|
ส่วนในละตินอเมริกานั้น สเปนไล่ที่คนพื้นเมืองไม่ได้นะครับ เมืองหลวงของแอซเท็กชื่ออ่านยากๆ นั้น (คิดว่าอ่านว่า เทน็อคทิทลัน) ตอนสเปนยึดได้มีประชากรประมาณ 200,000 นะครับ ตอนนั้นเมืองหลวงของสเปนคือโทเลโด มีประชากรหลักหมื่น ตอนย้ายมาแมดริดมีประชากร 30,000 เมืองการค้าของสเปนตอนนั้นคือเซวิลยามีประชากร 60,000 คน
สเปนต้องรับมือกับประเทศใหม่ที่พึ่งยึดได้ รวมถึงคนพื้นเมืองที่เหลือรอดจากโรคระบาดและการสังหารด้วย ฆ่าหมดไม่ได้หรอกครับ เยอะเกินไป และสเปนก็ต้องการแรงงานด้วย
สิ่งที่สเปนทำก็คือจัดระบบวรรณะขึ้นครับ โดยรับรองชนชั้นสองชนชั้นคือชาวสเปนและชาวพื้นเมือง (ต่อมาจะเพ่ิมชาวอาฟริกาที่เป็นทาสด้วย เป็น 3 วรรณะ) ถือว่าเป็นเชื้อสายบริสุทธิ์ การบริหารจัดการนั้นสเปนใช้รูปแบบของยุโรป(ซึ่งก็เป็นรูปแบบที่คุ้นเคย) ชนชั้นสูงของชาวพื้นเมืองถ้าเข้ากับสเปนก็จะได้รับตำแหน่งขุนนาง และใช้การแต่งงานเป็นการสร้างสัมพันธ์เพื่อรวบแคว้นเหมือนกับที่กษัตริย์และขุนนางยุโรปทำกัน ชนชั้นล่างก็เป็นไพร่เหมือนกับในยุโรป
การแต่งงานหรือการผสมข้ามเชื้อชาติกันนั้นเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติในละตินอเมริกานะครับ ลูกผสมนั้นจะถูกจัดเข้าวรรณะต่างกันขึ้นกับสัดส่วนเชื้อชาติของลูกผสมนั้น เมสติโซคือสเปน+พื้นเมืองครึ่งต่อครึ่ง คาสติโซคือสเปน 3/4 พื้นเมือง 1/4 โชโลคือสเปน 1/4 พื้นเมือง 3/4 ลงไปถึง 1/16 ได้มั้งครับ พอเพิ่มคนผิวดำเข้ามาแล้วก็ยิ่งซับซ้อนครับ สเปนจำแนกระดับวรรณะลูกผสมนี่ไว้ประมาณ 100 รูปแบบได้ แต่ละรูปแบบจะได้รับการปฏิบัติจากสังคมต่างกัน เสียภาษีก็ต่างกันด้วย
แล้วเอาเข้าจริงๆ แล้วเวลาคนเราเจอกันบนท้องถนนจะรู้ไหมครับว่าอีกคนเป็นโชโลหรือเป็นเมสติโซ หรือเป็นคนพื้นเมืองจริงๆหรือเป็นโชโล มันดูยาก ต้องเอาสาแหรกตระกูลมาดูกันถึงจะบอกได้ จึงมีการม่ัวกันขึ้นมากครับ คนพื้นเมืองก็แกล้งทำตัวเป็นโชโล คนโชโลแกล้งเป็นเมสติโซ เมสติโซแกล้งเป็นคาสติโซ เพิ่มความเป็น"สเปน"ในตัวเองมากขึ้นกว่าที่เป็น นอกจากนี้พ่อแม่คนละเชื้อชาติก็อยากให้ลูกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมใช่ไหมครับ ก็ช่วยลูกกันไป พ่อแม่ที่เป็นชนชั้นสูงที่โดนจับแต่งเพื่อผลทางการเมืองก็มี พวกนี้ก็ใช้อำนาจช่วยเหลือลูกของตนด้วย
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ คนสเปนแท้ๆ ก็ลดน้อยลงๆ ครับ ลูกผสมเป็นคนหมู่มากในละตินอเมริกา คนชั้นสูงส่วนมากก็มีเชื้อสายคนพื้นเมืองผสมทั้งนั้นแหละ มากน้อยเป็น 1/8 หรือ 1/16 ก็เอาไว้บลัฟกันเท่านั้น ความรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์คนพื้นเมืองก็จางลงไปเรื่อยๆ อย่างในเม็กซิโกที่แนวคิดของเมสติโซมาแรงมาก คือเม็กซิโกมองรากทางวัฒนธรรมของประเทศตนเองเป็นเมสติโซ ไม่ใช่สเปนและไม่ใช่คนพื้นเมืองด้วย จึงยอมรับทั้งวัฒนธรรมสเปนและพื้นเมืองทั้งสองด้านครับ
การจัดวรรณะในลักษณะนี้...แม้จะฟังดูเป็นการขัดสิทธิมนุษยชนอย่างมาก แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้คนพื้นเมืองมีที่ยืนในสังคมครับ
จากคุณ |
:
HotChoc
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ธ.ค. 55 22:38:10
|
|
|
|
|