เส้นทางนิยายรัก 5
และแล้วเส้นทางนิยายรักของฉัน ก็ได้เดินทางมาถึงตอนที่ห้า อันเป็นบทตอนที่ฉันจะได้อำลา เกาะสวรรค์แห่งนี้ และถือเป็นบทตอนสุดท้ายของการพบเจอกันระหว่างเรา โดยมีเส้นทางนิยายรักเป็นสายใยเชื่อมโยง
แม้การใช้ชีวิตของฉันและเพื่อนบนเกาะฮ่องกง จะล่วงเข้าสู่วันที่สี่แล้ว แต่ฉันกลับมีความ รู้สึกว่าอยากยืดเวลาออกไปอีก จนเพื่อนของฉันก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้ ถึงกับถามฉันว่า หรือเราจะอยู่กันต่อ พรุ่งนี้เช้าค่อยโทรไปเลื่อนตั๋ว แต่สุดท้ายบทสรุปของเราสองคนคือ ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็จะหาโอกาสเดินทางกลับมาเที่ยวเกาะสวรรค์แห่งนี้ อีกสักครั้ง.. ..
ในเช้าวันที่สี่ของพวกเรา แรกนั้น..เราตั้งใจกันว่าสายๆหน่อย จะพากันเดินทางไปชมวิวที่วิคตอเรียพีค แต่สุดท้ายก็พากันเปลี่ยนใจเอาดื้อๆ ด้วยเหตุผลง่ายๆของเราสองคนก็คือว่า จะได้ถือเป็นข้ออ้าง ให้ต้องหาโอกาสเดินทางมาฮ่องกงอีกไง ว่ายังมีวิคตอเรียพีคที่เรายังไม่เคยได้ไปเยี่ยมชม และด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้เราสองคนนอนตื่นสายกว่าทุกวัน เพราะจุดหมายเดียวของเราในวันนี้คือ Symphony of Lights ในตอนย่ำค่ำที่กำลังจะมาถึง..
..ฉันจำได้ว่า กิจกรรมช่วงกลางวัน ก่อนที่ตอนค่ำจะมาถึง ฉันกับเพื่อนก็เดินเที่ยวเล่นอยู่ ละแวกคอสเวย์เบย์นั่นแหละ เดินไปเดินมาอยู่ทุกวัน จนเริ่มจะรู้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน และจุดพักเหนื่อยของเราก็ไม่พ้นสตาร์บัค ร้านกาแฟบนเกาะฮ่องกง ที่เราแวะไปเยือนกันได้ไม่รู้เบื่อทุกวันคืน
ฉันกับเพื่อน..ออกเดินทางจากที่พัก ไปยังจุดชมวิวอเวนิวอ็อฟสตาร์ ราวๆหกโมงเย็น โดยอาศัยรถไฟฟ้าใต้ดินเหมือนเดิม นัดแนะที่เรามีไว้กับน้องจอห์นมีอันต้องคลาดเคลื่อนไป เพราะธุระ บางอย่าง แต่น้องจอห์นก็สัญญากับเราว่า จะไปพบเราที่หลานไคฟงตอนสี่ทุ่มแทน ชีวิตในราตรีสุดท้ายของพวกเราบนเกาะสวรรค์
พวกเราเดินทางมาถึงอเวนิวอ็อฟสตาร์ ราวหนึ่งทุ่มตรง เพราะฉะนั้นจึงมีเวลาเหลืออยู่ อีกร่วมชั่วโมง กว่าการแสดงแสงสีเสียงจะเริ่มต้นขึ้น เราสองคนใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงที่มีอยู่ เดินดูโน้นชมนี่ ถ่ายรูปบ้าง.. อะไรบ้าง.. เหมือนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมทำกัน จนเวลาเริ่มต้นการแสดง Symphony of Lights มาถึง
ตามข้อมูลที่ได้อ่านมา และบทบรรยายภาษาอังกฤษ ตลอดการแสดงกว่าสิบห้านาที สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับนักท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว ฉันเองก็พยายามคาดเดาจากแสงสีเสียง ที่กำลังแสดงอยู่นั้นอย่างตั้งใจ และพยายามไล่เรียงทั้งแสงสีที่ได้เห็น และเสียงที่ได้ยินอยู่ตรงหน้า ให้ตรงกับห้าซีนหลัก ที่ได้อ่านข้อมูลมาก่อนหน้านี้
ซีนแรก.. มีชื่อตรงกับภาษาอังกฤษว่า Awakening หรือแสงสีการตื่นขึ้นมา ซึ่งการแสดงนั้นจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยลำแสงเลเซอร์ที่ส่องแสงขึ้นมาแบบแวบๆ แล้วก็หายไป เป็นการสื่อให้เห็นถึงการให้กำเนิดชีวิตแก่เซลล์ๆหนึ่ง จากนั้นตึกอาคารต่างๆที่เรามองเห็นอยู่ตรงหน้า ก็จะค่อยๆมีแสงสว่างวับๆขึ้นมา โดยมีลักษณะเป็นกลุ่มแสงสีรุ้งเต้นระบำ และเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงต้นกำเนิด และการค่อยๆเติบโตขึ้นมา อย่างทรงพลังของเกาะฮ่องกง นั่นเอง
ซีนที่สอง.. ใช้ชื่อว่า Energy หรือแสงสีแห่งพลัง โดยการแสดงชุดนี้จะให้แสงสีต่างๆ แสงเลเซอร์ และแสงสปอร์ตไลท์สีขาวฉายแสงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่มีจังหวะที่เป็นระเบียบ ทอดยาวไขว้กันไปมา ขึ้นไปบนฟากฟ้าอันมืดมิดของราตรี ซึ่งแสงสีเหล่านี้ เป็นสัญลักษณ์ของพลังอันเปี่ยมไปด้วยความกระฉับกระเฉง และความมีชีวิตชีวาของเกาะฮ่องกง
สำหรับซีนที่สาม Heritage คือแสงสีแห่งมรดกทางวัฒนธรรม ลำแสงสีทอง..และลำแสงสีแดงอันนำโชค ที่อยู่สองฟากด้านข้างซ้ายและขวาของท่าเรือ จะถูกฉายสลับกันไปมา ข้ามตึกอาคารสูงใหญ่มากมายบนเกาะฮ่องกงตรงหน้า แสงสีในชุดนี้จะถูกเติมเต็มด้วยเสียงเพลง อันใช้เครื่องดนตรีจีนในการบรรเลงทั้งหมด ทั้งแสงสี..และเสียงดนตรี เป็นสัญลักษณ์อันแสดงให้เห็นถึงความร่ำรวย และสีสันอันหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่เป็นมรดกสืบทอดกันมาช้านาน ของชาวจีนฮ่องกงบนเกาะสวรรค์แห่งนี้..
ซีนที่สี่ มีชื่อว่า Partnership หรือแสงสีแห่งภราดรภาพ แสงสีในชุดการแสดงนี้ จะประกอบไปด้วยแสงเลเซอร์ และแสงจากสปอร์ตไลท์สีขาว ที่ฉายลำแสงอย่างมีจังหวะ ทอดข้ามมายังท่าเรือฝั่งเกาลูน อันแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อกัน..ของเกาะฮ่องกงกับผืนแผ่นดินใหญ่ แสงเจิดจ้าที่ฉายสาดไปมาเหล่านี้ คือสัญลักษณ์บ่งบอกถึงสองฟากของท่าเรือ ว่าได้ถูกหล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว อย่างมีเอกภาพและยิ่งใหญ่ขึ้น
การแสดงซีนสุดท้าย คือซีนที่ห้า หรือฟินาเร่ มีชื่อว่า Celebration แสงสีแห่งการเฉลิมฉลอง จังหวะของแสงสีชุดนี้ จะมีการสาดแสงสีไปมา สลับสับเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็ว และลำแสงหลากหลายสีสัน..เหล่านั้น ก็เหมือนกำลังเต้นระบำกันอย่างมีชีวิตชีวา และแสงสีที่สาดข้ามมายังฝั่งตรงข้ามของท่าเรือ ยังเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันแน่นแฟ้น ของท่าเรือสองฟากทั้งเกาะฮ่องกงและผืนแผ่นดินใหญ่ ด้วยฉากแสงสีสุดท้าย..อันตระการตา ยังแสดงให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสรุ่งเรืองของฮ่องกง เมืองใหญ่แห่งหนึ่งของโลกใบนี้
การแสดงแสงสีเสียงของเกาะตรงหน้า จบลงด้วยความประทับใจของฉัน และนักท่องเที่ยว หลากหลายสัญชาติ ที่ดูเหมือนจะล้นพื้นที่อเวนิวอ็อฟสตาร์เสียจริง ฉันใช้เวลาอยู่ที่อเวนิวอ็อฟสตาร์อยู่อีกราวชั่วโมงเศษ ถ่ายรูป และเก็บเกี่ยวความสวยงาม..ที่เห็นอยู่ตรงหน้า อย่างรู้สึกว่า..พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ฉันจะต้องเดินทางออกไปจากเกาะแห่งนี้แล้ว ความอาลัยอาวรณ์บางอย่าง เหมือนจะเกิดขึ้น..นับแต่วินาทีนี้
ฉันกับเพื่อน ฉลองส่งราตรีสุดท้ายบนเกาะสวรรค์ ที่ผับแห่งหนึ่งย่านหลานไคฟง โดยมีน้องจอห์นและเพื่อนๆกลุ่มเดิมตามมาสมทบ ราตรีสุดท้ายของเราจบลงที่ผับแห่งนั้นเมื่อราวตีสองเศษ เมื่อเพื่อนของฉันและเพื่อนของน้องจอห์นอีกคน ดูจะมึนๆจากเครื่องดื่มพอสมควร ก็อย่างที่ฉันเคยบอก เพื่อนของฉันนอกจากจะเป็นเซียนน้ำหอมแล้ว ยังเป็นนักดื่มตัวพ่ออีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้ตรงกันข้ามกับฉันอย่างสิ้นเชิง เพราะฉัน..นอกจากจะไม่ใช่เซียนน้ำหอมแล้ว (แต่ก็ใช้อยู่บ้างในบางโอกาส) ฉันยังไม่ใช่นักดื่มอีกด้วย ทั้งๆที่ฉันเองก็ท่องราตรี กับเพื่อนๆคนนั้นคนนี้อยู่เป็นประจำ และถ้าจะให้ฉันเมา ฉันก็คงเมาได้อยู่อย่างเดียว..คือเมาโค้ก
ราตรีสุดท้ายบนเกาะสวรรค์ของฉัน
กว่าจะถึงโฮสเทลและหลับนอนกันได้ ก็ราวตีสามกว่า..
..ว่ากันว่า ทุกงานเลี้ยงย่อมต้องมีการเลิกรา และฉันก็เห็นจะต้องจบเส้นทางนิยายรักไว้ที่ตรงนี้ ฉันเคยได้ยินคำพูดที่ว่า การเดินทางก่อให้เกิดเรื่องราวได้ร้อยพัน นั่นก็อาจจะเป็นที่มาของ เมืองรักในบาดาล มีคนในแวดวงหนังสือถามฉันว่า ฉันคาดหวังมากแค่ไหนกับหนังสือเล่มนี้ ฉันได้ตอบเธอคนนั้นไปว่า ขอแค่มีใครสักคนรอที่จะอ่านหนังสือของฉัน และยอมอ่านหนังสือของฉันแค่สักคน แค่นั้นฉันก็พอใจแล้ว และสิ่งมหัศจรรย์น้อยๆนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ในชีวิตของคนเขียนหนังสืออย่างฉัน
สุดท้ายนี้ ฉันขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละเวลาอ่านเส้นทาง(นิยาย)รักของฉัน และขอบคุณ สำหรับคำแนะนำ และทุกกำลังใจกับเส้นทางสายนี้ ที่ฉันได้เลือกเดิน และขอบคุณสำหรับน้ำใจของคนที่ซื้อหนังสือ แม้ว่าคุณภาพของรูปเล่มอาจจะยังไม่ดีเสียทีเดียวนัก แต่ความตั้งใจที่เราจะทำหนังสือให้มีราคาไม่แพง เพื่อไม่อยากรบกวนค่าใช้จ่ายของผู้อ่านมากเกินไปนั้น ก็ยังเป็นหัวใจหลักที่เรา จะต้องพัฒนากันอีกต่อไป.. ..
เราขอขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกน้ำใจอันมีค่า ที่มีให้กับเรา..
และทุกๆน้ำใจที่ให้เรามานั้น เราสัญญาว่า เราจะทำน้ำใจของคุณทุกคน ให้มีค่าเสมอ
Farewell the Way of Love
ไม้หอมแห่งทะเลจีนใต้ เล่าเรื่อง
การท่องเที่ยวฮ่องกง เจ้าของภาพ