ความคิดเห็นที่ 1 ภาพวิหารวัดเชียงมั่น อีกมุมหนึ่งครับ.. จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 09:43:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ภายในวิหารวัดเชียงมั่น จะมีธรรมมาสน์อยู่ภายใน และมีภาพเขียนประดับฝาวิหาร ด้วยสีแดงและสีทองอย่างสวยงาม บรรยายเรื่องราวกำเนิดราชวงค์มังราย การสร้างเวียงกุมกาม การสร้างเมืองเชียงใหม่ และเรื่องราวอื่น ๆ อีกครับ จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 09:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพธรรมมาสน์ในวิหารวัดเชียงมั่น อีกมุมหนึ่ง.. จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 09:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระประธานวัดเชียงมั่นครับ... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 09:56:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทางด้านขวาของวิหารวัดเชียงมั่น จะเป็นวิหารจุตรมุขที่เก็บรักษาพระพุทธรูปล้ำค่าของล้านนาครับ... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 09:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ภายในวิหารจตุรมุข จะมีมณฑปที่ประดิษฐานพระพุทธรูปล้ำค่าของล้านนา 2 องค์ คือพระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) และพระพุทธรูปศิลาปางปราบช้างนาฬาคีรี... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 10:02:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากผลึกหินสี ขาวขุ่น ขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูง 6 นิ้ว ศิลปทวาราวดี สร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1100 - 1600 เดิมอยู่ที่เมืองละโว้ (ลพบุรี)... แล้วพระนางจามเทวีนำมาประดิษฐานที่เมืองหริภุญชัย (ลำพูน) เมื่อ พ.ศ.1204 ต่อมา พญามังรายตีเมืองหริภุญชัยได้ในปี พ.ศ.1824 จึงนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเชียงมั่น ในปี พ.ศ.1839... สำหรับฐานพระพุทธรูปนั้นสร้างเมื่อ พ.ศ.2471... ต่อมาในสมัยพระไชยเชษฐาได้มาครองเมืองเชียงใหม่อยู่ระยะสั้น ๆ ต่อมาได้ทรงกลับไปครองล้านช้าง ได้นำพระแก้วมรกตจากเมืองเชียงใหม่ ไปล้านช้าง (ประเทศลาว) ในครั้งนั้นและได้นำพระเสตังคมณีองค์นี้ไปด้วย ต่อมาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์ของกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้งยังดำรงตำแหน่งเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ยกกองทัพไปตีเวียงจันทร์ ได้นำพระแก้วมรกตมาและพระเสตังคมณีองค์นี้กลับมาจากล้านช้างด้วย ได้นำพระแก้วมรกตไปประดิษฐานไว้ที่กรุงเทพ ส่วนพระเสตังคมณีให้นำกลับมาที่วัดเชียงมั่นตามเดิม... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 10:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พระพุทธรูปศิลาปางปราบช้างนาฬาคีรี เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหิน ฝีมือช่างปาละของอินเดีย เชื่อว่าพระเถระชาวสิงหล 4 รูป ได้นำพระศิลาพร้อมด้วยพระบรมสารีธาตุริกธาตุของพระพุทธเจ้า มามอบให้พญามังรายที่เวียงกุมกามเมื่อ พ.ศ.1833 ภายหลังจึงนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเชียงมั่น คู่กับพระพุทธเสตังคมณี พุทธลักษณะของพระศิลา คือ ประทับยืนเยื้องพระองค์บนฐานบัวภายใต้ซุ้ม พระหัตถ์ขวาทอดลงเหนือหัวช้างซึ่งหมอบอยู่ พระหัตถ์ซ้ายยกในท่าประทานอภัยหรือแสดงธรรม พระอานนท์ยืนถือบาตรอยู่ด้านซ้าย.. พระพุทธรูปทั้ง 2 องค์ประดิษฐานในมณฑป มีลูกกรงกั้นหลายชั้น เพื่อป้องกันมิจจาชีพ... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 10:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ด้านหลังของวิหารวัดเชียงมั่น เป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ซึ่งสร้างขึ้นตรงบริเวณที่เคยเป็นที่ประทับของพญามังรายขณะสร้างเมืองเชียงใหม่ ราวปี 1839.. ต่อมาได้มีการซ่อมแซม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2014 โดยพระเจ้าติโลกราชโปรดให้ซ่อมด้วยศิลาแลง จากลักษณะของส่วนยอดแสดงว่าคงจะซ่อมใหม่ ซึ่งอาจเป็นการซ่อมเมื่อ ประมาณปี พ.ศ. 2114 โดยพญาแสนหลวง สำหรับลวดลายประดับ และจรนำเรือนธาตุนั้น น่าจะมีการปรับเปลี่ยนเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 25 นี้เอง.. ลักษณะของเจดีย์ เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม ทรงสูง (ทรงปราสาท)ประกอบ ด้วยเรือนธาตุและซุ้มจรนำ ตรงฐานเจดีย์ทำเป็นรูปช้างล้อม 16 เชือก สันนิษฐานว่าสร้างเลียนแบบเจดีย์ช้างล้อมของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่เมืองศรีสัชนาลัย... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:06:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พระเจดีย์ช้างค้ำ ในอีกมุมหนึ่ง... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อุโบสถทรงล้านนาของวัดเชียงมั่น เป็นพระอุโบสถที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอีกแห่งหนึ่ง และเป็นที่ตั้งของศิลาจารึกวัดเชียงมั่นซึ่งมีข้อความกล่าวถึงการสร้างเมืองเชียงใหม่โดยพญามังราย อีกด้วยครับ... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ศิลาจารึกวัดเชียงมั่นพุทธศักราช 2124 เป็นแผ่นหินทราย ขนาดกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร สูง 1 เมตร จารึกเป็นภาษาล้านนา (ฝักขาม) คืออักษรสุโขทัยแปลง กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของเมืองเชียงใหม่และการสร้างวัดเชียงมั่น... แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 51 11:18:57 จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพหอไตร วัดเชียงมั่นครับ... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ต่อไปเราจะเที่ยววัดเชียงยืนกันนะครับ... วัดเชียงยืนตั้งอยู่ที่ด้านนอกของแนวคูเมืองและกำแพงเมืองเก่าของเชียงใหม่ ที่เลขที่ 140 ถ.หน้าสนามกีฬา ต.ศรีภูมิ วัดนี้สร้างเมื่อใดไม่มีหลักฐานปรากฏชัด สันนิษฐานว่าในสมัยพญามังราย พระองค์ได้สร้างวัดคู่เมืองเชียงใหม่เป็นแห่งแรก คือ วัดเชียงมั่น อันมีความหมายว่า “มั่นคง” ต่อมาจึงสร้างวัดเชียงยืน ตามความหมายว่า “ยั่งยืน” ด้วยจะมีพระราชประสงค์ที่ว่าวัดเชียงมั่นตั้งอยู่เขตพระนครด้านใน เมื่อประตูเมืองปิดอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ที่อยู่นอกกำแพงเมืองจะได้อาศัยวัดเชียงยืน เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอาจเป็นได้.. นอกจากนี้แล้ววัดนี้ยังมีฐานะเป็นเดชเมืองเชียงใหม่ ตามคัมภีร์มหาทักษาล้านนาอีกด้วยครับ... ภาพหน้าแหนบวิหารวัดเชียงยืน เป็นไม้แกะสลักรูปนกยูงประดับด้วยกระจกสี... นกยูงเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูงของล้านนาในสมัยก่อนครับ.. แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 51 11:37:03 จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วัดเชียงยืน มีชื่อปรากฏอยู่ในตำนานชินกาลบาลีปกรณ์ ได้กล่าวถึงรัชกาลพระเมืองแก้ว กษัตริย์ล้านนา รัชกาลที่ 11 แห่งราชวงศ์มังรายว่า พระองค์พร้อมด้วยพระเทวีราชมารดา ทรงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ พระสถูปเจดีย์ใหญ่วัดฑีฆชีววัสสาราม (ฑีฆายวิสาราม) เมื่อวันพุธ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง จุลศักราช 882 (พ.ศ.2061)... ลืมบอกไปว่าวัดเชียงยืนมีชื่อเรียก 3 ชื่อคือ..วัดเชียงยืน, วัดฑีฆชีวะวัสสาราม และ วัดฑีฆายวิสาราม หรือฑีฆาชีวิตสาราม... เจดีย์วัดเชียงยืน.. เป็นเจดีย์ระฆัง ต่อมารูปแบบได้เปลี่ยนไปตามการบูรณะ โดยเฉพาะส่วนฐานที่ขยายใหญ่มากซึ่งคล้ายศิลปกรรมแบบพม่ารุ่นหลัง.. จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ลักษณะเจดีย์รูปทรงแปดเหลี่ยมอันสื่อความหมายถึง เดชบารมีแผ่ไปในทิศทั้งแปด ด้านหน้าประดิษฐานพระเจ้าทันใจ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สร้างเสร็จภายในหนึ่งวัน... ด้านซ้ายขวามีเสาไม้ขนาดใหญ่อยู่ทั้ง 2 ด้าน... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 11:56:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เสาไม้ทางด้านซ้ายมือ แกะสลักเป็นรูปสัตว์ตามปีนักษัตร 12 ปีของชาวล้านนา.. สังเกตว่าในปีที่ 12 ล่างสุด ของภาคกลางจะเป็นปีกุน (หมู) แต่ของชาวล้านนาจะเป็นปี "ไก๊" (ช้าง).. จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 12:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนเสาไม้ทางด้านขวา จะแกะสลักเป็นรูปพระธาตุประจำปีเกิด 12 ปีเช่นกัน.. จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 12:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เจดีย์วัดเชียงยืน เดิมเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ต่อมารูปแบบได้เปลี่ยนไปตามการบูรณะ โดยเฉพาะส่วนฐานที่ขยายใหญ่มากซึ่งคล้ายศิลปกรรมแบบพม่ารุ่นหลัง องค์เจดีย์ประดับด้วยดอกไม้สีทองโดยทั่วไป... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 12:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มีรูปปั้นสิงห์ตัวใหญ่ 1 ตัว ตัวเล็ก 2 ตัว ประดับอยู่ที่มุมฐานเจดีย์ทั้ง 4 ทิศ... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 12:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในวัดเชียงยืน ก็คือพระอุโบสถรูปแปดเหลี่ยม เป็นรูปแบบศิลปะพม่า... พระอุโบสถแห่งนี้จะอยู่แยกออกมาไกลจากตัววิหารและเจดีย์ โดยจะมีอาคารเรียนกั้นอยู่ระหว่างกลาง.. จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 12:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พระอุโบสถแปดเหลี่ยม มองผ่านประตูเข้าไป น่าเสียดายว่า บริเวณรอบ ๆ ขาดการดูแลรักษา เลยไม่สวยงามเท่าที่ควร... จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 12:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ปิดท้ายด้วยภาพหน้าแหนบวิหารวัดเชียงยืนอีกครั้งครับ... หารูปสวย ๆ ปิดท้ายไม่ได้ ^^" จากคุณ : old technician - [ 27 ก.ค. 51 12:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอตามทริปมาเที่ยวด้วยคับ วัดแห่งแรกของเชียงใหม่ ปีนักษัตรที่ 12 เป็นรูปช้างจริงๆ  ด้วย จากคุณ : โก้ (เซโก้4) - [ 27 ก.ค. 51 23:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาดูด้วยคะ สวยจัง การประดับประดาของโบสถ์อรังการงานสร้าง น่าเที่ยวจัง จากคุณ : หนูแจ๋ว (nu_jaw ja) - [ 29 ก.ค. 51 13:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ้อ ลืมไป เข้ามาเป็นหน้าม้า และให้กำลังใจด้วยเจ้าคะ จากคุณ : หนูแจ๋วเจ้าคะ (อีกแล้ว) (nu_jaw ja) - [ 29 ก.ค. 51 13:41:50 ]