ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเจอกันก็ยิ้มให้ค่ะ (เรายิ้มให้เค้านะคะ) มีโอกาสก็พูดคุยด้วยค่ะ แต่บางวัน เพื่อนบ้านหรือเรา อยู่ในโหมดเงียบ รีบเร่ง จะแค่ยิ้มให้กัน แต่ไม่ได้คุยกันค่ะ จากคุณ : กะลาสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:57:49

ความคิดเห็นที่ 2 แถวบ้านผมซื้อของกินของใช่มาฝากกันบ่อย จากคุณ : KittySP เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:04:49

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อ1 ครับ อีกข้อที่นอกจากข้อ1 พึงระวัง คือ ส่วนมากชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องมดลูกของชาวบ้าน จากคุณ : คนเคยมา (eskimo_bkk) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:12:10

ความคิดเห็นที่ 4 ปนกันทั้ง 1,2,3 ครับ แล้วแต่โอกาส ปกติต่างคนก็ต่างใช้ชีวิต ทำงาน เรียน มีกิจกรรมในบ้านตัวเองกันปกติ แต่ถ้าวันหยุด สบาย ๆ เจอหน้่าก็ยิ้มให้กัน คุยกัน มีให้ของฝากกันบ้างตามโอกาส (ปีใหม่, ไปเที่ยวมา) ผมโชคดีที่เพื่อนบ้านดีหมด (มีอะไรก็คุยกัน เคารพสิทธิ์กัน ช่วยเหลือกัน ตามโอกาส) โชคดีอ่ะ จากคุณ : ผมเองครับ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:23:36

ความคิดเห็นที่ 5 แรก ๆ ก็ทักทายกันทุกวัน แต่ตั้งแต่น้ำท่วม ออกไปไหนกันไม่ได้ ก็เลยตั้งวงสังสรรค์ ตั้งแต่นั้นมา สังสรรค์กันประจำ ขนาดคนละซอย ยังขี่รถมาหากัน ถ้าวันไหนไม่สังสรรค์ ก็คุยกันเฮฮาครับ จากคุณ : GolfGear เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:31:53

ความคิดเห็นที่ 6 บ้านข้างซ้าย นานๆมาที เจอก็ทักทายกัน แต่ไม่ได้คุยอะไรกันมาก แต่ส่วนแฟนของเจ้าของบ้าน ไม่เคยยิ้มแย้มเลย บ้านข้างขวา พยายามทักทายยิ้มให้ตั้งแต่ยังไม่ย้ายเข้าอยู่ ทักทีไรก็หน้าบึ้งใส่ จนผ่านมาเกือบปี ไม่เคยเห็นเจ๊แกยิ้มเลย แล้วผมก็ไม่ทักแล้วด้วย ไม่อยากเป็นคนบ้าพูดคนเดียว จากคุณ : Bug Gerd เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:33:03

ความคิดเห็นที่ 7 ของเราหมู่บ้านใหม่  ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่มาซื้อบ้าน วิถีชีวิตคือ ไปทำงานเช้า กลับมาเย็น เลยไม่มีการสังคมกันเลยค่ะ จากคุณ : Travelling Girl เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:54:43

ความคิดเห็นที่ 8 ดูท่าคุณอากู๋จะเครียดมากเลยนะครับ จากที่โดนเค้าเชิดใส่ ช่างเค้าเถอะครับ บางครั้ง เพื่อนบ้าน ก็ไม่ต้องสนิทกันมากมายก็ได้นะครับ อาจเป็นเพราะเค้าเป็นผู้หญิง (ที่อาจจะสวย) หรือปล่าวครับ เลยติดอาการ เชิดๆ มาใช้กับเรา ทั้งๆที่ไม่ได้จะอารายกะเค้าเล๊ย แถวหมู่บ้านผมก็มีอยู่คน อยู่ซอยถัดไป ชอบจูงหมาเดินวนรอบหมู่บ้าน หน้าตาก็ถือว่าดี แต่แต่งตัว เต็มมาก ผมกำลังล้างรถ ก็สวัสดี ไป คุณเธอก็ทำเชิดๆ สงสัยรถจะราคาถูก แต่บ้านรุ่นผมแพงกว่า เกือบล้านนะ แต่ก่อน เพื่อนบ้านเค้ามาคุยถามเรื่องต่อเติมบ้าน เจอพ่อผม แต่งตัวชุดทำสวน ยังตะโกนถามเลย "ลุงๆ เรียกเจ้านาย คนที่เป็นเจ้าของบ้าน ให้หน่อยซิ" พ่อผมก็ตอบไป เบาๆ ว่า "ผมนี่แหละ พ่อมัน มีอะไรหรอ"  เพื่อนบ้านรีบขอโทษใหญ่ ฉะนั้น อย่าคิดมากครับ การอยู่ในสังคม คือการยอมรับความต่างกันครับ จากคุณ : g7yad เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:55:22

ความคิดเห็นที่ 9 คงจะเทียบกันไม่ไ่ด้ แล้วแต่กรณีครับ สำหรับบ้านผม ก็ทักทายตามธรรมเนียม บางทีแค่เจอหน้ากัน ก็พูดสวัสดีไปก่อนครับ แล้วก็ยิ้ม จากนั้นก็แยกย้ายกันทำภารกิจกันต่อไป บางครั้งไปต่างจังหวัด ก็หาของฝากจากจังหวัดนั้นๆ ติดไม้ติดมามาฝากบ้าง เป็นครั้งคราว โชคดีที่บ้านรอบข้างเป็นกันแบบนี้ รวมถึงบ้านถัดไปด้วย ต่างคนต่างได้ของฝากกันเป็นประจำ จะมีก็ไอ้บ้านหลังหัวมุมซึ่งอยู่ถัดไปอีก 4 หลัง เจอกันจังๆ ไม่ทักไม่ทาย ทั้งๆ ที่ ครอบครัวผมพยายามแล้วหลายครั้งหลายหน จนหลังๆ ช่าง แม่มมัน จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:10:40

ความคิดเห็นที่ 10 ดีมาก ถึงมากที่สุด จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:14:59

ความคิดเห็นที่ 11 มาอยู่ใหม่ๆ  ปีแรก คุยกันดี  ทักทายกันดี  อาจจะมีบางหลังคุยกันมากหน่อย  บางหลังคุยกันน้อยหน่อย   ปีที่สอง  บ้านที่คุยกันสนิท  ตกเย็นมีบางบ้านจับกลุ่ม  กินข้าว  กินเหล้า ร่วมกัน  คุยกันดังบ้าง  ค่อยบ้าง  แล้วแต่โอกาส   หลายหลังที่ไม่ค่อยคุยกับใคร  ก็ยังไม่ค่อยคุยกับใครเหมือนเดิม  หลายหลังที่ไม่กินเหล้า  ก็เริ่มไม่คุยกับพวกกินเหล้า  และ  หลายๆหลังที่สนิทกัน  เริ่มจับกลุ่มนินทาชาวบ้าน ปีที่สาม  พวกกินเหล้าทะเลาะกันจนเลิกตั้งวงกินเหล้า   บ้านใครบ้านมัน  ต่างคนต่างกิน   พวกนินทาก็จับกลุ่มนินทากันเหมือนเดิม   บางคนทะเลาะกันเอง เพราะนินทาพวกกันเอง  บางบ้านก็ทะเลาะกันเรื่องยืมเงินแล้วไม่จ่าย  บางบ้านก็ทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถหน้าบ้าน หลังจากนั้น  พวกนินทาก็จะแบ่งเป็นกลุ่มๆ  นินทากันในแต่ละกลุ่ม  บ้านที่ทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถไม่คุยกัน   บ้านที่ทะเลาะกันเรื่องยืมเงินก็ไม่คุยกัน ขอให้โชคดี ในบ้านใหม่ นะครับ . จากคุณ : papa-chai เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:17:36

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบคุณ g7yad   อารมยังค้างอยู่ครับ แบบจิตตกไปเลย คือเรื่องจีบตัดได้เลยครับ เพราะผมไปกับแฟน แม่ แล้วก็อุ้มลูกน้อยอยู่ด้วย ตัวเค้าเองก็มีลูกครับ อุ้มอยู่เหมือนกัน แค่กลัวว่าจะมีเพื่อนบ้านที่ตึงๆใส่  บรรยากาศมันจะไม่น่าอยู่ครับ บวกกับก่อนซื้อบ้านก็ลุ้นอยู่แล้วเรื่องเพื่อนบ้านเจอเชิดใส่ก็เลย จิตตกครับ จากคุณ : อากู๋ผ่านมา เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:19:48

ความคิดเห็นที่ 13 ของเรากลับกับของอากู๋ค่ะ เดิมอยู่บ้านพ่อ-แม่ซื้อที่ดินปลูกเอง ตอนนี้อยู่ทาว์นเฮ้าส์ ราคาล้านต้นๆ เตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว พยายามอยู่เงียบๆ ไม่ยุ่งเรื่องของชาวบ้าน เจอกันก็ทักทายบ้าง โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดกัน ไปเที่ยวไหนก็มักจะมีของมาฝากกันเสมอๆ แม่เราชอบแจกของเพื่อนบ้านมาก และก็ได้รับของฝากมากเช่นเดียวกัน แม่บอกเป็นวิธีการถนอมอาหารที่ดีที่สุด เดี๋ยวนี้ที่บ้านไม่ต้องซื้อพริก กะเพรา โหระพา เลยค่ะ เพื่อนบ้านที่ปลูกไว้จะเก็บมาให้เป็นประจำ จากคุณ : Honey249 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:31:59

ความคิดเห็นที่ 14 ต่างคนต่างอยู่ค่ะ เจอหน้าก็ทักกัน จากคุณ : แม่ดิน (pumpeem) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:38:10

ความคิดเห็นที่ 15 ของเราบางหลังก็คุยพอเป็นพิธีบางหลังก็แค่ยิ้ม แต่มีอยู่สองหลังที่สนิทกันอยู่มาปีกว่าก็รู้ใจกันแล้วคุยกันทุกวัน แต่เราจะบอกไว้ว่าถ้าวันใหนไม่อยากคุยอารมณ์ไม่ดีก็จะปิดผ้าม่านอยาก อยู่ส่วนตัวไม่ต้องมาเรียกก็เป็นอันเข้าใจตรงกัน โดยรวมตอนนี้มีความสุขดีปัญหาที่เคยกลัวๆเพราะเล่นพันทิปทุกวันอ่านปัญ หาของคนอื่นบ่อยก็ยังไม่เกิดส่วนมากจะอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันซอยที่ เราอยู่มีทั้งหมดสิบหกหลังรู้จักกันหมดคุยกันบ้างยิ้มกันบ้างนิสัยส่วนตัวเรา จะเป็นคนที่ไม่คุยกับใครก่อนแต่ถ้ามีคนมาคุยด้วยถ้าถูกคอก็เมาส์ไม่หยุด เหมือนกัน เรื่องที่จอดรถตัดปัญหาไป เรื่องกินเหล้าเสียงดังมีเป็นช่วงเทศกาลอันนี้ไม่เครียดรับได้นานๆที ส่วนบ้านเราตัดเรื่องสังสรรค์ออกไปสามีเราไม่ชอบวุ่นวาย จากคุณ : ดาวสีส้ม เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:38:59

ความคิดเห็นที่ 16 อืม.... ก็มีพูดคุย สนิทบ้าง ไม่สนิทบ้าง บางทีสนิทมากไปก็หมดความเกรงใจกัน ยืมของกันจัง ไม่รู้จักซื้อบ้าง บ้านด้านข้าง พอสนิทเข้าหน่อย ต่อเติมบ้านก็ไม่เกรงใจกัน เติมซะติดกำแพงบ้านเราไม่พอ ยังมีหน้าต่าง โผล่หัวมาหายใจเอาอากาศจากบ้านเราอีก ก็ทนๆ กันไป ดีกว่าไม่มีเพื่อน จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:06:59 A:203.146.3.251 X: TicketID:203339

ความคิดเห็นที่ 17 คุยกันตามมารถยาทครับ ถ้าบ้านไหนขอให้ช่วยผมก็ช่วยนะครับ อย่างบ้านเยื้องกันนี่อยู่กันสามคน สามีไม่ค่อยแข็งแรง เวลาเปลี่ยนหลอดไฟหรืออะไรที่เราทำได้ผมก็จะรีบจัดการให้ ส่วนบ้านก่อนผม 2 หลัง นี่ก็สามีไม่อยู่บ้าน เย็นศุกร์ถึงจะกลับ เธออยู่บ้านคนเดียว มีอะไรวานกันผมก็รีบทำให้ครับ อีกสองหลังไม่หวไม่มีใครคบ แต่กับบ้านผมแล้วก็ไม่คุยกันถึงสนิทมากนักแต่ก็อยู่ได้อย่างสบายใจครับ เราไม่ล่วงล้ำสิทธิผู้อื่น ผู้อื่นก็เคารพในสิทธิของเรา จากคุณ : กระจอกจัง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:42:02

ความคิดเห็นที่ 18 รู้จักจริงๆ แค่บ้านตรงข้ามบ้านเดียว ตอนมาอยู่ใหม่ๆ เคยคุยด้วยแล้ว แต่วงที่คุยมีแต่นินทาคนอื่น เรียกว่ารู้มันทั้งหมู่บ้าน ใครเป็นชู้กะใคร ลูกใครหนีเรียน เมียใครได้ทอมเป็นสามี ฯลฯ ........ เลยเฟดตัวเองมาอยู่ลำพังดีกว่า หุหุหุ จากคุณ : (ป๊อก-แปด) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 16:06:23

ความคิดเห็นที่ 19 1.อยู่ใครอยู่มัน ขึ้นอยู่กับหมู่บ้านด้วยละครับว่าจัดกิจกรรมบ้างรึเปล่า พวกทำบุญปีใหม่ไรงี้ มีร้านขายของชำในโครงการรึเปล่า (ซึ่งยิ่งแพงโครงการก็ยิ่งไม่น่าปล่อยให้มี) โอกาสเจอกันมันน้อยครับ จะมีก็แค่คนจูงหมามาเดินเล่นผ่านหน้าบ้านที่พอจะยิ้มให้ได้ จากคุณ : Avexiouz เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:40:08

ความคิดเห็นที่ 20 มีทุกแบบค่ะ แต่รอบ ๆ เราบังเอิญมีเด็กกับคนแก่ เลยได้พูดคุยกันพอสมควร ประเภทสอดรู้นินทาเนี่ยไม่มี มีแต่ปัญหาเรื่องที่จอดรถ บ้านเล็กต่อเติมจน ไม่พอจอด กับ พวกรถเยอะเกินที่จอด  มีทั้งด้านซ้ายด้านขวา เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ เป็นระยะ จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:44:08

ความคิดเห็นที่ 21 คุณอากู๋ผ่านมาคงตื่นเต้นที่จะย้ายบ้านใหม่ล่ะสิ อิ ๆ ขนาดเราจะย้ายปีหน้าโน่นเรายังตื่นเต้นเลยค่ะ ถึงแม้ว่าเราไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่ว่าเพื่อนบ้านหรือเพื่อนร่วมงาน เรายังเลือกซื้อบ้านหลังที่ติดคนอื่นน้อยที่สุดเลยค่ะ มากคนก็มากความเนอะ แต่ก่อนบ้านจัดสรรที่เราอยู่ ชานเมืองกทม. ข้างบ้านเราดีมาก ข้างซ้ายคุยเก่งก็คุยกันบ่อย ไปเที่ยวไหน ๆ ก็เอาของกินมาฝากกัน อีกข้างด้านขวาก็โอเค พูดน้อยแต่เจอกันก็ยิ้ม ทั้งนี้เราไม่เคยสนิทกันมากน่ะค่ะ ไม่เคยมีใครเข้าไปในบ้านของใคร ต่างคนต่างอยู่ เจอกันก็คุย มีเวลาก็คุยนานหน่อย ไม่มีใครล้ำเส้นกันและกัน เพราะอย่างงี้ไงคะถึงดี ลองสนิทกันมาก ๆ ไม่แน่ บ้านตรงข้ามเป็นหนุ่มโสดวิศวกร อย่าว่าแต่จะยิ้มเลย ไม่แม้แต่จะมอง เจอกันจะ ๆ ยังไม่คุยไม่ทัก เราอยู่ห้าปีก็ไม่เคยพูดกันซักคำเดียว แต่เราเฉย ๆ ค่ะ เพื่อนเรามีเยอะแล้ว ฮ่า ๆ เราสังเกตว่าเค้าไม่ได้เป็นเฉพาะกับเรา เค้าไม่คุยกับใครเลยในหมู่บ้าน สรุปคือ ไม่ได้หยิ่งแต่นิสัยอย่างนั้นเอง ไม่ถือสาค่ะ นาน ๆ พ่อแม่เค้ามาเยี่ยมที ตามประสาคนบ้านนอกคือกันเอง ตอนนั้นเราอยู่ต่างประเทศนาน ๆ กลับไปหญ้าก็รก แต่เค้าไม่รู้ว่าเรากลับไทยปีละสามอาทิตย์ พอเค้ามานั่งเล่นบ้านเราเค้าบอก "บ้านเอ็งทำไมรกอย่างห่า" เรางี้ขำการใช้ภาษาเค้า ชอบค่ะลูกทุ่งดี ฉะนั้นถ้าเราเจอเพื่อนบ้านใหม่ เราคงดูท่าทีก่อน เราเป็นคนเข้ากับคนง่ายที่มีโลกส่วนตัวสูง คือเราคุยได้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่หยิ่งไม่เคอะเขิน แต่ขณะเดียวกันเราก็ชอบอยู่คนเดียวเงียบ ๆ บ้าง เราจะปล่อยให้ทุกคนล้ำเข้ามาไม่เท่ากัน คือถ้าคนนั้นถูกจริตก็สนิทมาก ถ้าเฉย ๆ ก็คุยผิวเผิน เราถึงไม่มีปัญหากับใครค่ะ จากคุณ : Schnuckiputz เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 17:57:18

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณทุกความเห็นครับ จากคุณ : อากู๋ผ่านมา เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 18:57:25

ความคิดเห็นที่ 23 ขี้นอยู่กับจขกท.ด้วยครับ อยากให้เพื่อนบ้านเป็นอย่างไร เริ่มที่ตัวเราง่ายสุดครับ ถ้อยทีถ้อยอาศัย สังคมหมู่บ้านจะได้น่าอยู่ จากคุณ : giggoo123 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:01:12

ความคิดเห็นที่ 24 สำหรับผม ติดด้านหลัง 2 บ้าน พูดคุยกันดี ด้านหน้า 2 บ้านก็คุยกันดีครับ ด้านข้างยังมีแค่หลังเดียวก็คุยกันดีเช่นกัน ไม่นับรวมเพื่อนใกล้ เรือนเคียงที่สามารถฝากดูหมาได้เวลาไปธุระ สรุปแล้วไม่มีปัญหาครับ จากคุณ : jeakja เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 10:12:54

ความคิดเห็นที่ 25 ขอให้ท่องคำนี้ไว้เยอะๆ "เคารพสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ของเพื่อนบ้าน" ให้มากที่สุด ปล.อยากให้เจ้าเพื่อนบ้านเข้ามาอ่านจัง หมามันเห่าเอย จอดรถหน้าบ้านตูเอย พูดจาตะโกนเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้านเอย กรรม นี่ขนาดตูย้ายมาอยู่บ้านเดี่ยวราคาเกือบสี่ล้านแล้วนะ จากคุณ : neverever เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 11:59:55

ความคิดเห็นที่ 26 เคยได้ลูกสาวข้างบ้านเป็นเมียครับ แบบว่าน้องเค้าน่ารักเกิน ห้ามใจไม่อยู่ มาตีแบดหน้าบ้านทุกวัน ขาวเกิน 555 จากคุณ : ปันโนคุง เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 55 09:55:20