Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[Review] ที่นี่ที่รัก - Worm's eye view of Fukuoka vote ติดต่อทีมงาน

ฮารุกิเป็นแฟนหนังสือของคุณทรงกลด บางยี่ขันมานับตั้งแต่ที่ได้อ่านเรื่อง "ต้นไม้ใต้ดวงอาทิตย์" มาแล้วหละครับ เหตุที่่ฮารุกิชอบหนังสือของนักเขียนท่านนี้มากคงจะเป็นเพราะมุมมองในการเขียน ที่คุณทรงกลด สามารถนำมุมมองเล็กๆ ทว่าน่าสนใจ หยิบยกขึ้นมาเขียน มาเล่าเป็นเรื่องราว ที่แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่ใช่หนังสือนำเที่ยวโดยตรง แต่ก็สามารถทำให้เรารู้สึกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ว่าหากมีโอกาสเมื่อไหร่ จะต้องหาโอกาสไปเยือนสถานที่ต่างๆ ที่ถูกกล่าวไว้ในหนังสือเล่มนี้ให้จงได้

เมื่อครั้ง "ต้นไม้ใต้ดวงอาทิตย์" คุณทรงกลดได้พาพวกเราผู้อ่าน ไปดูไอเดียดีๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากประเทศญี่ปุ่น มาในครั้งนี้ "ที่นี่ที่รัก" จะเป็นการนำพาพวกเราไปเยือนเมืองที่มีชื่อว่า "ฟุกุโอกะ"

สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคย ขออนุญาตเกริ่นสักหน่อยนะครับ ว่า ฟุกุโอกะ นั้นเป็นเมืองบนเกาะคิวชู (เกาะใหญ่ที่อยู่ทางใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น) และเป็นเมืองที่ติดอันดับ 12 ของเมืองที่น่าอยู่ที่สุดของนิตยสาร Monocle นำหน้าทั้ง Geneva และ Singapore เชียวนะครับ

ก้าวแรกในหนังสือ "ที่นี่ที่รัก" เล่มนี้ คุณทรงกลดได้พาเราไปเที่ยวชมอาคาร ACROS อาคารสีเขียวรูปทรงพีระมิด บางทีนั่นอาจฟังดูไม่น่าสนใจ แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ตรงที่ว่า สีเขียวของอาคารนี้ คือ สีของต้นไม้ครับ เพราะว่าตึกแห่งนี้ปลูกต้นไม้ไว้กันบนตึกราวกับว่าเป็นภูเขาเลยทีเดียว

แต่หากว่านั่นยังไม่น่าสนใจพอ ในหนังสือเล่มนี้ คุณทรงกลดยังจะได้พาเราไปพบกับอะไรอีกหลายอย่างเลยที่เดียวครับ นับตั้งแต่ ท่องตลาดโต้รุ่งสไตล์ญี่ปุ่น จิบน้ำชากับเหล่าแมวเหมียว แวะไปทักทายกับหุ่นยนต์ตัวน้อยและไดโนเสาร์ตัวโต และพาไปกินราเม็งกันตั้งในคูหาเลือกตั้งยันนอกอวกาศ ก่อนที่จะตบท้ายด้วยการไปเข้าส้วมสุขารุ่นลายคราม คงต้องบอกว่าที่เล่ามาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือเท่านั้นนะครับ

แต่ในบรรดาปลายทางที่ฮารุกิอยากไปเยือนมากที่สุดในหนังสือเล่มนี้ คงหนีไม่พ้น "Kitakyushu Environment Museum" ครับ เพราะสถานที่แห่งนั้นคือสถานที่ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวว่า ครั้งหนึ่เมื่อครั้งเป็นย่านอุตสาหกรรม เมืองแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันจากโรงงาน และในทุกๆ เดือน ละอองซีเมนต์หนัก 80 ตัน จะทับถมลงบนพื้นที่ทุกๆ ตารางกิโลเมตร  หิ่งห้อยที่เคยส่องแสงระยิบระยับอยู่ทั่วเมืองพากันหนีหาย

ทว่าก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลง เมืองแห่งนี้ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ชาวเมืองตั้งคำถามว่าทางเลือกใดที่จะมาแทนที่เศรษฐกิจที่พึ่งโรงงานอุตสาหกรรมแต่ทำลายธรรมชาติแบบเดิมได้บ้าง และพวกเขาก็เลือกที่จะเปลี่ยนเมืองของตัวเองเป็นศูนย์กลางการรีไซเคิล กำจัดมลภาวะทั้งบนผืนดินและในทะเล

จนในที่สุด เหล่าหิ่งห้อยก็ได้หวนคืนกลับมาเยือนเมืองนี้อีกครั้ง ชาวเมืองจึงเลือกที่จะใช้หิ่งห้อยเป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ "เพราะมันไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของนักฝัน แต่หมายถึงปลายทางของความมุ่งมั่น"

บางทีหลังอ่านหนังสือเล่มนี้ เราอาจจะมาฉุกคิดก็ได้ครับ ว่า ปลายทางของความมุ่งมั่นของเรานั้น คืออะไร...?

จากคุณ : Haruki13
เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 55 20:45:27




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com