| 
						
							|  นักวิชาการเกาหลีชี้พบอักษรเกาหลีบนเงินจีนโบราณ เก่าถึง 3,600 ปี จีนศอกกลับ |       |  
นักวิชาการเกาหลีชี้พบอักษรเกาหลีบนเงินจีนโบราณ เก่าถึง 3,600 ปี จีนศอกกลับ
 นักวิชาการชาวเกาหลีอ้างการค้นพบเงินจีนโบราณที่สลักตัวอักษรสองตัวคล้ายอักษรเกาหลี เพียงเพราะเห็นว่าตัวอักษรดังกล่าวไม่เหมือนอักษรจีน พร้อมชี้ว่านี่คือหลักฐานยืนยันตัวอักษรเกาหลีเมื่อ 3,600 ปี ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนโต้ แค่เรื่องไร้สาระ
 สำนักข่าวยอนแฮปของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าดร.ลี ชัน คู ผู้เชี่ยวชาญสถาบันวิจัยตำราอี้จิงแห่งประเทศเกาหลีใต้ เผยว่า บนเงินมีดปลายแหลมที่ใช้ในสมัยโบราณของจีน มีตัวอักษรสองตัวที่ไม่เหมือนอักษรจีน ดังนั้น จึงน่าจะเป็นอักษรเกาหลี อักษรตัวหนึ่งมีความหมายว่า เงิน
 ดร.ลี กล่าวว่า "เขาได้สืบค้นจากหนังสือเล่มสำคัญเกี่ยวกับเงินโบราณของจีน ที่มีบันทึกเกี่ยวกับตัวอักษรเกาหลีที่แกะสลักบนมีดปลายแหลม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเงินจีนโบราณเหล่านี้ก็ไม่รู้จักอักษรเกาหลีสองตัวนี้ และได้บันทึกให้เป็น ตัวอักษรที่ไม่รู้จัก หากไม่ใช่ตัวอักษรจีน ก็น่าจะถือว่าเป็นตัวอักษรเกาหลี"
 ดร.ลี อนุมานว่า เงินมีดปลายแหลมที่แกะสลักตัวอักษรเกาหลีสองตัวนี้ น่าจะถูกหลอมขึ้นในอาณาจักรกูจู๋ ซึ่งเป็นรัฐศักดินาปกครองโดยผู้ปกครองเกาหลี และชาวกูจู๋เป็นชนชาติที่เคยอาศัยอยู่ในแถบคาบสมุทรเกาหลี
 นอกจากนี้ บันทึกประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์โครยอ ระบุไว้ว่า ตัวอักษรเกาหลีมีการใช้ครั้งแรกในอาณาจักรกูจู๋เมื่อกว่า 3,000 ปีก่อน และอาณาจักโกคูรยอ สืบทอดเชื้อสายมาจากอาณาจักรกูจู๋
 ฝั่งนักวิชาการจีน ศ.สือ หยวนหวา อาจารย์มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น แย้งว่า ข้อคิดเห็นนี้ขัดแย้งอย่างถนัดจากประวัติศาสตร์ตัวอักษรของประเทศเกาหลี ฉบับที่ได้รับการรับรองในปัจจุบัน  ตัวอักษรที่ประเทศเกาหลีใช้กันในปัจจุบันถูกคิดค้นขึ้นในสมัยพระเจ้าเซจงเมื่อประมาณ 500 ปีที่แล้ว ก่อนหน้าสมัยพระองค์ ภาษาราชการใช้แต่เพียงอักษรจีนเท่านั้น มีแต่การออกเสียงที่แตกต่างจากภาษาจีน แม้แต่ในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ของเกาหลีเองก็ระบุไว้เช่นนี้
 ขณะเดียวกัน นายซ่ง เจิ้นหาว หัวหน้าสำนักวิจัยประวัติศาสตร์ สถาบันสังคมศาสตร์แห่งประเทศจีน และยังผู้เชี่ยวชาญตัวอักษรจีนโบราณ 'จย๋ากู่' (甲骨文) ก่อนยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ เห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก ตัวอักษรที่อยู่บนเงินนั้น ไม่สามารถเป็นอักษรเกาหลีไปได้ แค่ยุคสมัยก็ไม่ตรงกันแล้ว เนื่องจากเงินปลายมีดชนิดนี้เป็นเงินยุคชุนชิว (770 ก่อนค.ศ.) เมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อน แต่ที่นักวิชาการชาวเกาหลีกลับระบุยุคสมัยของเงินปลายมีดนี้เป็นต้นยุคซาง (1,600 - 1,046 ปีก่อนคริสตกาล) หรือเมื่อราว 3,600 ปีที่ผ่านมา
 ทั้งนี้ จีนและเกาหลีมีข้อโต้แย้งกันด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรม หลายเรื่องด้วยกัน อาทิ เทศกาลตวนอู่ (หรือเทศกาลไหว้บะจ่าง) การแพทย์แผนจีน หมากรุก และสัญชาติของจูหยวนจาง โดยต่างฝ่ายอ้างว่าตนเป็นแหล่งต้นกำเนิดฯ
 ท้ายสุด ศ.สือ หยวนหวา และนายซ่ง เจิ้นหาว เห็นตรงกันว่า นักวิชาการเกาหลีผู้นี้คงไม่เข้าใจรายละเอียดประวัติศาสตร์ที่ดีพอ พร้อมเสนอแนะว่า ทางที่ดีที่สุดคืออย่าไปสนใจกับนักวิชาการเหล่านี้ ถ้าหากให้ความสนใจมากเกินไป อาจกลับทำให้ข้อสันนิษฐานดังกล่าวนี้ เกาะกระแสดัง ขึ้นมาได้
 
 จากเเมเนเจอร์ค่ะ
 
						 
						
							| จากคุณ | : 
นพนภา   |  
							| เขียนเมื่อ | : 
15 ธ.ค. 55 19:19:13   |  
							|  |  |  
 |