ความคิดเห็นที่ 1 1 บอกเขาไปเถอะ ไม่รู้ตอนนี้เขาก็รู้ตอนทำเรื่องเปลี่ยนชื่อในสัญญาอยู่ดี หรือไม่เขาเช็คกับทางโครงการก็รู้อยู่ดี คนมาซื้อดาวน์ต้องทำใจแล้วว่าโดนบวก ที่ถามก็เพื่อเปรียบเทียบกับห้องอื่นที่เขาดูอยู่พร้อมกัน ถ้าเขาชอบห้องคุณจริงๆเขาก็ยอมจ่าย(ถ้ามันไม่มากเกินไป) 2 ให้ดูไปเถอะเพราะมันจะกลายเป็นสัญญาของเขาต่อไป โครงการไม่ได้ทำสัญญาฉบับใหม่ให้เขาหรอก แค่ทำหนังสือเปลี่ยนชื่อในสัญญาแนบท้ายเพิ่มเข้าไปเท่านั้นแหละ ให้ข้อมูลมากที่สุด เขาจะซื้อหรือไม่อยู่ที่เขาชอบและต้องการห้องนี้มากแค่ไกน เขายังไม่ได้จ่ายตังค์ ถ้าคุณไม่ให้เขาดูตอนนี้ พอเขาได้เห็นรายละเอียดในวันเปลี่ยนชื่อ ซึ่งเขาต้องเห็นสัญญา เห็นตัวเลขเงินดาวน์ที่คุณจ่ายไปจริง เขายังมีสิทธิ์เปลี่ยนใจได้ ณ วันนั้น อยู่ดี จากคุณ : umibozu เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 16:10:36

ความคิดเห็นที่ 2 เราเพิ่งซื้อต่อดาวน์คอนโดมาค่ะ เราติดต่อไป 2-3 เจ้า ทุกที่บอกหมดนะคะ ว่าบวกเพิ่มจากหน้าสัญญาเท่าไหร่ และเราเองก็ขอดูสัญญาด้วย เค้าถ่ายให้เราดูนะคะ มันเป็นเรื่องจำเป็นต่อการตัดสินใจ ส่วนเจ้าที่เราซื้อต่อเค้าบวกเพิ่ม 3 หมื่นกว่าค่ะ แฮ้ปปี้ทั้ง 2 ฝ่าย ทำเรื่องเปลี่ยนสัญญาแนบท้ายที่โครงการเรียบร้อยแล้วค่ะ จากคุณ : ผิดบ้าง ถูกบ้าง เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 20:47:39

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจขกท.ขายใบจอง ก็บอกได้ทุกอย่าง เพราะเป็นการซื้อมาไม่นานพอที่ห้องจะมีมูลค่าเพิ่มอะไรขึ้นมาได้ ราคาขายจึงเป็นการบวกเข้าไปจากราคาจองดื้อๆ แล้วถ้าบอกว่าบวกเท่าไรได้ ที่เหลือก็ต้องบอกได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่...ถ้าจขกท.ขายดาวน์ นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว แสดงว่าจขกท.ต้องซื้อมาได้ระยะหนึ่งแล้ว นานพอที่จะทำสัญญาไปแล้ว และผ่อนดาวน์ไปแล้วหลายงวด ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านไป มูลค่าห้องมันเพิ่มขึ้นอยู่แล้วตามกลไกตลาดและราคาอสังหาฯ ราคาวัสดุก่อสร้าง การที่จขกท.มาตั้งราคาขายในราคาตลาดที่คอนโดข้างเคียงเขาขายกัน แบบนี้ไม่ได้เป็นการบวก แต่เป็นการขายเพื่อสะท้อนราคาที่เป็นจริง พูดง่ายๆ คนอื่นเขาขายเท่าไร เราก็ขายเท่านั้น ตราบใดที่เราไม่ได้ยกเมฆตั้งราคาเว่อร์ๆ ขึ้นเอง ก็ถือว่าราคาของเราคือราคาตลาด ถ้าขายดาวน์ ผมจะไม่บอกว่าผมบวกเท่าไร เพราะผมถือว่าผมไม่ได้บวกเอง ผมจะบอกเป็นราคาดาวน์และราคาห้องไป ผมจะให้ข้อมูลหน้าสัญญาไปด้วย เขาอยากรู้ว่าเรากำไรเท่าไรให้เขาไปดูเอง แต่ต้องให้เขารู้ว่าเรากำไรจากการลงทุน ซึ่งมีความเสี่ยงจากการเอาเงินก้อนมาลงไว้ ไหนจะความเสี่ยงว่าคอนโดจะสร้างหรือไม่สร้าง ผ่าน EIA หรือเปล่า เสี่ยงมากก็กำไรมาก ไม่ใช่กำไรจากการเก็งกำไรแบบหน้าม้าหรือแบบนายหน้าเขาทำ ไม่ต้องเสี่ยงอะไรมาก กำไรก็บวกมากไม่ได้ หากยังมีข้อสงสัยอะไรหลังไมค์ก็แล้วกันครับ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 21:16:43 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 55 21:13:42 จากคุณ : Kingdom of Heaven เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 21:11:06

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนนี้ผ่อนมา14งวดแล้วค่ะ เคยมีคนบอกแบบคห.3 เหมือนกันว่าไม่ควรบอกกำไร ให้เขาไปดูเอาเอง เนื่องจากขายตามราคาตลาดและเจ้าของขายเองไม่ได้บวกเยอะ ส่วนตัวก็ไม่อยากบอกลูกค้าเหมือนกัน  แต่พอลูกค้าถามมา2รอบแล้วก็ลังเลว่าจะบอกดีหรือไม่ เรื่องสัญญา เคยอ่านเจอในเน็ตว่าไม่ควรให้ เพราะลูกค้าจะเห็นข้อมูลส่วนตัวเรามากเกินไป แต่ส่วนตัวก็คิดว่า ลูกค้าก็ต้องอยากรู้อยู่แล้วว่าเราซื้อมาจริงรึเปล่า ขอบคุณทุกๆคำแนนะนำนะคะ หากมีอะไรเพิ่มเติมอีกก็แนะนำได้เลยค่ะ จากคุณ : แนนเน่ เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 23:24:53

ความคิดเห็นที่ 5 ผ่อนมาเยอะขนาดนี้แล้ว เป็นการลงทุน เหมือนเราซื้อของมาขาย เวลาคนมาซื้อ คงไม่มีใครละลาบละล้วงมาซักมาจี้มาถามว่าต้นทุนเราเท่าไร กำไรแค่ไหน คนซื้ออยากรู้เพื่อจะมาบอกเราให้เราขายราคาไหน กำไรแค่ไหนก็พอ เขามีสิทธิ์อะไรมากำหนดราคาให้เรา เปรียบเทียบกับกรณีการซื้อขายที่ดินน่าจะเหมาะกว่า ถ้าเราซื้อที่ดิน 1 ล้านบาท 1 ปีต่อมา ราคาที่ดินแถวนั้นขึ้นมาถึง 2 ล้านบาท เราขาย 2 ล้าน ไม่เคยเห็นมีคนซื้อมาบ่นว่าคนขายบวกเยอะเอากำไรเยอะ คนที่พูดแบบนี้คือคนเอาแต่ได้ พูดทำให้คนขายรู้สึกผิดเพื่อให้ตัวเองได้ของถูก พอซื้อได้ ก็เอาไปขายแพงๆ ดังนั้น ใครไปหลงเชื่อไปขายถูกๆ เลยกลายเป็นคนโง่ไปเลย ผมเจอคนซื้อเขี้ยวๆ มาหลายคน มีตั้งแต่ -มาถึงก็มาถามทุนเรากำไรเราเท่าไร เราต้องขายเขาเท่าไร ค่าเปลี่ยนมือเราจ่าย สั่งเราทุกอย่าง ถ้าคนขายอ่อนประสบการณ์ก็คงคล้อยตามเพราะกลัวเขาว่าเอา -ไปเห็นเราประกาศขายตั้งแต่กลางปี ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีคนสนใจเราขายไม่ได้ ยกเลิกการขายไป แต่ปรากฏราคามันสูงขึ้น คนจะซื้อโทรมาบังคับให้เราขายราคาตามประกาศ อ้างว่าเราพูดคำไหนต้องคำนั้น ทั้งที่เพิ่งได้คุยกับเขาครั้งแรก ยังไม่เคยมีการรับปากสัญญิงสัญญาอะไรเลย -โทรมาคำแรกที่ถามคือ บวกเท่าไร ได้ยินแล้วอยากวางหูไปเลย คนแบบนี้เวลาไปซื้อของคงถามคนขายตลอดว่าเขามีต้นทุนกำไรเท่าไรจนเคยชิน คนซื้อคอนโดพวกนี้เป็นคนน่ารังเกียจ ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องไปคุยด้วยดีกว่า เพราะคนพวกนี้พร้อมจะชวนทะเลาะหาเรื่องตั้งแต่แรกเริ่มสนทนาแล้ว แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 55 08:14:15 จากคุณ : Kingdom of Heaven เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 08:08:43