนพวกนี้ไม่ฟังเหตุผล บ่ายเบี่ยงก็ใช้วิธีหน้าด้านเข้าตื๊อ บอกไปซื่อๆ ห้วนๆ ว่า "ไม่ให้ยืมค่ะ หนูหวงรถ" ไม่ต้องแจงเหตุผลอะไรทั้งนั้น บอกว่าเข้าศูนย์ก็ต้องมีวันซ่อมเสร็จ บอกว่าที่บ้านยืมก็ต้องมีวันคืน บอกไปตรงๆ นี่แหละว่าหวง จบ จากคุณ : หนูไพลิน เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 00:56:04 A:171.4.41.234 X: TicketID:363431

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าไม่ให้แล้วจะมีปัญหากะสามีป่าวคะเนี่ย สามีคุณอาจจะพูดไม่ออก แต่ถ้ารถเป็นของคุณคนเดียว คุณก็ไม่ต้องให้ค่ะ ให้แม่สามีเอารถสามีคุณไปใช้สิคะ จากคุณ : u-ne เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 01:30:31

ความคิดเห็นที่ 19 มันเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้นค่ะ  มีสองอย่างคือทำใจ กับ ตัดใจค่ะ จากคุณ : น้องเล้ง เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 02:13:28

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านเรื่องแม่สามีแล้วนึกถึงหลานเรา หลานเราท้อง8เดือนใกล้คลอดพอดีสามีของหลานเราเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ หลานเป็นพยาบาลอยู่ต่างๆจังหวัดคนบ้านเดียวกันกับสามี แม่สามีก็อยู่หมู่บ้านเดียวกัน แต่สามีทํางานต่างจังหวัด หลานก็ตกลงจัดพิธีฌาปนกิจศพที่บ้านพ่อสามี (พ่อแม่สามีหลานเราเค้าเลิกกันแล้ว)เพราะอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุและอีกอย่างเค้าเกิดและโตที่นั่น หลานเราออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเงินไม่พอก็ยืมของหลานเราอีกคน หมดเป็นแสน  หลานบอกเค้าอยากทําให้สามีเป็นครั้งสุดท้าย  พอเสร็จงานแม่สามีเก็บซองไปหมดไม่แบ่งช่วยค่างานสักบาท แถมขอเงินประกันที่เป็นสิทธิของหลานเรา บอกว่าจะรวบรวมก่อน หลังจากนั้นไม่คืนให้หลานเราเลยสักบาท      ทั้งญาติพี่น้องเพื่อนฝูงโมโหมาก  เพื่อนบางคนบอกใส่ซองเป็น7-8พันเค้าบอกเผื่อไว้เป็นค่านมค่าอะไรของลูกในท้อง   หลานเราได้แต่ซึมเศร้า ไม่มีไครทําอะไรได้แต่สาบแช่ง จนทุกวันนี้หลานก็คลอดน้อง ตอนนี้ได้สิบเดือนแล้วน่ารักน่าชังมากๆ  ตอนนี้คุณยายเลี้ยงให้  ส่วนป้าคนนั้นไม่เคยซื้อแม้แต่ผ้าอ้อมสักผืนหรือนมกระป๋องเดียวไปให้ แถมอยู่หมู่บ้านเดียวกันด้วย จากคุณ : hagley เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 06:00:15

ความคิดเห็นที่ 21 สามีคุณแย่ค่ะ ไม่ใช่เป็นลูกแล้วพูดกับแม่ไม่ได้แต่เพราะไม่รู้จักแยกแยะถูกผิดค่ะ ถึงเป็นแม่แต่ไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับการเอาเปรียบคนอื่นนะคะ คุณจะอยู่กับผู้ชายทัศนคติแบบนี้ได้จริงๆหรอ แล้วก่อนแต่งไม่รู้หรอคะ แต่ถ้าเป็นเรา เราจะบอกที่บ้านเราแล้วย้ายออกมาเลย จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 07:30:28

ความคิดเห็นที่ 22 2เดือนยังขนาดนี้ เดือนหน้าจะขนาดไหน ตอนนี้ยังข้าวใหม่ พูดกับสามีไปตรงๆเลยคะ เกรงใจสามีวันนี้แถมไมเกรนในวันหน้าจะเอาหรอคะ จากคุณ : uorda เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 07:59:03

ความคิดเห็นที่ 23 สามีแย่คะ รถไม่ต้องให้บอกหนูก็ต้องใช้ รถแม่ก็มียางต้องเปลี่ยนอยุ่ดีก็เปลี่ยนสิ เงินหนูไม่มีนะแม่เอาเงินส่วนตัวหนูไปหลายหมื่นแล้วขอลูกแม่เถอะ อล้วเดินจากไปขับรถออกจากบ้านแบบสวยๆ จากคุณ : ipodine เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 08:31:00

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าสามีจขกท.เป็นสามีเรา นี่โดนตบไปแล้วค่ะ คุณเองก็ต้องใจแข็งค่ะ บางทีมันก็ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟันนะคะ ครอบครัวใครครอบครัวมัน แม่ส่วนแม่ เมียส่วนเมีย อย่าเอามาปนกัน ถ้าอยากเป็นลูกที่ดีอย่างเดียว ก็ไม่ต้องมีเมียค่ะ จบ เลิกกันไปก่อนที่จะมีลูกนี่แหล่ะ  สามีแบบนี้มีไว้ทำไมคะ ถ้าเขาปกป้องคุณไม่ได้ ไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง ก็ต้องพิจารณาแล้วค่ะ วันนี้คุณรักเขา แล้วถ้าเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนี้ เขายังไม่ทำอะไร คุณจะทนได้มั้ยคะ ถามตัวเองดูนะคะ ป.ล.เราเห็นด้วยกับความคิดที่ 9 ว่าคุณผิดตั้งแต่กู้เงินมาแต่งงานแล้ว การแต่งงานคือการเริ่มต้นชีวิตใหม่นะคะ ไม่ใช่จบชีวิตด้วยการเป็นหนี้เป็นสิน จากคุณ : J L (bemyselfjoy) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 08:48:52

ความคิดเห็นที่ 25 แต่กลับกัน ถ้าได้สะไภ้ที่มีแต่ภาระเข้ามารบกวนบ้านฝ่ายชาย ทางฝ่ายชายมีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูอุปการะไปจนตาย ถ้าเลิืกก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูหนักทุกเดือน ทิ้งก็ไม่ได้ต้องโดนคนสังคมด่า ใช่ป่าว จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 10:45:53 A:115.87.41.12 X: TicketID:140846

ความคิดเห็นที่ 26 ดีใจจังที่เราเลือกอยู่กะลูก ไม่งั้นทุกข์แน่ๆ จากคุณ : น้ำหนึ่งคนดี เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 11:34:36

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ต้องให้ยืมรถค่ะ เสียงแข็งไปเลยตามที่คุณหนูไพลินบอก ถ้าแม่ผัวโวยวาวายไม่พอใจ มีเตะก้านคอค่ะ จริงๆ จากคุณ : นุช เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 13:11:32 A:110.168.172.51 X: TicketID:375222

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่ให้ก็คือไม่ให้ ถ้าสามีดีจริงต้องไม่ขัดใจเรา อะไรที่คุณทำแล้วไม่มีความสุขจะไม่ทำก็ได้ อย่าลืมว่าเค้าไม่ใช่แม่เรา อะไรที่ให้ได้ก็ให้ อันไหนมันไม่สมควรก็ต้องปฏิเสธ จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์ จากคุณ : Phewa เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 15:15:37

ความคิดเห็นที่ 29 #25 หากไม่ได้มีลูก ก็ไม่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูได้นี่คะ ไม่มีลูก เลิกกันไป ไม่ส่งเสีย ไม่มีใครว่าอะไรหรอกค่ะ ตัวผู้หญิงมือเท้ามี ก็ทำงานหาเงินเอาเองซิคะ ไม่เคยเห็นนะคะ หากไม่มีลูกแ้ล้วยังต้องส่งเสียเลี้ยงดู ไม่ส่งโดนสังคมด่า มีแต่พวกคนรวยรักษาผลประโยชน์ หย่ากันก็ทำสัญญาให้ยอมหย่าว่าจะส่งเสียรายเดือนเท่านั้นแหละค่ะ ส่วนใหญ่ก็พวกฝรั่งโน้นเลยค่ะ และอีกอย่าง หากมีสะใภ้ที่ทางบ้านสามีต้องเลี้ยงดู เลี้ยงดูจริงแต่ก็จิกใช้ได้สารพัดนี่ ใช่ไหมคะ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ใช้มันเข้าไป ตื่นก่อน นอนทีหลัง ไม่ใช่หรือคะ เหมือนคนรับใช้ประจำบ้าน ยังไงทางบ้านสามีที่เลี้ยงสะใภ้ก็ไม่ขาดทุนหรอกค่ะ แล้วสะใภ้สามารถจิกใช้แม่สามีบ้างได้ไหม เรียกแม่สามีมาหุงหาอาหาร เก็บโต๊ะ ล้างจาน รีดผ้า ขัดห้องน้ำ ได้ไหมคะ คำตอบก็รู้ๆกันอยู่ ว่าไม่ได้ จากคุณ : ฟ้าใส เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 15:37:57 A:180.183.67.159 X: TicketID:348252

ความคิดเห็นที่ 30 บางครั้งคนเป็นสามีก็ลำบากใจ นั่นก็เมีย นี่ก็แม่ ฟังเรื่อง จขกท แล้วตกใจ คล้าย ๆ เราเลย 555 แต่เราโชคดีตรงที่ไม่ได้ไปกู้หนี้ยืมสินมาแต่ง มีคุณอาสามีช่วยเรื่องเงิน แต่คุณแม่สามี ไม่ได้ช่วย แถมยังมาเก็บซองช่วยงานที่เป็นของแขกตัวเองไปหมดเลย (แอบสงสารคุณอา) เพราะเงินซองเราคืนให้อาหมด แต่มีบางซองที่หลุดไปในกล่อง แม่สามีไม่กล้าไปทวงคืน เลยรู้ว่าเพื่อนแกใส่ซองละ 200 - 300 บาท (ซองที่ได้ไป เพราะเพื่อนแกยัดใส่มือ ไม่ได้หยอดกล่อง) ทุกวันนี้ แม่สามีเค้าอาจจะมีเอาเงินลูกชายเค้าบ้าง แต่ไม่กล้ามายุ่งกะส่วนของเรา และโชคดีที่สามีเราเค้าก็รู้ว่าเรากะแม่เค้าไม่ค่อยกินเส้นกัน เค้าก็พยายามเป็นกลาง ไม่เข้าข้างใคร ไม่ช่วยใคร เราก็พยายามทำหน้าที่ลูกสะใภ้เท่าที่ทำได้ แต่จะไม่เจ๊าะแจ๊ะแม่สามี ส่วนคุณต้องใจแข็ง ยื่นคำขาดกับสามีไปเลย เงินคุณ ทรัพย์สินคุณ ห้ามแม่สามียุ่ง แต่ในส่วนของสามีคุณ เค้าจะให้แม่เค้าเท่าไหร่ มันเป็นเรื่องของแม่ - ลูก ถ้าสั่งสามีไม่ให้แม่เลย มันก็ อกตัญญูเกินไป ค่ะ จากคุณ : nuisukae เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 16:47:31

ความคิดเห็นที่ 31 ขอเล่าเรื่อง ญาติห่าง ๆ เราให้ฟังไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ เป็นครอบครัวของน้าเขยเรา น้าเขยเรามีน้องสาว ยังไม่ได้แต่งงาน คนสมัยก่อน ก็จะใช้พ่อสื่อแม่สื่อหาคู่ให้ แล้วพอดีมีคนไปบอกว่า ลูกสาวบ้านนี้ยังโสด ก็ไปรู้ถึงหูครอบครัวหนึ่งเข้า พ่อแม่เค้ารู้จักกัน เลยมาทาบทาม ขอวัน เดือน ปี เกิด น้องสาวน้าเขยไปดู ปรากฏว่า ดวงผู้หญิงเค้าค้ำดวงลูกชายเค้า เพราะหมอดูบอกว่า ลูกชายเค้าดวงถึงฆาตพอดี เค้าเลยให้แต่งงานกัน โดยที่ผู้ชายมีแฟนอยู่แล้ว พอแต่งกันไป พ่อแม่สามีก็รังแกลูกสะใภ้ตลอดเลย สามีก็ไม่สนใจ เพราะไม่ได้รักตั้งแต่แรก ก็ออกเที่ยวทุกคืน แล้วแม่สามีก็ให้ลูกชายมาหลอกเอาทองจากลูกสะใภ้ โดยแกล้งให้มาขอทองจากเมียวันละเส้น แบบว่า วันนี้จะไปงานแต่งเพื่อน ก็มาขอทองไปใส่ พอกลับมาไม่ถอดคืนเมียนะ ถอดให้แม่  อีกไม่กี่วัน เอาอีกล่ะ จะไปงานบวชเพื่อน ขอทองใส่ออกงานหน่อย กลับมาก็ถอดให้แม่ จนน้องสาวน้าเขยเราไม่ไหวแล้ว เห็นว่าโดนทุบตีด้วย และทองที่ได้ติดตัวไปตอนแต่งงานเริ่มหมด เลยต้องแอบหอบเสื้อผ้า พร้อมลูกในท้องอ่อน ๆ หนีออกจากบ้านสามีตอนกลางดึก กลับมาบ้านพ่อแม่ตัวเอง หลังจากนั้นก็ไร้วี่แววครอบครัวฝ่ายชายเลย ไม่มีมาตาม ไม่มีติดต่อมา จนได้ข่าวว่า สามีเค้าไปแต่งงานกับแฟนที่คบกันก่อนจะแต่งกับน้องสาวน้าเขย พอคลอดลูกไม่นาน น้องสาวน้าเขยเราก็เสีย ทิ้งลูกไว้ 1 คน ฟังแล้ว แบบน่าสงสารมาก ๆ ไม่คิดเลยว่า คนเป็นสามี คนเป็นพ่อผัวแม่ผัว จะเลวได้ขนาดนี้ จากคุณ : nuisukae เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 16:57:43

ความคิดเห็นที่ 32 ให้สามคำ "อย่า ยอม มัน" จากคุณ : แม่ลูกอ่อน-น้องต้าตง เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 10:50:35

ความคิดเห็นที่ 33 คุณต้องเปิดอกคุยกับสามีคุณแล้วละ อย่าอดทนจนเกินไป หาวิธีพูดแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น เพราะเมียกับแม่ ถ้าสามีเลือกเรา เค้าจะมีความเป็นคนอยู่เหรอคะ แต่การดูแลแม่ก็อย่าให้มันเกินขอบเขตไป เล่าเป็นอุทาหรณ์ เพราะคุณเพิ่งเริ่มต้น แต่เรานั้น... เคสเราอยู่บ้านเดียวกัน กระทบกระทั่งกันง่ายมาก นิสัยเราและแม่สามีไม่มีจริตไหนที่จะเข้ากันได้เลย เมื่อก่อนดีหน่อยที่ยังไม่มีลูก เราทำงานมีเงินใช้ ไม่ต้องพึ่งพากระเป๋าสามี ก็ต่างคนต่างอยู่ไป แต่ก็ดูแลห่างๆ เรื่องเงินทอง อาหารในบ้าน เป็นหน้าที่ของเราและสามี พ่อแม่สามีใกล้เกษียณพอดี เลยกลายเป็นว่า แต่งเข้ามาช่วยสามีเลี้ยงพ่อแม่เค้า ก็ถ้าเค้าดีกับเราก็ดี แต่นี่ไม่ดีอ่ะเราก็อดทนเรื่อยมา จนปีที่4 คิดว่าน่าจะมีหลานนะเผื่อเค้าอยากเลี้ยงหลาน 555 ก่อนลูกเราจะคลอดเราคิดบวกมากๆ แต่หลังจากที่คลอดมาแล้ว เลี้ยงลูกมา 2ปีแล้ว ผ่านเรื่องราวต่างๆมาแม่สามีก็เหมือนเดิม จนเราไม่ไหวแล้วต้องประท้วง ก็เริ่มทวงสิทธิ์ที่เราพึงได้บ้าง เราอยากจะบอกว่า ไม่มีใครล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดของอีกฝ่ายหรอก แม่สามีอาจจะมีมุมมองที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งก็อย่าไปคาดเดา สุดท้ายแล้วมันไม่ใช่อย่างในหนังที่คุณเป็นฝ่ายให้ และยอม จนเค้าเริ่มเห็นใจเกิดเป็นการยอมรับและรักเรา มันก็คงเป็นไปได้ แต่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับบุญวาสนา คุณต้องคุยกับทั้งสามีและแม่สามี ไม่ต้องไปแบไต๋ให้เค้าหมด เราก็ไม่รู้นะว่ายังไง แต่ละบ้านก็คงมีวิธีแตกต่างกัน ก็เราจะคลอดเจ้าคนที่สองออกมาแล้วเนี่ย ยังมองหน้ากันไม่ติดเลย แต่ก็ทำไงได้ เพราะรักลูกเค้าก็ต้องทนกันไป จากคุณ : **Snowwhite01** เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 11:26:59

ความคิดเห็นที่ 34 เม้านิดๆนะคะ แม่สามีเราชอบพูดว่ารักหลานมาก มีกะเค้าแค่คนเดียวตอนนี้ แต่ไม่เคยล้างก้น ไม่เคยอาบน้ำให้ ไม่เคยแต่งตัวให้ เคยพูดว่าจะให้ทองรับขวัญตอนคลอดก็ไม่ให้ ครบขวบก็ไม่ให้ ตั้งแต่เลี้ยงกันมาเคยได้เงินสดสามพันบาท แล้วก็ซื้อขนมให้กินตอนออกไปร้านของชำนิดหน่อย สามีเรากลับมาจะแสดงออกว่ารักหลานมากกกกกก แต่อยู่บ้านกันกับเรานี่แทบจะไม่เคยจับตัว แสดงออกเสมอๆว่าไม่มีเงิน แต่ซื้อเครื่องสำอาง เหมือนสาวๆ ครีมบำรุงผิว ครีมทาหน้า ครีมล้างหน้า ซื้อแหวนเพชรมาใส่เล่นๆ สะใภ้อยู่บ้านทำงานบ้านอย่างกะ( ^o^ ) จากคุณ : **Snowwhite01** เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 11:39:39

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ โชคดีที่เรามีบ้านเองค่ะ แล้วตอนนี้สามีก็มาอยู่บ้านเรา จะไปเยี่ยมหรือแวะไปบ้านแม่บ้างก็คือมีธุระหรือวันหยุด เราเองไม่ซีเรียสนะคะ เรื่องแม่สามีจะรักจะชอบหรือไม่ เรามีพ่อมีแม่ มีพี่สาวน้องสาวที่รักมาก แม้จะไม่อยู่ด้วยกันก็รักและผูกพันกันดี เลยไม่สนใจอยากได้ความรักจากคนอื่นค่ะ และจากการที่แม่สามีเค้ารบกวนเราหลายๆ เรื่อง เราเลยแสดงออกด้วยการไม่ไปบ้านเค้าเลยค่ะ ซึ่งเราถือว่าเรามีสิทธิทำได้ด้วย ยังยืนยันนะคะว่าสามีเราเป็นคนดีตามมาตรฐานของเราเอง ซึ่งอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดหรอกค่ะ อย่างน้อยก็ความไม่้กล้าพูดกับแม่แล้วต้องให้มาเดือดร้อนเมีย ทำให้เรารำคาญและเสียใจ แต่เราก็ยังรักเค้าค่ะ ยังไม่ร้ายแรงขนาดทำให้หมดรัก เรื่องแม่สามี ยังไงก็คงไม่จบแค่นี้ค่ะ เรามั่นใจว่าต้องมีอีก แต่เราคงไม่ให้อีกแล้วค่ะ พูดจริงๆ ก็คือไม่มีจะให้แล้วด้วย ทั้งเราทั้งสามีทำงานราชการทั้งคู่ เงินเดือนก็แค่หมื่นกลางๆ ยังต้องประคับประคองกันสู้อีกเยอะค่ะ แต่อย่างไรก็ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ^^ จากคุณ : astro bear เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:04:38

ความคิดเห็นที่ 36 ฟังแล้วอึดอัดแทนจริงๆค่ะ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ลูกชายแม่สามีก้อดี๊ดี เฮ่อออออออออออ ถ้าไม่ให้ยืมรถ ยืมเงินอีกต่อไป(ให้บ้างตามโอกาส เช่นปีใหม่ฯ)สามีคุนจะว่างัย มั๊ยล่ะคะ บุญคุณบุพพารี ควรทดแทน เราเข้าใจได้ แต่ก้อมีบางส่วนแบ่งไว้สำหรับ ลูกเมีย -สามี ด้วย ถูกมั๊ยคะ จากคุณ : พัด (พัดรี) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:49:55