ลงรถมาเหนื่อยมากผมจองโรงแรม Elegant Hotel Ho Chi Minh ไว้ ดูจากแผนที่คร่าวๆว่าอยู่ถนน Bui Thi Xuan เดินขึ้นไปจากบริษัทรถราว 2 กม ตอนแรกว่าจะเดินไป แต่ไม่รู้คิดไวด้วยความล้าจากการเดินทาง ตัดสินใจไปแท็กซี่ และประมาทไปหน่อย ลืมระวังตัวเรื่องแท็กซี่ไซ่ง่อน ผมเดินไปหาแท็กซี่สีขาวคันเล็กที่จอดรออยู่หลังรถบัส โดยเลือกคันที่สองต่อจากรถบัส ผมเดินไปยื่นกระดาษจดชื่อโรงแรมให้คนขับดู คนขับพยักหน้า ผมเปิดประตูหน้าเอากระเป๋าลากวางข้างคนขับ แล้วเปิดประตูท้ายให้สาวน้อยขึ้นก่อนแล้วเอากระเป๋าอีกใบวางกลางแล้วตัวเองก็ขึ้นไปแล้วปิดประตู ตอนนี้กระจกทั้งสี่บานมันยังเปิดอยู่ พอรถติดเครื่อง คนขับปิดกระจกถึงสังเกตว่ากระจกทั้งสี่บานมันติดฟิลม์ดำมาก ผมก็เริ่มเอะใจ ก็ไม่คิดอะไรมาก พอรถออกมันก็วิ่งไปตามถนนวนไปตามทางซึ่งรถติดพอควรเพราะเป็นช่วงเย็น มิตเตอร์เริ่มที่เลข 9 ตัวเดียว แปลว่า 9000 ดอง พอวิ่งไปได้ราว 1 กม มันเริ่มวิ่งเร็วมากๆ วิ่งแบบเร็วผิดปกติ ผ่านมาอีกไฟแดงระยะทางรวม 1.5 กม มันขึ้นไปถึงเลข 250 แปลว่า 250000 ดอง ผมมีเงินแค่ 200000 ดองและเริ่มรู้แล้วว่าผมโดนโกงเข้าให้แล้ว ผมถามคนขับว่าอีกไกลไม๊ผมไม่มีเงินพอจ่าย คนขับทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง และท่าทางกระสับกระส่าย พอรถวิ่งมาได้อีก 1 กม มิตเตอร์วิ่งไปที่ 550 แปลว่า 550000 ดองหรือราว 850 บาท ผมเห็นชื่อถนนแล้วว่าใกล้แล้ว ผมคิดอย่างรวดเร็วว่าจะโวยแล้วไม่ยอม หรือจะจ่ายๆไปแล้วลง ผมคิดแล้วเอาอย่างหลังดีกว่าเพราะถ้าเอาอย่างแรกสงสัยจะยาว ผมเลยหยิบแบงค์ 20 ยูเอส แล้วเอาอีก 200000 ดอง รวมเป็น เงินราว 900 บาท ส่งให้คนขับไปแล้วบอกให้จอดผมจะลง รถมันติดอยู่ ผมส่งเงินให้ไปแล้วจะเปิดประตู ปรากฏว่าประตูมันเปิดไม่ได้ทั้งสองข้าง คนขับก็ทำเป็นฟังไม่ออก ผมโน้มตัวไปบอกให้เปิดคนขับก็ไม่ทำตาม และขณะเดียวกันก็พยายามล้วงกระเป๋ากางเกงด้ายซ้ายตัวเอง ผมคาดว่าถ้าหยิบอาวุธขึ้นมางานนี้ยาวแน่นอนเพราะถ้าหยิบปืนออกมา ผมไม่มีทางเลือกคงต้องแย่งปืนและขัดขืนการปล่นแต่อาจกลายเป็นโดยหาว่าปล้นแท็กซี่ ซึ่งจะแย่กว่าเดิม แต่คนขับรถก็ไม่ได้ล้วงอาวุธขึ้นมา เขาทำอะไรทราบไม๊ครับ คนขับล้วงแบงค์ใบละ 1 ยูเอสออกมา แล้วเอา 20 ยูเอสของผมซ่อนไว้ แล้วยื่น 1 ยูเอส บวก 200000 ดองคืนให้ผมแล้วชี้ที่มิตเตอร์ว่าให้จ่ายมา 600000 ดอง ผมโวยทันที่ว่า ไม่ใช่ของผม 20 ยูเอส ผมจดตัวเลขแบงค์ไว้ ถ้าไปหาตำรวจผมจะแสดงตัวเลขให้ดู คนขับหน้าถอดสี ฟังอังกฤษออกทันที ประกอบกับสาวน้อยพอรู้อย่างนั้นไม่มีความกลัวเลย กลับกล้าที่จะโวยคนขับแบบเสียงดังกว่าผมอีก ผมถอยห่างกลับมาพิงเบาะและคิดทันที ถ้าพังรถหรือทำร้านคนขับ แล้วเกิดคนขับขับเลยไปอีกแยกที่มืดและมีแต่คนท้องถิ่น แล้วลงไปโวยว่าผมปล้นแท็กซี่อะไรจะเกิดขึ้น หรือเย็นลงแล้วคำนวณว่าคนขับได้ไป 900 บาท น่าจะพอใจและไม่โลภที่จะเอามากกว่านี้ด้วยการพาผมไปปล้น ซึ่งคิดคร่าวๆ มือถือ 2 เครื่อง สามหมื่นบาท บัตรเครดิต 3 ใบ รูดเงินสดได้ หนึ่งแสนกว่าบาท เอทีเอ็มแบบวีซ่าอีก 2 ใบ เป็นเงินสดสี่หมื่น กล้องและอื่นๆอีกราวหนึงหมื่น ซึ่งผมคงยอมให้ปล้นไม่ได้ รถเลี้ยวซ้ายผ่านไฟแดงมาจอดเลยโรงแรมมา 100 เมตร ถ้าคนขับเร่งเครื่องไปจะออกจากย่านจอแจสู่มุมมืดย่านสถานที่ราชการ ซึ่งผมจะยอมให้เร่งเครื่องไปไม่ได้ ถ้าคนขับเร่งเครื่องออกไปจากตรงนี้ผมต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างทุบกระจก หรือล๊อกคอคนขับ ซึ่งไม่ว่าจะจบลงแบบไหนก็ทำให้ทิปนี้ล่มและอยู่ไซ่ง่อยสะสางอีกหลายวันแน่ ขณะที่คิดอยู่สาวน้อยเดือดสุดๆแบบไม่มีความกลัวเลย ออกอาการโหดด้วยซ้ำ คนขับเห็นแล้วว่าเรามีสอง เขามีหนึ่ง และหันหลังให้เรา ต่อสู่กันมาอาจไม่คุ้มเสีย เลยทำเป็นพูดว่าโอเค ฟินิส โก แล้วบอกว่าเปิดประตูได้ ประตูมันก็เปิดได้ ผมและสาวน้อยก็ลงรถเอากระเป๋าลงครบมองซ้ายขวาไม่มีตำรวจซักคน มีแต่คนพื้นเมือง รถแท็กซี่ก็ออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะบอกแล้วว่าข้างหน้ามันออกจากย่านจอแจแล้ว ผมเลยรอดมาได้โดยเสียค่าตื่นเต้นไป 900 บาท สาวน้อยบอกไม่กลัวหรอกแต่แค้น
จากคุณ |
:
k.j
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 55 10:31:43
|
|
|
|