|
ซื้อตอนไหน ผมก็ว่าราคา(ตัวเครื่อง)แอร์ มันก็แทบจะไม่มีความแตกต่างตามฤดู แต่ที่แตกต่างคงจะเป็นในด้านของการให้บริการมากกว่า รวมไปถึงรายการส่งเสริมการขายที่บริษัทห้างร้านต่างเอามาแข่งขันกัน ในช่วงที่แอร์ขายดีสุด อย่างช่วงหน้าร้อน
แต่...รวมๆแล้ว รายการส่งเสริมการขายต่างๆ ที่บรรดาห้างร้านนำมาแข่งขันกัน ถ้ามองดีๆ มองให้ลึก ผมว่ายังไงมันก็เกือบจะเสมอตัวทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครได้มากเสียมากกว่ากัน โปรโมชั่นที่เราเห็นกันบ่อยๆ อย่างเช่นซื้อแอร์แถมสินค้า หรือแถมบริการติดตั้งฟรี รวมไปถึงแถมบริการล้างฟรี ถ้าเทียบกันให้ดีๆ มองลงไปให้ลึกๆ ราคาของแถม หรือค่าบริการต่างๆ มักจะถูกรวมกับราคาขายแอร์แล้ว...ดูๆแล้ว ลูกค้าก็ใช่ว่าจะได้ของแถมพวกนั้นมาฟรีๆโดยไม่มีบวกเพิ่ม ห้างร้านเองก็คงไม่ยอมที่จะค้าขายแบบขาดทุนหรอกครับ สรุป...เสมอตัวทั้งสองฝ่าย ก็ว่าได้
เรื่องภาษีแอร์...จากเดิมที่(เมือประมาณ 2 ปีที่แล้ว) ครม. เคยมีมติที่จะงดเว้นการเก็บภาษีเครื่องปรับอากาศที่ใช้กันในภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดทำความเย็น ต่ำกว่า 60,000 หรือ 72,000 BTU (ไม่แน่ใจ) เพราะเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า เครื่องปรับอากาศเริ่มจะกลายเป็นสินค้าจำเป็น สำหรับบ้านเมืองเราที่เป็นเมืองร้อน ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยเหมือนในอดีต เป็นผลให้ สรรพสามิตร งดเก็บภาษีเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในภาคครัวเรือน จากเดิมที่เคยเก็บ 10 - 15% ก็งดเก็บมาระยะหนึ่งแล้ว
แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร(ยอดเก็บภาษีคงไม่เป็นไปตามเป้า) มีข่าวแว่วมาว่า สรรพสามิตรเตรียมที่จะทบทวนเรื่องภาษีเครื่องปรับอากาศที่เคยงดเก็บไป ให้มาเก็บภาษีตามเดิม คือที่ 15% แต่น่าจะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า ในอนาคตจะเก็บหรือไม่เก็บ แล้วเริ่มเก็บจริงจังเมื่อไหร ผมว่าเรา(ในฐานะผู้บริโภค)ก็คงต้องรอดูกันต่อไป
จากคุณ |
:
KanichiKoong
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ธ.ค. 55 07:48:50
|
|
|
|
|