ไม่เห็นด้วยเรื่องหมั่นไส้ค่ะ คือภาษาไทยก็มีวิธีการออกเสียงของตัวเองอยู่ ถ้าคุยกันกับคนไทย ไม่จำเป็นจะต้องมีแอคเซนส์เป็นภาษาอังกฤษจริง ๆ นะ ถ้าเราใช้คำปนกัน มันก็จะเป็นเสียงสเตรสโผล่ออกมา ไม่ใช่อินโทเนชัน (ที่หมายถึงการไปด้วยกันทั้งประโยค เพราะเราไม่ได้ใช้ทั้งประโยค)
มันเป็นเรื่องของกาลเทศะและธรรมชาติของภาษา (คำยืม) ค่ะ ไม่เกี่ยวกับการทำภาษาวิบัติด้วย อันนี้ดูอย่างจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เป็นแนวทางได้ เหมือนเราเขียนประโยคว่า ฉันแคร์เธอนะ เราก็จะเขียนว่า แคร์ ไม่เขียนเป็น ฉัน care เธอนะ
นึกถึงการ์ตูนล้อเลียนในเฟซ บางคนดัดจริตออกเสียงศัพท์เหมือน แต่ให้พูดจริง ๆ ไม่เป็นโล้เป็นพาย หากเทียบกับคนที่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเมื่อไหร่ (อาจเป็นกรณีเดียวกับที่ในคลิปบอกว่าเป็นพวกหัวไบรท์)
แต่ถ้าต้องทำอะไรที่เป็นทางการด้วยภาษาอังกฤษ เช่นสมมุติการพรีเซนท์หน้าห้อง อันนี้ยิ่งเหมือนฝรั่งยิ่งดี แม้การออกเสียงคำศัพท์จะไม่ถูกต้องหมดทุกคำ
แต่เดี๊ยนสงสัยว่า การพูดคุยกับการอ่านตำราได้นี่มันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร การฝึกฝนและนำไปใช้น่าจะต่างกันด้วยนะคะ
หนังสือสอนภาษาบางเล่ม เป็นกรณีศึกษา ซึ่งเราศึกษาผ่านหูผ่านตาเฉย ๆ แต่อาจไม่เคยพบมาก่อนเลยในชีวิต คือมันไม่ใช่มาสเตอร์ คีย์ เป็นแค่คีย์เฉย ๆ น่ะค่ะ
สำหรับเรื่องพ่อแม่จำเป็นต้องพูดไหม จริง ๆ ก็ไม่จำเป็นค่ะ ทุกอย่างมันเริ่มต้นกันได้
เรื่องท่อง เดี๊ยนอยู่ฝ่ายสนับสนุนการท่องค่ะ ซึ่งต่างจากทุกท่านในโต๊ะห้องสมุดนี้ที่เก่งภาษาอังกฤษ เดี๊ยนถือว่าจำได้บ้างดีกว่าจำอะไรไม่ได้เลย เพราะเราก็จะค่อย ๆ ปรับเข้าหาความหมายที่ถูกต้องได้ (จำเพิ่ม)
ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความคิดเห็นของคนอ่อนภาษาอังกฤษอย่างเดี๊ยนนะคะ
จากคุณ |
:
อวัยวะชิ้นนั้น
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 55 16:16:18
|
|
|
|