ความคิดเห็นที่ 1 มาร่วมแชร์ค่ะ คล้ายๆเจ้าของกระทู้เลยค่ะ กู้ร่วมกะแฟนยอดกู้ 2.69 ล้านบาท  รายได้รวมกันประมาณ 62K แฟนอายุ 36 เราอายุ 30 แฟนมีหนี้รถ เดือนละ 13k  บัตรเครดิตแสนกว่าบาท จ่ายขั้นต่ำเหมือนกันค่ะ  แต่ตอนนี้ก็ได้เป็นหนี้ก้อนโตสมใจแล้วค่ะ (ปล.แบงค์เดียวกันด้วยค่ะ ^^) จากคุณ : heartdrop เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 21:05:25

ความคิดเห็นที่ 2 ยินดีกับความสำเร็จก้าวแรกของ จขกท และ #1 ด้วยครับ (ก้าวสุดท้ายคือวันที่ผ่อนบ้านจนหมดและปลอดหนี้) กู้กี่ปี ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่ ได้โปรโมชั่นแบบไหน ซื้อประกันเท่าไหร่พ่วงด้วย บอกเป็นข้อมูลก็ดีครับ ตอนผมอายุ 27 ผมเคยกู้คนเดียวซื้อคอนโด กะแบงค์เขียว แบงค์เหลือง แบงค์ม่วง แต่ไม่ผ่าน แถมโดนดูถูก พูดจาไม่ให้เกียร์ติ เพราะเค้าเห็นหน้าเราเป็นเด็กมากคงไม่มีปัญญาผ่อนหรือไงไม่รู้ แต่มีอยู่แบงค์ บอกว่าน่าจะผ่านแต่ต้องใช้เวลานานหน่อย ขี้เกียดรอก็เลยซื้อสด (ถอนเงินจากกองทุนและสลากออมสินมาซื้อจนหมด) ผ่านไป 3 ปี ก็มาซื้อทาวเฮาส์ไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 กู้คนเดียว ไม่คิดจะไปขอกู้แบงค์ที่มันเคยพูดจาไม่ดีกับเราเมื่อคราวที่แล้ว ก็เลยทดลองกู้ออมสิน ฝากให้พนักงานขายบ้านให้เค้าไปยื่นกู้ให้เรา สะดวกสบายมากๆ ไม่ต้องไปที่แบงค์นั้นเอง เคยเจอพนักงานแบงค์แค่หนเดียว คือวันที่ไปโอน  วงเงินที่ขอ และระยะเวลาที่ขอกู้ ก็เว้นไว้ไม่ได้กรอก ให้พนักงานขายบ้านไปบอกทางแบงค์ว่าให้กู้ได้มากสุดเท่าไหร่ก็จะกู้เท่านั้น ผ่านไป 1 เดือน โทรบอกว่าได้ 96% เป็นยอด X.00ล้าน (ความจริงขอ 100% ก็อาจจะได้ แต่ได้ยินว่าแบงค์นี้ชอบตัดเศษให้เหลือเลขกลมๆสวยๆจะได้คิดดอกเบี้ยง่ายๆ) ดอก 3.45% 3ปี ไม่มีประกันพ่วง ไม่ต้องเสียค่าประเมิน มีแค่ประกันอัคคีภัยและค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ผ่อน 25 ปี แต่ตอนนี้กำลังพยายามโป๊ะให้หมดใน 13 ปี ป.ล. อย่าจ่ายค่าบัตรขั้นต่ำเลยครับ หนี้มันจะไม่มีวันหมด เดี๋ยวได้โบนัสสิ้นปี ควรไปปิดให้หมดแล้วจ่ายเต็มทุกเดือนดีกว่า จากคุณ : Rapter เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 03:11:24

ความคิดเห็นที่ 3 สนใจด้วยคะ กำลังจะ ยื่นกู้ เป็นทาวเฺฮ้ามือสอง ราคา 2.6 ล้าน แต่จะยื่นกู้2.9 ล้าน ตัวเองอายุ 28 แฟนอายุ 33 รายได้รวม 8.5 หมื่น ไม่มีหนี้สินอะไรเลย ไม่รู้ว่าจะยังไง แต่มีคนแนะนำให้กู้แบงค์เขียว เหมือนกัน ว่าจะลองไปสอบถามดูคะ อยากให้มาแชร์กันนะคะ ขอบคุณคะ จากคุณ : ปิ๋วแหง่ว เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 13:01:18

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยครับ ^_^ @ คุณปิ๋วแหง่ว : แบงค์เขียวโดยส่วนตัวผมคิดว่าปล่อยสินเชื่อง่ายครับ แล้วก็ได้ยินเซลล์บอกมาว่าไม่เอาหนี้บัตรมาคิดหักด้วยครับ เลยตัดสินใจยื่นแบงค์นี้ครับ แก้ไขเมื่อ 17 ธ.ค. 55 12:18:36 จากคุณ : หมูสองแดด เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 12:18:09

ความคิดเห็นที่ 5 ของผม - อายุ 30 ปี โสด (มีแฟนแล้ว) ต้องแจ้งว่าโสดเพราะแบงก์จะไม่คิดภาระอื่นๆ - เงินเดือน 24,XXX + โอที เฉลี่ยแต่ละเดือนประมาณ 20,000 โบนัสปีที่แล้ว 160,000  อายุงาน 6 ปี - บ้าน 5.49 กู้ได้ 5.3 ล้าน ยื่น 26 พ.ย.  อนุมัติ 12 ธ.ค. เซ็นต์สัญญา+โอน 14 ธ.ค. 55 - กู้กับกรุงไทย (ที่ บ. มีสวัสดิการกับ ธอส แต่ผมไม่เอา ให้น้อย แค่ 2.6 ล้านเอง) โปรฯ นี้สำหรับ LH > ฟรีค่าประเมิน  เดือน 1-3 0%  4-12 MLR 7-5.5 (1.5%)  13 เป็นต้นไป MLR 7-1.15 (5.85 %) ผ่อนเดือนละ 31,500  30ปี (มีคนช่วยผ่อน) - การชำระค่างวด ของกรุงไทย ต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์กับเค้า แล้วเอาเงินเข้าบัญชีตอนสิ้นเดือน เรทได้ไม่เกินวันที่ 6 ของเดือนถัดไป เดี๋ยวระบบจะตัดเอง (ตอนกู้ ธอส ใช้สวัสดิการ มันหักในซองเงินเดือนเลยครับ) - ประวัติการเงิน ผ่อนคอนโด เดือน ละ 6,600 กับ ธอส ยอดเหลือ 76X,XXX (ตอนยื่นกู้ก็ยังไม่ได้ปิดคอนโด แต่ปัจุจบันปิดเรียบร้อบแล้ว)                      ติดบูโร 7 ใบ ขึ้นศาล 2 ใบ แต่จ่ายจบ ตกลงกันได้ด้วยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จ่ายครบแล้ว 6 ใบ ล่าสุดใบสุดท้าย อีอ้อย ปิดเมื่อ 02 พ.ย. 55  เหลือ เค บ๊วย 1 ใบ ประนอมหนี้ด้วย  แต่กำลังจะปิดภายในสัปดาห์นี้ แนะนำกรุงไทยครับ ในชายคาไม่ค่อยมีใครพูดถึง มีแต่ ออมสิน , ธอส , เหลือง , เขียว , ม่วง ฯ  ลองดูครับ เผื่อเป็นแนวทาง อาจช่วยหลายท่านได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ขอบคุณครับ ป.ล. เหมือนท่าน  Rapter อย่าจ่ายค่าบัตรขั้นต่ำเลยครับ   และหากผ่านนรกจากการทวงหนี้ และปิดบัตรหมดแล้ว    ผมเชื่อว่าทุกท่านจะจำมันไปอีกนานจนไม่อยากมีบัตรอีก  เอาใจช่วยให้มีบ้านกันนะครับ แม้จะเป็น คอนโด ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยวก็ตาม  มันก็คือบ้าน ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเราทั้งนั้น  สู้ๆ ครับ จากคุณ : legacy_newba เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 13:07:23

ความคิดเห็นที่ 6 พึ่งซื้อเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กู้คนเดียวค่ะ เงินเดือนตอนกู้ ประมาณ 22k ตอนนี้ขึ้นมาอีกนิดหน่อย บ้านมือสอง 2.15 ล้าน แบงค์ให้เต็ม (ธอส.) แต่เอาแค่ 2 ล้านถ้วน ที่เหลือจ่ายสด+ค่าโอน+ค่าจดจำนอง ราว ๆ 2 แสน ก็ผ่อนเดือนละ 12,400 ผ่อนมาได้ 5 เดือน ตอนนี้ยอดกับธนาคารเหลือประมาณ 1.5 ล้าน (หามาโปะแบบไม่เสียดอก ผ่อนยาว ๆ) ได้โปร 0% 6 เดือน ปีหน้าก็ต้องเสียดอกเบี้ยแล้วก็เลยโปะตัดดอกเบี้ยไป เท่ากับตอนนี้ผ่อนเดือนละ 18k   บัตรเครดิตก็มีใช้จ่ายเต็มตลอด ไม่เคยเกินเวลา หลายคนคงสงสัย เงินเดือน 22k ผ่อน 18k แล้วจะเอาอะไรกิน ก่อนจะซื้อบ้านเราทำงานมาเกือบ ๆ 5 ปี งานราชการแต่ไม่ใช่ข้าราชการนะคะ เงินเดือนน้อยนิด มีเงินเก็บ 6 หลักกลาง ๆ ให้เงินแม่มา 5 ปีรวม ๆ แล้ว 6 หลักต้น ๆ ปีนึงใช้เงินเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 ทริป ยังงง ๆ ตัวเองอยู่มีเงินเก็บขนาดนี้เลยหรอ ตอนนี้ก็ใช้เงินเก็บตรงนี้เอาคะ ดึงเงินเก็บมาใช้เดือนละ 2-3 พันบาท แม่บอกไม่ต้องให้แม่แล้วนะ เอาไปผ่อนบ้านแล้วกัน เลยเนียน ๆ ซื้อของเข้าบ้านบ้างนาน ๆ ที ... แต่กำลังรอขึ้นเงินเดือน+ตกเบิกก้อนใหญ่อยู่ ก็น่าจะไม่ต้องดึงเงินเก็บมาใช้หละ ใครกำลังจะกู้ซื้อบ้าน สู้ ๆ นะคะ เป็นหนี้แต่ก็หนี้แห่งความสุข ^^ จากคุณ : dekba_com เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 21:34:51

ความคิดเห็นที่ 7 ขอความคิดเห็นจากพี่ๆในห้องชายคาหน่อยครับ กำลังจะยื่นกู้เหมือนกันเป็นโครงารบ้านแถวๆพระรามสอง ราคา 4.8 M. ดาวน์ไป  230k. ผู้กู้ 3 คน คนแรกคือผม อายุ 30 รายได้ 25k ผ่อนรถหนึ่งคันตกเดือนละ 10k  คนที่สองคือแฟน รายได้ 25k มีภาระผ่อนบ้านอยู่แต่เป็นผู้กู้ร่วมและไม่ได้ส่งค่าบ้านเอง คนกู้หลักส่งเองคนเดียว (สรุปคือไม่มีภาระ) คนที่สามคือพ่อ รายได้ 38k แต่เงินเดือนเข้าบัญชีครึ่งเดียว อีกครึ่งจ่ายเงินสดตอนกลางเดือน   ไม่ทราบว่าพอจะมีโอกาสกู้ได้บ้างไหมครับ ตอนนี้กังวลพอสมควรเลย.........  แล้วพี่ๆมีแบงค์แนะนำไหมครับ จากคุณ : chaizade เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 22:08:13

ความคิดเห็นที่ 8 #7 รายได้รวม 73k - 10k = 63k เต็มที่แบบสุดๆน่าจะได้ 70 เท่าของรายได้ คือ 63x60 = 4.41 M ราคาบ้าน 4.8 ดาวไป 0.23 คงเหลือ 4.57 M 1   ควรหาเงินดาวเพิ่มอีก 160k และ บ้านใหม่ราคา 4 ล้านเนี่ย ถ้าคิดค่าตกแต่งสารพัด 10% ของราคาบ้าน ก็ต้องหาเงินค่าตกแต่งอีก 400k  รวมเป็น 560k 2  ค่าส่วนกลางคงประมาณปีละ 6k 3 ปีก็ 18k   3  ค่าจดจำนอง 1% ของยอดกู้  44k + ค่าประกันอัคคีภัย 10k รวมเป็นประมาณ 54k รวม 1+2+3 =  560k + 18k + 54k = 632k   ถ้ายอดกู้ 4.4 ล้าน น่าจะผ่อนประมาณเดือนละ 33000 แสดงว่า จขกท แฟน และ พ่อ 3 คน เหลือเงินใช้จ่ายตกคนละ 10k ถ้ากู้ไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องเครียดครับ เลือกบ้านราคาถูกลงแค่นั้นก็จบ ข้อดีของการซื้อบ้านราคาถูกลงก็จะได้ผ่อนน้อยลง เหลือเงินใช้มากขึ้น มีความเสี่ยงต่อเรื่องการเงินมีปัญหาน้อยลง แต่ถ้ากู้ผ่าน ชนิดที่ว่าแบงค์ปล่อยให้เยอะมากๆ (ซึ่งก็มีแต่แบงค์เอกชนที่คิดดอกเบี้ยโหดๆและมีเงื่อนไขต้องทำประกันชีวิตแสนแพงด้วย) นั่นทำให้ค่างวดจะแพงมากแน่ รายจ่ายจะยิ่งตรึงมือ ผ่่านไป 4-5 ปี ต้นแทบไม่ลด จะเครียดหนักกว่าการกู้ไม่ผ่านหลายสิบเท่าแน่ครับ จากคุณ : Rapter เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 21:29:33