ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนตัวจะให้ความสำคัญกับการศึกษาอันดับแรก  เอาใจใส่ดูแลเรื่องการเรียนของลูก ไม่ปล่อยปละละเลย แต่เชื่ออย่างหนึ่งว่า คนเราไม่ว่าจะมาจากไหน เกิดที่ไหนจะดีได้ถ้าใฝ่ดี เรากำลังจะมีลูกชายในปีหน้า คนชอบพูดว่าเด็กผู้ชายเลี้ยงยาก แต่เราว่าพอๆกับลูกสาวแหล่ะ พอเข้าสู่วัยรุ่นต้องดูแลใกล้ชิด ความรักความอบอุ่นของครอบครัวช่วยได้  เราลูกชาวสวนชาวไร่ แต่มีชีวิตที่ดีได้เพราะใฝ่ดี จากคุณ : เหลียน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:25:17

ความคิดเห็นที่ 2 เด็กรุ่นใหม่ๆแถวบ้านเรา แค่เรียน ม.ต้น ก็เรียนไม่ไหวรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ การบ้านไม่ทำไม่ส่ง ออกจากบ้านใส่ชุดนักเรียนแต่ไม่เคยเข้าโรงเรียน เลยโดนเชิญออกจากโรงเรียน เรายังงงว่ามันเรียนยากตรงไหน แล้วเป็นกันเยอะมาก สังคมสมัยนี้เป็นอะไร จากคุณ : ตะเกียงแอลกอฮอลล์ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:34:11

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มที่ครอบครัวค่ะ ปัญหาสังคมมันเยอะ จากคุณ : แหวนโอปอ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:43:55

ความคิดเห็นที่ 4 ใช่เลยค่ะ เราคิดมานานแล้วว่าปัญหานี้มันใหญ่หลวงมากๆ เราก็ไม่รู้ว่าจะไปร้องแลกแหกกระเฌอให้ใครแก้ปัญหาให้ได้ ตอนนี้ที่เราทำได้ดีที่สุดคือ...เรารักและดูแลเอาใจใส่ลูกๆของเราอย่างดีที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำให้ใครได้ค่ะ... ...เรามาเริ่มต้นแก้ปัญหานี้ที่ครอบครัวของเรากันนะคะ... จากคุณ : JA เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 09:49:51 A:223.204.93.251 X: TicketID:326789

ความคิดเห็นที่ 5 มาตรฐานการเรียนของนักเรียนต่ำ .... มาจากมาตรฐานของครู  ต่ำ มาตรฐานของครูต่ำ  ... มาจากการที่ไม่มีคนอยากมาเป็นครู  เหตุเพราะเงินเดือนของครูมันน้อย คนเก่งๆก็เลยไปเรียนหมอ เรียนวิศวะกันหมด เพราะรายได้ดีกว่า .. แล้วจะเอาคนเก่งๆที่ไหนมาเป็นครู แล้วครูมีคุณภาพน้อย จะสอนให้นักเรียนมีคุณภาพมากได้อย่างไร ... ครูเก่งๆมีน้อย  ก็ไปอยู่ตามโรงเรียนสาธิตกันหมด เพราะรายได้สูง นักเรียนที่เก่ง ก็เก่งโครตๆ  คนที่อ่อนก็อ่อนมากๆ ....สังเกตุได้จากการที่นักเรียนไทยไปแข่งขัน คณิตฯโลก วิทย์ฯโลก  ได้เหรียญกลับมาทุกเที่ยว จะพัฒนาการศึกษาไทย .... ก่อนอื่นเลย ขึ้นเงินเดือนให้ครูก่อน กำหนดไปเลย เงินเดือนครูขั้นต่ำ แปดหมื่นแสนนึง ดึงคนเก่งๆให้อยากมาเป็นครูกันแยะๆ .....   . จากคุณ : ลักษณาพร เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:01:51

ความคิดเห็นที่ 6 เพื่อนเรา (ที่เก่งๆ) ก็อยากเป็นครูนะ แต่เลือกที่จะเป็นครูสอนระดับมหาวิทยาลัยกันหมด จริงๆ พื้นฐาน ครูอนุบาล ประถมศึกษา เราว่าสำคัญมากๆ เพราะสามารถวางรากฐานเด็กได้ ไม้อ่อนดัดได้ ไม้แก่ดัดยาก จากคุณ : เหมาะสมที่สุดแล้ว เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:22:07

ความคิดเห็นที่ 7 ทางแก้น่ะมีแต่มันแก้ยากต้องรื้อกันทั้งระบบ..ไปขัดผลประโยชน์นักการเมืองเข้าอีก ฝันไปเถอะการศึกษาไทยจะก้าวหน้า อย่างที่คุณลักษณาพรว่าในตปท.ครูคือคนเก่ง คนที่มีความรู้สูง เงินเดือนสูง..แต่เมืองไทยมันกลับกันเด็กอ่อนๆไม่รู้จะเรียนอะไรได้ก็เรียนครู ได้ใบประกาศก็ได้งานแล้ว..มันจะไปมีคุณภาพได้ยังไง..ต้องรื้อใหม่ทั้งระบบ วิธีแก้ของเราคือสอนลูกเองในส่วนที่ครูสอนไม่ได้ ทั้งจริยธรรม คุณธรรม ความรู้ในวิชาที่เราเรียนมา และถ้ามีปัญญาก็ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกค่ะ ให้ลูกไปเห็นโลกอื่นวัฒนธรรมอื่นที่เค้าพัฒนาการศึกษามากกว่าเราเอากลับมาพัฒนาประเทศ..ซึ่งเอาเข้าจริงๆไม่รู้จะยอมพัฒนากันหรือเปล่า จากคุณ : Z-Cube เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:34:29

ความคิดเห็นที่ 8 เราว่าเป็นปัญหาใหญ่เลยค่ะ ก็ต้องโทษทั้งครอบครัวและโรงเรียน ที่โทษครอบครัวก็เพราะว่า ต้องยอมรับเลยนะคะ ครอบครัวสมัยใหม่ พ่อแม่คิดแต่เรื่องหาเงินค่ะ และหาวัตถุให้ลูก แต่เรื่องการพัฒนา EQ  ของลูกจริง ๆ ไม่เห็นสนใจ (ดูจากหลาย ๆ กระทู้ในห้องนี้ก็ได้) ส่วนโรงเรียนก็เหมือนที่เความเห็นข้างบนบอกว่า คนเป็นครูไม่มีคุณภาพแล้ว นักเรียนจะมีคุณภาพได้อย่างไร เราว่ามันต้องแก้ทั้งระบบเลยค่ะ เรากำลังท้องจะคลอดในปีหน้า มองไปในอนาคตแล้ว ยังคิดไม่ตกเรื่องจะให้ลูกเรียนที่ไหน คือ พอดีสามีเราเป็นต่างชาติ เพื่อนเราส่วนใหญ่ส่งลูกไปเรียนอินเตอร์ แต่เราไม่ค่อยอยากนะคะ เพราะว่าสังคมอินเตอร์ค่อนข้างฟุ้งเฟ้อ (คือเราว่าของแบบนี้ไม่ต้องหัดให้เด็กแต่เล็กก็ได้ เพราะสุดท้ายคนมันหาเงินได้เยอะ มันก็ฟุ้งเฟ้อไปเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว) ส่วนถ้าเป็นโรงเรียนธรรมดา เราก็ไม่แน่ใจว่า โรงเรียนไหนดี จะส่งไปเรียนโรงเรียนที่เราเรียนมันก็ไกลเกิน จริง ๆ อยากให้ลูกไปเรียนที่ยุโรปมากกว่า เพราะการเรียนการสอนมาตรฐานดี สอนให้เด็กคิดเป็นไม่ใช่ท่องจำ สอนให้รู้จักโลกด้วยไม่ใช่แค่ความรู้ในห้องเรียน แต่กลัวอดคิดถึงลูกไม่ได้ เฮ้อ คนเป็นพ่อเป็นแม่เนี่ย ลำบากนะคะ จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:42:45

ความคิดเห็นที่ 9 เราตัดปัญหาด้วยการโฮมสคูลลูกค่ะ แล้วไปต่อเมืองนอกเอา เพราะถ้าแก้ปัญหาจริงๆจังๆต้องแก้ทั้งระบบ ซึ่งเรามองว่ามันเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้ คนมีอำนาจก็เห็นแก่ตัว นักการเมืองก็เห็นแก่ตัว แก้ปัญหาที่พรรคพวกตัวเองได้ประโยชน์ ซื้อคะแนนเสียงไปวันๆ ให้พรรคพวกตัวเองมีเงินเพิ่มขึ้น เรื่องของประชาชนก็เอาแค่ผักชีโรยหน้า ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็เหมือนกันหมด ไม่ได้ช่วยประชาชนในเรื่องที่จำเป็นจริงๆเลย เมื่อไหร่จะแก้ปัญหาได้ คงต้องรอคนที่มีอำนาจและมองการไกล ทำงานพัฒนาประเทศเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ใช่มาเอาภาษีไปกินกัน ปล.ถ้าเราเป็นนายกฯจะแก้ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศก่อนเลย แล้วตามมาด้วยการศึกษา จากนั้นจะเป็นเรื่องสาธารณูปโภค แล้วสุดท้ายคือปรับรถเมล์รถตู้รถแท็กซี่ใหม่ให้หมด ให้มันน่าขึ้นหน่อย แล้วค่อยชูนโยบาย คืนเงินแก่คนไม่มีรถ ประมาณนั้น จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:17:10

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องรร.คงแก้ยาก เราก็ได้แต่ประคับประคองลูกไปพร้อมกับระบบการศึกษาไทย ไม่ได้ปล่อยให้เป็นภาระของรร.อย่างเดียว อันไหนดี..เราก็สอนเองเลยค่ะ ไม่รอรร. EQ IQ MQ ต้องครบ ทักษะการใช้ชีวิตต้องมี ลูกต้องสนุกกับการเรียนรู้ คิดเป็น มีความคิดเห็นของตัวเองบ้าง ไม่อยากให้ท่องจำ เป็นนกแก้วนกขุนทอง ขอแค่นี้หล่ะคะ จากคุณ : twas เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:53:03

ความคิดเห็นที่ 11 แค่สงสัยค่ะว่า เทคโนโลยี่สมัยนี้ก็ทันสมัยมาก ทำไมไม่ให้ครูที่สอนดี เด็กเข้าใจง่าย สอนเด็กอืน ๆ ด้วยอาจจะผ่านทาง ทีวีหรือคอมฯก็ว่ากันไป ทำแบบนี้ก็ทำได้ ทำไมไม่ทำ หรือใครเสียผลประโยชน์....เด็ก ๆกับพ่อแม่ต้องหาทางแก้ปัญหากันเอาเอง คนที่มีทางเลือกทางการศึกษานั้นไม่เป็นปัญหา แต่คนที่ไม่มีทางเลือก ต้องเรียนกับโรงเรียนที่ไม่พร้อม น่าเห็นใจไม่น้อย ปัญหาทางการศึกษา พ่อแม่เลยต้องแก้กันเอง แก้ผิดแก้ถูกไม่รู้แต่....สงสารเด็กค่ะ จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 12:42:26

ความคิดเห็นที่ 12 วิถีชีวิต คุณภาพสังคม วัตถุนิยม สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้คุณภาพของคนต่ำลง จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 13:47:48

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วทำไมต่ำเฉพาะในประเทศไทย ? จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 13:53:20

ความคิดเห็นที่ 14 น้องที่รู้จัก จบ ม. แห่งหนึ่ง เกรด 3 ขึ้นแต่ไม่รู้ว่า ภูเขาหิมาลัยอยู่ประเทศอินเดีย จบ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 13:55:35

ความคิดเห็นที่ 15 ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อครอบครัวโดยตรง อยากทราบว่าแต่ละครอบครัวมีวิธีหลีกปัญหา หรือ แก้ปัญหาอย่างไร จากคุณ : szworker เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 14:51:05

ความคิดเห็นที่ 16 พูดไม่ออกค่ะ เข้ามาฟัง comment ทุกๆ อย่างหลายคนก็พูดไปแล้วคงไม่พูดซ้ำอีกในปัจจัยภายนอก ขอพูดแต่ปัจจัยในครอบครัวแล้วกันนะคะ จากที่แวะเวียนห้องนี้มาซักระยะนึง สังเกตได้ชัดค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ใส่ใจเรื่อง EQ ของลูกมากขึ้นมากๆ กระแสการเรียนรู้ผ่านการเล่นมาแรงมาก ไม่ได้เน้นวิชาการอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีนะคะ แต่ที่น่าเสียดายจริงๆ คือ เราไม่เข้าใจธรรมชาติของเด็กเท่าที่ควร และบางทีเราก็พัฒนาเฉพาะตอนเขาเป็นเด็กเล็กแล้วหยุดไป อาจเพราะเราเหนื่อยและรู้สึกว่าลูกช่วยตัวเองได้แล้ว หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ คือเราไม่ได้พัฒนาต่อเนื่องจริงจังไปจนเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มันคงไม่ใช่แค่การพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก แต่ต้องพัฒนาความเป็นมนุษย์ในตัวคนคนหนึ่งเลย ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการหล่อหลอมชีวิตคนๆ หนึ่งให้มีจิตใต้สำนึกที่ดี จากคุณ : Sea sirion เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 16:50:54

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็คิดว่านะ การศึกษาไทยควรปรับทั้งระบบเลยนะครับ น่าจะวางระบบใหม่เลยดีกว่า ผมคิดว่านั้นนะ จากคุณ : น้องเชาว์ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 17:54:51

ความคิดเห็นที่ 18 จขกท.ถามว่าทำใมถึงต่ำเฉพาะประเทศไทย เพราะคนไทยเป็นชนชาติที่มีระเบียบวินัยในตัวเองต่ำอยู่แล้ว เมื่อมีปัจจัยภายนอกมากระทบมันเลยส่งผลเร็ว จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 19:03:05

ความคิดเห็นที่ 19 เราคิดว่า ไม่เป็นปัญหาสำหรับพ่อแม่ที่พอมีฐานะ ถ้าสอบรัฐดีๆ ไม่ติดก็ส่งลูกไปเรียนเอกชนดีๆ หรือส่งไปเมืองนอกได้ เราคิดว่า เป็นปัญหาของครอบครัวที่พ่อแม่ไม่มีการศึกษา คิดแต่จะให้ลูกท่องหนังสือ จะได้โตไปเป็นเจ้าคนนายคน เป็นปัญหาของพ่อแม่ที่ฐานะไม่ดี เพราะโรงเรียนรัฐบาลที่ได้มาตรฐานมีไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน และมีไม่ทั่วถึงทุกท้องถิ่น จะให้ลูกมาอยู่หอคนเดียว เพื่อเรียนหนังสือ จะเอาที่ไหนจ่าย เราคิดว่า เป็นปัญหาของประเทศ เพราะพ่อแม่หลายคนไม่มีเวลาหรือไม่รู้จักอบรมลูก โรงเรียนส่วนใหญ่ ไม่ดี ไม่ได้มาตรฐาน ครูไม่มีคุณภาพ สื่อการเรียนการสอนไม่เหมาะสม (อย่างแทบเบลตกับเด็ก ป.1 เนี่ย ไม่รู้คิดได้ไง ขัดกับหลักการเรียนรู้ของสมองชัดๆ) รัฐบาลไม่ใส่ใจ เห็นเด็กเป็นหนูลองยา เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เอาแค่วิธีการสอบเอนท์ ยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่นั่น ถ้าเทียบกับระบบคุณภาพของบริษัท ถ้าระดับผู้บริหารไม่เล่นด้วย ISO เลิกพูดถึง เพราะยังไงคุณภาพก็ไม่เกิด ถ้าต้องหารพัฒนาประเทศ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราก็ต้องเห็นความสำคัญของคุณภาพการศึกษาด้วย ไม่ใช่พูดแค่ให้เรียนฟรีกี่ปี จะให้ขึ้นเงินเดือนครูเพื่อจูงใจให้เด็กเก่งไปเรียน แต่ถ้าการผลิตครูยังไม่มีคุณภาพ ได้เด็กเก่งๆ ไปเรียนก็เท่านั้น (เคยช่วยเด็กเรียนครูทำรายงาน เนื้อหาง่ายกว่าเราเรียนมัธยม จะบ้าตาย) จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 19:32:23 A:125.25.53.163 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 20 ดูเงินเดือนครูสิค่ะ ใครจะอยากมายึดเป็นอาชีพ คนที่เก่งๆ เค้าก็ไปเอาดีด้านอื่นหมดค่ะหรือไม่ก็ไปเปิดโรงเรียนสอนพิเศษ เรื่องการศึกษาของไทยพูดไปแล้วยาว เรื่องท่องจำ เรื่องไม่มีการซำ้ชั้น หลายเรื่องมาก ต้องค่อยๆแก้ แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นมีอะไรใหม่เกิดขึ้นเลยค่ะ ทั้งๆ ที่ก็ไปดูงานเมืองนอกอยู่บ่อยๆ อุ๊บส์.... เอาเป็นว่า เราพ่อแม่ต้องใส่ใจดูแล ยอมเหนื่อยมากกว่าเดิมค่ะ จากคุณ : My_little_bonnie (My_little_bonnie) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:52:29

ความคิดเห็นที่ 21 ควรวางระบบใหม่จริงๆค่ะ ขอบอกเลยว่า เพื่อนเราที่สมัครงานที่ไหนไม่ได้ ส่วยใหญ่จบจากราชภัฎ แล้วไม่ได้เป็นหัวกะทิของราชภัฎด้วย ก็จะจบแหล่ไม่จบแหล่ แหละค่ะ ตอนนี้เป็นครูก็เต็ม ทั้งอัตราจ้าง ทั้งฝาก ทั้งอะไร เฮ้ออออ เราเคยไปสอนพิเศษเด็กให้แม่ แม่เจ้า เด็กสมัยนี้ บวกเลข เทียบบัญญัติไตรยางค์์ไม่เป็น คือ บวกเลข ท่องสูตรคูณไม่ได้อ่ะ จริงๆนะ เราเหนื่อยเลย พ่อแม่ก็ไม่ได้สนใจซักเท่าไร คือเราก็สงสารน้องๆอะนะ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 00:41:04

ความคิดเห็นที่ 22 ครูเดี๋ยวนี้เป็นไม่ยากหรอกค่ะ เราว่าเป็นงานที่สมัครแล้วรับง่ายนะ เพราะครูขาดแคลนเยอะ หลายๆคนไม่รู้จะไปทำอะไรก็ไปเป็นครูนี่แหละ ยิ่งจบโทก็ไปเป็นอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยกันสะเยอะ เพราะบางทีจบโทก็หางานยาก เพราะพวกองค์กรไม่อยากจ่ายเงินเดือนเยอะ รับพวกจบตรีก็ทำงานได้เหมือนกัน แถมจ่ายเงินเดือนน้อยกว่าด้วย เราเองก็เคยเป็นครู เพราะไม่รู้จะไปทำอะไรเหมือนกัน แต่ลาออกมานานแล้ว เรารู้ตัวดีว่า เราไม่ดีพอที่จะเป็นครู ตอนนี้ก็กลายเป็นพี่เลี้ยงหลานอยู่บ้าน เพราะหางานทำไม่ได้ สาขาที่เราจบมาเป็นได้แต่ครู ไปสมัครที่อื่นก็ไม่รับ ถ้าไปเป็นครูก็คงได้ล่ะ แต่นะไม่อยากเป็นครู เพียงเพราะไม่รู้จะไปทำอะไร สงสารเยาวชนของชาติที่ต้องเจอครูคิดแบบนี้  สอนไปวันๆ รับเงินเดือน โดยไม่มีอุดมการณ์ จากคุณ : นารีพินิจ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 05:17:30

ความคิดเห็นที่ 23 ข่าวออกละเอียดดีค่ะ การพัฒนาการศึกษามันต้องพัฒนาทั้งระบบ ส่วนที่ดีอยู่เเล้วก็คงไว้ ส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานต้องเร่งพัฒนา ถ้าติดตามข่าวเรื่องการทดสอบนานาชาติ ถ้าทดสอบรวมเเบบนี้เช่นTIMSS ประเทศไทยจะต่ำกว่าประเทศอื่นๆ เเต่ถ้าเป็นเดี่ยวๆ ทีมไม่เยอะ เด็กไทยจะเก่งมาก เช่นโอลิมปิกวิชาการ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 06:20:24

ความคิดเห็นที่ 24 แม่เป็นครู โรงเีรียนขยายโอกาสทางการศึกษา แม่บอกว่า แค่ให้เด็กมาเรียน ยังลำบากเลย ส่วนเราเป็นครูโรงเรียนเอกชนมาก่อนค่ะ เงินเดือน ณ ตอนนี้ยังไม่ถึง 15,000 เลย ล่าสุด ลาออกเมื่อปีที่แล้ว เงินเดือน 8,000 กว่า แล้วจะไปพออะไรค่ะ โรงเรียนเอกชน ใหญ่ๆ ค่าเทอมแพงๆ เราเคยลองไปทำงานแล้วบางที่แย่กว่านี้อีกค่ะ ตอนกลางวันก็ห่อข้าวมากิน แอบกิน เพราะอายกันเอง ที่คือโรงเรียนที่ค่าเทอมเป็นแสนนะคะจ่ายครูไม่ถึงเดือน 5,000 บาท แล้วคุณพ่อคุณแม่คิดว่า จะได้อะไร กับเงินที่โรงเรียนจ่ายให้ ครู เป็นอาชีพมีเกียรติ แต่ไม่มีกินค่ะ จากคุณ : Apple2u เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 09:26:07

ความคิดเห็นที่ 25 เริ่มมาจากการคัดคนมาเรียนครู เอาแค่วิชาภาษาอังกฤษเอง ครุศาสตร์ภาษาอังกฤษก็เรียนแต่เรื่องการสอน แผนการสอน จิตวิทยา เรียนเรื่องการใช้ภาษา speaking / listening  นับจำนวนหน่วยกิตได้เลย เลยทำให้ไม่มีคุณภาพในเรื่องที่ตนจบมา จบมาแล้วพูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้  เป็นครู ไม่ใช่ว่าแค่สอนให้เข้าใจ แต่ตนนั้นต้องมีความเข้าใจมากขึ้นกว่าบุคคลทั่วไปอย่างมากถึงมากที่สุด   พอจบมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษแล้ว  ก็สอนไม่ได้ หรือสอนได้แค่ในหนังสือ ไม่มีความรู้รอบตัว ทำไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ อีกทั้งระบบประเทศนี้ ครูส่วนใหญ่ก็ต้องการบรรจุ การสอบบรรจุก็ไม่ได้ว่าจะสอบคัดเลือกบุคคลตามความสามารถในวิชานั้นๆ อย่างแท้จริง ( จะเห็นได้ว่า ไม่มีการสอบ speaking / listening อะไรใดๆ กับเจ้าของภาษาเลย อ่านหนังสือไปสอบเอา   ) เราว่า คนที่สอบบรรจุครู ควรต้องไปสอบ IELST/  TOEFL แล้วเอาคะแนนมาด้วยซำ้ไปว่า ถ้าคะแนนไม่ถึง จะไม่มีสิทธิ์สอบบรรจุครู แบบนี้ก็จะคัดกรองพวกที่ไม่มีมาตรฐานในวิชาที่ตนจบมา ได้ค่อนข้างเยอะ เมื่อมาบรรจุแล้ว ก็พลอยนิ่งเฉย เพราะถือว่าตนได้เป็นครูจนเกษียรแล้ว จะกลัวอะไร ไม่มีใครไล่ออก งานมั่นคงแล้ว จะพัฒนาตนไปทำไม มุ่งทำแต่วิทยฐานะ ผลงาน ค่าโน่นนี่ก็ได้บานเบอะ ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้ พูดตรงๆ ก็ไม่ได้มีความสามารถในเรื่องภาษาอังกฤษเลย เก่งแต่ทำผลงาน เอาเงิน พอเจอฝรั่ง ก็เดินหนีกันหมด ไม่ก็อ้างว่าฉันเก่งแกรมม่าย่ะ ไม่ได้เก่งพูด (​ ข้ออ้างนี้ได้ยินบ่อยมาก ) คนเก่งๆ ที่มีใจรักการสอนภาษาอังกฤษ สามารถพูด สื่อสารกับเจ้าของภาษาได้ คนที่มีไฟ ก็จะทำแต่งานการสอน สอนเด็ก ทำแผนการสอนที่สอดคล้องกับความเข้าใจของเด็ก คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยสนใจทำผลงานเพือให้ได้เงิน แต่นานๆ ไปคนเก่งๆ กลุ่มนี้จะหมดไฟ ลาออกไปทำอาชีพอ่ืน ที่ได้เงินมากกว่า นันคือ เปิดโรงเรียนสอนพิเศษ​ และคนที่เหลือก็คือคนกลุ่มแรก ที่กล่าวมา มันเป็นแบบนี้จริงๆ นะ จากคุณ : Hotter Winter เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:22:01

ความคิดเห็นที่ 26 ปัญหาใหญ่ ตอนนี้โรงเรียนทางเลือกเริ่มผุดขึ้นมา รอดูกันต่อไป ครูที่ไม่นิ่งดูดายก็มีอีกมาก จากคุณ : เต่าทองร้อง..ยี้ฮ่า!! เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 55 11:28:23