ความคิดเห็นที่ 1   การนั่งรถยนต์ที่ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับเด็ก กรณีไม่มี child seat - ผู้ปกครองควรให้เด็กนั่งที่นั่งตอนหลัง และนั่งชิดด้านใดด้านหนึ่ง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ เด็กจะกระเด้งไปชนกับเบาะพนักพิง ซึ่งมีความนุ่ม ช่วยลดการบาดเจ็บลงได้ และไม่ควรให้เด็กนั่งตรงกลาง เนื่องจากเด็กอาจกระเด้งออกไปนอกตัวรถได้ค่ะ - ไม่ควรใช้เข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับสรีระของผู้ใหญ่มาคาดให้กับเด็ก เนื่องจากเด็กยังไม่มีกระดูก หรือกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเหมือนกับสรีระของผู้ใหญ่ จึงอาจทำให้เด็ก ๆ บาดเจ็บได้ - ที่สำคัญ ไม่ควรอุ้มเด็กไว้บนตักในที่นั่งด้านข้างคนขับ เนื่องจากมีการศึกษาว่า ในกรณีที่รถยนต์วิ่งด้วยความเร็วเพียง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น น้ำหนักของเด็กจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20 เท่า ดังนั้น เมื่อเกิดการชน หรืออุบัติเหตุ จึงเป็นการยากที่ผู้ใหญ่จะอุ้มเด็กเอาไว้ได้ไหว จึงมักมีข่าวคราวน่าเสียใจเกิดขึ้นบ่อย ๆ เมื่อพบว่าเด็กกระเด็นออกมานอกรถ นอกจากนั้น ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย (Air Bag) เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แอร์แบ็กระเบิดออกมาอาจกระแทกกับลูกทำให้ได้รับบาดเจ็บได้เช่นกัน จากเวป http://www.langrod.com/news/article/2280.htm จริงๆแล้วให้ดีที่สุดแล้วเด็กควรนั่ง car seat ซึ่งในห้องนี้ก็มีการพูดถึงกันบ่อยๆอยู่แล้ว เอาไว้มีเวลาจะมาเขียนต่อนะคะ คลิปที่ดูแล้วจะเห็นภาพว่าทำไม car seat จึงสำคัญในเด็ก จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:23:24

ความคิดเห็นที่ 2   คุณหมอ เห็นด้วยว่าอันตรายค่ะ ที่อยู่นี่ขนาดกฏหมายเเรง ยังเคยเห็นพ่อเเม่บางคนให้เด็กเล็กยืนเบาะหน้า กลัวตอนเบรคฉุกเฉิน ได้ล้มได้กระเเทกกันมั่งหล่ะ เบาะลูก(คาร์ชีท)ควรอยู่เบาะหลังค่ะ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:30:03

ความคิดเห็นที่ 3   เห็นด้วยกับกระทู้นี้ของคุณหมออย่างแรงค่ะ ทางการไทยน่าจะมีการทำโฆษณาทางทีวีออกมารณรงค์บ้างนะคะ จะได้ช้วยให้พ่อแม่ตื่นตัวกันบ้าง เรายังเห็นพ่อแม่บางคนในนี้ถ่ายรูปมาลง มีลูกนั่งหน้่ารถอยู่เลย บ้านเราคงยังทำเป็นกฏหมายไม่ได้ แต่ช่วยกันรณรงค์บอกต่อก็ยังดีค่ะ จากคุณ : yay ! เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:34:21

ความคิดเห็นที่ 4   เห็นด้วยว่าอันตรายครับแม่หนึ่ง เพราะตอนลูกสาวอายุได้ 3-4 ขวบเค้าชอบยืนเกาะเบาะร้องเพลงซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างเบาะที่นั่งด้านหน้าคนขับ เวลานั้นมีรถมอเตอร์ไซค์ตัดหน้าผมเลยต้องเบรคกระทันหัน ผลเลยทำให้ลูกสาวที่กำลังเฮฮาอยู่หัวทิ่มกระโดดเป็นกบไปชนคอโซลหน้ารถอย่างจัง เลือดกลบปากต้องรีบพาไปหาหมอด่วน นอนซมไปหลายวันเหมือนกัน หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพฤติกรรมที่ให้เด็กนั่งหน้ารถหรือนั่งตักต้องเลิกไป ไม่เอาอีกแล้ว เจอกับตัวทีเดียวรู้เลยว่าเราคว้าเค้าไว้ไม่ทันจริงๆ ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:35:32

ความคิดเห็นที่ 5   ขอบคุณนะคะพี่หมอหนึ่งที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เป็นประสบการณ์ตรงของพี่ที่ได้เจอมาแล้วนำมาเล่าให้ฟัง อย่างน้อยๆ ก็ช่วยให้คุณแม่ที่ไม่ให้ความสำคัญของคาร์ซีทอาจจะหันกลับมามองมันบ้าง จริงๆถึงเราจะเข้าใจประโยชน์ของคาร์ซีท แต่ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเราก็สามารถชี้แจงได้ล่ะค่ะ รินเองก็เป็นคนหนึ่งที่ผู้ใหญ่ที่บ้านไม่ให้ความสำคัญเลยซักนิด โดนต่อต้านมาโดยตลอด จนถึงวันๆนึง ทุกคนก็ยอมรับกับคาร์ซีทได้  แม้จะต้องใช้เวลานานหลายปีก็ตาม ทุกวันนี้ติดที่เบาะหลัง 2 ตัวเลยด้วยซ้ำค่ะ จากคุณ : ริน-otto เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:38:55

ความคิดเห็นที่ 6   อ่านแล้วเศร้าเลยค่ะ เพราะเราก็ชอบทำแบบนั้น คิดจะซื้อคาร์ชีทก็แพงจัง คงต้องเปลี่ยนวิธีมานั่งเบาะหลังแทน ขอบคุณมากนะค่ะพี่หมอหนึ่ง ที่นำเรื่องมาเตือน แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 07:40:50 จากคุณ : AiShiTe เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:40:20

ความคิดเห็นที่ 7   สงสารจังค่ะ  ...อึ้ง...อันตรายจริงค่ะ  การติดตั้งคาร์สิทให้เหมาะสมก็สำคัญมาก  โชคดีที่หลานที่ไทยติดคาร์สิทมากๆค่ะ หมอหนึ่ง  ถ้าไม่ได้ไปคันที่มีที่นั่งตัวเอง ร้องไห้หาทั้งรถและคาร์สิท  เลยสบายไปพ่อเค้าพาขับเข้า กทม.มารับแม่ทุกอาทิตย์เลย จากคุณ : one&only เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:48:33

ความคิดเห็นที่ 8   เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะคุณหมอ แต่ไม่กล้าดูคลิปไม่รู้ว่าเป็นยังไง.....กลัวค่ะ เอิร์ธเองซื้อคาร์ซีทตั้งแต่น้องพร้อมยังไม่เกิด พยายามให้ลูกนั่งแต่ฝึกยากมาก ตอนนี้8เดือนกว่าแล้วยังนั่งบ้างไม่นั่งบ้างอยู่เลย(ใช้วิธีเอาลงตอนเคลิ้มๆ)แต่ก็ไม่ยอมให้ลูกนั่งที่เบาะหน้าเด็ดขาดค่ะ จากคุณ : สร้อยทองคล้องรักเรา เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:50:24

ความคิดเห็นที่ 9   มาโหวตให้ค่ะ เป็นเรื่องเข้าใจง่ายๆ แต่ก้อยังเห็นคนทำกัน บางคนเพียงแค่บอกว่าไม่มีเงินพอที่จะซื้อ ฟังแล้วดูไม่สมเหตุสมผล เอาเลยนะคะ คุณสามารถหาเงินมาผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือเช่าห้อง เช่าบ้านอยู่ แต่กลับมองข้ามความสำคัญตรงนี้ไป  แล้วก็พวกที่บอกว่าลูกนั่งตักสบายกว่าเหมือนกันคะ ไม่รู้เขาคิดยังไง  จริงๆโลกตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วนะคะ ผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพและก็ความปลอดภัยมากขึ้น และก็มีความรู้มากขึ้น งานวิจัยออกมาว่าคนในปัจจุบันถึงมีอายุยืนมาขึ้น โดยเฉลี่ยแล้ว 80 ปี   สุดท้ายก็รอแต่กฏหมายแหละค่ะที่จะออกมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบ้านเราจะมีหรือปล่าว เห็นด้วยกับจขกทเหมือนกันค่ะว่าอุ้มเด็กไว้บนตัก แล้วกอดไว้เวลาเกิดอุบัติเหตุ ก็คงเอาไม่อยู่เหมือนกันค่ะ ไม่ได้เล่นรถบั๊มป์นะคะ นี่เป็นรถจริงๆ ชนจริง แรงจริง คนอุ้มก็ไม่สามารถยึดหลังไว้กับเบาะเหมือนกันค่ะ แล้วจะมากอดลูกไม่ให้กระแทกข้างหน้าได้อย่างไร บางคนก็บอกว่าเขาขับรถช้า ไม่ประมาท...   คุณขับแบบนี้ คุณคงไม่ชนเขาแน่นอน  แต่ถ้าคุณโดนชนล่ะ? คุณจะตอบว่าอย่างไร จากคุณ : AnaBerry เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 07:50:52

ความคิดเห็นที่ 10   ใช่ค่ะพี่หมอหนึ่ง เราเห็นคนหลายคนออกมาเตือน และก่อนหน้านี้ก็มีกรณีของลูกชายพิธีกรที่นั่งตักแม่อยู่ด้านหน้า และเกิดอุบัติเหตุ เพราะคิดว่าแม่่อุ้มไว้ปลอดภัยกว่า ขอบคุณสำหรับกระทู้ดี ๆ อีกแล้วครับท่าน จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:15:01

ความคิดเห็นที่ 11   เห็นด้วยว่าอันตรายอย่างยิ่ง ทางบ้านเรานะชอบมากเลยกับการเอาเด็กเล็กไปนั่งด้านหน้า เราพยายามที่จะบอกแต่ทุกคนไม่ค่อยจะยอมฟังเลย เราก็กลัวมากกับอุบัติเหตึุแล้วเจอลูกเราเนี่ย ดูจากดาราที่ชื่อแทนคุณแล้วเกิดอาการวิตกจริตไปเลย ต้องเอาไปให้คนที่บ้านดูเปป็นอุทาหรณ์แล้วละ จากคุณ : แม่นกลูกคนแรก เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:15:39

ความคิดเห็นที่ 12   อ่านแล้วใจหาย ขอบคุณค่ะน้องหนึ่ง จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:18:19

ความคิดเห็นที่ 13   เข้ามาขอบคุณหมอหนึ่งค่ะ ที่เอามาเล่าให้ฟังเป็นอุทธาหรณ์ ที่ไม่รู้ว่าต้องมีเด็กอีกกี่คน กี่ชีวิต ต้องเสียไปเพราะความที่พ่อแม่ไม่เห็นความสำคัญตรงนี้ ไอ้ประเภทแบบที่มีคนเตือนแล้วตอบว่า ไม่เป็นไรหรอก ผมขับรถช้า ผมขับรถระวัง ไม่อยากจะใช้คำว่าไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตาเลยค่ะ คุณหมอหนึ่งคะ ฝากบอกน้องนะคะ สู้ ๆ นะคะ แล้วยังไงรบกวนกลับมาเล่าความคืบหน้าด้วยนะคะ จากคุณ : ปลาสลิดแดดเดียว เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:20:42

ความคิดเห็นที่ 14   เห็นด้วยกับพี่หมอหนึ่งค่ะ มีอยู่ครั้งนึงเจอเหตุการณ์คล้ายๆที่ลุงต่ายเล่าค่ะ จับลูกนั่งตรงซอกระหว่างคนขับกับคนนั่ง พอมีรถตัดหน้า หัวใจจะวายค่ะ... คว้าลูกแทบไม่ทันเลย... เป็นอุทาหรณ์ได้ดีมากๆ.. ขอบคุณพี่หมอหนึ่งค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ... จากคุณ : aggie_kmit'l เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:20:54

ความคิดเห็นที่ 15   เมื่อวานนี้เพิ่งเจอมาเลยค่ะ  ให้เด็กนั่งเบาะคนขับแล้วจอดรถติดเครื่อยนต์ทิ้งไว้ริมถนน ตัวคนขับลงไปซื้อของไม่ดับเครื่องด้วย น่ากลัวไหมค่ะ เราเห็นแล้วกลัวแทนเลย คนเราทำไมประมาทอย่างนี้ไม่รู้ จากคุณ : touch me เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:38:29

ความคิดเห็นที่ 16   ขอบคุณพี่หมอค่ะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา แอมเองก็คล้ายกับคุณริน ที่บ้านไม่เคยให้ความสำคัญกับคาร์ซีท และแอมถูกมองว่า "เวอร์" ที่เสียเงินซื้อที่นั่งประหลาด ๆ ให้กับลูกเป็นหมื่น ๆ แต่ลูกกับไม่ชอบนั่ง อยากให้คนเหล่านั้นมาเห็น เหมือนอย่างที่พี่หมอเห็นจังค่ะ จากคุณ : แอมมี่-อชิ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:41:10

ความคิดเห็นที่ 17   โดยส่วนตัวแล้ว ชอบเอาลูกมานั่งข้างหน้าด้วยกัน สงสัยต้องกลับไปหัดกันใหม่ซะแล้วล่ะ ขอบคุณพี่หมอหนึ่งมากๆเลยค่ะ จากคุณ : kookgee! เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:53:08

ความคิดเห็นที่ 18   โหวตเลยคะ เดี๋ยวเย็นนี้จะต้องเปิดให้แม่หนูดู เวลาไปไหนมาไหน แล้วไปกะตาโดยที่หนูไม่ได้ไปด้วย เขาจะนั่งหน้าคะ พูดบ่นหลายครั้งแล้ว ก็ไม่ค่อยจะเชื่อ แต่เวลาที่ไปกะหนู หนูต้องบังคับให้นั่งหลังเลยคะ คาร์ซีทมีไว้ก็ไม่ค่อยชอบให้นั่ง เวลาบ่นไปก็บ่นกลับ เฮ้อ ไม่แก่ดััดยากจริงๆ จากคุณ : NaNzi เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:57:15

ความคิดเห็นที่ 19   ขออนุญาตไม่ดูนะคะ...แต่ก็เห็นด้วยกับ เจ้าของกระทู้ว่ามันอันตราย.... จากคุณ : กลัวทำใจไม่ได้ถ้าจะดู (นาฬิกาโบราณ) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:59:15

ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณคุณหมอหนึ่ง เห็นด้วยกับคาร์ซีทอย่างยิ่งเลยค่ะ เคยโดนคนอื่นขับมาชนท้าย ลูกเรายังนั่งสบายๆ ไม่เป็นอะไร อุบัติเหตุเราคาดเดาไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าอุ้มอยู่อาจจะมีตกใจปล่อยหลุดมือได้ เพราะคนเรามันมีปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติอยู่แล้ว ใครที่บอกว่าคาร์ซีทแพงเนี่ย อยากให้คิดซักนิด รถยนต์คันละไม่ต่ำกว่าแสน หลายแสนด้วยซ้ำ คุณซื้อได้ แต่คาร์ซีท สี่ห้าพัน คุณบอกว่าแพง ถ้าเทียบกับชีวิตลูกแล้วไม่แพงหรอกค่ะ ไม่จำเป็นต้องซื้อแบบหลายๆหมื่น สี่ห้าพันก็มีให้เลือกซื้อค่ะ แล้วใครที่คิดว่าไม่ติดคาร์ซีท แต่จะขับรถดีๆ ช้าๆ ไม่ประมาท ขอให้คิดซักนิดนะคะว่า คนอื่นเค้าไม่ได้คิดระวังเหมือนคุณ เพราะเหตุการณ์ที่เราเจอมา คือเราโดนคนอื่นขับมาชน ต่อให้ระวังยังไง ก็ระวังคนอื่นไม่ได้หรอกค่ะ จากคุณ : พันฟ้า เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:59:30

ความคิดเห็นที่ 21   ผปค ที่โรงเรียนลูก แต่ละคนรถแพงๆ พอดีว่าเค้ามาเห็นเราเอาลูกคนเล็กใส่คาร์ซีท ถามเราว่าไม่สงสารลูกเหรอ คงอึดอัดแย่ แล้วเขาบอกกับเราว่า ของพี่อ่ะนะ จ้างพี่เลี้ยงมาอุ้มลูก จะหยิบจับอะไรสบายจะตาย ลูกก็ไม่ร้อง เราเลยไม่พูดอะไรต่อ กับคนที่มีเงินซื้อรถเบ ีนซ์ แต่ความคิดมีแค่นั้น ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา อยากพูดคำนั้นจริงๆ เราเอง เหมือนคุณริน เราหาเตรียมมาให้ลูกก่อนจะคลอดเลย โดนค่อนขอดเช่นกัน แต่พอที่บ้านหลานคนโต กระเด็นมาคอนโซลด้านหน้า จากนั้น เขาเลยเลิกพูดเลย ไปไหนเราก้อใส่คาร์ซีท สองอันเหมือนกัน จากคุณ : angermom (angermom) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:05:52

ความคิดเห็นที่ 22   ขอบคุณพี่หนึ่งที่มาเตือนนะคะ ขอยกมือยอมรับเลยค่ะ ว่าเป็นคนหนึ่งที่ยังโง่ในเรื่องนี้อยู่ - -" ตอไปจะทำให้ถูกต้อง และ ปลอดภัยกับเจ้าตัวน้อยค่ะ ฮึด! //กำมือชู ^_^ จากคุณ : MaE P@@H FaH เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:11:50

ความคิดเห็นที่ 23   คุณหนึ่ง.. เหมี่ยวเองก็เอาลูกนั่งตักน๊ะค๊ะ แต่ตอนนี้ลูกชายยึดที่นั่งด้านหน้าไปแล้ว ส่วนเหมี่ยวเองกับลูกสาวก็นั่ง แคปหลัง (รถกระบะค่ะ)   เจ้าลูกชาย ยังไง ๆ ก็ไม่ยอมคาดเข็มขัด เย็นนี้กลับไปจะเอา คลิปให้ดู เผื่อจะเกิดความกลัวแล้วยอมคาดเข็มขัดบ้าง ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ มีให้ตลอดค่ะ จากคุณ : มะเหมี่ยว (มนอิฐ-กระดุม) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:13:18

ความคิดเห็นที่ 24   ขอบคุณค่ะพี่หมอหนึ่ง เป็นอีกคนที่ไม่กล้าดูคลิป ไปไหนมาไหนก็ให้เจ้าบุญอยู่ในคาร์ซีทค่ะ ส่วนเจ้าบูมไม่ยอมนั่งก็ต้องอุ้มกัน แต่ก็จะให้อยู่ด้านหลังค่ะ จากคุณ : bodiamond1 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:22:26

ความคิดเห็นที่ 25   ขอบคุณค่ะ เราก็เป็นคนหนึ่งที่ให้ลูกนั่งวิธีนี้ประจำ เพราะรถเรามันเล็ก ลูกหลายคน ต่อไปต้องระวังเพิ่มขึ้นค่ะ จากคุณ : WiNnY_mIc_MaX เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:29:40

ความคิดเห็นที่ 26   เรื่องคาร์ซีท เนี่ยก็ยังเป็นประเด็นของที่บ้านอยู่ค่ะ...ยอมรับว่า มันจะปลอดภัยมากๆกับเด็ก ถ้าออกกฏหมายควบคุม และ ควบคุมเรื่องราคาด้วย จะดีมากๆ...ถามว่า มีปัญญาผ่อนรถ กะอีแค่คาร์ซีท ซื้อไม่ได้เชียวรึ ที่บ้านมีรถยนต์ เก่าๆ คันนึงค่ะ จะใช้ต่อเมื่อไปไหนๆ กันทั้งบ้าน หรือเราจำเป็นต้องไปข้างนอก แล้วต้องเอาลูกไปด้วย (เนื่องจากไม่มีคนดู) อยากได้ อยากมี คาร์ซีทเหมือนกันค่ะ อยากให้ลูกปลอดภัยเหมือนกัน แต่ราคาคาร์ซีทอันนึง  ครึ่งหมื่น ถึง หมื่นกว่าบาท สำหรับยมนุษย์เงินเดือน เจ็ดพันกว่าบาทอย่างเรา  มันแพงมากๆค่ะ ...ไม่ใช่ไม่อยากได้ แต่ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน ก็ไม่เหลือพอจะซื้อแล้วค่ะ..... จากคุณ : แม่ต้นน้ำ (แม่ต้นหอม) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:29:42

ความคิดเห็นที่ 27   ขอบคุณมากๆ เลยค่ะพี่หนึ่ง เดี๋ยวหนิงจะปริ้นท์ไปให้ 2 อาม่าอ่านซะหน่อย เห็นหลานรักร้องในคาร์ซีทหน่อยไม่ได้ ต้องอุ้มออกมา แถมมาว่าหนิงอีกต่างหากว่าเป็นแม่ใจร้าย ปล่อยลูกร้องไห้ เดี๋ยวก็ร้องจนชักหรอก พูดไปก็เหนื่อยค่ะ ต้องอ่านเองถึงจะรู้ จากคุณ : ninlaning เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:34:00

ความคิดเห็นที่ 28   แอบกลัวค่ะ ไม่กล้าดู ขอบคุณมากค่ะที่นำมาเตือนกัน จากคุณ : Nuchy_Sand_A เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:36:18

ความคิดเห็นที่ 29   เห็นด้วยมากๆค่ะ ตัวเองยังไม่มีลูกแต่คิดว่าถ้ามีลูกคงให้นั่ง car seat แน่ๆค่ะ ส่วนตัวเคยเจอประสบการณ์ตรงมาแล้วเพียงแต่มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมาย มีอยู่วันนึงหลานมานั่งรถคันเดียวกับเราค่ะ แล้วค่อยไปเจอที่บ้านพี่ชายแฟน โดยปกติถ้าเค้านั่งรถพ่อแม่จะนั่ง car seat แต่วันนั้นไม่ได้ยกมาไว้ในรถเรา เพราะเห็นว่าระยะทางมันใกล้ หลานก็นั่งด้านหลังกับเรา เค้านั่งตรงกลางไม่ได้นั่งหลังเบาะใดเบาะนึง เพราะแอร์หลังมันเป่าเค้าตรงๆจะเย็นกว่า จังหวะที่เลี้ยวออกจากถนนปัญญาอินทราเพื่อมุ่งหน้าไปทางมีนบุรี ตรงนั้นมันมีรถหลายทางมาแล้วมีรถมาตัดหน้า แฟนเราเบรคกระทันหัน เราเองก็ไม่ทันที่จะได้หันไปจับเค้าไว้ หลานที่นั่งด้านหลังพุ่งออกมานอนตรงที่วางแขนสำหรับคนขับนั่นล่ะค่ะ เราตกใจมาก จับตัวเค้ามาดูว่าเป็นอะไรมากมั้ย แต่โชคดีที่หลานไม่เป็นอะไรเลย เพียงแค่เจ็บตรงหน้าท้องนิดหน่อยจากการกระแทก จากอุบัติเหตุคราวนั้นบอกให้เรารู้เลยค่ะว่า ถึงเราจะระวังแค่ไหน แต่เพียงเสี้ยววินาทีที่คนอื่นไม่ได้ระวัง หากเกิดอะไรขึ้นมา เราไม่สามารถมีสติพอที่จะปกป้องเด็กไว้ได้หรอกค่ะ และอีกอย่างอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาค่ะ เพราะฉนั้นปลอดภัยไว้ก่อนจะดีที่สุด car seat ตัวนึง ปัจจุบันราคาไม่แพงมากก็มีค่ะ ลองคำนวณราคาดูนะคะ ถ้าคุณให้ลูกนั่งทุกวัน เอาจำนวนวันหารราคา ตกเพียงวันละไม่กี่บาทเองค่ะ ซื้อความปลอดภัยให้ลูกดีกว่านะคะ ส่วนผู้ใหญ่นี่ต้องพยายามอธิบายกันหน่อยค่ะ แม่สามีของเราก็บ่นเวลาไปเที่ยวกันเป็นครอบครัว หลานเรานั่ง car seat เค้าก็บอกว่ามันเสียพื้นที่ เกะกะ อุ้มเอาก็ได้ ตอนแรกเราเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากหรอกค่ะ ก็ยังแอบเห็นด้วยกะแม่สามี แต่พอเจอกับตัว ถ้ามีลูกแล้วแม่สามีพูดแบบนี้ แฟนเราคงโกรธแน่ๆค่ะ สงสารพ่อและแม่ของเด็กคนนั้นมากๆค่ะ ตจว.น้อยมากที่จะมีคนใช้ car seat เพราะเค้าไม่ได้มองว่ามันจำเป็นมาก ไปไหนมาไหนก็ระยะทางใกล้ๆ ขับรถก็ไม่ได้เร็วมาก ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ เห็นแบบนี้แล้วคิดว่าหลายๆคนคงให้ความสำคัญกับ car seat มากขึ้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 09:43:42 จากคุณ : TruLy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:39:46

ความคิดเห็นที่ 30   อยากให้พ่อน้ำอิงมาอ่านจังค่ะพี่หมอหนึ่ง  ขับรถก็ใจร้อน แถมยังไม่เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญอีก ขนาดตัวเองเคยเบรครถกระทันหัน จนลูกแทบจะหัวทิ่มมาหลายครั้งแล้ว ขนาดแม่ลูกสาวดุก็แล้ว คิดดูสิค่ะ เด็กสองขวบยังรู้สึกเลยว่าอะไรอันตรายสำหรับตัวเค้า พอพ่อมานเบรครถกระทันหัน แล้วตัวเองจะหัวทิ่ม มานหันมาตีพ่อมานตุ๊บตั๊บๆ ใหญ่เลย แล้วก็บอกว่า "พ่อขับรถทำไม( พ่อขับรถไม่ดีทำไม) อิงตีป๊าบ พ่อดื้อ" พ่อมานก็ได้แต่พูดว่า "พ่อขอโทษลูก" แต่กลับไม่คิดว่าอันตรายจริงๆ แฮะ พอเราจะให้ลูกนั่ง ก็ว่าไปแค่นี้เอง แป๊บเดียว แม่มานล่ะอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ส่วนตัวแล้วเวลาไปไหนกับลูกสองคนก็ให้ลูกนั่งรัดเข็มขัดทุกครั้ง แม้ว่าตอนนี้จะถอดคาร์ซีทแยกชิ้น เหลือแต่เบาะนั่งเสริม เพราะว่าน้ำอิงไม่ยอมนั่ง แต่แม่มานก็ยังพยายามอยู่ดีค่ะ เพราะคิดอยู่เสมอว่าบางสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เรื่องคุ้มไม่คุ้มไม่มีความสำคัญให้ต้องพูดถึงอีกต่อไป เพราะเวลาไม่ย้อนกลับให้เราไปแก้ไขความผิดพลาดได้จริงๆ คำว่ากันไว้ดีกว่าแก้ เป็นจริงเสมอค่ะ ถ้าให้เลือกก็ขอเลือกที่จะเสียตังค์ เสียเวลาในการติดตั้งคาร์ซีทสักนิดหน่อย ดีกว่าเสียใจไปตลอดชีวิตค่ะ จากคุณ : lovenaming เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:04:41

ความคิดเห็นที่ 31   ขอบคุณค่ะคุณหมอหนึ่ง สิ่งแรกที่เตรียมซื้อให้ลูกตั้งแต่ตอนท้อง คือ carseat นี่แหละค่ะ ช่วงก่อนหน้านี้สักครึ่งปี ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับพิธีกรคนหนึ่ง ที่ลูกชายขวบกว่า ต้องเข้าไอซียู เพราะนั่งตักแม่ข้างหน้านี่เหมือนกัน ยังคิดอยู่ว่าน่าจะตื่นตัวเรื่องนี้กันมากขึ้น แอบหวังว่าคุณพิธีกรคนนั้นจะตระหนักและช่วยรณรงค์เรื่อง carseat แต่ก็เห็นเงียบๆไปเหมือนเดิม อยากให้คนตระหนักเรื่องนี้ให้มากขึ้นจังเลยค่ะ เห็นด้วยกับคุณ Yay! เลยว่าทางการน่าจะออกมารณรงค์เรื่องนี้บ้าง จากคุณ : =TeddY= เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:09:46

ความคิดเห็นที่ 32   อึ้งค่ะ ขอโหวตให้เป็นกระทู้โหวตเลยค่ะ จะได้เตือนพ่อ ๆ แม่ ๆ อีกหลายคน จากคุณ : มูชิ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:17:08

ความคิดเห็นที่ 33   เป็นคนหนึ่งที่เห็นความสำคัญมากๆ  แต่สามีไม่เห็นด้วยและโดนต่อต้านมาตลอด 1 ปีเต็ม    และตลอดช่วงในขวบปีแรกของลูกนั้นเดียร์หาตลอดเจอที่ถูกใจก็เยอะแต่ก็เกรงสามี   จนสุดท้ายไม่ไหวไม่เกรงใจแล้วล่ะซื้ออะไรก็ซื้อได้กะอีแค่ซื้อความปลอดภัยให้ลูกไม่ได้เลยหรือไง ก็เลยซื้อมาโดยไม่บอกสามีกะว่าเป็นไงเป็นกัน  พอซื้อมาก็พูดก่อมๆแก่มๆ  ลูกจะนั่งเร้อ   หุหุ  ที่ไหนได้  ซื้อมาให้ลูกนั่งวันแรกลูกหลับสบายเลย และคราวนั้นที่มีปัญหาใส่ไม่เป็นก็ได้คุณรินและคุณGant  ใจดีมากช่วยแวะเวียนเข้ามาตอบกระทุ้หลายรอบมากๆ   จนถึงขั้นจะมาใส่ให้ถึงบ้านเลย ขอบคุณมากๆค่ะ แล้วให้ลูกนั่งนี่สบายมากๆ  แม่กินอะไรได้ถนัดนัก  ฮ่าๆๆ จากคุณ : อาเดียร์ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:26:22

ความคิดเห็นที่ 34   เราว่า ประเทศไทย ควรออกกฏหมายมาเลยค่ะว่า ถ้าในรถมีเด็ก เด็กก็ต้องนั่งอยู่ในคาร์ซีท จากคุณ : คุณแม่โปเต้ (AmMy.....จ๋าจ๊ะ.....^_^) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:27:37

ความคิดเห็นที่ 35   เรื่องราคาคาร์ซีท เราอยากจะบอกว่า ถ้าซื้อมือ 1 ไม่ไหว ให้ลองดูมือ 2 แล้วกันนะคะ ถ้ามือสอง 1 พันกว่าบาทก็มีค่ะ พ่อแม่ยอมประหยัดขึ้นอีกนิดซัก 3-4  เดือนก็เก็บเงินซื้อได้แล้ว จากคุณ : ริน-otto เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:30:59

ความคิดเห็นที่ 36   กระทู้โดนใจจริงๆค่ะ นี่ก็เพิ่งพาลูกไปเที่ยว ได้แวะเจอญาติด้วย เราเอาลูกไปวางในคาร์ซีทแล้วเดินมาสวัสดีเค้า เค้าก็สงสัย อ้าวลูกใครอุ้มอยู่ (ลูกเรานั่งคาร์ซีทอยู่เบาะหลังทั้ง2คนค่ะ) พี่อีกคนชีงตอบให้ บ้านนี้ให้นั่งเก้าอี้เด็กกัน  แม่ก็นั่งสบายไม่ต้องอุ้ม เออ เนอะ คิดกันได้ อยากอุ้มจะตายลูกอะ แต่มัยอันตรายไม่เข้าใจรึไง โดนมาหลายทีแล้วค่ะ เรื่องว่าขี้เกียจอุ้มลูกเนี่ย เฮ้อ อยากให้เห็นความสำคัญเรื่องนี้มากๆค่ะ ยิ่งก่อนนี้ มีกระทู้แทบจะทุกวัน "คาร์ซีทจำเป็นมั้ย" และจะต้องมีบางคนมาตอบ ว่าไม่มีก็ได้ อยู่เรื่อย บ้างก็ว่าเมืองไทยไม่มีกฏหมายบังคับ ไม่ต้องใช้ก็ได้  อ้าวขับรถในไทยมันไม่มีอุบัติเหตุล่ะมั้ง จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:37:07

ความคิดเห็นที่ 37   ออกเป็นก.ม.คงลำบากค่ะ  เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อขนาดนั้นค่ะ ยกต.ย.แค่หมวกกันน็อค  คนซื้อหมวกกันน็อคที่ไม่ได้มาตรฐานราคาถูกเยอะแยะไป   เพียงเพราะกลัวโดนใบสั่ง  ไม่ใช่ซื้อเพราะเห็นแก่ความปลอดภัย ถ้าเป็นได้...ควรทำให้คาร์ซีทราคาถูกลง   เพราะเป็นอุปกรณ์จำเป็นเพื่อความปลอดภัย  ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย รณรงค์ให้ผู้ปกครองที่มีลูกยังเล็กเห็นความสำคัญให้มากขึ้น เริ่มจากตัวเราเองก่อนค่ะ...แล้วค่อยขยายไปคนรอบข้าง สังคมที่เราอยู่  ฯลฯ ต่อไปค่ะ อยากให้คุณหมอหนึ่งไปออกรายการทีวีรณรงค์เรื่องนี้บ้างจังค่ะ โดยยกเคสน้องคนนี้เป็นอุทาหรณ์ เจ้าหน้าที่รายการต่างๆที่เข้ามาอ่าน...รบกวนรณรงค์เรื่องนี้บ้างนะคะ จากคุณ : รักเฌอ..ประเทศไทย เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:41:32

ความคิดเห็นที่ 38   ขอบคุณค่ะ  คุณหมอหนึ่ง คุณพ่อให้แพรวา  นั่ง Carseat  ประจำตำแหน่งหลังซ้าย  เพื่อความปลอดภัยมาตลอดเลยค่ะ จากคุณ : Draught Beer เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 10:58:31

ความคิดเห็นที่ 39   คาร์ซีทในเซเว่นแค็ตตาล็อกแค่พันกว่าบาทเองค่ะ ถ้าจำไม่ผิด พันสาม เอง... (ก็ไม่เองนะ แต่ก็ถือว่าถูกที่สุดแล้ว) จากคุณ : elin เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 11:10:08

ความคิดเห็นที่ 40   เห็นด้วยอย่างมากค่ะ กดโหวตให้เลยค่ะ อยากให้คนไทยเห็นความสำคัญของคาร์ซีทกันค่ะว่าไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็น จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 11:22:47

ความคิดเห็นที่ 41   ขอบคุณมากค่ะคุณหนึ่ง อยากดูคลิป แต่ไม่สะดวก ติดไว้ช่วงดึกนะคะ ส่วนที่บ้าน ให้ความสำคัญกับคาร์ซีทมาก ตั้งแต่คลอด พาลูกกลับบ้านวันแรกก็ให้นั่งเลย ตอนนี้ 1 ขวบ เค้าก็จะรู้ว่าต้องนั่งตรงไหน ที่บ้านเดินทางบ่อย โชคดีที่ลูกไม่เคยงอแงเรื่องนี้เลยค่ะ ถึงแม้ว่าราคาของคาร์ซีทจะสูงหน่อย แต่ถ้าแลกกับความปลอดภัยของลูกน้อย ถือว่าไม่แพงสักนิดเลยค่ะ จากคุณ : Darling อย่าให้รักเราสูญพันธุ์ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 11:36:21

ความคิดเห็นที่ 42   คาร์ซีท สำคัญมากคะ ผ่านจุดตายตรงนั้นมาแล้ว แทบอยากจะกราบคาร์ซีทเลย ขับรถกลับบ้านตอนกลางคืน  กัน 3 คนพ่อแม่ลูก รถ10 ล้อ จอดบนถนน ไม่ทำสัญลักษณ์ใดๆว่ารถเสีย ไม่มีไฟติดให้เห็นว่ามีรถจอดอยู่ ฝนตกหนัก ทัศนวิสัยเลวร้ายมาก ขับมากว่าจะรู้ว่ามีรถจอดเสียอยู่ มันก็ชนเข้าไปแล้วคะ  เรานั่งหลังกับลูก อกกระแทกอย่างแรง รถหม้อน้ำหน้ารถแตก หน้ารถยับเลยคะ แต่ลูกนั่งคาร์ซีท อยู่ด้านหลัง เบาะพ่อเค้า ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ไม่อยากจะคิดว่าถ้าอุ้มลูกไว้ที่ตักหน้ารถลูกต้องกระเด็นออกไปนอกรถแน่ๆ  คงต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอน เงินไม่สามารถซื้อลูกคืนได้เลย  ซื้อใช้เถอะคะ จำเป็นจริงๆสำหรับคาร์ซีท  แล้วอีกเรื่องนึง เรื่องความเป็นระเบียบในรถ ลูกก็ไม่ต้องวุ่นวายในรถด้วย ไม่ต้องอุ้ม อุบัติเหตุ มันไม่คาดคิดจริงๆ เพียงเสี้ยวนาที ชีวิตจริงๆคะ จากคุณ : patrapp เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 11:37:53

ความคิดเห็นที่ 43   นั่งเบาะหลังจ้า เพราะว่าพี่อ้วนนั่งเบาะหน้าสองคนกับลูกไม่ได้ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวเตือนใจจ้า จากคุณ : ษิตรา เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 11:42:48

ความคิดเห็นที่ 44   บ้านเราออกเป็นกฏหมายยากค่ะ เพราะประชาชนส่วนมากมีรายได้ต่ำ เอาเป็นว่าช่วยๆกันรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้เรื่องคาร์ซีทแบบถูกต้อง ดีกว่า บางทีเห็นคอมเมนส์จากบางกระทู้ก็ปวดตับ คิดได้ยังไงมือพ่อแม่ ปลอดภัยกว่าคาร์ซีท เวลาเกิดอุบัติเหตุมาจริงๆอะไรก็จับไม่อยู่หรอกค่ะ แม้กระทั่งตัวคุณเองด้วย จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:02:39

ความคิดเห็นที่ 45   เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ อยากให้มีการรณรงค์เรื่องนี้ด้วยจัง แต่ราคาคาร์ซีทค่อนข้างสูง สังคมไทยยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญเท่าไร แต่ลูกสาวเราก้อให้นั่งนะ เรากลัวมากเรื่องอุบัติเหตุ จากคุณ : แม่น้องมะปราง (sasitan) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:30:01

ความคิดเห็นที่ 46   มาร่วมด้วยช่วยโหวตอีกคนค่ะ ของเราก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ที่บ้าน(เราเอง) มองว่าเราเป็น พ่อแม่คู่ "เวอร์" ไม่เห็นความสำคัญของคาร์ซีทเลย เพราะหลานชาย(ลูกของพี่สาว) โตมาได้ ไม่เห็นต้องเคยนั่งคาร์ซีทเลยสักครั้ง เรากับสามีทำได้แต่เฉย แล้วให้ที่บ้าน ค่อนขอดไป จนตอนนี้ ก็ยังพูดกันอยู่ แต่คงเบื่อจะพูดแล้วมั๊ง เพราะเราก็ยังยืนยันให้ลูกนั่งคาร์ซีทตลอดจนทุกวันนี้ อยากให้มีการกระตุ้นเรื่องนี้จังเลยค่ะ บางครั้งเราไปส่งลูกที่รร. ไม่ค่อยจะได้เห็นพ่อแม่ ให้ลูกนั่งคาร์ซีทเลย(น้อยมาก ๆ) กลายเป็นว่า พ่อแม่ท่านอื่นมองว่าไม่จำเป็นซะอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ เราคิดว่า มันจำเป็นมาก ๆ เลย ทนกับเสียงลูกร้องช่วงแรก ๆ แต่พอสักพัก พอเค้าชินแล้ว เราก็จะนั่งสบายมาก ๆ เช่นกัน ปล.ถ้าให้ คุณเคน-คุณหน่อย-น้องคุณ มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ ก็คงดีเนอะ อิ อิ แก้ไขคำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 12:37:16 จากคุณ : Ohm-Good & Mamy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:36:06

ความคิดเห็นที่ 47   มาโหวตด้วยคนค่ะ กับกระทู้ดีๆ แบบนี้ เห็นด้วยน่ะค่ะที่น่าจะมีการรณรงค์ให้ใช้ car seat เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ กัน แต่เรื่องนี้มันก็พูดยากน่ะค่ะ ถ้าจะทำเป็นกฏหมาย เพราะสังคมไทยประชากรส่วนใหญ่ก็มีไม่ได้มีฐานะดีมาก เมื่อเทียบกับ car seat ก็มีราคาแพงมากอยู่ ทำให้คนไม่ให้ความสำคัญ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 12:41:47 จากคุณ : Kennymommy เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:41:08

ความคิดเห็นที่ 48   เหตุการณ์แบบนี้ มันมีโอกาสเกิดขึ้นไม่มาก แต่ถ้าเกิดขึ้นก็รุนแรงเกินรับได้ครับ บางสิ่งบางอย่างถ้าใส่ใจหน่อยมันก็จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่หลายคนกลับมองว่า โอกาสไม่มากเราคงไม่โชคร้ายหรอก ทั้ง ๆ ที่บางอย่างไม่ได้ลำบากในการที่จะทำเลยครับ หมอเด็กของลูกผม และเพื่อนที่เป็นหมอ มักจะมีอะไรห้ามมากมาย และแน่นอนบางครั้งได้คุยกับเพื่อนที่มีลูก หลายคนก็จะมองว่า ถ้าทำตามหมอ วุ่นวายและเครียด ทำให้บางคนบอกว่าไม่ต้องทำเลย ลูกเขาก็โตมาไม่เห็นเป็นอะไรเลย มันก็จริงครับ เพราะว่าสิ่งที่หมอห้ามมันเป็นการป้องกันอย่างนึง ซึ่งหลายอย่างที่หมอห้ามนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันง่าย ๆ ครับ เพียงแต่ว่า ถ้าทำได้มันก็ชัวร์กว่า และหมอมักจะพยายามแนะนำวิธีที่จะไม่ลำบากพ่อแม่ให้มากที่สุดอยู่แล้ว ผมคุยกับเพื่อน ๆ ที่สนิทที่บอกว่าไม่ต้องทำตามหมอ ลึก ๆ แล้วเขาอยากทำครับ แต่พอเขาทำไม่ได้ก็เลยพูดแบบนี้ออกมา ว่าไม่เป็นไร เขาก็บอกว่าจริงๆแล้วก็เหมือนหาพวกเพื่อที่จะทำให้เขารู้สึกผิดน้อยลง เพราะพอทำไม่ได้จริง ๆ เขาก็กังวลเหมือนกัน แต่หมอมักจะบอกแล้วว่าถ้าทำได้ให้ทำ แต่ถ้าทำแล้วพ่อแม่เครียดก็ไม่ต้องทำก็ได้ครับ เพราะความเครียดของพ่อแม่มันจะสื่อไปถึงลูกได้ครับ เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ Vote ให้ครับ ถ้าเราจะลำบากซะนิดนึงเพื่อลูกผมว่า ยอมลำบากหน่อยเถอะครับ ถ้าไม่ยากจนเกินกำลังครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มาก ๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 13:12:39 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 13:11:47 จากคุณ : Zam เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:57:28

ความคิดเห็นที่ 49   เคยอ่านหนังสือเล่มนึง เป็นคุณหมอฟันเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์การเลี้ยงลูก มีตอนนึงเขียนไว้ว่า อุปกรณ์สำหรับเด็กที่ซื้อมาแล้วรู้สึกคุ้มที่สุดคือ "คาร์ซีท" ค่ะ อ่านแล้วก็ อืม ใช่จริงๆด้วย แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 12:59:42 จากคุณ : Fahsai_MoM เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:59:13

ความคิดเห็นที่ 50   มาโหนรถเมล์ เอ๊ย!!! นั่งคาร์ซีทกันนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 13:15:07 จากคุณ : ปูปู้ (เตร็ดเตร่) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:09:29

ความคิดเห็นที่ 51   เห็นด้วยมากๆ เป็นประโยชน์จริงๆ ค่ะ หมอหนึ่ง ถ้าลูกนั่ง car seat เราก็จะขับรถได้ดีขึ้นด้วย เพราะรู้ว่า ลูกปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่า ลูกจะยุกยิกหรือทำอะไรให้พะวง car seat สำคัญและจำเป็นกับชีวิตลูกมากๆ ค่ะ หัดให้ลูกนั่งตั้งแต่แรกเกิด  แล้วจะไม่มีปัญหาว่า ลูกไม่ยอมนั่งนะคะ ทำให้เป็นนิสัยไปเลย ว่า ต้องนั่งค่ะ  เหมือนเราจะออกนอกบ้านต้องใส่เสื้อผ้า ไม่ใส่  ไม่ออกจากบ้าน  ไม่นั่ง car seat เราไม่สตาร์ทรถค่ะ แล้วเด็กๆ จะชอบนะคะ  เพราะรู้สึกว่า พอนั่ง car seat เดี๋ยวก็จะได้ไปเที่ยวล่ะ ลูกเราไม่เคยโยเยเรื่องนี้เลยค่ะ จากนั้นก็นั่งเบาะรองก้นของเด็กโต มาจนอายุ ๖ -๗ ขวบค่ะ ยังเคยนึกเลยค่ะ  ว่า น่าจะมีการรณรงค์อย่างจริงจัง แทนที่ผู้ใหญ่จะให้ทอง (สร้อย กำไล กำไลข้อเท้า ฯลฯ) รับขวัญลูกหลาน น่าจะให้ car seat รับขวัญแทน เพราะมันหมายถึงความปลอดภัยของชีวิต เพราะถ้ามีอุบัติเหตุหรืออะไรเกิดขึ้นแล้ว  ตึ้งเดียว  แก้ไขไม่ได้แล้ว ยังคิดว่า  น่าจะมีการทอดกฐิน  ผ้าป่า car seat (คล้ายๆ ผ้าป่าหนังสือ) เอาไว้ที่วัด หรือที่อนามัยของทุกหมู่บ้าน มีไว้หลายๆ อัน มีไว้ให้ยืม ใครจะพาลูกไปไหน  ก็มายืมไปใช้   จริงๆ อบต.น่าจะช่วยกันในเรื่องนี้อย่างจริงจัง อีกอย่างที่สำคัญตอนลูกหัด หรือถีบรถ คือ หมวกกันน็อคค่ะ เราเคยเห็นน้องที่เกิดมาปกติ  แต่ต้องมากลายเป็นเด็กพิเศษไปตลอดชีวิต เพราะสมองกระทบกระเทือนมาก  จากอุบัติเหตุ ถีบรถล้มเอง แล้วน้องไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคอยู่ พ่อแม่น้องเสียใจและโทษตัวเองมากๆ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว  สมองไปแล้ว. . . แค่เรื่องเล็กๆ แค่นี้เอง อาจจะเป็น ๑ ในล้าน หรือ ๑ ในร้อย แต่เราจะเสี่ยงและเปิดโอกาสในการสูญเสียตรงนั้นทำไม  ยิ่งโดยเฉพาะกับลูกหลานของเรา แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 13:28:55 แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 13:25:10 จากคุณ : ต้นจั่น เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:15:03

ความคิดเห็นที่ 52   ขอบคุณหมอหนึ่งมาก ๆ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เราเองก็อาจเหมือนแม่ ๆ หลายท่าน ที่รู้ว่าอันตราย  แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะยังไม่เกิดกับตัวเอง ต่อไปนี้  ต้องเอาจริงกับคนที่บ้าน กลับไปคุ้ยคาร์ซีท  มาติดอีกรอบ ขอบคุณคะ จากคุณ : แม่น้องเกรพ (nong-grapeka) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:16:35

ความคิดเห็นที่ 53   #50 ลบรูปค่ะ ใหญ่เกิน รู้หมดว่าปูปู้หน้าใหญ่ เอารูปมาลงใหม่ค่ะ จากคุณ : ปูปู้ (เตร็ดเตร่) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:16:40

ความคิดเห็นที่ 54   ขอบคุณมากค่ะ จะได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งการนั่งใหม่ เนื่องจากไม่มี คาร์ซีส จากทุกทีที่นั่งอุ้มลูกด้านข้างคนขับ คงต้องไปนั่งข้างหลังแทน ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : Ph_eng เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:26:49

ความคิดเห็นที่ 55   เคยขับรถไปกับลูกสองคน ความเร็วที่ 60km/s ลูกนั่งเล่นที่เบาะหลัง ด้วยความที่ใกล้บ้านมากเลยไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไร จู่ๆ มีหมาวิ่งตัดหน้ารถ เราจะเบรคแรงๆ ก็กลัวลูกจะล้ม จำเป็นต้องชะลอๆ ลง แต่ก็ต้องชนหมากระเด็นเลย จากนั้นมาต้องคอยบังคับให้ลูกนั่ง carseat จากคุณ : คุณหน่อย เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:27:09

ความคิดเห็นที่ 56   เห็นด้วยค่ะ สงสารน้องและเห็นใจพ่อแม่ที่จขกท เล่าให้ฟังจังค่ะ จากคุณ : โอลีพ แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:38:16

ความคิดเห็นที่ 57   ซื้อตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดเหมือนกันค่ะ สนนราคาซื้อมอไซค์ได้คันนึง โดนประชดมาจากเพื่อนบ้านอ่ะค่ะ แต่คิดว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกนะคะ สมควรมีไว้ค่ะ คุณเพื่อนบ้านนั้นเอาลูกนั่งเบาะหน้าประจำ ลูกอายุสามขวบกว่ายืนเกาะ console หน้ารถ อันตรายมากเลย เคยแนะนำเค้าแบบลองบอกๆอ่ะค่ะ ว่าเนี่ยมีคาร์ซีทลดราคาที่นี่ๆๆนะ พี่ลองไปดูยังคะ เค้าบอกมาว่าไม่เอาอ่ะ เปลืองเงินเปล่าๆ ไม่จำเป็นหรอก นั่งไปโน่นมานี่แป๊ะๆ เราก้อเลยไม่รู้จะว่าไง ...คนที่ไม่เห็นความสำคัญแบบนี้ยังมีอีกเยอะนะคะ ถ้าบังคับเป็นกฎหมายเลยคงช่วยลดปัญหานี้ได้บ้าง จากคุณ : แม่เจ้าหยวน (แม่เจ้าหยวน) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 14:09:05

ความคิดเห็นที่ 58   มายกมืออีกคน ที่โดนกระแนะกระแหนว่า "เว่อร์"ค่ะ ที่ให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เดือนกว่าๆ แต่ไม่สนค่ะ....คิดซะว่าเสียงนกเสียงกา บางทีมีค่อนขอดว่า เก้าอี้ตัวละตั้งหลายพัน..เว่อร์ อยากบอกว่า หลักหมื่นเฟร้ยยยย ความปลอดภัยของลูกเรา  อย่างที่หลายๆคห.ว่า คุณคิดว่าคุณไม่ชนใครหรอก..แต่ถ้าใครมาชนเราล่ะ?.. จากคุณ : -jj- เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 14:26:19

ความคิดเห็นที่ 59   ช่วงหลังๆมานี่   เราก็ อุ้มลูกนั่งเบาะหน้า  คู่กับคนขับเหมือนกัน เพราะ เบาะหลังประตูมันเสีย  มันไม่ยอมดูด  เราก็เลยรำคาญ   ต้องกลับไปนั่งที่เดิมใหม่ แล้ว น่ากลัวจริงๆ   ไม่คุ้มเอามากๆ เลย ถ้าเกิดเหตุอะไร ขึ้นมา ขอบคุณมากที่มาเตือน สติแม่  ที่เอาสะดวกๆ แบบเรา  ฮี่ๆๆ จากคุณ : ปอมปาดัวร์ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 14:37:57

ความคิดเห็นที่ 60   ขอบคุณที่มาเตือนกันค่ะ  ต้องระวังให้มากขึ้นแล้วค่ะ จากคุณ : คุณกุ๋ย เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 14:38:17

ความคิดเห็นที่ 61   อ่านแล้วโดนตัวเอง ซื้อ car seat มาไว้ตั้งแต่ลูกได้เดือนกว่าๆ เพราะเห็นความสำคัญและความจำเป็น.... แต่ด้วยความมักง่ายของตัวเอง เห็นไปใกล้ ๆ ก็ไม่เคยเอามาใช้ เวลาไปไหนก็อุ้มแล้วนั่งเบาะหลัง.... ตอนนี้ลูกจะครบขวบ ล่าสุดจับเค้านั่ง car seat ร้องไห้ ดิ้นจะปีนออก ทำไงดีค่ะให้เค้ายอมนั่ง จากคุณ : คุณแม่ชมพู่ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 14:39:17

ความคิดเห็นที่ 62   เห็นด้วยอย่างมากค่ะ  อยากให้เมืองไทยมีเป็นกฏหมายด้วยซ้ำ   จำได้ว่าเคยดูหนังฝรั่ง   เด็กโตนั่งหลัง  ตำรวจยังต้องให้คาดเข็มขัดนิรภัยเลยค่ะ   แต่ในไทยเห็นบ่อยมาก   ที่แม่อุ้มลูกนั่งเบาะหน้า  หนำซ้ำบางที พ่อยังเอาลูกมานั่งตักแล้วขับรถก็เคยเห็นค่ะ   ดิฉันเอง เริ่มซื้อคาร์ซีทมาใช้ตอนลูกไม่กี่เดือนเองค่ะ  บางคนใช้ตั้งแต่คลอดเลยด้วยซ้ำ  แต่พอลูกโตซักระยะ   เริ่มไม่อยู่นิ่ง  วินัยก็เริ่มหย่อนยาน  นั่งคาร์ซีทบ้าง  ไม่นั่งบ้าง  เพราะคิดว่าให้นั่งเบาะหลังแล้วมีผู้ใหญ๋ประกบอยู่แล้ว   แต่วันนีงไปนอกบ้านกับลูก 2 คน   แม่เบรกกระทันหันเพราะรถตัดหน้า   ลูกหัวทิ่มลงมาที่พื้นเลยค่ะ   นึกภาพว่าเป็นหัวทิ่มจริงๆนะคะ   หน้าแบบกับพื้นรถเลยค่ะ   แบบเค้าช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย   ต้องรีบจอดข้างทาง   พออุ้มเค้าขึ้นมา  แก้มเป็นรอยผ้ายางปูพื้นเลยค่ะ   แล้วเค้าก็ร้องไห้มาก   คงเพราะตกใจด้วย   เราก็ได้แต่ปลอบ  แล้วก็ขอโทษเค้าค่ะ   ตั้งแต่นั้นมา  ให้นั่งคาร์ซีทตลอด  ยิ่งไปต่างจังหวัด  ยิ่งต้องให้นั่งค่ะ   เค้าก็ร้องจะลุกนะคะ   แต่ก็คอยพูดถ่วงเวลาตลอด  แล้วก็ใช้วิธีแวะพักให้เค้าได้ยืดเส้นยืดสายบ้างค่ะ อีกอย่างค่ะ  อย่าได้เกรงใจ ญาติๆ  เวลาที่เค้าจะพาลูกเราไปเที่ยว  แล้วเค้าก็จับมานั่งตักเบาะหน้า   ตอนลูกเล็กๆ  เราเกรงใจค่ะ  เค้านั่งรถกับแม่ไม่เคยได้นั่งเบาะหน้าเลย   แต่อามารับไปเที่ยว  ให้นั่งตักด้านหน้ารถเฉยเลย   มานึกได้ตอนนี้  ก็รู้สึกว่าไม่ควรเกรงใจ  น่าจะบอกเค้าไปเลยค่ะ  ว่าไม่ให้ลูกนั่งหน้า แล้วก็เห็นบางท่าน บอกว่าคาร์ซีทราคาแพง  แต่ดิฉันเห็นบางยี่ห้อที่ขายในไทยก็มีราคาไม่กี่พันเองค่ะ    ถ้าซื้อของใหม่ได้จะดีกว่านะคะ   เพราะคาร์ซีทมันมีหมดอายุเหมือนกันนะคะ   ลองนึกดูว่ามันอยู่ในรถ   ตากแดดเมืองไทยอีก   วัสดุมันน่าจะมีเสื่อมบ้างน่ะค่ะ   และราคาคาร์ซีทเทียบกับราคารถที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อมาขับ  ก็เทียบกันไม่ได้แล้วค่ะ   คิดว่าเราซื้อความปลอดภัยของลูกอีกหน่อยเอง   อีกอย่างเงินที่ซื้อคาร์ซีทเทียบกับชีวิตลูกๆของเรา  มันก็เป็นสิ่งที่เทียบกันไม่ได้อยู่แล้วใช่มั๊ยคะ จากคุณ : mummymonkey เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 14:45:08

ความคิดเห็นที่ 63   ..ไม่มีเงินซื้อคาร์ซีทค่ะ... เลยต้องอุ้มลูกเอง จากคุณ : แม่น้องเน็กซ์ (Sumiyo Valentine) เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 15:21:35

ความคิดเห็นที่ 64   ถ้าลูกเรายอมนั่ง เราก็ยอมซื้อค่ะ แต่เคยให้ลองนั่งแล้ว เจ้าลิงที่บ้านไม่ยอม ทั้งพูดดีๆ ทั้งขู่ ก็ไม่ยอม เอากะเขาสิ ชอบนั่งชมวิวรถคันข้างๆมากกกกกก นั่งรถคุณยายที่เบาะหลังมีที่วางแขน ก็จะกางที่วางแขนมานั่ง นั่งรถพ่อแม่ เบาะหลังไม่มีที่วางแขน เจ้าลิงจะปีนมานั่งข้างหน้าทันที พูดดีๆก็แล้ว จนดุเขา ปรากฏว่างอนลงไปนั่งที่พื้นเฉยเลย แม่มันก็เลยปล่อยให้นั่งพื้นตั้งแต่บางนาจนถึงระยอง ลูกเราขวบจะสิบเอ็ดเดือนแล้วค่ะ หวังว่าให้โตกว่านี้ พอคุยรู้เรื่องกันบ้าง จะลองใหม่อีกทีค่ะ จากคุณ : เช้าชื่น เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 16:04:47

ความคิดเห็นที่ 65   นั่งคาร์ซีท...ข้างหลังขวา ตลอดเลยครับ ปลาเข็ม ร้องจ้า แบบแห้ง(แกล้งร้องให้ป่าปี๊ ปล่อยออกจากคาร์ซีท) ขอบคุณคุณหมอหนึ่งที่มาคอยกระตุกการตระหนักด้านความปลอดภัย ให้ครับ จากคุณ : arrthai เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 16:58:56

ความคิดเห็นที่ 66   อ่านแล้วต้องขอขอบคุณครอบครัวของเราที่เข้าใจและให้การสนับสนุน อาโก เป็นสปอนเซอร์ให้หลังจากฟังเรากับสามีเล่าให้ฟังว่าการนั่ง carseat จะทำให้เด็กปลอดภัยกว่าอุ้มหลายเท่า อากงอาม่า ตื่นเต้น ดีใจที่หลานยอมนั่ง ไม่งอแง คุณตาคุณยายแรกๆก็ท้วงบ้าง บอกว่าเวลารถสะเทือนกลัวว่าศีรษะจะโคลงเคลงมากกว่ามีคนอุ้ม แต่พออธิบายก็เข้าใจ ไม่ท้วงอีก ลูกสาว มีงอแงบ้างในครั้งแรก หลังจากนั้นก็ร่วมมือดี สุดท้ายต้องขอบคุณห้องชานเรือน ที่ให้ข้อมูลดีๆ ให้เราได้อ่านตั้งแต่การเลือกซื้อ จนถึงกลวิธีที่ทำให้ลูกยอมนั่ง carseat ค่ะ จากคุณ : BB no5 เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 17:01:06

ความคิดเห็นที่ 67   ดีใจจังคะ ที่คุณหมอเอามาลงให้อ่าน เราเองก็ให้ลูกนั่งคาร์ซีทตอนโต 1 ขวบ เมื่อก่อนนั่งตักเราคะ แต่ไม่เคยพาไปไหนไกลๆ นอกจากบ้าน ที่ทำงานป๊า ของเรา โรงพยาบาล เราห่วงความปลอดภัยนะคะ และเค้าก็นั่งทุกครั้งที่เราพาเที่ยวไปห้าง ไปซื้อของ คิดว่าถ้ามีน้องอีกคน จะซื้อแบบตะกร้าอีก เพื่อความปลอดภัยของลูก จากคุณ : แม่น้องอินดี้ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 17:19:26

ความคิดเห็นที่ 68   กำลังดูตัวใหม่ให้น้องพอดีเลยค่ะ เพราะตอนนี้ 9 โลแล้ว ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วค่ะ กำลังเลือกอยู่ แต่มีหลายแบบเหลือเกิน ก็งงๆๆ มากมาย ต้องขอบคุณ คุณหมูเหมียวมาก ที่มี link ดีๆ มาให้ศึกษา กะว่า วันหยุดนี้จะพาลูกไปลองนั่งก่อนซื้อค่ะ จากคุณ : มอบู เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 17:26:35

ความคิดเห็นที่ 69   เคลียร์ค่ะ เปิด youtube ให้อาม่า กับพี่เลี้ยง ดูกันจะจะ  ดูกันไปอึ้งปากค้างเลย หลังจากดูวีดีโอนี้ คิดว่าเค้าคงเลิกต่อรองเอาหลานมาอุ้มเองซะที ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : MableCat เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 18:04:52

ความคิดเห็นที่ 70   เห็นเวลาซื้อรถกัน ขอแถมนู่นแถมนี่ เพิ่มตัวนั้น ลดตัวนี้ ทำไมไม่เห็นมีใครขอแถมคาร์ซีทกันบ้างเลยอ่ะคะ หรือติ๊ต่างว่า ถ้าทางศูนย์เค้ามีบริการแถมคาร์ซีทจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนเอาหรือเปล่าเนาะ +++ จากคุณ : โยชัวปวริศ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 19:20:02

ความคิดเห็นที่ 71   นี่แหละค่ะ  ในต่างประเทศเขาถึงออกเป็นกฏหมายว่า  ถ้าไม่มีคาร์ซีทมารับลูกตั้งแต่วันแรกที่จะออกจากโรงพยาบาล จะไม่สามารถนำลูกออกจากโรงพยาบาลได้  เป้าหมายของเขา คือ ให้เด็กเคยชินซะตั้งแต่แรกเกิด จะได้ไม่มีปัญหามาหัดเอาตอนโต  ซึ่งเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ยอมแล้ว ถ้าเขาเคยชินซะตั้งแต่แรกเกิด มันจะเป็นปกติชีวิตประจำวัน เขาจะรู้ว่าเมื่อนั่งรถ ก็ต้องนั่งคาร์ซีทที่นั่งของเขา มาหัดตอนรู้ความแล้ว  หัดได้ไหม  หัดกันได้ แต่พ่อกับแม่ก็ต้องใจแข็งกันสุดๆ ล่ะค่ะ ไม่ใช่เพื่อใครเลย  เพื่อชีวิตของลูกนั่นแหละ เราเองอยู่ที่นี่ รถก็ไม่มีขับ  แต่ก็ต้องซื้อคาร์ซีทแบบกระเช้าไว้ เอาไว้เพื่อวันแรกที่ลูกกลับบ้านเลย  เพราะว่าตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้ว่าพ่อแฟนจะมารับ หรือจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านกันเอง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ต่อให้ขึ้นแท็กซี่ก็ต้องมีคาร์ซีท  ไม่งั้นก็ผิดกฏหมายอีก ถึงแม้จะมีแนวโน้มว่า คงได้ใช้แค่วันนี้วันเดียว  ก็ต้องซื้อค่ะ จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 19:31:04

ความคิดเห็นที่ 72   เห็นแม่บางคน เอารูปลูกนั่งคาร์ชีทมาโชว์ แต่ลูกยังเล็กนัก  สงสัยว่า  ทำไม จับลูกนั่งหันหน้าไปข้างหน้า  งงเลย นี่ถ้าเป็นที่นี่ โดนตำรวจจับค่ะ เพราะเด็กเล็ก ควรหันหน้าไปทางด้านหลังรถ  เวลาเกิดอุบัติเหตุ  คอจะได้ไม่หัก เราเองก็เคยเกิดอุบัติเหตุ   ตอนท้องน้องตังได้หกเดือน   เจ็บเกือบไม่รอดซะแล้ว  โชคดีที่น้องยังอยู่  เลยสัญญากับตัวเอง ถ้าน้องคลอดออกมา จะปกป้องเค้า ให้ดีเท่าๆ กับที่รกในท้องเราปกป้องเค้า รูปรถเรา  ที่ตอนนี้กลายเป็นเศษเหล็ก จากคุณ : SaNs tOi : Le MoNdE s'EcrOulE เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 19:46:31

ความคิดเห็นที่ 73   เด็กๆมักจะไม่ยอมนั่งคาร์ซีทค่ะ ต้องหัด ถ้าไม่หัด..อย่าหวังว่าพวกเค้าจะยอม แล้วก็จะมีข้ออ้างต่อไป เหตุผลที่ไม่ใช้คาร์ซีท... เราให้ลูกนั่งคาร์ซีท มีข้อกังวลอยู่ข้อเดียวค่ะ.. กลัวลูกหัวแบน.. (แต่ก็ให้เค้านั่งคาร์ซีทตั้งแต่แรกเกิดออกจากรพ.เลยค่ะ จากคุณ : elin เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 20:42:25

ความคิดเห็นที่ 74   ยืนยันด้วยภาพค่ะ ว่าน้องมิวแฮปปี้มากๆเวลานั่งคาร์ซีท สนับสนุนให้ใช้นะคะ อย่าคิดว่าเป็นสิ่งสิ้นเปลืองเลยค่ะ ลองคิดดูว่าทำไมเราซื้อมือภือได้ ทำไมเราซื้อนาฬิกาแพงๆได้ ทำไมเราซื้อรถยนต์ได้ แล้วทำไม เราจะซื้อความปลอดภัยให้ลูกไม่ได้ล่ะคะ จากคุณ : ไม่คิดจะยอมแพ้..เราก้อไม่แพ้ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 21:03:33

ความคิดเห็นที่ 75   เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ที่บ้านตอนนี้มีสองตัวค่ะ เพราะรถมีสองคัน ต่อไปนี้จะจับเค้านั่งทุกครั้งแล้วค่ะ  อ่านแล้วน่ากลัวจังเลย จากคุณ : นู๋จิ๋ง เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 22:21:37

ความคิดเห็นที่ 76   เศร้าใจมาก กรรมของเด็กๆที่ไร้เดียงสา เป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับคนที่จะครอบครองรถ ควรทราบเป็นอันดับแรก จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 23:01:53

ความคิดเห็นที่ 77   เพิ่งจับลูกนั่งเหมือนกันค่ะ เพราะคิดว่าราคาแพง เห็นแต่ละยี่ห้อ พอดีมีเหตุจำเป็นต้องซื้อ เนื่องจากเวลาไปไหนกับแม่ 2 คน จะได้นั่งเรียบร้อยได้ ปรากฎว่าไปดูราคายี่ห้อหนึ่ง ลดราคาอยู่ด้วย ตัดสินใจซื้อเลยค่ะ อยากจะบอกว่าคาร์ซีทราคาไม่แพงก็มีค่ะ ไม่จำเป็นต้องเอายี่ห้อแพงๆ ก็ใช้ได้เหมือนกัน จากคุณ : noonink เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 23:02:46

ความคิดเห็นที่ 78   ลูกผมเอาแต่ใจตัวเป็นที่สุด ส่วนใหญ่ผมก็ตามใจเขา แต่เรื่อง car seat ไม่เคยตามใจ ถ้าไม่นั่ง ล้อก็ไม่หมุน หรือ ไม่ให้ไปด้วย ก็แค่นั้น ไม่เห็นจะยาก หัดมาตั้งแต่เกิด จนตอนนี้ 3 ขวบ ก็นั่ง car seat มาตลอด มีอิดออดบ้าง แต่ปรกติก็ไม่ ยืนยันด้วยว่า มี car seat แล้วสบายสุดๆ ผมสามารถไปไหนต่อไหนกับลูก 2 คนได้ ไม่ต้องพกพี่เลี้ยงหรือคุณแม่ไปเสมอ จากคุณ : อวิรุืทธ์ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 23:11:22

ความคิดเห็นที่ 79   ลูกชายคนโตนั่งคาร์ซีทมาตลอด พอ5 ขวบก็นั่ง บูสเตอร์ซีท จนถึง 6 ขวบกว่า เจ็ดขวบก็ได้นั่งกับเบาะรถ แต่ก็นั่งข้างหลังรัดเข็มขัดตลอด ใครๆเห็นมีแต่ถามว่า ทำไมไม่ให้นั่งข้างหน้า ขี้เกียจอธิบายก็เลยบอกนั่งแบบนี้ดีแล้ว พอ 7 ขวบเพิ่งได้มานั่งเบาะหน้าคู่คนขับ ดีใจมาก ลูกบอกว่ารอมานานแล้วที่จะได้เห็นวิวชัดๆ ตอนนั่งคาร์ซีทก็หลอกล่อว่า นั่งที่นั่งแบบคนขับรถแข่ง ถ้าอยากเป็นนักขับรถแข่งก็ต้องหัดไว้ และเราก็เรียกตลอดว่า ที่นั่งแบบรถแข่ง ชอบมาก(ก็ตัวที่เพิ่งประกาศให้ฟรีแม่ในเว็บนี้ไป) ได้ผลค่ะ เพราะลูกเป็นเด็กไม่อยู่นิ่ง ซน ถ้าไม่นั่งคาร์ซีทแล้วคงลุกกระโดดไป มาบนรถแน่เลย แม่ต้องขับไปรับส่งรร.ทุกวันแบบไม่มีสมาธิ พอนั่งแล้ว แม่ขับรถแบบสบายๆ ให้กินขนมได้เต็มที่ เลอะก็ซักได้(หลอกล่อ) จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 23:25:14

ความคิดเห็นที่ 80   โหวตคร้าบ จากคุณ : OM เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 23:32:13

ความคิดเห็นที่ 81   เราจับลูกนั่ง car seat ตั้งแต่เล็กเลยค่ะ  เวลาห้างลดราคา 50 %เหลือตัวละ 3,000 กว่าบาทเองค่ะ   เรามีลูก 2  คน ก็ต้องมี 2ชุด  เปลี่ยนมาแล้ว 3 รุ่น เพราะลูกโตขึ้น (carseat จะแบ่งตามช่วงอายุเด็ก ,ความสูง )  ปัจจุบันเค้าอายุ 10  ,7  ปี   ก็ยังใช้อยู่เพราะตัวเล็ก สายbelt  ของรถจึงอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม (ตอนนี้ใช้แค่ตัวที่เป็นเบาะหนุนให้สูง )   รถใครมี airbag คู่หน้า  อย่าให้เด็กนั่งด้านหน้านะคะ ถ้ามีอุบัติเหตุ แล้ว airbag ทำงาน  เด็กจะคอหักได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 00:15:27 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 00:10:21 จากคุณ : คนที่ไม่ได้สักอย่าง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 00:04:54

ความคิดเห็นที่ 82   เรื่องนี้เป็นเรื่อง แมคโคร  แ้ล้วล่ะ เพราะว่าเราถกกันเรื่องนี้กับสามีหรือไม่ก็เพื่อนๆ กันอยู่บ่อยๆ  ที่ว่าเป็นเรื่อง แมคโคร  หรือ เรื่องใหญ่นั้น ก็เพราะว่า ต้องโทษที่รัฐบาลที่บริหารประเทศนี้ ว่าเค้าคิดกันอย่างไร ถึงได้มีของใช้ของเด็ก ซึ่งเป็นของพื้นฐานในการเลี้ยงดู ให้มีราคาที่แพงสูงลิบลิ่ว  ได้มากขนาดนี้ ลองนึกดูค่ะ  เสื้อผ้า  ขวดนม  คาร์ซีท  เพลย์เพน  เตียงนอนเด็ก   และแม้กระทั่ง   หนังสือ  ของเด็ก ๆ   และของใช้อื่น ๆ อีกมากมาย ฯลฯ .........................................  รวมไปถึง  ค่าเทอม......................... ประมาณว่า  ถ้าไม่มีฐานะ  ก็จะไม่ไ้ด้ใช้ของที่มีคุณภาพดี ๆ  เหล่านี้เลย ต้องใช้  ผ้าขาวม้า  ผูกเป็นเตียง  เปล  เบบี้สลิง  เป้อุ้มเด็ก  ฯลฯ .............................. ไม่เข้าใจจริง ๆ ค่ะ   เถียงกันมานานแสนนาน  แต่ก็อย่างว่าค่ะ เสียงเราจะสำคัญ  เฉพาะตอนเลือกตั้งเท่านั้น ตอนนี้เหรอ......ก็ได้แต่บ่นให้กันฟัง   ได้ในสังคมเล็ก ๆ นี้ไงล่ะ . . ..  เซ็งจังงงงง     หนีไปนอนดูทีวีดีฝ่า........ . . จากคุณ : Red plate Mom เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 01:08:55

ความคิดเห็นที่ 83   น่ากลัวจังเลยค่ะ จากคุณ : ด.ญ.คนดี^ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 01:31:11

ความคิดเห็นที่ 84   ที่อเมริกาเขาออกกฎหมายเลยว่าถ้าไม่มีคาร์ซีทจะต้องถูกปรับ ตอนที่จะเอาลูกออกจากโรงพยาบาลตอนเกิด ถ้าไม่มีคาร์ซีทพยาบาลจะไม่เซ็นต์ให้เอาลูกกลับได้ เขาตามมาส่งถึงที่รถ แล้วก็เช็คดูว่าคาร์ซีทใช่สำหรับเด็กแรกเกิดหรือไม่ พอดูคลิปนี้ถึงรู้ว่ามันอันตรายมากถ้าเด็กไม่ได้ใส่คาร์ซีท อีกอย่างคาร์ซีทที่นี่จะมีผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็นที่โรงพยาบาลหรือว่าที่สถานีดับเพลิงช่วยติดตั้งให้ฟรี อยากให้เมืองไทยมีอย่างนี้บ้างจังที่รัฐบาลทำประโยชน์ให้กับประชาชนจริงๆ จากคุณ : SF Girl (SF Girl) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 03:16:05

ความคิดเห็นที่ 85   ขอบคุณ จขกท มากค่ะ ที่ตั้งกระทู้นี้ เวลาให้ลูกนั่ง คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมรัดเข็มขัดตัวเองด้วยนะคะ ทำให้เป็นตัวอย่างแก่ลูก เวลาเกิดอุบัติเหตุ คนที่ไม่รัดเข็มขัดก็อาจถูกแรงโยนมากระแทกคนอื่น ๆ ในรถได้ เพราะฉะนั้นคนที่ไม่รัด ไม่ใช่แค่อันตรายกับตัวเองอย่างเดียว แต่อันตรายกับคนอื่นด้วย carseat แบบไม่แพงก็มีค่ะ ยกตัวอย่างยี่ห้อหนึ่ง รุ่นกระเช้า ขายที่ห้างเซ็น... และเดอะ... สองพันกว่าบาท ถ้ารอลดก็ 15-25% ถูกลงอีก (แก้ไขสะกดผิด และแก้ไขชื่อห้าง) แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 03:50:52 จากคุณ : ฟ้าฝน-tktd เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 03:49:22

ความคิดเห็นที่ 86   ขอบคุณทุกความเห็น ประสบการณ์ของคุณพ่อคุณแม่แต่ละท่านมีประโยชน์มากค่ะ เราไม่ได้ตั้งใจจะมาต่อว่าใคร อย่างคนที่บอกว่าไม่มีเงินซื้อหรือลูกไม่ยอมนั่งนั้นเราเข้าใจค่ะ เพียงแต่อยากจะมาเตือนว่า ถ้าไม่ได้นั่งคาร์ซีทก็ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูก เหมือนที่เขียนในคห.1 คือให้นั่งด้านหลังเสมอ เพราะที่นั่งด้านหน้าคนขับนั้นอันตรายมากๆ เมื่อวานก่อนกลับบ้าน ไปเยี่ยมน้องอีกที อาการก็คงเดิมค่ะ ทีเพียงหัวใจเต้นจากยากระตุ้นหัวใจเท่านั้น ร่างกายไม่ตอบสนองใดๆ เข้าข่ายภาวะสมองตายแล้ว ตอนเช้าหัวใจหยุดเต้นไปหนึ่งรอบ ได้ปั๊มหัวใจขึ้นมา ตอนนี้ก็เพียงแต่ให้ยา ใช้เครื่องช่วยหายใจ เพื่อรักษาจิตใจของพ่อแม่ให้ค่อยๆรับได้เท่านั้น ตอนแรกว่าจะมาเขียนวิธีเลือกคาร์ซีทด้วย แต่เวลาไม่มีพอ อ่านในเวปนี้ ละเอียดดีค่ะ มีรูปประกอบด้วย ขอบคุณเจาของเวปนะคะ http://www.motortrivia.com/section-safety-zone/004-child-seat-type/child-seat-type.html ดูกันอีกทีจะได้เตือนใจนะคะ คิดว่ารูปนี้อธิบายกลไกการบาดเจ็บของเด็กที่นั่งตักด้านหน้ารถได้ดีทีเดียว จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 06:58:34

ความคิดเห็นที่ 87   อ่านแล้วเศร้าจังเลยคะคุณหมอหนึ่ง สงสารน้องเขาจัง โดยส่วนตัวให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เกิด จนตอนนี้น้อง 1 ขวบก็ยังนั่งอยู่ ไม่ว่าจะไปใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ต้องนั่ง เพราะกลัวว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกเรา ไม่อยากต้องมานั่งเสียใจภายหลัง อะไรที่ป้องกันได้ก็จะทำไว้ก่อน ตามความรู้สึกเราถ้ามีเงินซื้อรถได้ คาร์ซีทลูกก็คงไม่แพงเกินไปที่จะซื้อมาใช้ เพราะเดี๋ยวนี้ราคาถูกๆก็มีให้เลือกเยอะแยะไป เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ไม่อยากโทษใคร แต่ก็เป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับคนอื่นๆที่ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเอง จากคุณ : น้องหนูหน้าใส เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 07:35:49

ความคิดเห็นที่ 88   ขอบคุณที่นำมาเตือนกันนะคะ แต่เจ้ากังหันไม่ได้ฝึกให้นั่งแต่เล็ก ๆ ตอนนี้ สองขวบครึ่งแล้ว สงสัยคงไม่ยอมนั่งนิ่ง ๆ แน่ ๆ เลย สำหรับคนที่เพิ่งมีลูกหรือยังไม่มีแต่กำลังจะมี ก็ให้วางแผนเรื่องนี้ไว้ด้วยละกันนะคะ เราเองก็เห็นว่าสำคัญเหมือนกันค่ะ จากคุณ : กังหันลู่ลม เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 09:31:25

ความคิดเห็นที่ 89   ขอถามเป็นความรู้อีกนิดครับ จากคห#72 ของคุณ SaNs tOi : Le MoNdE s'EcrOulE ที่ว่า "เห็นแม่บางคน เอารูปลูกนั่งคาร์ชีทมาโชว์ แต่ลูกยังเล็กนัก  สงสัยว่า  ทำไม จับลูกนั่งหันหน้าไปข้างหน้า  งงเลย..." คำถามคือ เมื่อไหร่จึงจะให้ลูกนั่งหัดหน้าครับ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 09:40:14

ความคิดเห็นที่ 90   คห 89 เกินหนึ่งขวบขึ้นไปคะ ถึงจะหันหน้าออก จริงๆ บางประเทศ และ บางรุ่น สามารถ นั่งหันหน้าเข้า ได้ถึง 25 กิโล เชียวนะ (เนี่ย เกินสามขวบด้วยซ้ำไป) เพราะ ปลอดภัยสำหรับเด็กมากกว่า นั่งหันหน้าออก จากคุณ : แม่หมูปิ้ง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 09:51:01 A:202.180.106.174 X: TicketID:142447

ความคิดเห็นที่ 91   ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ พิมพ์ไปให้ปู่ย่าตายายอ่าน แล้วทุกคนเห็นความสำคัญกับตำแหน่งการนั่งในรถของหลานๆ และให้ความสำคัญกับคาร์ซีทเพิ่มอีกด้วยค่ะ จากคุณ : mamball (mamandball) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 10:54:53

ความคิดเห็นที่ 92   เห็นความสำคัญของ car seat ค่ะ ซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่ยังไม่คลอด (แบบกระเช้า) และเปลี่ยนตอน 8-9 เดือน เมื่อก่อนไม่มีปัญหาเรื่องติดตั้งค่ะ เพราะใช้รถเก๋ง แต่ตอนนี้รถเก๋งสภาพไม่ค่อยดีวิ่งทางไกลไม่ได้เลยต้องใช้กระบะ (แค็ป 2 ประตู) เลยต้องตั้ง car seat ไว้เบาะข้างคนขับ (เพราะติดได้แค่นั้น) รู้นะคะว่ามันอันตรายแต่เราไม่มีทางเลือก ถูกอยู่ว่า carseat ราคาไม่แพงก็มี แต่สำหรับบางคนเค้าอาจจะไม่มีกำลังซื้อก็ได้ สำหรับเราตอนนี้ก็มีแผนจะเปลี่ยนรถอยู่แต่มันก็คงจะไม่ใช่เร็วๆนี้ ก็คงจะต้องติดตั้ง car seat แบบนี้ต่อไปก่อนเพราะทำได้แค่นั้นค่ะ จากคุณ : Meyuree เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 11:33:42

ความคิดเห็นที่ 93   ขอบคุณ คุณหมอมากเลยคะ ที่นำแชร์กัน เป็นแม่คนนึงที่เห็นความสำคัญของ car seat เพราะต้องกระเตงลูกออกข้างนอกบ่อย จนเจ้าตัวเล็กชอบนั่งไปโดยปริยาย ยืนยันด้วยภาพค่ะ ^ - ^ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 14:46:31 จากคุณ : KhunNong เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 14:44:23

ความคิดเห็นที่ 94   เห็นด้วยค่ะ  child seat เป็นของชิ้นที่ราคาแพงที่สุดที่เราซื้อให้ลูกเลยค่ะ ประหยัดอะไรก็ประหยัดไป  แต่เราไม่ประหยัดเรื่องความปลอดภัยของลูกเราเด็ดขาด เพิ่งได้ child seat ของตัวเองมาเมื่อวาน  ใหม่แกะกล่อง  ลูกยังไม่ได้ประเดิมเลยค่ะ จากคุณ : pufpuf เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 15:06:36

ความคิดเห็นที่ 95   เด็กต้องนั่ง car seat ถึงกี่ขวบค่ะ จากคุณ : panaleememo เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 15:50:15

ความคิดเห็นที่ 96   ขอบคุณมากค่ะ น่ากลัวจริงๆเห็นคลิปแล้วหัวใจจะวาย จากคุณ : รุ่งฟ้าสาง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 16:40:12

ความคิดเห็นที่ 97   ขอบคุณมากค่ะ คุณหมอหนึ่ง อ่านแล้วน่ากลัวมาก จากคุณ : ผักบุ้งตาสวย เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 17:47:40

ความคิดเห็นที่ 98   เห็นด้วยอย่างแรงครับคุณหมอ ผมก็คนนึงที่ค้านหัวชนฝากับย่าของยายหนูเรื่องสินค้าสิ้นเปลือง (ที่ย่าของยายหนูเค้าเรียก car seat เค้าบอกว่าอุ้มเอายายหนูจะรู้สึกอบอุ่นกว่าว่างั้น) ตัวนี้ครับ จากคุณ : คุณพ่อมือใหม่ (กุ๊ดจี่ไรเดอร์) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 19:30:11

ความคิดเห็นที่ 99   อยากให้เมืองไทยรณรงค์เรื่องนี้จริงจัง ไม่รู้จะเป็นได้แค่ฝันหรือเปล่า เห็นเพื่อนลูกหลายคน ตอนเช้าพ่อแม่ขับรถมาส่งลูก ก็ยังเห็นลูกกระโดดไปมาระหว่างเบาะหน้าเบาะหลัง บางทีก็เอามานั่งตักขับรถกับพ่อ บางทีลูกคนโตมานั่งหน้า ส่วนแม่โดนไล่ที่ไปนั่งด้านหลัง แม้แต่ในครอบครัวเราเองก็เหมือนกัน ญาติพี่น้องหลายๆ คนก็ไม่เห็นความสำคัญเท่าไหร่ เราพูดไปก็เท่านั้น พูดมากเดี๋ยวเค้าก็หาว่าเลี้ยงลูก "เว่อร์" ลูกชายจะ ๗ ขวบแล้ว ตอนนี้ก็ยังนั่งอยู่ค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นแบบ booster มีพนักพิง แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 52 20:12:44 จากคุณ : NoNoTan เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 20:11:07

ความคิดเห็นที่ 100   ตอนผมเกิดไม่ได้นั่ง เพราะพ่อยังไม่มีรถ พอน้องสาวเกิด ผมก็นั่งเบาะหลังอุ้มน้อง ๕๕๕ จากคุณ : only 1 meter , เพียง ฉัน มีเธอ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 20:39:12

ความคิดเห็นที่ 101   เห็นด้วยค่ะ พอเดือนสุดท้ายที่จะคลอดน้องรีบไปซื้อมาเลยค่ะ น้องชอบนั่งมากและถ้ารถแล่นน้องจะนั่งนิ่งเชียวค่ะ ส่วนใหญ่จะหลับไม่มีงอแงสักนิดเดียว แต่พอดูคลิบแล้วนึกย้อนไปตอนที่เดือนที่แล้ว พาน้องกลับไปเยี่ยมแม่ พอตอนกลับพี่สาวอาสาไปส่งที่บ้าน เราใช้เป้อุ้มเด็กแบบลูกหันหน้าเข้าหาเรา พี่บอกว่าให้มานั่งข้างหน้าข้างเค้า เรากับแม่ก็เกี่ยงกันเพราะเราคิดถึงความปลอดภัยของลูก (เพราะพี่สาวเราเค้าขับรถเร็วมาก เคยนั่งตอนกลางคืนกับเค้าสองคน รถไม่ติดเค้าขับ 140 กม แทบไม่แตะเบรก เวลามีลูกระนาบที่เป็นเนินชะลอความเร็วในซอย หัวเราแทบกระเด้งไปชนเพดานรถ) ส่วนแม่เค้าไม่ชอบนั่งข้างหน้า สรุปก็ไม่มีใครนั่งข้างหน้า พี่เราก็นั่งหน้าคนเดียว ขับรถของเค้าไป เรามาคิดดูแล้วถ้าเรายอมนั่งหน้า ขนาด 60 ยังแย่ แล้ววันนั้นขนาดมีเด็กเล๋กมาด้วยเค้ายังขับ 100 - 120 เลย เรานั่งกลังนี้กอดลูกแน่นเลย ประคองที่คอลูกตลอดเพราะกลัวกระเทือนเพราะเค้าขับแบบไม่ชลอเท่าไหร่เวลามีเนิน เคยเจอครั้งยึงตอนนั้นไปเยี่ยมแม่เรา ขากลับแม่เราเค้ายืนยันจะอุ้มลูกเรา เชื่อมั้ยเค้าเอาแต่ห่วงว่าผ้าที่คลุมห่มกันลูกหนาวจะหลุด เอามือนึงถือผ้าเอาไว้เลย เราก็พยายามช่วยเค้าจับแล้วแต่เค้าก็ยังห่วงกลัวแต่ลูกเราจะหนาวทั้งๆ ที่เราใส่เสื้อผ้าหนาให้ลูก เราก็ได้แต่บอกเค้าว่าอย่าห่วงผ้าเลย เอามือที่จับผ้ามากอดลูกเราให้แน่นๆ ดีกว่า แถมเจอคนขับแท็กซี่ที่ขับแย่มากๆ อี่กขับปาดไปมา ไม่สนใจว่ามีเด็กเล็กเลย เรางี้กลัวมากได้แต่ภาวนาว่าขอให้ลูกเราปลอดภัยทีเถอะ แท็กซี่นี่ถ้าเจอคนที่ขับอีก็โชคดีไป แต่ส่วนใหญ่จะเจอคนขับไม่ดีซะมากกว่า ก็เข้าใจว่าต้องทำเวลา เพราะเวลาคือเงิน แต่ขอสักครั้งได้ไหมเวลามีเด็กเล็กช่วยขับช้าๆ ทีเถอะ เกิดมีอะไรขึ้นมารับผิดชอบไหวไหม ถ้าเป็นลูกตัวเองจะรู้สึกอย่างไร พอเจอไม่ดีจะเปลี่ยนคัน เพราะเราคิดว่ายอมจ่ายเพิ่มและเสียเวลาดีกว่าเอาชีวิตลูกเราไปเสี่ยง คนขับก็ทำฉุนเฉียวแถมก่อนจะลงมันยังขับแย่สุดๆ ส่งท้ายอีกตะหาก ทำไงได้ไม่ได้มีรถส่วนตัวอยู่บนรถคนอื่นจะพูดอะไรได้ ขืนบอกมีหวัง...มีปัญหากับคนขับแน่ๆ เพราะขนาดบอกเหตุผลอื่นมันยังไม่อยากจะจอดให้ลงดีๆ เลยทั้งๆ ที่สะพายเป้อุ้มลูกอยู่กับอกแท้ๆ คิดดู ถ้าไม่จำเป็นเราไม่อยากพาลูกไปข้างนอกเลย ยกเว้นไปกับแฟนเพราะมี car seat และเค้าขับระมัดระวัง นั่งรถสาธารณะบางทีก็ต้องทำใจ จากคุณ : little fella's mommy (little fella's mommy) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 22:05:25

ความคิดเห็นที่ 102   อุปกรณ์เลี้ยงลูกที่คิดว่าซื้อมาแล้วใช้คุ้มที่สุดคือ car seat และรถเข็นค่ะ จากคุณ : peipeithered เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 00:31:54

ความคิดเห็นที่ 103   พอเราเห็นกระทู้เกี่ยวกับการนั่งcarseatว่าจำเป็นรึเปล่าอะไรทำนองนั้นเราจะเข้ามาตอบทุกที เพราะเราว่ามันจำเป็นมากๆ อุบัติเหตุเกิดได้ทุกเมื่อ เพราะเราเคยมีเพื่อนที่ต้องพบกับความสูญเสีย เฮ้อ... เราเข้าใจหัวอกพ่อเด็กคนที่คุณหมอหมูเหมียวเล่านะคะ หัวใจคงสลายจนแทบอยากจะตายเลย น่าสงสารค่ะ จากคุณ : กวิน (gwyndapooh) เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 05:39:45

ความคิดเห็นที่ 104   วันก่อนเจอผู้หญิงขี่รถ จยย. ตรงแยกไฟแดง ลำปาง-เชียงใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นแม่เด็ก มีเด็กอายุประมาณห้าขวบซ้อนท้าย แต่ข้างหน้าเธอ เป็นเด็กเล็กอายุไม่ถึงขวบ โดยที่มือข้างซ้ายของเธอโอบตัวลูกคนเล็กไว้โดยไม่ได้นั่งทีนั่งเด็กสำหรับจยย.ด้วยซ้ำ เห็นแล้วหัวใจจะวาย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำอะไรได้เนี่ย แค่เราเห็นคนขี่ จยย.แล้วมืออีกข้างถือร่มด้วย เรายังกลัวแทนเลย เก่งๆกันจริงๆ นะคนไทยเนี่ย จากคุณ : Blackrose return เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 12:10:22

ความคิดเห็นที่ 105   ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 15:26:41

ความคิดเห็นที่ 106   ชอบคุณค่ะ หมอ1 จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 15:40:55

ความคิดเห็นที่ 107   สนใจหรือมีใช้แล้ว อย่าลืมศึกษาข้อมูลการใช้ให้ละเอียดนะครับ อายุขนาดไหน น้ำ้หนักเท่าไร ต้องใช้ให้เหมาะสมกับสรีระของเด็กเด็กด้วยนะครับ แล้วbaby car seat ถูกแนะนำว่าห้ามติดตั้งในที่นั้งด้านหน้าข้างคนขับ เพราะรถรุ่นหลังๆจะมี airbag ทำให้ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะทำให้ถุงลมระเบิดมาอัดกับbaby car seat เด็กที่อายุน้อยๆ จำเป็นต้องติดตั้งbaby car seatแบบหันหน้าเข้าเบาะ หรือหันหลังให้คนขับ แล้วbaby car seat จะแนะนำให้ติดตั้งกับเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุด บางยี่ห้อบอกห้ามติดตั้งกับเข็มขัดนิรภัยแบบสองจุดเด็ดขาด ติดตั้งแล้วต้องดึงสายเข็มขัดนิรภัยที่ยึดกับbaby car seat ให้ตึงหรือกระชับ ไม่ให้สายหย่อน เพราะถ้าสายหย่อน เวลาเกิดอุบัติเหตุ baby car seat จะเคลื่อนที่ออกจากเบาะไปได้ตามความหย่อนของสายเข็มขัดนิรภัย เด็กนั่งที่baby car seat แล้วต้องใส่เข็มขัดให้เด็กด้วยทุกครั้ง เพราะไม่งั้นbaby car seat จะไม่เกิดประโยชน์เลย ความเห็นส่วนตัว ถ้าออกเป็นกฎหมาย สิ่งที่จะเกิดขึ้นมาคือ บริษัทผู้ผลิตสินค้าเด็ก หรือ รถยนต์ ก็จะแข่งขันกันออกสินค้ามาขายให้ผู้บริโภคอีกเยอะ และราคาก็ลดลง อีกทั้งรัฐฯอาจเข้ามาดูแลเรื่องคุณภาพสินค้าและราคาขายเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีใช้กันอย่างไม่ลำบาก แต่ก่อนหมวกกันน๊อคดีๆ ราคาแพงมาก คนก็ไม่นิยมใช้กัน เดี๋ยวนี้หมวกต้องได้รับ มาตรฐานถึงจะออกมาขายได้ แล้วราคาเดี๋ยวนี้ถูกมากๆ กรณีของผม ให้ใช้ตั้งแต่ วันแรกที่พาเขาออกจากโรงพยาบาลเลย ผู้ใหญ่ ทั้งหลายบอกว่า ให้คุณแม่อุ้มดีกว่าเด็กยังคออ่อนอยู่เลย และอีกหลายเหตุผล พ่อแม่ ลุงป้า หน้าอา รุมต่อว่า แต่ผมไม่ยอม ยอมโดนตำหนิ เพราะมั่นใจว่า ที่ซื้อมาใช้เขาก็ให้ใช้กับเด็กแรกเกิดตามคู่มือเขียนไว้ จนทุกวันนี้ยังมีผู้ใหญ่ที่บ้านบางคนบอกไม่จำเป็นหรอก สงสารเด็ก ต้องถูกล็อคติดกับเก้าอี้ตัวเล็กๆ แต่ผมใจแข็งไม่ยอม เพราะลูกของเราเราก็รัก เห็นใจลูกก็เห็นใจ แต่ถ้าเิกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ จะได้ไม่เสียใจที่หลัง แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 52 17:54:42 จากคุณ : หายใจออกมา กลม กลม เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 17:45:27

ความคิดเห็นที่ 108   อายุน้อยๆติดตั้งหันหลังแบบนี้ครับ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 52 14:57:25 จากคุณ : หายใจออกมา กลม กลม เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 17:55:29