ความคิดเห็นที่ 1 โดยส่วนตัว น้องไม่ทราบของประเทศอื่นนะคะ แต่เนื่องจากชอบซีรีย์เรื่องนี้มาก ๆ เหมือนกัน เหตุผลที่โดนต่อต้าน และพยายามอ้างวาทะกรรม ที่ว่าการประดิษฐ์อักษรใหม่เป็นเรื่องป่าเถื่อนเพราะว่าต้องการรักษาอำนาจโดยสงวนไว้เฉพาะชนชั้นสูงนะคะ คิอสมัยนั้นจะเป็นบัณฑิตซึ่งสอบเข้าไปรับราชการได้ ต้องเรียนภาษาจีนเท่านั้นนะคะ ซึ่งเอกสารราชการทุกอย่างก็จะเป็นตัวอักษรจีนหมด จะมีแค่ภาษาพูดเท่านั้นคะที่เป็นภาษาเกาหลี กลุ่มบัณฑิตในเรื่องก็กลัวว่าชนชั้นกลางและชั้นล่างจะสามารถอ่านออกเขียนได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้คนที่มาจากชนชั้นอื่นสามารถรับราชการได้ ดังนั้นอำนาจก็จะถูกแบ่งไปให้ลูกหลานในอนาคตของชนชั้นกลางและชั้นล่าง แทนที่จะผูกขาดอยู่ในตระกูลขุนนางอย่างเดียวนะคะ ดังนั้นจึงพยายามหาเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นร้อยแปดพันเก้า มายกให้การประดิษฐ์อักษรเป็นเรื่องป่าเถื่อนนะคะ (คำว่าป่าเถื่อนอาจหมายถึงขาดอารยะ เพราะเป็นอักษรใหม่ แลดูไม่เก่าแก่ดั้งเดิมไม่เป็นตำนาน ไม่ถูกบันทึกผ่านเอกสารมากมายอย่างภาษาจีน อะไรเทือกนี้นะคะ) จากคุณ : นิวสวย เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 13:44:12

ความคิดเห็นที่ 2 เพราะภาษาจีนนั้นถือว่ายากกว่ามาก สำหรับคนเกาหลี พอเจออะไรที่ง่ายๆ อ่านออกเขียนได้เป็นภาษาของตัวเองเป๊ะๆ มันดูง่ายไปหมด ถ้าเอาออกมาจริงๆ ชาวบ้านธรรมดาก็จะสามารถอ่านได้เขียนได้ไม่แพ้ขุนนาง มันเลยดูยเหมือนไร้อารยธรรมมั้ง ไม่ต้องนั่งตั้งใจเรียนท่องตำราเหมือนเดิม ซึ่งเรียนรู้ตัวภาษาจีนเป็นพันๆตัว จากคุณ : AJ.S.Moon เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 19:54:46

ความคิดเห็นที่ 3 ในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เขามีอักษรธรรมมั้ยคะ ที่คล้าย ๆ อักษรธิเบต เหมือนจะเคยเห็น เรื่องป่าเถื่อนนี่จะคล้าย ๆ เรื่องรับวัฒนธรรมฮั่นหรือเปล่า เหมือนตอนที่ญี่ปุ่นออกจากการรับอารยธรรมจีนก็ถูกจีนกล่าวหาเช่นกัน หลายชนเผ่านั้นจีนก็ถือว่าเป็นชนป่าเถื่อน เดี๊ยนจำรายละเอียดไม่ได้นัก เป็นคลิปที่ชาวญี่ปุ่นประจานนิสัยก็อปปี้ของเกาหลี ได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ เป็นภาษาไทย แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 55 20:58:38 จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 55 20:53:44

ความคิดเห็นที่ 4 ในซีรี่ย์บอกไว้นะครับ เพราะอักษรจีนถือเป็นอารยะ มีแต่ชนชาติป่าเถื่อนเท่านั้นที่มีอักษรเป็นของตัวเอง อย่างพวกมองโกล ซงหนู หรือญี่ปุ่น ซึ่งจีนตอนนั้นถือว่านอกจากตนแล้ว พวกอื่นคือพวกป่าเถื่อนทั้งหมด และเกาหลีที่รับวัฒนธรรมจีนมาเต็มๆ ก็รับแนวคิดนี้มาด้วย นอกจากเกาหลีก็มีเวียดนามที่มีแนวคิดนี้ และทั้งสองก็ต้องเกิดปัญหาที่เหมือนกันเมื่อใช้อักษรจีนมาเขียนเป็นภาษาของตนนั่นคือ อักษรจีนไม่สามารถรองรับคำและเสียงในภาษาเกาหลีและเวียดนามได้ครบ และประชาชนทั่วไปเขียนได้ยากมาก เกาหลีจึงประดิษฐ์อักษรเพื่อรองรับปัญหาดังกล่าวซึ่งเป็นที่นิยมของประชาชนมากเพราะเขียนง่ายกว่าอักษรจีน แต่เวียดนามโชคร้ายหน่อย เพราะผู้ปกครองไม่ยอมประดิษฐ์อักษรของตน ท้ายสุดจึงต้องใช้อักษรโรมันมาเขียนเป็นภาษาเวียดนามแทนจนปัจจุบัน จากคุณ : arawadee เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 07:49:07

ความคิดเห็นที่ 5 จริงรึเปล่าไม่รู้เห็นเค้าบอกว่าอักษรเกาหลีเป็นอักษรที่ง่ายที่สุดในโลกอ่ะ ใครหัวดีๆหน่อยไม่เกิน 4 ชม ก็อ่านออกหมดแล้ว จากคุณ : NE_X เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 08:34:44

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากครับ อย่างนั้นก็มีสองประเด็น คือ ภาษาเขียนที่เข้ากับการออกเสียงของตัวเอง และโลกทัศน์ของชนชั้นล่างที่ต้องเปิดกว้างอีกมาก เพราะในเรื่องชนชั้นสูงกดเอาไว้ว่าการมีตัวอักษรเป็นเรื่องของคนเถื่อน และชนชั้นล่างเองก็ไม่เห็นว่ามันจำเป็นในการดำรงชีวิต เพราะเค้าต้องการทำงานมากกว่า ถึงเวลาที่ประดิษฐ์อักษรได้แล้ว ชนชั้นล่างก็ต้องมาเข้าเรียนกัน แต่ถ้าไม่มีการออกกฎหมายบังคับ. เค้าก็จะไปทำมาหากิน เพราะไม่เห็นความจำเป็น อย่างงั้นรึเปล่าครับ ปล.ตอนนี้ยังดูไม่จบ จากคุณ : น่ารักอย่างกะยักษ์วัดแจ้ง เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 08:51:10

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องอักษรเกาหลี เดี๊ยนได้ยินมาอีกอย่าง น่าจะจากในนี้แหละ ตรงที่ว่า ตอนประดิษฐ์ใหม่ ๆ คนก็ยังไม่นิยมใช้กัน (น่าจะหมายถึงชนชั้นสูงหรือเปล่า) มานิยมหรือใช้กันเป็นปกติในยุคหลัง ๆ นี่เอง ส่วนภาษาเวียดนาม เหมือนจะเคยได้ยินว่ามีการประดิษฐ์อยู่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นที่นิยม แล้วมีเหตุให้สลับมาใช้อักษรโรมันในภายหลัง (โดยพวกบาทหลวงฝรั่งเศสหรือเปล่า) หรือเดี๊ยนจำสับกับอักษรม้ง #6 เดี๊ยนตอบไม่ได้ แต่ที่จำจากในนี้อีกเหมือนกัน เห็นว่าที่ระบบจอหงวนของเกาหลีไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมีการกีดกันชนชั้นล่าง เดี๊ยนก็จำรายละเอียดไม่ได้ว่ากีดกันยังไง ไม่ให้สอบ หรือถึงสอบไปก็ไม่ได้ (เหมือนบ้านเรามีเด็กเส้น แต่ของเขาอาจดูว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร) พูดถึงพวก "ยังบัน" จากคุณ : อวัยวะชิ้นนั้น เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 55 12:01:26

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวอักษรเกาหลีจำง่ายครับ ถ้านับเพียงแค่จะเอาให้อ่านออกอย่างเดียว สะกดเป็น 4 ชั่วโมงนี่ก็คงไม่ยาก เพราะตอนที่เกาหลีฟีเว่อร์ ช่วงนั้นผมอยู่ม.3 ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตเป็นทรัพย์สินส่วนตัว อาศัยจดเอาจากชั่วโมงคอมพิวเตอร์ แล้วมานั่งสังเกตการสะกดเอง ก็อ่านได้ไม่เกินสัปดาห์ครับ และสามารถถอดเนื้อเพลงภาษาเกาหลีเป็นเนื้อไทยทับศัพท์ได้ด้วย แต่ตอนนี้ให้ลงเรียนลึกๆ ขอพักไ้ว้ก่อนครับ อังกฤษยังเอาไม่รอด ยังมีญี่ปุ่นที่ทิ้งขว้างไปอีก จีนก็เริ่มสนใจ ตอนนี้ระบบรวนจนแม้แต่ภาษาไทยก็พูดไม่รู้เรื่องแล้วครับ (lol) จากคุณ : Jeremizz เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 55 05:26:56