 |
ความคิดเห็นที่ 9 |
 |
ความคิดเห็นที่ 1
polity คือ state that is governed by the mass but 'for the common interests'
ส่วน democracy คือ regime ที่ ruled by the poor เพราะมา the poor นั้นเป็นกลุ่มคนส่วนมากในสังคม ในขณะที่ wealthy people มีน้อย เพราะฉะนั้น regimes ที่
1. ruled by one = monarchy
2. ruled by the rich = oligarchy
2. ruled by the many poor = democracy
สำหรับ Aristotle ทั้งสาม regimes นี้ rule เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกของตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่มีอันไหนดีเลย regime ที่ดี Aristotle เรียกว่า 'polity'ซึ่งเป็น the middle between oligarchy (rule by the rich) กับ democracy (rule by the poor)
ภายใต้ polity, state is ruled by the middle class เพราะ Aristotle เชื่อว่า middle class เป็นเหมือนกันชนระหว่างคนจนกับคนรวย
the middle class can be expected to treat the poor more leniently than the rich do, and the rich more leniently than the poor do (From Aristotle, the Politics)เพราะฉะนั้น polity จะมีความมั่นคงที่สุดเพราะว่าป้องกันการแย่งชิงอำนาจกันระหว่าง the rich and the poor หรือพูดง่ายๆคือลดความเหลื่อมล้ำ ให้กลายเ็ป็นสังคมที่อยู่ตรงกลางที่สุด คนที่จนก็ไม่ถูกคนรวยเหยียบย่ำจนโงหัวไม่ขึ้น ส่วนพวกที่รวยก็ไม่ถูก represented มากเกินไป
Aristotle ยังบอกว่า สาเหตุที่ middle-class ควรจะ rule ก็เพราะว่า the middle-class ส่วนใหญ่แล้วเป็นพวกที่ได้รับการศึกษา เพราะฉะนั้น unlikely to make 'unsound judgment' ในขณะที่ the rich ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาแต่ว่าด้วยเหตุผลข้อแรก ไม่ควรให้ rule เพราะว่าเป็นคนกลุ่มน้อยที่จะปกครองเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้อง
ในขณะที่ polity อาจจะดูเหมือนเป็น state ที่ดูดี แต่ Aristotle ไม่ได้บอกเราว่า
แล้วมีเหตุผลอะไร ที่ middle-class people will not rule for their own interests..
ประมาณนี้อ่ะค่ะ
| จากคุณ |
:
1234
|
| เขียนเมื่อ |
:
28 ธ.ค. 55 08:28:15
A:94.5.63.150 X: TicketID:373968
|
|
|
|
|
