ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมเหมือนสยามโดดเดี่ยวออกมายังไงไม่รู้แฮะ แต่ถ้ารวมสยามด้วยผมก็ว่าอิทธิพลสยามเนี่ยแหละเยอะสุด จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 15:35:57

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่า ไตสยาม ภาษา วัฒนธรรม แตกต่างกับกลุ่มใตอื่น มากที่สุดไม่ค่อยเข้าพวก อย่าง วังกษัตริย์ ใตอื่นๆเรียก ว่าหอคำ ส่วน สยาม เรียก วัง พระราชวัง สยามเรียก ทอง ใต อื่น เรียก คำ จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 15:54:40

ความคิดเห็นที่ 3 สยามมีความเป็นเขมรสูงและมีโอกาสติดต่อกับต่างประเทศทางทะเลอยู่มากค่ะ เลยแปลก ๆ ไปหน่อย สำหรับกระทู้ รอท่านอื่น ๆ มาตอบก่อนค่ะ น่าจะได้คำตอบที่ถูกต้องและละเอียดกว่าเดี๊ยน เดี๊ยนงง ตกลงผู้รู้ในนี้เขาจัดเชียงตุงเป็นเงี้ยวเหรอคะ นึกว่าเป็นลื้อ เห็นพูดกันหลายกระทู้แล้ว ยวนกับลาวนี่เห็นว่าประชากรเป็นลื้อก็เยอะพอสมควร โดยเฉพาะดินแดนยวนนี่ร้างบ่อย เหมือนเป็นลื้อแต่ใช้วัฒนธรรมยวน จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 16:17:16

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นแค่นักศึกษาที่สนใจเรื่องล้านนา และชาติพันธุ์ไท ข้อมูลอาจไม่เปะ ขอตอบประมาณนี้ค่ะ "อยากรู้เคยมีครั้งไหนที่กษัตริย์ในบรรดากลุ่มไท เหล่านี้เคยมีการรวบรวบชาวไท ทั้งหมดเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันหรือเปล่า" - ในสมัยพญาติโลกราช (ราวพ.ศ.๑๙๘๔ - ๒๐๓๐) อาณาจักรล้านนามีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด นอกจากด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม แล้วยังขยายอาณาเขตดังนี้ ด้านตะวันออก: สามารถยึดเมืองแพร่ และน่านได้ (ล้านนาจ้องสองเมืองนี้มานานมาก แต่เพิ่งมายึดสำเร็จในสมัยพญาติโลกราช) ด้านตะวันตก: ขยายไปถึงรัฐฉาน ได้เมืองไลคา เมืองนาย เมืองสีป้อ เมืองหยองห้วย เป็นต้น ด้านเหนือ: ตีได้เมืองเชียงรุ่ง ด้านใต้: ทำสงครามกับอยุธยา ทำให้พระบรมไตรโลกนาถ ต้องเสด็จมาครองเมืองพิษณุโลก เพื่อกันการขยายอำนาจของพญาติโลกราช แต่ก็น่าจะเป็นการรวบรวมได้ในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากอุปสรรคด้านภูมิประเทศ และการเมืองของล้านนาเอง ที่ภายหลังอำนาจจะตกอยู่ในมือขุนนาง ถึงขนาดว่าสามารถเปลี่ยนตัวกษัตริย์ตามที่กลุ่มของตนพอใจได้เลย อีกอย่างด้วยความเป็นเครือญาติกันด้วยมั้งคะ ที่คนไทกลุ่มต่างๆเหล่านี้ไม่ทำสงครามกันเองเท่าไหร่นัก คือ พอจะไว้วางใจได้ ล้านนาเองมักจะทำสงครามกับอยุธยา และพม่า เชียงตุง ไทใหญ่ก็แย่งชิงกับพม่า เชียงรุ่งเองติดจีน คงกระดิกลำบาก ส่วนหลวงพระบาง อันนี้ความรู้น้อยจริงๆ เลยไม่ทราบว่ายังไง *เผ่าไหนที่มีอิทธิพลด้านการเมือง สงคราม สูงที่สุด - คิดว่าเป็นไทยวน สมัยล้านนาค่ะ *เผ่าไหนที่ครอบครองอาณาเขตใหญ่ที่สุด - รอท่านอื่นดีกว่าค่ะ *กษัตริย์ที่ชำนาญด้านการศึกเเต่ละเผ่า คือองค์ไหนบ้าง - ไทยวน ก็ไม่พ้น พญามังราย และพญาติโลกราชค่ะ ส่วนกลุ่มอื่นๆ ไม่ทราบค่ะ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 18:00:23 จากคุณ : SadDog เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 17:59:15

ความคิดเห็นที่ 5 สงสัยคำว่า อาณาเขตใหญ่สุด นี่หมายถึงใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ใช่ไหมคะ เห็นล้านช้างกว้างมากนะ การดูว่าใหญ่สุดไหม แต่ละยุคมันไม่เหมือนกัน เหมือนเปรียบเทียบพระเจ้าอเล็กซานเดอร์กับเจงกีสข่าน คนละยุค คนละแดน ประชากรจะต่างกัน บางทีอาณาเขตกว้างก็จริง แต่ประชากรเบาบาง ประชากรเบาบางแปลว่าผู้ต่อต้านก็น้อยตามไปด้วย เดี๊ยนอาจจะใส่ปัจจัยมากเกินไป เขาไม่ทำกัน จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 19:50:54

ความคิดเห็นที่ 6 ไทยใหญ่แสนหวีมีเจ้าเสือข่านฟ้าก็ถือว่าเป็นกษัตริย์ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดเหมือนกันนะครับ นามซือคุนฟาโด่งดังไปถึงจีน ทรงรวบรวมไทเป็นปึกแผ่น ภายใต้อาณาจักรเมืองมาวหลวง พระองค์ครองราชย์ร่วมสมัยกับพญาเลอไทยของสุโขทัย จนถึงสมัยพระมหาธรรมราชาท่ ๑ ลิไท หรือในช่วงที่อาณาจักรกรุงศรีอยุธยาทางใต้เพิ่งจะเริ่มสถาปนาขึ้น และร่วมสมัยกับพญามังรายผู้สถาปนาล้านนาอีกด้วย และทรงครองราชย์ยาวนานมากถึงปีพ.ศ. ๑๙๐๗ ซึ่งล้านนาเองเข้าสู่ช่วงกลางของราชวงศ์มังรายแล้วด้วยซ้ำ ผลงานของพระองค์ที่ทรงสร้างไทใหญ่ให้เป็นปึกแผ่นได้แก่ การรวมเวียงจุงโก เมืองมีด และเมืองเชียงดาว ยองห้วย จำกา เมืองปาย และรวบรวมเมืองรอบๆ ขึ้นเป็นอาณาจักรมาวหลวง ทรงยกทัพรบกับจีนชนะข้าหลวงยูนนานได้เเมืองหย่งซาน หมูอาน ปูขวัน และยกทัพไปทางตะวันออกยึดเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา เชียงแสน เชียงราย เชียงตุง ว่ากันว่าสามารถยึดเอาลำพูน ลำปางไปได้ด้วย (แต่ไหงไม่มีเชียงใหม่) รวมไปถึงเมืองเวสาลี (อัสสัม) และยึดเมืองพม่าอย่างตะโก้ง (ย่างกุ้ง) สะแกง เป็นต้น อาณาจักรมาวหลวงมีอาณาเขตกว้างขวาง เหนือถึงจีนตอนใต้ ตะวันออกไปถึงบางส่วนของเวียดนามตอนเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้มาถึงตอนเหนือของไทยและตอนใต้ไปถึงพม่าที่ย่างกุ้ง ตะวันตกถึงอัสสัม เรียกได้ว่าทรงเป็นผู้ชนะสิบทิศตัวจริง เสียดายพอสิ้นสมัยพระองค์ไทใหญ่ก็แตกเป็นก๊กเหล่าอีก จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 19:52:51

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท. เราอ่านกระทู้ของคุณเป็นอันแรก เรื่อง คนไทอพยพไปทางใต้ ก็เข้าใจว่าดีจัง มีคนทางนั้นโพสท์เข้ามา อยากแลกเปลี่ยน และคิดว่าคุณต้องศึกษามาเยอะ เพราะน้อยคนจะรู้เรื่องนี้ แต่พออ่านกระทู้อื่นๆ ก็เลยชักไม่แน่ใจแว้ววว.. จายจายหน้อย คุณเอาเปรียบกันจัง ถามแต่ละคำถาม คุณรู้ไหมว่าเราใช้เวลากับหนังสือจนตาจะเหล่ อ่านหลายเล่มมากๆ และยังมีอีกที่ยังไม่ได้อ่าน พักสายตาก่อน เพราะเริ่มขับรถกลางคืนไม่ได้ดีเหมือนเดิม คห.6 ขอบคุณข้อมูล เรายังไม่ได้อ่านเรื่องไทใหญ่แบบลึก แต่ก็ช่วยในการต่อจิ๊กซอว์ได้บ้าง เราว่าไทใหญ่เข้ามาค้าขายในล้านนา ล้านนาก็กว้างมาก อาณาเขตแสนหวีมีชัดเจน น่าจะพรมแดนติดต่อกัน ไทใหญ่ไม่ได้มายึดเมือง ก็พยายามอยู่นะแต่ไม่สำเร็จ  เสี้ยมโอรสพญามังราย จนพญามังรายฆ่าทิ้งไปก็มี แต่พม่าเข้ามายึดได้ มีบันทึก จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 03:26:35

ความคิดเห็นที่ 8 วันหลังจะมาตอบ คืนนี้ง่วงมาก จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 03:28:12

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าไม่นับ ร1 ผมว่ากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เหนือคนไท คือขุนเจือง ครับ จากคุณ : วังเหนือ (วังเหนือ) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 09:41:48

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงคุณ กุหลาบแวร์ซาย ที่ผมตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนเก่งด้านประวัติศาตร์เท่าไหร่  เเต่มีความชอบ จากที่คุณพูดว่า   แต่พออ่านกระทู้อื่นๆ ก็เลยชักไม่แน่ใจแว้ววว.. จายจายหน้อย คุณเอาเปรียบกันจัง ถามแต่ละคำถาม คุณรู้ไหมว่าเราใช้เวลากับหนังสือจนตาจะเหล่ อ่านหลายเล่มมากๆ และยังมีอีกที่ยังไม่ได้อ่าน พักสายตาก่อน เพราะเริ่มขับรถกลางคืนไม่ได้ดีเหมือนเดิม บอกก่อนนะครับผมไม่ใช่คนไต จากรัฐฉานเลยนะ  เป็นคนอีสานไทลาวด้วยซ้ำ ส่วนชื่อ jaijainoi  ไม่ใฃ่ จายจายน้อย นะ จริงๆ คือไจ่ไจ๋น้อย เป็นชื่อกระต่ายตัวน้อยที่ผมเลี้ยง ผมว่าคุณคงไม่ต้องไปหาหนังสือมาอ่านหรอกครับ มันเป็นการลำบากคุณเองด้วย ผมเเค่ต้องการคนที่มีความรู้เดิมสะสม  มาถกกันเรื่องนี้ ความรู้ที่ผมมีด้านนี้ผมเริ่มศึกษาประวัติศาสตร์มาตั้งเเต่ ม.ต้น  เเละผมก็ไม่ได้ต้องการรู้ประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องเป็นจริงทุกกระเบียดนิ้ว  เพราะประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ ผู้ชนะเป็นคนเขียนซะส่วนมาก จริงๆที่ผมต้องการคือความรู้ที่ทุกคนมาเเสดงความเห็น ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันอยู่ที่วิจารณญาณของเเต่ละคน ส่วนความรู้ผมที่จะมาตั้งกระทู้ หรือคอมเม้นท์ใคร ส่วนใหญ่คนที่คอมเม้นท์ เขาก็รู้ไม่หมด รู้ประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดกันทั้งนั้นละครับ ถ้าต้องการให้คนเก่งๆรู้จริงๆมาตอบประวัติศาตร์ เเบบไม่มีผิดเพี้ยน  ห้องประวัติศาสตร์นี้คงเงียบเหงาไปเลยละครับ จากคุณ : jaijainoi เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 10:46:29

ความคิดเห็นที่ 11 ประวัติสมัยขุนเจืองมีอยู่จริงหรือครับ ประวัติศาสตร์สมัยนี้มันคล้ายกับนิทานปรัมปราเกินไป  เเล้วอาณาจักรอ้ายลาว หรือน่านเจ้า  ซึ่งประเทศจีนบอกว่าเป็นอาณาจักรของชาวไป๋ ไม่ไช่ชาวไท  ทำไมประวัติศาตร์ไทย ทำให้ประวัติศาสตร์ตัวเองคลุมเคลือ ให้เชื่อเอาเองว่า ไทมาจากไหน ซึ่งมีหลายทฤษฏี  ถ้านับเริ่มจากสูโขทัยผมว่ามันสั้นกุดเกินไป เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านข้างเคียงซึ่งมีประวัติศาสตร์เป็น 1000 กว่าปี หรือบางทีอาจจะอายตัวเองว่า บรรพษุรุษตัวเองมาจากลาว เลยรับไม่ได้ เพราะถ้าจะมาจากล้านนา ก็คงไม่ใช่ เพราะคนล้านนาอยุ่ในตระกูลไทใหญ่ จากคุณ : jaijainoi เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 11:37:21

ความคิดเห็นที่ 12 สิ่งที่เรากำลังบอกคุณมากกว่าคือ ที่เราอ่านหนังสือนั้น ใครว่าเราอ่านเพื่อมาตอบคุณ เวลามีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด โอหัง.. แต่เราศึกษามานานแล้ว เพื่องานของเราเอง และที่ตอบคุณก็เป็นคำตอบที่อยู่ในหัวอยู่แล้ว ถ้าต้องเขียนออกมาเป็นบทความหรือหนังสือ ต้องมีหนังสืออ้างอิงประกอบ เราน่าจะมีอายุมากกว่าแม่ของคุณได้ การถามนั้นก็ดี แต่คุณต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติมให้มากด้วย กว่าใครสักคนจะได้ความรู้มา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เราเคยเจออาจารย์ระดับเดินทางไปค้นคว้ามาเองจากถิ่นฐาน ท่านก็ไม่ได้สนใจจะให้ความรู้อะไรเรามาก เราไม่โกรธนะ เรารู้สึกว่าท่านให้เกิยรติมากกว่า ให้เกิยรติเราโดยต้องไปค้นคว้าด้วยตนเอง   ที่เราย้อนคุณไปเช่นนั้น ถ้าเราเป็นครู เราไม่ใช่คุณครูใจดีแน่นอน และจะเคี่ยวลูกสิษย์ให้เข้มเลย สร้างนัก ปวศ ขึ้นมาอีกคนจึงจะคุ้มค่า คุ้มเวลา คุ้มแรง ... แต่ดูคุณไม่มีสัมมาคารวะ และอวดดี อัตตาสูง สมควรแล้วที่เราได้ต่อว่า ตอนแรก แค่จะเหน็บเล่นๆเห็นเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็น.. ตอนนี้ไม่ประทับใจละ.. แว๊บบบบ.. จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 15:32:01

ความคิดเห็นที่ 13 ตกลงจะตอบ ความรู้ เพื่อความรู้ ของคนอื่นๆเปล่าครับ ผมไม่ใช่นัก ประวัติศาสตร์ ปรุง ดีใจจัง มีให้อ่านต่อแย้ว แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 21:00:29 จากคุณ : HeavenMoon เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 18:54:06

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องประวัติขุนเจือง (ท้าวฮุง) นั้นแม้ว่าดูเหมือนปรัมปรา แต่ก็ยังไม่มีนักประวัติศาสตร์คนไหนปฏิเสธว่าขุนเจืองไม่มีอยู่จริงนะ คุณจะหมายถึงตำนาน พญาพรหม (คนละคนกับขุนเจือง)หรือเปล่า? มีแต่เพียงมีบางคนเช่น อ.สุจิตต์ ที่ปฏิเสธว่า "พญาพรหม" อาจจะไม่มีอยู่จริง เพราะคิดว่าตำนานพญาพรหมนั้นเกิดทีหลัง โดยเอา ตำนานขุนเจืองเป็นต้นแบบ ปัจจุบันความเชื่อแบบตำนานนั้นเขาไม่คัดทิ้งนะครับ (ปล.ผมเป็นช่างคอมพ์ครับ) จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 19:46:07

ความคิดเห็นที่ 15 ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับจำไม่ได้ว่าอ่านเรื่องข้อสันนิษฐานของขุนเจืองมาจากไหน แต่จำได้ว่าอาณาจักรหนานเจาไม่ใช่ไทแน่ๆ แต่เป็นของชาวไป๋ ยิ่งตอนหลังเป็นต้าลี่แล้วยิ่งไม่ใช่ใหญ่ แต่ไม่แปลกที่จะมีคนไทอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ส่วนอาณาจักรอ้ายลาวหรืออ้ายหลาวที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับจีนตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่นโน้น คนฮั่นเรียกอ้ายลาวว่า ซีหนานยี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นพวกไทหรือเปล่า เพราะบันทึกก้อบอกว่ามีพวกอ้ายลาวจำนวนหนึ่งที่พูดภาษาโลโลในตระกูลธิเบต-พม่า ในขณะที่ภาษาของพวกเราเป็นพวกไตกะได (ผมเป็นนักกฎหมายนะคร๊าบ) จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 55 20:38:48

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท โทษทีถ้าโพสท์แรง เราไม่ใช่เยาวชน เคยเป็นมานานแล้ว ภาษาเราก็ตรงๆ แบบน้องๆ อ.ภาษาไทยละกัน ที่ว่าเอาเปรียบเพราะคำถามของคุณ ต้องอ่านหนังสือไม่ต่ำกว่า 16 เล่ม เป็นอย่างต่ำ แค่หัวข้อละ 4 เล่ม ถ้ามีหนังสือนะ แต่คุณแค่อ่านในพันทิปก็รู้เรื่องแล้ว ที่จริงเราไม่ได้อยากตอบ แต่เห็นความสนใจของคุณที่มีมากๆ ก็ยินดีแบ่งปันความรู้น้อยๆ หลายหัวข้อใช้เวลาค้นคว้าเป็นสิบยี่สิบปี.. ถ้าเราย้อนเวลาได้ เราจะกลับไปเรียนประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ให้แตกไปเลย.. จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 01:38:44

ความคิดเห็นที่ 17 ไททั้งมวลที่ว่ามา มีต้นกำเนิดเดียวกัน เรากำลังอ่านหนังสือของ ยอร์ช เซเดย์ ยังไม่จบ ก็เก็บข้อมูล ไม่ได้เชื่อในทันที อ่านไปอีกหลายๆเล่ม จนเหลือในหัว ข้อมูลนั้นน่าจะใกล้เคียงความจริงที่สุด ที่ไม่เชื่อในทันทีเพราะคนนอกจะเข้าใจเรื่องราวท้องถิ่นได้ดีเท่าคนท้องถิ่นหรือ เช่น ถ้าให้เราทำแกงไตปลา คงสู้ชาวใต้ทำไม่ได้ คงขาดๆเกินๆ หรือทำน้ำเงี้ยว ก็สู้คนล้านนาไม่ได้ ขาดๆเกินๆ เช่นกัน ปวศ ท้องถิ่น ต้องฟังคนท้องถิ่นด้วย ยิ่งเป็นคนท้องถิ่นจะรู้ดี แม้ไม่มีหลักฐานอะไรให้เห็นชัดเจน จึงต้องระวังเรื่องนี้ด้วย บางท่านเป็นอาจารย์เราก็มี แต่เราก็ฟังไว้เป็นคลังข้อมูล และที่สำคัญ ไม่อยากทะเลาะอาจารย์ เพราะ ปวศ ท้องถิ่นอาจเสียหายได้ ตามความเห็นเราว่า คนไทอยู่กระจัดกระจายในบริเวณที่เป็นประเทศจีน แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ตอนนั้นจีนยังไม่เป็นประเทศ มีสงครามอยู่แล้ว ก็อพยพ ตามกาละเวลา แต่คนไทมีลักษณะเด่นชัด คือ การทำนาข้าวเหนียว และ การทอผ้าฝ้าย ซึ่งปรากฎเห็นชัดทางตอนใต้ของจีน(เดิม) และเป็นหลักฐานหลงเหลือตกทอดให้เห็นจนทุกวันนี้ เคยอ่านพบว่า คนไทเป็นผู้สอนคนจีนทำนาและทอผ้า แต่ภายหลังคนจีนได้ทำนาข้าวเจ้าและทอผ้าไหม มีฝรั่งกล่าวไว้ว่า คนไทเป็นพี่ของคนจีน ชนชาติไท น่าจะยิ่งใหญ่มากมาแต่ 2000 ปีแล้ว ปัจจุบันยังมีภาษาที่คล้ายคลึงกัน ที่แสดงให้เห็นความเป็นไท แต่มีสิ่งหลงเหลืออีกประการคือ มีบันทึกว่า คนไทชอบทะเลาะกันเอง ถ้าไม่มีศึกสงคราม บ้างก็มีตำนาน ผู้นำส่งลูกชายออกไปปกครองตามดินแดนต่างๆ จนแยกเป็นไทต่างๆหรือเป็นลาว อ่านแล้วก็เก็บไว้ ไทใหญ่ ก็เป็นสายหนึ่ง มีเมืองแสนหวีเป็นนครหลวง เราอ่านผ่านยังไม่ได้เจาะลึก รู้ว่าเป็นชาตินักรบ เข้ามาอยู่ในล้านนาก็มาก และปัจจุบันกลายเป็นล้านนาเต็มตัว ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้นะ ไม่มีบันทึกว่าเคยเข้ามาปกครองล้านนาเชียงใหม่ แต่เข้ามาค้าขาย ทำงานป่าไม้ เป็นต้น ไม่ค่อยถูกกับเชียงใหม่ พยายามเป็นใส้ศึก ส่วนเชียงตุง แรกเริ่ม พญามังรายสร้างเมืองนี้หลังสร้างเชียงใหม่ เป็นเมืองพี่เมืองน้อง และส่งคนเชียงแสน(ไตโยน)ไปสร้างเมือง ไปเป็นพลเมือง และส่งโอรสไปปกครอง ปัจจุบันยังมีทายาทพญามังราย เพราะไม่เคยเปลี่ยนราชวงศ์ เป็นเจ้าฟ้านามสกุลขุนศึกเม็งราย แต่อยู่เชียงใหม่หมดแล้ว ภายหลังก็อนุญาตให้คนไตโยนเหล่านั้นกลับเชียงใหม่เชียงแสน แต่ก็ยังมีที่หลงเหลือบ้าง เช่นนี้คนไทใหญ่ซึ่งมีดินแดนติดต่อก็อพยพไปตั้งรกรากในเชียงตุง ตอนนี้จึงคล้ายเมืองคนไทใหญ่ไปแล้ว ที่เชียงตุงมีแม้น้ำเขิน จึงเรียกคนที่นั่นว่า คนเขินหรือขึน จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 02:14:41

ความคิดเห็นที่ 18 ไทโยนหรือไตโยน ยังเป็นที่สงสัยว่ามาจากใหน แต่คำว่าโยน น่าจะย่อมาจากคำว่าเมืองโยนกนาคพันธุ์ หรือเรียกว่า คนไทเมืองโยนกนาคพันธุ์ หรือ ไตโยน ก็น่าจะมาจากตอนใต้ของจีน มักจะเรียกคนล้านนาว่า ไตโยน ในบรรดาไตโยน ยังมีความแตกต่างกันบ้าง เช่น ผ้าซิ่นจะมีลายต่างกันนิดหน่อย พอให้รู้ท้องถิ่น เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าเป็นคนบ้านใหน เมืองเดิมของไทโยน ก็บริเวณเมืองโยนกนาคพันธุ์ หรือเมืองเชียงแสน มีพระเจ้าพรหมมหาราข อพยพคนไปอยู่แถวสุโขทัย กำเนิดสุโขทัย ต่อมาเกิดราชวงศ์เชียงรายของสายบิดาพญามังราย บริเวณใกล้เคียงกัน พญามังรายเป็นนักรบและชอบสร้างเมือง ก็สร้างหลายแห่ง เมืองสำคัญ คือ เชียงใหม่ แปลว่าเมืองใหม่ ขอมาต่อวันหลังนะคะ ง่วงมาก จากคุณ : กุหลาบแวร์ซาย เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 02:30:20

ความคิดเห็นที่ 19 ครับ จริงๆที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา จริงๆเเล้วมีผมมีคำตอบอยู่เเล้ว รู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ไท พอสมควร  เเต่ที่มาตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา คือ ผมต้องการรู้ว่าข้อมูลทีี่ผมรู้มามันเเม่นยำเเค่ไหน  เผื่อมีคนมาอื่นมาเเลกเปลี่ยนความรู้อื่น ที่ผมยังไม่รู้ มันอาจเป็นความรู้ใหม่ของผมด้วย จากคุณ : jaijainoi เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 07:57:49

ความคิดเห็นที่ 20 เรือ่งที่คนไทมาตั้งอาณาจักรสุโขทัย ผมขอเเสดงความคิดเห็นของผมบ้าง ถูกไม่ถูกไม่ว่ากันนะ   คือ อย่างที่ผมบอกสุโขทัย กลุ่มชนน่าจะเป็นกลุ่มไทน้อย เพราะว่า การเเยกกลุ่มกลุ่มไทน้อย ไทใหญ่ เค้าเเยกกันที่ เช่น ตัว พ.  ไทน้อยจะออกเสียง พอ  เเต่ไทใหญ่จะออกเสียง ปอ เช่นคำว่า พิณ จะออกเป็น ปิน   เพิ่น คำในภาษาอีสาน เมื่อเทียบเป็นคำเมือง จะพูดว่า เปิ้น หรือคำว่า ธง อีสานจะเรียกว่า ธุง  คำเมืองจะูพูดว่า ตุง อันนี้ผมไม่เเน่ใจอาจอพยพมาจากเชียงเเสนจริง  คนเชียงเเสนน่าจะเป็นคนไทยวน หรือไม่ก็อาจเเต่ก่อนเชียงเเสนอาจเป็นไทลาว  เเล้วมีเปลี่ยนอำนาจ หรืออพยพโยกย้ายไปมาระหว่างพื้นที่ สรุปที่ผมอยากรู้จริงๆ คือ ทำไมกลุ่มไทสี่เเคว้นนี้ ไม่พยายามรวมเป็นหนึ่ง หรือตอนมีสงครามจากพม่า หรือ จีน หรือสยาม ทำไมไม่ช่วยกันรบ เท่าทีรู้มา เหมือนกับตัวใครตัวมัน ไม่ใช่เรื่องของข้า ไปงั้น แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 08:19:49 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 08:12:36 จากคุณ : jaijainoi เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 08:10:30

ความคิดเห็นที่ 21 ทำไม 4 กลุ่มถึงไม่รวมกันสู้ กับ จีน/พม่า คือมีทั้งรวมและไม่รวมครับ ที่รวมกันต่อสู้ ก็ตอน3กษัตริย์ พ่อขุนมังราย พ่อขุนงำเมือง พ่อขุนราม ทำสัญญาร่วมมือกันต่อสู้ที่เชียงใหม่ครับ (ในขณะทีต่อมาสุโขทัยดำเนินนโยบายการทูต2ทาง ผูกมิตร จีน-เชียงใหม่ แต่นโยบายพ่อขุนมังรายนั้นชัดเจนคือยังไงก็สู้ ) หรือแม้กระทั่งการนำเอาเจ้าชายเมืองอื่นมาเป็นกษัตริย์ เช่น พระไชยเชษฐาของลาว หรือพระเมกุของไทยใหญ่มาเป็นกษัตริย์ ก็เป็นหลักฐานหนึ่งของการร่วมมือของแค้วนเหล่านี้ ........... ที่แค้วนเหล่านี้ไม่รวมก็มีครับ สาเหตุที่แคว้นเหล่านี้ไม่รวม เพราะภูมิประเทศ มันไม่ค่อยเอื้อกับการเดินทาง (ให้สังเกตุเถอะครับว่าที่เมืองไหนเดินทางหากันยากมักจะมีเรื่องเล่าระหว่างเดินทางอย่างอลังการ) ดังนั้นแต่ละเมืองจึงแยกกันอยู่เป็นกลุ่มหลวมๆแบบสหพันธรัฐ พอนานๆเข้าก็แยกกันไปมองเห็นประโยชน์ของรัฐตัวเองเป็นหลัก มากกว่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน ผมมองว่าที่ตอน ร3 ที่ล้านนาไม่ช่วยลาว บุกกรุงเทพก็เพราะเห็นประโยชน์ของกลุ่ม มากกว่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน จากคุณ : วังเหนือ (วังเหนือ) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:02:32

ความคิดเห็นที่ 22 "หรือแม้กระทั่งการนำเอาเจ้าชายเมืองอื่นมาเป็นกษัตริย์ เช่น พระไชยเชษฐาของลาว หรือพระเมกุของไทยใหญ่มาเป็นกษัตริย์ ก็เป็นหลักฐานหนึ่งของการร่วมมือของแค้วนเหล่านี้" . . . การเมืองในเชียงใหม่ยุคนั้นน่ากลัวมากเลยนะครับ ประมาณหนังพีเรียดเกาหลียุคราชวงศ์โชซอนอย่างงั้นเลย มีการแก่งแย่งชิงอำนาจกันอย่างมาก ทั้งราชวงศ์ ขุนนาง เจ้าเมือง บ้านเมืองแตกแยกระส่ำระสายหลังจากที่พระเจ้าติโลกราชสวรรคตแล้ว วิธีการแก้ปัญหาการเมืองของเชียงใหม่ยุคนั้นคือ การไปหาเอาเจ้าเชื้อสายราชวงศ์มังรายที่ไม่มีฐานอำนาจในเชียงใหม่มานั่งเมือง ไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์รวมแผ่นดินแต่อย่างใด แต่เพื่อหาคนกลางมายุติความขัดแย้ง ซึ่งกลับกลายเป็นการยิ่งทำให้บ้านเมืองแตกแยกหนักขึ้นไปอีก จากคุณ : RX-ALCHEMIST เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 18:17:00

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้ดีมาก ของห้องนี้ครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 15:49:35

ความคิดเห็นที่ 24 ชอบอ่าน ตามในเน็ต แต่ไม่รูเชื่อได้แค่ไหน เขาบอกบรรพบุรุษไทยคือ เย่ 100 เผ่า อันนี้คือที่ผมไปเจอมา จ้วงคือบรรพบุรุษของชนกลุ่มไต ชอบใส่ชุดดำเหมือนผู้ไท แต่ได้มีการแยกจากกันนาน ไตกลุ่มล่างรับวัฒนธรรมอินเดีย ส่วนจ้วงนับเป็นไตกลุ่มเดียวที่รับวัฒนธรรมจีน ทำให้ภาษาปัจจุบันต่างกันมาก (เพราะไทยเรารับ บาลี-สันสกฤต ส่วนจ้วงรับจีนจีนถิ่นตะวันตกเฉียงใต้) ประชากรปัจจุบันประมาณ 18 ล้านคน ปัจจุบันจ้วงอยู่ที่เเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งอยู่ในประเทศจีนเช่นเดียวกับไทยลื้อ (เมืองเชียงรุ้งม เขตปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา,มณฑลยูนนาน) ตามตำนานแล้วบรรพบุรุษไทยคนจีนจะเรียกว่าเย่ว์ร้อยเผ่า(ชนเผ่าทางใต้) บรรพชนของคนไทยอาศัยอยู่ใน 3 มณฑล คือ กวางสี กวางตุ้ง และยูนนาน และเพลงภาษาจ้วง จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 16:00:26

ความคิดเห็นที่ 25 ใครแปลออก แปลให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 55 16:01:38