|
เริ่มอ่านข่าวก่อนครับ เพราะเริ่มง่ายที่สุด ผมอ่าน Bangkok Post (และมารู้ทีหลังว่าคำศัพท์จะง่ายๆ ประโยคไม่ซับซ้อน เหมาะแก่การเริ่มต้นอย่างยิ่ง) จากนั้นก็อ่าน Reuters, The Economists, TIME Magazine (สองอันหลังนี่ค่อนข้างยากหน่อยสำหรับคนพึ่งเริ่ม) แล้วก็เริ่มอ่านหนังสือฝรั่งจริงๆ จังๆ (บางเล่มก็อ่านง่ายมาก บางเล่มก็อ่านยากโพด - ในแง่การใช้ภาษานะ)
ในระหว่างที่อ่าน (ไม่ว่าอ่านอะไร) เมื่อเจอคำศัพท์ไม่รู้จะเปิดดิค (อังกฤษ-อังกฤษ) ทุกคำ คำไหนที่ไม่ใช่ technical ก็จะจดเอาไว้ เพื่อนำมาทบทวนทีหลัง วิธีการทบทวนของผมก็คือ จดคำศัพท์ไว้ฟากหนึ่ง และ จดความหมาย (ภาษาอังกฤษ) เอาไว้อีกฟาก แล้ววันหนึ่งๆ ก่อนจะเริ่มอ่าน (ข่าว/หนังสือ) ก็จะทบทวนก่อนรอบแรก ในรอบแรกจะทบทวนคำศัพท์แล้วนึกคำแปล (ไม่ใช่อ่านคำแปล) แล้วหลังจากอ่านจบ ก็จะทบทวนรอบสอง จะทบทวนคำหมายแล้วนึกคำศัพท์เอา คำไหนที่ลืม นึกไม่ออก ก็จะมาร์คไว้ เพื่อย้ำให้วันต่อๆ ไปสนใจเป็นพิเศษ (มีรายละเอียดเกี่ยวกับทริคการท่องเยอะกว่านั้น แต่อันนั้นผมว่าต้องลองทำแล้วมันจะรู้เองว่าปัญหาเราคืออะไรแล้วจะพัฒนาทริคยังไง)
แต่ปัญหาคือ ในตอนแรกเริ่มมันจะมีคำศัพท์เยอะมากที่ไม่รู้ แล้วต้องจดเยอะมาก ตอนนั้นก็บ้าทบทวนมันทุกคำแหละ เลยใช้เวลานานมาก และวันๆ หนึ่งก็อ่านได้น้อย แต่ตอนนี้มาคิดได้ว่าจริงๆ ตอนนั้นอาจจะควรต้องเลือกหน่อย คำไหนคิดว่าไม่น่าเจอบ่อยก็ตัดออก ให้เหลืออย่างมากสิบกว่าคำต่อวันพอ (แต่ตัดสินยังไงว่าคำไหนสำคัญไม่สำคัญอันนี้ไม่แน่ใจแฮะ - ฮา) อีกอย่างคือพออ่านไปหลายๆ วันคำศัพท์ก็จะเริ่มสะสม ก็จะต้องมีวัน cut-off ตอนนั้นผมจะสะสมแค่ 3 สัปดาห์น่ะ (ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคำศัพท์ในอดีตก็วนกลับมาใหม่พออ่านไปเรื่อยๆ - ตอนนั้นก็จะรู้ว่าเราลืมไปแล้วหรือยังจำได้)
แต่จริงๆ ผมคิดว่าน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ เพราะว่าวิธีนี้ผมว่าประสิทธิภาพต่ำ ผมคิดว่าควรจะหาวิธีที่ท่องไม่มากเกินไป แต่ใช้วิธีอ่านเยอะๆ แล้วไปจำเอาตอนอ่านแล้วเจอคำศัพท์นั้นๆ ปรากฏอยู่บ่อยๆ จะจำได้ดีกว่า (อย่างวิธีตัดคำศัพท์ให้ทบทวนแต่ละวันน้อยๆ ลง และให้เวลากับการอ่านเยอะๆ น่าจะดีกว่า - แต่เปิดดิคทุกคำนี่ในระดับเริ่มต้นก็ยังแนะนำนะ เพราะคุณยังเดาศัพท์ไม่ได้หรอก) อีกอย่างนึงวิธีท่องด้วนๆ แบบนี้ไม่ใช่การทำงานของสมองของเรา สมองเราจำเหตุการณ์โดยใช้ Association คือ relate อย่างหนึ่งกับอีกอย่างหนึ่ง ยิ่ง relate ได้เยอะยิ่งจำได้ดี ถ้าเราใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้น่าจะดีกว่า ผมยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำยังไง แต่วิธีนึงน่าจะเป็น group คำศัพท์เอาไว้ อันไหนความหมายใกล้ๆ เคียงกันก็จับไว้ด้วยกัน (ถ้าใช้ excel น่าจะ copy/paste/cut อะไรได้ง่าย ก็น่าจะทำแบบนั้นได้)
เรื่องการเขียน แต่ก่อนไม่ได้ฝึกเองอะครับ เพราะมันต้องมี feedback เพราะงั้นใช้ฝึกตอนเรียนวิชาภาษาอังกฤษในโรงเรียนเอา แต่จริงๆ พออ่านเยอะๆ กับเรียนรู้แกรมม่าอีกหน่อยมันก็พอช่วยได้อะนะ แล้วก็ไป post comment ตามท้ายข่าวหรือ forum บ่อยๆ เพื่อฝึกความคล่องแคล่ว (แต่เรื่องความถูกต้องนี่อาจจะไม่ช่วยมาก) (ผมว่าการ post ท้ายข่าวดีอย่างหนึ่งคือเป็นที่ที่เราสามารถใช้ภาษาเขียนได้อย่างไม่เคอะเขิน อย่าง forum นี่แต่ละคนจะใช้ภาษาพูด ไม่เป็นทางการซะส่วนใหญ่ ถ้าเราไปโพสเหมือนจะเขียน essay มันจะแปลกๆ น่ะครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูเนื้อหาหลักของ forum นั้นๆ ด้วยอะนะ)
ส่วนเรื่องการฟัง...ตอนนี้มีเว็บสำหรับฝึกฟังมากมาย (จริงๆ คงมีมานานแล้ว) และช่วงสิบปีหลังมานี้อินเตอร์เน็ตก็เร็วขึ้นมากจนการฟังและโหลดอออิโอจากอินเตอร์เน็ตไม่เป็นอุปสรรค ผมว่าควรจะเริ่มจากตรงนั้นก่อน เพราะฟังไม่ยากมาก เว็บสำหรับคนพึ่งเริ่มฝึกก็มี VOA, BBC น่ะครับ จากนั้นพอโอเคระดับหนึ่งก็กระโดดไปดูฝรั่ง (ภาษาอังกฤษ ซับอังกฤษ) แต่จริงๆ การฟังกับพูดควรจะฝึกด้วยกัน ถ้าฝึกได้กับคนเป็นๆ ยิ่งดี สมัยผมเด็กๆ นี่ โชคดีที่โรงเรียนมีอาจารย์ฝรั่ง แต่ถ้าหาไม่ได้ ที่ใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะดูหนังฝรั่งนั่นแล
ปล. เรื่องการอ่านนี่ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เรียกว่าวันหยุด ปิดเทอม แทบไม่ต้องทำอะไร ตื่นเช้ามา จนสี่ห้าทุ่มก็แบบเนี้ยทั้งวัน ทำทุกวันเป็นเวลา ๑-๒ ปี แล้วถึงจะเริ่มทิ้งวิธี Labour แบบนี้ได้
จากคุณ |
:
ขุนพลวรมันต์
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 10:55:46
|
|
|
|
|