ความคิดเห็นที่ 1 กว่าจะมาเป็นสถาบันสถาปนา http://www.orbit.in.th/foundation/f0001.htm สถาบันฯ สนุกครับ ส่วนรามา ผมว่าสนุกแค่ภาคแรกเท่านั้นเอง จากคุณ : mountainfox เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 10:08:01

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นนิยายวิทย์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่าน อ่านครั้งแรกตอนวัยรุ่นเรียนมัธยม ตอนนั้นมีแค่๓เล่ม ประมาณ๑๐ปีผมต้องกลับมาอ่านใหม่ทั้งหมด ๒ครั้งหลังได้อ่านครบทั้ง๑๐เล่ม(๓เล่มสุดท้าย Asimov ไม่ได้เขียนเอง แต่กองมรดกของเขามอบหมายให้นักเขียนอีก๓ท่านเขียน) ตอนนี้อายุ๔๐กว่าแล้ว อ่านแบบตั้งใจมาแล้ว๔รอบ เมื่ออายุมากขึ้นผ่านชีวิตมากขึ้น เมื่อกลับมาอ่าน ผมเข้าใจหนังสือมากขึ้น และประทับใจมากขึ้นทุกครั้ง ๓เล่มแรกเป็นเรื่องของนักคณิตศาสตร์(ฮาริ เซลดอน) ในอนาคตประมาณ๒๐๐๐๐ปีข้างหน้า ที่ค้นพบวิธีทำนายอนาคตโดยใช้คณิตศาสตร์ อ้างเทียบกับกฏของก๊าซ คือเราไม่สามารถทำนายการเคลื่อนที่แต่ละโมเลกุลได้ แต่เมื่อมีโมเลกุลมากๆมารวมกันเราทำนายพฤติกรรมของก๊าซได้ เทียบกับสังคมมนุษย์สมัยนั้นที่ขยายตัวไปอาศัยในดาวเคราห์ทั่วกาแลคซี่(ถ้าจำไม่ผิดในหนังสือบอกว่าประมาณ๒๕ล้านดวง มีคนเป็นล้านล้านล้านคน ประมาณ๑๐ยกกำลัง๑๘) ถึงไม่สามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดของปัจเจกบุคคลได้ แต่จะสามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดกับสังคมโดยรวมได้ และเซลดอน ได้คำนวนออกมาว่าต่อไป สังคมจักรวาลจะล่มสลายเกิดความทุกข์ยากวุ่นวาย วิทยาการจะถดถอย มนุษย์จะอยู่ในยุคมืดถึงสามหมื่นปี เซลดอน จึงหาวิธีที่จะลดเวลาของยุคเวลาของยุคมืดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้ให้เหลือ หนึ่งพันปี โดยตั้งสถาบันสถาปนาไว้ ๒ แห่ง ที่แรกมีหน้าที่จัดเก็บรวบรวมวิทยาการความรู้ของมนุษย์ไม่ให้สูญหายไป ไว้ที่ดาวเคราะห์โดดเดี่ยวที่ขอบของจักรวาล ที่ที่๒ ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งเป็นความลับเพื่อประกันความสำเร็จของที่แรก เรื่องส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลัง เซลดอนเสียชีวิตแล้ว เขาจะทำนายถูกหรือไม่ สังคมมนุษย์จะเป็นอย่างไรหลังจากนั้น เมือมีความวุ่นวายทางการเมือง เศรฐกิจ สังคม สถาบันสถาปนาจะทำอย่างไร และเมื่อมีภัยคุกคามพวกเขาแก้ไขอย่างไร ผมคิดว่าAsimov มีความรู้ทางsocial science และประวัติศาสตร์ อย่างดีมากๆ ทั้งที่เรียนจบมาทางเคมี เขาจำลองเรื่องที่จักรวรรดิโรมันล่มสลายทำให้ยุโรปอยู่ในยุคมืด จนฟื้นฟูศิลปวิทยาการมาเป็นแกนของเรื่องนี้ หนังสือชุดนี้ไม่ได้เป็น science fiction ธรรมดา แต่เป็น socialscience fiction ที่ดีที่สุดเท่าที่มีมาครับ จากคุณ : เสธแก่ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 10:43:35

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เดี๋ยวจะไปหาซื้อมาอ่านบ้างเลยคะ น่าสนใจมาก แต่ต้องรออ่านชุด a space odyssey ของ Clarke จบก่อน555 จากคุณ : PoongieDragonia เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 11:47:09

ความคิดเห็นที่ 4 สนุก อ่านมาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้วและยังขุดมาอ่านอยู่เรื่อยๆ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 12:03:38

ความคิดเห็นที่ 5 ๓ เล่มแรกเป็นแก่นของเรื่อง Asimov เขียนไว้เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่๒ จนเมื่อประมาณปี ๑๙๘๐(ผมอาจจำผิด วานผู้รู้ในห้องนี้ช่วยยืนยันหรือแก้ไขด้วยครับ) ได้กลับมาเขียนเรื่องชุดนี้เพิ่ม เล่ม๔และ๕ เป็นตอนหลังจาก เซลดอนตายไปแล้วหลายร้อยปี จนมีความขัดแย้ง แก่งแย่งชิงดี ระหว่างสถาบันสถาปนาทั้งสองแห่ง และมีการเปิดเผยว่าแผนการของเซลดอนได้รับการชักนำช่วยเหลือจากหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง(ดานีล) ดานีลเป็นหุ่นโบราณ(อายุสองหมื่นปี)ที่ถูกสร้างให้มีรูปร่าง ผิวภายนอกเหมือนมนุษย์จนไม่มีใครรู้ว่าเป็นหุ่นยนต์ และมีความคิดจิตสำนึกใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด ในขณะที่สังคมสมัยนั้นหุ่นยนต์เป็นสิ่งต้องห้าม เป็นที่รังเกียจ (เทียบเท่าข้อห้ามทางศาสนา) อย่างไรก็ตามคนสร้างดานีลได้โปรแกรมกฏของหุ่นยนต์๓ข้อไว้ในสมองของดานีล สรุปว่าหุ่นยนต์ต้องไม่ทำร้ายมนุษย์อย่างเด็ดขาด แต่ด้วยความเป็นอัจฉริยะของดานีล เขาหรือมัน ได้สร้างกฏข้อ๐ของหุ่นยนต์ขึ้นมาเอง สรุปว่า ถ้าต้องป้องกันมนุษย์ในภาพรวม อาจต้องทำร้ายมนุษย์ในรายปัจเจกได้ กฏข้อ๐นี้ทำให้เกิดความขัดแย้งในสมองของดานีลเป็นอย่างมาก อีกทั้งดานีลได้พัฒนาแนวทางของปฐมภพ เพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติไว้อีกแนวหนึ่ง นอกจากแนวทางของสถาบันสถาปนาทั้งสองที่เริ่มขัดแย้งหาวิธีทำลายกันเอง สุดท้ายแล้วดานีลไม่ยอมตัดสินใจเลือกเอง โดยให้มนุษย์คนหนึ่งเป็นผู้ตัดสินใจ เนื่องจากยังต้องเชื่ออยู่เสมอว่ามนุษย์เป็นนาย และไม่ว่าจะตัดสินใจไปแนวใดจะต้องมีผลไปทำร้ายมนุษย์ส่วนหนึ่งอยู่ดี ลองไปหาอ่านดูครับว่ามนุษย์คนนั้นจะเลือกแนวทางใด เพราะอะไร ระหว่าง       ๑ แนวของสถาบันสถาปนาที่๑ แบบสังคมทุนนิยมประชาธิปไตยปัจจุบัน เน้นสร้างสรรค์วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การเจริญเติบโตทางเศรฐกิจ ฯลฯ       ๒ แนวของสถาบันสถาปนาที่๒ แบบอภิชนาธิปไตย สังคมจะได้รับการชี้นำจากคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นนักปราชญ์ทรงภูมิที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดี (ความเห็นส่วนตัวของผมAsimov น่าจะเอามาจากหนังสือ Republic ของเพลโต)      ๓ แนวทางของปฐมภพที่เน้นความคิดองค์รวมของทั้งสังคมมนุษย์รวมถึงสิ่งแวดล้อม(มีกลิ่นความคิดของMarx แบบสังคมคอมมิวนิสต์ปนๆอยู่) การเดินเรื่องสนุกน่าสนใจที่พระเอกเป็นนักการเมืองของสถาบันสถาปนาที่๑ ถูกเนรเทศจนต้องเดินทางระหว่างดวงดาว กับเพื่อนร่วมทางนักวิชาการเพื่อหาความจริงเบื้องหลัง ค้นหาที่ตั้งของสถาบันสถาปนาที่๒ ได้ไปพบคนของปฐมภพ และดาวโดดเดี่ยวที่ยังใช้หุ่นยนต์อยู่(ดาวอื่นๆถือเป็นเรื่องต้องห้าม) และได้พบโลกที่เป็นต้นกำเนิดของมนุษยชาติ(สมัยนั้นไม่มีใครรู้แล้วว่ามนุษย์เกิดจากดาวดวงไหน) จนค้นพบความจริง และต้องตัดสินใจเลือกแนวทางเดินของมนุษยชาติทั้งหมดในอนาคตด้วยตัวเองคนเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 12:24:24 จากคุณ : เสธแก่ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 12:20:49

ความคิดเห็นที่ 6 คนที่คิดกฎข้อที่ 0 คือจิสการ์ด หุ่นที่เป็นเพื่อนของดานีลครับ ถ้าอยากอ่านให้ครบถ้วนแนะนำว่าให้อ่านชุดนักสืบ อิลิจาห์ ไบเลย์ด้วย มีสามเล่มคือ The cave of steel The naked sun The Robots of dawn และถ้าจะเอาให้สุดๆจริงๆต้องเอา Robot Series มาอ่าน อีก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้น เรื่องที่โด่งดังที่สุดเห็นจะเป็น Bicentennial Man สรุปถ้าจะอ่านตาม Time line ผมแนะนำให้อ่านดังนี้    - The end of eternity Robot Series    - I, Robot    - Pebble In The Sky    - The Naked Sun    - The Robots of Dawn    - he Caves Of Steel    - Robots And Empire    - The Stars Like Dust    - The Currents Of Space    - Blind Alley Foundation series    - Prelude to Foundation    - Forward the Foundation    - Foundation    - Foundation and Empire    - Second Foundation    - Foundation's Edge    - Foundation and Earth จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 12:59:08

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าอ่านตามที่ว่ามามันจะเริ่มตั้งแต่มนุษย์อาศัยอยู่บนดาวดวงเดียว จนกระทั่งขยายตัวออกไปครอบครังจักรวาล จริงๆ The end of eternity นี่จะอ่านเป็นเล่มแรกหรือเล่มสุดท้ายก็ได้ แต่ผมว่าเก็บไว้อ่านเป็นเล่มสุดท้ายสนุกกว่า จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 13:01:04

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณคุณ Nexus ครับ ในสถาบันสถาปนา จิสการ์ดจะมาตอนเล่มท้ายๆครับ มาเหลือแต่หัวครับ ผมอ่านThe end of eternity เป็นเล่มสุดท้าย ชุดหุ่นยนต์ผมอ่านครั้งสุดท้ายสิบกว่าปีแล้ว ลืมไปเกือบหมด คงถึงเวลาที่ต้องอ่านใหม่แล้วครับ จากคุณ : เสธแก่ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 13:21:25

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเพิ่งอ่านเล่ม 8-10 จบไปเอง  (ดองไว้นาน 55) จากคุณ : mountainfox เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 13:25:55

ความคิดเห็นที่ 10 หนังสือ ชุด สถาบันสถาปนา ผมยกให้ เป็น นิยายวิทยาศาสตร์ ที่ดีที่สุด เท่าที่มนุษย์เคยเขียนมา ครับ ปล. หนังสือชุดหุ่นยนต์ ทั้ง 4 เล่ม  นครโลหะ นครสุริยะ นครอรุณรุ่ง นครหุ่นยนต์ รวมทั้ง หนังสือ ลาแล้วโลก ( The Currents Of Space ) หาซื้อได้ที่บูธ เมืองหนังสือ ในงานสัปดาหนังสือ ครับ ผมแนะนำให้รีบซื้อเก็บไว้ ก่อนที่จะหมดนะครับ จากคุณ : ฝนตกในขวดแก้ว เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 13:30:15

ความคิดเห็นที่ 11 The Foundation นิยายที่ต้องอ่านเพราะมันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรา เป็นบันทึกเหตการณ์ในประวัติศาสตร์   Asimov เอามารวบรวมให้เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ นิยายวิทยาศาสตร์ในแนวสังคมวิทยา  เศรษฐศาสตร์ และการเมือง เล่มแรกของชุด The Foundation กล่าวถึงการก่อตั้ง สถาบันสถาปนา เมื่อจักร์วรรดิ์กำลังล่มสลาย  ฮาริ เซ็ลดอน หลอกนักวิทยาศาสตร์หัวกระทิ ให้ไปช่วยกันทำ Encyclopedia  ที่พิภพห่างไกลสุดขอบจักรวาล เมื่ออำนาจของจักรวรรดิ์เสื่อมลง  ชาวคณะผู้จัดทำ Encyclopedia ก็อยู่ในสภาพถูกปล่อยเกาะให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว  ท่ามกลางพิภพป่าเถื่อน หนทางเดียวที่จะรับมือกับพวกป่าเถื่อน  ก็คือทำให้ตัวเองเป็นผู้วิเศษ จัดตั้งองกรณ์ทางศาสนาขึ้นปกครอง   ทุกกิจกรรมต้องได้รับการเห็นชอบ จากพวกพระ   พระเป็นเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลได้ทุกอย่าง ผู้ใดท้ายทายอำนาจของพวกพระก็จะพบกับความวิบัติในทันที กาลเวลาล่วงเลยไป   อำนาจของพวกพระก็เริ่มเสื่อมลง อำนาจอย่างใหม่เข้ามาแทนที่  พลังทางเศรษฐกิจ เหล่าพ่อค้ามีสินค้าคุณภาพดีราคาถูก  ด้วยยานขนส่งพาสินค้าเร่ขายไปทั่ว ทุกพิภพตกอยู่ภายใต้พลังทางเศรษฐกิจ  สินค้าขิงชาวสถาบันสถาปนาเป็นที่ต้องการอย่างสูง สินค้าที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้   ไม่ต้องกลัวการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ใคบังอาจงัดแงะสินค้าของชาวสถาบันออกดู  มันก็จะถูกทำลายไปเดี๋ยวนั้น แล้วชาวสถาบันสถาปนาก็ยิ่งผยองที่จะเป็นจ้าวจักรวาล  ท้าทายอำนาจของจักร์วรรดิ์ จากคุณ : Sv เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 13:49:00

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าชอบ Sci-fi ลองอ่านของ Stephen Baxter สิครับ เขียนได้ดีทีเดียว หรือของ Dan Simon ก็สนุก ส่วนของ Clarke เล่มหลังๆเนี่ยผมว่า Time odyssey(Time eyes, Sunstorm, Firstborn) ก็สนุกดีนะครับ แต่ The Last Theorem ที่เป็นเล่มสุดท้ายเนี่ยผมว่าไม่สนุกเท่าไหร่ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 14:13:49

ความคิดเห็นที่ 13 Foundation And Empire  สถาบันสถาปนา กับจักรวรรดิ์ การแสดงตัวอย่างยิ่งผยองของชาวสถาบันสถาปนา เริ่มสะดุดตาชาวจักร์วรรดิ์   แม้ว่าขณะนั้นจักร์วรรดิ์เสื่อมถอยลงมากแล้ว แต่ศูนย์กลางของจักร์วรรดิ์ยังคงอยู๋  ทรานส์ทอร์นครพิภพยังเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางอำนาจ กองกำลังรบของชาวจักร์วรรดิ์ที่ส่งไปปราบพวกสถาบันสถาปนาก็ไม่มีพลัง เพราะเหตุผลทางการเมือง   เมื่อเหล่านักการเมืองไม่ต้องการให้ทหารมีอำนาจ แม่ทัพใหญ่ของฝ่ายจักริ์วรรดิ์  ท่านนายพลเบน ริโอเซ ก็ถูกลดทอนอำนาจจนถูกปลด เป็นความพ่ายแพ้และเสื่อมถอยของฝ่ายจักร์วรรดิ์จนล่มสลายไปในที่สุด ชาวสถาบันสถาปนาขึ้นครองจักร์วาลอย่างไรผู้ต่อต้าน แต่สิ่งที่ชาวสถาบันไม่เคยคิดว่าจะมีสิ่งนี้บังเกิดขึ้นมาได้ แม้แต่ ฮาริ เซ็ลดอน ผู้ก่อตั้งก็ไม่รู้ เมื่อคนลึกลับผู้เรียกตัวเองว่า มโนมัย (The Mule) ปรากฏตัวขึ้น มโนมัย  ผู้ลึกลับแต่มีพลังจิคแกร่งกร้าว ไร้ผู้ใดต่อต้านได้ ก็ยึดครองสถาบันสถาปนาไปอยู่ภายใต้การปกครองโดยไม่ต้องออกแรง แต่ ฮาริ เซ็ลดอน ก็หาทางป้องกันเหตุไม่คาดคิดนี้เอาไว้แล้ว สถาบันสถาปนาแห่งที่สอง  ถูกจัดตั้งและซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด เพื่อคอยช่วยเหลือ สถาบันแห่งที่หนึ่ง ในยามคับขัน ความหวังเดียวเพื่อการอยู่รอดของสถาบันสถาปนา ต้องหาสถาบันสถาปนาแห่งที่สองให้พบเพื่อแจ้งข่าวการมีตัวตนของ มโนมัย เบต้า เมย์ หญิงแกร่งพร้อมกับนักจิตวิทยาเพียงคนเดียวพยายามแกะรอยหาสถาบันแห่งที่สอง มโนมัย ก็เช่นเดียวกันมันใช้ พลังจิตและอำนาจของมันเพื่อหาสาบันแห่งที่สองให้พบ ความอยู่รอดของสถาบันสถาปนาขื้นอยู่ที่ว่าใครจะพบสถาบันแห่งที่สองก่อนกัน จากคุณ : Sv เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 14:15:01

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้า๓เล่มแรก Asimov สร้างเซลดอนให้เหมือนเทพเจ้า เล่ม๖ และ๗ เป็นเหมือนชีวประวัติ Asimov เขียนให้เซลดอนเป็นมนุษย์ ที่มีสุขมีทุกข์ มียิ่งใหญ่มีตกอับ มีความรักมีการพลัดพราก มีความมุ่งมั่น มีการท้อถอย จากนักคณิตศาสตร์หนุ่มบนดาวเคราห์บ้านนอก เข้ามาประชุมวิชาการที่ดาวที่เป็นศูนย์กลางจักรวรรดิ์อย่าง ทรานทอร์ เขานำเสนองานที่เป็นแนวคิดเบื้องต้นของการทำนายอนาคต โดยใช้สมการคณิตศาสตร์ หลังจากการบรรยายครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของเซลดอน รวมถึงอนาคตของมนุษยชาติต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อฝ่ายการเมืองทราบเรื่องนี้จึงพยายามหาประโยชน์จากการทำนายอนาคตได้รวมทั้งองค์จักรพรรดิ์แห่งจักรวรรดิ์สากลจักรวาล ทำให้เขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยการช่วยเหลือของดานีลในคราบนายกรัฐมนตรีแห่งจักรวรรดิ ทำให้เขาได้ทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ได้พบคู่ชีวิตที่เป็นนักวิชาการทางประวัติศาสตร์ มีโอกาสพัฒนาวิชาอนาคตประวัติศาสตร์  ศึกษาสังคมของคนกลุ่มชาติพันธ์ต่างๆบนทรานทอร์ นักวิจารณ์ เชื่อว่าAsimov อาศัยในนิวยอร์ค ได้ใช้ภาพจำลองของนิวยอร์ค ที่มีคนหนาแน่น และเป็นที่รวมของชาติพันธ์ต่างๆจากทั่วโลก มาเขียนเป็นทรานทอร์ เซลดอนได้พบผู้ช่วยคนสำคัญ ที่เคยทำงานเป็นกรรมกรในเหมือง ให้โอกาสได้มีการศึกษา จนภายหลังเป็นเพื่อน และมือขวาที่เซลดอนไว้ใจที่สุด ได้รับเลี้ยงเด็กจรจัดจากย่านสลัมที่ยากจนที่สุดเป็นบุตรบุญธรรม จนกระทั่งเกิดความผันผวนทางการเมืองและด้วยความช่วยเหลือจากดานีล เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีในที่สุด  ทำให้วิชาอนาคตประวัติศาสตร์ได้รับการสนับสุนทางการเงินอย่างเต็มที่ เมื่อพ้นตำแหน่งทางการเมืองกลับมาทำงานในมหาวิทยาลัยตามเดิมจนในบั้นปลายชีวิตเมื่อจักรวรรดิ์เริ่มล่มสลายลงตามคำทำนาย เขาเริ่มพบกับความสูญเสีย พลัดพราก งานของเขาขาดเงินสนับสนุนจนเกือบต้องล้มเลิก แต่สุดท้ายเขาสามารถก่อตั้งสถาบันสถาปนาขึ้นมาจนสำเร็จ ผมประทับใจตอนฉากสุดท้ายของเซลดอน เขาตายอย่างโดดเดี่ยวไม่เหลือคนที่รักเขาอยู่เคียงข้างเลย เขาตายพร้อมกับเครื่องประถมรัศมี(เครื่องฉายภาพ๓มิติแสดงผลงานวิชาอนาคตประวัติศาสตร์ที่เขาอุทิศชีวิตสร้างสรรค์ขึ้น) แต่สิ่งที่คิดถึงสุดท้ายก่อนสิ้นลม คือภรรยาที่รักที่สละทั้งชีวิตเพื่อเขา แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 55 19:05:12 จากคุณ : เสธแก่ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 14:15:46

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกคำตอบมากๆคะ เรารู้จักหนังสืิอชุดนี้มาตั้งแต่ม.1 แต่ไม่เคยหาอ่านเลย มีแต่นั่งฟังคุณพ่อพูดเกี่ยวกับหนังสือของAsimov แต่ตอนนี้เราเห็นคอมเม้นของทุกคนแล้วเราเริ่มทนไม่ไหวแล้วคะ55555 ถ้าอ่านทั้งทีก็ควรอ่านAsimov ทุกเล่มเลยใช่ไหมคะ เราจะสอยมาให้ครบเลยคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆเลยนะคะ จากคุณ : PoongieDragonia เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 55 16:45:06

ความคิดเห็นที่ 16 นิยายไซไฟที่ดีที่สุดในโลกครับ ควรต้องอ่าน อย่างน้อยก็7เล่มแรก ส่วนThe end of eternity มันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดครับ แต่แนะนำอย่างข้างบนว่า ถ้าอ่านตอนท้ายจะสุดยอดมากในบทสรุป จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 55 10:05:12

ความคิดเห็นที่ 17 isac เป็นเจ้าพ่อในวงการนี้เลยครับ ชอบมโนมัยมากใช้พลังจิต การ์ตูนญี่ปุ่น naruto ตัวละคร เพน คงได้มาจากคนนี้ หนังสือน่าอ่านมากกกกก จากคุณ : bung2590@gmail.com (bung2590) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 55 07:58:34