ความคิดเห็นที่ 1 แล้วแต่ความเชื่อค่ะ เราและสามีกะว่าจะเชิญพระมารูปหนึ่ง มาสวดและพรมน้ำมนตร์ ก่อนเข้าอยู่บ้านหลังใหม่ อยากทำง่ายๆ ไม่ค่อยงมงายเรื่องพวกนี้ พอเข้าที่ พร้อมเมื่อไหร่ สะดวกดีค่อยจัดทำบุญบ้านค่ะ บ้านที่อยู่ปัจจุบันหลังเดิมยังไม่เคยขึ้นบ้านใหม่ ก็อยู่สบายดีกันทุกคนกว่า 14ปีแล้ว จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:45:02

ความคิดเห็นที่ 2 ขึ้นบ้านใหม่ เอาเงินมามาทำบุญ เลี้ยงพระ ดีกว่ามั๊งครับ เงินที่จะจ้างพวกนี้ เอามาซื้ออาหาร ดีๆ เลี้ยงคนในครอบครัว ในวันขึ้นบ้านใหม่ ให้คนในบ้านหรือเพื่อนๆญาติๆที่มาร่วมงาน มีความสุข อิ่มหมีพลีมัน เฮฮาสนุกสนาน น่าจะดีกว่ามั๊งครับ ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ ว่าจะต้องแก้โน่นแก้นี่ ด้วย...ในกรณีโดนทักโน่นทักนี่ เป็นทุกข์ใจป่าวๆฮะ จากคุณ : ==NokWeed== เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:49:04

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่ครับ ผมเองขึ้นกระทู้แบบนี้ สำหรับพวกที่ชอบหลงเชื่อเรื่องพวกนี้น่ะครับ บ้านผมโดนแบบนี้มาแล้ว โดยเฉพาะกับหมอดูที่ชอบอ้างว่า เปิดกรรมได้น่ะครับ พระพุทธเจ้ายังแก้กรรมไม่ได้เลย แล้วพวกนี้เป็นใคร มักจะมาหากินกับคนที่กำลังระทมทุกข์ ต้องการที่พึ่ง   สังเกตหลายครั้งแล้ว แต่ผมคิดว่ามีพวกพรายกระซิบมากกว่า คนรอบข้างกันเนี่ยแหละ ผมเคยไปครั้งนึง  ผมเป็นคาทอลิก อยู่ๆ มาทองบทสวดอะไรไม่รู้ "แด่องค์เยซู แด่องค์......" ว่าไปเรื่อย  แล้วบอกว่า มีดวงแก้วติดปีก มาลอยด้านบนหัว ตอนนี้พุ่งเข้าตัวไปแล้ว  ปัดโธ่เอ้ย     คนรู้จักกันสงสัยไปกระซิบอยู่แล้ว เพราะพวกเป็นคนแนะนำให้พาไป แถมรู้จักกันมานานอีกต่างหาก   ทำการบ้านมาดีมาก คนพวกนี้ จากคุณ : raik เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:54:08

ความคิดเห็นที่ 4 เชิญพ่อแม่ มาเพื่อเป็นสิริมงคลก็พอแล้ว จากคุณ : virote เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 11:11:11

ความคิดเห็นที่ 5 เชิญพระที่บ้าน ค่ะ พระที่บ้านคือ พ่อแม่ จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 11:18:53

ความคิดเห็นที่ 6 1. หลอกลวง 2. แม้เป็นเรื่องจริง ก็ไม่เกิดประโยชน์ มีเรื่องอื่นอีกมากมาย ที่น่าทำ น่าปฏิบัติ :) จากคุณ : mkputon เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:01:46

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้ประชด หรือว่าพูดจริงครับเนี่ย จากคุณ : kl_sn (kl_sn) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:13:58

ความคิดเห็นที่ 8 ผมประชด เพราะผมเกลียด คนเปิดกรรมพวกนี้มาก เดี๋ยวนี้สังคมนี้ต้องพึ่งพาสิ่งนี้เยอะมาก และหากินรับประทานกันเยอะมากๆ ผมอยากให้มีการตีแผ่ออกสื่อให้สังคมเนี่ย ได้รู้ตื้ันลึกหนาบางของคนประเภทนี้จริงๆ ผมเองไม่กลัวเสียเพื่อนฝูงหรอกครับ เพราะคนที่แนะนำภรรยาของผมให้ไปหาก้เพื่อนของเค้านั่นเอง     และหมอเปิดกรรมรู้ว่าผมเป็นคริสต์ ผมเป็นคนจีน ก็เอาสิ่งเหล่านี้มาทำพิธี ให้ดูเหมือนแม่น  แต่ผมไม่เชื่อ  ผมคิดว่าเพื่อนของเธอคงไปเล่าให้ฟัง แต่ไมได้หมายความว่าเป็นขบวนการหรอก แต่อาจจะหลงเชื่อและคบหากันมาหลายปี อาจจะบอกประวัติเราไปกับหมอพวกนี้ได้ ครั้งแรก ภรรยาผมเป็นโรค ก็บอกโรคนี้ร้ายแรง เจ้ากรรมขอเท่านี้ (เป็นเงินเหยียบแสน)  300 กอง กองละ 300 ลองคูณกันดูนะครับ   ส่วนครั้งที่สอง รู้ว่าลูกชายผมไม่สบาย ยังหาสาเหตุไม่ได้(ตอนนี้หาได้แล้ว)  ก็เอาข้อนี้มา แล้วเรียกไปอีกหลายหมื่นบาท ผมเองก็ไม่เข้าใจจริงๆว่า หลงเชื่อไปได้อย่างไร  ผมเองไม่โทษภรรยาผม เพราะช่วงจังหวะนั้น อารมณ์ ของคนเป็นแม่ ความทุกข์ระทมเรื่องลูก ที่กำลังป่วย มันถาโถมเข้ามา ประกอบกับการนอนรักษาของลูกผมที่ รพ. อีก เกือบเดือน   แต่ผมโทษคนทีพาไป และหมอลวงโลกคนนั้น   ผ่านเป็นเดือน ผมเองยังไม่หายที่จะโกรธแค้นคนพวกนี้มากๆ เพื่อนกันแท้ๆ ทำไมถึงพาไปทำเรื่องแบบนี้  ผมเองไม่ได้ดูถูกความเชื่อของคน  ความเชื่อของศาสนาพุทธ   แต่นี่มันไม่ไช่ศาสนาพุทธครับ  มันเป็นการหากินกับความทุกข์ของคน เอาความทุกข์ของคนมาเป็นของหากินให้กับตัวเอง ถ้าจะเอาเงินจำนวนนี้ไปซื้อม้าหิน ให้วัด หรือบริจาคอะไร ผมก็จะไม่ว่าเลย แต่นี่ดันไปเพราะหลงเชื่อกับความเชื่อแบบนี้   หรือจะมีความเชื่อตามศาสนา ผมเองก็ไม่ว่า  แต่นี่มันศาสตร์บ้าๆ บอๆ อะไรกัน ติดต่อกับเจ้ากรรมนายเวรได้ พูดกันเป็นวรรคเป็นเวร แถมบอกจำนวนเงินเป๊ะขนาดนี้     และรู้ด้วยว่า ช่วงเวลานั้นๆ ภรรยาผมมีเงินเท่าไหร่ ได้เงินมาเท่าไหร่  แล้วใครบอกล่ะครับ  ???? ผมไม่อยากเอ่ย ผมเองก็ยังบอกกับตัวเองว่าผมจะไม่มีวันให้อภัย และขอติดตามชีวิตของหมอคนนี้ และผมไม่สนใจว่า เพื่อนเธอจะเข้ามาอ่านเจอหรือเปล่า  ถ้าอ่านเจอก็ต้องขอให้รับรู้ไว้  และผมเองก็เคยเตือนเธอไปแล้วสองสามครั้ง ว่าอย่าให้มีแบบนี้อีก อย่าได้ชักชวนกันไปทำเรื่องแบบนี้อีกเด็ดขาด หมอคนนี้ จะอยู่ตรงตลาดเทเวศร์ กรุงเทพนั่นแหละ เข้าไปในซอย เป็นศาลเจ้าเล็กๆ   เคยถามว่าอาชีพหลักคืออะไร  รู้มั้ยครับ อาชีพหลักคืออะไร " จดหวย"  ครับ   หากินกันทั้งสองคนสามีภรรยา ถ้าอยากทราบชื่อ หลังไมค์มาครับ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 12:33:48 จากคุณ : raik เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:29:29

ความคิดเห็นที่ 9 นั่นไง ทุกคนก้อคิดเป็นตุเป็นตะ เหมือน จขกท คิดจริงๆ จากคุณ : kl_sn (kl_sn) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:41:53

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นผม ผมขอเลือกหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา ดีกว่าครับ จากคุณ : คุณวองก้า เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:42:06

ความคิดเห็นที่ 11 ตั้งแต่จำความได้ ย้ายบ้านมา 3 ครั้ง ครั้งแรกก็ 30 ปีกว่าแล้ว ย้ายจากห้องแถวมาอยู่ห้องแถว นิมนต์พระมาดูเหมือนจะ 5 รูป เพราะพื้นที่ไม่เพียงพอ ตอนนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ เลยไม่ได้อยู่รับพระ ครั้งที่สอง 17 ปีที่แล้ว ย้ายจากห้องแถว มาอยู่บ้านเดี่ยว จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ทำบุญบ้านเลย ครั้งที่สาม 3 ปีที่แล้ว แยกออกมาตั้งครอบครัว ก็ยังไม่ได้ทำบุญบ้านเหมือนกัน แต่ทุกคนในบ้านก็ไม่มีปัญหาอะไรที่เดือดร้อนมากมาย ตามปกติของชีวิตคนในเมืองครับ จากคุณ : Mr. SJ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:00:48

ความคิดเห็นที่ 12 บ้านมีกรรม หรือคนมีกรรม แล้วทำไมต้องทำในวันขึ้นบ้านใหม่ ควรเป็นวันสิริมงคลไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาทักไม่ดี พูดไม่ดี ในวันที่เป็นสิริมงคล ใครจะอยู่ไหว สำหรับเราถ้าอยากลอง อยากทำ จะไปทำวันอื่นทั่วๆไป คงไม่เรียกมาในวันที่เราต้องการสิริมงคลเข้าบ้านค่ะ ไม่เสี่ยง จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:53:43 A:203.146.3.251 X: TicketID:203339

ความคิดเห็นที่ 13 เค้าไม่มาหรอกครับ เพราะคุณขึ้นบ้านใหม่น่าจะมีสุข  เพราะริวเขาทำ "ศูนย์บรรเทาทุกข์" ครับ จากคุณ : เสียดายลมหายใจ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 14:11:29

ความคิดเห็นที่ 14 ให้พ่อ ให้แม่ อุ้มพระเดินนำเข้าบ้าน อัญเชิญไปไว้บนหิ้งพระ พาท่านทั้งสองไปเลี้ยงข้าว กินอิ่ม ก็ให้มานอนสักคืนนึง ก่อนกลับบ้าน ก็เป็นศิริมงคลพอแล้วหละมั้ง อ่อ เช้าๆ ถ้าขยันตื่นก็พาท่านลุกมาใส่บาตรก็ดี จากคุณ : Rskiz เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 14:28:49

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่รู้ว่า จขกท ตั้งแบบอยากได้คำตอบจริงหรือล้อเล่น โพสเสร็จแล้วเพิ่งเลื่อนไปอ่านสรุปว่าประชด แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 55 14:55:56 จากคุณ : ดาวสีส้ม เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 14:54:43

ความคิดเห็นที่ 16 เอาเงินที่จะเสียให้คนพวกนี้ไปซื้อข้าวให้หมากินยังได้บุญเยอะกว่าครับ ถ้าอยากทำบุญก็นิมนต์พระ และถ้าอยากให้กรรมเบาลงก็หมั่นทำทาน ศีล ภาวนา จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 15:20:17

ความคิดเห็นที่ 17 ปลูกบ้าน อยู่มาจะยี่สิบปีแล้ว ไม่เคยขึ้นบ้านใหม่  ไม่มีศาลพระภูมิ  ไม่มีศาลเจ้าที่  ไม่เชื่ออะไรทั้งสิ้น(ที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้)  ที่บ้านมีพระพุทธรูปอยู่องค์เดียว ไว้ระลึกถึงคุณงามความดีของพระธรรม คำสั่งสอน เท่านั้น จบ จากคุณ : แป๊ะแก่ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 16:11:42

ความคิดเห็นที่ 18 อืม...ศรัทธาอยู่ที่ใจ เข้ามาอ่านทีแรกนึกว่า จขกท. บ้าไปแล้ว พออ่านไปซักพักถึงเข้าใจ จากคุณ : mini_milk เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 01:54:04

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อคืน น้องเมีย ออกรถคันใหม่มาขอคำปรึกษาว่าจะเอารูปพระองค์ไหน มาบูชาหน้ารถ ผมเลยบอกว่า "พระมีบุญคุณกับแกมากนักเหรอ" พูดเสร็จ แล้วผมก็ออกมาสูบบุหรี่ที่ข้างนอก มองไปที่ลานจอดรถ เห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ในรถ มองไปเห็น อ้าว..แม่ยายนี่เอง นั่งที่เบาะหน้าตรงคนขับ ไหว้อะไรบ่นพึมพำพึมพำ ผมเลยถามไปว่า "แม่ไหว้รถทำไม เหล็กทั้งคัน" พอแม่ยายตอบกลับมาทำให้ผมอึ้งไปพักใหญ่ๆเลย แกตอบว่า "แม่ไม่ได้ไหว้รถ แม่ไหว้พวงมาลัย(รถ)"  เออ...เอากับเขาสิ ถือเป็นเรื่องเอา ขำ ขำ ที่เกิดขึ้นก็แล้วกัน บอกไปก็เท่านั้น ความเชื่อของแต่ละคน จากคุณ : อ่องตวน เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 09:52:41

ความคิดเห็นที่ 20 คำตอบนี้สำหรับคนที่มีความเชื่อนะครับ ถ้าจะให้ดู ควรดูก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกบ้านหลังนี้สิครับ เลือกไปแล้ว ถ้าเค้ามาทัก เราจะมีความสุขเหรอ เหมือนห้องรัชดา เวลาจองไปแล้วชอบมาถามว่าได้ของแถมเหมาะสมมั๊ย ถ้าสุดท้ายชาวบ้านบอกว่าได้น้อย แล้วเค้าจะทำอะไรได้ ทำไมไม่ถามก่อนจอง จากคุณ : Gulffy เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:59:57