ความคิดเห็นที่ 1 ในปัจจุบันพื้นที่ในบริเวณสถานีรถไฟยังปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทั้งที่เป็น วัตถุ และสิ่งก่อสร้าง ที่ช่วยบอกเล่าความเป็นมาอันเก่าแก่ของสถานีรถไฟกันตัง เช่น ที่กลับกลับหัวรถจักรแบบหมุนได้ (สำหรับกลับหัวรถจักรไอน้ำ) บ่อน้ำ หอถังเก็บน้ำเหล็ก รวมทั้ง แนวคานคอนกรีตโครงสร้างของโรงงานประกอบและซ่อมหัวรถจักร ซึ่งปัจจุบันหลักฐานทางประวัติศาสตร์เหล่านี้อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม อยู่ในที่ดินรกร้างไม่มีการใช้ประโยชน์ของการรถไฟฯ ทางเทศบาลจึงมีนโยบายพัฒนาพื้นที่บริเวณดังกล่าว ให้มีคุณค่าพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวเมืองกันตังสืบต่อไป จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 20:27:13

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อมูลโครงการ ตามที่เทศบาลเมืองกันตัง มีความประสงค์จะพัฒนาพื้นที่รกร้างบริเวณที่ดินย่าน สถานีรถไฟกันตัง ให้เกิดการใช้ประโยชน์และสอดคล้องกับ โครงการซ่อมแซมปรับปรุง โบราณสถาน“อาคารสถานีรถไฟกันตัง” และโครงการก่อสร้างห้องสมุดรถไฟ ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยภาพรวมของโครงการทั้งหมด ทางเทศบาลมีความต้องการพัฒนาพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้เกิดศักยภาพด้านการท่องเที่ยว รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวภายในจังหวัดตรัง ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการท่องเที่ยวนอกฤดูกาล ท่องเที่ยวทางทะเล เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมต่อการพัฒนา ให้สามารถเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีภาพลักษณ์โดดเด่นและมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองกันตัง รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ความเป็นเมืองท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง และเมืองกันตังว่ามีความหลากหลายในการท่องเที่ยวนอกเหนือจากไปจาก การท่องเที่ยวทางทะเลที่เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปอยู่แล้ว นอกจากนี้พื้นที่รกร้างบริเวณดังกล่าวยังสามารถพัฒนาพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ของคนในชุมชนท้องถิ่น ให้สามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียว สาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ในการพักผ่อนหย่อนใจ และเพื่อการนันทนาการ โดยการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวยังช่วยทำให้ภูมิทัศน์ของเมืองกันตังมีความสวยงามน่าอยู่อาศัย ช่วยเพิ่มพื้นที่สร้างออกซิเจนให้กับชุมชนเมือง เพิ่มพื้นที่ออกกำลังกายให้ประชาชนซึ่งส่งผลทำให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น กล่าวโดยสรุปแล้วก็คือการเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนชาวเมืองกันตังนั่นเอง นอกจากนี้การปรับปรุงภูมิทัศน์ในบริเวณดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้โครงการห้องสมุดรถไฟที่จะเกิดขึ้น มีสภาพแวดล้อมที่สวยงามร่มเย็น ช่วยดึงดูดใจให้กลุ่มผู้ใช้และเยาวชน ที่สนใจจะเข้ามาใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้ และหาข้อมูลทางการศึกษา และส่งเสริมภูมิทัศน์ที่สวยงามให้แก่ตัวโบราณสถาน อาคารสถานีรถไฟ ที่กำลังได้รับการปรับปรุงซ่อมแซม ทางเทศบาลเมืองกันตังจึงเห็นความจำเป็นจะต้องมีโครงการเพื่อพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ที่ดินในย่านบริเวณดังกล่าว จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 20:30:50

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ตั้งโครงการ ที่ดินของการรถไฟฯ บริเวณสถานีรถไฟกันตัง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเทศบาลเมืองกันตังได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิเหนือพื้นดิน ในการใช้เพื่อประโยชน์ สาธารณะโดยมีที่ดินทั้งหมด จำนวน5 แปลง ที่ทางเทศบาลเมืองกันตังได้ขออนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ขอใช้สิทธิเหนือพื้นดิน เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อม โดยต้องการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม ส่งเสริมโครงการปรับปรุงตัวอาคารสถานีกันตังที่เป็นโบราณสถาน และส่งเสริมกับโครงการห้องสมุดรถไฟที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง อ่านข้อมูลต่อได้จากลิงค์ด้านล่างค่ะ http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=1035221&page=295 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 10:47:58 จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 20:32:11

ความคิดเห็นที่ 4 โดยภาพรวมแล้วยังรักษาเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชการที่ 6ไว้เป็นอย่างดี จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 20:36:13

ความคิดเห็นที่ 5 ลืมภาพ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 20:36:36

ความคิดเห็นที่ 6 ได้รับการอนุรักษ์เป็นโบราณสถาน แต่ยังคงใช้งาน โดยมีรถไฟวิ่งกรุงเทพฯ กันตัง ทุกวัน ---- ห้องขายตั๋ว จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:54:12

ความคิดเห็นที่ 7 ด้านข้างห้องขายตั๋วมีพวงกุญแจเป็นรูปบัตรรถไฟเหมาะสำหรับซื้อเป็นของที่ระลึก จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:55:23

ความคิดเห็นที่ 8 สนใจรับพวงกุญแจเป็นของขวัญของฝากบ้างไหมคะ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:55:59

ความคิดเห็นที่ 9 ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรังจากกรมศิลปากรตั้งแต่พ.ศ.2539 เป็นต้นมา จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:56:51

ความคิดเห็นที่ 10 สถานีรถไฟกันตัง เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2456 ในอดีตถูกใช้เป็นที่รับส่งสินค้ากับต่างประเทศทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีรางรถไฟต่อไปเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร จากตัวสถานีถึงท่าเทียบเรือกันตัง ซึ่งเป็นท่าเรือเก่าแก่ตั้งแต่โบราณปัจจุบันทางรถไฟส่วนนี้ถูกชาวบ้านรุกล้ำที่ และไม่มีรางรถไฟส่วนนี้แล้ว การรถไฟไทยยุคแรกๆนั้นคือหัวรถจักรรุ่นต่างๆ ตลอดจนโบกี้รถไฟที่ผลิตในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรืออินเดีย โดยจะมาทางเรือและขึ้น เทียบท่าที่กันตังก่อนออกวิ่งบนรางรถไฟต่อมายังกรุงเทพ อีกที เมื่อกาลเวลาผ่านไปเส้นทางในการส่งสินค้าแปรเปลี่ยนไปตามแหล่งผลิต เช่นการที่รถไฟหันไปสั่งหัวรถจักรมาจากญี่ปุ่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เส้นทางรถไฟฝั่งอันดามันที่ต่อเชื่อมไปยังท่าเรือกันตังถูกทิ้งร้างลงดังเช่นทุกวันนี้ ตัวสถานรถไฟกันตังเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล อันเป็นคู่สีหลักที่คุ้นตาของอาคารรถไฟทั่วไป ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนตัวอาคารและชานชาลาด้านหน้าของอาคารมีมุขยื่น มีการตกแต่งประดับมุมเสาด้วย ลวดลายไม้ฉลุ ส่วนตัวอาคารที่ทำเป็นห้องมีผนังไม้ตีตามตั้งโชว์แนวเคร่าพร้อมช่องลมระแนงไม้ตีทะแยง บานประตูไม้แบบเก่าส่วนที่เป็นห้องโถงมีรั้วลูกกรงไม้พร้อมบานประตูขนาดเล็กหน้ารักกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนส่วนด้านหลังอาคารเป็นชานชาลามีหลังคาจั่วคลุมแยกต่างหาก โดยเสารับหลังคานชานชาลานี้มีค้ำยันไม้ฉลุตกแต่งให้กลมกลืนกับตัวอาคาร ภายในสถานียังพอมีข้าวของเครื่องให้ในอดีตคงเหลืออยู่บ้าง  โดยภาพรวมแล้วยังรักษาเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชการที่ 6 ไว้เป็นอย่างดี นับเป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ จากสถานะที่มีความสำคัญต่อกิจการรถไฟดังที่กล่าวมา  ทำให้ไม่แปลกใจว่าทำไมสถานีรถไฟเล็กๆ แห่งนี้จึงถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเช่นนี้  ซึ่งเป็นผลทำให้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรังจากกรมศิลปากรตั้งแต่พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา ฉะนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง และเทศบาลเมืองกันตัง และหน่วยงานทางราชการอื่น เล็กเห็นความสำคัญที่จะพัฒนา และบูรณะสถานีกันตังให้กลับมามีศักยภาพที่จะรอรับทางคนที่โดยสาร-สินค้า และรวมถึงการท่องเที่ยวที่จะเป็นโครงการนำร่องที่จะมีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ และกระตุ้นให้กำลังใจ และกำลังทุนที่จะพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ของการรถไฟให้คืนชีวิตชีวาได้ต่อไป (คัดลอกมาจากป้ายแสดงประวัติที่ติดอยู่ด้านข้าง) จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:01:38

ความคิดเห็นที่ 11 http://youtu.be/SFtNtKmuo5c ทำไมโพสภาพต่อไม่ได้ งั้นขอลองลงvedio ของคุณเลเซอร์ ที่กลับหัวรถจักรรถไฟก่อนแล้วกัน แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 12:46:57 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 12:46:14 จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 12:45:33

ความคิดเห็นที่ 12 ลองใหม่ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 18:55:54

ความคิดเห็นที่ 13 สุดทางรถไฟฝั่งอันดามัน จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 18:56:45

ความคิดเห็นที่ 14 สับหลีก จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 18:57:39

ความคิดเห็นที่ 15 ห้องสมุดรถไฟ เสร็จแล้วรอวันเปิดตัว จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 18:59:52

ความคิดเห็นที่ 16 ต่อเติมด้านข้างเป็นเหมือนที่พักสำหรับผู้ใช้ห้องสมุด จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:00:56

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพรวมของห้องสมุดรถไฟ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:01:41

ความคิดเห็นที่ 18 ที่กลับหัวรถจักรซื้อจากลอนดอน  ได้รับการบอกเล่ามาว่าขณะนั้นทางไทยถูกมองว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวย สามารถซื้อที่กลับหัวรถจักรมาใช้งานได้  ตรงส่วนนี้จะถูกเก็บรักษาให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา   เดิมทีย่าถ่ายเป็นช๊อตๆ เพื่อจะทำเป็นไฟล์ animation gif  บังเอิญว่าคุณเลเซอร์ถ่ายเป็นvedioเอาไว้แล้ว ดูจากลิงค์ในคห. 11 แล้วกันนะคะ  ขอขอบคุณคุณเลเซอร์ สำหรับไฟล์vedio ที่นำมาลงไว้ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:06:49

ความคิดเห็นที่ 19 ลาสถานนีกันตังด้วยภาพนี้ค่ะ เพราะเราจะไปยังจุดหมายถัดไปค่ะ ต้องทำเวลากันหน่อย จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:08:14

ความคิดเห็นที่ 20 ขึ้นรถกันได้แล้วค่ะ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:09:26

ความคิดเห็นที่ 21 จุดหมายต่อไปที่พวกเราจะไปกันเป็นไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งหากไม่ได้มาก็เหมือนไม่ถึงตรังค่ะ  นั่นคือพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง)   พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแห่งคุณค่าของเจ้าเมืองที่ได้พัฒนาเมืองตรังให้เป็นที่ประจักษ์ในหลายๆด้าน โดยคณะครูโรงเรียนกันตังพิทยาร่วมกับเท ศบาลตำบลกันตังและจังหวัดตรัง ขอใช้บ้านหลังนี้จาก ดาโต๊ะเบียนเจง ซึ่งเป็นหลานของพระยารัษฎาฯ และได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ปี ๒๕๓๕ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 54 00:15:28 จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:16:20

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อเข้าสู่บริเวณบ้านเลขที่ ๑ ถนนค่ายพิทักษ์ที่ตั้งอยู่บนเนินจะพบกับความสงบร่มรื่นของต้นไม้นานาชนิดและดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวล ปะปนไปกับรัศมีแห่งบารมีของพระยารัษฎาฯที่นั่งอยู่ภายในบ้าน แม้จะเป็นเพียงหุ่นจำลองก็ตาม จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:18:25

ความคิดเห็นที่ 23 พระยารัษฎาฯมาเป็นเจ้าเมืองตรังในปี พ.ศ.๒๕๓๓ จนกระทั่งได้รับตำแหน่งข้าหลวงเทศภิบาลมณฑลภูเก็ต ยังคงเดินทางมาเมืองตรังอยู่เป็นระยะจนกระทั่งถึงแก่อนิกรรมในปี พ.ศ. ๒๔๕๖ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:20:56

ความคิดเห็นที่ 24 ปัจจุบันหากถามผู้เฒ่าผู้แก่ในจังหวัดเกี่ยวกับพระยารัษฎาฯ ก็จะได้ยินเรื่องเล่าถึงกุศโลบายต่างๆ ที่ท่านพระยารัษฎาฯ หรือเจ้าคุณเทศาที่ชาวบ้านเรียกกันติดปาก ใช้ในการปกครองลูกบ้าน เช่นเมื่อเห็นต้นไม้ตามบ้านราษฎรมีกาฝากขึ้นเต็ม  จึงให้ป่าวประกาศว่าท่านป่วย ต้องให้กาฝากทำยา ชาวบ้านทราบก็ฏเก็บกาฝากส่งมาให้ที่จวนเป็นจำนวนมาก เมื่อกาฝากเริ่มหมดไปท่านก็ให้แจ้งว่าหายป่วยแล้ว ---------- แสงแห่งอดีตกาลยังคงส่องสว่าง จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:25:12

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องส่งเสริมอาชีพ ให้ทุกบ้านปลูกพืชผักอย่างละ ๕ ต้น และเลี้ยงไก่บ้านละ ๕ ตัว เมื่อชาวบ้านทำได้ผลก็เอาใส่ตะกร้ามาให้ท่าน ท่านก็คือให้ชาวบ้านเก็บไว้กินเอง ชาวบ้านเห็นประโยชน์กก็ทำต่อโดยไม่ต้องบังคับอีก จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:27:48

ความคิดเห็นที่ 26 คณูประการอันยิ่งใหญ่ของพระยารัษฎาฯที่ส่งผลต่อเรษฐกิจเมืองตรัง ภาคใต้ และภาคอื่นๆของประเทศไทยคือการส่งเสริมการปลูกยางพาราที่ชาวบ้านยังคงเรียกันติดปากว่า"ยางเทศา" ส่วนเคล็บลับการบริหารบ้านเมืองของพระยารัษฎาฯก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับคำคมของสมเด็นกรมพระยาดำรงราชานุภาพที่มีต่อพระยารัษฎาฯ ว่า "ทำอย่างไรจึงจะเป็นเจ้าเมืองที่ดี" คำตอบโดยไม่รีรอของพระยารัษฎาฯก็คือ "ต้องนอนซดน้ำชาอยู่ที่จวน ซดเสร็จแล้วก็ไปเที่ยวคุยกับราษฎรบ้านโน้นบ้านนี้" การซดน้ำชาอยู่ที่บ้าน คือการใช้เวลาวางแผนมอบหมายสั่งงาน แล้วค่อยไปติดตามตรวจสอบประเมินผลด้วยการไปคุยกับราษฎรนั่นเอง จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:32:54

ความคิดเห็นที่ 27 ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎาฯ ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ของทางราชการและไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ ส่วนบุคคลแต่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ชาวตรังมีส่วนร่วม ในการเป็นลูกหลานของพระยารัษฎาฯ เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มต้นด้วยเงินบริจาค ปัจจุบันมีการจัดทำรูปหล่อสำริดแสดงกุศโลบายของท่านเจ้าเมืองไว้นอกบ้าน จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:42:46

ความคิดเห็นที่ 28 ตรงสนามหน้าบ้านมีหินลูกโม่ขนาดใหญ่ หินลูกโม่นี้ได้มาจากนาโรงหัด บ้านจุปะ หมู่ที่ ๓ ตำบลกันตังใต้ เป็นลูกโม่หีบอ้อยของโรงงานน้ำตาลทรายแดง ส่งขายปีนัง สมัยพระยารัตนเศรษฐี(คอซิมก๊อง ณ ระนอง) มาเป็นผู้ว่าราชการเมืองตนราง ประมาณ พ.ศ. ๒๔๒๕-๒๔๒๘ เมื่อพระยารัตนเศรษฐีกลับระนองโรงานก็เลิกไป ขออภัยย่าไม่ทันได้ถ่ายเพราะ ต้องขึ้นรถไปต่อแล้ว ขอเอาภาพภายในพิพิธภัณฑ์มาลงเป็นการแก้ตัวนะคะ   เครื่องกรองน้ำ จากลอนดอน จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:49:58

ความคิดเห็นที่ 29 เก้าอี้พักผ่อนหน้าห้องนอน จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:50:47

ความคิดเห็นที่ 30 โคมไฟโบราณ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:51:28

ความคิดเห็นที่ 31 รูปเก่าๆที่บันทึกเรื่องราวในอดีต จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:52:27

ความคิดเห็นที่ 32 อั้งยกเลี่ยน-เธอมีธิดา 3 คนจากพระยารัษฎาฯ ที่ระนอง(ภาพซ้าย) ,แคล้ว ณ ระนอง -เมื่อสิ้นพระยารัษฎาฯ เธอคือประธานของบ้าน(ภาพขวา) แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 54 10:47:07 จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:53:47

ความคิดเห็นที่ 33 เตียงนอน จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:54:34

ความคิดเห็นที่ 34 ขาตั้งกล้องสมัยก่อน เป็นไม้ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:55:29

ความคิดเห็นที่ 35 ข้าวของเครื่องใช้ของพระยารัษฎาฯ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:56:21

ความคิดเห็นที่ 36 ภาพกลาง ฮวงซุ้ยของพระยารัษฎาฯ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:57:24

ความคิดเห็นที่ 37 พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎาฯ เปิดให้เข้าชมได้ระหว่างวันอังคารถึงวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา ๙.น๐๐ น.-๑๖.๓๐ น. ยกเว้นวันจันทร์ แต่หากตรงกับวันหยุดราชการ จะเปิดเป็นพิเศษ และหยุดชดเชยในวันต่อไป สำหรับหมู่คณะที่ต้องการวิทยากรบรรยาย สามารถแจ้งล่วงหน้าได้ที่โรงเรียนกันตังพิทยากร อำเภอกันตัง จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:01:02

ความคิดเห็นที่ 38 ดอกระฆังทองหน้าพิพิธภัณฑ์  ย่าถ่ายมาฝากเพื่อนๆผู้ชื่นชอบดอกไม้ค่ะ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:02:01

ความคิดเห็นที่ 39 ปาล์มเจ้าเมืองตรังที่หน้าทางเข้าสวนด้านข้างพิพิธภัณฑ์  ย่าเข้าใจว่าต้นพันธุ์ที่เราเห็นอยู่ในสวนสมเด็จ และที่อื่นๆคงได้ชื่อมาจากที่นี่ค่ะ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:03:53

ความคิดเห็นที่ 40 ขอขอบคุณ คุณวิ ผช.ผอ.แห่ง ท.ท.ท. สำหรับข้อมูล เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เวลาของการเยี่ยมชมหมดแล้ว ย่าเดินออกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ โดยมีต้นเฟื่องฟ้า โบกกิ่งก้านอำลา พร้อมทั้งฝากความทรงจำอันน่าประทับใจให้กับย่า  ลาก่อน..หากมีโอกาสได้มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้อีก ย่าหวังว่าจะได้เข้าไปชมสวนอันร่มรื่นด้านข้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้  และสำรวจพันธุ์ไม้ภายในสวนค่ะ จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:10:18

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาเก็บความรู้ครับ มีสาระทุกกระทู้เลยครับ จากคุณ : tonti เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 11:04:02

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณค่ะคุณ tonti จากคุณ : ดา ดา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 11:20:39