ความคิดเห็นที่ 1 ขอตั้งสันนิษฐาน โดยใช้ทฤษฏีสตรีนิยมนะ - เพื่อกำจัด ผู้แข็งข้อ ที่เป็นปฏปักษ์ต่อระบบผู้ชายเป็นใหญ่ (Patriarchy)   ตามหลักศาสนาคริสต์นั้น สตรีเกิดมาจากร่างกายของบุรุษ ถือเป็นส่วนหนึ่งของบุรุษ จึงต้องอยู่ในอาณัติและบังคับบัญชา ของผู้ชาย สตรีที่ไม่แต่งงาน เมื่อถึงกาล หรือถึงวัย  อาศัยอยู่คนเดียว  เลี้ยงสัตว์ที่เลี้ยงไม่ค่อยเชื่อง (เช่นแมว กบ นกกา) ถือว่าเป็นขบถ ต่อระบบ ชายเป็นศูนย์กลาง (androcentrism) หรือชายมีอำนาจเหนือกว่า  (male supremacy)   - เพื่อกำจัด ศัตรู ทางปัญญาและความคิด   สตรีจะถูกริดรอน สิทธิในการร่ำเรียน  เพื่อริดรอนการต่อขยายปัญญาความคิด ที่จะนำไปสู่ การคิดตรงข้าม หรือเป็นปฏิปักษ์ จึงใช้บทอ้างจาก ปฐมกาล (Genesis) จากพระคมภีร์ไบเบิ้ล ว่า อีฟ หรือบรรพบุรุษฝากสตรี เป็นต้นเหตุให้มนุษย์ ต้องประสบกับชะตากรรมในปัจจุบัน คือถูกขับออกจากสวนสวรรค์อีเดน เพราะไปเชื่อคำชักชวนขอบงูซาตาน ให้กินผลไม้ จากต้นไม้แห่งสรรพปัญญา เพื่อให้มนุษย์มีความรู้ทัดเทียมกับพระเจ้า (ถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจ เรืองการจัดการความรู้ การแย่งชิงตำแหน่งทางปัญญา) สตรีจึงถูกหาว่ามีโอกาสที่จะเข้าพวกกับซาตาน หรือเป็นสาวกให้มหาปีศาจได้ทุกเมื่อ   จึงต้องจับไป เผาไฟ กดน้ำ จิ้มด้วยเหล็กแหลมพิสูจน์ ฯลฯ ปัจจุบัน การล่าแม่มด เปลี่ยนรูปแบบไป และย้ายถิ่นฐานจากตะวันตก มาใกล้แถวนี้แหละ อะไรที่มันท้าทายอำนาจเดิมที่คิดว่ามั่นคงแข็งแกร่ง  ก็จะถูกใส่ร้าย ให้กลายเป็นแม่มด ที่จะต้องเอาไป "เผา ให้เป็นจุญ" อะไรทำนองนั้น จากคุณ : ปากกัดตีนถีบ จีบไม่ลง (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 18:47:24

ความคิดเห็นที่ 2 ประเทศไหนไม่ทราบนะคะ เดี๊ยนจำไม่ได้แม้กระทั่งประเทศที่ทำพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมอุปกรณ์ลงโทษแม่มด เดิมนั้นในยุโรปมีหลายความเชื่อ ก่อนการเข้ามาของศาสนาคริสต์ ที่หลงเหลือรอดเห็นว่ามีเทศกาลอีสเตอร์ ความเชื่อในวิญญาณที่สถิตในธรรมชาติของชาวเซลท์ ไพ่ยิปซี ที่เหลือก็เป็นแค่ตำนานเรื่องเล่า หรือส่วนที่ศาสนาคริสต์รับเข้ามาเฉย ๆ (เช่น วันคริสต์มาสที่กำลังจะถึงนี้ เป็นต้น) มีความเชื่อแบบชาวยิปซีที่มักจะทำการรักษาโรคโดยสตรี น่าจะคล้าย ๆ หมอยาบ้านเราหรือแถบแอฟริกา คือใช้ไสยศาสตร์ช่วยทางใจ ตอนหลังศาสนจักรเห็นว่าเป็นพิธีกรรมนอกรีต คงลงรายละเอียดไปที่ศาสนา และคิดว่าคนนอกรีตเป็นได้ทั้งชายและหญิง ส่วนจะเกี่ยวกับเรื่องเกลียดหญิงเพราะอีฟว์หรือเปล่า ก็อาจมีส่วน สำหรับการอ้างเรื่องนอกรีต กระทู้ล่าง ๆ กล่าวถึงสเปนตอนรุกรานชาวอเมริกาพื้นเมือง ก็มีการทำลายตำราความรู้ของชาวพื้นเมืองไปหลายเล่ม ห้ามใช้อักษรแบบมายาด้วย เพราะตัวเองอ่านไม่ออก เอ๊ย! เพราะเป็นอักษรของปีศาจ (มั้งนะคะ ลืมเหตุผลละ) นอกจากการประหารแล้ว น่าจะมีการทรมานด้วย แต่ให้ถึงตายหรือเปล่าจำไม่ได้ เช่น เครื่องหนีบหัวนม (อูยยยยสสสส์ ถูกใจคอมาโซคิสม์ BDSM นักแล) ตาชั่งใช้ชั่งหญิงอ้วน (อันนี้จากแพทเทิร์นที่ว่าเหล่าแม่มดต้องขี่ไม้กวาด) ใครตัวเบา (เบากว่าอะไรไม่ทราบนะคะ ตราชูค่ะ) ก็โดนหาว่าเป็นแม่มด สรุปที่กล่าวมาทั้งหมด เดี๊ยนก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าใครเป็นคนต้นคิด แต่ดูท่าทางสนุกกับการออกแบบเครื่องจับผิด เครื่องทรมานน่าดู การเลี้ยงสัตว์ เช่น แมวดำ คงเพราะผู้คนไม่นิยมเลี้ยงกัน คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดเลยเก็บมาเลี้ยง บ้านเราก็ถือเรื่องแมวดำข้ามศพ แต่แมวอยู่เฉย ๆ คงไม่เป็นไร เว้นแต่ลักษณะกาลกิณีตามตำราดูแมว แต่ค้างคาวนี่ไม่แน่ใจว่าสมัยนั้นเลี้ยงกันจริง ๆ ไหม ฝรั่งมองว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายตรงข้ามกับความเชื่อของจีน แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 55 22:23:58 จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 20:41:59

ความคิดเห็นที่ 3 ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : วานรเหล็ก เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 22:41:38

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเจอแม่มดหน้าตาน่ารักแบบนี้ ผมก็อยากไล่ล่า(หัวใจ)พวกเธอเหมือนกันครับ อิ อิ -------------------------------------------------------------------------------------- ตอบตามจริงบาง ยุคกลางของยุโรปเป็นยุคที่ศาสนจักรคริสต์มีอิทธิพลสูงสุด ครอบงำความคิดความเชื่อของศาสนิกชนอย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อมีใครที่เป็นเรื่องนอกรีตนอกรอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอ้างตัวว่าเป็นผู้วิเศษมีเวทมนตร์เหนือธรรมชาติ ซึ่งเป็นการท้าทายอำนาจพระผู้เป็นเจ้าด้วยแล้ว ก็ไม่แปลกที่คนที่ถูกหาว่าเป็นพ่อมดแม่มดจะถูกประณามและจับตัวมาลงโทษให้ได้ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 55 23:02:43

ความคิดเห็นที่ 5 คนไทยฉลาดในเรื่องการปรับตัวเยอะครับ ศาสนาแม่มด (ลัทธิแม่มด) เดิมก็เป็นความเชื่อของชาวบ้าน ต่อมาศาสนาคริตสเข้ามามีอำนาจเหนือการเมืองเหนือพระราชา (ใครจะเป็นพระราชาก็ต้องไปขอพระ พระจึงแต่งตั้งให้) และศาสนาคริสต์กำหนดการดำเนินชีวิตของคน (ห้ามช่วยตัวเองฯลฯ) และศาสนาก็มีอำนาจและสั่งให้กำจัดคนที่นับถือความเชื่อไม่เหมือนตนเองได้ ... ซึ่งประวัติมันก็เหมือนคนแถวภูมิภาคนี้แหละครับเดิมเรานับถือผี (แม่มด) ต่อมาพรามณ์ฮินดูเข้ามาเราก็เอาผีอยู่กับพรามณ์ฮินดูได้ ต่อมาพุทธเข้ามา เราก็อยู่ได้ทั้ง พุทธ พรามณ์ ผี จนมาถึงปัจจุบันเขียนลงเป็นกม. ว่ากษัตริย์ต้องนับถือพุทธเท่านั้น แต่พิธีราชาภิเษกให้พรามณ์เป็นผู้แต่งตั้ง และชาวบ้านก็ยังนับถือพุทธ+ผีเหมือนเดิม ...... เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์คล้ายๆกันแต่สังคมแต่ละที่พิจารณาและเลือกการปฏิบัติไม่เหมือนกันครับ.. ในข้อนี้ผมคิดว่าเราดีกว่ากว่าฝรั่งเยอะ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 11:05:18 จากคุณ : วังเหนือ (วังเหนือ) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 09:39:48

ความคิดเห็นที่ 6 #1 เข้าใจผิดครับ ตอนสรุป ดารล่าแม่มด คือความกลัวและความเกลียดชัง เป็นธรรมดามากสำหรับมนุษย์ทุกคน เพราะใครๆ ก็พร้อมจะล่า เสมอ จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 16:01:58

ความคิดเห็นที่ 7 คห 6 "ปัจจุบัน การล่าแม่มด เปลี่ยนรูปแบบไป และย้ายถิ่นฐานจากตะวันตก มาใกล้แถวนี้แหละ อะไรที่มันท้าทายอำนาจเดิมที่คิดว่ามั่นคงแข็งแกร่ง  ก็จะถูกใส่ร้าย ให้กลายเป็นแม่มด ที่จะต้องเอาไป "เผา ให้เป็นจุญ" อะไรทำนองนั้น" อันนี้คือบทสรุป ของเรา  ตรงไหนผิด กรุณาขี้แจงหน่อย ก็คุณเองยังบอกว่า มันมาจากความกลัว (กลัวเสียอำนาจ สูญความมั่นคง) เกลียดชัง (เพราะมาเป็นปฏิปักษ์ มาเป็นคู่แข่ง มาแย่งพื้นที่ เหมือนเมียหลวง เกลียดเมียน้อย) แล้วมันผิดจากที่คุณคิดตรงไหนหล่ะ   ผิดตรงคำสะกด จุญ หรือเปล่า ที่ถูกควรเขียนว่า จุณ ที่แปลว่า ผลงละเอียด น่าจะใช่ จากคุณ : ปากกัดตีนถีบ จีบไม่ลง (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 17:12:48

ความคิดเห็นที่ 8 อยากให้กิฟคุณวังเหนือ แต่หมดก่อน เรื่องการปรับตัวและผสมผสานทางวัฒนธรรม คนไทยสุดยอดมานานมากแล้วครับ เราอาจถูกมองจากพวกตะวันตกหรือกระทั่งคนไทยด้วยกันเองว่าเป็นชาติอารยธรรมและวัฒนธรรมที่ค่อนข้างไร้วินัย มีข้อด้อยมาก แต่เรามีข้อดีเด่นมากข้อหนึ่ง ซึ่งนั่นก็รวมถึงคนชาติพันธุ์ในแถบเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่ด้วยคือ มีความประนีประนอมสูง ง่ายๆสบายๆ และปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดเก่ง และไม่ตะแบงเกินไป ส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่านิสัยคนไทยเหมาะสมกับศาสนาพุทธมากที่สุดแล้ว ในเรื่องการเดินสายกลาง การรู้จักปล่อยวาง และรู้จักวางและปลง แม้มันอาจจะเป็นข้อด้อยที่ทำฝห้เราค่อนข้างจะไม่เหมาะกับทฤษฏีการคัดเลือกผู้แข็งแรงกว่าของดาร์วินและแนวคิดแบบตะวันตกในการโต้แย้งเพื่อหาสิ่งที่ดีกว่าและล้มล้างสิ่งเดิม แต่เราก็เลือกจะเรียนรู้และอยู่กับธรรมชาติ ความเป็นจริงได้มากกว่าตะวันตกเสียส่วนใหญ่ นั่นเองที่ทำให้ชนชาติแถบนี้ไม่เคยเป็นผู้สร้างหายนะในระดับโลก ส่วนเรื่องการล่าแม่มดของ จขกท มเคยอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็มีหลายทฤษฏีครับ มักเป็นไปในทางที่ว่าต้องการทายอำนาจของผู้หญิงและควบคุใระเบียบสังคมด้วยความกลัว บ้างก็ว่าจริงๆแล้วที่การเผาต้องต่อหย้าประชาชนมากๆนั้นก็เพื่อสร้างสำนึกร่วมในการให้ประชาชนรู้สึกต่อต้านแม่มดและรู้สึกว่าสิ่งอื่นๆนอกเหนือจากคริสตศาสนาเป็นความชั่วร้าย เป็นรูปแบบการพยายามสร้างอำนาจแบบหนึ่งของศาสนจักรต่อประชาชน เพราะวาติกันเองก็ไม่ได้มีกองทัพเป็นของตนเอง มีเพียงใช้ความเชื่อและศรัทธาในการบงการกษัตริย์แต่ละประเทศ การทำแบบนี้จึงเสมือนเป็นการแสดงอำนาจที่เป็นรูปธรรมด้วยว่ามีมากไม่แพ้กษัตริย์ เพราะกษัตริย์นั้นสามารถสังหารคนได้ไม่ผิด ศาสนาจักรเองก็ทำได้เช่นกันแถมมีความชอบธรรมไว้อ้างด้วยว่าเป็นการทำเพื่อปราบควาใชั่วและสิ่งนอกรีต จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 18:28:23

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องการปรับตัวและผสมผสานวัฒนธรรม ไม่ใช่ว่ามาจากความเป็นคนไทยอย่างเดียวครับ แต่มาจากศาสนาที่เข้ามาในเมืองไทยคือศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาที่เน้นในเรื่องความคิดมากกว่าความเชื่อและพิธีกรรม และค่อนข้างจะเปิดกว้างในเรื่องเหล่านี้ จะเห็นว่าศาสนาพุทธแพร่ไปที่ใด ก็ไม่ได้ไปทำลายหรือห้ามความเชื่อเดิมของคนพื้นเมือง แต่มักจะรับและผสมผสานเอาไว้ด้วยกันมากกว่า อย่างศาสนาพุทธแพร่ไปที่จีน ลัทธิดั้งเดิมอย่างเต๋าหรือขงจื้อก็ไม่ได้ถูกทำลายไป แต่หลอมรวมเข้าหากัน หรือไปที่ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ห้ามศาสนิกชนเลิกความเชื่อต่าง ๆ ในลัทธิชินโต ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างจากศาสนาคริสต์ ที่เน้นเรื่องความเชื่อความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า ความเชื่ออะไรที่จะทำให้คนไม่ศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าจึงกลายเป็นบาปทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของแม่มดเวทมนตร์เท่านั้น แม้แต่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในช่วงแรก ๆ ก็ถูกต่อต้านจากคริสตจักรอย่างมากเช่นเดียวกัน ในเมืองไทยเองก็เคยมีเหตุการณ์ครั้งสมัยกรุงธนบุรี เมื่อบาทหลวงฝรั่งเศสยุยงทหารที่นับถือคริสต์ไม่ให้เข้าพิธีดื่มน้ำพิพัฒสัตยา โดยอ้างว่าการให้ดื่มน้ำมนต์ที่จิ้มคมหอกดาบเป็นความเชื่อนอกรีต ผลก็คือพระเจ้าตากสินต้องขับบาทหลวงพวกนั้นออกไปจากประเทศซะ จะได้หมดเรื่องกันไป แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 55 00:47:35 แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 55 19:45:34 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 55 19:44:53

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณที่ให้ความกระจ่างครับ อยากให้กิ้ฟทุกท่านจริงๆ แต่หมดแล้วครับ จากคุณ : วานรเหล็ก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 02:27:16