Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฮ่องเต้เจ้าสำราญ (๒) vote ติดต่อทีมงาน

ฮ่องเต้ในพงศาวดารจีน

ฮ่องเต้เจ้าสำราญ

ตอนที่ ๒ นารีมีรูปเป็นทุกข์                                                                            

                         “เจียวต้าย”


ฮ่องเต้ ก็ชวนจิวหยงเที่ยวไปในตำบลอื่น จนถึงเมืองเอียงจิวฮู ชมเขาและป่าสนุกสนาน เวลาจวนค่ำไม่มีโรงเตี๊ยมจะพักอาศัย ฮ่องเต้จึงถามจิวหยงว่า ทางนี้ก็เป็นทางใหญ่เหตุใดคนเดินไปมาจึงน้อย โรงขายสุราและโรงเตี๊ยมก็ไม่มีเราหิวโหยนัก

จิวหยงทูลว่า แข็งพระทัยไปอีกหน่อยเถิดก็จะพบบ้านจึงคิดอ่านต่อไป ฮ่องเต้กับจิวหยงเดินไปถึงท้ายเขาเห็นบ้านเรือนเป็นอันมากก็ดีใจ เที่ยวสืบหาโรงเตี๊ยมไม่มีก็เดินต่อไปอีกที่ตำบลหนึ่ง มีคลองน้ำไหล มีสะพานข้ามคลองทำด้วยศิลา ฟากคลองข้างหนึ่งมีต้นสนเป็นแถวดูงดงามนัก ฟากคลองอีกข้างหนึ่งมีเก๋งน้อย ปลูกกอไผ่ล้อมรอบ หน้าเก๋งมีโต๊ะและเก้าอี้หิน

ฮ่องเต้ก็หิวอ่อนสิ้นกำลังหยุดพักอยู่หน้าเก๋ง ตรัสปรึกษาจิวหยงว่า ทำอย่างไรจึงจะได้อาหารและที่พัก จิวหยงกราบทูลว่า ฟากข้างโน้นมีบ้านใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ถ้าเข้าไปขออาศัยก็พอจะมีความสุข ฮ่องเต้ก็พอพระทัยชวนจิวหยงเดินข้ามสะพานไปถึงบ้านใหญ่ที่เห็นนั้น

มีชายแก่คนหนึ่งเดินออกมาฮ่องเต้ก็ถามว่าตำบลนี้ทำไมไม่มีโรงเตี๊ยม ชายแก่คนนั้นบอกว่าทุกวันมาก็มีโรงขายสุราและโรงเตี๊ยม แต่วันนี้ไม่มีใครขาย ฮ่องเต้ถามว่าเหตุผลมีอย่างไร ชายแก่ตอบว่าข้าพเจ้าบอกท่านไม่ได้

พระเจ้าเจงเต็กทรงฟังก็สงสัยจึงตรัสว่า

".....เรามาแต่ทางไกลไม่มีเตี๊ยมจะพัก ขอสำนักอยู่สักคืนหนึ่งเถิด ท่านจงสงเคราะห์บอกแก่ท่านเจ้าของบ้านให้ทราบด้วย....."

ชายแก่จึงว่า แต่ก่อนลูกค้าและคนเดินทางไปมาก็เคยพักอาศัย แต่วันนี้นายข้าพเจ้ามีความทุกข์ร้อน ท่านจงไปสำนักที่แห่งอื่นเถิด

แม้จะได้รับคำปฏิเสธไม่ให้พักอาศัยในคืนนี้ แต่ฮ่องเต้ก็ยังไม่หมดความพยายาม  โดยรับว่าจะช่วยแก้ทุกข์ให้ ชายแก่ใจอ่อนจึงเข้าไปบอกเจ้าของบ้าน แล้วพาออกมาที่หน้าบ้าน เมื่อเห็นผู้ที่จะมาขอพักอาศัย ต่างคนก็คำนับกันแล้วเชิญเข้าไปที่หอกลาง สั่งให้คนใช้จัดน้ำชาอย่างดีมาเลี้ยง

ฮ่องเต้ได้เสวย น้ำชาค่อยสบายมีกำลังขึ้น เจ้าของบ้านถามชื่อแซ่ ฮ่องเต้ก็บอกว่าชื่อ อึงหลุน เป็นชาวเมืองหลวงมากับหลานชายชื่อ อึงอิ๋น จะไปหาเพื่อน แต่ไม่มีที่พักอาศัย ขอจงเมตตาให้พักสักคืนหนึ่ง เวลาเช้าก็จะลาไป และถามชื่อแซ่ของเจ้าบ้านว่ามีทุกข์อย่างไร จะได้ช่วยสนองคุณตามสติปัญญา

เจ้าของบ้านถอนใจใหญ่แล้วเล่าว่า ตนเองชื่อ ฬ่อหังเทียว อายุห้าสิบปีเศษ ภรรยาชื่อ นางเงาสี มีบุตรหญิงคนหนึ่งชื่อ นางอุยหงอ อายุสิบหกปี รับหมั้นเป็นเงินก้อนหนักร้อยยี่สิบบาทจาก ลิมสิวหัว ไว้แล้วแต่ยังมิได้อยู่กินด้วยกัน เมื่อวานนี้มีงานแต่งกระบวนแห่ฉลองเจ้ากวนอูผ่านมา นางอุยหงอนั่งเยี่ยมหน้าต่างเล่าเต๊งดูแห่ ถังจงเฮียง ผ่านมาเห็นนางอุยหงอแล้วร้องว่างามจริง นางตกใจรีบปิดหน้าต่างเล่าเต๊งโดยเร็ว พัดหลุดจากมือตกลงไปข้างล่าง ถังจงเฮียงเก็บไว้ได้อ้างว่านางอุยหงอให้พัดเป็นสำคัญ และจัดของ
มาคำนับขอหมั้นนางอุยหงอ

ฬ่อหังเทียวบอกว่าได้รับหมั้นลิมสิวหัวไว้แล้ว ถังจงเฮียงก็ไม่ฟังเอาของที่มาคำนับทิ้งไว้แล้วว่าถ้าไม่ยอมโดยดีค่ำวันนี้จะยกพวกมาแย่งชิงเอาให้จงได้ จึงเป็นทุกข์ด้วยเหตุฉะนี้ ถึงชาวบ้านทั้งปวงก็กลัว ปิดประตูบ้าน เรือน จนไม่อาจขายสุราและของกิน ท่านจึงพลอยได้ความลำบาก

พระเจ้าเจงเต็กได้ฟังจึงถามว่า มีคนพาลบังอาจทำล่วงเกินข่มเหงดังนี้ เหตุใดไม่ทำเรื่องราวไปร้องต่อเจ้าเมือง ฬ่อหังเทียวก็ว่าถังจงเฮียงเป็นบุตรของขุนนาง ตำแหน่งรักษาเสบียงเมืองเสฉวน พี่ชาย เป็นขุนนางนายทหารเมืองฮูนำ ถังจงเฮียงประพฤติพาลข่มเหงชาวบ้านเนือง ๆ ขุนนางเมืองนี้ก็เป็นพวกพ้องพี่น้องของบิดาถังจงเฮียงทั้งนั้น ไปมาหากันเนือง ๆ ถ้าผู้ใดฟ้องก็กลบเกลื่อนความเสีย แล้วหาสาเหตุคนที่ฟ้องเป็นการใหญ่จนถึงแก่ชีวิต พวกชาวบ้านจึงกลัวเกรง ถึงถังจงเฮียงจะข่มเหงสักเท่าใด ก็ไม่มีใครว่ากล่าว และว่า

"...บัดนี้เจ้าเมืองที่มาใหม่ชื่อ ฬ่อเตียวฮุย กิตติศัพท์ว่าเป็นคนซื่อตรง ระงับทุกข์ของราษฎรโดยยุติธรรม ครั้นข้าพเจ้าจะไปฟ้องหนทางก็ไกล วันหนึ่งจึงจะถึง กลัวว่าบุตรภรรยาจะเป็นอันตราย จึงรออยู่ไม่อาจไป ท่านทั้งสองมีกำลังปัญญาประการใดจะช่วยสงเคราะห์ข้าพเจ้า....."

จิวหยงได้ฟังก็โกรธเป็นอันมาก เอามือตบโต๊ะแล้วว่า

"....พวกเหล่านี้บังอาจทำการชั่วนัก ข้าพเจ้าไม่ยอมให้อยู่ในแผ่นดิน ค่ำวันนี้ถ้าพวกเหล่าร้ายยกมา ข้าพเจ้าจะจับฆ่าเสียให้สิ้น....."

ฬ่อหังเทียวก็ว่า

".....ท่านพูดทั้งนี้ปรารถนาจะช่วยข้าพเจ้าก็ขอบใจแล้ว แต่ข้าพเจ้ามีความวิตก ถึงท่านจะทำร้ายถังจงเฮียงได้พรรคพวกถังจงเฮียงยังอยู่มาก ท่านทั้งสองไปแล้ว จะทำร้ายข้าพเจ้าและบุตรภรรยาถึงสิ้นชีวิต....."

ฮ่องเต้ก็ตอบว่า

".....ข้าพเจ้าสองคนอาหลาน จะคิดอ่านไม่ให้ท่านเป็นอันตราย ด้วยฬ่อเตียวฮุยผู้รักษาเมืองเป็นคนรักใคร่กับข้าพเจ้า เหมือนพี่น้องอันสนิท ข้าพเจ้าจะเขียนหนังสือฉบับหนึ่งไปถึงฬ่อเตียวฮุย ให้ยกทหารมาจับพวกเหล่าร้ายขังคุกไว้ ถ้าดังนั้นผู้ใดจะกล้ามาข่มเหงท่าน....."

ฬ่อหังเทียวจึงสรรเสริญว่า ท่านทั้งสองช่วยข้าพเจ้าครั้งนี้สำเร็จพ้นทุกข์ได้ คุณของท่านไม่มีสิ่งใดจะเปรียบ อุปมาเหมือนทะเลใหญ่ เป็นที่อาศัยแก่สัตว์ทั้งปวง แล้วเรียกบุตรภรรยาออกมาคำนับ

ฮ่องเต้เห็นนางอุยหงอมีความงดงามจึงว่า บุตรของท่านรูปร่างงดงามสะอาด ไม่รีบแต่งการให้มีเรือนเสีย จึงได้นำความทุกข์มาให้ ดังนี้

พระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ นั้น มีพระนามเดิมว่า จูเกาเจีย ก็ทรงพระอักษรฉบับหนึ่งถึงเจ้าเมืองเอียงจิวฮู เมื่อประทับตราหยกสำหรับกษัตริย์ และผนึกสลักหลังเสร็จ ก็ให้คนใช้ของ ฬ่อหังเทียว ถือไปให้ ฬ่อเตียวฮุย เจ้าเมือง เมื่อคนใช้ไปถึงเมืองเอียงจิวฮู ก็บอกกับผู้รักษาประตูว่า ชายสองคนมาแต่เมืองหลวงเป็นพี่น้องกับเจ้าเมือง ให้หนังสือมาฉบับหนึ่งจะขอเข้าไปคำนับ นายประตูก็พาเข้าไปพบฬ่อเตียวอุยคนใช้ก็คุกเข่าคำนับแล้วส่งหนังสือให้ ฬ่อเตียวอุยรับมาดูเห็นสลักหลังหนังสือว่า ฮองเทียนเสงอุนจูซึ่งแปลว่าพระมหากษัตริย์แซ่จู ก็ตกใจสั่งคนใช้จัดเครื่องบูชามาตั้งแล้วคุกเข่าลงคำนับเปิดผนึกออก อ่าน มีความแจ้งถึงเรื่องที่ ถังจงเฮียง จะให้พรรคพวกไปชิงตัว นางอุยหงอ ไปเป็นภรรยาโดยไม่เต็มใจ เพราะมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ลงท้ายว่า

".....ฬ่อหังเทียวบอกความว่าขุนนางในเมืองนี้ เป็นพวกพ้องของถังจงเฮียงทั้งนั้น ถึงถังจงเฮียงจะทำความผิดประการใด ก็พากันปิดความเสีย คนอย่างนี้จะเป็นขุนนางใช้สอยอย่างไรได้ ถังจงเฮียงจะทำการสิ่งใดเอาแต่อำเภอน้ำใจ ก็มิได้ว่ากล่าว ปล่อยให้ข่มเหงราษฎรให้ได้ความเดือดร้อนต่าง ๆ แต่คนทั้งปวงสรรเสริญว่าท่านซื่อตรงตั้งอยู่ในยุติธรรม จงจัดทหารสองพันยกมาจับพวกเหล่าร้าย ไปชำระให้เห็นผิดและชอบอย่าให้เป็นเยี่ยงอย่าง ขุนนางคนใดไม่สุจริตจงถอดเสียจากที่ จำขังคุกไว้ ถ้าผู้ใดมีสติปัญญาสัตย์ซื่อจงตั้งขึ้นให้สมควร เรากลับเข้าไปเมืองหลวงเมื่อใด จึงจะชำระต่อไป......"

ฬ่อเตียวฮุยทราบความในหนังสือรับสั่งแล้ว ก็ให้เจ้าหน้าที่คุมทหารพันหนึ่งไปจับ ถังจงเฮียงที่บ้านตำบลเล่าป่วย ส่วนตนเองคุมทหารอีกพันหนึ่งยกไปบ้านฬ่อหังเทียว ที่ตำบล ชุยฉองเพื่อดักจับ พรรคพวกของถังจงเฮียงที่จะไปแย่งชิงนางอุยหงอ

ถึงเวลาพลบค่ำ คนใช้ของถังจงเฮียงก็หามเกี้ยวและพวกพ้องเดินตามมาเป็นอันมาก จุดคบไฟสว่างดังกลางวันมาถึงบ้านฬ่อหังเทียว จิวหยงจึงเชิญฮ่องเต้กับฬ่อหังเทียวเข้าไปอยู่ข้างใน แล้วตนเองก็พกอาวุธสองมือออกไปยืนอยู่หน้าบ้าน พอพวกอันธพาลมาถึง ก็ร้องถามออกไปว่าพากันมาทำไม

พวกนั้นก็หัวเราะแล้วบอกว่า ฬ่อหังเทียวยกบุตรสาวให้นายเรานัดมารับค่ำวันนี้ จึงได้มาตามสั่ง ท่านอยู่ที่ไหนจึงไม่ทราบ

จิวหยงก็โกรธด่าเป็นคำหยาบช้า แล้วว่าจงเร่งกลับไปเสียโดยเร็วถ้าขืนบุกรุกเข้ามาเราจะฆ่าเสียให้สิ้น พวกถังจงเฮียงก็โกรธจึงว่า เจ้าชื่อไรอยู่บ้านไหนไม่รู้จักพวกเราหรือ จึงพูดหยาบช้าต่าง ๆ จิวหยงก็ว่าตัวเราชื่ออึงอึ๋นมาแต่ทางไกลจะขอลองฝีมือกับพวกท่าน พวกนักเลงก็ว่าท่านคนเดียวจะสู้รบกับใครได้ แล้วก็พากันบุกรุกจะเข้าไปในบ้าน

จิวหยงเป็นผู้มีพละกำลังมาก และร่ำเรียนเพลงอาวุธมาชำนาญกว่า ก็จับคนเหล่านั้นฟาดลงกับดินตายไปหลายคน แล้วชักอาวุธออกตีถึงเจ็บป่วยไปอีกเป็นอันมาก ต่างก็แตกตื่นไป พอดีฬ่อเตียวฮุยคุมทหารมาถึงก็เข้าล้อมจับไว้ได้ทั้งสิ้น

จิวหยงรีบกลับเข้าไปในบ้าน แจ้งเรื่องให้ฟังทุกประการ ฬ่อหังเทียวก็ยินดี จิวหยงก็กระซิบทูลฮ่องเต้ว่า ถ้าฬ่อเตียวฮุยเข้ามาพบก็คงจะเชิญเสด็จไป คิดว่าต้องรีบไปหาที่พักแห่งอื่น ฮ่องเต้ก็เห็นชอบด้วย จึงรับสั่งกับฬ่อหังเทียวว่า

".....ข้าพเจ้าอาหลานช่วยท่านสำเร็จแล้วอยู่ช้าไม่ได้ ด้วยธุระของข้าพเจ้ามี จะลาท่านไปก่อน ท่านอย่ามีความวิตกที่จะเกิดภัยอันตราย ด้วยพวกคนร้ายเบียดเบียน ข้าพเจ้าไปแล้วท่านจงเร่งแต่งงาน บุตรสาวให้อยู่กินกับ ลิมสิวหัว ถ้าฬ่อเตียวฮุยจับพวกคนร้ายได้ จะมาหาข้าพเจ้า ท่านจงบอกว่าจะรีบไปด้วยการร้อน ให้ฬ่อเตียวฮุยทำตามหนังสือของข้าพเจ้าเถิด....."

ฬ่อหังเทียวได้ฟังก็คิดถึงคุณเป็นอันมาก นึกจะหน่วงเหนี่ยวไว้ก็ไม่ควร จึงจัดสิ่งของเงินทองออกมาให้ แล้วว่าท่านจงเอาไปใช้สอยตามทาง ข้าพเจ้าว่างธุระจึงจะไปคำนับขอบคุณท่าน ฮ่องเต้กับจิวหยงก็ไม่รับสิ่งของแล้วว่า ข้าพเจ้าช่วยท่านทั้งนี้ เพราะคิดถึงคุณ ที่ได้มาอาศัยเมื่อยามขัดสน ใช่จะคิดเอาลาภผลนั้นหามิได้ ท่านจงเอาไว้ใช้สอยเถิด แล้วก็คำนับลาเดินลัดไปตามทางเล็ก

ฝ่ายฬ่อเตียวฮุยกับเจ้าพนักงาน จับถังจงเฮียงกับพวกพ้องได้หมดแล้ว ก็คุมตัวมาที่หน้าบ้านฬ่อหังเทียว ฬ่อเตียวฮุยก็บอกว่า ท่านช่วยกราบทูลพระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ว่าเราจับพวกเหล่าร้ายได้ จะเข้าเฝ้าฟังพระกระแสจะโปรดประการใด ฬ่อหังเทียวก็ว่า ไม่รู้เลยว่าเป็นพระมหากษัตริย์พึ่งเสด็จไปเมื่อตะกี้ สั่งว่าให้ท่านชำระตามพระอักษร ฬ่อเตียวฮุยก็ลาฬ่อหังเทียวคุมพวกเหล่าร้ายกลับ

เมื่อมาถึงบ้านจึงเชิญพระอักษรตั้งไว้ในที่อันสมควร เอาตัวถังจงเฮียงมาถามว่า ขุนนางผู้ใดในเมืองนี้ เป็นพรรคพวกของตัวบ้าง จงให้การเสียตามจริง ด้วยเป็นกระแสรับสั่ง ถังจงเฮียงกลัวก็รับสารภาพ แล้วบอกชื่อขุนนางที่เป็นพวกพ้องทั้งสิ้น ฬ่อเตียวฮุยก็เอาตัวขุนนางเหล่านั้นมาถามได้ความจริง ก็เอาตราคืนถอดออกเสียจากตำแหน่ง แล้วเอาไปขังคุกไว้กับ ถังจงเฮียง ขุนนางที่ถูกถอดเหล่านั้น มีใจโกรธแค้นยิ่งนัก ก็ด่าว่าทุบตีถังจงเฮียงเป็นอันมาก ถังจงเฮียงรู้ว่าตัวทำผิดก็สู้นิ่งมิได้ว่ากล่าวโต้ตอบประการใด

ฬ่อเตียวฮุยกำจัดขุนนางที่เป็นพาลสิ้นแล้ว ก็จัดหาผู้มีสติปัญญามาตั้งแต่งตามตำแหน่งที่ว่างนั้น แล้วทำหนังสือให้ม้าใช้ถือไปเมืองหลวง กราบทูลฮ่องเต้ให้ทรงทราบทุกประการ

ฝ่ายฬ่อหังเทียวเมื่อกลับเข้ามาในบ้านแล้ว ก็แจ้งความให้บุตรภรรยาฟังทุกประการ ต่างคนก็ยินดีแล้วเสียใจว่า พระมหากษัตริย์เสด็จมาถึงเรือนมิได้รับรองให้สมควร จึงจัดเครื่องบูชาออกไปตั้งกลางแจ้ง คุกเข่าลงถวายบังคมออกพระนามพระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ คิดถึงพระคุณที่ทรงพระเมตตา เสร็จแล้วฬ่อหังเทียวก็จัดแต่งการให้นางอุยหงอบุตรสาว กับลิมสิวหัวอยู่กินด้วยกัน เป็นที่เรียบร้อย

##################

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 20:53:17




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com