ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าคนออกแบบระบบเค้าคิดไม่เหมือน จขกท เค้ามองถึงเคสที่แย่ที่สุด สำหรับการออกแบบครับ แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 55 06:53:03 จากคุณ : Marine Red เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 06:52:07

ความคิดเห็นที่ 2 การเกิดเพลิงไหม้ เป็นภัยที่สร้างความเสียหายแก่ชีวิตทรัพย์สินมากที่สุด ความเสียหายอื่นๆที่ตามมาหรือเป็นผลกระทบ เค้าจะถือว่า อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ อีกอย่าง ส่วนมาก คนที่ลงทุนติดสปริงเกอร์ เค้ามักจะติด smoke detector และ ระบบเตือนภัยด้วย เพราะอันหลังต้นทุนมันต่ำกว่ากันเยอะ ลงว่าสปริงเกอร์ทำงาน ระบบเตือนภัยก็ต้องทำงานด้วย น่าจะมีคนเข้ามาตรวจสอบและปิดน้ำก่อนจะถึงระดับน้ำท่วม จนพังลงมาเป็นชั้นๆแน่นอนค่ะ ความเสียหายอย่างมากก็คือ ข้าวของเปียกน้ำหมด จากคุณ : ม่วยถ่าว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 07:04:43

ความคิดเห็นที่ 3 แม่บ้านครับ จากคุณ : PATCHAYAS เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 09:17:06

ความคิดเห็นที่ 4 กลางคืน แม่บ้านไม่ทำงานแล้วมั้งครับ มีแต่ รปภ ที่หลับอยู่ 55 เห็นข่าวเมื่อเช้า ที่น้ำรั่วมาจากด้านบน ลงมาโชว์รูมด้านล่าง ตอนกลางคืน ชาวบ้านเดินผ่านไปมาเห็น ต้องรวมพลังกันไปช่วยย้ายของให้เจ้าของโชว์รูม ที่ยังไม่ค่อยเชื่อ นึกว่าเป็นโทรมาแกล้ง จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 09:55:43

ความคิดเห็นที่ 5 ระบบดับเพลิงแบบสปริงเกอร์   ทุกชั้นจะมีท่อซึ่งต่อมาจากแหล่งเก็บน้ำซึ่งมักจะอยู่ห้องใต้ดิน   ใช้ปั๊มพ์น้ำเป็นตัวสูบน้ำเพื่อให้มีแรงอัดในท่อ  เวลาสปริงเกอร์ชั้นใดแตกน้ำจะได้ฉีดออกมาได้แรง   โดยปกติจะมีปั๊มพ์ทั้งระบบไฟฟ้า  และใช้น้ำมันไว้สำรองกรณีไฟดับหรือแรงอัดในท่อไม่พอ ถ้าชั้นทำงานคุณแหงนดูขึ้นไปมีสปริงเกอร์ก็เท่ากับมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ   ตรวจสอบแค่ปั๊มพ์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่   และระดับน้ำสำรองสำหรับดับเพลิงมีหรือไม่     เพราะถ้าไม่มีการตรวจสอบ  ระบบที่มีก็ไม่เกิดประโยชน์ จากคุณ : Piya_moradokthai เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 10:09:04

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามันแตกจริงระบบจะแจ้งเตือนไปที่ฝ่ายดูแลอาคารว่าจุดไหนมีปัญหา แล้วเข้าแก้ไข เขาไม่ได้ปล่อยให้ระบบมันทำงานแล้วจบไปเองหรอกครับ อาคารใหญ่ๆต้องจัดเวรเจ้าหน้าที่ดูแลอาคารเตรียมไว้ในเวลาฉุกเฉิน ไม่ได้มีแค่รปภ.คอยนั่งหลับเฝ้าอาคารอยู่อย่างเดียวหรอกครับ จากคุณ : umibozu เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 13:32:45