ความคิดเห็นที่ 1 ขึ้นอยู่กับว่าพูดถึงมหาวิทยาลัยไหนนะคะ ข่าวได้กล่าวถึงมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ค่ะ คือมีความพยายามจะเปิดมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อลดการรวมทุกอย่างเข้ามาที่กรุงเทพฯ (ซึ่งทำให้มีปัญหามากมาย) เป็นการกระจายโอกาสทางการศึกษาด้วย นอกจากนี้มหาวิทยาลัยในพื้นที่ก็น่าจะมีบทบาทในท้องถิ่นได้มากกว่าด้วยค่ะ ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ก็น่าจะมีปัญหาดังกล่าวจริงค่ะ แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่ากำลังพูดถึงสาขาไหนด้วยค่ะ คือต่อให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งมานานพอสมควร แต่เป็นสาขาที่อาจจะไม่ได้เป็นความถนัดของมหาวิทยาลัยนั้นก็อาจจะมีปัญหาขาดแคลนอาจารย์ระดับปริญญาเอก หรือปัญหาขาดแคลนอาจารย์โดยทั่วไปจริง ๆ เช่นสุรนารีกับภาควิชาการตลาดเป็นต้น ซึ่งมีอาจารย์ภายในภาคฯน้อยมากค่ะ จากคุณ : p เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 18:31:28 A:161.200.118.52 X: TicketID:270478

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านข่าวแล้ว ก็มีความเห็นว่า บ้านเมืองมันพัฒนาผิดทางยังไง มันก็จะยังคงผิดทางอยู่อย่างนั้นต่อๆ ไป สรุปท้ายเรื่องมาได้ว่า "ขณะที่ในส่วนของมหาวิทยาลัยเกิดใหม่ เช่น กลุ่ม มรภ.และกลุ่ม มทร. คงต้องใช้เวลาโดยมหาวิทยาลัยเก่าแก่ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มธ. เป็นต้น ต้องเป็นแหล่งช่วยผลิตอาจารย์ที่มีคุณภาพให้กับมหาวิทยาลัยเกิดใหม่" เอาเข้าไป แทนที่จะกระ:-)กระสนผลิตอ.ป.เอก ขึ้นมาแล้วส่งไปป้อนม.เกิดใหม่  มิสู้ควบคุมไม่ให้ม.เกิดใหม่มันขึ้นมายุบยับจะดีกว่า พวกนี้พูดจาไป หลับตาข้างเดียว ตลอด บ้านเราในตอนนี้ มันไม่ได้ขาดแคลนมหาลัยในเชิงปริมาณ หรืออีกนัยหนึ่งคือ มันไม่ได้ขาดแคลนคนจบป.ตรี (ที่ไม่ได้มาตราฐาน) ปัญหาของบ้านเราในตอนนี้ คือ การศึกษาในสายวิชาชีพ มันกำลังลงเหว ลงนรก ไปจะหมดแล้วต่างหาก เมื่อไหร่จะเกาถูกที่คันสักที จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 21:34:32

ความคิดเห็นที่ 3 คคห 2 พูดถูกเข้าเป้าจริงๆ คนไทยส่วนใหญ่ดูถูกวิชาชีพ ใครๆก็อยากได้ปริญญา แต่อนิจจาคนจบปริญญาตรี หรือแม้กระทั่งปริญญาโท กับปริญญาเอกจากมหาลัยปลายแถว หลายๆคนมีความรู้ไม่ถึง ม.6 ด้วยซ้ำไป! ดังจะเห็นได้ในกระทู้คุณภาพครูตกต่ำที่เถียงกันมาหน้าดำหน้าแดงตั้งหลายกระทู้แล้ว ก็ครูพวกนี้หละที่มาจากมหาลัยที่สร้างบัณฑิตไม่ได้มาตรฐาน สร้างออกมาปีละเป็นแสนๆ  แล้วคนพวกนี้ดันเข้าไปเป็นครูด้วยนะ ก็เลยช่วยๆกันเข้าไปสร้างความหายนะให้แก่ระบบการศึกษาไทย จริงๆแล้วคนพวกนี้น่าจะเรียนเป็นช่างปูน ช่างไม้ ช่างซ่อมรถ หรือแม้กระทำทำงานประเภทใช้แรงงาน ประเทศไทยมีช่างหรือแรงงานดีๆจะพัฒนาได้รวดเร็วว่ามีบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต ที่ไม่ได้มาตรฐาน เต็มบ้านเต็มเมือง ตอนนี้ประเทศไทยกลายเป็นมีภาพลักษณ์ว่า "เป็นประเทศที่มีคนจบวุฒิสูงๆแต่สติปัญญาต่ำๆเกลื่อนกลาดอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง" เป็นไปได้หรือไม่ที่สังคมไทยจะเลิกกดขี่คนจบวิชาชีพ เลิกกดขี่แรงงาน แต่ทำอย่างประเทศอุตสาหกรรมเขา ยกตัวอย่างเช่นในประเทศอังกฤษเศรษฐีใหม่ส่วนใหญ่มาจากกรรมกรก่อสร้าง เพราะอาชีพนี้ค่าแรงสูงลิบลิ่ว! แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 55 22:26:55 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 22:25:00

ความคิดเห็นที่ 4 กิฟหมด อดให้อีกแหละ  เสียดายใจ  โดนจัง จากคุณ : ปากกัดตีนถีบ จีบไม่ลง (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 22:27:26

ความคิดเห็นที่ 5 จากคุณ : bobby_bee เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 55 01:23:28

ความคิดเห็นที่ 6 แถมไอ้ที่ไปเรียนวิชาชีพส่วนนึง ดันเอากากไปเรียนอีก มันไม่ค่อยเรียนยังชวนเพื่อนเกเรก็มี จนต้องให้พี่ ปู พงษ์สิทธิแจกกล้วยด้วยน้ำโห พี่ผมคนนึง เป็นอาจารย์สอนอาชีวะ แกบอกรู้มั้ยว่าสาขาทางกล้วยไม้ ตลาดแรงงานต้องการสูงมาก จบแล้วมีงานทำแน่นอน รายได้ของเด็กที่จบ ปวส.ด้านนี้ ดีกว่า คนที่จบ ป ตรี (ที่ไม่ใช่หมอ) เสียอีก แต่คนไม่ค่อยรู้กัน ที่ผมเป็นห่วงก็คือ พอไอเด็กจบ ปวส.ที่ว่า มันไปเรียนต่อ ป.ตรี คราวนี้ ค่าตัวมันจะลดล่ะ เพราะมันจะรอทำงานนั่งโต๊ะ ไม่ยอมไปเพาะเนื้อเยื่อ ไม่ยอมไปผสมสารละลายทำปุ๋ย ไม่ยอมลงแปลง อืมม แล้วเงินเดือนมันก็จะลดลงตามความสามารถที่ลดลง แหง เลย จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 55 01:55:06

ความคิดเห็นที่ 7 จะเล่าเรื่องช่าง 2 คนในหมู่บ้านเราให้ฟัง คนหนึ่งนะขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่เราเคยจ้างให้มาทำงานแบบ handyman ทั่วๆไป อะโหเหลือเชื่อจริงๆแกทำไฟฟ้าเหมือนช่างไฟมืออาชีพเลย แถมงานพวกช่างไม้ กับช่างประปาก็ทำได้อีกด้วยนะ แถมเป็นช่างกุญแจอีก เราทึ่งในฝีมืออยากส่งเสริม เราถามเขาว่าสนใจไหมเราจะโฆษณาบน websites ให้ว่าเขารับซ่อมอะไรได้หลายอย่างเผื่อจะมีงานเข้ามา จะได้ตั้งเป็นบริษัทเล็กๆของตัวเองได้ อีกไม่กี่วันแกไปเลือกตั้งสมาชิกอะไรท้องถิ่นน่ะ ไม่แน่ใจ รู้สึกจะเป็นสมาชิกคณะกรรมการหมู่บ้านหรืออะไรเนี่ย พวกคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วยกันก็ช่วยๆกันเลือกแก เราก็ช่วยเลือกแกด้วย แกชนะได้ตำแหน่ง จากนั้นเราโทรเรียกให้มาซ่อมอะไรอีก แกไม่มาเลยแฮะ ถามว่าไปไหนล่ะ แกตอบว่า "กำลังเรียนต่อปริญญาตรีให้จบ กะจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น" อีกรายทีแรกซ่อมได้แต่วิทยุ โทรทัศน์ เทป (คงไปเรียนมาหลักสูตรสั้นๆ) ซ่อมๆไปอยู่ดีๆแกซ่อมตู้เย็นก็ได้ ติดตั้งซ่อมแอร์ ซ่อมตู้เย็น ซ่อมเครื่องซักผ้าก็ได้ (คงไปเรียนเพิ่มมา) มีอยู่วันหนึ่งพ่อเราเรียกมาซ่อมระบบประปา โหซ่อมประปาก็ได้อีกด้วย! เราชักจะติดใจคราวต่อไปโทรเรียกใช้บริการ แต่เชื่อไหมแค่มาเปลี่ยนหัวก๊อกน้ำให้เราอันเดียวอะนะ คิวนัดลูกค้าเขายาวเหยียดเลยอ้ะ เราต้องรอเขาตั้งเกือบ 10 วันแน่ะกว่าจะว่า คือต้องรอเพราะไม่เหลือช่างแล้วเนื่องจากช่างคนแรกกลายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นไปซะแล้ว แต่แหมช่างคนที่ 2 นี้คิวแน่นแบบนี้รายได้แกคงไม่เบาเลยทีเดียว เอาเป็นว่าคำนวณง่ายๆนะ แค่ค่าจ้างเดินสายโทรศัพท์แค่จุดเดียวนะเดี๋ยวนี้ราคาจุดละ 1,000 บาท เชียวนะ เปลี่ยนหัวก๊อกน้ำแพล๊บเดียว 400-500 บาท จริงๆแล้วชีวิตช่างนี่ก็รายได้ไม่เลวเลยนะ เราก็เคยอยากจะเป็นช่างคอมพิวเตอร์ แต่เป็นไม่ได้อ้ะ คือเราเก่ง pc configuration ติดตั้งระบบได้ แก้ปัญหา software ได้ เรื่อง hardware เรารู้ว่าจะถอดประกอบรื้อเครื่องตรงไหนอย่างไร แต่พอทำจริงๆมือเราหนักและใจร้อนด้วย คือถ้าไม่ดึงสายไฟขาดเราก็ทำชิ้นส่วนตรงไหนหักสักแห่ง ขืนทำอาชีพนี้เราต้องจนตายแน่ๆเพราะวันๆได้แต่ทำ hardware ลูกค้าพัง...ต้องเอาเงินไปชดใช้เขา...555+++... วันหนึ่งเรายกเครื่องคอมฯไปให้ช่างคนหนึ่งซ่อม แล้วเราอธิบายอาการเสีย แล้วบอกเขาเสร็จว่าต้องซ่อมยังไง เขาย้อนถามว่า "ถ้ารู้ แล้วทำไมไม่ซ่อมเองล่ะ" เราตอบว่า "รู้วิธีทำ แต่ทำเองมือหนัก ไม่สายไฟขาดก็ชิ้นส่วนหัก" เขาตรวจเครื่องดูแล้วพบว่ามันต้องซ่อมแบบที่เราบอกจริงๆนั่นหละ แล้วเขาหัวเราะก๊ากใหญ่บอกว่า "โห คุณรู้ขนาดนี้รู้มากกว่าช่างแถวๆ Pantip Plaza บางคนซะอีก" แล้วต่อมาเรากับช่างคนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน  ช่างคอมพิวเตอร์คนนี้ั จบแค่อาชีวะ แต่รวยนะ มีรถเบ็นซ์ขี่ ซื้อบ้านของตัวเองซึ่งใช้เป็นร้านรับซ่อมคอมฯ รวยตรงขายเครื่องให้ลูกค้าที่เครื่องพังซ่อมไม่ได้แล้ว และรับติดตั้งระบบให้หน่วยงานยังไงล่ะ งานช่างนี่ก็ไม่เลวนักนะ เพียงแต่เราทำไม่ได้เพราะเรามือบัลลัยกัลป์...555+++... อีกช่างหนึ่งที่เรียนง่ายแต่ต้องอาศัยความใจเย็นมากๆ นั่นก็คือช่างติดตั้ง films กันรอย ให้ notebooks กับ tablets ถ้าอยู่ทำเลเหมาะๆวันหนึ่งได้เงินเยอะนะ คิดลูกค้ารายหนึ่ง 350 -500 บาท บางเจ้าวันหนึ่งติดให้ลูกค้าเป็นสิบๆราย เงินไม่ใช่น้อยๆนะ แต่เราก็ทำอาชีพนี้ไม่ได้อีกนั่นแหละ เพราะเราคงตัด film เบี้ยวหรือเจาะรู film ไม่ตรง webcam หรือไม่ตรง light sensor ยิ่งเครื่องบางเครื่องต้องตัด film เว้นช่องว่างหลายแห่งก็มี เช่นต้องเจาะรูให้ปุ่มสวิตช์อะไรบางอย่าง หรือต้องตัด films หลบไม่ให้ไปบัง microphones ช่างตัด film คนที่ทำให้เครื่องล่าสุดเรา(ที่มีรูกับมีปุ่มเยอะมากๆจนตัด film ได้ยากมากๆ) แต่ช่างรายนี้ทำได้ลงตัว (รูกับช่องว่างตัดเจาะพอดีเป๊ะเลย) ทั้งๆที่่เครื่องรุ่นเราไม่มี film สำเร็จรูปด้วย มือแม่นฉมังจริงๆแฮะ นับถือ นับถือ นี่ถ้าเรายึดอาชีพนี้เราคงทำ films พังไปวันละหลายสิบแผ่น เผลอๆทำ notebook หรือ tablet ลูกค้าตกพัง ต้องไปชดใช้เงินเขา ลงเอยกลายเป็นขาดทุนในที่สุด ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอย คืนนี้เราทดสอบ software อยู่จนดึกเลย เผ่นไปนอนก่อนดีกว่า...555+++... แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 55 03:41:50 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 55 03:13:14

ความคิดเห็นที่ 8 ข่าวสมัยไหนครับ "นายประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) " นี่สมัยที่แล้วนะ ปัจจุบันคือ อาจารย์สมคิด อธิบการ มธ นะ จากคุณ : PingZaThammasat เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 55 17:12:53