Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[Book Review] Steve Jobs: เรียนรู้ด้วยการมองผ่านอัจฉริยะ vote ติดต่อทีมงาน

ถ้าพูดถึงการเรียนรู้โดยทั่วไปในปัจจุบันแล้ว เรามักจะได้เรียนรู้ทฤษฏีและความคิดแบบ “ปลายทาง” ซึ่งมักอยู่ในลักษณะหนังสือแบบ Self Improvement หรือตำราเรียนต่างๆ ที่มักมีการสังเคราะห์ประเด็นต่างๆ มาให้เรียบร้อยเพื่อง่ายต่อการท่องจำและนำไปปฏิบัติ

แต่ในชีวิตจริงของมนุษย์นั้น การเรียนรู้ที่ดีและฝังลึกลงไปความคิดของเราเองคือได้สัมผัสประสบการณ์ตั้งแต่ “ต้นทาง” ของการได้มาซึ่งความคิดดังกล่าว ซึ่งเราก็จะเห็นลักษณะการเรียนรู้แบบนี้ได้จากภาพยนตร์ ละคร หรือนิยายดีๆ ที่พาเราไปรู้จักเรื่องราวของคนหรือเหตุการณ์ที่นำมาพาให้เราได้เข้าใจมิติต่างๆ โดยรอบก่อนที่จะรู้อย่างลึกซึ้งและได้มาซึ่งการเข้าใจอย่างถ่องแท้ของประโยคคมๆ หรือทฤษฏีต่างๆ ที่ถูกเขียนสรุป

Steve Jobs เองก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกอย่างน่าทึ่งตลอดชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอย่าง Apple II และ Macintosh การให้กำหนดอุปกรณ์พกพาที่ปฏิวัติวงการดนตรีอย่าง iPod การสร้างจุดเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือด้วย iPhone และแท๊บเล็ตคอมพิวเตอร์อย่าง iPad แน่นอนว่ามีหนังสือและนิตยสารหลายเล่มยกย่องพร้อมกับรวบรวมผลงานของเขาและนำมาสรุปเป็นบทความต่างๆ เช่น Inside Steve’s Brain, The Innovation Secret of Steve Jobs ฯลฯ ซึ่งก็คงไม่แปลกอะไรเมื่อเทียบกับความสำเร็จอย่างเยี่ยมยอดที่ Steve Jobs ได้สร้างไว้กับบริษัท Apple

แต่นั่นก็เป็นเพียงการที่เราจะได้รู้จัก Steve Jobs ในมุมมองของคนภายนอกมองเข้าไปในตัวเขาโดยไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์หรือฟังจากเขาจริงๆ แต่หนังสือชีวประวัติ “Steve Jobs” ที่เขียนโดย Walter Isaccson นั้นเป็นอะไรที่มากกว่าหนังสือที่พูดถึง Steve Jobs แบบที่เรารู้จัก เพราะแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือที่เล่าชีวิตของ Steve Jobs แบบหมดเปลือกจากปากคำของตัวเขาเองแล้ว ผู้อ่านยังสามารถจะเรียนรู้ปรัชญาชีวิต ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิถีแห่งการทำธุรกิจ ตลอดจนกระบวนการคิดเพื่อสร้างนวัตกรรมชนิดที่หาได้ยากแม้จะจากหนังสือเฉพาะด้านอย่าง Business Book ก็ตาม

สำหรับหลายๆ คนแล้ว ความเยี่ยมยอดและอัจฉริยะภาพของ Steve Jobs นั้น เพิ่งจะเป็นที่รับรู้เมื่อในช่วงไม่ถึง 10 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่ Apple กลับมายิ่งใหญ่ด้วย iPod iPhone และ iPad และหลายๆ คนก็อาจจะรู้แค่เพียงเหตุการณ์สำคัญๆ ด้านที่สำเร็จงดงามของ Steve Jobs สุนทรพจน์อันยอดเยี่ยมในงานจบการศึกษาของมหาวิทยาลัย Stanford หรือเทคนิคพรีเซนต์เตชั่นอันน่าทึ่ง

แต่ในความจริงแล้ว ตลอดชีวิต 56 ปีของเขานั้นก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบเสียทีเดียวแถมหลายๆ เรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่ด้านมืดที่เสียด้วยซ้ำ เช่นเรื่องการที่เขาขึ้นชื่อในการเป็นคนอารมณ์ร้าย (มาก) เอาแต่ใจตัวเอง และมีการวิจารณ์ในการทำงานที่ค่อนข้างรุนแรงจนน่าตกใจ ชีวิตครอบครัวที่ไม่ได้เป็นครอบครัวสุขสันต์ ตลอดจนการทำงานที่เคยพลาดพลั้งและล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ล้วนกลายเป็นจิ๊กซอร์ชีวิตที่ประกอบกันเข้าให้กลายเป็นคนที่พวกเรารู้จักผ่านรูปภาพและข่าวต่างๆ

และจิ๊กซอร์เหล่านี้แหละ ที่จะทำให้พวกเราได้เห็นมิติที่รอบด้านมนุษย์คนหนึ่ง เข้าใจชีวิตตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปลายทางที่เขาได้รับสิ่งที่คู่ควรกับการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาโดยตลอด การต่อยอดทางประสบการณ์และความคิดจากเหตุการณ์หนึ่งไปสู่อีกเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งถ้าเราสาวตามเส้นชีวิตที่ร้อยเรียงกันได้ เราก็จะตระหนักในท้ายที่สุดว่า Steve Jobs สามารถรังสรรค์ความคิดสุดมหัศจรรย์ต่างๆ นั้นขึ้นมาได้

ตลอด 42 บทในหนังสือ Steve Jobs นั้น เริ่มเรื่องราวตั้งแต่พ่อแม่ที่แท้จริงของ Jobs กับการให้กำเนิดเขา การรับเป็นลูกบุญธรรม การเรียนและชีวิตในวัยเด็ก เรื่อยยาวมาจนถึงชีวิตการทำงาน การก่อตั้ง Apple Computer และสู่การนำพาให้ Apple ขึ้นสู่การเป็นบริษัทอันยอดเยี่ยมของโลก ในขณะเดียวกันก็จะมีการแบ่งแต่ละบทในการพูดถึงเหตุการณ์หรือมุมชีวิตสำคัญๆ แยกกันไป เช่นมุมของเรื่องชีวิตส่วนตัว ความรัก หรือช่วงที่เขาต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง

Walter Isaccson ได้ทำการสัมภาษณ์ Steve Jobs กว่า 40 ครั้งเพื่อให้ได้เรื่องราวของหนังสือที่หนากว่า 571 หน้า นอกจากนี้แล้ว เขายังเพิ่มมิติและแง่มุมต่างๆ ให้หลากหลายด้วยการสัมภาษณ์บุคคลรอบข้าง รวมทั้งการค้นคว้าจากหลักฐานต่างๆ เพื่อให้แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เราจะได้รับรู้ทั้งจากปากคำของ Jobs ผู้ที่เกี่ยวข้องและเป็นพยานในเหตุการณ์ หรือแม้กระทั่งคู่กรณีที่เขามีเรื่องด้วย ซึ่งนั่นทำให้ผู้อ่านได้มองเห็นความจริงที่รอบด้านมากขึ้นของช่วงเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตของ Jobs

จุดที่ดีเยี่ยมมากนอกจากเนื้อหาที่อัดแน่นอยู่ในหนังสือที่หนาปึ้กแล้ว Walter Isaccson ยังมีความสามารถอันน่าทึ่งในการเรียบเรียงประเด็นในแต่ละบทให้โดดเด่น ชัดเจน และในขณะเดียวกันนั้น เขาเองก็มีลีลาการใช้ภาษาและรูปแบบประโยคในการเล่าที่ง่าย ไม่สลับซับซ้อน แต่ก็ลงลึกอย่างละเอียด ทำให้คนหลายคนที่อาจจะไม่เข้าใจเรื่องเทคโนโลยีหรือประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ในยุค 70-80 ก็สามารถจะเห็นภาพและตามติดเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย การเลือกสลับระหว่างบทบรรยายและบทสนทนาต่างๆ ทำได้อย่างลงตัวเสมือนว่า Isaccson นั้นรู้ทันคนอ่านดีว่าจุดไหนที่ผู้อ่านอยากจะรู้มากเป็นพิเศษ และจุดไหนที่เขาควรจะเน้นย้ำเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากจะเรียนรู้จากอัจฉริยภาพของ Jobs

โดยส่วนตัวของผมแล้ว Steve Jobs by Walter Isaccson เป็นเสมือนการผจญภัยอย่างน่าทึ่ง ตื่นเต้น และอุดมไปด้วยความคิดอย่างอัศจรรย์จากชีวิตของคนๆ หนึ่ง ยิ่งเราได้อ่านไปถึงบทหลังๆ แล้ว เทคนิคการเล่าของ Isaccson จะยิ่งทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์กับ Jobs ได้อย่างน่าประหลาด จนหลายๆ ตอนของบทที่ค่อนข้างมีความสะเทือนใจก็พร้อมจะทำให้เราน้ำตาซึมได้อย่างง่ายๆ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เชิดชูหรือสรรเสริญ Jobs อย่างออกหน้าออกตาแบบเดียวกับนิตยสารธุรกิจทั่วๆ ไป หากแต่มันสร้างภาพของ Jobs ในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีทั้งความรู้สึกอันละเอียดอ่อน ด้านที่แข็งกร้าว และปมชีวิตที่ขัดแย้งในตัวเอง ไม่ได้มีแค่ด้านแบบที่เรารู้จากข่าวเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ทุกเรื่องราวย่อมล้วนมีเบื้องหลังที่เราไม่รู้และคาดไม่ถึง แน่นอนว่าหนังสือเล่มนี้ก็ตีแผ่นความจริงอันน่าตกใจในหลายๆ เรื่อง

แน่นอนว่าสำหรับผู้ที่ทำงานด้านการตลาดหรือประกอบธุรกิจแล้ว มรดกทางความคิดและสิ่งที่จะเรียนรู้จาก Steve Jobs นั้นถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก และหนังสืิอเล่มนี้ก็มีสิ่งเหล่านั้นมากกว่าที่เราจะคาดคิดว่าหนังสือประวัติชีวิตคนๆ หนึ่งจะให้ได้ ในขณะเดียวกัน สำหรับคนทั่วไปหรือคนที่มีความสนใจในเทคโนโลยีแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็เล่าประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของการปฏิวัติวงการต่างๆ ที่ Jobs ได้ทำไว้ตลอดชีวิตของเขา

นอกเหนือจากนั้นแล้ว หนังสือเล่มนี้คือผลงานที่ยอดเยี่ยมกับการให้เราได้รู้จักและเรียนรู้วิธี “คิด”​อันน่าทึ่งของผู้ที่กล้าลุกขึ้นมา “คิดต่าง” (Think Different) และประสบความสำเร็จโดยที่เขาเองไม่เคยแม้แต่จะเรียนจบมหาวิทยาลัย

เมื่อผมพลิกมาถึงหน้าสุดท้ายของ Steve Jobs ผมก็แอบอดถอนหายใจไม่ได้่ที่จะต้องจบการผจญภัยอันน่าอัศจรรย์แต่เพียงเท่านั้นพร้อมทั้งหวนคิดถึงผู้ชายคนที่ชื่อตามหนังสือ ซึ่งได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา

การได้อ่านหนังสือเล่มนี้อาจจะเผลอทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนหรือคนที่รู้จักเขาระดับหนึ่ง และก็อดเสียใจไม่ได้ที่จะไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีกแล้ว

ผมขอปิดท้ายบทวิจารณ์นี้ด้วยคำพูดที่เพื่อนผมผมคนหนึ่งโพสไว้บนหน้า Facebook ซึ่งผมชอบมาก

“You always said ‘One More Thing’, but we want to hear it from you ‘One More Time’” – @ouimu

ที่มา: http://www.barkandbite.net/2011/11/steve-jobs/

 
 

จากคุณ : surviorx
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 12:27:31




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com