ความคิดเห็นที่ 1 สาเหตุที่พระองค์เปลี่ยนศาสนามีเรื่องเล่าว่า ราว พ.ศ. ๒๐๔๓ เจ้าเมืองปัตตานีที่ชื่อ พญาตู นักปา หรือตู อันตารา หรือ ราชาอินทิรา (Raja Intira) ซึ่งนับถือพุทธศาสนาได้ล้มป่วยลง โดยมีรอยแตกระแหงตามร่างกาย บางตำราว่าเป็นโรคเรื้อน ซึ่งหมอหลวงชาวปัตตานีรักษาไม่หาย แต่ มีหมอมุสลิมชาวปาซายจากสุมาตรา คนหนึ่ง ชื่อ เชค ซาอิด หรือ เชค ซาฟียุคดิน (Sheikh Safiuddin) อาสารับจะรักษาโรค โดยมีข้อแม้ว่าเมื่อหายแล้วเจ้าเมืองจะต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม เจ้าเมืองก็ยอมตกลงตาม ที่หมอมุสลิมผู้นั้นขอ แต่เมื่อรักษาหายแล้วกลับไม่ทำตามสัญญา จนหลายปีต่อมาโรคเก่ากำเริบอีก หมอมุสลิมคนนั้นก็เข้าไปรักษาโดยขอคำมั่นเช่นเดียวกับครั้งแรก เมื่อรักษาหายแล้ว เจ้าเมืองก็บิด พลิ้วอีกตามเคย เมื่อโรคกำเริบเป็นครั้งที่สาม เจ้าเมืองได้ให้คำสาบานว่า "ในคราวนี้ ข้าขอสาบาน ต่อหน้าพระพุทธรูปที่กราบไหว้อยู่ทุกวันว่า หากข้าบิดพลิ้วอีก ขอให้กลับเป็นโรคเก่าอย่ารู้จักหาย อีกเลย" ดังนั้นเมื่อหายจากโรคแล้ว เจ้าเมืองปัตตานีก็เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามพร้อมกับครอบครัว รวมทั้งขุนนางทั้งปวง นับแต่นั้นมา ศาสนาอิสลามได้แพร่หลายในปัตตานีอย่างรวดเร็ว เจ้าเมืองปัตตานี ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สุลต่าน อิสมาอีล ชาห์ (Sultan Ismail Syah) ตามแบบของอาหรับ โอรสของ พระองค์มีนามว่า กรุบ พิชัย ปัยนา เปลี่ยนนามเป็น มุฏ็อฟฟัร ชาห์ ธิดาของพระองค์ที่มีนามว่า ตนเรามหาชัย เปลี่ยน นามเป็น ซีตี อาอีชะฮฺ และโอรสของพระองค์ องค์สุดท้ายมีนามว่า มหาชัยปัยลัง เปลี่ยนนามเป็น มันศูร ชาห์ การเปลี่ยนศาสนาจากพุทธอิสลามของสุลต่านปัตตานีองค์แรกนั้น ในพงศาวดารปัตตานี ระบุว่า เพียงแต่ละทิ้งการกินหมูและไม่กราบไหว้พระพุทธรูปเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วยังทำตามประเพณีเดิมทุกประการ บางตำราว่ามีการสั่งให้ทำลายเทวรูป พระพุทธรูป และสร้างมัสยิดขึ้นแทน มาดูแบบสีบ้างดีกว่า แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 20:30:42 จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 20:27:05

ความคิดเห็นที่ 2 วกกลับมาที่เรื่องสุสาน สุสานพญาอินทิรา มุสลิมคนแรกของเมืองปัตตานี ตั้งอยู่ที่บ้านปาเระ ตำบลบาราโหม อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ด้านหน้าทางเข้ากุโบร์ จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 20:33:20

ความคิดเห็นที่ 3 ด้านหน้าทางเข้ากุโบร์ อีกรูป จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 20:35:12

ความคิดเห็นที่ 4 บริเวณหลุมพระศพ มีศาลาครอบ(สร้างทีหลัง) เครดิษภาพ dekguide.com แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 20:40:42 จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 20:38:57

ความคิดเห็นที่ 5 บริเวณนี้เคยขุดพบเครื่องใช้ของคนรุ่นโบราณมากมาย สุสานพญาอินทิรา หรือที่ชาบ้านเรียกว่า “กูโบรายามะรือเก๊าะ” เป็นสถานที่ฝังพระศพของอดีตกษัตริย์ราชวงศ์โกตามหลิฆัย หลุมพระศพ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 20:58:56 จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 20:41:13

ความคิดเห็นที่ 6 เหนือหลุมฝังศพมีหินแกรนิตสลักเป็นรูปก้อนเมฆ และมีอักษรภาษาอาหรับกำกับอยู่ จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:00:54

ความคิดเห็นที่ 7 . จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:02:34

ความคิดเห็นที่ 8 ป้าย ประวัตกุโบร์พญาอินทิรา จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:16:03

ความคิดเห็นที่ 9 บรรยากาศรอบๆกุโบร์พญาอินทิรา จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:17:40

ความคิดเห็นที่ 10 รายาฮียา รายาบีรู รายาอูงู  รายากูนิง 4 อดีตนางกษัตริย์ผู้ทำให้ปัตตานี ยิ่งใหญ่และรุ่งเรื่องที่สุดของยุค พระนามซึ่งมีความหมายว่า เขียว น้ำเงิน ม่วง เหลือง ตามลำดับ ภาพวาด สี่รายาผู้ยิ่งใหญ่แห่งปัตตานี จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:37:37

ความคิดเห็นที่ 11 รายาฮียา แสดงโดย จารุณี สุขสวัสดิ์ ในภาพยนต์เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:51:09

ความคิดเห็นที่ 12 รายาบีรู ขณะขึ้น ครองบันลังก์ต่อจากรายาฮียาที่สิ้นพระชนม์ไป ในภาพยนต์เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด แสดงโดย ณัฐรดา อภิธนานนท์ จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 21:59:00

ความคิดเห็นที่ 13 รายาอูงู แสดงโดย แอนนา รีส ในภาพยนต์เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:01:49

ความคิดเห็นที่ 14 รายากูนิง แสดงโดย นิกัลยา ดุลยา ในละครโทรทัศน์ออกอากาศทางไทยพีบีเอส ออกอากาศเมื่อ พ.ศ. 2551 จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:08:10

ความคิดเห็นที่ 15 กลับมาที่สุสาน รายาฮียา รายาบีรู รายาอูงู  ซึ่งตั้งอยู่ ในสวนมะพร้าว ไม่ไกลจากสุสานพญาอินทิรา ณ จังหวัดปัตตานี ส่วนสุสานรายากูนิง อยู่ในเขตประเทศมาเลเซีย ด้านหน้าทางเข้าสุสาน แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 22:14:17 จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:12:13

ความคิดเห็นที่ 16 บริเวณหลุมพระศพ จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:15:03

ความคิดเห็นที่ 17 บรรยากาศโดยรอบหลุมพระศพ ปล.รูปนี้ดูอ้างว้าง โดดเดี่ยว เศร้า่จัง จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:17:21

ความคิดเห็นที่ 18 คลิปรายการพันแสงรุ้งพาไปดูสุสาน จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:18:23

ความคิดเห็นที่ 19 จบแล้วครับ น้ำเยอะหน่อย คงไม่เป็นไรนะครับถือว่าเข้า่มาดูรูปแล้วกัน ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ ท่านใดจะเสริมเพิ่มเติมก็ยินดี เครดิษทั้งหมดยกให้เจ้าของรูปและผู้เขียนข้อมูลครับตัวจริงนะครับ จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:22:46

ความคิดเห็นที่ 20 ลืมรูปป้ายหลุมพระศพ ไม่รู้ว่า นางกษัตริย์พระองค์ไหน ระหว่าง รายาฮียา รายาบีรู รายาอูงู จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 22:30:26

ความคิดเห็นที่ 21 ผิดสีหมดเลย กูนิง สีเหลือง ดันใส่ชมพู อูงู สีม่วง ดันใส่ เหลืองแดง บิรู น้ำเงิน ดันใส่ สีทอง จากคุณ : GO9 เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 02:06:42

ความคิดเห็นที่ 22 สองภาพแรกด้านบนไม่มีหลักฐานรองรับครับว่าเป็นรูปที่ปาตานี  รูปนี้มีการอ้างอิงต่อกันหลายครั้งหลายคราตามเวบต่างๆว่าเป็นภาพที่ปาตานี แต่ผังเมืองในบริเวณมุมบนขวาเป็นผังเมืองอยุธยาครับ  แต่ปัญหาคือว่าบริเวณซ้ายมือของภาพดูคล้ายกับทะเล ซึ่งอยุธยาไม่ติดทะเลอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงอาจจะเป็นได้ว่าเป็นภาพวาดรวมๆของการเดินทางมายังอยุธยาซึ่งต้องผ่านทะเล ภาพทะเลนัน้อาจจะเป็นแหลมกู๊ดโฮปก้เป็นได้ ซึ่งในยุคนั้นนับว่าเป็นบริเวณที่ผ่านมายากลำบากแสนเข็ญผู้วาดเลยอาจจะอยากวาดบันทึกเอาไว้ก็เป็นได้ครับ (คหสต.) แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 55 13:59:28 จากคุณ : Oceanophila เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 09:43:30

ความคิดเห็นที่ 23 ลองเทียบเคียงผังในกรอบสีแดงครับ ผังเมืองอยุธยานี่เอง (เครดิตภาพการระบุตำแหน่งโดยคุณ Sigree Bin Mamak) จากคุณ : Oceanophila เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 09:48:36

ความคิดเห็นที่ 24 อีกหนึ่งทัศนะที่ยืนยันว่าไม่ใช่ที่ปาตานี (เครดิตคุณ สุกรี มะดากะกุล) จากคุณ : Oceanophila เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 09:56:21

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณคุณ Oceanophila มากครับ จากคุณ : ณ นนทบุรี เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 11:28:41

ความคิดเห็นที่ 26 เห็นภาพตอนแรกก็คิดว่านี่มันคุ้น ๆ เหมือนแผ่นที่พระนครศรีอยุธยา เหมือนกันครับ จากคุณ : alec เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 11:51:14

ความคิดเห็นที่ 27 คห. ที่ 20 ดูผ่านๆคล้ายกับใบเสมาครับ..อาจจะเป็นไปได้ว่า เป็นอิทธิพลของพุทธ-ฮินดู ที่หลงเหลือตกทอดมาในวัฒนธรรมมลายูปาตานี ก็เป็นได้ครับ (คหสต.) จากคุณ : Oceanophila เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 14:04:51

ความคิดเห็นที่ 28 ขอคารวะ 4 จอมนางแห่งปัตตานี ยอดสตรีผู้เก่งกล้าในประวัติศาสตร์ดินแดนสุวรรณภูมิ จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 1 ม.ค. 56 02:24:39