5-9. [wadara_kmkzfc] Group Writer: อ่านหนังสือ 1 เล่ม
ที่ประกอบไปด้วยนักเขียนตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป รวมถึงหนังสือรวมเรื่องสั้น
[ตอบโจทย์] ผู้แต่งมากกว่าสองคน (ninaM&ญาณิน)
ชื่อเรื่อง : อีกมุมมองของความรู้สึก
ผู้แต่ง : ninaM&ญาณิน
พิมพ์ครั้งที่ : พิมพ์ครั้งที่ 2
เดือน/ปีที่พิมพ์ : กุมภาพันธ์ 2550
สำนักพิมพ์ : แจ่มใส
จำนวนหน้า : 208 หน้า
ราคาปก : 159 บาท
[จากปก]
มนะ สิการ์ หญิงสาวผู้มีโลกเล็กๆ ของเธอเอง ทุกอย่างรอบข้างลงตัว... สุข... สงบ... สบาย...
แต่แล้ววันหนึ่ง ชายหนุ่มในอุดมคติผู้แสนโรแมนติกก็ก้าวเข้ามาในโลกใบนั้น แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เขาทำให้เธอใจเต้น เขินอาย รู้สึกดี รอคอย คาดหวัง... บางทีนี่คงเป็นจุดเริ่มต้น
ของความรักที่ลงตัวสุดๆ บทหนึ่ง
หากบางอย่าง... ที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร ยังคงซ่อนอยู่ในอีกมุมมองของความรู้สึก
ธราดล คอลัมน์นิสต์รูปหล่อขนาดเคยได้รับผลโหวตให้เป็นสุดยอดหนุ่มโรแมนติกแห่งปี
ผู้ซึ่งยังคงสับสนหาทางออกไม่ได้กับความรักครั้งเก่า
แต่แล้ววันหนึ่ง หญิงสาวสวยแสนน่ารักก็ก้าวเข้ามา ทุกอย่างดูจะถูกที่ถูกเวลา ใช่ไปซะทั้งหมด
เธอทำให้เขาใจเต้น อมยิ้ม รู้สึกดี รอคอย คาดหวัง... บางทีนี่คงเป็นคำตอบของหัวใจที่เขาค้นหามานาน
หากบางอย่าง... ที่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร ยังคงซ่อนอยู่ในอีกมุมมองของความรู้สึก
ใคร จะเป็นคนก้าวเข้ามาเปิดประตูอีกด้านออก เพื่อให้ทั้งคู่ได้ค้นพบบทสรุปที่แท้จริงของตัวเอง
[ความรู้สึกหลังอ่านจบ+สปอย..] 
เรื่องนี้ สำหรับหนอน เป็นนิยายที่เรียกได้ว่าาา.... ได้อารมณ์ศิลปินสุดๆ
เป็นนิยายที่มีมุมมองในตัวเอง ให้คนอ่านได้คิดตาม สื่อความหมายส่งผ่านตัวหนังสือ
ออกมาเป็นอารมณ์และความรู้สึก... ประมาณนั้น...
ในเล่ม.. ประกอบด้วยเรื่องสั้นสองเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยผู้แต่งสองคน
บรรยายถึง..มุมมองชีวิตของคู่หนึ่ง คือ มนะ สิการ์ กับ ธราดล
คนที่....ภายนอกดูเหมาะสมกันทุกอย่าง คนที่....ความบังเอิญทำให้ได้มารู้จักกัน
คนที่มาเจอะเจอกัน....เพื่อทดสอบความรู้สึกของหัวใจ
และ บางครั้ง..การที่เรามัวแต่ไปตามหาคนที่เหมาะสม คนที่เราคิดว่าใช่..
ก็อาจทำให้เรา หลงลืมนึกถึงคนที่คอยดูแลเอาใจใส่ ใกล้ตัวเป็นได้
จนเมื่อเราเกือบจะสูญเสียคนๆ นั้นนั่นล่ะ เราถึงจะรู้สึกว่า...
บุคคลเหล่านั้น...สำคัญกับเรามากแค่ไหน
ในเรื่องแรก เป็นเรื่องของมะนาว แม่ครัวที่ไม่ค่อยอยากจะเข้าครัวซักเท่าไหร่นัก
เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอารมณ์ศิลปินในตัวพอสมควร..
ซึ่งมักจะแสดงเสมอๆ ในคำพูด..
หนอนชอบบทเปรียบเทียบแปลกๆ ที่ว่านี้ อ่านแล้วรู้สึกคลิกดี
ส่วนเรื่องสอง..อ่านแล้วได้อารมณ์เหมือนเรา เข้าไปนั่งอยู่ในความคิดของผู้ชาย..
ที่มีความเป็นตัวของตัวเองมากๆ คนหนึ่ง และยังเป็นผู้ชายที่มีอารมณ์ศิลปินสูงโคตรๆ อีกด้วย
ชอบ....ตอนที่ ธราดล พูดว่า..
อย่าสะสมหนังออสการ์หรือหนังล่ารางวัล แต่จงสะสมหนังประเภท
ที่ดูแล้วสั่นสะเทือนซอกมุมแห่งอดีตหรือความรู้สึกบางอย่าง
หรือเรื่องที่เรามองเห็นตัวเอง เห็นคนรู้จัก หรือเห็นส่วนหนึ่งของในตัวเราผ่านหนัง
จงเลือกเก็บหนังที่มีความหมายต่อเรา
ความคิดนี้โดนมาก.. เพราะเคยมีหนังที่สะเืืทือนซอกมุมของความรู้สึกเหมือนกัน
อีกตอนที่ชอบ คือ ตอนที่พระเอกรู้ตัวแล้วว่าตัวเองรักนางเอก
เลยตามไปง้อนางเอกที่ขนส่ง..(นางเอกกำลังจะหนีกลับบ้าน)
อ่านกริ๊ดมากทั้งๆ ที่ ทั้งสองคนเหมือนพูดอะไรกันก็ไม่รู้ แต่กลับสื่อสารเข้าใจ
และสื่อถึงความในใจของกันและกันได้..
เขาพบเธอคามคาด ต้อง กำลังนั่งนั่งกอดกระเป๋าเดินทางใบโต
ว่าแล้วเขาก็เดินตรงดิ่งเข้าไปพร้อมความตั้งใจที่มุ่งมั่น และพลังที่ว่านี้คงเข้มข้นมาก
เพราะแค่ชั่วพริบตาเดียว ต้องก็เงยหน้าขึ้นมา ทั้งคู่สบตากัน และพอเขาเดินเข้าไปถึง
เธอก็ขยับที่นั่งให้อย่างรู้หน้าที่
คนตัวเล็กเป็นฝ่ายเปิดปากก่อน "ฉันไม่แน่ใจเรื่องไส้ติ่ง"
"ไส้ติ่ง" ดินงงเต้ก
"อือ ไส้ติ่ง" เธอบอกด้วยสีหน้าจริงจัง "ไส้ติ่งที่ถูกตัดเพราะหมอวินิจฉันผิด
ฉันตัดสินใจไม่ได้ว่ามันควรไปอยู่ในสุสานสูญเสียหรือเปล่า"
"วินิจฉัยผิดยังไง"
"แบบว่าตอนแรกหมอนึกว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ตัดทิ้งไปแล้วถึงรู้ว่าไม่ใช่"
"อย่างนี้ก็ต้องเป็นสูญเสียดิ" ดินตอบหลังนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
"แต่ไส้ติ่งไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลยนะ ถึงตัดทิ้งไปร่างกายก็ไม่ได้รับรู้อะไร อีกอย่างนะ
ถ้าตัดทิ้งแล้ว วันหลังจะได้ไม่ต้องมาห่วงกลัวเป็นไส้ติ่งอักเสบด้วย ดีจะตาย"
"แต่มันเป็นอวัยวะของเรา มาตัดโดยไม่จำเป็นไม่ได้นะ" ดินเถียงแทนไส้ติ่งอย่างดุเดือด
"แล้วไม่สูญเสียตรงไหน ตัดไปภูมิคุ้มกันก็ลดลง เดี๋ยวก็ไม่สบายบ่อยๆ หรอก"
"ดิน" เธอมองหน้าเขาอย่างจริงจัง "นั่นมันต่อมทอนซิล"
(กร๊ากกก.... ซึ้ง...แต่..ฮา)
จากนั้น.. นางเอกก็เลยถามว่าพระเอกมาทำไม พระเอกของเรา..
เลยเอาเรื่องพร๊อตนิยายมาบังหน้า เพื่อสารภาพความรู้สึกของตนเองต่อนางเอก
"แล้วนี่นายมาที่นี่ทำไม" ดินเลยตามน้ำ
"ก็มาคุยเรื่องนิยายนั่นล่ะ"
"อ๋อ..."
"จำรายการสุดท้ายในสุสานของเสียเปล่าได้มั๊ย.."
(รายการสุดท้ายที่นางเอกเขียนไปในการดาษโน๊ตให้พระเอก
เหมือนแอบสารภาพความในใจ ว่า.. 'รัก' ที่อีกฝ่ายไม่เคยรู้)
"ฉันตั้งใจจะให้เจ้าของความรักเป็นผู้หญิง เป็นนางเอกของเรื่องล่ะนะ นางเอกเป็นผู้หญิงที่มีความรักที่ยิ่งใหญ่
แต่มัวเก็บไว้เป็นความลับ สุดท้ายก็ทำให้รักนั้นเสียเปล่า..มองพื้นทำไม มองหน้าฉันนี่"
เขาเชยคางเธอให้บิดมา ต้องเลยขึงตาสู้ ซึ่งดีแต่จะทำให้คนแกล้งได้ใจดินอมยิ้มแล้วก็เล่าต่อ
"มีนางเอกแล้วต้องมีพระเอกถูกไหม"
"ไม่เห็นจำเป็น"
ดินไม่สนใจ "นางเอกเป็นเจ้าหญิงอยู่ในสุสานของเสียเปล่า พระเอกก็ต้องเป็นเจ้าชายแห่งความสูญเสีย
เป็นไอ้โง่ที่ดันมองข้ามคนที่ดีที่สุด จนในที่สุดก็เสียโอกาสที่จะมีรักดีๆ"
"ผีเน่าเจอโรงผุชัดๆ" เธอทำเป็นคิด "แต่ก็น่าสนใจดี"
"ชอบใช่มั้ย"
"ยังบอกไม่ได้หรอกยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยนี่ ต้องรออ่านตอนเสร็จอีกที...อะไรยะ"
เธอตวาดแว้ดเพราะเขาพยายามดึงแขนเธอให้หยุดพูด
เขาส่ายหน้า แต่ไม่ยอมตอบ
"อะไร" เธอตวาดด้วยความรำคาญ
"ไม่ได้ถามว่าชอบนิยายมั๊ย" เขาบอก "ที่ถาม.. หมายถึงเธอน่ะชอบฉันใช่มั้ย"
กริ๊ดดดดด... หนอนขอกริ๊ดแทนนางเอกซักสามตลบ..
จินตัวเอง ว่าถ้ามีคนมาถามอะไรแบบนี้กับหนอน หนอนคงขอมุดดินหนีไปเลยเลยดีกว่า
หนอนว่าเรื่องนี้ เป็นอีกเล่มที่ไม่ควรพลาดเนอะ
ที่เห็นบ่อยๆ ในหนังภาพยนตร์
พระ-นาง หากไม่ถูกฟ้าส่งมาให้คู่กัน
ก็มักจะเป็นรักแต่แรกพบ รวดเร็ว รุนแรง
แต่ในชีวิตจริง
ที่เราเห็นบ่อยๆ
ใครคนหนึ่งร้องไห้ และมีอีกคนอยู่ใกล้ ๆ
เราหัวเราะ เขาก็อยู่ใกล้ ๆ
รถเสีย เขาก็เป็นคนที่ขับตามมารับ
เรายิ้ม เขาก็ยิ้มไปกับเรา
เราร้องไห้....
ปากเขาบอก จะร้องไปทำไม
สายตาบอกเชิญร้องได้ ฉันไม่ไปไหนหรอก
ใจเราเลยเริ่มคิดดัง ๆ
ดีจังที่มีเธอ
เป็นตอนนั้นเองที่เราเข้าใจว่าอะไรคือ 'รัก'