ความคิดเห็นที่ 1 เท่าที่ผมรู้นะครับ ระบบ RO (Reverse Osmosis) นี่คือระบบที่ทำให้น้ำสะอาดแบบสุดๆ คือจะไม่มีฝุ่น ตะกอน หรือสารแปลกปลอมเล็ดลอดเข้ามา  แต่ก็ต้องมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลา แต่ระบบ UV นี่ มันคือการฆ่าเชื้อโรค โดยการใช้หลอดผลิตรังสีUV ซึ่งน้ำที่ได้ก็จะต้องผ่านระบบกรองมาขั้นหนึ่งแล้วก่อนจะมาผ่าน UV ลองพิจารณาดูครับ จากคุณ : รองบ๊วย - [ 27 มี.ค. 50 09:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ซื้อแบบ 3  ท่อ เรซิ่ง คาร์บอน เซรามิก ก็พอแล้วครับ จากคุณ : monjangja - [ 27 มี.ค. 50 09:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แบบ UV ดีกว่าครับ เพราะว่ายังมีแร่ธาตุเหลืออยู่บ้าง แต่ผมใช้ amway ก็ดีครับ จากคุณ : m - [ 27 มี.ค. 50 10:47:24 A:125.25.202.87 X: TicketID:122020 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บ้านก็ใช้แบบ RO ของ COWAY อยู่ก็ OK ครับ จากคุณ : Dooms - [ 27 มี.ค. 50 10:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าแบบสามท่อก็น่าจะสะอาดพอแล้ว จะเล่าให้ฟัง วันก่อนไปโฮมเวิคแถวบ้านมาคับ จะไปหาซื้อก๊อกมาเปลี่ยนเครื่องกรองที่บ้าน ราคาห้าง 650 ผมบ่นๆแพง แถวบ้านขายแค่ 450เอง พอจะเดินออก พนักงานก็ฉุดผมไว้ บอกว่าคิด 400 ละกันมาส่งให้ถึงบ้านแต่ผมต้องเปลี่ยนเองนะ ผมก็เลยโอเค พอวันอาทิตพนักงานคนดังกล่าวก็ส่งของมาให้ผมตามตกลงกัน สรุปคือจะบอกคุณว่าถ้าอยากได้ของถูกต้องทำแบบผมจิ 555 จากคุณ : papa - [ 27 มี.ค. 50 11:32:40 A:125.24.37.135 X: TicketID:131710 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากครับสำหรับทุกๆความเห็น คงจะเลือกเอาแบบกลางๆละกันครับ คือ ยูวี อุ่นใจ และสบายกระเป๋าด้วย จากคุณ : kitty2006 (Kitty2006) - [ 27 มี.ค. 50 11:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 RO (Reverse Osmosis) น้ำที่ได้จะไม่เหมาะแก้การดื่มทุกวันครับ เพราะน้ำที่ได้จะมีคุณสมบัติ คล้ายน้ำกลั่น ดื่มมากๆ จะทำให้ร่างกายเสียสมดุลครับ จากคุณ : ปีศาสสีเพลิง (reddevil_man) - [ 27 มี.ค. 50 15:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำครับน้ำ H2O กินผักแค่ผงธุลีก้ได้แร่ธาตุมากกว่าที่ปนในน้ำซะอีก อย่าเชื่อคำโจมตีจากบางยี่ห้อ เท่าที่ผมเคยทดสอบมา แสง UV ประมาณในเครื่องไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคในน้ำที่ผ่านท่อแบบรวดเร็วขนาดนั้นได้ครับ ในห้องแลบใช้แสงแรงกว่านั้นและต้องจ่อกันนานจึงจะฆ่าได้ จากคุณ : mirror - [ 27 มี.ค. 50 17:23:44 A:203.185.133.132 X: TicketID:138526 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผู้ที่กำลังมองหาเครื่องกรองน้ำควรอ่าน .... ดิฉันเพิ่งซื้อเครื่องกรองน้ำยี่ห้อ ฟูจิก้า (FUJIKA) ไปมาไม่นาน ซื้อมาด้วยคำแนะนำของเด็กขาย(เด็กเชียร์สินค้า)ทั้งๆที่มีให้เลือกตั้งหลายยี่ห้อ แต่ด้วยคำพูดคำชวนเชื่อของผู้ขาย จึงตัดสินใจซื้อไป ใช้ได้ไม่ถึง ๑ สัปดาห์ เกิดชำรุด เรียกช่างของศูนย์บริการมาซ่อมให้เรียบร้อย แต่ก็บ่นไปว่าทำไมคุณภาพสินค้าแย่อย่างนี้  แต่ก็ลองใช้ต่อไป ผ่านมาอีก ๑ สัปดาห์ ปรากฏว่าสินค้าเกิดชำรุดอีกแถมชำรุดที่เดิมด้วย และโชคร้ายที่ดิฉันไม่อยู่บ้าน น้ำจากท่อน้ำเครื่องกรองไหลออกมาเจิ่งนองท่วมบ้านดิฉันไม่ต่ำกว่า ๖ ชม. พื้นไม้ห้อง เฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้รับความเสียหายมากมาย พอดิฉันกลับมาบ้าน ก่อนอื่นก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะเอาเรื่องบริษัท กับความแย่ของสินค้า ก็สงสัยเหมือนกันว่าไอ้ยี่ห้อนี้มันเป็นของญี่ปุ่นจริงหรือเปล่า ทำไมสินค้าห่วยอย่างนี้ พอได้ทราบว่า "ชื่อบริษัท"ตั้งใจตั้งเป็นชื่อญี่ปุ่นแต่เจ้าของบริษัทและผู้บริหารระดับสูงเป็นคนจีน (นี่ตั้งใจตั้งชื่อยี่ห้อเพื่อหลอกลวงลูกค้าว่าเป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพหรือเปล่าน๊า ก็อดจะคิดไม่ได้ ) หลังจากเรียกศูนย์ซ่อมมาตรวจสอบดู ดิฉันก็ร้องเรียนไปขอคืนสินค้าและให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย  แต่วันเวลาผ่านไป ไม่มีผู้ใดโทรติดต่อกลับมาเลย ดิฉันเลยโทรไปเอง ได้รับคำตอบว่ากำลังให้ผู้ใหญ่พิจารณาอยู่  หลังจากผ่านไปหลายวันก็ไม่มีโทรศัพท์ขอโทษจากผู้รับผิดชอบเลย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีจดหมายจากบริษัทเขียนมา ๓ บรรทัด (ไม่มีคำขอโทษด้วยนะ) บอกว่าจะรับคืนสินค้าให้อย่างเดียว ดิฉันโมโหมาก ซื้อเครื่องกรองน้ำมาไม่กี่พัน แต่ทำความเสียหายในบ้านตั้งหลายหมื่น ไม่มีคำขอโทษจากผู้บริหาร ไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้ดิฉันกำลังร้องเรียนไปยัง สคบ. และฟ้องร้องอยู่ค่ะ จำชื่อไว้ดีๆนะค่ะ ยี่ห้อ FUJIKA อย่าไปใช้ ไม่รับผิดชอบกันเลย ตอนแรกก็ไม่อยากฟ้องร้องเพราะเสียเวลา แต่มาแค้นใจที่ผู้บริหารไม่มีคำขอโทษในอันดับแรกที่ทราบเรื่อง แถมดิฉันโทรไปหาผู้อำนวยการทั่วไป (ชื่อนพพล) ตั้งหลายครั้งเลขารับ แต่บ่ายเบี่บงไม่ให้คุย  โดยอ้างว่าไม่อยู่ ให้ฝากเรื่องไว้ ฝากไว้ก็ไม่โทรกลับมา :( [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : อย่าไปใช้ FUJIKA (Uraga40) - [ 3 เม.ย. 50 00:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาอีกแล้ว RO. ผู้น่าสงสาร บริสุทธิ์ เกินไป ต้นทุนต่อลิตรถูกเกินไป ก็เลยโดน รุมเล่นงานซะไม่มีชิ้นดี ผมถามจริงๆ น้ำ บริสุทธิ์ ผุดผ่อง เป็นยองใย เวลาผ่านปากคน ผ่านหลอดอาหาร ก่อนไปลงกระเพราะ มันจะยังเหลือความบริสุทธิ์ อยู่อีกไหม UV ทำได้แค่ฆ่าสิ่งมีชีวิต แต่ไม่สามารถ กรอง สารพิษที่เจือปนได้ RO นะดีที่สุดแล้ว จากคุณ : . (Tread'em all) - [ 3 เม.ย. 50 21:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 RO จ้า ดีที่สุด ปลอดจากไวรัส เชื่อโรค สารอาหารเดี๋ยวหากินเองได้จ้า จากคุณ : อิธ - [ 9 เม.ย. 50 02:20:58 A:125.25.146.91 X: TicketID:133108 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สาเหตุเกิดจากท่อน้ำสีขาวหลุดออกจากข้อต่อตัวแอลคังรูป ทำให้น้ำไหลออกมาตลอด ดิฉันไม่ใช่คนติดตั้งและไปแตะต้องเครื่องกรองน้ำเลย เครื่องกรองน้ำติดตั้งอยู่ใต้ซิงค์น้ำ มีก๊อกอยู่ด้านบน ก็จะไม่ยุ่งกับข้างใต้ซิงค์อยู่แล้ว (คงไม่สะดวกที่จะก้มเปิด-ปิดวาล์วน้ำของเครื่องกรองน้ำตลอดทุกครั้งที่ใช้ เพราะยี่ห้ออื่นที่เคยใช้มาก็ไม่เคยทำเพราะเค้าออกแบบมาดี มีคุณภาพอยู่แล้ว ที่เปลี่ยนมาใช้เครื่องใหม่นี้เพราะเครื่องเก่ายี่ห้ออื่นใช้มา ๒ ปีแล้ว เป็นแบบ ๒ กระบอก ก็เลยอยากได้ที่กรองใหม่ ที่มีการกรองหลายขั้นตอน ก็ตั้งใจจะซื้อยี่ห้อเดิมอยู่แล้วเชียว แต่ด้วยการพูดโน้มน้าวของพนักงานในห้างแห่งหนึ่ง เลยซื้อเครื่องเจ้าปัญหานี้มา (ไม่รู้ว่าพนักงานจะได้ค่าคอมฯพิเศษเพิ่มขึ้นเท่าไหร่น๋อ ที่เชียร์ได้สำเร็จ) การติดตั้งก็ทางร้านมาติดตั้งให้ และเสียค่าติดตั้งต่างหากอีก ๕๐๐ บ.ด้วย ค่าเครื่องกรองน้ำก็ใช่ว่าจะถูกนะคะ ตั้ง เกือบ ๗๐๐๐ บ. พอมาใช้ได้ไม่ถึงอาทิตย์เกิดปัญหาอย่างที่เขียนไปให้หล่ะค่ะ ปัญหาและความเสียหายที่เกิดขึ้นสามารถที่จะเจรจา ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่เมินเฉยเหลือเกิน หลังจากส่งคนมาตรวจสอบเสร็จก็บอกกับดิฉันว่า ข้อต่ออาจจะหลวม ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ดิฉันก็ได้ร้องเรียนผ่านพนักงานที่มาตรวจสอบเขียน จม.ถึงผู้บริหาร เพื่อมาพิจารณาความเสียหายดู แต่หลังจาก พนง.กลับไปก็ไม่มีใครติดต่อมาเลย ไม่มีโทร.จากผู้บริหาร ไม่มีคำตอบจากผลการตรวจสอบ ก็เลยอดรยทนไม่ได้โทรไปหาบริษัทเองค่ะ ก็ไม่สามารถคุยกับผู้บริหารได้เลย โทรไปทีไรบอกไม่อยู่ทุกครั้งไป ฝากเรื่องไว้ก็ไม่ติดต่อกลับ จนในที่สุดก็มีจดหมายตอบมา ๓ บรรทัดอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ (ไม่มีคำขอโทษหรือเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย) อย่างน้อยบริษัทจะบอกว่าตนเองผิดไม่ผิด สินค้ามีคุณภาพหรือไม่ ก็ไม่โทรมาหารือพูดคุยกันเลย ซึ่งหากเป็นบริการหลังการขายอย่างนี้แล้ว บริษัทจะไม่มีโอกาสได้ขายสินค้าให้ดิฉันแล้ว เพราะนอกจากเครื่องกรองแล้ว มีเครื่องไฟฟ้าอื่นๆ ขายด้วย สำหรับเรื่องการเซ็นชื่อยอมรับเมือซ่อมสินค้าเสร็จไม่ได้หมายความว่าเรายอมรับว่าสินค้านั้นปกติดีทุกประการนะค่ะ หากอยู่ในระยะประกัน หากสินค้าเสียหายชำรุดเร็วเกินกว่าที่มันจะเป็น เรามีสิทธิร้องเรียนได้ และหากสาเหตุนั้นสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของลูกค้าเสียหายด้วย บริษัทก็ต้องรับผิดชอบด้วย ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคค่ะ จากคุณ : อย่าไปซื้อใช้นะค่ะ FUJIKA (Uraga40) - [ 22 เม.ย. 50 09:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ระบบยูวี....เป็นระบบกรองน้ำ ที่ในขั้นสุดท้าย จะปล่อยให้น้ำไหลผ่านหลอดรังสียูวี เพื่อต้องการ ฆ่าจุลินทรีย์ที่ก่อโรคที่แฝงมากับน้ำ ระบบอาโอ... หรือ เรียกตามภาษาไทยว่าระบบการกรองผ่านเยื่อเลือกผ่าน  โดยอาศัยหลักของการซึมผ่านของความเข้มข้นของสารที่แตกต่างกัน โดยน้ำที่ได้ออกมา จะเป็นน้ำบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซนต์ ประมาณว่าน้ำกลั่นอย่างนั้นเลยหล่ะ  มักนิยมใช้ในอุตสาหกรรมผลิตยา เพราะป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึ่งประสงค์  ระบบนี้สามารถทำน้ำให้บริสุทธิ์ได้ดีกว่าทุกระบบการกรองแน่นอน แต่จะมีน้ำทิ้งจากระบบ 40-60 เปอร์เซนต์การกรอง ขึ้นอยู่กับแหล่งน้ำที่นำมากรอง ประมาณว่า น้ำดิบ 100 ลิตร ผ่านการกรอง จะได้น้ำบริสุทธิ์ 40 ถึง 60 ลิตร ส่วนที่เหลือเอาไปเป็นน้ำใช้ต่อไป  ใยกรองตะกอน เปลี่ยนทุก 3 เดือน  กรองโออา เปลี่ยนทุก 6 เดือน ซึ่งแพงพอสมควร ถ้าจะไปซื้อมาใส่เองก้ต้องเป็นของที่บริษัชทเครื่องกรองรับรองเท่านั้นน่ะครับ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องกรอง และน้ำที่ได้จากเครื่อง อาโอ นั้นไม่มีแร่ธาตุใดๆที่จำเป็นต่อร่างกายเหลืออยู่เลย เมื่อดื่มเข้าไปก็จะได้น้ำเพียวๆ (ตามยี่ห้อเครื่องเลย) การขับสัปสาวะทางไตซึ่งก็อาศัยหลักการอาโอ ด้วยเหมือนกันจึงทำให้มีแร่ธาตุบางส่วนถูกดึงออกมาจากร่างกาย เมื่อไม่มีแร่ธาตุเติมเข้าไป มีแต่การขับถ่ายออกมาอย่างเดี่ยว จึงมีผล ทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็นได้มากกว่า การดื่มน้ำจากระบบการกรองแบบอื่นๆ ส่วนตามความเห็นผมน่ะครับ ระบบกรองแบบยูวี หรือ แบบอาโอ นั้นไม่จำเป็นเลยครับ ถ้าน้ำที่คุณเอามากรองนั้นเป็นน้ำประปา แค่เอามาผ่านเครื่องกรองตะกอนกับสนิมเหล็กก้พอแล้ว ถ้ารังเกียจกลิ่นคลอลีนก็เพิ่มแบบชนิดผงถ่านคาร์บอนเข้าไป และโดยปกติคลอลีนก็ฆ่าเชื่อโรคได้ดีกว่ารังสียูวี ไม่รู้กี่สิบเท่า เพี่ยงแต่น่ารังเกียจก็แค่กลิ่นเท่านั้นเองและเมื่อตั้งทิ้งไว้สองถึงสามวัน กลิ่นก็ระเหยไปหมดแล้ว ส่วนใครที่กลัวว่าน้ำประปานั้นมีตระกรัน อาจทำให้เป็นนิ่วได้ ปกติน้ำประปาจำเป็นต้องมีค่าความกระด้างของน้ำอยู่ น่ะครับ เพื่อป้องกันการกัดกร่อนขอท่อส่งทั้งหลาย แต่มีอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยต่อการดื่มกินและที่สำคัญอุณหภูมิในร่างกายคนเราไม่สามารถทำให้สารประกอบแคลเซียมหรือแมกนีเซียมที่เป็นสาเหตุของน้ำกระด้างตกตะกอนหรือเป็นตระกรันได้ ดังนั้น น้ำกระด้างไม่ใช่สาเหตุของการเกิดนิ่วครับ พอได้แนวทางน่ะครับ จากคุณ : บัวสันตุ  - [ วันจักรี 14:52:45 ] จากคุณ : งำงำ มีดบิน - [ 7 พ.ค. 50 09:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 และน้ำที่ได้จากเครื่อง อาโอ นั้นไม่มีแร่ธาตุใดๆที่จำเป็นต่อร่างกายเหลืออยู่เลย เมื่อดื่มเข้าไปก็จะได้น้ำเพียวๆ (ตามยี่ห้อเครื่องเลย) การขับสัปสาวะทางไตซึ่งก็อาศัยหลักการอาโอ ด้วยเหมือนกันจึงทำให้มีแร่ธาตุบางส่วนถูกดึงออกมาจากร่างกาย เมื่อไม่มีแร่ธาตุเติมเข้าไป มีแต่การขับถ่ายออกมาอย่างเดี่ยว จึงมีผล ทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็นได้มากกว่า การดื่มน้ำจากระบบการกรองแบบอื่นๆ เอาเข้าไป  กะไม่กินอะไรอีกหรือไง  แหม๋ จากคุณ : ตระกูล - [ 21 ก.ย. 50 16:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมขอแนะนำเครื่องกรองน้ำดื่ม - เครื่องน้ำที่มีใส่กรองSediment 1อัน มีคุณสมบัติกรองตะกอนและอนุภาคต่างๆหรือสารแขวงลอยที่ปะบนมากับน้ำหรือตะกรอที่อยู่ก้นแท้งน้ำพวกหนอนแดง - ใส่กรอง Active Carbon Filter 2 อันอยู่ในเครื่อง ช่วยจับคลอรีน กลิ่น สี ที่ปะบนมากับน้ำประปา โดนเฉพาะคลอรีนที่การประปาจะปล่อยทุกวันช่วง บ่าย2 โดยคลอรีนนั้นเรารับเขาร่างกายไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนต่างๆที่เราทานเข้าไป ก็จะไปเกิดสารก่อมะเร็งในร่างกายได้ -ระบบกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคที่เกิดจากแบคทีเรียและไวรัสโดยใช้แสง UV ทำให้น้ำปลอดภัยต่อการบริโภค - การรับประกัน คุณภาพน้ำ คุณภาพเครื่อง - ตรวจเช็คทุก 6 เดือน โดยช่างผู้ชำนาญ - ไส้กรองและสารกรอง นำเข้าจากโรงงานของ lux โดยตรงเพื่อควบคุม ..คุณภาพ - อายุการใช้งานไส้กรอง 1 ปี - อายุการใช้งานของเครื่องยาวนานหลายปี - ติดตั้งฟรี - สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ svsctb@lux.co.th จากคุณ : svsctb@hotmail.com - [ 9 เม.ย. 51 13:48:13 A:118.172.240.199 X: TicketID:168623 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ ถ้าเป็นประปาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบอาโอเพราะน้ำประปาปลอดภัยในระดับนึงแล้วเพียงแต่ต้องกำจัดสารคลอรีนและเชื้อโรคออกครับลองเข้าไปดูใน www.purefilter.com สิครับ จะมีคำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำที่เหมาะกับน้ำแต่ละประเภท จากคุณ : รัก(น้อง)น้ำ (aunloso) - [ 6 ม.ค. 52 08:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ^ โหข้างบนขายของอีกแล้ว RO ครับ ปลอดภัยกว่า ที่ยุโรปกับอเมริกา ก็ใช้ระบบนี้ แร่ธาตุไม่จำเป็นต้องได้จากน้ำครับ กินข้าวเย็นหนึ่งมื้อก็มีแร่ธาตุพออยู่แล้ว ระบบ UVก็ได้ครับ แต่มันใจว่า ทุกอณูของน้ำจะได้สัมผัสรังสี UV แล้วระยะยาวรังสีUV จะไม่ลดลง (เหมือนหลอดไฟ พอนานเข้าแสงจะเริ่มอ่อนลง) ผมว่าเลือกที่สามารถใช้กับไส้กรองทั้วไปได้ดีที่สุด อย่าเลือกพวกที่ต้องมีไส้กรองเฉพาะ เพราะราคาแพงมาก จากคุณ : hahaha - [ 6 ก.พ. 52 15:20:50 A:124.120.35.106 X: TicketID:203615 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เนื่อง จากน้ำในร่างกายมีถึงร้อยละ 70 คุณภาพของน้ำที่เราดื่มเข้าไปในร่างกายจึงมีความสำคัญต่อชีวิต น้ำจะต้องตอบสนองความต้องการของร่างกาย น้ำที่เห็นไม่ใช่ว่าจะมีคุณค่าเท่าเทียมกันหมด เราต้องคำนึงถึงความสะอาด ไม่มีสารเคมีหรือโลหะหนักเจือปน มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ มีขนาดของโครงสร้างที่เล็ก (Micro Clustu) มีเกลือแร่ที่ละลายอย่างพอเพียง....เข้ามาดูต่อครับ เนื้อหาเยอะ กำลังหาเครื่องกรองน้ำอยู่เหมือนกัน http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bannhom&month=16-02-2009&group=1&gblog=22 จากคุณ : โยเย (bannhom) - [ 16 ก.พ. 52 16:39:05 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เนื่องจากบ้านเราเป็นเมืองเกษตรกรรมค่ะในแหล่งน้ำต่างๆที่นำมาผลิตน้ำประปาก็จะมีพวกสารพิษสารเคมี ยาฆ่าแมลงปะปนอยู่ ดังนั้นถ้าจะใช้เครื่องกรองน้ำควรจะเลือกเครื่องกรองน้ำที่กรองได้ละเอียดที่สุดค่ะ ซึ่งระบบ ro จะละเอียดมากถึง 0.001 ไมครอนซึ่งกรองสิ่งปนเปื้อนรวมถึงเชื้อโรคต่างๆได้หมดแน่นอนค่ะ http://coway-thaiwater.blogspot.com/ จากคุณ : tae - [ 18 ม.ค. 54 17:53:17 A:58.11.37.212 X: TicketID:303247 ]