ความคิดเห็นที่ 1 ตั้งแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 3) รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) และรัชกาลพระบาททสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:00:48

ความคิดเห็นที่ 2 โดยเริ่มรับราชการเป็นมหาดเล็กหุ้มแพร ตำแหน่งนายไชยขรรค์ ในรัชกาลพระบามสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 3) จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:01:24

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อมาเลื่อนขึ้นเป็นหลวงสิทธินายเวร จมื่นไวยวรนาถ พระประสาทสิทธิ์ พระยาศรีสุริยวงศ์ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:02:15

ความคิดเห็นที่ 4 และสมเด็จพระเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะ ระหว่าง พ.ศ.2411-2416 จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:04:28

ความคิดเห็นที่ 5 ท่านมีความผูกพันกับเมืองราชบุรีมาก และได้ทำงานเกี่ยวข้องกับเมืองราชบุรีมาโดยตลอด จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:05:03

ความคิดเห็นที่ 6 ตั้งแต่ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:06:19

ความคิดเห็นที่ 7 ทั้งนี้ ในประมาณปี พ.ศ.2411 ท่านได้พาครอบครัวและข้าราชการเป็นจำนวนมากออกมาพักอาศัยอยู่ที่เมืองราชบุรี จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:07:42

ความคิดเห็นที่ 8 โดยได้สร้างทำเนียบเป็นที่พักและตึกอาคารไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำเนียบที่พักของท่านนี้ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:08:19

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อมาได้ใช้เป็นกองบัญชาการรัฐบาลมณฑลราชบุรี ในช่วงเริ่มแรกที่มีการตั้งมณฑลราชบุรีขึ้น จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:09:23

ความคิดเห็นที่ 10 (ปัจจุบันเป็นอาคารสำนักงาน คลังโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และจัดแสดงกิจกรรมพิเศษหรือนิทรรศการพิเศษ ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี) และท่านได้ถึงแก่พิราลัยที่ราชบุรี จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:10:19

ความคิดเห็นที่ 11 ภารกิจสำคัญที่ท่านได้ทำประโยชน์ไว้แก่เมืองราชบุรี มีดังนี้ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:10:59

ความคิดเห็นที่ 12 ในช่วงปี พ.ศ.2409-2411 ได้เป็นผู้อำนวยการขุดคลองดำเนินสะดวกเชื่อมแม่น้ำแม่กลองกับแม่น้ำท่าจีน จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:11:53

ความคิดเห็นที่ 13 โดย พระบามสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 4) ได้พระราชทานทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง และท่านได้ออกทุนทรัพย์ส่วนตัวสมทบอีกส่วนหนึ่ง จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:12:34

ความคิดเห็นที่ 14 พร้อมกับได้สร้างวัดขึ้นริมคลองดำเนินสะดวกบริเวณหลักห้าแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียกกันปัจจุบันว่า "วัดประสาทสิทธิ์" จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:13:17

ความคิดเห็นที่ 15 ในปี พ.ศ.2412 ได้สร้างถนนเริ่มจากหน้าเมืองราชบุรีไปถึงเขาวัง จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:13:55

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วต่อมาได้มีการสร้างขยายไปจนบริเวณเขาแก่นจันทน์ ซึ่งต่อมาถนนสายนี้มีชื่อเรียกกันว่า "ถนนศรีสุริยวงศ์" จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:14:28

ความคิดเห็นที่ 17 ในปี พ.ศ.2414 ได้สร้างพระราชวังขึ้นบนเขาสัตตนารถ(เขาวัง) จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:15:11

ความคิดเห็นที่ 18 โดยผาติกรรมวัดที่เคยมีอยู่เดิมมาสร้างใหม่ที่บริเวณบ้านไร่ (วัดสัตตนารถปริวัตร ในปัจจุบัน) จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:16:15

ความคิดเห็นที่ 19 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมาประทับแรมครั้งหนึ่ง จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:17:26

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากเสด็จประพาสไทนโยคในปี พ.ศ.2420 เพื่อเสด็จออกรับราชฑูตโปรตุเกสที่เข้ามาถวายพระราชสาส์น จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:18:07

ความคิดเห็นที่ 21 ในปี พ.ศ.2415 ได้สร้างวัดขึ้นโดยทุนทรัพย์ส่วนตัวเพื่อเป็นวัดประจำตระกูลบุนนาค จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:18:48

ความคิดเห็นที่ 22 ภายหลังจากการสร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.2421 จึงได้มีการกราบบังคมทูลถวายเป็นพระอารามหลวง จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:20:09

ความคิดเห็นที่ 23 และขอพระราชทานวิสุงคามสีมา พร้อมทั้งนามวัด จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:20:59

ความคิดเห็นที่ 24 ซึ่งพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ก็ได้ทรงรับเข้าเป็นพระอารามหลวงและพระราชทานวิสุงคามสีมา พร้อมทั้งพระราชทานนามวัดว่า จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:22:25

ความคิดเห็นที่ 25 "วัดศรีสุริยวงศ์วงศาราม" อันปัจจุบันเรียกโดยทั่วไปว่า "วัดศรีสุริยงศ์" จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:23:08

ความคิดเห็นที่ 26 การทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเมื่อพระเจ้าแผ่นดินยังทรงพระเยาว์ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ ในประวัติศาสตร์ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:25:26

ความคิดเห็นที่ 27 แต่ก่อนนั้นพระเจ้าแผ่นดินทรงปรึกษาผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแล้วจึงเสด็จออกท้องพระโรงแล้วทรงรับสั่งเอง จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:26:49

ความคิดเห็นที่ 28 แต่การทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ในครั้งนี้อำนาจเด็จขาดทั้งหมดอยู่ที่ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:27:42

ความคิดเห็นที่ 29 สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์จึงต้องคิดวิธีว่าราชการบ้านเมืองในหน้าที่ของผู้สำเร็จราชการแผ่นดินขึ้นเพื่อใช้เป็นหลักในการปฏิบัติสืบต่อไป จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:28:47

ความคิดเห็นที่ 30 ดังนั้น ในการจัดระเบียบราชการครั้งนี้จึงอาศัยแนวคิด 2 ประการ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:29:49

ความคิดเห็นที่ 31 คือ ประการแรก การบังคับบัญชาข้าราชการบ้านเมืองนั้น ไม่ได้เอาอำนาจไว้แต่ในตัวผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเท่านั้น จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:30:36

ความคิดเห็นที่ 32 แต่เป็นไปด้วยการปรึกษาหารือพร้อมเพรียงกันของข้าราชการผู้ชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหารซึ่งจะมีการประชุมกัน ณ หอวรสภาภิรมย์ ภายในพระบรมมหาราชวัง จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:31:18

ความคิดเห็นที่ 33 ประการที่สอง คือ การฝึกหัดให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสามารถว่าราชการบ้านเมืองได้เอง จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:32:23

ความคิดเห็นที่ 34 “สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ สมันตพงศ์พิสุทธิ มหาบุรุษยรัตโนดม บรมราชุตมรรคมหาเสนาบดี มหาสุริยมัณฑลีมุรธาธร จักรรัตนสหจรสุรศรขรรค์ วรลัญจธานินทร์ ปริมินทรมหาราชวรานุกูล สรรพกิจจานุกิจมูลประสาท ปรมามาตยกูลประยูรวงศ์วิวัฒน์ สกลรัชวรณาจักโรประสดัมภ์ วรยุติธรรมอาชวาธยาศัยศรีรัตนตรัยคุณาภรณ์ภูษิต อเนกบุยฤทธิประธิสรรค์ มหันตวรเดชานุภาพบพิตร” สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นมหาบุรุษของไทยที่สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากท่านได้รับพระราชทานตรามหาสุริยมณฑลจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นตราประจำตัวและยึดถือเป็นสัญลักษณ์แทนตัวท่านมาโดยตลอด จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:35:53

ความคิดเห็นที่ 35 เหตุการณ์สำคัญ...สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:37:17

ความคิดเห็นที่ 36 สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เกี่ยวข้องกับงานด้านการต่างประเทศมาตั้งแต่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:37:45

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อประธานาธิบดีซาคารี เทย์เลอร์ แห่งสหรัฐอเมริกาส่งนายโจเซฟ บาเลสเตียร์ เข้ามาขอแก้ไขสนธิสัญญากับไทย เมื่อ พ.ศ. 2392 จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:38:27

ความคิดเห็นที่ 38 จมื่นไวยวรนาถ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งมีหน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่ที่เมืองสมุทรปราการได้มีส่วนได้มีส่วนในการต้อนรับทูตอเมริกันคณะนี้ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:39:02

ความคิดเห็นที่ 39 และเป็นผู้ติดต่อระหว่างบาเลสเตียร์กับเสนาบดีผู้ใหญ่ในกรุงเทพฯ ถึงเรื่องการทำการเจรจากัน ตลอดจนการจะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:40:18

ความคิดเห็นที่ 40 และเมื่อลอร์ดปาล์มเมอร์สตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษได้แต่งตั้งให้เซอร์เจมส์บรุ๊ค เป็นผู้แทนเข้ามาขอแก้ไขสนธิสัญญาเบอร์นีกับไทยใน พ.ศ. 2393 จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:40:55

ความคิดเห็นที่ 41 จมื่นไวยวรนาถภักดีศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้หนึ่งที่รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในการตรวจร่างสัญญา จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:41:46

ความคิดเห็นที่ 42 และเป็นผู้รับร่างหนังสือของฝ่ายไทยไปเขียนลงกระดาษให้เรียบร้อยส่งตอบหนังสือของเซอร์เจมส์ บรุ๊ค จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:47:12

ความคิดเห็นที่ 43 ต่อมาใน พ.ศ. 2398 เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรียแห่งประเทศอังกฤษทรงแต่งตั้งเซอร์จอห์นบาวริง ผู้สำเร็จราชการประจำฮ่องกง เป็นราชทูตมาขอแก้ไขสนธิสัญญาเบอร์นี จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:48:32

ความคิดเห็นที่ 44 เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ได้รับมอบหมายจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ให้เป็นผู้หนึ่งในคณะข้าหลวงดำเนินการเจรจากับอังกฤษ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:49:18

ความคิดเห็นที่ 45 เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์มีบทบาทเป็นผู้ประสานการเจรจาระหว่างทูตอังกฤษกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:50:17

ความคิดเห็นที่ 46 และสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ จนทำให้มีการลงนามในสนธิสัญญาบาวริงได้เป็นผลสำเร็จ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:51:28

ความคิดเห็นที่ 47 ภายหลังที่ไทยทำสนธิสัญญากับนานาประเทศแล้ว จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:52:14

ความคิดเห็นที่ 48 เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์สนับสนุนให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับอังกฤษและฝรั่งเศสตามลำดับ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:53:16

ความคิดเห็นที่ 49 อันเป็นการเริ่มศักราชทางการทูตระหว่างไทยกับมหาอำนาจตะวันตกเป็นครั้งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:55:06

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นการเพิ่มพูนสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับบรรดาชาติยุโรปและเอเชียให้กว้างขวางยิ่งขึ้นมาจนทุกวันนี้ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 13:55:42

ความคิดเห็นที่ 51 ท่านสมรสกับท่านผู้หญิงกลิ่น มีบุตรธิดา 4 คน เป็นบุตรชาย 1 คน ได้แก่ เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) สมุหพระกลาโหมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:05:35

ความคิดเห็นที่ 52 และเป็นบิดาของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์และเจ้าจอมมารดาโหมด บุนนาค เจ้าจอมมารดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:06:31

ความคิดเห็นที่ 53 ส่วนธิดาอีก 3 คน ได้แก่ คุณหญิงกลาง ภรรยาพระยาสีหราชฤทธิไกร (แย้ม บุณยรัตพันธุ์) คุณหญิงเล็ก และคุณหญิงปิ๋ว จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:08:33

ความคิดเห็นที่ 54 นอกจากนี้ ท่านยังสมรสกับ ท่านพันและท่านหยาด บุตรีพระยาวิชยาธิบดี (เมือง บุนนาค) แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:09:23

ความคิดเห็นที่ 55 “วันเสาร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 2 ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช 1244 เวลาย่ำรุ่ง ท้าวราชกิจวรภัตร เข้ามากราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สมเด็จเจ้าพระยาเมื่อป่วยหนักออกไปอยู่ที่ราชบุรีแล้ว ครั้งเมื่อจะไปฉลองศาลาที่ท่านสร้างไว้ที่มะขามเตี้ยไปถึงกลอนโต ขึ้นไปเก็บมะขามป้อมบนบก หามไปกลางแดดเวลาเที่ยง ไม่ให้ไปก็ไม่ฟัง ครั้งไปถึงต้นมะขามป้อมก็ไปนอนหลับตาซึมอยู่ กลับมาถึงเรือตัวร้อนอาการมาก จึงปรึกษาพร้อมกัน เอากลับมาเรือนราชบุรี มานอนท่าพระแท่นดงรังครึ่งคืน แล้วล่องลงมาถึงเมืองราชบุรี เวลาบ่ายโมงเศษหามขึ้นบก พอถึงต้นมะขามหน้าบ้านก็เป็นลมคอพับ จึงหามเข้าไปแก้ไขกันอยู่ในเรือน เวลานั้นลมก็จัดเอาลับแลเข้าบังไว้ ครั้งเจ้าพระยาสุรวงศ์และญาติ ซึ่งตามมาภายหลังมาถึง จึงพร้อมกันพาท่านลงเรือมาเวลาบ่าย 5 โมงเศษวานนี้ เรือไฟจูงมาพ้นคลองดำเนินสะดวกมาแล้ว จะเข้าคลองภาษีเจริญติดน้ำ ๆ แห้ง จึงไปรอน้ำอยู่ปากคลองกระทุ่มแบน ถึงปากคลองเวลา 5 ทุ่มเศษ ชักเยื้องไหล่หน่อยหนึ่ง ก็ถึงแก่พิราลัยที่ปากคลองกระทุ่นแบนนั้น ครั้งน้ำขึ้นจึงรีบเอาศพเข้ามาถึงจวนเวลากรู่ ๆ" จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:10:18

ความคิดเห็นที่ 56 ภายหลังการถึงแก่พิราลัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรดน้ำศพพระราชทาน พร้อมทั้งพระราชทานโกศกุดั่นน้อยประกอบลองใน ตั้งบนแว่นฟ้า พร้อมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ไว้ทุกข์เป็นระยะเวลา 7 วัน นอกจากนี้ ในวันชักศพเข้าเมรุ ณ วัดบุปผารามวรวิหารนั้น พระองค์ทรงโปรดฯ ให้เจ้าหมื่นไวยวรนารถ (ยศขณะนั้น) จัดทหารจำนวน 100 คนไปแห่ศพ พร้อมทั้งพระราชทานเปลี่ยนโกศประกอบลองในเป็นโกศกุดั่นใหญ่เพื่อเป็นเกียรติยศ และเสด็จพระราชทานเพลิงศพ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:11:06

ความคิดเห็นที่ 57 ขอขอบคุณที่เข้าชม...ขอบคุณครับ จากคุณ : ek1234 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 55 14:12:41