ความคิดเห็นที่ 1 สอบโทเฟิลแน่นอนกว่า ในอังกฤษเห็นเค้าใช้ไอเอล แต่แล้วแต่ที่แล้วแต่สถาบันจะรีไควร์ รูํ้สึกคล้ายๆไอเอลจะง่ายกว่า แต่สอบโทเฟิลแน่นอนกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น - ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเราว่าเอาไปทำไร และ - ขึ้นกับแต่ละที่ว่าเค้ารีไควร์อะไรนะค่ะ ภาษาไทยคุณอ่านยากมากค่ะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 05:39:28

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วยแก้ภาษาไทยค่ะ คำว่า "คะ" ไม่ต้องมีไม้ตรีนะคะ เข้าเรื่องดีกว่า จะสอบ IELTS หรือ TOEFL น่าจะขึ้นอยู่กับว่าใช้ทำอะไร ไปเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศไหนมากกว่านะคะ ก็สอบให้ตรงตามที่เค้าต้องการไปเลย ส่วนหนังสือ ของ IELTS แนะนำหนังสือของ Cambridge ค่ะ ที่เป็นข้อสอบเก่า มีหลายๆ เล่มน่ะค่ะ มีซีดีให้ฝึกฟังด้วยค่ะ จากคุณ : quiestu เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 11:56:25

ความคิดเห็นที่ 3 คห.1 คห.2 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ และก็ขออภัยสำหรับภาษาที่ค่อนข้างอ่านยากและสะกดผิดค่ะ จะสอบเพื่อยื่น U ที่ USA ค่ะ แต่มีคนบอกว่า TOEFLs part speaking จะวุ่นวายมากและเสียสมาธิได้ง่าย เพราะทุกคนต่างจะพูดของตัวเอง เค้าเลยแนะนำให้สอบ IELTs แทนค่ะ คห.2 ของ Cambridge ไม่ทราบว่าเล่มไหนดีคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ จากคุณ : berthe เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 21:45:17

ความคิดเห็นที่ 4 ปัจจุบันนี้ IELTS  ก็ใช้ได้เป็นสากล ยกเว้นบางมหาวิทยาลัยที่ระบุว่าต้องเป็น toefl เท่านั้น จากประสบการณ์ คิดว่า IELTS ง่ายกว่า จากคุณ : P Lloyd เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 07:23:16

ความคิดเห็นที่ 5 (1) TOEFL vs IELTS (1.1) Reading IELTS ค่อนข้างยากกว่า TOEFL (1.2) Listening แล้วแต่ว่าถนัดอย่างไหน ถ้าไม่สามารถจับคำพูดได้ทั้งหมด หรือ มีปัญหา spelling TOEFL จะดีกว่า แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องการจับใจความ จุดสำคัญ และ note IELTS จะดีกว่า (1.3) Writing . . . TOEFL ได้คะแนนง่ายกว่าเยอะครับ TOEFL ผม 27 แต่ IELTS 6.5 ครับ ส่วนหนึงเนื่องจาก IELTS เขียน ค่ิอนข้าง arrange ยากกว่าและไม่ถนัดกว่า (1.4) Speaking IELTS จะสบายกว่า ไม่ต้องกดดันเรื่องเวลา และได้สื่อสารแบบ face-to-face แต่การที่จะ achieve คะแนน 7+ ของ IELTS ค่อนข้างยากถึงยากมาก (2) หนังสือ TOEFL ใช้ Barron กับ Cambridge ส่วน IELTS ใช้ Cambridge 5-8 กับ Trainer **** ไม่แนะนำให้ใช้ Princeton ถ้าจะเอา trick หรือเป็น beginner ก็ OK เพราะข้อสอบจะง่ายกว่าของจริง (3) GMAT ใช้ของ Kaplan หรือ Manhattan GMAT ครับ :) (3.1) Trick นิดนึงของ GMAT ข้อแรกๆ สำคัญมาก ดังนั้นควรจะทำถูกติดต่อกันอย่างน้อย 15 ข้อ (3.2) RC เป็น part ที่ยากที่สุด และ consume time ที่สุด จากคุณ : Going to new life เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 10:37:31 A:203.150.206.170 X: TicketID:268658

ความคิดเห็นที่ 6 คห.5 ขอบคุณมากเลยค่ะ ได้ข้อมูลมากทีเดียว :) สงสัยต้องสอบ TOEFLs แล้วหล่ะค่ะ เพราะอ่อน writing อย่างมากเลยค่ะ แต่ถ้าพูดถึง speaking ต่อให้จำกัดเวลายังไงก็ยังโอเคกว่า writing ยากๆค่ะ จากคุณ : berthe เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 17:36:09

ความคิดเห็นที่ 7 อ้าว คุณจขกท เลือกสอบโทเฟลไปแล้วเหรอคะ สงสัยมาไม่ทันซะแล้ว 55 หนังสือที่เราพูดถึงใน คห.2 คือที่อยู่ในรูปนี้น่ะค่ะ มีข้อสอบให้ทำเต็มที่จุใจ เหมือนข้อสอบจริงเลยค่ะ สงสัยอะไร (เกี่ยวกับ IELTS) ถามได้นะคะ จากคุณ : quiestu เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 22:45:13

ความคิดเห็นที่ 8 ขออนุญาต แตกประเด็นนะคะ ยังไม่กล้าตั้งกระทู้ใหม่ มือใหม่หัดโพสค่ะ^^ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K13051471 จากคุณ : pigrabbitii เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 55 16:28:59