เริ่มเล่าตั้งแต่การเตรียมตัวเลยก็แล้วกัน วันที่ 23 พ.ย. ได้รับอีเมล์จากผู้ประสานงานราชสกุลทุกมหาสาขาที่กรุณาส่งรายละเอียดการเข้าเฝ้าฯและหมายกำหนดการมาให้ พร้อมวิธีการส่งรายชื่อไปขอบัตรเชิญ เมื่อแน่ใจว่ามีงานแน่นอน เราก็ทำตามวิธีการที่ทำมานานหลายสิบปีคือ โทรไปจองโรงแรมใกล้สถานที่จัดงานมากที่สุด เพื่อที่จะได้ไปพักวันก่อนวันงานหนึ่งวัน จะได้เดินไปงานได้ ไม่ต้องลำบากขับรถฝ่าฝูงชนท่ามกลางการปิดการจราจร
จากนั้นก็จัดเตรียมชุดไทยที่จะใส่ไปเข้าเฝ้าฯ คือ ชุดไทยอมรินทร์หรือชุดไทยบรมพิมาน สำหรับคนอ้วนอย่างเรา ก็ต้องอมรินทร์เท่านั้น ชุดไทยอมรินทร์นี้คล้ายชุดไทยจิตรลดา คือ แขนกระบอกยาวถึงข้อมือ ติดกระดุมห้าเม็ด คอตั้ง ไม่คาดเข็ดขัด แต่ผ้านุ่งต้องหรูกว่าแบบไทยจิตรลดาคือยกดิ้นทองดิ้นเงิน จริงๆแล้วชุดแบบนี้ใช้ในงานพิธีกลางคืนยกเว้นพระราชพิธีที่มีการสวนสนาม ซึ่งการเสด็จออกสีหบัญชรนี้มีการสวนสนามและถวายสัตย์ของทหารรักษาพระองค์ด้วย จึงเข้าข่าย
เมื่อได้ส่งรายชื่อไปที่เจ้าภาพจัดงานคือรัฐบาลผ่านสำนักนายกฯแล้ว ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง ผู้ประสานงานกรุณาโทรมาวันที่ 3 ธ.ค.เพื่อแจ้งให้ไปรับบัตรเชิญที่ออกโดยสำนักนายกฯได้แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวก สถานที่รับบัตรเปลี่ยนจากสำนักนายกฯเป็นสำนักพระราชวังในวังหลวงแทน
(มีต่อ จะมาเขียนอีกทีราวสี่ห้าทุ่มนะคะ)
จากคุณ |
:
ลดาดาว
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 17:04:52
|
|
|
|