ความคิดเห็นที่ 1 สมัยก่อนเขาก็ไม่มีเครื่องยิงตะปูครับ  ค้อนกับตะปูก็ได้ครับ จากคุณ : จอมยุทธ AG เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:10:16

ความคิดเห็นที่ 2 สมัยก่อนไม่มี power tools มีแต่  hand tools ก็ยังมีผลงานสวย ๆ เนี๊ยบ ๆ มาเยอะแยะเลยครับ power tools มีไว้เพื่อผ่อนแรง และทำให้งานเสร็จเร็ว ทำงานง่ายขึ้นแค่นั้นเอง บางที ลองทำอะไรช้า ๆ เก็บรายละเอียดเรื่อย ๆ ทีละนิด มันนก็เป็นงานอดิเรกที่ทำให้เราเย็นอกเย็นใจลงได้เยอะนะครับ จากคุณ : ความน่าจำเป็น เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:19:25

ความคิดเห็นที่ 3 การใช้ไม้อัดตีโครงสามารถใช้ค้อนธรรมดาตอกได้ แต่ก็ต้องมาส่งหัวตะปูให้จมเข้าไปในเนื้อไม้อีกครั้งซึ่งเสียเวลาพอสมควร แต่การใช้ Power Tools มันทุ่นแรง ทุ่นเวลา เพิ่มความสะดวกและเพิ่มความละเอียดปราณีตให้กับชิ้นงานครับ สมัยโบราณช่างฝีมือก็คงอยากมีอยากใช้เหมือนกัน หากจะใช้แค่ปืนยิงตะปู แม็ก ไม่จำเป็นต้องมีถังลมก็ได้ แต่ถ้าจะทำสีด้วยก็ควรมี มันมีปืนแบบไฟฟ้า ใช้งานได้เหมือนกัน (ผมไม่เคยใช้ ใช้แต่ปืนลม) ลองใช้อากู๋ค้นหาดูครับ ส่วนอุปกรณ์ที่จำเป็น (มาก) ที่ จขกท. ยังขาดคือ โต๊ะเลื่อย ทริมเมอร์ เครื่องขัดกระดาษทราย แคลมป์สำหรับหนีบจับชิ้นงาน จากคุณ : thebm เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:58:49

ความคิดเห็นที่ 4 ปืนลม F30 แค่ 700-900 บาท แต่ปั๊มลมน่ะซิหลายพัน ก็น่าคิดเหมือนกันนะ ว่าซื้อมาแล้วคุณจะทำอะไรได้อีกบ้าง เติมลมรถ พ่นสี หรือใช้กับอุปกรณ์ลมอื่นๆ .... ผมก็เป็นครับ มีงานหลายงาน พอจะใช้แล้วไม่มีใช้ แล้วจะบ่นในใจว่า น่าจะซื้อมาแต่แรก คุ้มไปแล้ว จากคุณ : เลือนลางร่ำไร เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 10:59:07

ความคิดเห็นที่ 5 ปืนยิงตะปูไฟฟ้า ผมใช้อยู่ครับ จากคุณ : padawan เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:27:50

ความคิดเห็นที่ 6 แต่ไงๆก็อยากได้ถังลมมาไว้พ่นสีอยู่ดี จากคุณ : padawan เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:28:15

ความคิดเห็นที่ 7 ทำได้ค่ะ ใจเย็นๆทำไปเรื่อยๆ ทำสีตู้ก็เหมือนกันค่ะ ใจเย็นๆค่อยๆลงแปรง ช่างที่มาทำเฟอร์นิเจอร์ให้บ้านเราเมื่อสมัยก่อน ก็ไม่มีเครื่องทุ่นแรงใดๆ เลื่อยก็ใช้แบบเลือยมือธรรมดา แต่เขาใช้เวลาแบบไม่รีบร้อน ทำเสร็จออกมาตู้เราก็สวยค่ะ เขาทำคนเดียวด้วย จากคุณ : พุดซ้อน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 11:48:26

ความคิดเห็นที่ 8 ผมมีปั้มลมอยู่แล้ว...แต่ปืนยิงตะปูเนี่ย ยังตัดใจซื้อไม่ได้ซักที...ควรเลือกยี่ห้อ และขนาดไหนดีครับ...ใครรู้ช่วยแนะนำทีครับ เอาที่ใช้งานได้กว้างๆ...ครับ จากคุณ : โจคนเก้าเลี้ยว เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 13:04:24

ความคิดเห็นที่ 9 ปืนยิงตะปูขาเดี่ยว ขาคู่ ผมก็ซื้อจากคลองถมละครับ ตัวละไม่กี่ร้อย ซองใส่ตะปูก็จะมีขนาดมาตราฐาน ใส่ได้ทุกขนาด ส่วนถ้าไม่มีปั้มลม แล้วไม่ได้วางแผนจะซื้อ ก็ตาม คห ข้างบนว่า ละครับ มีแบบไฟฟ้า เสียบปลั๊กแล้วใช้ได้เลย จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 13:29:18

ความคิดเห็นที่ 10 มีสว่าน ไขควงไฟฟ้า  อยากง่ายขึ้นมาหน่อยก็ขันสกูร ครับ จากคุณ : rbko เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 13:36:26

ความคิดเห็นที่ 11 ผมนะมีทุกอย่าง ถังลม ก็ของเก่า ซื้อมาถูกๆ ซ่อมเอา ปืนยิงตะปูลม ก็ของเก่าๆ  ซื้อมาหลายๆ ตัว ตัวละ 20 - 30 บาท เอามายำๆ ซ่อมๆ มีใช้กับเขา  ทั้งสองอย่าง รวมๆ ไม่ถึงพันบาท ถ้ามีเวลา  จะถ่ายรูปให้ดู เคยมีคนเขาว่า "ขอนเก่าโม้"  แต่ทำอย่างไรได้  ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่ครับ 5  5   5 จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 55 21:39:34

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้ารักและคิดจะทำของใช้เอง ซื้อไว้เถอะครับ ค่อยๆซื้อไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ครบเองครับ จากคุณ : ลุงขายน้ำปั่น เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 04:10:26

ความคิดเห็นที่ 13 ที่จริงผมก็ไม่ได้รักจะทำเองสักเท่าไหร่ แต่เห็นราคาค่าจ้างงานบิลท์อินแล้วยอมซื้อเครื่องมือดีกว่า เลยค่อยๆซื้อมาทีละอย่าง ตอนนี้เครื่องมือที่ผมมีนี่เผลอๆดีกว่าที่ร้านรับจ้างทำเฟอร์ฯซะอีก เดี๋ยวนี้ค่าแรงช่างทั้งหลายแพงมาก บางรายฝีมือห่วย(ขั้นเทพ) ผลงานเหมือนเด็กหัดงาน ยังจะเล่นตัว ไม่ง้อลูกค้าอีก ถ้าพอมีทักษะทางช่างอะไรพอทำเองได้ก็ทำไปเถอะครับ อาจดีไม่เท่ามืออาชีพก็ไม่น่าเสียใจอะไร แต่จะได้ความภูมิใจกลับมาว่านี่คือฝีมือเรา อีกทั้งบางทีเราอาจได้งานดีกว่าร้านห่วยๆก็เป็นได้ อย่างล่าสุดผมจะทำโครงหลังคาโรงรถ แบบก็ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอะไร ช่าง 3 ราย ตีราคางานมา 4-6 หมื่น เลยซื้อเครื่องเชื่อม เครื่องตัดเหล็กมาเองเลย ลงทุนค่าเครื่องมือไปหมื่นเดียว ค่าเหล็กราว 5 พัน เมื่อเสร็จงานเครื่องมือก็ยังเก็บไว้ทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ หรือหากคิดว่าจะไม่ทำอะไรแล้วเอามาขายต่อสักครึ่งราคาก็ยังถือว่าไม่ขาดทุน แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 10:15:50 จากคุณ : thebm เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 07:44:40

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่มีก็ทำได้ครับ เพราะขนาดช่างสมัยก่อนก็ยังไม่มีก็ยังทำได้เลยแต่คุณต้องมีฝีมือเทพมากๆเหมือนช่างสมัยนั้น  ที่ผ่านมาผมก็มีเครื่องมือเท่าๆคุณแหล่ะครับก็ทำได้เยอะซะด้วยแต่ผลงานออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรความสวยงามหายไป50% เวลาที่ใช้ก็เยอะกว่าหลายเท่านัก พอทำๆไปก็จะนึกได้เองครับว่าเราต้องมีไอ้นั่นเพิ่มไอ้นี่เพิ่ม ก็ค่อยๆซื้อมาเรื่อยๆ พอมีครบเวลาทำอะไรมันก็ดูง่ายไปซะหมด(ยากสุดก็ตอนออกแบบนี่แหล่ะ) แถมงานที่ได้ก็เนี๊ยบเนียนต่างกันมาก ปล.ผมไม่ใช่ช่างนะครับทำงานไม้เป็นงานอดิเลกเพื่อเพิ่มสมาธิและประหยัดสตางค์เท่านั้น จากคุณ : คลองฟ้า เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 10:37:45

ความคิดเห็นที่ 15 ปืนยิงตะปู พวกช่างใช้ ATM กันหลายคน แต่ผมว่าพอกันหมดทุกยี่ห้อ พังแล้วอะไหล่ก็เพียบเลย ซ่อมไม่แพง ซื้อไปเหอะครับ แต่ถ้าแบบไฟฟ้าจะใช้งานหนักไม่ค่อยทน ถ้าใช้ในบ้านนานๆทีพอไหวครับ จากคุณ : เคราครึ้ม เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 10:46:13

ความคิดเห็นที่ 16 ปืนยิงตะปูแบบลม ผมซื้อแถวบางโพครับ ถูกกว่า modern trade เยอะ ผมใช้ 2 ยี่ห้อคือ แม็กคู่ MKT 650 บาท กับ แม็กเดี่ยว Redking 550 บาท ก็ใช้งานได้ดีครับ ถ้ามีงบก็มากิต้าเลยครับ ราวพันต้นๆ จากคุณ : thebm เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 11:32:38