ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีคำแนะนำ เพราะอ่อนด้อยเหมือนกัน จะเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเฉย ๆ เพราะเคยประสบกับความรู้สึกเครียดจนหดหู่เพราะเรื่องนี้เหมือน ๆ กันค่ะ จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 20:02:34

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนตัวนะ ดูซีรย์ หรือ ซับอังกฤษ ซับไทย สลับไปมา ดูเยอะ ตอนนี้ผมก็ดูมาหลายเรื่อง ก็พอจับใจความในการพูดได้ บ้าง ตอนนี้ฟังเอาสำเนียงอย่างอื่น อย่างอื่นก็ค่อยซึมซับไปเรื่อยๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป ประมาณดูมันทุกวัน เหมือนเรากำลังนั่งฟังฝรั่งเค้าคุยกัน แรกไม่รู้เรื่องอะไร แต่ นานๆ เข้ามันจะเริ่มรู้เรื่องอะไร จากคุณ : mak2010 เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 20:45:35

ความคิดเห็นที่ 3 การฟังเพลงไม่ใช่ตัวตัดสินที่เชื่อถือได้หรอกครับ ผมอ่านออก เขียนได้ พูดได้ คุยได้ ยังฟังเพลงไม่ค่อยออกเลย จากคุณ : J-Renderer เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 21:41:41

ความคิดเห็นที่ 4 เอาทีละประเด็นก่อนนะคะ เรื่องอ่าน ปัญหาของน้องคืออ่านไม่รู้เรื่องและไม่รู้ศัพท์ ? ถ้าถามว่าศัพท์สำคัญมั้ย - คำตอบคือ "สำคัญ" เพราะศัพท์เป็นหน่วยเล็กสุด ที่จะประกอบกันเป็นประโยค หลายๆประโยคก็เป็นบทความ ถ้าไม่รู้ศัพท์ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะอ่านรู้เรื่องได้ยังไง โดยประเด็นที่บอกว่า มันมากเกินไป หลายสาขาวิชา จำไม่ได้ สำหรับข้อสอบ เขาไม่เอาศัพท์เฉพาะทางมาออกนะคะ สิ่งที่เห็นคือคำศัพท์ทั่วไปค่ะ วิธีรู้ศัพท์ก็คืออ่านมาก แต่ถ้าเอาทางลัดคือซื้อพวกหนังสือศัพท์ที่เจอบ่อยแล้วมาท่อง อ่านไม่รู้เรื่อง - แปลว่าแกรมม่ายังอ่อนค่ะ เพราะแกรมม่าจะส่งผลไปยังโครงสร้างประโยค ยกตัวอย่างเช่น ประโยคที่มีการใช้ participle construction เพื่อลดรูป ถ้าไม่เข้าใจตรงนี้ ก็จะเริ่มงง ว่าทำไมมีกริยา 2 ตัว ตกลงใครทำอะไร การฟัง ปัญหาคือฟังไม่รู้เรื่อง ? อันนี้ไม่มีทางลัดค่ะ นอกจากฟังมาก แต่มีเทคนิคว่าควรฟังอะไร จากประสบการณ์ของพี่ พบว่าการดู series หรือฟังเพลง น้องควรเอาเป็นส่วนเสริมค่ะ ไม่ใช่เอาเป็นส่วนหลัก นึกง่ายๆว่าถ้าน้องเป็นฝรั่ง แล้วมาเรียนเพลงไทยที่ร้องจาก ฉันรักเธอ เป็น ช้านนร้ากกเทอ หรือดูละครที่มีคำว่า ตะเอง ซื้อนั่นให้เค้าหน่อยจิ พี่ว่ามันเป็นมลพิษหูมาก คืออยากให้น้องเน้นฟังภาษาอังกฤษมาตรฐานเป็นหลักมากกว่า เบื่อๆค่อยหาพวกนี้มาเสริม ภาษาอังกฤษมาตรฐานคืออะไร จากไหน? แรกๆให้ฟังพวก listening ที่มี script ก่อน พวก VOA เป็นต้น เพราะพูดช้ามาก ออกเสียงชัด มีข้อความตามเสียงให้อ่าน วิธีการคือ อย่างน้อยต้อง 3 รอบ รอบที่ 1 ฟัง พยายามจับใจความให้ได้จากการฟัง ไม่ต้องให้ได้ยินครบทุกเสียงก็ได้ รอบที่ 2 อ่าน script ดูว่าเราเข้าใจถูกต้องมากน้อยแค่ไหน รอยที่ 3 ฟังเพื่อเก็บเสียงที่ออกมาในแต่ละคำ จะได้ยินชัดเลย ว่ามีหลายคำที่ถูกสอนมาแบบออกเสียงมาผิดๆ เช่น oil, style ตัวแอลจะต้องอ่านออกเสียงด้วย VOA ง่ายสุดๆแล้ว ถ้าได้ก็ขยับไป Web อื่นที่เริ่มจำลองสถานการณ์การพูดที่เหมือนจริงขึ้น จากคุณ : via iPhone (zombie land) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 21:51:28

ความคิดเห็นที่ 5 Series แนะนำ Modern family ง่ายดี สามารถฟังออกๆด้ระดับที่ไม่เปิด sub ใดๆได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ไหวนะ อย่างที่ชอบดูตอนนี้ก็ Criminal Mind ไม่เปิดซับบางทีมีงง ยิ่งตอนมันอธิบายทฤษฏี จากคุณ : via iPhone (zombie land) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 21:53:53

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องฝึกอ่านเยอะๆ อ่านทุกวัน อ่านทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ ต้องฝึกฟังเยอะๆ เช่นเว็บนี้ http://learningenglish.voanews.com/ เรื่องฝึกอ่านกับฝึกฟังไม่มีทางลัด ต้องฝึกอย่างสม่ำเสมอทุกวัน จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:07:22

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากๆนะ ยังไงก็คงต้องพยายามอ่านไปเรื่อยๆ เท่าที่ได้แหละ คงต้องฟิตท่องศัพท์แล้วแหละ อ่านไปแปลไป รู้สึกแย่ดีแท้ อ่อแล้ว ผลสอบออกเร็วสุดกี่วันคะ?? จะได้คำนวณ เวลาไว้คร่าวๆ จากคุณ : Pinocchio_chii เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 22:43:48

ความคิดเห็นที่ 8 จะบอกว่าถ้าอ่านไปถึงจุดนึงแล้ว มันไม่ต้องแปล มันจะออกมาเป็นภาพ และภาพจะช่วยให้ตอบคำถามได้เร็วมาก (แปลมันช้า และข้อสอบวัดความเข้่าใจ ดังนั้นไม่ต้องแปลออกทุกคำ) เช่นง่ายๆเลย this is a girl = นี่คือเด็กผู้หญิง แต่ถ้าอ่านด้วยความเร็ว ก็จะเห็นเด็กผู้หญิง 1 คน แล้วใจเราก็จะถามต่อว่า แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นทำอะไรต่อล่ะ การกระทำนั้นส่งผลอะไร บทความเน้นอะไร พวกนี้ควรต้องอ่านแล้วเข้าใจได้ ก่อนจะเจอคำถามเสียด้วยซ้ำ เรียกว่าอ่านแบบ proactive reading มันจะช่วยให้เห็นการไหลจองความคิด จากคุณ : via iPhone (zombie land) เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 55 23:16:00

ความคิดเห็นที่ 9 อืมมม... คุณก็รุตัวดีนี่นา ว่ามีจุดอ่อนอะไรบ้าง แทนที่จะนั่งหดหู่ เอาเวลาไปแก้จุดอ่อนดีกว่านะ ไม่รู้ ไวยากรณ์นี่ จบเลยคัฟ ต้องรุเท่านั้น ถ้าไม่รุ ก็อ่านเอา ไม่ยากคัฟ นักเรียนไทยเรียนอังกฤษมามากเกินพอ แต่ที่เอาดีไม่ได้ เพราะไม่เคยเอาไปลองใช้มากกว่า เรียนแล้วก็คืนครูหมด แต่ถ้าตั้งใจเรียกวิชาคืน อ่านหนังสือแกรมมาร์ ที่ในห้องนี้แนะนำไว้ รับรองได้คืนหมดและเร็วด้วย ไม่มีแกรมมาร์ ก็เหมือนไม่มีเครื่องมือจะไปทำอย่างอื่น ไม่รุแกรมมาร์แต่จะไปอ่าน จะไปฟัง? คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า?!!!! จากคุณ : Ensign เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 08:28:47

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านไปก็ต้องคอยสังเกตวิธีการใช้คำ วิธีสร้างประโยค ไม่ใช่สักแต่ว่าอ่าน ใครบอกให้อ่านก็อ่านไม่ใช้ความคิด ทำแบบนั้นก็ไม่ได้มีความรู้อะไรใหม่ สอบไปก็เสียตังค์ จากคุณ : พลายแป้ง เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 10:48:04 A:161.200.118.51 X: TicketID:120371

ความคิดเห็นที่ 11 เรื่อง ฟัง ดูซีรีย์ เรียลลิตี้ โชว์ พวกฝรั่ง  ช่วยได้มากๆ อย่ามองซับบ่อยเกินก็แล้วกัน เรื่อง อ่าน ต้องบอกว่า จขกท ต้องฝึกอ่านเยอะๆๆๆๆๆค่ะ หาอะไรก็ได้อ่าน เอาสิ่งที่ตัวเองสนใจแล้วมันจะต่อยอดไปได้เรื่อยๆ ทำอย่างสม่ำเสมอค่ะ จากคุณ : สงกาดรุณ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 15:37:35

ความคิดเห็นที่ 12 ให้กำลังใจแล้วกันครับ แนะนำว่าฝึกฝนแต่ต้นจะดีกว่า เพราะยังไงถ้าเข้าไปเรียนก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการอ่านตำราเรียนอยู่ดี เพราะหลักสูตรไทย บางครั้งก็ใช้ตำราภาษาอังกฤษประกอบการเรียนการสอน พยายามเข้านะครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 21:42:29

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องฟังลองฟังเพลงแล้วแกะเนื้อเพลงเองดูสิค๊ะ ช่วยได้ดีเลยค่ะ จะทำให้เราคุ้นกับสำเนียงที่ฟังยากด้วยหล่ะค่ะ ลองดูค่ะ โชคดีนะค๊ะ จากคุณ : berthe เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:26:51

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่จำเป็นต้องเรียนอินเตอร์ก็เก่งอังกฤษได้ค่ะ อาจจะไม่ได้ขนาด native แต่คนพื้นฐานดีๆสำเนียงดีๆ ไม่ได้เรียนอินเตอร์เห็นถมไปค่ะ ภาษาอังกฤษเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา สมัยนี้แค่มีอินเตอร์เน็ตก็เรียนอังกฤษได้แล้วค่ะ เราเชื่อว่า ภาษาอังกฤษเก่งได้อยู่ที่ตัวเอง ไม่ใช่ใครอื่น ทริคในการทำข้อสอบพวก reading มันมีอยู่สอนกันเกลื่อนค่ะ แต่มันจะใช้ไม่ได้ในกรณีที่อ่านไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งอันนี้ก็ไม่รู้ว่า ที่ จขกท บอกว่าอ่านไม่เข้าใจ มันคือไม่เข้าใจทั้งหมด หรืออย่างไร ถ้าไม่เข้าใจทั้งหมดต้องบอกให้ไปเรียนพื้นฐานใหม่แล้ว เพราะศัพท์ใน CU-TEP ไม่ค่อยมีศัพท์สูง มีก็แต่ศัพท์ธรรมดา กับศัพท์เฉพาะของแต่ละเรื่อง โดยศัพท์เฉพาะเราจะสามารถเดาคร่าวๆได้ว่ามันแปลว่าอะไรจากการอ่านเรื่องและโครงสร้างประโยคอยู่แล้ว และถ้าผ่าน สเตปแรก คืออ่านเข้าใจระดับหนึ่งไปแล้ว ให้ใช้เทคนิคอ่านโจทย์ก่อนแล้วค่อยไปหาคำตอบใน passage จะได้ไม่ต้องอ่านทั้งเรื่อง เสียเวลา ส่วนการฟัง เทปมันพูดช้ากว่าระดับปกติหลายเท่านัก ถ้าฟังไม่ทันหรือฟังสำเนียงเค้าไม่รู้เรื่องต้องไปปรับพื้นฐานมาก่อน ผ่านสเตปนี้ไปถึงจะเข้าไป ท่อง idioms เพราะตัวที่วัดผลในข้อสอบ listening ก็คือตัว idioms นั่นแหละค่ะ คือถึงฟังออกหมดว่าพูดคำอะไรออกมาบ้างแต่ถ้าไม่รู้ว่า idiom นั้นหมายความว่าอะไรก็เสร็จ ทำข้อสอบไม่ได้ จากคุณ : iii เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:51:47 A:124.122.153.72 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 15 เท่าที่อ่านคือ จขกท อยากสอบผ่าน ทางลัดของเรา ก็คือหนังสือคู่มือสอบ cu tep นั่นแหละ เราอ่านของสถาบันภาษาของจุฬาเอง แล้วก็ของทีจีอาร์อีที่่เป็นเล่มรวม ฝึกทำแบบฝึกหัดในนั้น 1.พาร์ทฟังเราฝึกจากซีดี แล้วเวลาเบรคก็จะฟัง voa หรือไม่ก็ฟังเพลงภาษาอังกฤษ คือให้ในชีวิตประจำวันมันเจอแต่อังกฤษให้มากที่สุด 2.อ่าน เราก็ฝึกทำแบบฝึกหัดอีกนั่นแหละ ระหว่างทำเราจะเจอศัพท์ที่ซ้ำไปเรื่อยๆถ้าจำไม่ได้ให้จดเลยแล้วเอาไว้ท่องหรืออ่านยามว่าง แล้วเราก็อ่านพวกหหนังสืออ่านนอกเวลาที่เป็นภาษาอังกฤษ เลือกที่เลเวลระดับที่เราอ่านได้ไม่ลำบากมากนัก อันนี้เอาไว้เป็นกำลังใจและใหชินกับตัวหนังสือ เวลาเจอขัอสอบจะได้ไม่อ้วกแตก อาจจะแว้ปไปอ่านvoaบัาง อีกอย่างเรื่องคำศัพท์จะมีเว้ปของสถาบันกวดวิชาที่หนึ่งรวมให้โหลดฟรีไปโหลดได้ อ้อ เราทำแฟลชคาร์ดดัวยแต่พักหลังไม่ค่อยได้ใช้ 3.พาร์ทเขียน เราก็ทำแบบฝึกหัดอีกเช่นเคย อันนี้เราก็ขุนไม่ขึ้นเหมือนกัน U_U ก่อนทำก็ปูพื้นฐานจากในหนังสือที่เขาสรุปไว้ให้ นี่คือวิธีทำของเราซึ่งเราก็อ่อนปวกเปียกเหมือนกัน อ่อนมากๆ แต่ตอนนี้เราผ่านแล้วแบบเฉียดฉิว แต่เราคิดว่ายังน้อยอยู่มาก  แต่เมื่อเราย้อนกลับไปดูเรากลับคิดว่า คนอย่างเรานี่สามารถเดินจับมือกับภาษาอังกฤษที่เราแสนจะไม่ชอบเลยตั้งแต่ไหนแต่ไรมาได้ยังไง ถึงตอนนี้ถ้าเราจะสอบไม่ติดเพราะถาษาอังกฤษเราได้คะแนนน้อยเราก็ไม่เสียใจแล้ว  เพราะเราดีใจมากที่เรากล้ามานั่่งฝึกภาษาอังกฤษได้   สิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราหาวิธีเรียนด้วยตัวเองได้ก็คนในห้องนี้แหละค่ะ  และตอนนี้เราก็กำลังเรียนตัวessential gramma in use เล่มสีส้ม(แดง)อยู่จ้า รื้อมันใหม่ให้หมด ถึงจะช้าก็ดีกว่าไม่เริ่ม ทริคการทำreading ของเราเหมือนด้านบนนคืออ่านคำถามก่อนค่ะ แล้วถ้ามีเวลาก็คัดบทความของVOAค่ะ วิธีนี้ก็มาจากผู้รู้ในห้องนี้แหละค่ะ ^_^ แต่ช่วงหลังที่เราเรียนตัวessential gramma in use เราก็จะแบ่งเวลาคัดบทความ ไปด้วยค่ะ  พยายามทำให้สม่ำเสมอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ^_^ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 07:50:28 แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 00:54:50 จากคุณ : 30เดซิเบล เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:49:14

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากๆนะคะที่แนะนำ หลากหลายความคิดทำให้เราฮึดอ่านไปเรื่อยๆ (เท่าที่ได้5555) คุณ 30เดซิเบล ใช้ยื่นคณะอะไรอ่าคะ เผื่อจะเป็นคณะเดียวกัน จากคุณ : Pinocchio_chii เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 18:51:51

ความคิดเห็นที่ 17 บัญชีค่ะ :-) จากคุณ : 30เดซิเบล เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 19:37:25

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่มีทางลัดในการเรียนภาษาอังกฤษหรอกค่ะ ฟังเราแนะนำ www.ted.com เลือกเรื่องที่เราสนใจมันมี scripts ให้ แต่ศัพท์อาจจะยาก แต่ถ้าไม่รู้คำไหนก็เปิด dict หรือถ้ามีไอโฟน โหลด ted มาไว้ใน podscast ก็ได้ค่ะ เวลาเดินทางว่างๆก็เปิดไว้เลย ฟังไม่ฟังว่าไปอย่างแต่ให้คุ้นสำเนียงเข้าไว้ อ่าน เราแนะนำว่า หา keywords ค่ะ วงคำที่สำคัญๆในคำถาม คำตอบแล้วเอาไปหาใน passage จะง่ายกว่าไม่งั้นต้องอ่านแล้วแปลหมด พอเจอก็ดูขึ้นไป 3 บรรทัด ลง 3 บรรทัด ค่ะ ศัพท์เป็นส่วนหนึ่งไม่รู้ศัพท์คำนั้นก็เดาจากบริบทรอบๆ แต่ถ้าประโยคหนึ่งไม่รู้เกิน 3 ตัว ไปท่องศัพท์จะดีกว่า จากคุณ : ล่องลอยในความฝัน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 11:26:39