ความคิดเห็นที่ 1 วันที่ 1 “29 กุมภาพันธ์ 2551” เมืองหงสาวดี (แบ่กู)            เวลา 03.50 น. นั่งอยู่บนรถแท็กซี่ ถนนว่างๆ สนามบินสุวรรณภูมิคือจุดหมาย เค้าบอกให้ไปก่อนเวลาเครื่องออก 2 ชั่วโมง กลัวตกเครื่องบินเลยปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด เสียงวิทยุบนรถ  คลื่น จส.100 กำลังรายงานว่า เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งโดนปล้นรถจักรยานยนต์ระหว่างเดินทางกลับบ้าน....นึกในใจว่าจะขับรถออกมาทำไมดึกดื่น             ไม่ว่าที่ไหนก็มีทั้งคนดีคนไม่ดี ปะปนกันอยู่ทั้งนั้นละ เพียงแต่ว่าเราจะเลือกสถานที่ให้เหมาะสมกับความปลอดภัยของเราอย่างไร  เช่นถ้าเวลานี้ผมคงนอนอุตุอยู่บนที่นอนอันแสนสบาย ไม่ออกไปไหนหรอก แค่ต้องตื่นไปสนามบินก็ง่วงจะตายอยู่แล้ว              เสียงวิทยุ กำลังสัมภาษณ์วัยรุ่นที่โดนชิงรถจักรยานยนต์ไป ได้ความว่าขับกลับมาจากการท่องราตรีคนเดียว และโดนผู้ชายสองคนขับรถจักรยานยนต์ตามมาปาดหน้า ยื้อแย่งกันสักพัก โดนเข้าไปตุ้บสองตุ้บ และเสียรถไปตามระเบียบ......รู้สึกไหมว่าบ้านเมืองเรามีข่าวทำนองนี้แทบทุกวัน..... ________________________________________ ข้อมูลภาพ : พระพุทธไสยาสน์เฉว่ตาเหลียว หรือที่คนไทยชอบเรียกว่าพระตาหวาน ที่เมื่องหงสาวดี จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:28:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กะงีบบนเครื่องซักหน่อย กำลังเคลิ้มๆ อยู่เชียว นักบินคนไทย ก็ประกาศว่า อีก 10 นาทีจะนำเครื่องลงแล้ว แหม เร็วจริงๆ ไปเที่ยวต่างประเทศนี่ นั่งมายังไม่ชั่วโมงดีเลย มองลอดหน้าต่างเครื่องบินลงมา เริ่มเห็นเจดีย์สีขาวๆ ทองๆ อยู่ประปราย มองไปมองมาดูเยอะกว่าบ้านคนซะอีก ท้องไส้เริ่มปั่นป่วนแล้วสิ ตูจะรอดไมนี่ จะโดนวิ่งราวทรัพย์ หรือ โดนป...คอ แบบไอ้พวกเพื่อนตัวดีมันข่มขู่....ไม่ได้ไม่ได้ต้องทำตัวเป็นผู้นำ เพราะคราวนี้มากะเพื่อนผู้หญิง 1 คน คู่แม่ลูกที่ทำงานอีก 2 คน (กะชวนเล่นๆ ดันมาจริงๆ) เพราะชวนเพื่อนผู้ชาย หลายๆคน ไม่มีตัวไหนยอมมาด้วยเลย กลัวโดนป...คอ แหะๆ ___________________________________ ข้อมูลภาพ : พระธาตุมุเตา 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่านับถือสูงสุด จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ เย้มาถึงแล้วย่างกุ้ง สนามบินดูดีเชียว อากาศค่อนข้างเย็น อาจเพราะยังเช้าอยู่ แต่แดดร้อนมากๆ ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแบบไม่มีปัญหาอันใด พอได้ประเป๋า ก็เดินออกไปนอกอาคาร และก็ได้พบกับคนพม่าหลายคนเข้ามาสอบถามว่าจะเข้าเมืองหรือเปล่า หรือจะไปไหน   ผมก็เลยบอกไปว่าจะไปพระธาตุอินทร์แขวน 2 วัน 1 คืน เขาก็พาผมไปสำนักงาน ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน แบบว่าเดินไปได้นะครับ อยู่ด้านหน้าอาคารเลย น่าจะซัก 200 เมตรได้ พวกผม 4 คน ก็ขึ้นรถไปกับเขาโดยดี เพราะไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว ในสำนักงาน ก็มีพม่าหลายๆคน นุ่งโสร่ง ผิวออกคล้ำๆทุกคน ถ้าหน้านิ่งๆ ก็ดูโหดเหมือนกัน แต่ยิ้มแย้มดีนะครับ ให้ความช่วยเหลือดี ทั้งเรื่องตั๋วเครื่องบิน และตั๋วรถทัวร์ ที่พักในพุกาม และอินเล แกจัดสรรให้หมด และราคาค่าแท็กซี่ 2 วัน 1 คืน แพงกว่าข้อมูลรู้มา แต่ก็ไม่แพงมากครับ เพราะข้อมูลที่ได้เป็นเดือนมกราคม น้ำมันบ้านเราก็ขึ้นไปหลายบาทแล้วเหมือนกัน เลยตกลงเช่าไป             ระหว่างรอตั๋วเครื่องบิน คนขับรถก็พาไปทัวร์เล็กน้อยรอบๆสนามบิน ไปดูช้างเผือก (ผมว่ามันเหมือนช้างสีชมพูมากกว่า = = !  แบบว่าสีชมพูทั้งตัวเลย ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน เลยสงสัยกว่ามันเป็นช้างเผือกจริงๆเหรอ หรือโดนกัดสีผิวหว่า เพราะช้างเผือกบ้านเราไม่ได้เป็นแบบนี้ ปล.เขาไม่ให้ถ่ายรูปครับ) และก็ไปดูพระหินอ่อนขนาดใหญ่ ไม่ได้สวยงามอะไรมากมาย คนขับกลัวเราเบื่อนะครับถ้ารอตั๋วเครื่องบินอยู่ในสำนักงาน เลยพาทัวร์ซะเลย _________________________________________ ข้อมูลภาพ : อีกมุมของพระธาตุ รอจังหวะให้สองสาวเดินเข้ามาและกดชัตเตอร์ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เกือบเที่ยงกลับไปที่สำนักงาน และทุกอย่างพร้อมก็เดินทางกันเลยครับ คนขับรถชื่อ Phyo ออกเสียงว่า ฟิ้ว โปรแกรมหลัก 2 วัน 1 คืน คือ ไปหงสาวดี (แบ่กู) (80 กิโลเมตร จากย่างกุ้ง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) และพระธาตุอินทร์แขวน (ไจ้ทีโย) (ประมาณ 80 กิโลเมตร จากหงสาวดี อีก 2 ชั่วโมง) ตอนแรกวันนี้ว่าจะตรงไปที่พระธาตุเลย แต่ต้องเปลี่ยนแผน เพราะกว่าจะออกจากย่างกุ้งก็เที่ยงกว่าแล้ว กว่าจะถึงขึ้นถึงพระธาตุคงมืดไปแล้ว เลยแวะถ่ายรูปที่เมืองหงสาวดีก่อน ก็มี วัดเจดีย์ไจ้ปุ่น, พระพุทธไสยาสน์เฉว่ตาเหลียว, พระธาตุมุเตา (เจดีย์เฉว่หม่อต่อ) และ พระราชวังบุเรงนอง วันนี้ถ่ายรูปไม่ค่อยออกครับ เพราะอากาศร้อน ผสมกับสถานที่ไม่ค่อยตื่นตาเท่าไหร่              ที่เมืองหงสาวดีต้องเสียค่า Fee Zone 10 ดอลล่าห์ ครับ สถานที่กล่าวมาไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่แต่ก็ไปๆเพราะเสียเงินแล้ว ยกเว้นพระธาตุมุเตา เป็น 1 ใน 5 ที่ชาวพม่านับถือสูงสุด อย่างไงก็ต้องเข้าไปสักการะสักครั้ง (ทริปนี้ผมวางแผนที่จะไปสักการะ 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่านับถือให้ครบทั้งหมด) องค์เจดีย์สวยมากครับ ยิ่งใหญ่สวยงาม เหลืองอร่ามด้วยสีทอง ______________________________________ ข้อมูลภาพ : พระพุทธรูปในบริเวณพระธาตุมุเตา ซึ่งอาจแตกต่างจากพระพุทธรูปในประเทศไทย คือจะมีรัศมีรอบพระพักตร์ และตอนกลางคืนก็จะเปิดไฟระยิยระยับสวยงามไปอีกแบบ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 3 โมงเย็นกว่าๆแล้ว จึงเดินทางต่อไปยังคิมปุ่นแคมส์ เพื่อหาที่พักก่อนเดินทางขึ้นไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวนในตอนเช้าตรู่ เราได้เกสเฮาส์ที่สำนักงานของคุณฟิ้ว จัดให้ ราคาเราต่อรองกันเองครับ ไม่แพง อากาศที่คิมปุ่นดีมาก เย็นๆเพราะอยู่ใกล้ภูเขา ที่คิมปุนแค้มป์เป็นจุดพักของนักเดินทางเพื่อรอขึ้นรถไปสักการะพระธาตุ ที่นี่จึงขวักไขว่ไปด้วยนักท่องเที่ยว และชาวพม่ามากมาย มีร้านขายของกันนิดหน่อย แต่เราไม่ได้ดูอะไรกันมาก เพราะคืนก่อนมานอนกันไม่ค่อยหลับ คืนนี้จึงนอนแต่หัวค่ำเพราะต้องตื่นแต่เช้า กับอากาศเย็นๆ คืนนี้เลยนอนหลับเป็นตายเลย......... ________________________________ ข้อมูลภาพ : วัดเจดีย์ไจ้ปุ่น มีตำนานกล่าวว่า 4 สาวพี่น้อง ถือพรมจรรย์และจะไม่แต่งงาน หากคนใดผิดศีลก็จะทำให้พระพุทธทิศใดทิศหนึ่งต้องพังทลายลงมา ใช้เลนส์ช่วงไวด์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือพยายามเข้าใกล้วัตถุที่จะถ่ายหรือหากอะไรมาเป็นฉากหน้าเพื่อไม่ให้มีพื้นที่โล่งมากเกินไป จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วันที่ 2 “1 มีนาคา 2551” คิมปุนแค้มป์ พระธาตุอินทร์แขวน             แหม เมื่อคืนนอนหลับยาวเลย มาตื่นอีกทีตอนนาฬิกาปลุก ตีห้าแล้วต้องอาบน้ำไปไปรับประทานอาหารเช้าที่เกสเฮาส์จัดไว้ให้ ก่อนขึ้นรถในตอน 6 โมงเช้า หลังจากอาหารเช้าพนักงานเกสเฮาส์ก็พาเดินไปขึ้นรถ  ซึ่งไม่ห่างจากที่พัก เดินไปนิดเดียวเอง บริเวณที่จอดรถมีผู้คนมากมายเลยครับ ช่วงเดือนนี้ผู้คนยังมาสักการะพระธาตุมากมายเพราะยังไม่เข้าหน้าฝน แต่ถ้าเป็นเดือนพฤษภาคม ซึ่งฝนตกแล้วจะหารถขึ้นไปพระธาตุยากหน่อยเพราะคนน้อย รถบรรทุกต้องรอให้คนเต็มก่อนจึงขึ้นไป แต่ถ้าเหมาคันก็ไม่ไหวครับแพง รออยู่นานเหมือนกัน แม้ว่าคนเต็มรถแล้ว              สภาพรถคือรถบรรทุก 6 ล้อบ้านเราดีๆนี่เอง ด้านท้ายมีไม้กระดานวางไว้เป็นแถวๆ ให้นั่งแถวละ 6 คน ลองนับๆดูแล้วประมาณ 10 แถว ก็ 60 คน แต่ละแถวแคบมาก ถ้าคนตัวสูงๆคงนั่งลำบากมาก เขาออกแบบมาให้ชาวพม่าโดยเฉพาะครับ เพราะคนพม่าทั่วไปตัวไม่ใหญ่เหมือนบ้านเรา ตอนขึ้นรถวุ่นวายกันเหมือนกัน เพราะมีรถ 2 ประเภท คือ ขึ้นถึงพระธาตุ กับแบบจอดเชิงเขาแล้วให้เดินขึ้นเอง เรานั่งกันผิดคัน เพราะชาวต่างชาติ ต้องไปรถที่จอดเชิงเขาอย่างเดียว เขาต้องการให้ลูกหาบได้มีรายได้ เป็นการจัดระเบียบที่ดีทีเดียวสำหรับการกระจายรายได้ให้กับคนในพื้นที่  ดีที่พนักงานเกสเฮาส์ค่อยช่วยเหลือเพราะคนจัดคิวรถพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย  คนพม่าก็ดีนะครับ ที่นั่งก็แสนแคบ ยังมีน้ำใจกระเถิบกันซะเบียดให้ผมยัดก้นลงที่นั่งให้ได้ แหมใจดีจริงๆ ว่าแล้วก็นึกคนนั่งรถเมล์ไทย นานๆทีจะยอมเบียดให้คนที่ยืนๆได้นั่งกันบ้าง แต่ชินแล้วครับ ไม่เป็นไร แต่พอมาเห็นอย่างนี้ก็อดเปรียบเทียบกันไม่ได้ _________________________________ ข้อมูลภาพ : รถบรรทุกที่ขนพวกเราขึ้นมาครับ เช่นเคยเลนส์ไวด์จอจ่อไว้ ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:52:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 6 โมงกว่าแล้วรถยังไม่ออกเลย ใจตุ่มต่อมเพราะเราต้องลงมาให้ทันก่อน 11 โมงเพราะจองรถทัวร์ที่จะไปพุกาม โดยต้องกลับย่างกุ้งเพื่อขึ้นรถให้ทันก่อน 3 โมงเย็นวันนี้  ชาวไทย 4 คนกับชาวพม่าเกือบ 60 คนนั่งอยู่บนรถบรรทุก รถเริ่มออกตัว ทั้งไทยทั้งพม่าก็เฮ แต่ไปได้ไม่ถึง 5 เมตรรถก็หยุด แบบว่าขยับให้รถอีกคันเข้ามารับคนนะครับ = = ! อีกที รถขับออกไปแล้ว เฮ กันอีกรอบ คราวนี้รถก็ขับวนมาต่อท้ายคันอื่นๆ อีกที = =! ในใจเริ่มนึกถึงพระธาตุอินทร์แขวน ขอให้ลูกได้ขึ้นไปกราบสักทีเถอะ และขอให้ลูกกลับลงมาให้ทันก่อน 11 โมง ลูกจะชื้อทองคำเปลว ไปสักการะ ช่วยลูกช้างทีเถอะ เงินค่ารถทัวร์ก็จ่ายไปแล้ว แพงด้วย ถ้าไม่ทันแผนการพังทลายแน่ๆ ไหนจะตั๋วเครื่องบินอีกสองรอบ แย่แน่ๆ            เกือบ 7 โมงเช้า รถคันหน้าๆ รวมคันเราแล้วก็ 7 คัน ก็ออกตัว คราวนี้ไปจริงๆแล้วครับ สาธุๆ (แปลว่า ดีแล้ว ชอบแล้ว แหะๆ) แล้วมหกรรมรถมหาสนุกก็เริ่มขึ้น รถเริ่มไต่ระดับความสูงของภูเขาขึ้นไป พระธาตุอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณภูกระดึง คือ 1,200 เมตร ทางแคบมาก คล้ายๆว่าจะมีรอบในการขึ้นลงด้วยเพราะบางช่วงรถสวนไม่ได้เลย  หัวเข่าก็เริ่มกระแทกเข้ากับไม้กระดานด้านหน้า ต้องจัดระเบียบการนั่งให้ดีครับ รถเหวียงคนไปด้านซ้ายที ด้านขวาที ตามความโค้งของถนน ทั้งชาวไทยชาวพม่าก็ร้องวี้ดว้าย กันยกใหญ่ แต่ออกจะเป็นแบบสนุกไปซะงั้น ________________________________________ ข้อมูลภาพ : พระธาตุอินทร์แขวน ในมุมที่มองแล้วรู้สึกกว่าก้อนหินตั้งอยู่เหมือนจะร่วงก็ไม่ร่วง จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระหว่างทางเห็นคนพม่าหลายคน เดินขึ้นเขาเอง ด้วยความศรัทธาอันเปี่ยมล้น พระธาตุอินทร์แขวนที่สถานที่ 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพม่าต้องมาสักการะให้ได้ในชีวิตหนึ่ง ด้วยความศรัทธาที่ต่างกัน บางคนก็นั่งรถจนถึงพระธาตุเลย บางคนก็ลงเชิงเขา และบางคนก็เลือกที่จะเดินกันขึ้นมาเอง เพื่อแสดงถึงความอุตสาหะ พากเพียร ถวายเป็นพุทธบูชา ต่อพระเกศธาตุที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์ ราว 8 โมงเช้าหน่อยๆเราก็ขึ้นถึงเชิงเขา ผมจึงรุดขึ้นไปก่อน และให้เพื่อนๆตามมาเพราะถ้ากะเวลาแล้ว ต้องลงมาเชิงเขาเพื่อขึ้นรถกลับก่อน 10 โมงเช้า ที่นี่เราต้องเสีย Fee 6 ดอลลาห์ กับ 2 ดอลลาห์สำหรับการถ่ายรูป ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 45 นาที เหนื่อยมั้กๆ เป็นทางที่เดินขึ้นไปได้เรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก แต่ผมพักมากๆไม่ได้เดี๋ยวไม่ทัน ช่วงหลังๆไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย รู้สึกเลยว่าขาสั่น เวลาหยุดพัก เหงื่อไหลติ้กๆ ไม่ได้การกลับกรุงเทพต้องเริ่มออกกำลังกายใหม่  ระหว่างทางเดินขึ้นก็เริ่มเห็นคนไทยในวัยสูงอายุกันหลายๆ คนนั่งเสรียงกันลงมา น่าจะได้นอนที่โรงแรมใกล้ๆ พระธาตุที่รัฐบาลทหารพม่าไปสร้างไว้ ราคาค่อนข้างแพง ประมาณ 45 ดอลลาห์ แต่ก็ดีนะครับเพราะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้เลย เพราะโรงแรมอยู่ใกล้พระธาตุเลย ถึงพระธาตุแล้ว ก็เดินไปรอบๆหาทองคำเปลวเพื่อไปสักการะ ได้ปิดทองแล้วดีใจจัง ก้มกราบไป ยังไม่ลืมที่จะขอให้ลงไปให้ทัน 11 โมง สำหรับการเข้าไปกราบพระธาตุใกล้ๆ และได้สัมผัส เข้าไปได้เฉพาะผู้ชายครับ ผู้หญิงไม่อนุญาต ซึ่งเป็นธรรมเนียมของที่นี่ครับ ไม่นานเพื่อนๆตามขึ้นมาทัน ได้ถ่ายรูปกันไม่เกิน 10 รูปก็ต้องรีบกลับลงมา เช่นเคยผมลงมาก่อน ดีใจมากเลยเห็นคนนั่งอยู่บนรถเตรียมกลับกันเกือบเต็มคันแล้ว ไม่นานเพื่อนก็ลงมาทัน นั่งกันไม่เกิน 5 นาทีรถออกเลยครับ อย่างงี้กลับลงไปทันแน่ๆ หูยยย ศักดิ์สิทธิ์จริงๆเลย  สาธุ สาธุ^^ ____________________________________ ข้อมูลภาพ : อีกมุมของพระธาตุ ถ้าดูดีๆแล้วส่วนของก้อนหินกินพื้นที่เกิน 2 ใน 3 ของพื้น ซึ่งถ้ามองในมุมนี้ก็ไม่ร่าจะร่วงลงไปได้ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เกือบ 11 โมงยังพอมีเวลาอาบน้ำเพราะคืนนี้ต้องนอนบนรถกันทั้งคืน คุณฟิ้ว โชเฟอร์ผู้แสนใจดีก็เหยียบคันเร่งเต็มที่ เราถึงสถานีรถบัสที่ย่างกุ้งประมาณ บ่าย 2 ครึ่ง ครับ ทันเวลาพอดี คุณฟิ้ว ก็ติดต่อลงเบียนรถให้ และเราก็รออยู่ในห้องรับรองของทางบริษัทรถทัวร์ พวกผมเป็นลูกค้าคนไทยกลุ่มแรกของคุณฟิ้วครับ เลยได้เขียนคอมเม้นท์ลงในสมุดของแกนิดหน่อย แกเป็นคนพม่าที่ยิ้มแย้มดีครับ อัธยาศัยดี ไม่วุ่นวายกับพวกผม ไม่พาไปกินอาหารแพงๆเหมือนที่ผมดูในเน็ตสำหรับโชเฟอร์บางคน ที่จะได้เปอร์เซ็นต์จากร้านอาหารแพงๆ  ประทับใจมากครับ นับแต่วันนี้ไม่มีใครมาคอยดูแลเราแล้ว อีก 8 วันในพม่าเราต้องทำเองทุกอย่างแล้ว รถออกตรงเวลาครับ ตามข้อมูลใช้เวลาประมาณ 14 ชั่วโมง กับระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร ตามเวลาต้องถึง พุกาม เวลาตีห้า ที่นี่เข้าใช้รถบัสญี่ปุ่นที่ปลดระวางแล้ว รถค่อนข้างเก่า ที่นั่งแคบ ปรับเบาะได้ไม่มาก และพวกผมต้องนั่งเบาะหลังสุดแบบปรับไม่ได้อะครับ  แต่รถไม่เสียระหว่างทางก็ดีมากแล้ว ระหว่างทาง เกือบ 6 โมงเย็น พระอาทิตย์ดวงกลมโตมาก ๆ เห็นวัวเทียมเกวียนที่ชาวบ้านนั่งกลับจากการทำไร่ทำนา ฝุ่นควันโขมงต้องกับแสงอาทิตย์ยามเย็น เป็นภาพที่สวยมากๆเลยครับ เสียดายลงไปถ่ายไม่ได้ แสงพระอาทิตย์อาบบริเวณลานบ้านของชาวบ้านซึ่งกำลังกวาดลานบ้านและเผาเศษใบไม้ ควันลอยกระทบกับแสงอาทิตย์ ก็สวยงามเกินบรรยาย เสียดายจัง มืดแล้วแสงจันทร์รำไร ถนนไปพุกามเป็นหลุมเป็นบ่อค่อนข้างมาก บางช่วงเป็นถนนลาดยางที่แทบจะไม่มียางมะตอยเหลือแล้ว กลายเป็นถนนดินธรรมดาผสมกับหลุม คล้ายๆดวงจันทร์เลย รถก็โขยกไปมาตามล้อที่ไปสัมผัสกับเหล่าหลุมดวงจันทร์ รถคันนี้มีชาวไทย 4 กับฝรั่ง 1 นอกนั้นชาวพม่า คืนนี้นอนไม่หลับเลย................. ____________________________________ ข้อมูลภาพ : รถคุณฟิ้วที่พาเรามาส่งที่สถานีรถบัสเพื่อต่อรถไปยังเมืองพุกาม จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 18:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วันที่ 3 “2 มีนาคม 2551” พุกาม ตีห้า รถมาถึงเมืองอะไรซักอย่าง พยายามถามคนที่นั่งรอบข้างก็ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย แต่ตามเวลามันต้องถึงแล้วนิ แต่พอพูดสั้นๆว่า บะกั่น พม่าก็ส่ายหัว แสดงว่ายังไม่ถึง เหลือบไปเห็นฝรั่งก็ยังไม่ลุกไปไหน จุดหมายน่าจะเหมือพวกเรา จึงนั่งรถไปต่อ                6 โมงเช้าแล้วรถยังขับต่อไป มองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นเจดีซักกะอัน เห็นแต่ทุ่งนา กะต้นตาล และภูเขาอุสส่าห์วาดฝันกับพระอาทิตย์ขึ้นที่ทุ่งเจดีย์ อดอีกแล้วเรา เรามีเวลาอยู่ในพุกาม แค่ 1 วันเต็มๆ ตอนเช้าต้องนั่งเครื่องไปที่ อินเลต่อ จริงๆแล้วกะอยู่ในพุกาม 2 วัน เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกท่ามกลางทุ่งเจดีย์โบราณ แต่ตั๋วเครื่องบินดันเต็มจึงต้องเลื่อนวันขึ้นมา พุกามเลยเหลือแค่ 1 วัน กะ 1 คืน เครื่องบินก็ออกซะเช้าตรู่ ไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นไม่ทันแน่ๆ _________________________________________ ข้อมูลภาพ : ยามเช้าเจ็ดโมงในพุกามครับ รถม้ากับพระมหาเจีดีย์ชเวซีโข่ง ซึ่งตั้งอยู่หน้าโรงแรมพอดีครับ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ประมาณ 7 โมงเช้ารถก็มาถึงเมืองพุกามใหม่ (New Bagan) อากาศเย็นมากครับ คนขับรถม้า ก็เข้าสอบถามว่าพักที่ไหนจะไปส่ง ตามเคยครับเราใจง่ายอยู่แล้ว ก็ให้เขาไปส่งที่โรงแรมที่พัก ไม่ห่างจากจุดจอดรถนัก จริงๆเดินไปก็ได้ ซึ่งสำนักงานที่ย่างกุ้งติดต่อไว้ให้ ไม่แพงอีกเช่นเคย และเป็นโรงแรมที่ดีที่ได้เข้าพักกับราคาเบาๆ พอไปถึงเคาเตอร์เซ็คอิน ก็มีกระดาษที่เขียนชื่อผมไว้แล้ว แหมบริการดีจริงๆเลยคุณฟิ้วติดต่อให้เสร็จสับ และที่พุกามต้องเสีย Zone Fee อีก 10 ดอลลาห์ครับที่โรงแรมเลย                   คนขับรถม้าที่มาส่งก็เสนอราคาทัวร์พุกามด้วยรถม้าทั้งวันตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนพระอาทิตย์ตก ด้วยราคาแสนถูก รถม้าหนึ่งคันนั่งได้แบบสบายๆ สองคน โรงแรมเราตั้งอยู่ใกล้ๆ กับพระมหาเจีดีย์ชเวซีโข่ง ซึ่งบรรจุพระบรมสารีกิกธาตุ เป็นอีก 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่านับถือสูงสุด โปรแกรมในวันนี้พวกเราไม่ต้องการอะไรมากแค่อยากไปวัดอนันดา กับดูพระอาทิตย์ตกเหนือทุ่งเจดีย์แค่นี้ก็พอใจแล้ว ___________________________________ ข้อมูลภาพ : พระมหาเจีดีย์ชเวซีโข่ง ซึ่งกำลังบูรณะอยู่ น่าเสียดายจัง ที่นี่เป็นที่ประชุมสวดมนต์และศูนย์กลางพุทธศาสนานิกายเถรวาทในพุกาม และเป็น 1 ใน 5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด....ใช้เลนส์ไวด์มากๆอย่าลืมหาฉากหน้าให้มันบ้างนะครับภาพจะได้ไม่โล่งและขาดจุดสนใจไป แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 51 08:33:51 จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คนขับรถม้าเราชื่อ มอ มอ (Moe Moe) ซึ่งน่าจะมีเชื้อสายอินเดียครับ เพราะหน้าตาออกไปทางอินเดีย หน้าโหดๆหน่อย  สำเนียงภาษาอังกฤษฟังยากเหมือนกัน เราได้รถม้าสองคันสำหรับ 4 คน ม้าที่ผมนั่งชื่อมาดอนน่า ไม่รู้ว่าแกไปรู้จักมาดอนน่าได้อย่างไง จึงเอามาตั้งเป็นชื่อม้า มาดอนน่าเป็นม้าค่อนข้างสมบูรณ์ ตัวใหญ่ และมันก็อึตลอดทางเลยครับ แต่เขาจะมีผ้าขึงไว้สำหรับรองอึม้าไม่ให้ตกลงในถนน สอบถามคุณมอ มอ บอกว่าเป็นปกติของม้าที่ต้องอึตลอดเวลา (แปลกจัง) มาดอนน่าเป็นม้าฉลาดครับ มันวิ่งไปเองโดยที่เจ้าของไม่ต้องสั่ง เหมือนมันเคยวิ่งทุกวันซ้ำๆคงจำได้ว่าต้องไปที่ไหนก่อน คุณมอ มอ จะบังคับเฉพาะตอนให้วิ่งเร็วขึ้น หรือ ให้หลบรถ แต่ถ้ามันได้ยินเสียงรถปกติมันก็เถิบเข้าข้างทางเลยไม่ต้องให้บอก แหม ฉลาดจริงๆ _____________________________________ ข้อมูลภาพ : อีกรูปกับมุมมหาชน แต่ของผมแปลกกว่าใครเพราะมีเสื่อมาห่มรอบๆองค์ เก๋ไปอีกแบบ T T (เด่วปีหน้าไปแก้ตัวใหม่) จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอสายๆหน่อยอากาศเริ่มร้อนครับ แดดแรงจริงๆ เมืองพุกามเป็นที่ราบ และแห้งแล้งมาก หนึ่งปีมีฝนตกไม่กี่ครั้ง แต่มีแม่น้ำอิรวดี เป็นแม่น้ำสายหลัก เป็นแหล่งน้ำให้ชาวพื้นที่ได้ใช้กัน และเนื่องจากฝนไม่ค่อยตก ทำให้เจดีย์กว่า 2,000 องค์ ยังคงสภาพดีเยี่ยม แม้เวลาจะผ่านมาเป็นพันปีแล้วก็ตาม ก่อนหน้าที่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1975 ทำให้เจดีย์หลายๆองค์ต้องพังทลายลงมา ทำให้ในปัจจุบันยังคงเหลืออยู่ประมาณ 2,000 องค์ _____________________________________ ข้อมูลภาพ : พระพุทธรูปศิลปะแบบพุกาม คือตัวจะตันๆและคอสั้นครับ รูปนี้ถ่ายในโบสถ์ ที่มีภาพเขียนอายุร่วม 2,000 ปี ที่นี่ยูเนสโกเข้ามาเป็นผู้ดูแลโดยเฉพาะโดยการนำโครงเหล็กมาค้ำเพดาน เพราะโบสถ์หลังนี้ไม่มีคานครับ คล้ายโดมกลมๆ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วันนี้เราเข้าออกเจดีย์กันเป็นว่าเล่นเลยครับ ตั้งแต่ เจดีย์ที่สวยที่สุด (อนันดากู่พยา) เจดีย์ที่สูงที่สุด (ตั้ดปยิ่นยูพญา) เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด (ดัมมะหยั่นจีกู่พยา) เจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุด (บูพยา โอ้พระเจ้า เก่าแค่ไหนนะเหรอ แค่ประมาณ 2,000 ปีเอง) อะไรๆที่สุดๆ มาดอนน่าก็พาเราไป                ในเจดีย์ที่มีชื่อต่างๆก็จะมีชาวบ้านไปขายของที่ระลึกกัน และก็เด็กตาแป๋วชาวพม่าอีกหลายสิบ มาเสนอขายโปสการ์ดบ้าง รูปปั้นช้างพ่อแม่ลูกบ้าง แต่ละคนเป็นนักขายตัวยง เดินตามแบบไม่ลดละ เลยชื้อโปสการ์ดไปหลายอัน ด้วยความสงสาร แต่ไปอีกเจดีย์ก็เจอมาขายให้อีก บอกว่าชื้อไปแล้ว หนูๆมองดูบอกว่า “Not the same”  แหมฉลาดกันจริงๆ มะเป็นไรช่วยกันกระจายรายได้ หนูๆจะได้มีตังค์ไปกินข้าวกันเพราะตัวผอมกันเหลือเกิน                   บางรายมีโปสการ์ดแบบที่ผมชื้อไปแล้วก็ยังเดินตามไม่ลดละ ด้วยความขยันและอุสสาห์ของหนูๆ ป๋าก็เลยแจกตังค์ซะเลย คราวนี้มากันเป็นพรวน กระโดดขึ้นรถม้าแทบไม่ทัน ไม่รู้มาจากไหนกันเยอะแยะ ถ้ามาพม่าแล้วไม่อยากโดนรุมขายของต้องใจแข็งหน่อยครับ ห้ามชื้อ เขาจะไม่มารุม พอชื้อไปหนึ่งคราวนี้เดินตามไม่ลดละเลย แต่ด้วยความสงสารก็เลยวุ่นวายไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรครับ พอเขาขายของได้เขาก็ยิ้มแค่นี้ผมก็รู้สึกดีแล้ว                   แต่ละเจดีย์ก่อนเข้าต้องถอดรองเท้ากันก่อนครับ เวลาอยากถ่ายรูปเจดีย์รอบนอกบ้างร้อนเท้าน่าดู  แต่ถ้าให้ดีเผื่อใครอยากถ่ายรูปหาถุงพลาสติกพกไปด้วยเอาไว้ใส่รองเท้า รอบนอกเจดีย์เขาให้ใส่รองเท้าได้ครับ _____________________________________ ข้อมูลภาพ : แสงอาทิตย์ทะลุซุ้มหน้าต่างมากระทบกับส่วนด้านในองค์เจดีย์ ภาพแบบนี้ให้วัดแสงเฉพาะจุดตรงแสงที่ตกกระทบครับ และปรับโอเวอร์สัก 1 สตอปเพื่อเปิดรายละเอียดส่วนมืดให้พอเห็นลางๆ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ช่วงบ่ายแดดร้อนแรงจริงๆ เล่นเอาหมดแรง ทำเอาพาลเบื่อเจดีย์กันไปเลยเขาออกไปไม่รู้กี่ที คุณมอ มอ เลยเสนอให้ไปนั่งเรือล่องแม่น้ำอิรวดีเล่น ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วค่อยมารับไปดูพระอาทิตย์ตกอีกที  แม่น้ำอิรวดี หรือที่คนพม่าเรียกกันว่า “เอยาวดี” เป็นแม่น้ำสายหลักไหลมาตั้งแต่ตีนเขาหิมาลัย  เป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่จริงๆ ผมมองผ่านรู้สึกว่ามันกว้างกว่าแม่น้ำโขงบ้านเรามากๆเลย รอบๆตลิ่งก็มีชาวบ้านมาซักผ้ากันบ้าง อาบน้ำ เล่นน้ำ กันบ้าง หรือตอนกลางของแม่น้ำซึ่งเป็นสันดอนก็มีการปลูกพืชผักต่างๆ บรรยากาศดีครับ ผมพัดเย็นๆทำเอาเคลิ้มหลับกันไปเลย ______________________________ ข้อมูลภาพ : โฉมหน้าของน้องม้าคนสวย มาดอนน่า อายุ 7 ขวบ สังเกตุว่าถ้าม้าตัวเมียเขามักนำดอกไม้พลาสติกมาประดับบริเวณหัวน้องม้า ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:17:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ปาดด มั้ยน่ะ ดูยิ่งใหญ่จัง จากคุณ : บ้านพี่เมืองน้อง (SAYPHON) - [ 17 มี.ค. 51 19:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่นานนักเรือก็พามาส่งที่เดิม คุณมอ มอ ก็รออยู่แล้ว เราก็เดินทางไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่เจดีย์ชเวซันดอ ผู้คนเริ่มเยอะขึ้นระหว่างที่รอชมพระอาทิตย์บนฐานบนสุดของเจดีย์ ทางทิศตะวันออก มองไปเห็นที่ราบเมืองพุกาม กับกลุ่มเจดีย์กระจายตัวมากมาย สวยมากๆ สมกับที่รอคอย ทางด้านตะวันตกพระอาทิตย์ยังคงทอแสงแรงกล้าอยู่ คงอีกสักชั่วโมงกว่าจะอ่อนแสงลงเพื่อให้พวกเราได้ชมกัน _______________________________________ ข้อมูลภาพ : หุ่นไม้เป็นอีกของที่ระลึกของพม่าที่มีขายอยู่ทั่วไปตามจุดท่องเที่ยว แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 11:48:44 จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ข้อมูลภาพ : น้องหนูขายโปสการ์ด ยิ้มหน้าบานหลังจากขายได้ 2 พับ กับคุณน้องชายขี้อาย จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ข้อมูลภาพ : เจดีย์สุลามณีพญา เป็นเจดีย์ที่สวยงามอีกแห่งในพุกาม (ขอบคุณคุณหนุ่มเมืองกรุง ที่มาให้ข้อมูล ขอโทษที่ให้ข้อมูลผิดเพราะเข้าออกหลายเจดีย์จนเบลอ แหะๆ) แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 51 13:14:49 จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ข้อมูลภาพ : วัดอนันดา ถือว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในพุกาม เป็นวัดที่คนไทยชอบมากันมากที่สุด อาจเป็นเพราะชื่อที่ฟังง่ายและคุ้นหู แต่ความจริงไม่ใช่หรอกครับ แหะๆ เพราะนี่เป็นวัดที่สวยจริงๆ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ข้อมูลภาพ : พระพุทธรูปไม้ที่อยู่ในวัดอนันดา เมื่อมองจากทางเข้าจะเห็นว่าทรงแย้มสวร แต่พอเดินเข้ามาดูใกล้เหมือนหน้ากลับไม่ยิ้ม ใครได้ไปลองสังเกตดูกันนะครับ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อมูลภาพ : อีกมุมของวัดอนันดา หากวันที่ลมสงบคงเห็นภาพสะท้อนที่สวยกว่านี้ แค่นี้ผมก็รอให้มันสงบกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ลมก็ยังคงพัดเอื้อยๆ น้ำเลยไม่นิ่ง ไม่เป็นไร เด่วคราวหน้ามาอีกที ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:28:48 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขู้อมูลภาพ : คนไหนไทยคนไหนพม่าดูกันเอาเองนะครับ แหะๆ ทุกคนเป็นมิตรมากครับยิ้มแย้มแจ่มใส ภาพนี้ถ่ายก่อนเราขึ้นไปบนเจดีย์เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดินกัน ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ข้อมูลภาพ : อีกมุมมหาชน ถ่ายบนเจดีย์ระหว่างรอพระอาทิตย์ตกครับ เจดีย์ชื่ออะไรไม่ทราบเหมือนกันเพราะไม่ได้ไป รู้สึกว่าอยู่ค่อนข้างไกล แต่มองดูแล้วสวยมากครับ ภาพนี้ไม่ค่อยชัดอีกละเพราะใช้เทเลถ่ายด้วยมือเช่นเคย จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ข้อมูลภาพ : ภาพแบบนี้ละครับที่อยากเห็นกับตา และแล้วก็ได้เห็นซะที สวยงามมากๆ ลมก็เย็นๆบนเจดีย์ มีความสุขจริงจิ้ง จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลมเย็นๆโชยผ่านมาระหว่างที่เรานั่งหลบแดดกันด้านทิศตะวันออก ไม่นานนักก็ย้ายฝั่งกันไปด้านทิศตะวันตกรอพระอาทิตย์จมหายไปกับภาพเจดีย์ และแม่น้ำอิรวดี กลุ่มทัวร์คนไทยสูงอายุอีกเช่นเคยพูดภาษาไทยกันเจื้อยแจ้ว คุณย่าคุณยาย เริ่มร้องเพลงอะไรสักอย่างเกี่ยวกับแม่น้ำอริวดี เป็นเพลงเก่าๆ แต่ช่างเข้ากับบรรยากาศ สักพักก็ได้พูดคุยกัน คุณยายบอกว่าเป็นกลุ่ม สว. มาเที่ยวกัน ครั้งนี้คงกลับไปเลือก สว.ไม่ทัน เราก็ทำหน้างงๆ คุณยายเลยเฉลยว่า เป็นกลุ่มสูงวัย นะ ^^            พระอาทิตย์ตกวันนี้สวยมากจริงๆ ดวงกลมโต สมกับที่รอคอย ได้แต่บอกกับเพื่อนว่าทำอย่างไงถึงถ่ายภาพให้ได้ตามความรู้สึกตอนนี้จริงๆ มันยากมากๆเลย ไม่เป็นไรมองด้วยตาและเก็บไว้ในความทรงจำก็ได้ และจะผมจะไม่ลืมวันนี้เลย.................... ปล.พระอาทิตย์เริ่มอ่อนแสงลงแล้วครับ ใช้ ISO สูงช่วยเพื่อให้ถ่ายด้วยมือได้ แต่ได้ภาพที่ไม่ค่อยเนียนครับ ความสามารถกล้องไม่ถึง กลับไปคงต้องถอยรุ่นใหม่ (เอาตังค์ที่ไหนละเนี่ย T T) คนบนเจดีย์ค่อนข้างเยอะทำให้ใช้ขาตั้งไม่ถนัด เกะกะชาวบ้านเค้า จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ข้อมูลภาพ : อีกมุมกับเมืองพุกามตอนพระอาทิตย์กำลังตก จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:38:02 ]

ความคิดเห็นที่ 28 วันที 4 “3 มีนาคม 2551”  อินเลแดนในฝัน เมื่อคืนนอนหลับเป็นตายเลย ก็เมื่อวานนอนหลับๆตื่นๆบนรถนี่นา เช้านี้ต้องอำลาเมืองพุกามซะแล้ว ในใจคิดว่าต้องกลับมาอีกครั้งแน่ๆ เพราะพระมหาเจีดีย์ชเวซีโข่ง ก็กำลังซ่อมอยู่เลยไม่ได้รูปดั่งใจนึก แถมไม่ค่อยได้ซึมทราบความสวยงามของเหล่าเจดีย์ต่างๆเลย มั่วแต่วุ่นวายอยู่กับแก็งค์เด็กขายโปสการ์ด  อาทิตย์ขึ้นก็ยังไม่ได้เห็นแบบเต็มตา ไว้ปีหน้าจะมาอยู่สักสองสามวัน อยากขี่จักรยานไปรอบๆเมืองเก่าด้วย เอาให้เต็มปอดไปเลย _______________________________ ข้อมูลภาพ : แสงสุดท้ายที่พุกาม สุดท้ายแล้วครับสำหรับเมืองพุกาม เป็นวันที่ดีมากๆเลย เหมือนที่คิดไว้ก่อนมาก จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 29 วันนี้เครื่องบินแอร์บากันออกประมาณ 7 โมงครึ่ง คุณมอ มอ มารอแต่เช้า สนามบินยองอู อยู่ไม่ไกลจากที่พักนัก นั่งรถม้าประมาณ 20 นาทีก็ถึง  ก็ล่ำลาคุณมอ มอ และหนูมาดอนน่าเป็นที่เรียบร้อย...เอาละ อินเล อีก ไม่เกินชั่วโมงก็ถึงแล้ว สำหรับการไปทะเลสาบอินเลจากพุกาม ค่อนข้างลำบากถ้าไปด้วยรถ คือรถประจำทางไม่มี ต้องจ้างแท็กซี่ หรือด้วยเครื่องบินเท่านั้น ด้วยเหตุค่าแท็กซี่กับค่าเครื่องบินไม่ได้ต่างกันมากจึงเลือกนั่งเครื่อง อีกอย่างถ้านั่งรถต้องใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง และต้องนั่งไปตอนกลางวันเท่านั้น เครื่องบินเหินฟ้า ไปได้ไม่กี่อึดใจ ล้อเครื่องบินก็แตะพื้นรันเวย์ที่สนามบินเฮโฮ แล้ว แหมเร็วจริงๆ ถ้านั่งรถมา คงหัวแดงอยู่บนรถไม่ถึงไหน หลังจากนั้นก็ไปรับสัมภาระ และไม่ลืมที่จะรีคอนเฟริม์ตั๋วเครื่องบินที่จะไปมัณฑะเลย์ ในอีกสองวันข้างหน้า ข้อมูลภาพ : วัดแห่งหนึ่งระหว่างปั่นจักรยานหาทางไปทะเลสาบอินเล กำลังก่อสร้างใหม่เลยครับ สีสันสดใสดี เหมือนเคยจ่อๆเข้าไว้ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สนามบินยองอู อยู่หางจากเมืองหญ่าวเฉว่ ประมาณ 35 กิโลเมตร รถที่โรงแรมมารอรับแล้ว จากการที่สำนักงานคุณฟิ้วติดต่อไว้ ทำให้ค่อนข้างสะดวกไม่ต้องเรียกรถจากสนามบินไปเอง และจะแพงมากกว่า รถขับผ่านหุบเขาไต่ละระดับลงมาบนพื้นราบด้านล่างได้ไม่นานก็ถึงด่านก่อนเข้าเมืองหญ่าวเฉว่ และเราต้องเสีย Zone Fee ที่นี่อีกคนละ 3 ดอลลาห์  เมืองหญ่าวเฉว่เป็นหน้าด่านสำหรับการท่องเที่ยวทะเลสาบอินเล นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมารวมกันอยู่ที่นี่ เกสเฮ้าส์ ห้องพัก และโรงแรมมีมากมายเลยครับ แต่ผมว่านักท่องเที่ยวค่อนข้างบางตา หรือพวกเขาอาจไปพักรีสอร์ทหรู ริมทะเลสาบหมดก็เป็นไปได้ เพราะมองไปมองมาแทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวเลย  ที่พักก็พอใช้ได้ครับ ไม่แพงมากอีกเช่นกัน ข้อมูลภาพ : ปั่นจักรยานเพื่อไปหมู่บ้านแมน ทอค กันน่องโตเลยครับ แต่ระหว่างทางก็ได้เห็นการประกอบอาชีพหลายแบบของชาวอินตา ทั้งทำไร่อ้อยบ้าง ข้าวโพดบ้าง บ้านแต่ละหลังก็ดูแปลกตาดีครับ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:45:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เราจะพักอยู่ที่อินเล 2 คืน วันแรกที่ไปถึง ด้วยความอยากเห็นทะเลสาบเราก็ดุ่ยๆ หาจักรยานเช่าปั่นออกไปเที่ยวกันเลย ปั่นไปปั่นมาไม่เห็นทะเลสาบซะที เจอแหม่คนหนึ่งเลยสอบถามไป แหม่บอกว่าต้องนั่งเรือออกไปสถานเดียว หรือปั่นจักรยานออกไปแบบไกลมากๆ จริงๆแล้วไปสอบถามบริษัททัวร์เหมือนกัน แต่สำเนียงภาษาฟังไม่คุ้นหู จับใจความได้นิดหน่อย สุดท้ายคงต้องพึ่งคู่มือท่องเที่ยวเลยปั่นจักรยนต์กลับไปเอา Lonely Planet ที่โรงแรม นอนเอาแรงอีกหน่อย บ่ายโมงก็ปั่นกันออกไปใหม่               จุดหมายเราคราวนี้อยู่ที่หมู่บ้าน Maing Thaug ออกเสียงประมาณ “แมน ทอค” อ่านใน Lonely Planet ได้ความว่าเป็นหมู่บ้านกลางน้ำแต่เชื่อมด้วยสะพานไม้จากฝั่งยาวประมาณ 500 เมตร ดูในแผนที่มีทางให้ปั่นจักรยานกันไปได้ เลยชักชวนเพื่อนๆปั่นกันไป หารู้ไม่ว่าโคตะระ ไกล ปั่นกันไปเรื่อยๆ เจอชาวบ้านก็ถาม “แมน ทอคๆ” ชาวบ้านก็ยิ้ม และชี้มือไปข้างหน้า แหม ถามกันไป 10 กว่าคนแล้วยังชี้มือไปข้างหน้าอีก เมื่อไรจะถึงละเนี่ย  อาการล้าจากการเดินขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนยังมีผลอยู่ เหนื่อยเป็นบ้าเลย ระหว่างทางมีรีสอร์ทสวยๆ น่าจะ 2 แห่ง ก่อนถึงหมู่บ้าน อยู่ริมทะเลสาบเลย แต่คงแพงหน้าดู เพราะดูหรูหราไฮโซมั่กๆ _______________________________ ข้อมูลภาพ : บ้านเราก็มีเนอะ แต่พอดีภาพนี้จังหวะค่อนข้างดีเลยเอามาลง ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:48:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ก่อนหน้านี้ปั่นจักรยานหลงเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ไอ้เราก็ปั่นนำหน้าเพื่อนๆไป หันกลับมาไม่เห็นมีใครตามมาซักที เลยปั่นกลับไปดู เห็นทั้งไทยทั้งพม่ากำลังมุงดูจักรยาน สรุปว่ายางแบน ลิ้นไก่ขาด คุณลุงชาวพม่าก็หาลิ้นไก่มาใส่ให้ใหม่จนสามารถสูบยางได้ เลยขอบคุณคุณลุงเป็นการใหญ่ ได้คุยกันซักพักคุณลุงมีเรือที่จะพาไปทัวร์เต็มวันในวันพรุ่งนี้ก็เลยนัดซะเลยว่าจะปั่นจักรยานกันมาหาลุงที่บ้าน และให้แกพาเที่ยว ตอบแทนน้ำใจแกซะหน่อย....เออ คนพม่าจะเรียกคนไทยว่า พวกโยยา หรือ อยุธยานั้นเอง...                    ปั่นกันตั้งแต่บ่ายโมง น่าจะเกินชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึง ระยะทางน่าจะเกิน 10 กิโลเมตรนะเนี่ย แต่พอถึงอาการเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง สวยมากๆเลย ฉากหน้าคือทะเลสาบ อีกฝั่งเป็นภูเขา เหมือนเคยได้เห็นภาพแบบนี้ที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก และได้เห็นชาวประมงเอาขาพายเรือเป็นครั้งแรก ดูช่างเท่ซะเหลือเกิน   ______________________________ ข้อมูลภาพ : ภาพนี้ละครับที่อยากเห็น ฉากหลังที่เป็นภูเขากับน้ำใสๆ ชาวประมงกับวิธีการพายเรืออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวอินตา แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 12:54:48 จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ทะเลสาบอินเล เป็นทะเลสาบ น้ำจืดขนาด 158 ตารางกิโลเมตร (นั้นสิปั่นกันมาได้ยังไงเนี่ยตู = =!) เป็นทะเลสาบที่ไม่ลึก จุดที่ลึกที่สุดแค่ 3 เมตรเอง ทำให้มีพืชน้ำขึ้นอยู่เต็มทะเลสาบ โดยความที่แสงอาทิตย์สามารถส่องถึงพื้นทะเลสาบ ทำให้พวกพืชน้ำสามารถสังเคราะห์แสงเติบโตกันได้อย่างดี ชาวพื้นเมืองมีชื่อเรียกว่า ชาวอินตา มีอาชีพหลักคือหาประมง และปลูกผัก ดอกไม้บนน้ำ และเอกลักษณ์อันสำคัญคือการพายเรือด้วยขา                  พืชผักที่ปลูกกันมากที่สุดคือมะเขือเทศ  โดยการนำเอาสาหร่าย ผักตบชวา มาพันให้เป็นก้อนลอยน้ำ และโกยเอาดินในทะเลสาบมาโปะด้านบน เอาไม่ไผ่มาปักไม่ให้มันลอยไหน ตอนปลูกก็พายเรือมาปลูก แหมเท่ซะจริง น้ำก็ไม่ต้องรดเพราะปลูกลอยอยู่บนน้ำ คอยมาเก็บเกี่ยวกันอย่างเดียว ผมว่าพืชออแกนนิก น่าจะมาจากที่นี่แน่ๆเลย ^^ ___________________________________ ข้อมูลภาพ : ร้านอาหารเล็กๆที่ผมและเพื่อนๆไปทานข้าวกัน ^^ นั่งทานข้าวไป มองวิวไป อิ่มใจจริงๆ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 19:52:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 พอถึงสะพานไม้พวกเราก็จูงจักรยานขึ้นสะพานเดินไปเรื่อยๆ อากาศเย็นๆ แต่พอสุดสะพานก็ไหนต่อไม่ได้แล้วเพราะถ้าจะเข้าหมู่บ้านต้องมีเรือพาไปเท่านั้น เราก็เลยนั่งพักชมวิวกันที่ศาลา ไม่นานนักก็มีหนุ่มพม่าคนหนึ่งเข้ามาคุยด้วย บอกว่าเขามีร้านอาหาร แบบทำกันในครอบครัว มีโต๊ะเตี้ยอยู่ตัวกับเก้าอี้ 4 ตัว ตัวบ้านปลูกอยู่บนน้ำ วิวดีมากๆเลย อาหารมื้อนั้นก็อร่อยมาก จริงๆแล้วก็ดูธรรมดา เพราะเป็นปลาทอดแบบจืดๆ กับสลัดมะเขือเทศ แต่บรรยากาศดีเลยกินกันอย่างเอร็ดอร่อย พออิ่มกันแล้วหนุ่มพม่าก็เสนอร่องเรือรอบหมู่บ้านพร้อมกับพาไปชมพระอาทิตย์ตก ตามระเบียบครับพวกเราก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ตัวหมู่บ้านทั้งหมดตั้งอยู่บนทะเสลาป ผู้คนดูเป็นมิตร โบกไม้โบกมือ เด็กพูด ฮัลโล ฮัลโล กันตลอดทาง              หนุ่มพม่าบอกกับเราว่าอยากไปทำงานอยู่กรุงเทพ ลุงเขาก็อยู่กรุงเทพ ผมได้แต่ยิ้ม คิดในใจว่าคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า ไม่รู้ว่าเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าผมอยากให้ที่นี่เป็นอย่างนี้ตลอดไป มีแต่ธรรมชาติที่สวยงาม ถ้าไม่มีที่แบบนี้ในพม่าผมก็คงไม่ดั้นด้นมาหรอก เขาสามารถหาประโยชน์จากธรรมชาติที่เขามีอยู่ได้ เช่นการเริ่มทำร้านอาหารเล็กๆก็ดีแล้ว และเผื่อจะทำโฮมสเตย์ อีกก็คงเข้าท่า แค่พยายามรักษาทะเลสาบของพวกเขาให้สวยงามตลอดไปแค่นี้คนก็แวะเวียนมาเที่ยวกันตลอดละครับ _______________________________________ ปล.อาหารมื้ออร่อย ดูธรรมดามาก แต่ก็อร่อยมากครับ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวยงามมากๆ... ขอบคุณ... ที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้วิจิตรบรรจงจริงๆ... เพลงฝีมือยังคงเหมือนเดิม...^^ ติดตามอยู่นะครับ... ----- ขออภัยที่เข้ามาปาดด ขอรับ...*_* ---เพิ่มเติมข้อความ--- แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 51 20:11:28 จากคุณ : โปติ่น - [ 17 มี.ค. 51 20:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36 พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว พี่ที่มาด้วยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล ว่าเราต้องปั่นจักรยานกลับกันหรือเปล่า แต่พ่อหนุ่มพม่าเสนอให้จ้างเรือไปส่งที่ตลาดแทน ด้วยความที่พี่เขาเมื่อยมากก็เลยตกลงไป เรือขับผ่านทะเลสาบ อากาศเริ่มเย็น มองท้องฟ้าด้านบนดวงดาวระยิบอยู่เชียว......กลับมาถึงตลาดก็หาร้านอาหารกินกัน และก็เข้านอนกันตามระเบียบ คืนนี้อากาศเย็นดีครับ นอนห่มผ้าแบบสบายๆเลย                ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่ในหุบเขามีภูเขาขนาบอยู่ทั้งสองด้าน ทำให้อากาศเย็นทั้งปี เหมาะกับการมาพักผ่อนมาก หากมีเวลาน่าจะมาอยู่กันซักอาทิตย์ เพราะยังมีอีกหลายจุดที่ผมอยากไปถ่ายรูปแต่ก็ไม่ได้ไป....... ______________________________________________ ข้อมูลภาพ : ระหว่างรอพระอาทิตย์ตก หนุ่มน้อยพายเรือเล่นกับกลุ่มเพื่อนๆผ่านมา หยุดมองคนแปลกหน้าแว้บหนึ่ง ก่อนพายเรือตามเพื่อนๆไป จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ข้อมูลภาพ : อาทิตย์ตกที่อินเลครับ เป็นภาพสุดท้ายก่อนกลับไปพัก เป็นวันที่ต้องจำไปอีกนาน จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ประมาณ 7 โมงหน่อยๆ เพื่อนๆก็มากันครบ เราก็นั่งเรือออกไปเที่ยวกัน เรือเป็นเรือหางยาว มีที่นั่งบนเรือกะเบาะนุ่มๆ นั่งสบายดีครับ ไม่นานเรือก็ลัดเลาะคลองและออกไปสู่ทะเลสาบ แดดอ่อนๆยามเช้า กับอากาศเย็นๆ พร้อมกับภาพชาวประมงกับอุปกรณ์หาปลาที่เคยเห็นใน Painaima.com ได้เห็นกับตาจริงๆเสียที อากาศตอนเช้าเย็นมากๆเลยครับ ยิ่งเรือขับผ่าลมไป ต้องหยิบผ้าพันคอมาพันไว้สักหน่อย น้ำที่นี่ใสมากจริงๆครับเป็นเพราะมีสาหร่ายชนิดต่างๆเยอะทำให้ตะกอนดินไม่สามารถขึ้นมาได้ มองดูเห็นปลาเล็กปลาน้อยว่ายวนกันเต็มไปหมด __________________________________ ข้อมูลภาพ : ระหว่างรอเพื่อนๆ กับแสงสวยๆตอนเจ็ดโมงเช้า กับชาวบ้านที่กำลังวิดน้ำเข้านาตัวเอง จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ด้านข้างออกสักยี่สิบเมตรเห็น เรือหางยาวอีกลำขับตามมากับนักท่องเที่ยวสาวๆ 2 คนกำลังเพลิดเพลินในการให้อาหารนกนางนวลที่บินตามเรือมาโฉบเอาเศษขนมปัง ที่สองสาวโปรยขึ้นฟ้า ไอ้เรือเราก็เอามั้ง เม็ดก๊วยจี่เลยครับ หว่านขึ้นท้องฟ้าไม่นาน  นกก็เปลี่ยนจุดหมายมาเรือเราบ้าง ผมก็เพลินถ่ายรูปสนุกไปเลย ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง น้องนกก็แสนเก่งโฉบเอาเม็ดก๊วยจี่ไปแทะได้ แหะๆ _______________________________________ ข้อมูลภาพ : อีกหนึ่งมุมระหว่างรอเพื่อนๆตามมาเจอที่บ้านลุง ถ้าอยากได้ภาพประมาณนี้อาจต้องตื่นเช้ากันหน่อย แดดประมาณ 7 โมงเช้า จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ข้อมูลภาพ : อีกรูปกับการรอจังหวะให้มีใครซักคนขึ้นสะพานมา จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:21:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ข้อมูลภาพ : ระหว่างนั่งเรือออกมาตามคลองเพื่อไปทะเลสาบอินเล เห็นชาวอินตาเถินของด้วยหัว เป็นอีกเอกลักษณ์หนึ่งของชาวพม่า ภาพไม่ค่อยชัดครับเพราะนั่งบนเรือ แม้ว่าความเร็วชัตเตอร์จะค่อนข้างสูงแต่ก็ไม่ช่วยสักเท่าไหร่ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ข้อมูลภาพ : อันนี้ภูมิใจเสนอจริงๆ ^^ กับมาดเท่ๆของน้องหนูที่พายเรือด้วยขาออกไปหาปลากับน้องตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านหลังเรือ สมกับเป็นลูกชาวเล (ทะเลสาบ ^^) จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ข้อมูลภาพ : พอพ้นออกจากคลองมาก็เห็นภาพแบบนี้อยู่เรื่อยๆเลยครับ กดซัตเตอร์ไม่ยั้งเหมือนกัน แหะๆ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ต่อเนื่องไปเลยนะครับ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบภาพนี้ที่สุดเลย ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ข้อมูลภาพ : เหล่านกนางนวลที่บินตามเรือมากำลังแทะเม็ดก็วยจี่อยู่ ฮา จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ดูกันแบบชัดๆ ว่าใช่นกนางนวลหรือเปล่า จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อีกซักรูป จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จุดหมายแรกของเราวันนี้คือตลาดน้ำดำเนินสะดวก ไม่ช่ายใน Lonely Planet เขาเรียกตรงตัวเลยว่า Floating Market จุดเด่นบอกไว้ว่า “ตลาดน้ำเต็มไปด้วยคนขายของนานาชนิดแต่มีคนชื้ออยู่แค่หยิบมือ !!” และก็เป็นอย่างที่เค้าว่าละครับ ระหว่างเรือเลี้ยวเข้าคลองเพื่อเข้าตลาดน้ำเหล่านักขายของก็พายเรือเข้ามาเกาะเรือเรา เรื่อเราก็ลากเหล่าพ่อค้าแม่ค้าไปตามกระแสน้ำด้วย มีของขายนานาชนิด ตั้งแต่เครื่องประดับต่างๆ ผักผลไม้ ดอกไม้ พระพุทธรูปแกะด้วยไม้ และ   คัมภีร์ใบลานอันเล็กเท่าผ่ามือที่สะดุดตามผมมากเลย เลยสอบถามราคาไป เค้าก็เอากระดาษเขียนจำนวนเงินเป็นตัวเลขเทียบเท่าดอลลาห์ขึ้นมา ใช้นิ้วไล่ไปหยุด อยู่ที่ 30 ดอลลาห์ o_O  หูยยย กะให้อยู่ในพม่าตลอดชีพเลยเหรอครับ ไม่เอาหรอกครับ ไม่กล้าต่อด้วย เขาก็บอกจะเอาเท่าไหร่ละ จะต่อเหลือ 3 ดอลลาห์ก็เกรงใจ = = ! _______________________________________ ข้อมูลภาพ : แม่ค้าดอกไม้ที่ตลาดน้ำครับ เราได้ชื้อดอกไม้เพื่อไปไหว้พระที่วัดใกล้ด้วย ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 50 พอผ่านตลาดน้ำคนขับเรือก็พาวนมาขึ้นบนบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งซึ่งขายของหลากหลายชนิด แต่ราคาโหดร้ายสำหรับผมซะเหลือเกิน ได้แต่มองๆ ถ่ายรูปมานิดหน่อย ดูๆแล้วก็สวยดีนะแต่ราคาซื้อไม่ลงจริงๆ ______________________________________ ข้อมูลภาพ : พนักงานต้อนรับหน้าร้านขายของ ยืนโพสต์ท่าให้เหล่าฝรั่งและคนไทยได้ถ่ายรูป จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ข้อมูลภาพ : นี่ละครับที่อยากได้แต่แพงใช่เล่น ถ่ายรูปกลับมาก็ได้ รูปนี้ถ่ายแบบใช่ช่วงความชัดตื้นของเลนส์ให้เน้นพระรูปกลาง จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 52 โฉมหน้าตลาดน้ำ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ของที่ระลึก นี่ก็อยากได้ สวยดี จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พวกเราก็เลยเดินเลาะๆไปด้านหลังบ้านก็ไปเจอกะตลาดน้ำเมื้อกี้ เห็นตลาดสดกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากับวัดหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลเลยเดินไปดูชะหน่อย ตลาดคึกคักดีครับที่นี่เขายังใช้เครื่องตวงวัดด้วยหินอยู่เลย คลาสสิกจริงๆ เดินเล่นอยู่ไม่นานก็มีคุณป้าพม่าคนหนึ่งมาเสนอขายสร้อยหินสี บอกราคามาที่ 12 ดอลลาห์ อุ้ยถูกกว่าคัมภีร์ใบลานตั้งแยะ แถมดูดีมีราคา คิดถึงแม่เลยกะชื้อไปฝาก ต่อราคาซะหน่อยได้ที่ 10 ดอลลาห์ คุณป้าแกก็หน้าบานเลยเดินยิ้มแป้นจากไป สักพักแม่ค้าขายสร้อยก็มารุมพวกเรา ด้วยความรำคาญเลยเดินหนีไปที่วัด ยิ่งเดินไปราคายิ่งถูกลง สรุปว่าสร้อยที่ผมชื้อไปนั้น ราคาสุดท้ายที่แม่ค้าเคาะคือ 4 ดอลลาห์ โอ้พระเจ้า ถูกโขกซะแล้วตู แม่ค้ายังไม่ยอมแพ้ ไปรออยู่ที่ศาลาวัดเลย ___________________________________ ข้อมูลภาพ : อันนี้ตลาดสดครับ มีแต่ชาวบ้านมาเดินกัน ฝรั่งไม่ยอมมาอยู่แต่ในร้านขายที่ระลึก จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 55 บนศาลาเณรกำลังท่องพระคัมภีร์กันอยู่ ฟังๆดูเหมือนตะโกนแข่งกันอย่างไงก็ไม่รู้ ยิ่งเณรรูปอื่นสวดดังเท่าไหร่ อีกรูปก็ยิ่งตะเบ่งเสียงแข่ง มันอาจเป็นวิธีการที่ทำให้จำง่ายขึ้นละมั่ง  บนศาลาเจอคุณลุงคนหนึ่งเห็นเราถือกล้องเลยเชื้อเชิญให้ไปถ่ายรูปเณรบ้าง พระบ้าง ห้องนอนเณรบ้าง ตู้พระคัมภีร์บ้าง แหมเราก็เอาซะเต็มที่เลย พอจะกลับออกไปลุกแกก็ชี้ไปที่ตู้บริจาค โอเคทำบุญ เลยหยอดตังค์ไปแกก็มองใหญ่ว่าใส่กี่แบงค์ พอทำบุญเสร็จก็จะเดินออกไปลุงแกก็สะกิดประมาณว่าค่าน้ำร้อนน้ำชาแกละ = = ! โอเค จัดให้ แหมช่างเป็นธุรกิจเสียจริงๆ  พอออกมาจากศาลาวัด ก็เจอแม่ค้านั่งรอยิ้มแป้นอยู่  พอเดินลงมาแม่ค้าก็เดินตามอย่างไม่ลดละ เดินข้ามสะพานไม้ไผ่ แม่ค้าก็ตามมาด้วย ปะกลับกรุงเทพด้วยกันเลยดีกว่า.................. ___________________________________ ข้อมูลภาพ : บนศาลาค่อนข้างเย็น เณรก็กำลังขยันท่องตำราอยู่ สภาพแสงสำหรับรูปนี้เหมือนตาเห็น คือค่อนข้างมืดในศาลาเพราะไม่ได้เปิดไฟ ชัตเตอร์ต่ำมาก ไม่ได้ใช้ขาอีกเช่นเคย ล้อ ISO เพียวอีกละ แต่รูปแนวนี้มีเกรนบ้างก็ดูสวยดีนะ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อีกรูป จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ข้อมูลภาพ : ระหว่างทานข้าวเที่ยงและก่อนไปวัดผ่าตองอู เรือกำลังเทียบท่าจอดที่ร้านอาหาร จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 58 หลังจากนั้นก็ไปแวะวัดผ่าตองอู ซึ่งประดิษฐานพระบัวเข็มอันศักดิ์สิทธิ 5 องค์ พระบัวเข็มมีลักษณะคล้ายลูกบอลอันเนื่องมาจากที่ชาวอินตาปิดทองจนกลมเหมือนลูกบอล แทบดูไม่ออกเลยว่าเคยเป็นพระพุทธรูปมาก่อน ประวัติของพระทั้ง 5 องค์นี้ก็แสนน่าสนใจผสมกับอิทธิปาฏิหาริย์ ประมาณว่า...แหะๆ หมดสต็อกแล้วครับไว้เจอกันตอนสอง ตอนหน้าผมมีเรื่องตื้นเต้นมาเล่าให้ฟังด้วย น่ากลัวมั้กๆ บรื้อ O_O _____________________________________________ ข้อมูลภาพ : วัดผ่าตองอู จากมุมที่จอดเรือ โหยกว่าจะหมด Part 1 เกือบ 3 ชั่วโมงแนะ ปาดเหงื่อเลยเรา ต้องขออภัยด้วยถ้าทำให้โหลดช้า ถ้าใครโหลดช้ามากบอกกันด้วยนะครับ กระทู้หน้าจะได้ไม่อัดเอาซะขนาดนี้ และต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติชม ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : splitney - [ 17 มี.ค. 51 20:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สุดยอดเลยครับท่านสวยทุกรูปเลย  แสง เงา มุมกล้อง โอ้วววววว รูปเจดีย์กับปราสาทที่ถ่ายจากมุมสูงดูอลังการมาก เห็นแล้วอยากไปเที่ยวมั่ง ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ดีมั้ยเนี่ย 555 จากคุณ : ปีศาจแดง007 - [ 17 มี.ค. 51 21:34:31 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สวยจังเลยค่ะ ^^ จากคุณ : printcess of the moon - [ 17 มี.ค. 51 21:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สวยมากค่ะ เห็นแล้วอยากไปเลยโดยเฉพาะพระธาตุอินทร์แขวน อิจฉาคนได้เที่ยว แต่ก็ดีใจที่ได้ดูรูปสวยๆ เหมือนได้ไปเที่ยวเอง เที่ยวผ่านรูป และตัวอักษร จากคุณ : nu_ninny - [ 17 มี.ค. 51 22:18:16 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สวยงามอลังการมากค่ะ ทั้งภาพเจดีย์ ภาพพระอาทิตย็ขึ้นตก ภาพวิถีชีวิตผู้คน สวยงามมีชีวิตชีวามากค่ะ ชอบๆๆ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน - [ 17 มี.ค. 51 22:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 63 รูปสวยคมชัดมากๆ ชอบสีท้องฟ้ามากๆครับ จากคุณ : bigwores - [ 17 มี.ค. 51 22:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สวยมากครับ เป้นอีกประเทศที่อยากไปมากๆครับ จากคุณ : mOm1 - [ 18 มี.ค. 51 01:10:27 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ชอบรูปใน คห 25 มาก ๆ เลยครับ อย่างกับเจออาณาจักรโบราณซะงั้น ดูยิ่งใหญ่ อลังการดี ชอบคำบรรยายของคุณ splitney จริง ๆ อ่านเพลินดีแท้ ^^ จากคุณ : เซโก้4 - [ 18 มี.ค. 51 04:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 66 งามมากเลยค่ะ เห็นแล้วอยากไปเที้ยวบ้างจังเลย(สงสัยคงต้องรอให้เรียนจบ ทำงาน แล้วจะเก็บตังไปเที้ยว) พอถึงเวลานั้นไม่รู้จะยังสวยแบบนี้อยู่มั้ย? จากคุณ : หลานสาวชาวนา - [ 18 มี.ค. 51 05:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตามไปเที่ยวสนุกด้วยคน ภาพสวยมากครับ จากคุณ : tthanes - [ 18 มี.ค. 51 06:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ตามไปเที่ยวพม่าด้วยคน  งามสวยเต็มๆตาดีค่ะ จากคุณ : sky map (sky map) - [ 18 มี.ค. 51 07:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 69 พม่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่อยากไป แต่ยังไม่มีโอกาสไปสักที เล่นเรียกให้มาดูแบบนี้ กระตุกต่อมอยากอย่างแรง อิอิ ภาพสวยจัง   แหมเล่นไปตั้ง 10 วันเชียวหรอ เป็นย่าโดนไล่ออกจากงานแหง๋ม จากคุณ : ดา ดา - [ 18 มี.ค. 51 07:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ภาพสวยและเรื่องราวที่ถ่ายทอดมาเหมือนได้ไปเที่ยวเองเลยค่ะ... ขอบคุณนะคะที่นำรูปสวยๆ มาให้ชม.. จากคุณ : แฮมชีส - [ 18 มี.ค. 51 08:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณแบงค์นับวันฝีมือจะพัฒนาจนเข้าใกล้คำว่า "โปร"ไปทุกทีแล้วครับ เห็นแต่ละครั้งมีแต่ภาพสวยๆ นอกจากภาพสวย ๆ แล้วยังมีคำอธิบายได้ละเอียดจนผมคิดว่าเอาไปเขียนหนังสือได้เลยนะนี่  ถ้ามีโอกาสผมก็อยากไปด้วยจังเลย แต่ยังไงผมจะหาเวลาไปแบบนี้ได้นะ ขอบคุณสำหรับภาพสวย ๆ และคำบรรยายภาพที่ละเอียดจนคิดว่าแม้ไปเที่ยวด้วยตัวเองก็คงไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ขนาดนี้แน่ ๆ จากคุณ : ปีศาจเกินร้อย - [ 18 มี.ค. 51 09:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 72 หูยยยยยยยยยยย !!!!!! ตะลึง !! อ่านหลังJมค์ ใครหว่า ชื่อไม่คุ้น ((ความจำไม่ค่อยดีอ่ะค่ะ เจอะใครก็เพื่อนใหม่หมด 555 )) พอคลิกเข้ามาดู โอ้โห สวยจัง อิอิ ขอบคุณนะคะ (( ที่พามาเที่ยวทริปนี้ด้วย )) ได้ทั้งภาพ อิ่มทั้งเรื่องราว วันนี้ถือว่ากำไรงามแต่เช้าเลย  ^^ . จากคุณ : หม๋องแหม๋ง - [ 18 มี.ค. 51 10:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 18 มี.ค. 51 10:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ภาพสวยงาม น่าเลื่อมใส น่าไปเที่ยวกราบไหว้พระค่ะ ชอบชาวเรือที่เค้าเอาขาข้างหนึ่งพายเรือ ดูทะมัดทะแมงดี ขอบคุณมากนะคะที่เอาภาพสวยงาม และเรื่องราวดี ๆ มาบอกค่ะ จากคุณ : บัวนลิน - [ 18 มี.ค. 51 11:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อิ่ม กับธรรมชาติ วัฒธรรม และชนบท เดินตาม ชมเพลินไปเลย ค่ะ จากคุณ : siansian (siansian) - [ 18 มี.ค. 51 11:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ภาพสวยมากครับ โดยเฉพาะภาพใน คห 25 เรื่องราวก็ถ่ายทอดได้ดีมากครับ ชอบครับ ชอบมาก แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 51 12:17:20 จากคุณ : จังเกิ้ล - [ 18 มี.ค. 51 12:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ไม่รู้จะบอกยังไงดี งามมากๆๆๆๆๆทุกๆภาพเลย เนื้อหาก็เยี่ยม จากคุณ : Iron Eagles - [ 18 มี.ค. 51 12:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตามมาชมครับ ชื่นชมๆ ถ่ายสวย เรื่องดี น่าไปเที่ยว มากครับ จากคุณ : koontuch - [ 18 มี.ค. 51 13:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แจ่มดีครับ สวยทุกรูปเลยครับ เห็นรูปแล้วอยากไปพุกามบ้างจังครับ จากคุณ : polscicmu - [ 18 มี.ค. 51 14:39:38 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ภาพสวยมากครับ จากคุณ : Minds For The Future - [ 18 มี.ค. 51 15:50:42 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ออกจากตลาดหุ้น  มึนๆๆเจอหลังไมค์  แค่เปิดชีวิตก็เปลี่ยนสุดยอดความสุขที่มาถูกที่  ถูกคน  ถูกเวลาชอบทริปนี้มากกกก  ขอบคุณที่คิดถึงกันขอบคุณจริงๆๆค่ะ....... จากคุณ : heartshape - [ 18 มี.ค. 51 17:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆนะคะ :) จากคุณ : ทอฝัน...ในวันเหงา - [ 18 มี.ค. 51 18:43:19 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตามมาดูแล้วนะครับ ภาพสวยมากๆ    ชอบๆ เลนส์ไวด์นี่ให้อารมณ์อลังการจริงๆ จากคุณ : ข้าวเหนียวไก่ทอด - [ 18 มี.ค. 51 20:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สวยมากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะคะ ดูรูป+คำบรรยายแล้วเหมือนไปเที่ยวเองจริงๆเลย ปล. รูปพระธาตุอินทร์แขวนนี่เสียวจะร่วงลงมาจริงๆเลย จากคุณ : ชนรดา - [ 18 มี.ค. 51 21:19:45 ]

ความคิดเห็นที่ 85 รูปสวยมากๆเลยครับ เยี่ยมไปเลยครับ จากคุณ : อ้น (Leelaryonkul) - [ 18 มี.ค. 51 21:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาดูอีกรอบครับ ดูแล้วมีความสุข อิอิ จากคุณ : ปีศาจแดง007 - [ 18 มี.ค. 51 21:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวยสด สดสวยมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : orange scooter - [ 18 มี.ค. 51 21:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ไปไม่ยอมบอกนะคะ อิอิ ชอบร้านอาหารจังเลยอ่ะ #33 ดู อืม...ไม่รู้จะบอกยังไงดี แต่ชอบจังเลยค่ะ ส่วนภาพอื่น ๆ ก็ไม่แพ้กันเลยทีเดียวค่ะ ขอบคุณมากมายสำหรับการส่งข่าวนะคะ แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 51 00:56:48 จากคุณ : ThatsNoon - [ 19 มี.ค. 51 00:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สุดยอดมากๆครับ สวยทั้งทู้ จากคุณ : Dr.เต่า - [ 19 มี.ค. 51 01:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สวยมาก ๆ เป็นประเทศที่อยากไปเที่ยวมากคับ  ถ้ามีโอกาสจะต้องไปให้ได้ ถ่ายรูปได้สวยมาก ๆ เลย จากคุณ : a1krab - [ 19 มี.ค. 51 02:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 91 สวยครับผม..ชอบ #57 ขอบคุณที่เอามาฝาก..แล้วจะตามดูอีกครับ จากคุณ : แดดสีหมากสุก - [ 19 มี.ค. 51 09:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ชอบหลายภาพเลย เป็นเมืองที่อยากไปมากๆ โดยเฉพาะป่าเจดีย์ สักวันคงมีโอกาสได้ไปมั่ง เนี่ย เดือนเมษานี้มีรุ่นพี่คนนึงเค้าชวนไปปั่นจักรยานในพม่า อยากไปอยู่หรอก...แต่เค้าไปเป็นเดือน ผมเลยอดตามระเบียบ ชอบครับ มีอีกมั้ยครับ? จากคุณ : Dr.Manta - [ 19 มี.ค. 51 10:07:54 ]

ความคิดเห็นที่ 93 สวยมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ จากคุณ : สาวอิตาลี - [ 19 มี.ค. 51 13:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 94 อลังการงานสร้างมากๆครับ รูปสวย เรื่อสนุก ขอเซฟไปอ่านเล่นต่อที่บ้านนนะครับ : ) จากคุณ : +One Side Love+ - [ 19 มี.ค. 51 13:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ภาพสวยเรื่องราวเยี่ยม จากคุณ : พวงแสด... - [ 19 มี.ค. 51 15:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 96 โห....... สวยมาาากกกก รวมเล่มเมื่อไหร่คะเนี่ย จะตามไปซื้อเลยอ้ะ จากคุณ : ปอปลาตากลม - [ 19 มี.ค. 51 17:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขออภัยนะครับที่ไม่สุภาพ อยากบอกว่า "โคตรสวยเลย" .... จากคุณ : Mr.DogGie - [ 19 มี.ค. 51 19:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ครบทุกรสชาติเลยครับ เรื่องราว มุมมอง การเดินทาง และเทคนิค ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : ST.Exsodus - [ 20 มี.ค. 51 11:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ภายสวยมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ชวนเข้ามาดู จากคุณ : แก่ม แก๊ม - [ 20 มี.ค. 51 19:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สวยทุกรูปเลยครับ  ชอบหมดเลย รูปพระธาตุอินทร์แขวน  สวยมากเลยครับ  สวยกว่าไปดูของจริงอีก  ขอคอนเฟริมครับ จากคุณ : Mr.Compact - [ 20 มี.ค. 51 20:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สวย...มากเลยค่ะ อยากไปบ้างจังเลย... แต่.. เดี๋ยวตามไปดู ตอนต่อไปก่อนละกัน ฮาา จากคุณ : N'SinE - [ 20 มี.ค. 51 23:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ครับ  ยินดีเข้ามารับชมภาพสวย ๆ งาม ๆ ครับ ดูแล้วเนื้อเต้น  อยากไปอยู่ไปดูไปเห็นด้วยสายตาตัวเองครับ   ถ่ายทอดแสงสี ออกมาได้อย่างน่าดูชม   ่ชอบภาพมุมกว้าง ธรรมชาติ และ วิถึชีวิต ครับ จากคุณ : แบ่งฝัน@ัปันรัก (ปันรัก) - [ 21 มี.ค. 51 15:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 103 สวยจัง ^^ จากคุณ : apple_meppo - [ 21 มี.ค. 51 15:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ผมเพิ่งกลับจากพม่าเช่นกัน วันที่ 2 มีนาผมก็อยู่พุกามครับ นั่งรถม้าเหมือนกันเลยสงสัยจะเดินสวนกันที่ Ananda Temple แน่ๆเลยครับ..ผมไปแอบหลับหลบแดดร้อนตอนบ่ายตั้งนานแน่ะ อิอิ ขออนุญาตแก้ไขข้อมูลนะครับ...รูป คคห. ที่ 19 ไม่ใช่ "ตั้ดปยิ่นยูพญา" นะครับ เพราะเจดีย์นั้นจะเป็นสีขาวครับ...ส่วนเจดีย์สีส้มในรูปนั้นน่าจะเป็น "สูลามณีพญา" (Sulamani Paya) นะครับ ขอคารวะเรื่องฝีมือการถ่ายภาพเลยครับ ผมอยู่พุกาม 5 วันถ่ายรูปมาเป็นพันรูป หาที่สวยเสมอรูปของคุณกระทู้นี้ไม่มีเลย สุดยอดจริงๆครับ เห็นแล้วชื่นใจคิดถึงพม่าซะเหลือเกิน...ขอบคุณมากๆเลยครับ... จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) - [ 22 มี.ค. 51 11:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 105 งามมากเจ้าค่ะ ^___^ จากคุณ : k i m m i e z - [ 24 มี.ค. 51 00:04:20 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ความคิดเห็นที่ 67   ตามไปเที่ยวสนุกด้วยคน ภาพสวยมากครับ จากคุณ : tthanes      ความคิดเห็นที่ 68   ตามไปเที่ยวพม่าด้วยคน  งามสวยเต็มๆตาดีค่ะ จากคุณ : sky map (sky map)   ^ ^ ^  copy na ka' จากคุณ : เต็มฟ้า เติมฝัน - [ 24 มี.ค. 51 02:04:50 ]

ความคิดเห็นที่ 107 รูปเรือนั่นสวยจังเลย... ชอบจังเลยค่ะพี่ จากคุณ : อมยิ้มสีฟ้า - [ 24 มี.ค. 51 15:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ อิอิ อยากไปมั่งพม่าๆ จากคุณ : เด็กน้อยบ่มีอ่หยั่ง - [ 27 มี.ค. 51 21:10:31 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ไปมาแต่ไม่ได้เที่ยวเยอะเท่านี้เลยครับ พาคุณแม่ไปไหว้พระครับ จากคุณ : (G_ G ) - [ 30 มี.ค. 51 17:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 110 โส้ย จิงๆ เห็นภาพแล้วอยากกลับไปเยี่ยมบ้านเลย จากคุณ : มังกรวังทอง - [ 31 มี.ค. 51 13:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 111 โส้ยจนไม่อยากให้อภัยเลย http://www.pantip.com/cafe/gallery/topic/G6467964/G6467964.html จากคุณ : มังกรวังทอง - [ 31 มี.ค. 51 16:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 112 สวย . . อยากไป ----> อิจฉา จากคุณ : nainoinoy - [ 1 เม.ย. 51 09:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ภาพสวยงามมากเลยคับ ขอเก็บข้อมูล จะแกะรอยตามคับผม จากคุณ : คนไม่มีดี - [ 2 เม.ย. 51 16:46:53 ]

ความคิดเห็นที่ 114 สวยมากๆค่ะเจดีย์สีทอง จากคุณ : เบนจัง - [ วันเถลิงศก (15) 17:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ขอบคุณย้อนหลังครับ สวยมากครับ จากคุณ : DEKCGN - [ 21 ส.ค. 53 19:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 116 สุดยอดครับ สวยมาก ๆ ขอบคุณสำหรับรีวิว จากคุณ : halfofw - [ 15 ต.ค. 53 22:30:20 ]