|  | 
เราอ่าน คคห 16 ที่บอกว่า
 จริงๆ มันก็ไม่แปลกนะ แล้วก็ไม่ควรถูกด่าด้วย
 
 ปัญหาคือ "ทำไมคนไทยต้องเก่งอังกฤษ" ด้วยล่ะ ในเมื่อ...
 
 ...(แล้วมาสรุปว่า)...
 
 "ไทยก็เหมือน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี นั่นแหละ แต่ต่างกันที่ประเทศเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องเรียนเลยก็รุ่งได้"
 ^
 ตรงนี้นั่นแหละที่ทำให้เราหวนคิดประเด็นหนึ่งที่เราขบคิดมาหลายปีแล้ว นั่นก็คือทำไมเด็กฝรั่งที่ไม่เรียนหนังสือในโรงเรียนหรือมหาลัย ไม่มีทั้งวุฒิมัธยมหรือวุฒิปริญญาหลายๆคนกลายเป็นอัฉริยะได้...!!!??? ในขณะที่คนไทยที่เรียนจบแค่ ป.4 ก็ประสบความสำเร็จร่ำรวยได้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่รวยเพราะคิดอะไรปราดเปรื่องแบบฝรั่งวุฒิต่ำๆแต่เป็นอัฉริยะ หากแต่คนไทยจบ ป.4 รวยได้เพราะรู้วิธีฮั๊วงานเวลาจัดซื้อจัดจ้าง รู้วิธีล็อคสเป็กคงาน รู้วิธียัดเงินใต้โต๊ะเพื่อทำอะไรที่คนอื่นทำไม่ได้ (เช่นเปิดบ่อนการพนัน) รู้ว่าทางการจะตัดถนนตรงไหนก็ไปซื้อที่ดินเก็งกำไรไว้ รู้ว่าบ้านเมืองตรงไหนมีทำเลทองที่จะไปตั้งของขายได้กำไรวันละหลายหมื่นบาทได้โดยไม่โดนมาเฟียหรือเทศกิจไล่ (ที่ ถ. เยาวราชมีอาหมวยคนหนึ่งขี่รถเบ็นซ์มาขายบะหมี่ข้างทาง!)
 
 แล้วตอนนี้เราได้คำตอบแล้วหละ!
 Thomas Edison เรียนหนังสือที่โรงเรียนครูบอกสมองเขาสับสน แม่เลยให้ลูกเลิกเรียนหนังสือที่โรงเรียน แม่สอนเองที่บ้านโดยที่แม่หาหนังสือให้ Thomas อ่านเอง อ่านๆไปลูกกลายเป็นอัฉริยะได้
 ^
 ทำได้ไง? คำตอบก็คือว่าเป็นเวลาหลายศตวรรษมาแล้วศาสตร์ต่างๆที่เป็นความรู้ลึกๆด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอื่นๆอีกหลายสาขาถูกบันทึกลงเป็น "ภาษาอังกฤษ"
 
 และสิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือว่า เราอ่านหนังสือภาษาจีนกับภาษาญี่ปุ่นที่เก่ามากถึง 200-300 ปีที่แปลเป็นอังกฤษ แล้วตกใจมากๆทึ่งมากๆกับความเป็นนักคิดระดับอัฉริยะของชาวจีนกับชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน ซึ่งฝรั่งชื่อ Dr. Joseph Needham ซึ่งเป็น Professor ด้านจีนศึกษาของ University of Cambridge ค้นพบว่าจีนเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และอารยธรรมมานานแล้ว แต่ขบคิดปริศนาว่า "ทำไมจีนซึ่งมีความรู้ศาสตร์ต่างๆล้ำลึกเหลือเกินจึงไม่เป็นชาติมหาอำนาจไปตั้งนานแล้ว" ก็เลยลงทุนเดินทางไปศึกษาเรื่องพวกนี้ที่ประเทศจีน แล้วนำความรู้มา compile เป็นหนังสือยาวมากๆ ซึ่งมีชื่อว่า Science and Civilisation in China
 
 เราอ่าน Science and Civilisation in China แล้วเรียนรู้ว่า
 
 "คนจีนคิดค้นศาสตร์ชั้นสูงต่างๆตั้งมากมายมาได้ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีมาแล้ว และคิดว่าคนไทยไม่เคยคิดอะไรยากๆและหลักแหลมได้มากมายเช่นนั้นมาก่อนเลย!"
 
 ^
 "นั่นก็หมายความว่าคนจีนไม่เรียนมหาลัยแล้วอ่านแต่ภาษาจีนให้เยอะมากๆ อาจเก่งระดับ Thomas Edison ที่ไม่เรียนมหาลัยแล้วอ่านภาษาอังกฤษให้เยอะมากๆได้เช่นกัน"
 
 แต่คนไทยต่อให้เรียนจบมหาลัยระดับสูงๆแต่ถ้าอ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ได้แต่อ่านภาษาไทย จะเก่งรอบรู้แบบ Thomas Edison, Bill Gates หรือ Steve Jobs ที่ไม่จบปริญญา มันเป็นไปแทบจะไม่ได้เลย (เว้นเสียแต่จะมีเทวดามาดลใจให้เรียนรู้อะไรได้เอง)
 
 ดังนั้น กระบวนการใช้เหตุผลของเราหักล้างข้อความที่ คคห 16 ด่วนสรุปว่า
 
 "ไทยก็เหมือน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี นั่นแหละ แต่ต่างกันที่ประเทศเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องเรียนเลยก็รุ่งได้"
 
 ^
 คำว่า "ไม่จำเป็นต้องเรียน" ตามบริบทคุณหมายถึง "ไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาอังกฤษ" นะ
 เมื่อคุณพูดเช่นนี้นะ เราขอบอกได้เลยว่า "มันไม่เหมือนกันหรอก"  แต่จริงๆแล้ว "มันต่างกันลิบลับเลย"
 ^
 เรื่องเกาหลีเราไม่รู้ แต่จีนกับญี่ปุ่นมีแหล่งขุมทรัพย์ของความรู้ในศาสตร์ต่างๆบันทึกไว้เป็นภาษาจีนกับภาษาญี่ปุ่นมากพอที่จะพัฒนาประเทศพวกเขาได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอาศัยภาษาอังกฤษ ในขณะที่ไทยไม่มีขุมทรัพย์ทางปัญญามากขนาดนั้่นบันทึกไว้เป็นภาษาไทย
 
 สรุป
 หากประเทศไทยต้องการพัฒนาด้าน Science and Civilisation ให้ทันจีนกับญี่ปุ่นนะ ต่อให้ไทยพัฒนาไปอีก 100 ปีก็ตามพวกเขาไม่ทันหรอก ถ้าไม่รู้ภาษาอังกฤษ!
 
 *****ในขณะนี้ความรู้ภาษาอังกฤษจะช่วยให้คนไทยเข้าถึงขุมทรัพย์ทางปัญญาได้ง่ายๆ*****
 
 ดังนั้นความรู้ภาษาอังกฤษจึงจำเป็นมากๆสำหรับการพัฒนาประเทศไทย!
 แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 55 02:42:55
 แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 55 02:07:06
				 
				 
				
					| จากคุณ | : 
fortuneteller       |  
					| เขียนเมื่อ | : 
8 ธ.ค. 55 01:58:17   |  
					|  |  |  |  |