ความคิดเห็นที่ 1 1. การขาดสมาธิ (attention deficit) โดยสังเกตพบว่าเด็กจะมีลักษณะดังนี้         ไม่สามารถทำงานที่ครู หรือพ่อแม่สั่งจนสำเร็จ         ไม่มีสมาธิในขณะทำงานหรือเล่น         ดูเหมือนไม่ค่อยฟังเวลาพูดด้วย         ไม่สามารถตั้งใจฟัง และเก็บรายละเอียดได้ ทำให้ทำงานผิดพลาดบ่อย         ไม่ค่อยเป็นระเบียบ         วอกแวกง่าย         ขี้ลืมบ่อย ๆ         มีปัญหาหรือพยายามหลีกเลี่ยงงานที่ต้องใช้ความคิดหรือสมาธิ         ทำของใช้ส่วนตัวหรือของใช้ที่จำเป็นสำหรับงานหรือการเรียนหายอยู่บ่อย ๆ 2. การซน (hyperactivity) และการขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง (impulsivity) เด็กจะมีลักษณะดังนี้         ยุกยิก อยู่ไม่สุข         นั่งไม่ติดที่ ลุกเดินบ่อย ๆ ขณะอยู่ที่บ้านหรือในห้องเรียน         ชอบวิ่ง หรือปีนป่ายสิ่งต่าง ๆ         พูดมาก พูดไม่หยุด         เล่นเสียงดัง         ตื่นตัวตลอดเวลา หรือดูตื่นเต้นง่าย         ชอบโพล่งคำตอบเวลาครูหรือพ่อแม่ถาม โดยที่ยังฟังคำถามไม่จบ         รอคอยไม่เป็น         ชอบขัดจังหวะหรือสอดแทรกเวลาผู้อื่นกำลังพูดอยู่ จากคุณ : แม่น้องฟ้อมแฟ้ม&น้องฟ้ายฟ้าย (erp_may) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:29:41

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าคุณแม่ยังกังวล 7 ขวบ อยู่ ป.1 พาไปพบจิตแพทย์เด็กเพื่อประเมินอีกรอบก็ได้ค่ะ จากคุณ : แก้มใส เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:41:13 A:124.121.248.238 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 3 ขอแชร์ป.ส.ก.ลูกสาวสมาธิสั้นนะคะ   ลูกสาวอายุ6ขวบแล้วค่ะ ลูกเราเป็นเด็กร่าเริงช่างพูดช่างคุย ชอบอ่านหนังสือ(เพราะถูกปลูกฝัง ให้รักการอ่านค่ะ) รวมถึงแกจะเป็นเด็กค่อนข้างยุกยิก เราค่อนข้างสงสัย มานานแล้วค่ะว่าจะเป็นสมาธิสั้นหรือเปล่า แตหลังจากพบแพทย์ตั้งแต่1ขวบ เป็นต้นมาแพทย์ก็ลงความเห็นว่าไม่เป็นมาเรื่อยๆ จนเข้าป.1แกค่อนข้าง มีปัญหาเรื่องการปรับตัวกับเพื่อนและครูค่ะ เพราะลูกเราจะคุยตลอดพูดไม่หยุด รอไม่ได้คือพอครูถามคำถามเด็กในห้องจะยกมือเพื่อให้ครูเรียก แต่ลูกเราจะไม่รอ พอยกมือเค้าจะตอบเลย และแกจะตกบันไดและเดินชนบ่อยมากค่ะ พอครั้งนี้เราไป ปรึกษาร.พ.เอกชนที่รักษาประจำแพทย์ฟันธงว่าเป็นสมาธิสั้นให้ทานยาค่ะ แต่ใจคน เป็นแม่นะคะขออีกหมอเถอะเพื่อความชัวร์ เลยพาไปพบแพทย์ที่รามาค่ะ ครั้งแรก คุนหมอบอกอาจจะไม่เป็นยังไม่ให้ทานยา จากนั้นมันมีปัญหาต่างๆตามมาจากที่โรงเรียน จึงไปบอกคุณหมอค่ะ สรุปรอบนี้คุณหมอดูอย่างละเอียดอีกรอบ เลยตกลงว่าน้องเป็น สมาธิสั้นแบบหุนหันพลันแล่นค่ะ เราว่าการที่เป็นก็ไม่ต่างจากเด็กปกตินะคะแค่พูดมากกว่า ซนมากกว่า เราพยายามปลูกฝังให้เค้ารักการอ่านและการเรียนค่ะ ทุกวันนี้เวลาที่เค้าใช้พลัง ไม่หมดเค้าจะหยิบหนังสือขึ้นมลอ่านตลอดค่ะ เราว่าเด็กสมาธิสั้นถ้าได้รับการดูแลและการ ปลูกฝังที่ถูกต้องเค้าก็จะมีอนาคตที่ดีได้แน่นอนค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nongeung เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:48:42

ความคิดเห็นที่ 4 แม่น้องฟ้อมแฟ้ม&น้องฟ้ายฟ้าย (erp_may)   ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะแบบ การซน (hyperactivity) และการขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง (impulsivity) ตรงกับลูกสาวหลายข้อเลยค่ะ คุณแก้มใส คิดไว้เหมือนกันค่ะ ว่าจะลองสังเกตอาการตอนป 1 อีกทีค่ะ ถ้ามีปัญหาเรื่องเรียน คงต้องไปประเมินอีกครั้งแน่ๆ ค่ะ คุณ nongeung ลูกสาวเราเหมือนลูกคุณมากๆ เลยค่ะ ที่เค้ามีความพยายาม รับผิดชอบ และตั้งใจสูง เป็นเพราะเราปลูกฝังเค้ามาตลอดค่ะในเรื่องเหล่านี้ มีก็เลยทำให้เค้ามีพฤติกรรมดีๆหลายอย่าง แต่แอบกลัวเรื่องถ้าเค้าเป็นแล้วเค้าจะเรียนตามเพื่อนไม่ทันอ่ะค่ะ แต่ขอบคุณที่เอาประสบการณ์มาแชร์นะคะ เป็นประโยชน์มากๆ ถ้าจะพาลูกไปประเมินอีกครั้งขอคำแนะนำเรื่องคุณหมอด้วยนะคะ จากคุณ : แม่อัยยะจัง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 08:56:18

ความคิดเห็นที่ 5 แนะนำ หมอณัฐวัฒ ค่ะ ที่โรงพยาบาล ยุวประสาืท แถวปากน้ำค่ะ แต่นัดค่อนข้างเป็นเดือน ถึงจะได้ แต่ถ้าต้องการเร็วก็ โรงพยาบาลสมิติเวช แกก็มาทำพิเศษที่นี่ ไม่เกิน 2 อาทิตย์ก็ได้ค่ะ  ลูกชายก็กินยาอยู่ค่ะ เพราะเขาเล่นอันตรายเกินไป จากคุณ : แม่น้องฟ้อมแฟ้ม&น้องฟ้ายฟ้าย (erp_may) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:34:49

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ต้องกังวลค่ะ ทำใจให้สบายถ้าเราปลูกฝังให้เค้ารักการอ่านรักการเรียนเค้าทำได้แน่นอนค่ะ ลูกสาวเราเข้าโรงเรียนตั้งแต่2.6เดือนอ.1นะคะ ตอนนี้6ขวบอยู่ป.1เทอม2ค่ะ เทอมแรกป.1ได้ เกรดเฉลี่ย3.98ไม่ได้บอกว่าลูกเราเก่งนะคะแต่จะบอกว่าอย่ากังวลไปเลยค่ะ เพราะว่าเด็กไฮเปอร์ จะมีพลังงานสูงมากพอเค้าใช้ถูกทางเค้าจะนำไปเขียนไปอ่านค่ะ ทุกวันนี้พอเค้าว่างเค้าจะเขียนอ่านค่ะ ส่วนเรื่องคุณหมอเราพบอ.นิชราค่ะ คุณหมอเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาการเด็กที่ร.พ.รามาค่ะ เราโชคดีไปถูกวันเลยได้พบคุณหมอพอดีเลยค่ะ เราว่าที่สำคัญคืออย่าให้น้องเล่นไอโฟนไอแพดหรือดูทีวีค่ะ ขนมหวานน้ำอัดลมขนมถุงก็เป็นตัวกระตุ้นให้ลูกเราควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไม่ให้ทานเลยนะคะอาจให้บ้างแต่จะบอกเหตุผลค่ะว่าเพราะอะไรถึงไม่ให้ทาน ให้น้องออกกำลังกายเยอะๆค่ะพลังงานจะได้หมดค่ะ^^ อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ น้องอาจจะแค่ซนตามวัยก็ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nongeung เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:46:43

ความคิดเห็นที่ 7 ลูกเราเลยค่ะ อายุ 7 ขวบ ป 2 หนัก 18-19 โล มีพฤติกรรมแบบเดียวกับลูก จขกท เลยค่ะ ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียน พาไปพบหมอที่รามามาได้สักพักใหญ่แล้ว ตอนนี้หมอบอกว่าว่าให้เข้ารับการรักษาภูมิแพ้อย่างจริงจัง เพราะส่งผลต่อสมาธิและพฤติกรรมค่ะ จขกท ลองพาไปพบหมอดูค่ะ เค้าจะมีแบบประเมินไปที่ รร ด้วย ^^ จากคุณ : sindy_pv11 เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:50:12

ความคิดเห็นที่ 8 อันนี้เห็นด้วย กับคุณ nongeung  ค่ะ ต้องไม่ให้กิน ผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวกับ แป้งสาลีค่ะ น้ำตาล เค้ก อะไรประมาณนี้ค่ะ ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะไปจับวิตามินบี 12 ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่ระบบประสาทค่ะ จากคุณ : แม่น้องฟ้อมแฟ้ม&น้องฟ้ายฟ้าย (erp_may) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 09:58:46

ความคิดเห็นที่ 9 เรามองอีกมุมนะคะ อย่าว่ากันค่ะ คือ อย่าเชื่อทุกคำที่หมอพูด แม่จะรู้ดีที่สุด เด็กวัยนี้ซนเป็นธรรมดา ยุคสมัยนี้ทำให้เด็กกล้าแสดงออก การเลี้ยงดูของพ่อแม่ด้วย เด็กจะให้นั่งตัวตรงเรียบร้อยไม่ถามได้ยังไงกัน ไม่ชอบเลยที่หมอหรือคนส่วนมากมักจะทักเด็กว่าสมสธิสั้น ทั้งที่ไม่ได้เช็คให้ดี แล้วที่ ขกจท.เล่ามาเราก็ว่าลูกคุณปกติดีนะ แต่เห็นด้วยกับความเห็นที่ไม่ให้ดูทีวี ไอแพดมากเกินไปนะคะ จากคุณ : keeporn เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:11:32

ความคิดเห็นที่ 10 ไปกันที่ รามา เยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย ลูกเราก็รักษาที่ รามา ค่ะ อ.สุวรรณี ประจำวันพฤหัสค่ะ เบอร์แผนกผู้ป่วยนอกจิตเวชศาสตร์ ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ ชั้น 9 โซน A 02-200-3000 ต่อ 61211 , 61212 (โทรสอบถามหรือนัดเวลาเข้ารับการตรวจประเมิน วันราชการ เวลา 13.00 - 15.00 น. นะคะ) โทรนัดประเมินช่วงปิดภาคเรียนก็ได้ค่ะ เพราะต้องต่อคิวหลายเดือนอยู่ จากคุณ : แก้มใส เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:14:07 A:124.121.248.238 X: TicketID:274458

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณนะคะทุกคนใจดีมากๆ เลยค่ะ เราคิดว่าการที่เรารู้เร็วจะได้ช่วยปรับพฤติกรรมการเลี้ยงดูของตัวเราเอง รวมทั้งปรับพฤติกรรมให้ลูกไปด้วย อย่างตอนนี้จำกัดเวลาดูทีวีลงหากิจกรรมอย่างอื่นให้ทำมากขึ้น วาดรูประบายสี ต่อจิ๊กซอ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ลูกเราชอบมากๆ ค่ะ แต่เดิมติดที่ต้องทำกิจกรรมไปด้วยเปิดทีวีไปด้วย ตอนนี้เอาใหม่แล้วค่ะ ถ้าทำกิจกรรมอื่นต้องปิดทีวี ลูกไม่ต่อต้านนะคะ ค่อยๆ ปรับกันไปค่ะ แม่น้องฟ้อมแฟ้ม&น้องฟ้ายฟ้าย (erp_may) ขอบคุณสำหรับชื่อคุณหมอนะคะ สนใจโรงพยาบาลนี้อยู่เหมือนกันค่ะ เราอยู่ชลบุรีไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ ลูกสาวเราเรื่องเล่นไม่โลดโผนเท่าไหร่อาจเพราะเป็นผู้หญิง แต่ไม่ค่อยระวังตัวเดินสะดุด ชนโน่นชนนี่ตลอดค่ะ คุณ nongeung อ่านเคสของคุณเรามีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลยค่ะ ลูกเรารักการเรียนค่ะ ชอบไปโรงเรียน เข้ากับเพื่อนๆ ได้ดี ตอนนี้กำลังจะแย่งลูกคืนมาจากทีวี โดยเอาหนังสือเป็นตัวช่วยอยู่ค่ะ ได้ผลดีที่เดียวลูกยอมปิดทีวีเพื่อให้เราอ่านนิทานให้ฟังค่ะ ลูกชอบมากค่ะ คุณ sindy_pv11 คุณหมอพูดแบบนี้เหมือนกันค่ะ ว่าควรรักษาภูมิแพ้ให้ดีขึ้นก่อน เพราะมันส่งผลต่อการกิน และเรื่องสมาธิสั้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 10:36:15 แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 10:20:53 จากคุณ : แม่อัยยะจัง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:15:21

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ keeporn เราเห็นด้วยนะคะ เราเองไม่อยากยัดเยียดโรคให้กับลูกค่ะ เลยพยายามหาข้อมูล และประเมินพฤติกรรมลูกด้วยตัวเองเพราะเรารู้จักลูกเราดีที่สุดค่ะ ลูกเราช่างพูด กล้าแสดงออก มั่นใจในตัวเอง แต่ก็พลังเยอะไม่คอ่ยหลับไม่ค่อยนอน(เป็นมาแต่เล็กค่ะ) ชอบทำกิจกรรมกรรม ก็คงต้องสังเกตกันไปค่ะ คุณแก้มใส ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ เราคิดว่าคงต้องพาลูกไปประเมินซักครั้งเพื่อความสบายใจและแนวทางในการเลี้ยงลูกที่ดีด้วยอ่ะค่ะ จากคุณ : แม่อัยยะจัง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:26:03

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกเหตุผลครับ จากคุณ : พ่ออัยยะจัง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:28:13

ความคิดเห็นที่ 14 พฤติกรรมลูก ที่แม่อัยยะจัง เผชิญอยู่ ยังสามารถแก้ไขได้ไม่ยากค่ะ เพราะน้องเป็นผู้หญิง คิดว่าน่าจะแก้ไขได้ง่ายกว่าเด็กผู้ชาย อย่าคิดมากค่ะ แต่ลูกเรา เป็นทั้งสมาธิสั้น+ออทิสติค  วันแรกที่รู้ เหมือนกับเป็นวันสิ้นโลก ก็ว่าได้ เครียดวิตกกังวล ต่าง ๆนา ๆ สิ่งที่ดีที่สุด คือเราต้องเริ่มมารู้จักโรค พวกนี้ไว้บ้างก็ดี ...คะ จะได้เตรียมตัวตั้งรับมือ หาข้อมูลให้ได้เยอะที่สุดค่ะ จากคุณ : แม่น้องฟ้อมแฟ้ม&น้องฟ้ายฟ้าย (erp_may) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:34:22

ความคิดเห็นที่ 15 ส่งกำลังใจให้แม่น้องฟ้อมแฟ้ม&น้องฟ้ายฟ้าย ด้วยนะคะ ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรแม่ต้องสู้ๆ ต่อไปเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกอยู่แล้วค่ะ เราเองไม่ได้หวังว่าลูกต้องเป็นคนเก่ง แค่อยากให้เค้าเอาตัวรอดได้ ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ค้นหาตัวเองให้เจอ เป็นเด็กที่มีความสุขก็พอค่ะ จากคุณ : แม่อัยยะจัง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:42:00

ความคิดเห็นที่ 16 พยายามหาข้อมูลให้เยอะ ๆ ครับ เด็กสมาธิสั้นกับเด็กที่เรียนในระบบเตรียมความพร้อมจะไม่ส่งผลให้เห็นชัดเจนเหมือนเด็กที่เรียนในระบบวิชาการ  แต่พอเด็กขึ้นชั้นประถมจะเริ่มเห็นได้ชัดกว่าสมัยก่อนเพราะจะเริ่มมีการส่งงานเก็บคะแนนซึ่งเป็นงานหลักของเด็กนักเรียนในยุคนี้  ไม่เหมือนสมัยก่อนที่สอบมิดเทอมครั้งนึงแล้วก็สอบไฟนอลอีกครั้งนึงไม่มีคะแนนเก็บ  เด็กสมาธิสั้นบางคนที่เรียนรู้ได้ต้องฝืนตัวเองทำข้อสอบแค่เทอมละสองครั้งต่างกับต้องทำงานส่งครูทุกวัน (ซึ่งเขาฝืนตัวเองให้ทำไม่ไหว) ถ้าน้องเขาไม่ได้เป็นสมาธิสั้นก็เป็นเรื่องน่ายินดีมากครับ  แต่ถ้าคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นก็รีบแก้ไขครับ  ยิ่งแก้เร็วจะยิ่งดีสำหรับลูก  การที่ลูกจะพัฒนาเต็มศักยภาพลูกได้ต้องปิดอาการสมาธิสั้นไม่ให้รบกวนพัฒนาการทุกด้านของลูกครับ  แล้วแต่วิธีการที่พ่อแม่จะเลือกวิธีการที่จะแก้ไข  อาจจะเป็นวิธีการใช้ยา  พฤติกรรมบำบัด  ทางเลือก  เป็นต้นครับ จากคุณ : tingo เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:27:21

ความคิดเห็นที่ 17 หลานสาวก็ไปรามาฯคะ ตอนนี้เป็นสาวแล้ว เราว่าปัจจุบันแพทย์เฉพาะทางมีความรู้หลากหลายขึ้น ก็วินิจฉัยไปต่างๆตามที่เรียนมา บางทีก็ดี แต่บางทีก็ทำให้กังวลใจ เรามีโอกาสเลี้ยงหลานใกล้ชิด คุณแม่ต้องเอาใจใส่ให้มากดีกว่าคะ ต้องเหนื่อยแน่นอน อย่าให้ดู ทีวี เพราะ ทีวี ไม่มีการตอบโต้กลับ น้องรับฟังอย่างเดียว ไม่ได้ฝึกน้องให้มี reaction และปฎิสัมพันธ์ เวลาพูดต้องสบตากันเสมอ.. เหมือนฝึกให้น้องมีสมาธิและรู้จักฟัง ฟังจนกว่าเราจะพูดจบ คุณแม่ก็อย่าใจร้อนนะคะ.. หากิจกรรมทำร่วมกัน เช่น การเปิดหนังสือที่มีรูป คุณแม่ก็อธิบาย หรือ แกล้งถามว่า รู้จักอันนี้ไหมคะ.. พูดเพราะๆด้วยเสมอคะ.. รอฟังน้องตอบและอธิบาย.. ให้เวลาแบบเกินร้อย.. เขาจะเปิดใจและกล้าคุยกับเราทุกเรื่อง.. หรือ ให้น้องวาดรูป สีเทียนหลายๆกล่องเลยคะ กระดาษแบบกว้างๆ ให้นอนได้เลย แบ่งเวลาอยู่ด้วยกันทำกิจกรรมร่วมกัน และ แบ่งเวลาให้เขาวาดรูปฝึกจินตนาการ ให้อยู่กับตนเองบ้าง ช่วงนี้เราก็ทำงานของเราไป ไม่ห่างกัน อย่าทิ้งเด็กไว้ลำพัง ต้องเป็นบ้านมิดชิด ปลอดภัยด้วยนะคะ ถึงปล่อยได้บ้าง ไปเดินห้างบ้าง เพื่อออกกำลังและพบผู้คน หรือ ไปทะเล สวนสาธารณะบ้าง ไปเยี่ยมคุณปู่คุณตา ไปเล่นกีฬา แบ่งเวลาเลยคะ.. จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:54:41

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ tingo ขอบคุณนะคะ อยากบอกว่าตอนนี้หาข้อมูลเยอะมากๆ พร้อมทั้งปรับพฤติกรรมการเลี้ยงดูไปด้วยค่ะ เพราะไม่อยากปล่อยจนกลายเป็นปัญหา เพราะเราให้ความสำคัญกับความรู้สึกลูกมากค่ะ ไม่อยากให้ลูกมีปัญหาและไม่รักการเรียน เรียนเก่งหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่อยากให้ลูกตั้งใจเรียน และรักการเรียนค่ะ คิดเหมือนกันว่าทุกอย่างจะชัดมากขึ้นเมื่อลูกเริ่มเรียนวิชาการอย่างเต็มรูปแบบค่ะ คุณ กุหลาบแวร์ซาย ขอบคุณมากนะคะ เราทำงานนอกบ้านค่ะ บางครั้งรู้ตัวว่าฝากลูกไว้กับทีวีมากเกินไป แต่เรื่องความใจเย็นเวลาร่วมกิจกรรมกับลูกอันนี้มีเต็มร้อยค่ะ เราเป็นคนใจเย็น ไม่เคยดุ ตวาด ลูกเลย เลี้ยงด้วยความรัก กอดหอมแก้มกันทุกวันค่ะ จะพยายามแบ่งเวลาให้ดีขึ้น ถึงแม้อาจจะเหนื่อยขึ้นบ้างแต่ก็เต็มใจค่ะ คิดว่าถ้าปรับแล้วอะไรๆ ก็น่าจะดีขึ้นค่ะ จากคุณ : แม่อัยยะจัง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:22:46

ความคิดเห็นที่ 19 เล่นเอาคุณแม่เครียดไปเลย หมอว่า 60% ระหว่างที่ยังไม่ตรวจซ้ำ คุณแม่ทราบดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฟังไว้ก่อนก็น่าจะดีค่ะ และเห็นด้วยหากจะตรวจซ้ำและรอดูพฤติกรรมและปรับพฤติกรรมต่อไป จากคุณ : pure_diamond เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:02:29

ความคิดเห็นที่ 20 คิดซะว่า ไม่ว่าจะเป็นสมาธิสั้น หรือไม่ ....อย่างน้อยก็ทำให้เราหันกลับมาใส่ใจลูกมากขึ้น เป็นกำลังใจให้ค่ะ ** ของเรามีแย้งคุณหมอว่าลูกออกเรียนดี สามธิน่าจะไม่สั้นนะคะ ** คุณหมอบอกว่า มันไม่เกี่ยวกันนะคะ จากคุณ : แก้มใส เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 15:34:42 A:124.121.248.238 X: TicketID:274458