|
ความคิดเห็นที่ 2 |
|
เมื่อย้อนกลับมาที่รอบๆ บ้านของเราอีกครั้ง ฮารุกิคิดว่า วรรณกรรมเรื่องหนึ่งที่ฮารุกิคิดว่าคนไทยอย่างเราๆ น่าจะได้อ่าน คือ "หุบเขากินคน" ของนักเขียนเมืองเหนืออย่าง "มาลา คำจันทร์"
ฮารุกิได้ยินชื่อ หุบเขากินคน ครั้งแรกก็เมื่อกว่าสิบปีมาแล้ว เมื่อครั้งที่มันถูกสร้างเป็นละคร แต่ในครั้งนั้น มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับฮารุกิมากไปกว่าชื่อน่ากลัวๆ ที่เอาไว้ขู่เล่นกับเพื่อนๆ
มาได้ยินอีกครั้งก็เมื่อมันถูกสร้างเป็นละครในครั้งที่สอง (ที่แสดงโดย ไมค์ กิ่งพโยม, บอย โชคชัย ฯลฯ) ที่ถูกเรียกว่า เวอร์ชั่น ลอร์ดออฟเดอะริงส์ ที่สร้างเสียงวิจารณ์มากมายในอินเทอร์เน็ต ซึ่งมันก็ทำให้ฮารุกิรู้สึกสนใจขึ้นมาด้วยว่าเรื่องนี้มันเป็นอย่างไรกันแน่ จนทำให้ฮารุกิตัดสินใจซื้อหนังสือเรื่อง "หุบเขากินคน" มาอ่านในที่สุด
แต่สิ่งที่ทำให้ฮารุกิประทับใจมากที่สุดไม่ใช่การที่เกิดความสามัคคีขึ้นในบรรดาเด็กๆ กองธงเสือดำผู้ซึ่งเป็น "ดวงดาวแห่งอุตรทิศทั้งห้า" แต่เป็นความใจกว้างของผู้เขียน คือ คุณมาลา คำจันทร์ ที่สามารถหาข้อประณีประนอมได้ ทั้งระหว่างวิทยาศาสตร์กับความเชื่อพื้นบ้าน และระหว่างเรื่องราวของไทยกับเขมร
ในตำนานพื้นบ้านของคนไทยเรา อาจมีเรื่องราวของ ผีก็องก็อย ผีขโมดดง คุณมาลา คำจันทร์ก็พยายามจะอธิบายว่า ก็องก็อยเป็นเผ่าพันธ์กึ่งคนกึ่งลิงที่วิวัฒนาการมาไม่เต็มที่ เข่ายังเจริญไม่สมบูรณ์จึงต้องกระโดยหย็อยๆ หรือขโมดดง ที่ท่านได้อธิบายว่า อาจเป็นแมลงดูดเลือดชนิดหนึ่ง
แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือ เรื่องราวของเพื่อนบ้านเราอย่างกัมพูชา
ความคิดของวิชชุ หนึ่งในตัวละครหลัก ที่นึกสวนขึ้นมาตอนที่ตัวละครเขมรใน พ.ศ. 1057 กล่าวดูถูกคนไทยน่าจะเป็นสิ่งที่แทนความคิดของหลายๆ คนได้เป็นอย่างดี
"...แกนึกว่าวยาธปุระยิ่งใหญ่นักหรือตาเฒ่า อีกพันสี่ร้อยกว่าปีพวกแกก็ระส่ำระสายเป็นเขมรอพยพไปขอซุกหัวในดินแดนของพวกข้า พวกแกถูกผู้นำที่เรียกว่าเขมรแดงฆ่าล้างโคตรแทบหมดเผ่าพันธุ์ ต่อมาผู้นำของพวกแกก็แตกแยกกลายเป็นเขมรสามสี่ฝ่ายประจานตัวเองไปทั่วโลก แย่งชิงกันเป็นใหญ่ ไม่สนใจว่าไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินคนอย่างพวกแกจะเดือดร้อนสาหัสแค่ไหน ถ้าข้าบอกแกว่าถึงปีพ.ศ. 2532 พวกแกล้าหลัง ยากจน อดอยาก จนต้องไปขอข้าวชาวเซียมพวกข้ากินแก็ก็คงไม่เชื่อ..."
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เรื่องราวในหุบเขากินคนจะจบลง ความคิดของวิชชุก็เปลี่ยนไปดังนี้
"...ความจริงคนเขมรทั่วๆ ไปก็คือคนอย่างมหาเทวี อัชฌา และไอ้ส่วยต่างหาก หาใช่คนอย่างรุทรวรมัน วามพราหมณ์ หรือวาศิกราชครูไม่ คนเขมรเขาก็ต้องการความสุขตามอัตภาพ ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง ไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใคร เสียแต่ผู้นำเขมรปัจจุบันแตกแยก youแน่นักหรือ กูเองก็แน่ คนที่แย่คือประชาชน..."
ก็คงจะขอจบบทความเพียงเท่านี้หละครับ เขียนมาเสียยาว ก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบก็แล้วกันครับ
แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 55 21:30:25
จากคุณ |
:
Haruki.13 (Haruki13)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเกิด PANTIP.COM 55 21:30:04
|
|
|
|
|