สำหรับตัวเองอยากเห็นซีรี่ยส์ Shopaholic สร้างเป็นหนังจัง เพราะอ่านแล้วมันส์ดี และท่าทางคงเป็นหนังช้อปปิ้งสติแตกไปเลยน่ะค่ะ แต่ที่แน่ๆ รู้สึกว่า Can You Keep a Secret? จะทำเป็นหนังแล้ว แต่ไม่รู้ใครเล่นเป็นนางเอกนะคะ
- His Dark Materials - Phillip Pullman เป็นชุดหนังสือเด็กที่ดังมาก ถ้าสร้างเป็นหนังคงจะสนุกดี
- The Banned and the Banish - James Clemens โฮ่ ๆๆ ซีรียส์นี้สนุกที่สุด ถ้าทำได้ดี รับรองว่าสนุกไม่แพ้ LOTR ฮี่ ๆ รบกัน กระหน่ำ
- Tales of Otori อันนี้ถ้าเป็นหนังก็น่าหนุกนา
- หนังสือแนวฆาตกรรมของ Deaver อย่าง THe Bluenowhere หรือ the Vanish Man ((อันนี้เป็นภาคต่อของ ลินคอนด์ ที่ทำเป็นหนัง ไปแล้วด้วย)) น่าจะเป็นแนวฆาตกรรมที่สนุกสนาน
อีกเล่มที่คิดว่าจ่าจะเอามาทำเป็นหนังด้วยน่าจะเป็น The Dante Club ....เล่มนี้ส่วนตัวนิดยังไม่ได้อ่านเลยค่ะเลยอยากให้เอามาทำเพราะว่าจะได้ไม่ต้องอ่านหนังสืออีก 555 อ้อ อีกอย่างเพราะว่าไปอ่านรีวิวของคุณยาคูลท์มาเลยอยากอ่านมากๆ แต่ว่าหายืมเอาจากห้องสมุดที่นี่ไม่ได้ นิดเลยต้องอดไปซื้อเอาตอนกลับไทยหนหน้าเอา
ตาล ... เราได้เรื่อง The Book of Illusion มาแล้วล่ะ แล้วก็กำลังจะเริ่มอ่านแล้วล่ะ เห็นตาลแนะว่าสนุกมากก็เลยคิดว่าไม่น่าพลาด แล้วตอนนี้อ่านเรื่อง fingersmith ถึงไหนแล้วจ้ะ เกินหน้าร้อยกว่าๆ หรือยังเอ่ย 555 อ่านต่อไปนะสู้ สู้ ถึงหนังสือมันจะหนาไปหน่อยก็เหอะ
นิด book of illusion สนุกมาก อ่านแล้ววางไม่ลงเลย fingersmith ของเรากำลังเตาะแตะไปถึงเกือบๆหน้า 200 แล้ว ตอนนี้ gentlemanแต่งงานกับคุณหนูคนนั้นแล้วล่ะ เล่มนี้อ่านช้าเพราะบังเอิญได้อ่านเล่มอื่นลัดคิวไปอีก 2 เล่มน่ะ นั่นก็คือ South of the border, west of the sun by haruki murakami เล่มนี้มีบทวาบหวามเยอะเหมือนกันน่ะเนี่ย เผื่อใครจะสนใจ ส่วนอีกเล่มคือ Siddhartha by Hermann Hesse แต่ตาลอ่านฉบับแปลไทยของสีมน อ่านแล้วได้แง่คิด ข้อคิดเยอะเหมือนกันนะ ปรัชญาดี ชอบค่ะ คิดว่าจะไปหาเล่มอังกฤษมาอ่านซ้ำอีกครั้งเพราะคิดว่าเป็นหนังสือประเภทที่จะได้คำตอบในการอ่านแต่ละครั้งแตกต่างกันไป ยิ่งอ่านบ่อยน่าจะยิ่งคิดได้แตกฉานมากขึ้นน่ะ
รายงานข่าวเล็กน้อย เมื่อวันเสาร์ได้หนังสือมาอีกแล้วค่ะ ได้มา 3 เล่มจากร้าน dasa ใกล้เอ็มโพเรียมน่ะ -an instance of the fingerpost by iain pears 170 baht - the devil and miss prym by paulo coelho size B 220 baht - man's search for meaning by victor E. Frankl 90 baht
จากนั้นก็ไปเดินเอเชียบุ๊คส์ ก็ไม่วายได้จ่ายเงินอีกแล้วเพราะหนังสือถูกเหลือเกินค่ะ เขาเอามาลดราคาแบบ 3 for 2 เป็นแพ็ค sealed ไว้อย่างดีเลยค่ะ ได้ the eyre affair, lost in a good book, และ the well of lost plots ในราคา 595 บาทลดอีก 10% เหลือแค่ 535 เองค่ะ แอบไปเห็นเวปคุณโอคุณเฟย์เพิ่งอัพเดทรีวิวหนังสือเพิ่มและข่าวหนังสือพอดีค่ะ มีพูดถึง something rotten ซึ่งเป็นเล่มที่ 4 ต่อจากที่ตาลซื้อด้วยค่ะ (เห็นที่เอเชียบุ๊คส์สยามด้วยเป็นเล่มไซส์Bปกแข็งอยู่) ขออนุญาตมาแปะลิงค์ให้เลยนะคะ http://faylicity.com/book/
อ้อ หนังสือแปลของ linda ที่แปลจาก open season มันมีเล่มเดียวเน่าๆเลยไม่ได้ซื้อ พอไปดูอีกที หายไปจากท้องตลาดซะแร่ว... (ว่าแต่พี่ติ่มได้นิมิตรึยังเอ่ยเพราะปันไม่เห็นแล้วเช่นกัน แหม สำหรับคนเขียนขายดีๆนี่ หมดเร็วมากเลยเนอะ)
เรื่องเริ่มต้นจาก Dr. Henry Pierce เพิ่งจะย้ายเข้าอพาร์ทเม้นท์ใหม่ แล้วได้จู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากบรรดาผู้ชายที่โทรมาหาแต่ Lilly ซึงมารู้ทีหลังว่าเป็นสาวคนนึงที่ทำงานเป็นสาวเอสคอร์ต
ตอนนี้ยกธงขาวให้หนังสือที่เล่าว่าอ่านอยู่คือ Crimson Petal and The white นะคะเพราะว่ามันยืดมากกกกกกกกกก (ฮือๆๆๆ อ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้วแต่ทำใจไม่ได้ เพราะสี่ร้อยหน้าสรุปความได้แค่ว่านางเอกเป็นโสเภณีที่ฉลาดมาก พระเอกแนว wimp ยังไงไม่รู้และเมียพระเอกบ้า เป็นไปได้ไง สี่ร้อยหน้า ซึ้งใจแค่นี้???) ตอนแรกว่าจะกัดฟันอ่านต่อเพราะเสียดายเงินมากๆ (รับแบบไม่อาย อุอุ) แล้วก็อยากอ่านให้รู้ตอนจบด้วย แต่พอดีมีคนใจดีเอา The Queen's Fool มาให้ กับ Note on a Scandal เล่มหลังอุปการะของคุณป้า อ่านจบแล้วนะคะ แสบๆมันๆคันดีเจงๆ อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ภาษาดีสมกับที่ตัวเอกเป็นคุณครูจริงๆ
วันนั้นเราไม่น้อยหน้า แม้ว่าหนังสือที่เราไปสอยจากร้าน dasa มาได้จะไม่ราคาดีเท่าของพี่ปูนะคะ (ไปด้วยๆๆ วันหลังไปล่ากันนะคะพี่) ได้ what a carve up กับ My name is Asher Lev ที่ตามหามานานอีกสองเล่มค่ะ
เพิ่งสำนึกได้ว่าไม่ได้รีวิวอะไรเลยหลัง Angel and Demon เอาเวลาไปทำไรนะนี่ (พี่ติ่มกรุณาอย่าตอบว่ากินนอนนะคะ อายเค้า ฮ่าๆๆ)
ไอซ์ Dog of Babel สนุกเหรอ? พี่เหล่เล่มนี้มานานแล้ว แต่ชะงักเพราะมันมีแต่ไซส์เอ เดี๋ยวคราวหน้าไปเปิดดูฟอนต์หน่อยดีกว่า ตอนนี้เห็น Making Hay ลดเหลือ 99 บาทล่ะ กำลังคิดว่าคราวหน้าไปบีทูเอสอาจจะคว้า
อุอุอุ... ขอบอกเพื่อนร่วมทู้ว่าเหตุผลที่คุณพัทตัดใจไม่ขาดจาก the crimson petal and the white นั้นนอกจากเรื่องราคาแล้วยังมีเรื่องลีลาอื่นๆ ส่วนลีลาไหนขอไม่เอ่ยในทู้ค่ะ... ใครอยากรู้ต้องไปพิสูจน์เอง
ตอบคำถามของทู้นี้ค่ะ หนังสือที่อยากเห็นเป็นหนังเพราะขี้เกียจอ่านคือ the true history of the kelly gang มันอ่านยากน่ะค่ะ เรื่องแนวโจรป่าอย่างนี้ดูเป็นหนังน่าจะสนุกดี
ส่วนที่อยากเห็นเป็นหนังเพราะแรงรีวิวของคุณไอซ์คือ the Queen's Fool กับ the other boelyn girl นั่นแหละค่ะ ป้าชอบลิเกฝรั่งกระโปรงบานๆ ผมเป็นหลอดเดินเพยิบพะยาบไปมา ยิ่งเรื่องในรั้วในวังยิ่งน่าดู ส่วน Fingersmith ป้าไม่ยักกะอยากเห็นเป็นหนังแฮะ มีความรู้สึกว่าเสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่กลวิธีการเขียน ทำเป็นหนังอาจจะไม่สนุกเท่าไหร่
อีกเรื่องที่อยากเห็นเป็นหนังคือ Changing Places ของ David Lodge เรื่องของอาจารย์ในโครงการแลกเปลี่ยน ของอังกฤษกับอเมริกา อาจารย์อังกฤษไปที่อเมริกา ส่วนอาจารย์อเมริกันไปอังกฤษ เล่าเรื่องสองคนนี้คู่ขนานกันไปค่ะ ป้านึกๆ ดูว่าถ้าลองใช้นักแสดงอังกฤษกับอเมริกัน กับผู้กำกับสองคนทำแยกกันไปแล้วเอามารวมเป็นเรื่องเดียวน่าจะมัน หนังสือเรื่องนี้สนุกนะคะ มีตอนต่อมาชื่อว่า small world ป้ายังไม่ได้อ่าน แต่ได้ยินว่าประสบความสำเร็จดีมาก และมีการเอาไปทำหนังชุดทางโทรทัศน์อังกฤษด้วย
ตอนนี้กำลังอ่าน Nice work ของ David Lodge นี่แหละค่ะ เสียดสีสนุกค่ะอ่านไปก็ขำไป หนังสือเก่า อาจจะตกยุคไปบ้างเพราะเนื้อหาอิงกับสถานการณ์สังคมค่อนข้างมาก แต่อ่านแล้วทึ่งว่าผู้เขียนช่างผูกเรื่องเอาปัญหาของยุคสมัยมากัดได้แสบๆ คันๆ ดีแท้ เรื่องนี้เข้ารอบสุดท้าย Booker prize ปี 1988 ค่ะ อ่านจบแล้วจะมารีวิวอีกรอบค่ะ
อีกเล่มนะคะ South of the border, west of the sun by Haruki Murakami พอดีมีเพื่อนส่งหนังสือเล่มนี้มาให้น่ะค่ะ เลยทำให้รู้จักงานเขียนของนักเขียนชื่อดังคนนี้ ไม่ทราบว่ามีใครเคยอ่านเล่มอื่นๆของเขาบ้างคะ ดีหรือเปล่าเอ่ย อยากรู้จังเพราะเท่าที่อ่านเล่มนี้ไม่ได้ถูกใจอะไรมากมายค่ะ (แต่มีบทแบบนั้นเยอะจังเลย)
ลืมแปะปกหนังสือน่ะค่ะ แต่ปกเล่ม south of the border ของตาลสวยกว่านี้เยอะเลยนะเนี่ย อิอิ สบายแล้ว รีวิวไป 2 เล่มค่อยมีข้อแก้ตัวอู้รีวิวได้อีกยาวเลย อิอิ
พี่ติ่ม book of illusion ตาลอ่านแล้วเศร้าเหมือนกันน่ะค่ะ แต่ความประทับใจมันมากมายเหลือเกิน ชอบจริงๆค่ะ oracle night ตาลก็ว่าจะอ่านอาทิตย์นี้เหมือนกันค่ะ
Almost like being in love น้องสาวคนรองเติบโตขึ้นมาแบบคนที่รู้สึกถูกทรยศ เข้าใจว่าพี่ทอดทิ้งไม่คิดตามหาตัวเอง เลยกลายเป็นคนอยู่ไม่ติดที่ เปลี่ยนชื่อไปเรื่อย ไม่ต้องการให้ใครรู้จักตัวตนที่แท้จริง
พี่ติ่มค่ะ นิดเพิ่งจะจับหนังสือเรื่อง The Book of Illusions เมื่อสองสามวันก่อนนี้เองค่ะ ตอนนี้เก็กือบจะอ่านจบแล้วและความรู้สึกที่อ่านออกจะหม่น แต่ถือว่าเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่นิดไม่ค่อยจะได้อ่านบ่อยๆ แล้วก็ชอบมากเหมือนกันค่ะเพราะอ่านแล้วอ่านได้อย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่สนุกนิดหน่อยตอนที่อ่านช่วงตัวละครพูดกันเค้าไม่ได้แบ่งแยกวรรคตอนให้อ่านง่ายๆ เลย
พี่ติ่มคะ Tom Clancy นี่พอดีอ่านเป็นภาษาอังกฤษ เลยอ่าน The Teeth of the Tiger อยู่ ตอนนี้เป็นเรื่องของพวก Terrorist ที่ร่วมมือกับขบวนการค้ายาเสพติด โดยเปลี่ยนตัวเอกไปเป็น Jack Ryan Jr. (ที่เพิ่งเกิดตอน Patriot Game) เพราะคงไม่รู้จะเขียนอะไรเกี่ยวกับพ่อ ที่เป็น Ex-president ไปแล้ว Red Rabbit อ่านไปบ้างแล้ว ไม่ค่อยชอบ เลยไปรอในกองดอง อ่านหนังสือของ Clancy หลายเล่มไปแล้ว คิดว่าถ้าพวกก่อการร้ายอ่านด้วย เป็นการชี้ช่องหรือเปล่าเนี่ย
แต่ก่อนอื่นอยากกถามพี่ๆ น้องๆ ค่ะว่างานของ Donna Tartt มีใครอ่านมั่งค่ะ เพราะว่าตอนนี้อ่านเรื่อง The Little Friend อยู่ เห็นว่าผลงานเล่มนี้ของเค้าก็สนุกดี เลยอยากถามว่ามีหนังสือจากผู้เขียนคนนี้ที่อยากแนะนำเพิ่มเติมไม๊ค่ะ
มาสอนครับ(วันเสาร์ก็มีสอนอ่ะ แหง่ก) ตอบคุณนิด Donna Tartt เขียนนิยายมาแค่สองเล่มครับคือ The Little Friend ที่คุณนิดอ่านอยู่(นี่เป็นเรื่องที่ 2) ส่วนเรื่องแรกชื่อ Secret History ก็สนุกดีครับ เป็นนิยายแนว Thriller ที่ตื่นเต้นเร้าใจแท้...
แต่ยังอ่านหนังสือไม่เลิกราค่ะ อ่าน Nice Work ของ David Lodge จบไปพักใหญ่แล้ว สนุกจริงๆ ทั้งพลอตเรื่องและตัวละครเขียนได้เหมาะเจาะมากค่ะ ถ้าใครชอบหนังสือแนวเสียดสี แถมมีการปะทะคารมเฉียบคม ไม่น่าพลาดค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เรียนวิชาทางวรรณคดี หรือเป็นวิศวกร อีกไม่นานจะเอารีวิวมาแปะค่ะ
ตอนนี้กำลังอ่าน Waiting for the dark, waiting for the night ของ Ivan Klima นักเขียนชาวเชก ที่คุณเพติ๊ดเคยเชียร์ไว้ โทนเรื่องออกจะหม่นๆ สลัวเลือนลางสมชื่อหนังสือเลยค่ะ เนื้อหาน่าสนใจมาก เป็นชีวิตของช่างภาพโทรทัศน์ที่ผ่านช่วงเวลาของยุคเผด็จการ ก้าวเข้าสุ่ยุคประชาธิปไตยในเชก แทรกสลับด้วยเรื่องของประธานาธิบดีผู้ครองอำนาจยาวนานและผ่านวันเวลาบั้นปลายไปด้วยความหวาดระแวง เพราะอ่านเรื่องนี้ จึงทำให้อยากถามหลานๆ ว่าใครรู้เรื่อง Velvet revolution ในเชกบ้างหรือเปล่า
คุณโป้...ป้าออกจะผิดหวังกับ Gosford Park นะคะ ป้าว่าใช้ดาราไม่คุ้มเลย ตัวละครมากจนได้บทกันแค่คนละเล็กละน้อย ลงท้ายเลยไม่มีตัวเด่นโดดออกมาให้เราจำได้ งานของ โรเบิร์ต อัลท์แมน เรื่องหลังๆ ป้าไม่ประทับใจเลยค่ะ เรื่องสุดท้ายที่ดูแล้วชอบคือ the player หลังจากนั้นก็งั้นๆ ขนาด pret a porter (หวังว่าคงไม่ได้จำผิดนะคะ) ที่น่าจะมีสีสันหน่อยก็ยังดูจืดสิ้นดี
วันก่อนแอบย่องไปห้องไซไฟไปคุยเกี่ยวกับนาร์เนียแล้วก้อหนังสือเล่มเดียวในดวงใจมา เห็นหลายๆ คนเค้าชอบเรื่อง The neverending story กันมากเลยค่ะ เพื่อนๆที่นี่มีใครอ่านบ้างหรือยังค่ะ แวะมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะว่าเป็นงัยบ้าง
อยากอ่านเรื่อง Snobs มาตั้งนานแล้วค่ะ ดีใจที่คุณโป้มารีวิวให้ อ่านรีวิวแล้วนึกถึงเรื่อง Vile Bodies หนังสือยุคเก่ากึ้ก ที่สตีเฟ่น ฟราย เอามาสร้างเป็นหนังเรื่อง Bright Young Things หนังเรื่องนี้มะวันชอบมากเลย
คุณ tc ซื้อหนังสือตุนไว้นี่ระวังนะคะ เดี๋ยวเจอรูปเล่มถูกใจกว่าออกมาแล้วจะชีช้ำกะหล่ำปลี ติ่มเพิ่งเฮิร์ทจากเรื่อง Birth of Venus ล่าสุดเจอ Song of Scorpio กับ Miracle at Santo Pico ... เรารึอุตส่าห์ซื้อปกแข็งเพราะนึกว่าคงไม่มีขายในไทยหรือไม่มีไซส์ใหญ่ ที่ไหนได้ วางขายไซส์บีราคาน่าซื้อเฉยเลย
เพติ๊ด Song of Scopio (จำชื่อถูกเปล่าเนี่ย?) นี่เธออาจสนนะ คนแต่งคนเดียวกับ Instance of Fingerpost ไง ตอนนี้เอเชียบุ้คมีไซส์บีขายอยู่ ...พร้อม fingerpost ที่เราไม่เข้าใจจริงจริ๊งว่าเธอหายังไงถึงหาไม่เจอ 55555
เคยดู Pret a Porter ในโรงใหญ่ค่ะ จำได้เพราะชื่อมันตลกดี แล้วก็ผิดหวังกับ Gospel Park เหมือนกัน ดาราที่ชอบเพียบ แต่ดูแล้วแทบหลับ ช่างเรียบเรื่อยเฉื่อยชาราวชีวิตจริงเสียนี่กระไร
เพิ่งอ่าน Waiting for the dark, waiting for the night จบไปค่ะ...ชอบอีกแล้ว อ่านแล้วเกิดอารมณ์หมองลึกๆ เรื่องนี้ปกหน้าเป็นรูปสาวเปลือยยืนหันหลังให้มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นก้นเต็มๆ เลยค่ะ ป้าก็ลืมตัว วันหนึ่งคว้าหนังสือเล่มนี้ออกมาอ่านบนรถไฟฟ้า หนุ่มน้อยที่นั่งติดกันอายุสักสิบเอ็ด สิบสองได้มั้ง ยังใส่เครื่องแบบลูกเสือ หัวเกรียนอยู่เลย แกทำตาโตมองปกหนังสือแล้วก็มองหน้าป้า (สงสัยคิดว่าป้าคนนี้หน้าตาก็เรียบร้อยดี ทำไมตัณหาจัดจังเลย... 55555) ...เฮ้อ...ป้าสำนึกผิดจังเลย ไม่รู้หนุ่มน้อยใจแตกไปบ้างหรือเปล่า....
เพิ่งเริ่ม Slaughterhouse -five ของ Kurt Vonnegut, Jr. เริ่มชอบอีกแล้วค่ะ
โอ๊ะ โอ ดีใจจังเลยค่ะ ที่คุณป้าชอบเรื่อง Waiting for the dark, waiting for the light ค่ะ ตอนนี้หนูก็หยิบขึ้นมาอ่านเป็นรอบที่ 2 เหมือนกันค่ะ อ่านแล้วชอบเหมือนกันเลย Klima เขียนดีนะคะ บรรยากาศเหมือนดูหนังยุโรปยังไงยังงั้นเลย จะหม่นๆ เย็นๆ เครียดๆเล็กน้อย แถมตีแผ่ความเป็นเช็คได้ดีและชัดเจนมากๆเลย realistic ดีจัง อ่านแล้วก็ประทับใจเหมือนเดิม ใครสนใจหนังสือที่มีบรรยากาศแปลกๆไปจากเดิม ก็สนใจหามาอ่านกันได้นะคะ หนังสือของเขาได้ข่าวว่าโดนแบนในประเทศเขาซะจนลืมยาวเลย คนเช็คเองก็เพิ่งได้มีโอกาสอ่านงานของเขาเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองค่ะ
แถมอีกหน่อยนะคะ เรื่อง Waiting for the dark, waiting for the light นี่เป็น notable book of the year 1995 ของ NYTimes ด้วยนะคะ มีคำชมหน้าปก หลังปกเพียบเลย