|
จากประสบการณ์นะครับ ถ้าจะอ่านหนังสือต้อง Kindle เท่านั้นครับ และต้องเป็น Kindle ที่เป็นรุ่น E-Ink
ผมชอบอ่านหนังสือเหมือนกันครับ เมื่อก่อนเวลาออกข้างนอก ผมต้องพกหนังสือไปด้วย เคยหา e-book ในเน็ตเอาแล้วมาลง iPad ก็อ่านนานไม่ได้อยู่ดีครับ ปวดตา เพราะฉะนั้นตัด Kindle Fire ไปได้เลย ผมเคยแบกสูงสุด 4 เล่มครับ หนักๆทั้งนั้น (เป็นโรคจิตครับ คือขอให้มีติดตัวไว้มันจะอุ่นใจ พอจะหยิบมาอ่านจะได้หยิบได้เลย 555)
ตอนแรกผมไม่ได้สนใจ Kindle เลย เพราะคิดว่ามันไม่ได้ฟิลด์เหมือนอ่านหนังสือจริงๆ แต่ช่วงนั้นเหมือนฟ้าเป็นใจ Amazon เค้า announce Kindle4 พอดี (ตอนนั้นมี touch, kindle fire ด้วย) เลยลองซื้อมาใช้ดู เอาตัว Kindle4 เนี่ยะแหล่ะ เพราะผมคิดว่าในการเปลียนหน้า ถ้าเป็น Kindle4 เราสามารภเอานิ้วไปวางค้างไว้ที่ปุ่มและกดเปลี่ยนได้เลย สะดวกดี น่าจะสะดวกกว่า Kindle Touch ที่ต้องเอานิ้วเลื่อนเข้าเพื่อกดและเลื่อนออก พอได้มาก็ลองซื้อหนังสือจาก Kindle Store แล้วลองใช้งานดูครับ ทำให้รู้เลยว่า .....
"รู้งี้ ตรูซื้อตั้งนานแล้ว 555"
ข้อดีชัดๆเลยนะครับ 1. ไม่ต้องแบกหนังสือ : สำหรับผมขอใช้คำว่าแบกนะครับ เพราะผมอ่านหนังสือผมอ่านหลายเล่ม บางอารมณ์อยากอ่านนิยาย บางอารมณ์อยากอ่านด้าน finance, บางอารมณ์อยากอ่านการ์ตูน มีเจ้าเครื่องนี้เครื่องเดียวสบายครับ 2. มี Dict Eng-Thai กดได้ทันที : บางศัพท์ถ้าเราไม่รู้เราสามาถเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่คำนั้นๆได้ทันที ง่ายมาก จากเมื่อก่อนต้องนั่งกด Dict ในมือถือเอา 3. มีเทคโนโลยี WhisperSync : ถ้าคุณสั่งซื้่อหนังสือจาก Amazon คุณจะสามารถ Sync หน้าล่าสุดที่คุณอ่านใดในอุปกรณ์ทุกอย่างครับ ไม่ว่าจะเป็น iPad, iPhone, Android devices ทุกประเภท รวมไปถึง OSX, Windows หรือแม้แต่ถ้าคุณไปเล่นเน็ตที่คอมพิวเตอร์สาธารณะ คุณสามารถ login เข้าไปอ่านใน Amazon Cloud ได้ด้วย อ่านผ่าน browser เลย เพราะบางครั้งผมเอา iPad ไป แต่ขี้เกียจพก Kindle ไป ผมก็อ่านบน iPad ครับ มันจะไปที่หน้าล่าสุดให้ หรือถ้าไม่พกไรเลย ก็อ่านบน iPhone พอกล้อมแกล้มไปได้ (Kindle มีสองรุ่นครับ Wifi, 3G เวลา Sync คุณต้องต่ออินเตอร์เน็ตด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก่อน) 4. ไม่ต้องกลัวหนังสือคุณหายครับ เพราะอยู่บน Account คุณบน Cloud เรียบร้อยแล้ว 5. อ่านมือเดียวได้ สำหรับบางคนข้อนี้อาจจะไม่จำเป็น แต่สำหรับผมแล้วจำเป็นมากครับ จะนอนอ่าน ตีลังกาอ่าน นั่งอ่านท่าไหนก็ได้ เพราะมันเบา และบาง (แต่ก็จับถนัดนะครับ เพราะด้านหลังของตัวเครื่องเป็นวัสดุเหมือนยาง) 6. ไม่ปวดตา (เฉพาะรุ่น E-Ink นะ) : มันไม่ต่างจาก "กระดาษ" เลยครับ ทำให้ผมติดการอ่านแบบนี้ไปเลย
นึกออกเท่านี้ก่อนละกันครับ ถ้าชอบอ่านหนังสือจริงๆ ซื้อไปเถอะครับ คุ้มมาก ;) สำหรับผมตอนนี้ติดมากกก ใช้บ่อยกว่า iPad อีก 555
สำหรับบางคนที่มีปัญหากับการเปิด PDF, คุณจำเป็นต้อง convert เป็น Format ของ Kindle ก่อนครับ ใช้โปรแกรมชื่อว่า Calibre ( http://calibre-ebook.com ) โหลดฟรีครับ ถ้าใช้ดีก็อย่าลืม Donate ให้เค้าด้วยละกันครับ :)
จากคุณ |
:
Leviosa
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ส.ค. 55 03:56:19
|
|
|
|
|