ความคิดเห็นที่ 1 ไม่นึกถึงความรักที่มีให้กันเลยหรือ...เอะอะก็จะเลิก จากคุณ : via iPad (สองแสนทองสิบบาท) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:03:32

ความคิดเห็นที่ 2 คิดคะ ทุกวันนี้อยู่ไปก้อเพราะรัก แต่รักอย่างเดียวไม่รู้จะรอดไหม เพราะเค้าต้องอยู่สวนตลอดแทบไม่มีเวลามาเจอกันเลย บ้านเรากับสวนเค้าห่างกัน 100 กว่ากิโลอ่ะคะ ซึ่งก้อไม่ไกลมาก แต่ทางบ้านเราไม่อยากให้ไปบ่อยๆเพราะทางเปลี่ยวและมีเรื่องปล้นจี้บ่อยมาก จึงแทบหาเวลาเจอกันได้น้อยมากก จากคุณ : ตุ๊ดตู่หัวหยอง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:10:12

ความคิดเห็นที่ 3 อนาคตของตัวเราเองครับ ใครจะพูดจะตำหนิอะไร พวกเค้า(รวมผมด้วย)ก็ไม่ไ้ด้เกียวข้องกับชีวิตคุณ เลือกสิ่งที่"คิด"ว่าดีที่สุด "เหมาะสม"ที่สุด กับตัวเราครับ คุยกับแฟนให้ชัดเจนไปเลยครับว่าเราต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร จะเปลี่ยนหรือจะทำได้มั้ย ชีวิตไม่ใช่ละครครับ บทหวานซึ้งโรแมนติกมันมีไม่เยอะ...อาจจะไม่มีเลยก็ได้ ปล.ผมเองก็ช่วยงานที่บ้าน เงินก็ไม่พอไปขอแฟน อย่าว่าแต่จะดูแลเค้าเลยครับ ตัวเองยังอยู่ยาก(แต่ไม่ลำบาก) ถ้าแฟนจะเลิกผมก็เข้าใจแล้วพร้อมใจ ด้วยเข้าใจในสิ่งที่เป็นอยู่ครับ ^^ (อ้อ อายุผมมากกว่า คุณ จขกท.ซะอีก) จากคุณ : Vincent Tai303 เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:23:38

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องอย่างนี้ต้องถามใจตัวเองค่ะ จากคุณ : 9-to-5er เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:25:01

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเรารักผู้ชายคนนี้ เราจะอยู่ข้างๆ เขาค่ะ แล้วค่อยๆ คิด จากคุณ : แกงส้มผักบุ้ง เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:35:16

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามาถาม นนนี่ ก็ตอบให้อ่ะค่า แหม บางคนก็ ใจร้ายจัง เป็น นนนี่ถ้ารู้พฤติกรรมแต่แรกแบบนี้ เป็นเพื่อนกันดีกว่าค่ะ หมดยุค กัดก้อนเกลือ ก้อนดิน ก้อนหินกินแล้วค่ะ เพราะ นนนี่ก็โดนมากับตัว กลืนไม่เข้า คายไม่ได้ เพราะติดลูก เลยต้องลำบากทั้งตัวเองและลูก สงสารแต่ลูกตัวเองนี่แหละ กลัวจะลำบาก เพราะแม่ไม่เอาไหน เอิ้กๆๆ จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:44:12

ความคิดเห็นที่ 7 คิดดีๆ รักนะรัก แต่ถ้าอยู่แล้วลำบากก็อย่าไปแต่งเลย อ่านกระทู้มาเยอะ มาคิดได้ตอนแต่งแล้วทั้งนั้น จากคุณ : ลองคิดดีๆ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 20:59:36 A:171.6.177.158 X: TicketID:253582

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าความรักคุณไม่หนักแน่นพอ อาจจะไม่ควรเสี่ยงนะคะ แต่คนที่ตอบคำถามนี้ได้ดีสุด คือตัวคุณค่ะ เพราะคนอื่นไม่รู้ตื่นลึกหนาบางของคุณทั้งคู่และครอบครัว แต่ก็อยากให้คิดอย่างมีสติ จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 21:12:08

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วทำไมแฟนคุณยอมล่ะคะ. จากคุณ : rainswatch เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 21:20:44

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท.... คุณเป็นคนมีความคิด เหตุผล ไม่เพ้อเจ้ออยู่กับ ความรัก แบบตะบี้ตะบันต้องแต่งงานไปทั้งๆที่มันไม่มีวี่แววของอนาคตที่สดไสในการสร้างครอบครัว ไม่ใช่ว่าคุณไม่รักแฟน แต่ทางบ้านแฟนเป็นแบบนี้... ดีแล้วค่ะที่ไม่เพ้อเจ้ออยู่กับคำว่ารักแบบตาบอด จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 21:51:30

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าแฟนไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเลย ที่บ้านว่าไงว่างั้น คนๆ นี้ก็เป็นได้แค่แฟน ไม่มีคุณสมบัติจะเป็นสามีหรือพ่อที่ดีได้ ทรัพย์สินหรือหนี้สินไม่ที่เค้ามีสำคัญเท่ากับสิ่งที่เค้าเป็น เพราะมันบ่งบอกถึงอนาคตของครอบครัวคุณค่ะ สามีเราก็จนค่ะ ตอนแต่งงานกันยังต้องผ่อนบ้านให้แม่อยู่เลย ตอนนี้ก็ต้องผ่อนอยู่ แต่เค้ากตัญญูโดยที่ครอบครัวไม่เดือดร้อน เค้าเป็นสามีที่ดี และเป็นพ่อที่ดีค่ะ จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 21:52:12 A:180.180.184.31 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 12 แต่งไปลำบากแน่ จากคุณ : ตะเกียงแอลกอฮอลล์ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 22:00:44

ความคิดเห็นที่ 13 ลองถามว่ารักเค้ามากจนยอมทิ้งทุกอย่างมั้ย ถ้าไม่ก็ตัดสินใจทำตามเซนตัวเองเลย แต่อย่าเสียใจทีหลังนะคะ เพราะเราว่าแฟนคุณโดยพื้นฐานคงเป็นคนดีเลยละถึงช่วยเหลือครอบครัวแบบนี้ เป็นไปได้มั้ยที่ลองคุยเรื่องอนาคตที่เป็นไปได้ทั้งคู่ จากคุณ : honey_khun เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 22:15:52

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นเราคงลำบากใจเหมือนกัน  เพราะแฟนคุณไม่มีปากเสียงไม่มองอนาคตภายภาคหน้า  ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบคนแบบนี้  ถ้าเป็นเราหากต้องออกจากงานมาดูแลสวนทั้งหมด  คงขอส่วนแบ่งมากกว่าคนอื่น  อย่างน้อยก็ต้อง 10 ไร่  และเราคงเป็นคนจัดการแบ่งรายได้เองว่าต้องแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว(50%) : เงินเก็บของตัวเอง(เพราะเป็นคนลงมือทำ)(30%) : แบ่งให้น้องๆ (คนละ 10%)  หากไม่พอใจก็ต้องตกลงกันหรือมาทำเอง เราใจแคบไปรึเปล่าเนี่ย จากคุณ : bussayayee เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 22:28:02

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นใจ จขกท นะคะ เรื่องทำงานแล้วไม่ได้อะไร ลองแบบนี้ไหมคะ ให้แฟน จขกท คิดเงินเดือนเลยว่าค่าจ้างที่เค้าทำแต่ละเดือนนั้นเท่าไร พอขายยางได้ ก็เอามาจ่ายเป็นค่าจ้างของตัวเองก่อน  รวมทั้งค่าจ้างคนงาน เหลือจากนั้นคือกำไร ค่อยเอามาแบ่งกันกับที่บ้าน ถ้าทนไปแบบนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้นค่ะ เงินเก็บก็ไม่มี  ทำงานงกๆไม่ได้อะไร แต่น้องๆไม่ต้องทำ ได้เิงินเฉยเลย แฟนเราเปิดบริษัทเล็กๆกับเพื่อน ร่วมหุ้นกัน  7 คน แต่มีคนทำงานกันจริงๆ 3-4 คน  คนที่ทำงานก็คิดเงินเดือนแต่ละเดือนด้วย ส่วนคนที่ไม่ได้ทำ(มีงานประจำ) ก็จะได้แต่เงินปันผลรายปีเท่านั้น ถ้าจะให้ได้เท่ากันหมด ทั้งๆที่งานก็ไม่ได้มาทำเท่ากัน แย่เลยนะคะ จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 22:44:39

ความคิดเห็นที่ 16 27ไร่แบ่งคนงานแล้ว ปีนึงได้ประมาณไม่เกิน5แสน มาหารคนในครอบครับอีก5คน เหลือเท่าไหร่คิดดู ความเสี่ยงอีกปี2ปียางอิสานจะออกมาอีกหลายล้านไร่ ราคามันจะเหลือเท่าไหร่ยังไม่รู้เลย จากคุณ : อัยเยอร์ เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 22:47:35

ความคิดเห็นที่ 17 ก่อนแต่งยังเลือกได้คิดเยอะๆแหละดี ถ้าวันนึงกิจการมันอยู่ไม่ได้จะทำยังไง พี่น้องที่เค้าแต่งออกไปแล้วเค้าจะมาคิดถึงพี่ชายที่เคยทำงานหาเงินให้มากกว่าครอบครัวเค้าเองรึเปล่า เป็นเราจะคุยกับแฟนก่อน แจกแจงอะไรยังไง จะรอดไม่รอดคุยกันก่อน ส่วนใหญ่ถ้าแต่งไปแล้วนอกจากพ่อแม่ก็มักคิดถึงแต่ครอบครัวตัวเองก่อนทั้งนั้น ไม่ได้ยุ อยากให้คิดดีๆ ก่อนอื่นคือคุยกับแฟนให้เค้าเข้าใจก่อน จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 23:21:31

ความคิดเห็นที่ 18 เรี่องมันไม่ได้อยู่ที่เงิน ไม่มีเงินเรามีก็ช่วยได้ แต่เรี่องคือยอมให้พ่อแม่มาบงการชีวิต ถ้าแต่งงานจะไปอยู่ในสวนยางกับแฟนก็ไม่ใช่เรื่อง แล้วจะมีปัญหา ดราม่าพ่อแม่ผัวอีก เรื่องเยอะ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 00:02:37

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่าแฟนคุณเป็นคนดี คนนึงเลยนะครับ เป็นคนรักครอบครัวและมีความรับผิดชอบเสียอย่างเดียวตรงหัวอ่อนไปหน่อย หากมองกลับ คุณต้องมองตัวเองด้วย ว่าตัวคุณเองเลี้ยงตัวเองรอดไหม หากตัวคุณเองเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาแฟน เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องเล็กครับ อีกอย่าง หากลองคิดบวกจากที่พ่อแม่แบ่งให้ 7ไร่เนี่ยคุณกับแฟนคุณไม่ทำให้มันมีเพิ่มขึ้นเป็น10  20  30  หรือครับ หากผมเป็นแฟนคุณมาเจอกระทู้ที่คุณตั้งนี่ผมเฟลไปเลยนะครับ พ่อแม่ใครใครก็รักครับ หากคุณมองว่าการที่แฟนคุณทำเพื่อครอบครัวของเค้าเป็นเรื่องไม่เข้าท่า ผมว่าคุณใจแคบไปครับ หากคุณจะเลิกเพราะเหตุผลที่คุณเล่ามาผมว่าคุณเลิกเหอะครับ แต่อย่าอ้างเหตุผลเรื่องครอบครัวแฟนคุณเลย เหตุผลจริงๆคือคุณรักแฟนคุณไม่มากพอต่างหาก ผมเคยมีหนี้เป็นล้าน ตอนนั้นยังไม่แต่งงานด้วยซ้ำแฟนผมก็รับรู้ และขายรถตัวเองเอาเงินมาช่วยผมด้วยซ้ำ สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ หากแฟนผมคิดแบบ จขกท. คงทิ้งผมไปแล้ว แต่เค้าไม่ทิ้งผมเค้ายอมลำบากข้างๆผมตอนนี้หนี้ผมหมดแล้ว และแต่งงานกันแล้วแฟนผมกำลังท้องลูกชาย ได้5 เดือนแล้วครับ ลองเอาไปคิดดูครับ จากคุณ : TiNy SaMuN เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 01:59:56

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องมันอยู่ที่แฟนยอมให้คนที่บ้านบ่งการชีวิต ส่วนชีวิตส่วนตัวของตัวเองจะเป็นยังไงไม่เคยคิดถึง หรืออาจจะคิด แต่เป็นคนดีจัด รักครอบครัวจนเกินเหตุ คุณก็ค่อยๆตัดสินใจไปค่ะ เอาใจช่วยค่ะ ลองคุยกับแฟนดูนะคะ อย่างน้อยก็คนรักกัน แฟนคุณยังมีสมบัติติดตัว แต่แฟนเราไม่มีสักบาท ที่สักผืนก็ไม่มี แต่เรารักที่ตัวตนของเค้า จนวันนี้ สมบัติมันไม่จำเป็นแล้วค่ะ ตัวแฟนเราทุกวันนี้ เค้าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน  ไม่ต้องพึ่งพาใคร แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 55 03:22:10 จากคุณ : แมวเก้าหาง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 03:11:55

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่ทราบนะคะ เพียงแต่อยากจะให้คิดถึงแว่บแรกที่คุณได้พบกัน ได้เจอกันว่าคุณชอบกัน เพราะอะไร แว่บแรกที่เจอหรือปิ๊งกัน คงไม่ได้ประทับใจว่าเพราะบ้านเค้ามีทุกสิ่ง เพราะเค้าจะได้มรดกเท่านั้นเท่านี้ แต่เป็นเพราะคน 2 คนมีสิ่งที่ต้องกัน จริงอยู่คนเราอาจจะอยู่กันโดยไม่มีองค์ประกอบอื่นๆนอกเหนือความรักไม่ได้ แต่เท่าที่ดูสภาพแวดล้อมของแฟนคุณก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก หากคุณคิดว่าคนคนนี้คือคนที่เรารักและรักเรา เข้าใจกันแล้ว ดิฉันก็ว่าน่าเสียดายที่จะต้องเลิกกัน ประเด็นทรัพย์สิน เท่าที่คุณติดใจคุณคิดว่ามันไม่ยุติธรรมที่แฟนคุณได้น้อยกว่าคนอื่น แต่++ การได้มรดกนี่ต้องทำใจไว้เลยค่ะว่ามันแล้วแต่ผู้ให้ เค้าจะให้ไม่เท่ากันมากน้อยยังไงก็แล้วแต่เค้า บางทีผู้ให้อาจมองเห็นประเด็นอื่นๆ อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้เป็นช่วงตั้งตัวของครอบครัวเค้า เพราะพึ่งลงทุนไป เพราะฉะนั้นอะไรต่างๆอาจยังไม่เข้าที่ คุณบอกว่ารายได้เอามาจุนเจือครอบครัว หมายถึง หาร 5 หรือคะ(แต่ไม่น่าหาร 5 นะคะ เพราะน้องชายคนเล็กยังเรียนอยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นภาระหน้าที่ของครอบครัวเค้าด้วยเช่นกัน) น้องสาวได้เงินส่วนนี้ด้วยมั๊ยคะ ถ้าได้ตรงจุดนี้ออกจะไม่ยุติธรรม ควรต้องมีส่วนที่ใครทำใครได้ เช่นถ้าขายได้แล้วอาจต้องหารสองหรือสาม เป็นของพ่อแฟน2 ของแฟน 1 เรื่องนี้แฟนคุณคงต้องไปอธิบายให้ทางบ้านเข้าใจให้ดี ว่าเค้าเองก็ต้องสร้างเนื้อสร้างตัว หรืออาจเป็นเพราะว่าช่วงนี้เค้าพึ่งลงทุนทำให้เห็นภาพรายได้ รายจ่ายไม่ชัด เช่นเงินที่ได้มาก็เอาไปหมุนรอบต่อไป ดังนั้นส่วนนี้เองอาจจะเห็นรายได้ต่อเดือนไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ แฟนคุณก็ต้องวางแผนทางหนีทีไล่กับพ่อเค้าค่ะ เรื่องเลิกหรือเปล่าก็คงแล้วแต่คุณ คนเราถ้าไม่บุญพาวาสนาส่งกันจริงๆ ก็มักมีเหตุให้คลาดแคล้วกันได้อยู่ จากคุณ : ดวงเด่นเดือน (ดวงเด่นเดือน) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 06:28:09

ความคิดเห็นที่ 22 ประเด็นสำหรับคุณที่น่ากลัว มันไม่ใช่เรื่องเงินหรอก แต่มันเรื่องผู้ชายคนนี้ ไม่มีความคิด การวางแผน การตัดสินใจ ต่างหาก ก่อนเลิก ลองให้โอกาสเค้า ถามเค้าดูว่า เค้าวางแผนชีวิตไว้ว่ายังไง ลองคิดเหมือนการวางแผนการลงทุน ดูแนวคิดเค้า บางทีบวกสุด ๆ เค้าอาจวางแผนชีวิตไว้บ้างก็ได้ ถ้าแย่สุด ๆ คุณจะได้รู้ว่าคนที่คบกันมา ไม่เคยคิดถึงอนาคตเลย คำว่ารักอ่ะ มันต้องคนทั้งคู่ที่ต้องเข้าใจกัน ไม่ใช่ฝ่าย หญิง หรือฝ่าย ชาย ที่ต้องเข้าใจฝ่ายเดียว จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 07:06:44

ความคิดเห็นที่ 23 มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยสอนไว้ว่า "เราควรเลือกคู่ชีวิตที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ไม่ใช่ทำให้เราแย่ลง" และท่านก็ประสบความสำเร็จในชีวิตและชีวิตคู่อย่างดีในสายตาเรา เพราะความรักอย่างเดียวไม่อาจทำให้เรามีความสุขในชีวิตคู่นะคะ สมัยนี้ต้องใช้คำว่า เหมาะสม มากกว่าค่ะ ถ้าวันนี้คุณเริ่มคิดหนักว่าจะเลิกกับเค้าดีไหม แสดงว่าเกิดความไม่มั่นคงแล้วล่ะค่ะ ควรกลับไปคิดใหม่ให้หนักๆ และคิดอย่างมีเหตุผล ไม่ใช้แต่อารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น ปล.ความเห็นส่วนตัวนะคะ แค่เข้ามาแชร์ค่ะ จากคุณ : piggy_momy (Piggy_Momy) เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 08:25:01

ความคิดเห็นที่ 24 พูดไม่ออกบอกไม่ถูก มองมุมกลับกันนะครับ ใครๆที่ว่ายอมให้พ่อแม่บงการ รักครอบครัวมากเกิน แล้วคุณต้องการอะไร เพราะที่คุณต้องการก็เหมือนบงการเขาเหมือนกัน จากคุณ : peach pitchaya เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 08:27:39

ความคิดเห็นที่ 25 เลือกสิ่งที่คิดว่าทำแล้วมีความสุขนะคะ จากคุณ : The Inspire Star เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 08:54:04

ความคิดเห็นที่ 26 ผู้หญิงเรา ไม่ได้ต้องการบงการฝ่ายชายหรอกนะคะ เพียงแต่ให้ชีวิตมันควรจะเป็นแบบคนอื่นๆเค้าเป็นกัน  ทำงานมีเงินเก็บ  ไม่ใช่ทำไปวันๆเงินเก็บไม่ได้  ไม่มีปากเสียงอะไรในครอบครัวเลยสักนิด แต่งไปก็ไม่รู้จะไปหาทางออกที่ตรงไหน  กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่มีใครบอกให้ฝ่ายชายทิ้งครอบครัวมาหรอกนะคะ  แต่ของแบบนี้มันควรมีตรงกลาง ผู้หญิงคนนึงอยากมีครอบครัว ช่วยกันเก็บช่วยกันสร้างอนาคต ผิดเหรอ  ลองตอบมาหน่อยนะคะ ผิดเหรอคะ หรือคุณเห็นว่าอยากมีครอบครัว ฝ่ายหญิงก็จงเก็บเงินสร้างไปคนเดียวสิ เพราะฝ่ายชายเค้าต้องเอาเงินไปให้พ่อแม่ และน้อง   ในเมื่อไม่คิดจะสร้างและวางอนาคตร่ววมกัน แล้วจะแต่งงานไปทำไมคะ จะบอกให้ จขกท ทน  ทั้งๆที่เห็นอยู่ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง  เราไม่ค่อยเห็นด้วยนัก ลองดูเอาแล้วกัน กระทู้ที่มีแม่ๆมาบ่น ว่าสามีไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านเลย ฝ่ายหญิงต้องออกเองหมด  ทำให้ไม่มีเงินเก็บ  ลูกจะเข้าโรงเรียนแล้ว เครียดจังเลย จะเอาเงินที่ไหนให้ลูก แถมทางบ้านสามียังมาเอาเงินสามีไปอีก ใครจะว่า จขกท ใจแคบก็ว่าไปค่ะ  หาก จขกท จะเลิกกับแฟนจริงๆ  เราเข้าข้าง จขกท ค่ะ และคุณไม่ได้ใจแคบด้วย คนที่บอกให้คุณทน เค้าไม่ได้มานั่งลำบากหรืออึดอัดทนทุกข์ไปกับคุณหรอกค่ะ อย่างบางท่านบอกว่าเคยมีหนี้เป็นล้าน แฟนก็ยังขายรถมาช่วย คุณคงลืมว่าบริบทมันต่างกัน คุณมีหนี้ คุณใช้หนี้หมด คุณเป็นไท ได้เริ่มใหม่ คุณทำเท่าไรคุณก็ได้เท่านั้น คนทำก็มีแรงจะทำ คู่ชีวิตก็มีแรงช่วย  เพราะทำมากก็ไ้ด้มาก แต่กรณี จขกท มันไม่ใช่ มันไม่มีวันสิ้นสุด หากยอมก็ต้องยอมไปเรื่อยๆ มีใครตอบได้บ้างว่าจะต้องยอมไปอีกกี่สิบปี ยี่สิบปี สามสิบปี หากฝ่ายชายคิดว่าการอยากสร้างอนาคตมีเงินเก็บคือการบงการ ความต้องการของฝ่ายชายก็ไม่ตรงกับฝ่ายหญิงแล้วค่ะ   การที่ความต้ิองการไม่ตรงกัน แล้วเลือกจะเลิกรา ไม่ใช่ความผิดความเลวอะไรเลยค่ะ   จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 13:03:32

ความคิดเห็นที่ 27 ธุรกิจอยู่ในช่วงลงทุน ก็ต้องมีติดขัดเป็นธรรมดา ถ้าจะแต่งกับแฟนคนนี้ ก็ต้องอดทนและต่อสู้อีกมาก คุณรับไหวหรือเปล่า ถ้าคิดว่าจุดยืนแต่ละคนเปลี่ยนไป หรือรักกันไม่มากพอ ก็คุยกับเค้าตรงๆ เสียใจตอนนี้ก็ยังดีกว่าอีกสิบปีข้างหน้า มีลูกกันแล้ว แล้วทะเลาะกันให้ลูกเห็นทุกวัน ถ้าอย่างนั้น ก็เลิกกันตอนนี้ ยังดีเสียกว่าค่ะ จากคุณ : aal990 เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 13:42:57

ความคิดเห็นที่ 28 กัดเหลือกินไหวหรอ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายนึงเอาตัวไม่รอดก็อย่าแต่งเลย ปัญหาตามมาเยอะ หมดยุคน้ำเน่าที่รักแท้ฟันฝ่าได้ทุกอย่างละ เราเป็นคุณเราไม่เอาชีวิตเราและลูกที่จะมีอนาคตไปเสี่ยง จากคุณ : หมีน้อยตัวนั้น เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 14:23:46

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณทุกๆความเห็นมากจริงๆคะ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้แต่งานแต่ปัญหาก็มองเหมือนชัดขึ้นเรื่อยๆ เครียดเหมือนกันคะ  รัก สงสาร ปะปนกันไปหมด แต่อย่างที่หลายความเห็นว่า มองโลกในความเป็นจริงจะชัดเจนที่สุด  อาจจะเห็นแก่ตัว แต่คิดในทางกลับกัน แล้วถึงเวลาเอาเข้าจริงจะมีใครเห็นแก่เราบ้าง จริงไหมคะ จากคุณ : ตุ๊ดตู่หัวหยอง เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 14:52:05

ความคิดเห็นที่ 30 แต่งไปแล้ว ปัญหาจุกจิกตามมามากมาย 1. สามี ไม่สามารถตัดสิน เอ่ยปาก รายได้ รายรับของตัวเองได้เลย 2. เหมือนระบบ เงินกงสีค่ะ ซึ่งมันวุ่นวายมาก 3. สามีทำงานหนักคนเดียว แต่น้องๆ แม่ คนที่ไม่ได้ลงแรง ได้ส่วนแบ่งเท่ากันหมด ... ไม่ยุติธรรมค่ะ 4. ลาไปเที่ยว ลางานอะไรไม่ได้ค่ะ เดี๋ญวจะเมหือนสร้างภาระให้คนอื่น 5. ไม่มีวันหยุดแน่นอน 6. ไม่มีเงินเก็บค่ะ ถ้าอยากแต่งงานจริงๆ อย่าไปทำงานรวมกงสีค่ะ  หรือ คุณต้องแยกบ้าน แล้วคุณไปทำงานที่อื่น ห้ามเข้าระบบกงสีที่บ้านเด็ดขาด ไม่งั้นปัญหาตามมามากมาย ทั้งคน ทั้งงานค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 15:41:22

ความคิดเห็นที่ 31 ลำบากแน่นอนคะ ถ้าแฟนของคุณยังไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ปล่อยให้น้องสาวและครอบครัวบงการและตัวคุณดูจากความคิดแล้ว คงไม่ยอมให้น้องสาวและครอบครัวเค้ามาบงการด้วยแน่ ถ้าแต่งงานไปมิช้ามินาน ก็จะต้องมาตั้งกระทู้ไหม่ว่า ควรทำยังไงกับครอบครัวของเราดี แน่เลยคะ. จากคุณ : I'm hope เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 18:37:49

ความคิดเห็นที่ 32 ความรักมันไม่อิ่มท้องน่ะครับ อ้ออีกอย่างถ้ามีลูกขึ้นมา เด็กเค้ากินนมน่ะครับแล้วของเด็กก็ต้องใช้เงินซื้อน่ะครับ  ถ้าอธิบายเรื่องพวกนี้แล้ว แฟนคุณยังหาทางออกไม่ได้ก็เลิกเถอะครับ อายุ28เองตอนนี้ยังเริ่มใหม่ได้ อีกอย่างพวกโลกสวยเค้าไม่ได้ช่วยคุณไปกรีดยางตอนเช้าน่ะ แก้ไขเมื่อ 26 ธ.ค. 55 23:06:49 จากคุณ : jray เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 23:04:46

ความคิดเห็นที่ 33 ทำงานเอง แต่รายได้ต้องแบ่งให้น้อง ๆ ด้วย ซึ่งไม่ได้ช่วยงานอะไร เป็นเราก็คิดหนักค่ะ ว่าจะแต่งกับคนนี้ได้ไหม รักคือรัก แต่อนาคตร่วมกันก็สำคัญ ว่าจะไปรอดไหม ดูแล้วไม่มีอนาคตร่วมกันจะแต่งไปทำไมให้ช้ำกว่าเดิม บางคนรายได้ไม่มาก ไม่ใช่คนรวย แต่ผู้หญิงเราก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วย เพราะเรามองเห็นอนาคตร่วมกันค่ะ ไม่ใช่อนาคตใครร่วมด้วยก็ไม่รู้ อิรุงตุงนัง มั่วไปหมด ครอบครัวพี่น้องก็สำคัญที่ผู้ชายต้องดูแลช่วยเหลือเท่าที่จะรับผิดชอบได้ แต่ถ้ามันมากไปสำหรับเราที่จะรับได้ ก็ปล่อยเขาอยู่กับครอบครัวที่เขาต้องการไปเถอะค่ะ จากคุณ : Madam Country เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 19:04:17 A:95.166.192.18 X: TicketID:341763

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าแต่งไปคงวุ่นวายน่าดูเลยแหละ จากคุณ : น้องโม่กาแมว เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 11:41:47

ความคิดเห็นที่ 35 แยกออกมาอยู่กันเองดีกว่า แล้วส่งเงินจุนเจือครอบครัวเขาบ้าง สบายใจคุณและแฟนดีกว่านะ  เราก็เจอเคสคล้ายๆคุณให้แฟนกลับไปทำนา เลี้ยงปลาที่บ้าน สุดท้ายไม่มีไรดีขึ้นเลย...เราป่วยหนักจะหาเงินจากไหนมารักษาตัวเราและแฟนเอง จะให้ท่านโกรธก็โกรธไป ถ้าเราออกมาทำงานข้างนอก ส่งเงินจุนเจือบ้างก็โอเคแล้วนะ แรกๆเรากับครอบครัวเขาก็มีเคืองกันบ้าง เลยแนะนำให้เขาปล่อยให้คนอื่นเช่าทำนา  เด๋วนี้เขาก็สบายขึ้นกันเยอะนะ ไหนจะเงินจากการให้เช่านา อย่าง้อยเราก็ไม่ได้ขาดส่งเงินให้พ่อแม่แฟนนะ เชื่อเรา ทำแบบเราๆว่าเวิร์คกว่า ว่าแต่ความคิดใครก็ความคิดมันนะ ลองอ่านไปพิจารณาดูก็ได้ จากคุณ : mayrma (mayraraya) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 20:23:24