ความคิดเห็นที่ 1 อย่างตัวเองนะคะ 1. แนวสืบสวนเล่มแรกที่อ่าน แน่นอนว่าเป็นของ อกาธา คริสตี้ ชื่อเรื่องจำไม่ได้แน่ชัด คิดว่าคงเป็นฆาตกรรมบนรถด่วน--- ความรู้สึกหลังอ่านจบ ชอบมากค่ะ และเลยหาอ่านเล่มอื่นต่อๆๆๆมา 2. หนังสือเด็กเล่มแรกที่อ่าน โต๊ะโตะจัง --อ่านแล้วรู้สึกเฉยๆ ไม่ประทับใจมากและงงว่าทำไมถึงดัง หรือว่าตอนอ่านยังเด็กเกินไปก็ไม่รู้ เลยเว้นช่วงไปนานเลย กว่าจะอ่านหนังสือเด็กอีกที ตอนกลับมาอ่าน จำได้ว่าเป็นเรื่องแม่มด ชอบมากเลย 3. Chick Lit เล่มแรก บริดเจ็ทโจนส์ ไดอารี่-- อ่านไปขำไปค่ะ ชอบมาก ก็เลยหันเหมาชอบ chick lit มาโดยตลอด (แต่ตอนนี้หาสนุกมากๆไม่ค่อยได้อ้ะ) 4. วรรณกรรรมเยาวชน แฟนตาซีเล่มแรก แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ -- ความรู้สึกไม่ต้องพูดถึง ติดมากๆ แต่ชอบน้อยลงๆตามลำดับนะคะ คือเล่ม1-3 มากที่สุดอ้ะ 5. หนังสือญี่ปุ่นเล่มแรก ริง --- ชอบมากกกกกกก ดันอ่านตอนกลางคืนซะด้วย 6. หนังสือเกาหลี เมียผมเป็นเจ้านาย--- อ่านได้เพลินๆ ไม่ติดใจ เหมือนอ่านการ์ตูนเลยไม่ได้อ่านหนังสือเกาหลีอีกเลย 7. โรมานซ์เล่มแรก Dear Cupid -- อ่านจบแล้วก็อึ้งๆแบบคนไม่เคยอ่าน อิๆ อ่านเพลินๆแต่ไม่ชอบมากเท่าไหร่ นึกออกแค่นี้ก่อนนะคะ ไปทำงานต่อก่อนแระ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 47 11:26:24 จากคุณ : L.I.R.A. - [ 12 พ.ย. 47 11:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอ จะได้เป็นคนแรกของกระทู้หรือเปล่าเนี่ย ที่จำแม่น การ์ตูนเด็กผู้หญิงญี่ปุ่น เล่มแรก แคนดี้แคนดี้ ที่เหลือ เอาแบบที่พอจำได้ นิยายกำลังภายใน เล่มแรก น่าจะเป็นมังกรหยก แต่ถ้านับว่าอ่านในหนังสือพิมพ์ ไม่ได้อ่านเป็นเล่ม น่าจะเป็นศึกสายเลือด fiction เริ่มอ่านเป็นภาษาอังกฤษ (ก่อนหน้านั้นอ่านแบบแปล) ของ Sidney Sheldon แนว espionage เริ่มจาก Tom Clancy - Hunt for the red october ไม่ว่าอ่านแนวไหน ก็อ่านแล้วติดค่ะ นอกจากหนังสือเรียน อิ อิ จากคุณ : tc - [ 12 พ.ย. 47 11:29:24 A:203.151.122.229 X: TicketID:046716 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อืม ยากเหมือนกันนะที่ถามว่าอ่านอะไรเป็นเล่มแรก แบบว่ามันลืมไปแล้วน่ะสิ ** หนังสือเด็ก - จำไม่ได้น่ะ มันเนิ่นนานมาแล้ว เอาเป็นเล่มที่ประทับใจละกันนะ นั่นคือ นาร์เนีย - เมืองในตู้เสื้อผ้า ** หนังสือแฟนตาซีเด็ก - neverending story ** การ์ตูน - โดราเอมอน ** หนังสือภาษาอังกฤษ - Harry Potter ** หนังสือแนวสอบสวน - อกาธา คริสตี้ แต่ไม่รู้ว่าเล่มไหน ** หนังสือนอกเวลา -อังกฤษ - daddy long leg ** หนังสือนอกเวลา - ไทย - แมงมุมเพื่อนรัก ** หนังสือแนวปรัชญา - ปรัชญาชีวิต the prophet - kahlil gibran ** หนังสือแนว magical realism - 100 years of solitude ** e-book เล่มแรก - Inkheart ** หนังสือแนวท่องเที่ยวเล่มแรก - จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรแต่เป็นงานเขียนของ เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย ** นิยาย - คู่กรรม ** ยังไม่เคยอ่าน chic lit กับ romance แล้วก็พวกกำลังภายใน เลยล่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 12 พ.ย. 47 11:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านนิยายเล่มแรกตอน 8 ขวบค่ะ เรื่อง ล่า พอตอนนี้มานึกดู เออ ตอนนั้นเราอ่านไปได้งัยหว่า เรื่องออกจะเครียดขนาดนั้น แต่ตอนอ่านครั้งแรกรู้สึกว่าสนุกดี ไม่รู้สึกเครียด หนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องโบราณ ๆ เรื่องแรก เป็นเรื่องภูเขาไฟวิสุเวียส (สะกดถูกเปล่าเนี่ย) ระเบิด อ่านแล้วก็สนุกอีกหละ แล้วก็รู้สึกว่าน่ากลัวจัง โชคดีที่เมืองไทยไม่มีภูเขาไฟ วรรณคดีเรื่องแรก น่าจะเป็น ไกรทอง อ่านจบแล้วรีบไปบอกให้พ่อพาไปดูจระเข้ที่บึงสีไฟเลย (บ้านอยู่พิจิตรน่ะค่ะ) วรรณกรรมเยาวชน เรื่อง ลินลาน่ารัก ของ ว.วินิจฉัยกุล อ่านจบแล้ว อยากจะเป็นคนที่คิดถึงแต่สิ่งดี ๆ และมองโลกในแง่ดีมาก ๆ ให้ได้เหมือนลินลา การ์ตูนเรื่องแรก คำสาปฟาโรห์ เล่มสุดท้ายของภาค 2 จำได้แม่น เพราะพออ่านแล้วติดมาก รีบไปร้านเช่าหนังสือ เช่ามาอ่านทั้งชุด แล้วสุดท้ายก็เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เราสะสมการ์ตูน นิยายโรมานซ์เล่มแรก เรื่องเชลยรัก ของ เคย์ ฮูเปอร์ สนพ แก้วกานต์ ตอนนั้นยังเล่มละ 34 บาทอยู่เลย ซื้อครึ่งราคาแค่ 17 บาทเอง ถูกมาก มาก อ่านครั้งแรกรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็สนุกดี เรื่องแปลญี่ปุ่นเรื่องแรก น่าจะเป็น โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง พออ่านจบรู้สึกว่าอยากให้มีโรงเรียนอย่างนี้บ้างจัง ถ้ามีลูกจะส่งลูกไปเรียน หนังสือแนวสอบสวนเล่มแรก เรื่องชุด เชอล็อก โฮล์ม ตอนอ่านครั้งแรกทึ่งมาก อยากเป็นนักสืบบ้าง Chick Lit เล่มแรก บริดเจ็ทโจนส์ ไดอารี่ ค่ะ สนุกมาก อ่านแล้วไม่เครียดดี เพราะมีเรื่องให้ขำตลอด ยังไม่เคยอ่านนิยายกำลังภายใน ทั้ง ๆ ที่ที่บ้านมีเยอะมาก เพราะพ่อเคยสะสม แต่กลัวอ่านแล้วจะจำชื่อตัวละครไม่ได้เลยยังไม่กล้าอ่าน จากคุณ : Annapolis - [ 12 พ.ย. 47 12:05:21 A:203.150.206.9 X: TicketID:038396 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อืม ก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะว่าแนวไหนอะไรเป็นเล่มแรก บอกเป็นสนพ.แทนได้มั้ยคะ (เป็นพวก royalty สูงหรือไงนะ 5555) แรกเลยก็การ์ตูนญี่ปุ่น ประมาณโดเรมอน ปาร์แมน แล้วก็ขยับเป็นการ์ตูนตาหวาน คำสาปฟาร์โรห์ แมรี่ เบล แคนดี้ ก่อนจะเป็นยุคของไซโต จิโอ และมาจบลงที่ Ai yazawa ตอนนี้ (ของผู้ชายก็อ่านค่ะ อ่านของน้องชาย) pocket book ตอนแรกๆ ก็อ่านควบคู่ไปกับของสนพ.ดอกหญ้า (เยาวชน + ชุดสอบสวนของอกาธา คริสตี้) อย่างราโมน่า อ้อ! ของ สนพ.ปราสาททรายด้วยค่ะ ชุดน้องเล็กสุดโปรดอ่ะค่ะ แล้วที่แน่ๆ ก็บรรดาหนังสืออ่านนอกเวลาทั้งหลายรวมถึงมานีมานะ พอป.5 มั้งคะก็เริ่มอ่านของ สนพ.ผีเสื้อ เลยเป็นแฟนลุงโรอัลด์ ดาห์ นับตั้งแต่บัดนั้น แล้วก็กระเถิบมาอ่านงานแปลของกริชแชม ตามด้วยบริดเจ็ทฯ เป็นพวกชิคลิท แล้วก็หนังสือ J-book...กระเถิบจนครบหนังสือแปลทุกแนวในร้านหนังสือ (ยกเว้นคลาสสิค ประเภท crime and punnishment ค่ะ โอ๊ย แพ้รัซเซียสุดฤทธิ์ อ่านทีไรหลับคาหนังสือทุกที) งานเขียนของคนไทยจะติดตามของนักเขียนประจำมติชนค่ะ คนโปรดก็พี่จิก คุณบัวไร เรื่องสั้นของปราย พันแสงบางเรื่อง ส่วนนิยายไทยบอกอย่างเหนียมๆ ว่า แรกๆ จะอ่านเฉพาะของคุณทมยันตรีชุดอิงศาสนาน่ะค่ะ แต่ตอนนี้กำลังสะสมไมล์นิยายไทยอยู่ (ขอเวลาอีกซักพักนะคะ) คิๆ จากคุณ : นารูมิ - [ 12 พ.ย. 47 13:41:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พี่ปัน โรมานซ์เล่มแรกคือ Dear Cupid แล้วเล่มสุดท้ายล่ะคะ (คงไม่มีใช่มั้ย 5555) คุณกลาง เห็นชอบด้วยค่ะ (^-^)/ ว่าหนังสือแนวไหนอ่านก็ติดหมด ยกเว้นหนังสือเรียน คุณตาล ถ้าจะอ่าน chic lit แนะนำสาวนักช้อปฯนะคะ เรื่องนี้หนุกหนานจริงๆ คุณ Annapolis ทำไมไปอ่านคำสาปฟาร์โรห์ภาคสองก่อนล่ะค่ะ (แต่ภาคนี้ หนูว่านักเขียนท็อปฟอร์มสุดๆ) ตอนแครอลเดินลงแม่น้ำไนล์ด้วยความน้อยใจ...น้ำตาไหลพราก อ้อๆ เกือบลืม ต้อนรับน้องกั๊ต (สมาชิกใหม่) ด้วยคนนะคะ แล้วก็หวัดดีขาประจำ ขาจรทุกคนด้วยค่ะ (ว่าแต่ไม่เห็นมีใครส่งรูปให้เราดูบ้างเลย) จะไปช้อปที่ NH กันตอนกี่โมงคะ จะได้ตามไปถูก จากคุณ : นารูมิ - [ 12 พ.ย. 47 13:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อยากจะแชร์ประสบการณ์อ่านเล่มแรกด้วยเหมือนกัน แต่...ความจำเลือนลางมากเลยค่ะพี่ปัน ที่จำได้แม่นเลย เป็นชุดการ์ตูนวิทยาศาตร์ของซีเอ็ดน่ะค่ะ แพคเกจเป็นกล่อง กล่องละประมาณ 8-9 เล่ม อ่านสนุกมากแถมได้ความรู้รอบตัว แล้วก็ได้ทดลอง วิทยาศาสตร์สนุกๆเยอะเลย (แม่ก็ช่างสรรหามาให้ลูกอ่าน จนติดงอมแงม เลยต้องเสียตังค์ซื้อให้ทุกชุดที่ออกมา) มี 2 เวอร์ชั่น คือเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นกับการ์ตูนฝรั่ง ตอนนี้หายไปไหนหมดแล้วไม่รู้ เหลือแค่ไม่กี่เล่ม ส่วนหนึ่งตอนนั้น (ป.3-4) ออฟให้เพื่อนยืม..หาย ยืม..หายไปหลายเล่มเหมือนกัน คาดว่าพ่อคงขนไปบริจาคหมดแล้ว (แม่ลูกชอบซื้อมารกบ้าน พ่อก็ชอบขนไปบริจาคจังเลย...ได้อ่านรึยังก็ไม่รู้ จำไม่ได้อีก) อ้อ..หนังสือเรียนเล่มแรกที่อ่าน คือหนังสือเรียนภาษาไทยค่ะ (มานีมานะ) มา นี ไป ดู ปู เป็นหนังสือเรียนที่ชอบอ่านมากที่สุดในโลก (จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังชอบอยู่เลย) นอกนั้นก็นึกไม่ออกแล้วค่ะ รออ่านของคนอื่นๆมั่งดีกว่าเนอะ ไปทำงานต่อแล้วค่ะ จากคุณ : ออฟ (s.o.s) - [ 12 พ.ย. 47 15:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราจำได้ไม่แม่นกับหนังสือเล่มแรกของแต่ละแนว แต่ว่าถ้าเอารวมๆ นอกเหนือจากหนังสือเรียนแล้วคิดว่าน่าจะเป็นหนังสือประเภทสืบสวน สอบสวนของอกาธา คริสตี้นะที่เป็นนักเขียนคนแรกๆ ที่ทำให้เรากลายเป็นคนติดหนังสือ ส่วนเล่มแรกของอกาธาถ้าจำไม่ผิดคิดว่าจะเป็นเรื่อง ฆาตกรรมยกเกาะ เรื่องนี้อ่านแล้วสนุกมากเลยทำให้ติดหนึบซื้อเรื่องต่อๆ ไปของอกาธามาอ่านต่อเรื่อยๆ หลังจากงานของอกาธาก็ยังติดอ่านงานหนังสือแนวสืบสวนอีก คราวนี้เป็นหนังสือชุดของทนายเพอรี่ เมสัน งานนี้ติดทั้งหนังสือแล้วก็ซีรีย์ ซีรีย์มาชอบเอาก็เมื่อได้ดูไม่กี่ปีที่ผ่านมาดูแล้วก็ชอบเพิ่มมากขึ้นอีกเรื่อยๆ เหมือนกัน ส่วนแนวอื่นๆ นอกเหนือจากสืบสวนก็มีชิกลิทมั่งประปราย คือว่าน่าจะเป็นเรื่องบริดเจ็ท โจนส์ ไดอารี่นี่ล่ะ แนวประวัติศาสตร์ย้อนยุคก็ได้อ่านน้อยเล่มมากเพราะว่าเป็นคนไม่ชอบอ่านและความรู้น้อยด้วย อ่านแล้วก็งง วัน เดือน ปี ที่เรื่องเค้าดำเนินอยู่ ส่วนโรมานซ์จำไม่ได้เรื่องแรกว่าอะไรแต่รู้ว่าเคยอ่านเยอะมากอยู่ช่วงนึง จำได้ว่าอ่านก่อนแต่งงานเพราะชอบจินตนาการหนุ่มหล่อล่ำบึ๊กที่มีกล้ามเป็นมัดๆ แต่พอหลังแต่งงานโรมาซ์ไม่ต้องพูดถึงเก็บลงกล่องหมดเลยพร้อมกับเปลี่ยนไปอ่านแนวอื่นแทนซะ เพราะฉะนั้นแนวชอบจริงๆ ของนิดก็คงเป็นแนวสืบสวนนะค่ะ แนวอื่นก็มีบ้างแต่ว่าประปรายไม่เยอะเท่า รออ่านของคนอื่นๆ เหมือนออฟด้วยคนค่ะ จากคุณ : นิด (JewNid) - [ 12 พ.ย. 47 16:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วรรณกรรมเยาวชน - ชุดบ้านเล็กในป่าใหญ่ อ่านจบแล้วก็ประทับใจ การ์ตูน - จำไม่ได้ล่ะ ว่าอ่านอะไรเล่มแรก แต่น่าจะเป็นโดราเอมอน อ่านแล้วหลงรักกระเป๋าวิเศษ chic list - Bridget Jone's Diary อ่านจบแล้วรู้สึกว่าคล้าย ๆ กับตัวเองดี สาวอวบ สติแตก สืบสวน สอบสวน - เอาเป็นการ์ตูนโคนันล่ะกัน อ่านแล้วก็ติด โรแมนซ์ - จำไม่ได้ แต่พออ่านไป 2-3 เล่มก็เริ่มเบื่อ เพราะมันก็พล็อตเดิม ๆ - -" นิยายไทย - จำไม่ได้อีกเหมือนกัน เพราะอ่านเยอะมาก - -" นิยายจีน - เคยลองอ่านของโกวเล้ง (จำชื่อเรื่องไม่ได้) ไม่รู้เรื่องเลย ชื่อจำยาก แล้ววิธีบรรยายก็ อืมมมมมม เอาเป็นว่าไม่รู้เรื่องล่ะกันนะ แหะ แหะ how to - อ่านจบแล้วก็คิดว่า มันก็เป็นสิ่งที่รู้ ๆ กันอยู่อะนะ แต่จะทำได้หรือเปล่าก็เท่านั้น (ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจ) เท่าที่นึกได้ก็ประมาณนี้อะค่ะ แหะ แหะ จากคุณ : ชาบุ - [ 12 พ.ย. 47 18:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณนารูมิ .. ที่อ่านคำสาปฟาโรห์ภาค 2 ก่อน แถมยังเป็นเล่มจบภาค 2 ด้วย เพราะว่าไปเจอการ์ตูนเล่มนี้ที่บ้านเพื่อนค่ะ และที่บ้านเพื่อนก็มีเล่มนี้เล่มเดียว อ่านแล้วติดเลยไปร้านเช่าหนังสือ ยืมภาค 3 ต่อ ตอนนั้นยังไม่เคยอ่านภาค 1 เลยค่ะ สุดท้ายก็เลยซื้อยกชุด แต่เลิกตามมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย ตอนที่แครอลโดนจับไปที่มิโนอา รู้สึกเรื่องม้นไปไม่ถึงไหนเลย ก็เลยเลิกอ่าน จากคุณ : Annapolis - [ 12 พ.ย. 47 18:19:27 A:203.150.206.9 X: TicketID:038396 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กร๊ากก คำถามย้อนอดีตจังเลย ... - แนวสืบสวนเล่มแรกที่อ่าน ของ อกาธา คริสตี้ เหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าจะชื่อ คริสต์มาสฆาตกรรม หรือไงเนี่ยอะ ชอบ ๆ - หนังสือเด็กเล่มแรกที่อ่าน จากใจว่า จำไม่ได้ค่ะ น่าจะเป็นพวกวรรณกรรมเยาวชนแปล อย่าง นาร์เนีย ห้าสหายยอดนักสืบ ฯลฯ อะไรประมาณนี้อะค่ะ - Chick Lit เล่มแรก น่าจะเป็น Ralph's Party นะคะ อ่านต้นฉบับ ชอบอะ น่ารักดี - วรรณกรรรมเยาวชน แฟนตาซีเล่มแรก ถ้าไม่นับพวกเล็ก ๆ เล่มเดียวจบ ก็ The chronical of Narnia ค่ะ - หนังสือญี่ปุ่นเล่มแรก ง่ะ จำไม่ได้ง่ะ น่าจะเป็นพวกวรรณกรรมเยาวชน อย่าง โต๊ะโตะ ไรเงี้ยอะค่ะ - หนังสือเกาหลี ยังไม่เคยอ่านซักเล่ม แหะ ๆ - โรมานซ์เล่มแรก ยังไม่เคยอ่านจบเลยสักเล่ม แหะ ๆๆๆๆ - การ์ตูน โดราเอมอน ((เหมือนกันเลย เอิ๊กส์)) - กำลังภายในเล่มแรก ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นชุดเล็กเซี่ยวหงส์ อะค่ะ ชอบ ๆ .... เหอ ๆ ที่ทำงาน politic แยะมากอะค่ะ ตอนนี้หัวหน้าเริ่มเหล่ ๆ ไอซ์แล้ว เพราะไอซ์สั่งให้เอาอินเตอร์เนทกลับมาอะค่ะ เพราะต้อง หาข้อมูลทำงานวิจัย เหอ ๆๆๆๆ ... ช่วงนี้คงจะไม่ได้เข้ามาบ่อย ๆ อะค่ะ งานแยะมาก ต้องทำโครง การหลายเรื่อง แล้วไอซ์เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือน แต่ต้องเป็นตัวตั้งตัวตี ((ทางกรมกำลังดัน ดร.ใหม่ให้ทำวิจัย แล้วเป็นตอนขึ้นปีงบประมาณพอดี ไอซ์กลับมาช่วงนี้เลยวุ่น มาก เพราะมีเวลาศึกษางานน้อย แล้วก็ต้องจับงานเลย)) งานเลยท่วมเลยค่ะ เสาร์-อาทิตย์ นี้ก็ต้องทำงาน ... แง ๆๆ เงินเดือนก็น้อยติ๊ดเดียว กาซิก ๆๆๆ เครียดง่ะ จากคุณ : Clear Ice - [ 12 พ.ย. 47 20:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอาละค่ะ เล่าถึงหนังสือที่อ่านจบไปดีกว่า Goth - โกธ คดีตัดข้อมือ เขียนโดย Otsuichi แปลโดย นะนะโกะ หนังสือเล่มนี้ เขียนโดย ใช้ตัวละครหลักคือ "ผม" ตัวเดียว ซึ่งได้ไปเกี่ยวข้องกับคดีต่าง ๆ มากมาย ซึ่งแต่ละคดีก็จะถูก แยกเป็นเรื่องสั้น - ปริศนาดำ - ตัดข้อมือ - หมา - แฝด - ดิน - เสียง โดยมีการค่อย ๆ "เผย" เกี่ยวกับตัวละคร "ผม" และ ตัวละคร เพื่อนของ "ผม" นั่นก็คือ โมริโนะ อย่างช้า ๆ ขอไม่เล่าถึงตัวเรื่องนะคะ เพราะว่าจะทำให้อ่านไม่สนุกไป เสียเปล่า ๆ มีการหักมุมเกือบทุกเรื่องค่ะ สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ก็คือ ตัวละคร "ผม" ที่ ผู้เขียนสร้างขึ้น เหมือนกับเป็นการ "ขยาย" จิตสำนึกของคน ทั่ว ๆ ไปบางคนออกมา เรา ๆ ท่าน ๆ หลายคน ต่างก็ชอบอ่านเกี่ยวกับเรื่อง - คดีฆาตกรรม ตัวเอก "ผม" เรื่องนี้ ชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม และ สนุกสนานไปกับมัน ... เมื่อพบเห็นเรื่องราวอะไร ก็จะไม่แจ้ง ตำรวจ บางคราอาจจะแอบสนับสนุนให้มีเรื่องเกิดขึ้นแยะ ๆ เสียด้วยซ้ำ - อ่านแล้วได้คิดอะไรแปลก ๆ ดีเหมือนกัน .... สปอยเลอร์ - ส่วนตัวแล้ว เรื่องสั้นเกือบทุกเรื่อง เขียนได้ดีค่ะ แต่บางเรื่อง ไอซ์รู้สึกว่าผู้เขียน พยายามจะหักมุมมากไปหน่อย จนทำให้ เกิดความสมจริง เรื่องที่ไอซ์ชอบเป็นพิเศษคือ "แฝด" กับ "เสียง" ค่ะ ..... สรุปแล้ว ก็คิดว่าเป็นอีกเล่มที่น่าอ่านนะคะ ชอบค่ะ การแปลใช้ได้ค่ะ ลื่นไหลพอสมควร แต่ยังมีบางจุดที่อ่านแล้ว รู้สึกว่า ผู้แปลถนัดภาษาญี่ปุ่นมากกว่าภาษาไทย เลยอาจจะ มีสำนวนแปลก ๆ ปนมาบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ก็ลื่นไหลดี ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 12 พ.ย. 47 20:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เสียงกระซิบสังหาร เขียนโดย มิยาเบะ มิยูกิ แปลโดย บัณฑิต ประดิษฐานุวงษ์ หลังจากที่พ่อของมาโมรุถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินหลวง และหายสาปสูญไป แถมแม่ก็เสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน เขาจึงต้องไปอยู่กับลุงและป้า ซึ่งมีลูกสาวอีกคนหนึ่งคือ มากิ วันหนึ่ง ลุงที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่ ถูกจับข้อหาขับรถชนคนตาย แม้ว่าลุงจะยืนยันว่า เด็กสาวคนนั้นพุ่งออกมาให้รถชนเอง เป็นการฆ่าตัวตาย ที่บ้าน มาโมรุได้รับโทรศัพท์ลึกลับ โทร.มาว่า "ขอบคุณที่ช่วยฆ่าซุงาโนะ โยโกะ มันสมควรตายอยู่แล้ว" พร้อมกับพูดว่า ลุงน่าจะถูกปล่อยตัวมาโดยไว เพราะถ้า ตำรวจสืบเสาะหน่อย ก็จะรู้แล้วว่า โยโกะ เป็นคนอย่างไร มาโมรุจึงได้สืบค้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และได้พบกับความจริงว่า โยโกะไม่ใช่คนแรก ที่อยู่ ๆ ก็ฆ่าตัวตาย ... ยิ่งเมื่อสืบไป เขาก็ได้พบกับฆาตกร ... ซึ่งเป็นบุคคลที่ สามารถทำให้คนอื่นฆ่าตัวตายได้ แต่จะทำได้อย่างไร ... ก็ต้องลองไปอ่านกันดูนะคะ .... เป็นหนังสืออีกเรื่องที่ดำเนินเรื่องได้อย่างสนุกสนานค่ะ กระชับ และฉับไวดี ตัวละครก็น่าสนใจ เพราะเป็นคนธรรมดา อย่างมาโมรุก็เป็น แค่นักเรียนมัธยมปลายเท่านั้นเอง ..... สปอยเล่อร์ ส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยชอบตอนจบค่ะ อ่านแล้วมันโหวง ๆ ยังไงบอก ไม่ถูก โครงเรื่อง - มีบางส่วนที่ไอซ์อ่านแล้วรู้สึกว่า มันมากไปนิด ไม่ค่อยเกี่ยวข้องเท่าไหร่ .. เหมือนกับใส่เข้ามาให้เรื่องดำเนิน ต่อไปได้เท่านั้นเอง ... อ่านแล้วขัดนิด ๆ แต่ก็โอเคอะค่ะ ..... เป็นอีกเล่มที่สนุกดีค่ะ ถ้าใครชอบแนวนี้ก็ลองอ่านดูเน้อออออ จากคุณ : Clear Ice - [ 12 พ.ย. 47 21:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อลวน กลหัวใจ เขียนโดย วัสส์ วรา และ พงศกร แฮะ ๆ เรื่องนี้ซื้อเพราะน้อง วัสส์ วรา เป็นคนเขียนค่ะ ทั้ง ๆ ที่ไม่ถูกใจปกอย่างรุนแรง ฮือ ๆๆๆ เป็นเรื่องแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เขียนโดยนักเขียนสองคน คือ วัสส์ วรา และ พงศกร เป็นตัวแทนนางเอกและพระเอก โดยเขียนสลับกันคนละบท เนื้อเรื่องบอกถึงความรักระหว่าง สมิตา - สาวสวยเริ่ด เชิด หยิ่ง ที่ทำบริษัทจัดงานเปิดตัวแสดงสินค้า ที่ต้องจับพลัดจับผลูไป ร่วมงานกับ ธรณ์ - สถาปนิกอิสระ ซึ่งเป็นหนุ่มเซอร์ สองหนุ่มสาวที่ต่างกันเหลือเกิน กลับมองเห็นข้อเด่นของแต่ละฝ่าย และกลับรักกันโดยไม่รู้ตัว .... สาเหตุหนึ่งที่ไอซ์ชอบในฝีมือการเขียนของน้องวัสส์ ก็คือ สำนวน การเขียนที่สวย โดดเด่น และลื่นไหล ซึ่งก็มีให้เห็นในเล่มนี้ สำนวนของคุณพงศกรก็ดีเหมือนกันค่ะ ไอซ์เพิ่งได้อ่านในเล่มนี้ เป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ ทราบว่าคุณพงศกรเขียนนิยายมาแล้ว หลายเรื่อง ส่วนตัวแล้วคิดว่า หนังสือเล่มนี้มันยังไม่สุดยังไงบอกไม่ถูก อะค่ะ อ่านได้เพลิน ๆ น่ารักดี แต่เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง รู้สึกว่ามันสั้น ๆ ไปนิดอะค่ะ แต่สำหรับคนที่อยากอ่านอะไรเบา ๆ ผ่อนคลาย ก็น่าสนใจค่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 12 พ.ย. 47 21:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฮา ... ง่วง ... จะเล่าถึง Mates, Dates 5-7 แต่เล่าไม่ไหวแล้ว ละค่ะ ขอแปะไว้ก่อนละกัน ก่อนไปนอน โฆษณาหนังสือหน่อย กร๊ากกกกก หนังสือ ลิขิตหัวใจ...ด้วยไพ่รัก ซึ่ง มีไอซ์กับพี่มะวันเขียนด้วย ใกล้จะวางแผงแย้ว คงจะภายในเดือนนี้ละค่ะ เพื่อนซี้ห้าสาวที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้ง ขรึม หวาน เปรี้ยว เฮี้ยว ลุย ไปคาราโอเกะกัน แล้วได้รับคำทำนายจากหมอดูไพ่ยิปซีว่า จะพบรัก เรื่องราวความรักห้าแบบ จึงเกิดขึ้น ... เอิ๊กส์ http://www.jamsai.com/bookstore/basket.asp?proid=974-92511-8-0&submit=Detail&pg=&select1= .... ไปนอนก่อนแล้วจ้าาาาา สุขสันต์วันหยุดนะคะทุกคน ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 12 พ.ย. 47 21:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วรรณคดีไทย(แขก) - รามเกียรติ์ สมัยที่เป็นเด็กมากๆประมาณ ป.4 จำได้อาศัยว่าดูรูปประกอบและอ่านแต่บทร้อยแก้ว เล่มหนาบะเริ่มเลย วรรณคดีจีน - เจงฮองเฮา หนังสือของพ่ออีกนั่นแหละ สนุกมาก มีภาคสองต่อชื่อ ชั่นบ้อเหมา วรรณคดีฝรั่ง - โอดิสซี แนวผจญไพร - ลูกไพร สนุกมากชอบมากกว่าเพชรพระอุมาซะอีก นิยายฝรั่ง - รีเบคกา โดนยัดเยียดซื้อตอน ป.6 ไม่สนุก กำลังภายใน - วังปาฏิหาริย์ อ่านจากห้องสมุดของโรงเรียนสมัย ม.1 ไม่สนุก หนังสือเด็ก - จิ้งหรีดผจญไพร หนังสืออ่านนอกเวลา สมัยมัธยมอีกเช่นกัน อ่านดี นิยายแปลไทย - เพชรตัดเพชร ของลัดลั่มแปลโดยธนิตธรรมสุคติ สนุกมาก ซื้อจากริมคลองหลอดข้างสนามหลวง Fiction - It ของ King นิยายเล่มแรกที่หัดอ่านจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ ไม่สนุก ตำราอาหาร - น้ำพริก ของม.ร.ว. คึกฤทธิ์ นิตยสาร - Reader's Digest สมัยเรียนที่เอยูเอเขาไปตั้งโต๊ะรับสมัคร หนังสือส่งถึงบ้านแบบตกๆหล่นๆ เลยไม่ต่ออายุ จากคุณ : อางู้ - [ 12 พ.ย. 47 21:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แวะมาทักทายคุณไอซ์ด้วยความเห็นใจ เป็น junior staff ก็หนักหน่อยนะคะ แต่ทำงานมากๆ พอรู้งานดีกว่าคนอื่นแล้วในไม่ช้าก็คงได้อำนาจมาอยู่ในมือ... ป้าหมายความว่าพูดอะไรไปก็มีน้ำหนักน่าเชื่อถือน่ะค่ะ ว่าแต่ขนาดเครียดๆ ยังรีวิวกระหน่ำ...กำลังดำเนินการทลายกองดองอยู่กระมังคะ ขอปรบมือให้ค่ะ สนใจเรื่อง ghostwritten ของ D. Mitchell ที่คุณไอซ์พูดถึงค่ะ ตอนนี้จับทางเขาได้แล้ว อ่าน cloud atlas ได้สนุกขึ้น อ่านบทวิจารณ์จากหลายๆที่แล้วความเห็นมีตั้งแต่ชอบสุดโต่งยันเกลียดสุดกู่ ท้าทายให้อ่านมากว่าจะออกหัวหรือก้อยสำหรับเรา อาจเหมือน kurt vonnegut ค่ะ มีคนบอกว่านักเขียนคนนี้คนที่ชอบจะชอบมากส่วนคนที่เกลียดจะไม่แตะเอาเลย ป้าอยู่ฝั่งชอบไปแล้ว... คำถามของคุณปันตอบยากมากค่ะ ป้าจำไม่ได้จริงๆ ว่าอ่านประเภทไหนเรื่องไหนเรื่องแรก ก็เริ่มอ่านสะเปะสะปะไปเรื่อยแหละค่ะ ถ้าถามว่าอ่านของนักเขียนคนนั้นคนนี้เรื่องไหนเรื่องแรกยังพอนึกออก เช่น เรื่องแรกของคุณทมยันตีที่ป้าอ่าน คือ ค่าของคน (ใช้นามปากกาโรสลาเรน) โอ๊ยยยย...หลงใหลซะโงหัวไม่ขึ้น เล่นเอาติดหนังสือเธอเหนียวหนึบอยู่นานหลายปี มาหยุดไปตอนที่เธอเขียนหนังสือใส่ .... เยอะๆ คิดถึงนามปากกากนกเรขาของเธอมากค่ะ เป็นงานเขียนที่อ่านบันเทิงหวานน่ารักแท้ๆ อ่านคำตอบของหลานๆ แล้วสำนึกตัวว่าเป็นคนก่อนยุคการ์ตูนญี่ปุ่นจริงๆ เพราะการูตูนเรื่องแรกที่ป้าอ่านเป็นโดนัลด์ดั๊ก ไม่รู้สำนักพิมพ์ไหนพิมพ์ออกมา แต่ภาพสวย อ่านง่าย (ไม่รู้สึกแออัดอย่างที่เห็นเนชั่นทำออกมาใหม่) ชอบมากๆ ค่ะ มีครั้งหนึ่งที่พี่ชายไปได้ฉบับภาษาอังกฤษหนาเตอะมาจากไหนไม่รู้ อ่านไม่ออกได้แต่ดูรูปแล้วเดาเอา (เด็กโรงเรียนวัดน่ะค่ะ...เริ่มเรียนดี๊สอี๊สอะบุ๊คตอนปอสี่) คับข้องใจมากๆ ...ตอนนี้พอเห็นภาษาอังกฤษเลยอ่านใหญ่...เก็บกดมาตั้งกะเด็ก ไว้คุยกันใหม่ค่ะ จากคุณ : ป้า - [ 12 พ.ย. 47 21:58:42 A:210.203.176.5 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นคำถามที่ทำให้คิดมากค่ะ ความที่อ่านมามาก อ่านมานาน แล้วก็อ่านมันซะทุกอย่าง แค่คิดจัดหมวดหมู่แยกประเภท ก็สับสนแล้วค่ะ ขอเวลาไปเรียบเรียงความคิดก่อน แล้วจะกลับมาตอบใหม่ จากคุณ : นัทธ์ - [ 12 พ.ย. 47 22:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Jonathan Strange & Mr. Norrell  จบแล้วค่ะ เรื่องนี้ยาวมาก ๆ และละเอียดมาก ๆ ที่เริ่มสนใจเพราะเห็นกระทู้คุณป้าเอ่ยว่าเป็นเรื่องพ่อมด แล้วก็ไปได้มาโดยไม่เจตนาจากห้องสมุด ก่อนอ่านต้องทำใจอยู่ 2 วัน เพราะไปอ่านรีวิวของคุณเฟย์ กับที่คุณ A Muggle post ไว้ในห้องนิยายวิทยาศาสตร์ ก็เลยกลัว เพราะปกติแล้วเป็นคนอ่านเอาเรื่อง ไม่ค่อยจะมีความอ่อนไหวในเรื่องของภาษา แถมขี้เบื่ออีกต่างหาก แต่พออ่านเข้าจริงๆ แล้วชอบมากกว่าที่คิด ถ้าถอยหลังไปสัก 10 ปี คงอ่านสัก 2 รวดจบ แต่นี่อ่านไป 6 หนพอดี สำนวนและเนื้อเรื่องไม่ได้ตื่นเต้นแบบ suspense อย่างดาวินซี่ โคดหรือเรื่องของ John Grisham (ซึ่งไม่ชอบ) แต่อ่านแล้วไม่อยากวางเลยค่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม แต่อยากจะขอเสนอว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าปล่อยให้ผ่านไป เนื่องจากเรื่องยาวและละเอียดมาก ก็พยายามจะจับสรุป ๆ ให้เห็นภาพ หวังว่าไม่เป็น spoiler นะคะ ขอบอกว่า บาง footnote แทบจะเป็นเรื่องสั้นขนาดจิ๋วได้เลย ตัวละครที่เอ่ยชื่อไว้ เป็นตัวที่มีบทบาทมาก แต่ตัดไปไม่ได้เล่า เพราะถ้าเล่าอาจยาว 3-4 หน้า A4 สบาย ๆ แล้วก็เว้นบางคนที่มีส่วนช่วยให้เรื่องสนุก แต่ไม่ได้เดินเรื่องนะคะ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 47 23:08:46 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 47 23:04:39 จากคุณ : scuba734 - [ 12 พ.ย. 47 23:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หนังสือเรื่องนี้ เริ่มต้นเล่าถึงกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ งซึ่งเรียกตัวเองว่า “พ่อมดทฤษฎี” คือศึกษาแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะไม่ลงมือกระทำการใด ๆ ที่เป็นการใช้เวทย์มนต์ คนกลุ่มนี้จะนัดพบกันทุกวันพุธที่ 3 ของเดือน เพื่อคุยกันถึงหนังสือต่าง ๆ หรือบทความต่าง ๆ ที่แต่ละคนได้ศึกษามา ไม่นานนัก ก็มีชายแปลกหน้าจากเมืองอื่นคือ  John Segundus ที่เริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่มีการใช้เวทย์มนต์ในประเทศอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่อังกฤษเคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศแห่ง magic (ไม่แปลคำนี้ดีกว่า)  ไม่มีใครที่ตอบคำถามนี้ได้ แต่ทุกคนเชื่อกันว่า magic ได้ไปจากอังกฤษพร้อม ๆ กับการจากไปของ Raven King หรือ John Uskglass (เชื่อกันว่า คนผู้นี้แท้จริงแล้ว เป็นมนุษย์ธรรมดา ที่ Oberon ราชาแห่งเทพนำไปเลี้ยงดูและสั่งสอนเวทย์มนต์ต่าง ๆ John กลับมาสู่โลกมนุษย์เมื่ออายุราว 16 ขวบ และปกครองอังกฤษและแผ่นดินอื่นต่อมาอีก 600 ปี และเมื่อเขาจากไป ผู้คนจึงเชื่อว่า magic ได้หมดไปจากอังกฤษด้วย) แต่เมื่อปัญหานี้ ไม่มีใครตอบได้ Segundus กับ Honeyfoot จึงเดินทางไปพบ  Mr.Norrell ซึ่งเป็นผู้ที่มีห้องสมุดที่มีหนังสือเกี่ยวกับ magic มากที่สุดในประเทศ Norell บอกว่า magic ยังมีอยู่ในอังกฤษ เพราะตัวเขาเป็น practicing magician แต่ผู้เดียว และเขาพร้อมที่จะให้พิสูจน์ แต่ในการพิสูจน์นี้ ถ้า Norrell ทำได้ ทุกคนในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Magician of York ต้องลงนามในสัญญาว่า จะไม่ practice magic และไม่เรียกตัวเองว่า magician อีกเลย ทุกคนยอมลงนามในสัญญา ยกเว้น Segundus ในวันที่พิสูจน์ Norrell ขอให้ทุกคนไปที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมือง และเมื่อถึงเวลาที่กำหนด รูปปั้นหินในโบสถ์นั้น ก็มีชีวิตและเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่ได้พบเห็น ดังนั้นทุกคนยกเว้น Segundus จึงต้องเลิกศึกษาเรื่องของ magic ตามสัญญา แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 47 23:10:46 จากคุณ : scuba734 - [ 12 พ.ย. 47 23:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Norell มีคนใช้ผู้ชายชื่อเขาไว้ใจมากชื่อ Childermass คน ๆ นี้จะเป็นเสมือนปากหรือตัวแทนของ Norrell เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบสังคม ชอบแต่อ่านหนังสือ ตำราต่างๆ อยู่คนเดียวในห้องสมุด Childermass แนะนำให้ Norerell เข้ามาที่ลอนดอน เพื่อแสดงให้คนทั่วไปรู่ว่า Norrell คือ magician mี่ยิ่งใหญ่ เมื่อมาถึงลอนดอน Norrell ได้รู้จักกับคน 2 คนคือ Drawlight และ Lascelles ทั้ง 2 คนเป็นคนนำ Norrell เข้าสู่สังคมชั้นสูงของลอนดอน และทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้จัดการ ใครที่ต้องการเชิญหรือพบ Norrell ต้องผ่าน 2 คนนี้ก่อนเสมอ ในบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายนั้น มีรัฐมนตรีคนหนึ่งคือ Sir Walter Pole ซึ่งกำลังจะแต่งงานกับหญิงสาวที่อายุน้อยกว่า แต่เธอก็มาเสียชีวิตก่อนแต่งงานไม่กี่วัน Sir Pole ขอให้ Norrell ช่วยชุบชีวิตภรรยาของเขา Norrell ตกลง และทำการเรียก fairy มาช่วย fairy ที่มานั้นเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อสีเขียวและมีผมที่เป็น thistle-down เขาตกลงที่จะช่วยชุบชีวิต Miss Wintertowne แต่ขอข้อแลกเปลี่ยนว่า ชีวิตที่ได้ใหม่นี้ ครึ่งหนึ่งเป็นของ Sir Pole แต่อีกครึ่งต้องเป็นของเขา และเพื่อเป็นหลักฐานของการสัญญานี้ fairy นี้ตัดเอานิ้วก้อยข้างหนึ่งของ   Miss Wintertowne ไป หลังจากคืนชีวิตมาทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน และหลังจากนั้นไม่นาน Lady Pole จัดงานอย่างใหญ่โตขึ้น ในวันนั้นขณะที่ทุกคนวุ่นวายด้วยการจัดงาน butler ของ Sir Pole ซึ่งเป็นคนดำที่ชื่อว่า Stephen Black มีความรู้สึกเหมือนว่า เดินหลุดเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่งซึ่งเขาไม่เคยเห็นที่ประสาทมาก่อน ในห้องนั้นเขาพบชายหนุ่มที่มีผม เป็น thistle-down กำลังหงุดหงิดที่ไม่มีใครช่วยแต่งตัว Stephen ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงที่ช่วยชายหนุ่มคนนี้แต่งตัว จนเขาพอใจ ชายหนุ่มบอกกับ Stephen ว่า Stephen เป็นเพื่อนของเขา และจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ ไม่นานนัก ทั้ง Lady Pole และ Stephen ก็มีอาการป่วยคล้าย ๆ กัน คือจะเหนื่อยมากในตอนกลางวัน และตอนกลางคืนก็จะพบตัวเองเต้นรำตลอดคืนกับคนแปลก ๆ ในประสาทที่พังคร่ำคร่า และจะพบกับชายหนุ่มคนนั้นทุกคืน ชายหนุ่มบอกว่าประสาทที่เต้นรำนั้นชื่อ Lost Hope House นั่นก็คือการที่  Lady Pole ต้องแบ่งครึ่งหนึ่งของเวลาของเธอให้กับ Fairy นั่นเอง แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 47 23:14:30 จากคุณ : scuba734 - [ 12 พ.ย. 47 23:13:36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Norrell ประสพความสำเร็จอย่างมากในวงสังคม เขาได้ใช้ magic ช่วยในการทำสงครามกับฝรั่งเศษ ทำให้อังกฤษได้เปรียบ ในขณะเดียวกันก็มีชายหนุ่มที่ชื่อ Jonathan Strange ซึ่งเป็นคนรักสนุก ทำงานอะไรก็เบื่อ เขาจึงคิดสนุก ๆ ว่า ไปศึกษา magic ดีกว่า Jonathan แต่งงานกับ Arabella และเริ่มศึกษา magic ไม่นานเขาก็พบว่าเขาทำอะไร ๆ ได้หลายอย่าง ต่อมา Jonathan ย้ายมาอยู่ที่ลอนดอนและมาศึกษา magic กับ Norrell ซึ่งแม้ว่าจะต็มใจรับ แต่ก็ยังหวงวิชาอยู่ และซ่อนหนังสือหลายเล่มไม่ให้ Jonathan อ่าน ทั้งคู่มีชื่อเสียงมากขึ้น และ Jonathan ก็เดินทางไปกับกองทัพ เพื่อใช้ magic ช่วยในการรบ ทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้นและเก่งขึ้น เนื่องจากต้องหาเวทย์มนต์แปลก ๆ มาช่วยงานของกองทัพ เมื่อกลับมาที่ลอนดอนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากออกสงครามไป 3 ปี Jonathan ก็เริ่มมีความเห็นที่ต่างจาก Norrell มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับ Raven King ซึ่ง Jonathan เชื่อ แต่ Norrell ไม่เชื่อ Arabella พบกับ Lady Pole และเป็นคนเดียวที่ lady Pole คบหาด้วย เธอได้พบกับชายหนุ่มที่มีผม thistle-down หลายครั้ง แต่เข้าใจว่าเป็นญาติของ Sir Pole mี่อาศัยอยู่ที่นั่น หลังจากมีปัญหากับ Norrell ถึงขั้นแตกหัก Jonathan ก็ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านของตัวเอง ในไม่ช้าภรรยาของเขาก็เสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น Stephen ก็ยังพบกับชายหนุ่มที่มีผมเป็น thistle-down หลายครั้ง และเขาสัญญาว่าจะให้ Stephen เป็นกษัตริย์สักวันหนึ่ง ชายหนุ่มบอกกับ Stephen ว่าเขาชอบ Arabella และจะนำเธอไปอยู่ด้วย เช่นเดียวกับ Lady Pole จากคุณ : scuba734 - [ 12 พ.ย. 47 23:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 Jonathan เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อย ๆ ด้วยความเสียใจและทำการศึกษา magic มากขึ้น เขาต้องการที่จะเรียก fairy มา ซึ่งจริง ๆ แล้ว เขาทำได้สำเร็จ แต่มองไม่เห็น และ fairy ที่เรียกมาได้นั้นก็คือ ชายหนุ่มที่มีผมเป็น thistle-down นั่นเอง ในระหว่างเดินทาง Jonathan เขียนหนังสือเกี่วกับ magic และ Raven King ตามที่เขาคิด หนังสือขายดีมาก แต่ Norrell ใช้เวทย์มนต์ทำให้หนังสือหายไป Jonathan มีความคิดว่า ถ้าเขาเป็นบ้า อาจจะช่วยให้เขาใช้เวทมนต์ได้ดีขึ้น เขาได้ไปพบกับหญิงชราที่เป็นบ้า และนำหนูตายที่เธอกำลังจะกินกลับมา ทำเป็นยา tincture ซึ่งเมื่อผสมลงในน้ำก็จะทำให้เขาเป็นบ้า แต่เมื่อหมดฤิทธิ์ความบ้าก็หายไป ความคิดนี้เป็นผลสำเร็จ Jonathan มองเห็นชายหนุ่มที่มีผมชายหนุ่มที่มีผมเป็น thistle-down จริง ๆ และเขาก็สามารถที่จะเข้าไปที่ House of Lost Hope ได้ จึงรู้ว่า Arabella ทุกมนต์สะกดให้มาอยู่ที่นี่ และเมื่อเขาติดสินบนให้คนไปขุดโลงศพของเธอ ก็พบท่อนไม้อยู่ในนั้นแทน fairy คนนี้พยายามให้ Jonathan ขอทรัพย์สมบัติต่างๆแต่สิ่งที่ Jonathan ต้องการคือความรู้ ซึ่งเขาไม่ให้ สุดท้าย Jonathan จึงขอว่า ขอสิ่งของอะไรที่ fairy ได้จาก magician คนสุดท้ายที่เขาพบ และนั่นก็คือนิ้วก้อยของ Lady Pole นั่นเอง นอกจากนั้น เขายังรับรู้ถึงการพูดกับหิน ต้นไม้ น้ำและดินอีกด้วย Jonathan กลับมาที่ลอนดอนอีกครั้ง ทุกคนรวมทั้ง Norrell คิดว่า Jonathan มาเพื่อแก้แค้น Norrell แต่จริง ๆ แล้ว Jonathan กลับมาเพื่อหาทางช่วยภรรยาของเขา เมื่อ lady Pole ได้นิ้วก้อยคืนไป เธอก็หลุดพ้นจาก enchantment ของชายหนุ่มที่มีผมเป็น thistle-down แต่ตัวชายหนุ่มนั้นก็ได้สาป Jonathan ว่าไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด ก็จะต้องอยู่ใต้ความมืด และความกลัว ดังนั้นไม่ว่า Jonathan จะไปอยู่ที่ใด ที่นั่นจะไม่มีแสงสว่าง มีแต่ความมืดมิด เมื่อ Jonathan มาพบกับ Norrell ก็ทำให้ Norrell ตกอยู่ใต้คำสาบนั้นด้วย ในขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังหาทางเพื่อช่วย Arabella ก็ปรากฏว่า มีข่าวว่าใครต่อใครสามารถใช้เวทย์มนต์ได้ โดยที่ไม่เคยศึกษามาก่อน พวกนี้จะบอกว่า ได้ยินจากต้นไม้ จากแผ่นดิน จากน้ำ ทั้งนี้ เพราะเวทย์มนต์ของ Jonathan นั่นเอง ชายหนุ่มที่มีผมเป็น thistle-down ก็พยายามที่จะทำลายล้างทั้ง 2 คน โดยยอมแม้แต่ว่าจะต้องทำลายชีวิตคนทั้งสิ้น โดยเขาอธิบายให้ Stephen ฟังว่า เพื่อจะให้ Stephen เป็นกษัตริย์ แต่จากเวทย์มนต์ของ Jonathan ที่ให้กับต้นไม้ น้ำและดิน Stephen ก็ได้เรียนรู้บางอย่าง และเขาก็สั่งให้ต้นไม้และหินทำลายชายหนุ่มที่มีผมเป็น thistle-down แทน และพบว่าตัวเขาเอง ก็เป็นกษัตริย์จริงๆ คือ Raven King คนใหม่นั่นเอง Arabella พ้นจาก enchantment และกลับคืนสู่โลกมนุษย์ แต่ Jonathan และ Norrell ยังตกอยู่ใต้คำสาบที่ให้พวกเขาอยู่ในความมืด แต่ทั้ง 2 คนก็ไม่หวาดกลัว แต่ใช้เวลานั้นเดินทางเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มขึ้น Jonathan ได้พบกับ Arabella อีกครั้ง และสัญญาว่า เมื่อใดที่เขาพบการแก้คำสาบ หลุดออกจากความมืดได้ เขาก็จะกลับมาอยู่ด้วยกันอีก จากคุณ : scuba734 - [ 12 พ.ย. 47 23:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หนังสือการ์ตูนเล่มแรก ๆ ที่อ่านคือของ Walt Disney ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชุด Donald Duck, Goofy, Mickey Mouse, Chip & dale จำได้ว่าตัวที่ชอบมากที่สุดคือเป็ดที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ชอบคิดอะไรแผลง ๆ และเวลาคิด การ์ตูนจะวาดเป็นรูปหลอดไฟเปิดอยู่บนหัว หนังสืออ่านเล่นชุดแรกคือ perry Mason และที่ใช้นามปากกาว่า A.A. Fair อ่านของคุณพ่อคะ ต่อมาก็เป็น Cristie แล้วก็เรื่อย ๆ มาจนทุกวันนี้คือจะอ่านแนว cozy detective เป็นหลัก ตอนนี้กำลังเริ่มพวก fantasy แล้วชักติดใจ เรื่องแปล เรื่องแรกคือชุดบ้านเล็ก ตอนนี้สะสมครบเลยตั้งแต่ทวดลงมาจนถึงลูกของลอร่า แล้วตามมาด้วยเหมาโหลถูกกว่า แล้วหลังจากนั้นนิดหน่อยก็เลิกอ่านเรื่องแปลไปเลย เพราะไปเจอการแปลแบบแปลกประหลาด นิยายไทย แต่ก่อนอ่านของทมยันตีทุกเล่มจนสัก 5-6 ปีหลังนี้ แทบจะไม่ได้อ่านของใครเลย อ่านมาตั้งแต่รงค์ วงศ์สวรรค์ สุวรรณี สุคนธานะค่ะ อ่านได้ตั้งแต่จัน ดารา ถึงจิตา romance อ่านไม่ค่อยไหวคะ รำคาญ ที่อ่านได้หลายเล่มหน่อยน่าจะเป็นของ babara bradford tailor นับได้ไหมนี่ กับไม่ชอบพวก suspense เพราะจะรำคาญว่ามันจะตื่นเต้นอะไรกันทุกบท อ่านทีไรจะกระโดดข้ามไปอ่านตอนใกล้จบเลยทุกที chic lit เพิ่งหัดอ่าน แต่ยังชอบแบบ dresden file, mediator มากกว่า shopaholic ที่ชอบมากอีกชุดคือของ Jacques Cousteau ซึ่งเป็นบิดาของนักดำน้ำ สนุกทุกเล่มเลย อ่านอะไรอีก อ้อ อ่านของท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฏกแทบทุกเล่มที่หาได้ แล้วก็ของอาจารย์คุณรัญจวน อินทรกำแหงด้วยค่ะ แล้วก็ของหลวงพ่อชา กับของท่านสุเมโธที่เป็นภาษาอังกฤษ อ่านที่ไหน ทุกที่ในบ้านค่ะ ในรถเวลารถติดนาน ๆ (ขับเองด้วย) ในธนาคารเวลายืนรอคิว ในร้านอาหาร เวลาอาหารยังไม่มา ไม่เคยไปไหนโดยไม่มีหนังสือติดมือเลยค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 12 พ.ย. 47 23:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ scuba อ่านเก่งจังเลย รีวิวยาวเหยียดเลยนะเนี่ย ขอบคุณมากๆค่ะ มีข่าวเศร้าๆมาฝากค่ะ เพิ่งอ่านเจอเช้านี้ Historian and author of "The Rape of Nanking" commits suicide Iris Chang, a best selling author who chronicled the Japanese occupation of China and the history of Chinese immigrants in the US, was found dead in her car of self-inflicted gunshot, authorities said. She was 36. Chang, who won critical acclaim for her books The Rape of Nanking and The Chinese in America, was found along Highway 17 just south of Los Gatos, Sata Clara County authorities said Wednesday. On Tuesday morning, a motorist noticed her car parked on a side road, checked the vehicle and called police. The official cause of death has not been released, but investigators concluded that Chang, who was hospitalised recently for a breakdown, shot herself in the head. She lived in San Jose with her husband and two-year-old son. Born in Princeton, New Jersey, in 1968 and raised in Champaign-Urbana, Illinois, Chang earned a bachelor's degree in journalism at the University of Illinois and a master's in science writing at Johns Hopkins University in Baltimore. Chang worked briefly as a reporter for the Associated Press and the Chicago Tribune before leaving daily journalism to pursue her own writing. At age 25, she published her first book, Thread of the Silkworm, which tells the story of Tsien Hsue-shen, the Chinese-born physicist who pioneered China's missile programme after being driven from the US during the Cold War. In 1997, Chang published the international best-seller The Rape of Nanking, which described the rape, tortore and killing of hundreds of thousands of Chinese civilians by Japanese solders in the former Chinese capital during the late 1930s. The Chinese in America, published last year, is a history of Chinese immigrants and their descendants in the US. The late historian Stephen Ambrose described Chang as "maybe the best young historian we've got, because she understands that to communicate history, you've got to tell the story in an interesting way". Chang suffered a breakdown and was hospitalised during a recent trip researching her fourth book about US soldiers who fought the japanese in the Philippines during WW2, according to her former editor and agent Susan Rabiner. Chang continued to suffer from depression after she was released from the hospital. In a not to her family, she asked to be remembered as the person she was before she became ill--"engaged with life, committed to her causes, her writing and her family", Rabiner said. จากคุณ : Angel Eyes - [ 13 พ.ย. 47 09:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ข่าวตาลเศร้าจัง อ่านแล้วคิดถึงมิชิม่า ยังไงไม่รู้ คำถามกระทู้ ติดไว้เด๋วมาตอบนะคะ ต้องรำลึกความหลังนนนนนนนนนนมากเลยนะนั่น จากคุณ : grappa - [ 13 พ.ย. 47 10:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 27 - นิทาน หนูน้อยหมวกแดง Cinderlela เจ้าหญิงนิทรา เจ้าชายกบ บ้านขนมผิง(ไม่แน่ใจชื่อเรื่องค่ะ) จำได้ว่าเป็นครั้งแรกที่น่าจะได้อ่าน ชอบมากเลยค่ะ อยู่กับความฝันและจินตนาการ - การ์ตูน จะเป็น ขายหัวเราะ ไมน่าเชื่อเลย พอดีที่บ้านผู้ใหญ่เค้าซื้อมาอ่าน ก็สนุกดี ต่อจากนั้นที่ตามมาคือโดเรมอน และการ์ตูนผู้หญิงญี่ปุ่น - นิยายเล่มแรก คือ ปุลากง เป็นหนังสือนอกเวลาด้วย อ่านจบคิดว่าตัวเองเป็หนูตุ่นหลงรักพี่เข้ม อิๆๆ พอจบมหาวิทยาลัยมีงานทำแล้ว ก็เจอเพื่อนยุๆๆให้อ่าน ของขวัญวันวาน ของ ว.วินิจฉัยกุล พออ่านเล่มนี้จบ เลยบ้านิยายไปเลยค่ะ เพิ่งจะอ่านนิยายได้ 2 ปีกว่าๆ อ่านนิยายก็ดีนะคะคลายเครียดดีค่ะ ตอนนี้อ่านของ คุณปิยะพร ว.วินิจฉัยกุล ดวงตะวัน กิ่งฉัตร และกำลังจะอ่านของ โสภาค สุวรรณ ตอนนี้มีหนังสือในตู้เยอะมากกกกหลังจากไปช้อบที่มหกรรมหนังสือมา - เรื่องของแอม (เสาวลักษณ์) เป็นหนังสือที่อ่านแล้วฮาและเป็นเล่มแรกที่ซื้อแนวนี้ ติดตามหนังสือของพี่เค้ามาตลอดจนเล่มล่าสุดที่มีก็คือ Bloom in my heart เล่มต่อมาที่รู้สึกฮามากคือ แฉชีวิตนักเรียนนอกเล่ม1 ของ ครูเตร อันนี้เราอ่านแล้วฮาสุดขีดเลย -แบบเรียนเล่มแรกที่ประทับใจสุดๆจนถึงวันนี้คือ มานี มานะ ปิติ อ่านแล้ว มีความสุขที่สุดเลย อยากให้ตีพิมพ์ใหม่อีกครั้งจัง -วรรณกรรมเล่มแรกที่อ่านคือ แมงมุมเพื่อนรัก เป็นหนังสือนอกเวลา จากคุณ : แคท - [ 13 พ.ย. 47 14:20:52 A:210.246.79.71 X: TicketID:007421 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านข่าวแล้วเศร้าและใจหาย จำได้ว่าหนังสือของเธอเพิ่งฮ็อตในกระทู้พันทิพ หยกๆ นี่เอง ไอซ์...สู้ๆ เน้อ หวังว่าคงพ้นจากกองงานเร็วๆ นี้นะ อ่านสถานการณ์ที่ทำงาน แล้วหนาวแทน เหอๆๆ น่ากลุ้มเนอะ จากทู้ก่อนเห็นคุณทินาอ่านเรื่อง A Nice Girl Like Me ของ Abigail Bosanko แวะมารีวิวมั่งนะคะ อิอิ นักเขียนคนนี้ชอบเขียนสไตล์การแต่งงานที่สับสนวุ่นวาย แบบนี้จังเลย เจ้าออฟ...ยังไม่ได้รูปเหรอ ตกหล่นไปได้ไงหว่า เอาๆๆ เดี๋ยวส่งไปให้ยลโฉมน้า อิอิ คุณ scuba734 รีวิวเก่งจังค่ะ Jonathan Strange & Mr. Norrell น่าอ่าน เหมือนกันค่ะ แต่เห็นความหนาแล้ว ไม่รู้จะมีมานะอ่านไหวหรือเปล่า ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ คุณป้าขา...รออ่านรีวิว cloud atlas ค่ะ เล่มนี้เนื้อหาหนักหรือเปล่าคะเนี่ย ว่าแล้วก็ตอบคำถาม... แนวสืบสวนเล่มแรก -- เพิ่งอ่านหนังสือแนวนี้ไม่นานเอง มะวันเป็นคนอ่านไม่ชอบลุ้นอ่ะค่ะ ตะก่อนเคยคิดว่าต้องเปิดตอนจบอ่านก่อนแน่ๆ อิอิ เล่มแรกที่ลองอ่านก็ Dating Dead Men สนุกดีเหมือนกัน แต่ที่ติดใจจริงๆ คงเป็น ดาวินชี่โค้ด ถ้ามีโอกาสก็อยากอ่านแนวนี้อีกค่ะ และจะพยายามหักห้ามใจไม่เปิดตอนจบ ดูก่อน ฮ่าๆๆๆ หนังสือเด็กเล่มแรก -- รู้สึกจะเป็นชาร์ลีกับโรงงานช็อคโกแลต ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่อ่านแล้ว รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับหนังสือเด็กเอาซะเลย ชิกลิทเล่มแรก -- สาวนักช้อปฯ เล่มแรกค่ะ สนุกมาก อ่านแล้วติดใจชิกลิทหนึบหนับ วรรณกรรรมเยาวชน แฟนตาซีเล่มแรก -- neverending story เหมือนกับตาล แต่ชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์มากกว่า หนังสือญี่ปุ่นเล่มแรก -- คิระคิระ หรือไงเนี่ยแหละค่ะ ยังอ่านไม่จบเลย แหะๆๆ แต่เพิ่งได้อ่าน โต๊ะ โต๊ะ ก็ชอบนะคะ หนังสือเกาหลีเล่มแรก -- ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ กะว่าจะลองซื้อเหมือนกัน หนังสือจีนเล่มแรก -- อูย ตอนเด็กๆ อ่านหนังสือจีนกำลังภายในเยอะมากกกกก อ่านทีไม่ยอมหลับ ยอมนอน เล่มแรกจำไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ อาจจะเป็นเซียวฮื่อยี้มั้ง โรมานซ์เล่มแรก -- อ่าน Dear Cupid เหมือนคุณปันค่ะ แต่พี่มะค่อนข้างชอบ การ์ตูนเล่มแรก -- การ์ตูนที่ติดมากับสตรีสาร แต่ถ้าเป็นเล่มๆ คงโดเรมอนเหมือนกันค่ะ หนังสือท่องเที่ยวเล่มแรก -- ตอนเด็กๆ ที่บ้านรับอสท.ค่ะ เลยชอบอ่านหนังสือท่องเที่ยว ถ้าเป็นเล่มๆ เลย คงเป็นงานของคุณพิมพ์สี จำชื่อหนังสือไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ how to เล่มแรก -- Men Are from Mars, Women Are from Venus อ่านแล้วไม่เข้าใจเลยอ่ะค่ะ ทำให้ไม่ชอบอ่านฮาวทูไปเลย นิยายไทย -- จำไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ อาจจะเป็น คำมั่นสัญญา มั้งคะ อ่านแล้วน้ำตาท่วมบ้าน ไปล่ะค่ะ แล้วคุยกันใหม่นะคะ จากคุณ : มะวัน - [ 13 พ.ย. 47 15:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีค่าทุกๆ คน ...ทักคุณ ice หน่อย ว่าแล้วที่หายไปต้องเพราะงานเยอะแน่ๆ สู้ๆ นะคะ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ จำได้ว่าคุณไอซ์ใช่มั้ยคะที่รีวิวเรื่อง The Secret Life of Bee พอดีเพิ่งอ่านจบเมื่อวาน แต่ไม่ประทับใจตอนจบเลย หงุดหงิดจนอยากหาคนคุยด้วย คิดในใจเล่นๆ ว่าถ้าดิสนีย์เอาไปทำเป็นหนัง ต้องแก้ตอนจบแหงๆ แต่คิดอีกที คนเขียนเขาคงตั้งใจจะให้เป็นอย่างนี้แน่ๆ เพราะ Bee swarm before death ...โธ่ คุณป้าเป็นคนก่อนยุคการ์ตูนญี่ปุ่นขนาดนั้นเลยเหรอคะ 555 อืมน่าคิดๆ ...ปรบมือให้คุณ scuba734 ที่อ่านจนจบได้ ว้าวๆๆๆ แล้วรีวิวซะอยากอ่านเลย แต่หนังสือเล่มนี้นอนอ่านแล้วจะตกมาทับคนอ่านตายมั้ยเนี่ย เอาไว้หนังสือยืมได้หนึ่งเดือนก่อน จะไปหยิบยืมมามั่ง จากคุณ : นารูมิ - [ 13 พ.ย. 47 15:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 การ์ตูนเล่มแรก ๆ คงเป็นพวกไอ้มดแดง ยอดมนุษย์ กะ ชัยพฤกษ์และตุ๊กตา นิยายเล่มแรก ต้องสามเกลออยู่แล้ว เรื่องแปล ไม่แน่ใจอาจเป็นเรื่องคุณพ่อขายาว(จัดเป็นChic Lit ได้เปล่าน้า? ) วรณกรรมเยาวชน  ด็อกเตอร์ดูลิตเติ้ลของ ทวพ. ภาษาปะกิตเล่มแรกที่อ่านจยแบบต่อเนื่อง Kane and Abel ของ Archer เล่มล่าสุดที่อ่าน เมื่อพ่อลักพาตัวฉัน :) แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 47 20:19:29 จากคุณ : ตะวันยอแสง - [ 13 พ.ย. 47 20:16:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โอ้โฮ...คุณ scuba ขอบคุณค่ะ... อ่านเนื้อเรื่องแล้วต้องเข้าทางคุณไอซ์แน่เลย... ว่าแต่คุณ scuba อ่าน aesterix & obelix หรือเปล่าคะ ป้าชอบการ์ตูนเรื่องนี้มาก จนทุกวันนี้ก็ยังยืมห้องสมุดมาอ่านเวลารู้สึกว่าไม่อยากคิดอะไรมากน่ะค่ะ ตั้งใจจะเข้ามาคุยถึงข่าวที่คุณตาลแปะมาเหมือนกันค่ะ แปลกใจเอามากๆ ที่ผู้เขียนเลือกเขียนเรื่อง the rape of nanking ทั้งที่เป็นโรคซึมเศร้า สงสัยเธอคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีแนวโน้มที่จะป่วยด้วยโรคนี้ได้ น่าเศร้าจังเลยค่ะ จากคุณ : ป้า - [ 13 พ.ย. 47 20:38:41 A:210.203.176.194 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 32 aesterix & obelix จำได้ว่าเคยยืมนานแล้วคู่มากับ Tin Tin แต่นานแล้ว กลับไปอีกรอบคงดีค่ะ คุณนารูมิคะ เล่มนี้ นั่งอ่านตลอดเลยค่ะลองนอนอ่านแล้ว ขนาดเอาหมอนมารอง ยังหนัก ไม่สบายเลย นั่งอ่าน วางหนังสือบนหมอน แบบไม่ใช้มือรับน้ำหนักเลย ถึงจะอ่านได้ทีละนาน ๆ จากคุณ : scuba734 - [ 13 พ.ย. 47 22:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อะโห กระทู้วิ่งเร็วจังแฮะ! คุณ scuba ยังอ่านเร็วเหมือนเคยเลย อ่านรีวิวแล้วน่าสนจัง ตอบคำถามมั่งนะคะ นิยายสืบสวน - เชอร์ล็อก โฮล์มส์ตอนแรงพยาบาท วรรณกรรมเยาวชน - จำไม่ได้ แต่เป็นของดอกหญ้าแน่ๆ การ์ตูน - The Talent เป็นการ์ตูนรายสัปดาห์เมื่อก่อนนู้น โรมานซ์ - นอร่า โรเบิร์ต ซักเล่มมั้งคะ นิยายภาษาอังกฤษ - Case of Need ของ Crichton อ่านเพราะเขาบอกว่าเป็นต้นแบบ E.R. แต่น่าเบื่อสุดๆ กำลังภายใน - จำชื่อไม่ได้แต่มีปึงป้อเง็ก นิยายไทย - คู่กรรม (โหลสุดๆ) ชิกลิท - Confession of Shopcaholic แต่อ่านจบแค่เล่มเดียวเองค่ะ หลังจากนั้นรู้สึกว่านางเอกชักจะไร้สาระเกิน A Nice Girl Like Me ไว้ไปตั้งสติก่อนแล้วจะลองรีวิวค่ะ เอ คุณมะวันนี่คนเดียวกับที่แปล Lazy Wayฯ รึเปล่าคะ จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 14 พ.ย. 47 00:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีค่ะ ทุกคน ตอบคำถามน้องปันไม่ค่อยได้เลย นึกไม่ออกว่าอ่านเล่มไหนก่อนเล่มไหน เอาที่คิดว่าน่าจะใช่ละกัน นิทานภาพ - จำได้แต่เป็นเรื่องของต้นมะม่วง แต่ตอนนี้ อยากได้ glass heart มาก มัวแต่ติว่าแพงเลยไม่ซื้อ T_T อดเลย กำลังภายใน - อ่านในไทยรัฐอ่ะ พวกศึกสายเลือด ศึกสองนางพญา เหยี่ยวเดือนเก้า นิยายไทย - จอมนาง กับเปรี้ยวหวานมันเค็ม (พี่คนหนึ่งเช่ามาให้อ่าน หลังจากนั้นก็ติดนิยายหนึบ) แวววันเป็นเล่มแรกที่ยืมเอง นิยายสืบสวน - ย่อมต้องเป็นงานของอกาธา คริสตี้แน่นอน the Crooked House กับคู่นักสืบทอมมี่กับทัพเพนซ์ การ์ตูน - ถ้าของญี่ปุ่นก็แคนดี้แหล่ะ ของไทยก็ขายหัวเราะ ชัยพฤกษ์ นิตยสาร - ดาราภาพยนตร์ (เคยตอบไว้นานแล้วว่าซื้อมาอ่านนิยายน้ำเน่าเกือบติดเรท ประเภทเด็กไม่ควรอ่าน อุอุ) วรรณกรรมเด็ก - สวนสัตว์ เอมิลยอดนักสืบ ปริศนาระฆังทอง นาร์เนีย น้ำพุ ...อะไรพวกเนี้ย ยืมห้องสมุดเอา ฮาวทูหรือแนวความรู้มีสาระ - ฉันเคยอ่านแนวนี้ด้วยเหรอ? 5555 อ่านปุ๊บลืมปั๊บค่ะ ชิกลิทกับโรมานซ์ - ยิ่งจำไม่ได้เข้าไปใหญ่ ขนาดเพิ่งอ่านเดือนก่อนยังลืมเลยค่ะ ขอบคุณคุณ scuba ที่มารีวิวค่ะ เห็นลือกันว่าเรื่องนี้ดาร์ค ติ่มก็อยากรู้อยู่ว่าดาร์คยังไงหว่า? แต่พล็อตผิดไปจากที่คิดค่ะ ตอนแรกคิดว่านอร์เรลเป็นตัวร้าย แล้วสุดท้าย พ่อมดสองคนจะสู้กันเองซะอีก ไอซ์ พี่จำได้ว่าเราเคยแชทกันเรื่องโครงการร่วมกันเขียน ออกมาเป็นเล่มนี้เองเหรอ? น่าสนมากเลย สู้ ๆ เรื่องงานนะ อดทนไว้ เพื่อความยิ่งใหญ่ในวันหน้า 5555 วันนี้ยอมอดนอน ถ่อไปมาบุญครอง แล้วก็โชคดี (?) ได้หนังสือลด 50% มาเต็มถุงเลยค่ะ กำลังกลุ้มว่ากำลังภายในเริ่มหมดสต็อก วันนี้ได้มาอีกสองเรื่อง เดี๋ยวต้องไปจุดธุปขอบคุณฟ้าดินซะหน่อย แถมยังได้วรรณกรรมเด็กมาอีกหลายเล่ม ทุ่นเงินไปเยอะเลยค่ะ พอลดครึ่งราคา อะไร ๆ ก็น่าซื้อไปโม้ดดดด (แต่ก็สะอื้นในใจเหมือนกัน เมื่อเห็น 'ห้าสหายผจญภัย' ยกชุด ที่เราซื้อไปแล้ว) นึกไม่ออกว่าอ่านอะไรไปบ้างค่ะ คงพวกโรมานซ์กับกำลังภายในตามเคย ขอข้ามไปละกัน วันนี้ขี้เกียจค่ะ ไว้ค่อยคุยกันค่ะ ไปทลายกองงานบ้าง อ่านหนังสือจนไม่ได้ทำงานเลย จากคุณ : ติ่มซำ - [ 14 พ.ย. 47 03:51:45 A:202.183.171.131 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เช้าๆ วันอาทิตย์ตื่นมาได้รำลึกความหลัง ก็ดีเหมือนกันนะคะ นวนิยายเรื่องแรก จำไม่ได้เหมือนกันว่าเล่มไหนเป็นเรื่องแรก เอาเป็นว่าพื้นฐานการอ่านนวนิยายนี้มาจากสกุลไทย และสตรีสารค่ะ จำได้ว่าชอบอ่านเรื่องสั้นชุดสาว-หนุ่มจากสตรีสารมาก ส่วนสกุลไทยทำให้ชอบทมยันตี และโสภาค สุวรรณ มาก ทมยันตีนี่ตามอ่านทุกนามปากกาเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น โรสลาเรน กนกเรขาที่คุณป้าบอกไว้ และลักษณาวดี แต่งานหลังๆ ของเจ๊แกนี่รับไม่ได้เลยค่ะ ราวกับว่าแกไม่ได้เขียนเอง วรรณกรรมเยาวชนเรื่องแรกที่อ่าน จำไม่ได้อีกว่าอันไหนมาก่อน หนูน้อยนิโคลา บึงหญ้าป่าใหญ่ของเทพสิริ สุขโสภา แต่ที่แน่ๆ ประทับใจมากคือต้นส้มแสนรัก(ภาคแรก) วรรณกรรมแปล พรากจากแสงตะวัน ที่สุริยฉัตร ชัยมงคล แปลจาก Out of Africa อันนี้ทั้งหนังและหนังสือชอบหมด การ์ตูน ก็ต้องแคนดี้ เด็กกำพร้าหน้าหวานตาโตคนนั้น กำลังภายใน อ่านไม่เป็นเลยอ่ะค่ะ มีเพื่อนๆ หยามเหยียดเพราะว่าอ่านฤทธิ์มีดสั้นไม่ผ่านเล่มแรก ชิกลิท บริดเจ็ทโจนส์ นั่นแหล่ะค่ะ ที่ทำให้รู้จักคำว่าชิกลิท นวนิยายแปลเมื่อก่อนทำไมเราไม่เรียกว่าชิกลิทหนอ นึกอะไรออกจะมาบอกต่อค่ะ สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะทุกคน จากคุณ : grappa - [ 14 พ.ย. 47 08:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มารีวิวหนังสือเล่มบางๆ ตามเคยค่ะ ========================= ดีนี่ สาวน้อยไม่หยุดฝัน (Deenie) Judy Blume เขียน รุ่งอรุณ สัมปัชชลิต แปล ========================= หนังสืออ่านง่ายอีกเล่มของนักเขียนคนโปรดของคนอ่านค่ะ หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องของเด็กสาวที่ชื่อว่าดีนี่ เธอมีหน้าตาสวยมาก แม่ของเธอคาดหวังจะให้เธอเป็นนางแบบให้ได้ ดีนี่เป็นเด็กสาววัยรุ่นเกรด 7 ปรกติเธอกับแม่จะไปตามเอเจนซี่ต่างๆ เพื่อคัดตัว เพราะแม่ของเธอเชื่อว่า ถ้าคุณจะเป็นนางแบบ คุณต้องเข้าสังกัดให้ได้ก่อนอายุ 17 เกือบทุกเอเจนซี่บอกว่าเธอมีหน้าตาที่สวย เด่น สะดุดตา ติดอยู่แต่ว่าท่าเดินของเธอดูแปลกๆ จนกระทั่งวันหนึ่งครูพละของเธอก็เรียกเธอเข้าพบ ครูสั่งให้เธอลองก้มลงเอานิ้วแตะพื้น หลังจากนั้น ครูก็ติดต่อไปที่บ้าน เธอถูกส่งไปตรวจกับหมอคนแล้วคนเล่า และทุกคนก็ได้คำตอบถึงท่าเดินแปลกๆ ของเธอ ว่าเป็นเพราะเธอป่วยเป็นโรคสโกลิโอซิส (กระดูกสันหลังคด) และเพื่อที่จะแก้ไข เธอต้องสวมเด็กดามหลังไปอีก 4 ปี ****** มาแล้วค่ะ หนังสือแปลเล่มล่าสุดของจูดี้ บลูม ก็อ่านง่ายและกระเทาะเปลือกความสับสนในจิตใจของวัยรุ่น (ตอนต้น) สไตล์จูดี้ บลูมเช่นเคยค่ะ แต่ที่ทำให้ชอบหนังสือเล่มนี้ ขนาดยก A+ ให้ เพราะชอบความเป็น "ปุถุชน" ที่จูดี้ บลูมใส่ให้ในตัวละครค่ะ ชอบที่หนังสือไม่เร้าอารมณ์จนทำให้เรื่องนี้เศร้าสติแตก ประมาณ drama จ๋า ชอบที่ทำให้เห็นพัฒนาการของเด็กผู้หญิงจริงๆ (ที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนหน้าตาดี) ดีนี่มีเด็กผู้ชายที่แอบปลื้ม ซึ่งเธอจงใจสะบัดผมเวลาคุยด้วย ดีนี่อยากเป็นเชียร์ลีดเดอร์ และพอไม่ได้ เธอก็มีกลไกป้องกันตัวเองบอกว่า เธอก็แค่ไปคัดงั้นๆ แหละ ดีนี่มีปัญหาหลายอย่างอยากที่เด็กสาวทั่วๆ ไปจะมี เธอกลัวว่าการใส่เหล็กดามหลังจะทำให้คนอื่นมองเธอแปลกๆ หรือมองเหมือนเธอเป็นคนพิการ ที่เด็ดก็อยู่ตรงนี้ล่ะค่ะ เพราะในบทแรก ตัวละครดีนี่เนี่ยแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง ว่าไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรเท่าไหร่กับคนที่มีความบกพร่อง เธอไม่กล้ามองยายแก่หลังค่อมตรงๆ เธอไม่กล้าคุยกับเพื่อนเก่าที่ประสบอุบัติเหตุตอนเด็ก จนต้องเสียขาและดวงตาไปอย่างละข้าง และถ้าทำได้ เธอก็ไม่อยากถูกตัวเพื่อนร่วมห้องที่เป็นโรคผิวหนัง ดูโครงเรื่องอาจจะหนักนะคะ แต่เนื้อหาไม่หนักเลย เพราะดีนี่มีความเป็น practical ในตัวอยู่พอควร แม่ของเธอซะอีกที่ออกจะเป็น drama queen เกินไป ไปค้นภาพมาให้ดูด้วยค่ะว่า คนที่ป่วยเป็นโรคนี้เขามีอาการเป็นยังไง โรคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะพันธุกรรมนะคะ แล้วถ้าเจอตั้งแต่ช่วงต้นๆ ก็จะรักษาหาย ภาพท้ายสุดเป็นเหล็กดามหลังยุคแรกที่ดีนี่ต้องใส่ โชคดีค่ะ ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาการ ตอนนี้เขาใช้เป็นเหมือนสเตย์รัดหน้าท้องแล้วค่ะ เวลาใส่คงดูไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ ชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ แต่คงเป็นเพราะชอบนักเขียนเป็นทุนเดิม ใจเลยโอนเอียงเทคะแนนให้อยู่เรื่อย อย่าเชื่อมากนะคะ เล่มนี้อ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ไม่คิดว่าจะพลาดอะไรไปค่ะ เพราะเท่าที่เอามาเล่าเนี่ย ก็เกือบทั้งเล่มแล้ว จากคุณ : นารูมิ - [ 14 พ.ย. 47 14:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แวะมาขอบคุณคุณ scuba734 สำหรับรีวิวด้วยอีกคนค่ะ อ่านพลอตดูแล้วน่าสนใจจริงๆด้วย ได้เสียเงินอีกแล้วสิเนี่ย สำหรับหนังสือเล่มแรกๆที่ได้อ่าน วรรณกรรมเยาวชน - เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก, มอม, นิกกับพิม เริ่มอ่านในเวลาใกล้ๆกันตอนซักประถมต้นนี่แหล่ะค่ะ หนังสือแปล - เรื่องหมาของเจมส์ เฮอร์เรียต (ชอบมากๆที่สุด) นิยายไทย - คู่กรรม (โหลจริงๆด้วย) แล้วข้ามไปนิยายของจามรี พรรณชมพู, วลัย ฯลฯ ประโลมโลกสุดๆ ^^ การ์ตูน - หนูจ๋า แล้วก็ชัยพฤกษ์การ์ตูน หลังจากนั้นพอยุคการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาก็อ่านโดเรมอน อาซาริ ฮาโตริ แคนดี้ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ฯลฯ หนังสือภาษาอังกฤษ - สารานุกรมเกี่ยวกับชื่อต้นไม้/ดอกไม้ บังเอิญในห้องสมุดโรงเรียนเล่มนี้ดูท่าทางภาพเยอะ/ตัวหนังสือน้อยสุด ^^ จากคุณ : kitnan - [ 15 พ.ย. 47 08:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ลืมถามต่อ คุณติ่มฯคะ รบกวนถามนิดนึงได้มั้ยคะ ร้านหนังสือในมาบุญครองร้านไหนที่คุณติ่มไปเจอห้าสหายผจญภัยยกชุดลด 50% คะ อยากไปซื้อเก็บไว้ให้ลูกสาวอ่ะค่ะ จากคุณ : kitnan - [ 15 พ.ย. 47 08:53:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โอววว ติ่มซื้อหนังสืออีกแล้ว ได้อะไรมามั่งอ่า แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ ให้คุณทินาค่ะ ฮี่ๆๆๆ รออ่านรีวิวนะค้า ท่าทางคุณนารูมิจะ Judy Blume โปรดปรานจริงๆ ด้วย เธอเขียนหนังสือ ออกมาเยอะจริงๆ เล่มที่พี่อยากอ่านก็ Are You There, God? It's Me, Margaret กับ Forever น่ะค่ะ คุณนารูมิ อ่านหรือยัง แวะมาเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ วันนี้ว่างขอเล่าถึงหนังสือที่อ่านเมื่อเดือนก่อนโน้นให้ฟังกันนะคะ Something Borrowed ของ Emily Giffin     เรเชลและดาร์ซี เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไหนแต่ไร ดาร์ซี่จะ สวยเด่นและประสบความสำเร็จกว่าเรเชลเสมอ ดาร์ซี่มีงานหรูหราและ คู่หมั้นสุดหล่อเพอร์เฟ็คต์ ส่วนเรเชลเป็นทนายความและโสด         แต่แล้วเมื่อคืนฉลองวันเกิดครบรอบสามสิบปีของเรเชลมาถึง เธอเมาจน ลืมตัวไปนอนกับคู่หมั้นของดาร์ซี่ เมื่อสร่างเมาเธอพยายามจะเก็บเรื่องนี้ เป็นความลับ และหาข้ออ้างนู่นนี่มาทำให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลง แต่เมื่อมี ครั้้งแรกแล้วก็มีครั้งต่อๆ ไป คู่หมั้นของดาร์ซี่ (ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว แหะๆๆ) เองก็เคยแอบชอบเรเชลมาตั้งแต่สมัยเรียน เรื่องมันก็เลยบานปลาย จากการที่มีอะไรกันโดยบังเอิญ ทั้งคู่เริ่มนัดเจอกันบ่อยขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็ต้องพยายามปกปิดดาร์ซี่ไว้เป็นความลับ แต่เหตุการณ์ก็ยุ่งเหยิงขึ้นทุกที เมื่องานแต่งงาานระหว่างดาร์ซี่กับคู่หมั้นหนุ่มใกล้จะมาถึง ถึงคราวที่เรเชล ต้องตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เธอจะยอมตามหัวใจตัวเองดี หรือจะทำ ตามมโนธรรมดี?            หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วติดหนึบเหมือนกัน อยากรู้ว่านางเอกจะตัดสินใจยังไง และทั้งสามคนจะลงเอยยังไง สไตล์การเขียนและสำนวนอ่านง่ายสนุกสนาน แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบนางเอกประเภทไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ลืมเล่มนี้ไปได้เลยค่ะ เพราะหลายตอนที่มะวันอ่านแล้วอยากบ้องนางเอกซักที ฮ่าๆๆๆ แต่เพื่อน นางเอกก็น่ารำคาญเหมือนกัน เลยทำให้เห็นใจนางเอกมากขึ้นมาหน่อย จะมีที่ติอย่างเดียวคือตอนจบ ที่คนเขียนทำพล็อตให้เข้าล็อคลงตัวไปซะทุกอย่าง แต่เป็นตอนจบที่แฮปปี้เอนดิ้งแบบตลกๆ ดีค่ะ เล่มนี้ในอเมซอนได้ดาวเยอะเชียว       แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 47 09:07:27 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 47 09:05:50 จากคุณ : มะวัน - [ 15 พ.ย. 47 09:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 40 หวัดดีครับ งมหัวอยู่กับงานครับ(เทอมนี้สอนแยะและส่วนใหญ่จะสอนเย็นครับ เฮ้อ)  พอโงหัวขึ้นเลยรีบแวะมาตอบคำถาม หนังสือที่อ่านเป็นเล่มแรกๆ เหรอ...ถ้าเป็นนิยายไทยนี่คิดว่าเป็นนิยายของทมยันตีอ่ะครับ แต่จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องว่าอะไร ส่วนนิยายแปลนี่คือเรื่องยูนิคอร์น คนแปลคืออาจารย์ทอรุ้ง จรุงกิจอนันต์ เป็นเรื่องของยูนิคอร์นตัวสุดท้ายของโลกหรือทำนองนั้น ถ้าเป็นการ์ตูนก็น่าจะเป็นโดเรมอน จำได้ว่าตอนเด็กๆ ผมกับน้องรวมเงินกันไปซื้อเล่มละ 10 บาทเกือบทุกอาทิตย์ พวกนิยายที่อ่านๆ อยู่นี่ จำไม่ได้แล้วว่าอ่านแบบไหนก่อน(คือถ้าจะให้แยกแบบคุณปันคงลำบากอ่ะครับ เพราะความจำสั้นลืมไปหมดแล้ว) แต่เป็นคนอ่านมากครับ อ่านคละไปคละมา...แต่ที่แน่ๆ มีช่วงหนึ่งคลั่งอกาธา คริสตี้ ตามซื้อมาเก็บตรึม...ตลุยอ่านแบบว่าไม่หยุดเลย... ส่วนหนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรกที่อ่านคือ Interview with the vampire อ่านตอนขึ้นเครื่องไปอเมริกาตอนที่ไปเรียนซัมเมอร์ที่นั่นอ่ะครับ สิบกว่าชั่วโมงบนเครื่องอ่านเล่มนี้จบเล่มไม่ได้หลับได้นอนเลย... คุณ scuba734 ขอบคุณมากครับที่รีวิวนิยายเล่มหนาหนักเรื่องนั้น เพิ่งไปหยิบๆ จับๆ ที่บุ๊คกาซีนมา แต่แฟนบอกว่าขืนเธอซื้อมาแล้วมีแปลเป็นไทยจะเสียใจ ผมเลยวางอ่ะ คุณไอซ์ คุณพงศกรเขียนนิยายมาแล้วมากมายครับ คุณติ่มเคยแนะนำงานของเขาหลายเรื่องแล้วด้วยถ้าผมจำไม่ผิดนะ แต่เรื่องที่ผมอยากจะแนะนำคือสาวหลงยุค อ่านในสกุลไทย สนุกมากๆ จนต้องไปซื้อรวมเล่มมาเก็บไว้อ่านอีกรอบอ่ะครับ หายไปหลายวันอ่านหนังสือจบไปสองเล่มครับ...รีวิวซักนิดแล้วกันนะ... มากกว่ารัก The Big Love  ของซาราห์ ดันน์ แปลโดยพลอย จริยะเวช เรื่องย่อโดยสรุปคร่าวๆ อลิสันเป็นคอลัมนิสต์วัย 32 ที่เต็มไปด้วยความแปลกแยกในชีวิตเนื่องจากสภาพที่เธอถูกเลี้ยงดูมาและชีวิตเสรีแบบใหม่ที่เธอไม่คุ้นชิน วันหนึ่งหลังจากที่ทอม แฟนหนุ่มที่อยู่ด้วยกันมา 4 ปีออกไปซื้อมัสตาร์ดแล้วโทรฯกลับมาบอกว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้วและเขารักคนอื่นอยู่  อลิสันก็ตระหนักได้ว่าชีวิตของเธอมีอะไรผิดเพี้ยนไป...เธอถามตัวเองว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้ และเรื่องก็พาเราย้อนกลับไปดูชีวิตของเธอ จิตใจของเธอ เพื่อนของเธอ และชีวิตหลังจากที่ไม่มีทอม และหลังจากที่ทอมกลับมาของเธอก่อนจะสรุปแบบชัดเจนว่าสิ่งที่มากกว่ารักที่อลิสันโหยหามานั้นคืออะไร... พอจะเข้าใจทันทีเลยว่าทำไมคุณปันและหลายๆ คนอ่านแล้วไม่ถูกใจ ไม่เข้าทาง นิยายเล่มนี้ไม่ใช่ Chic Lit ประมาณว่ากุ๊กกิ๊กแบบน่ารักและ Happy Ending แบบไม่ตะขิดตะขวงใจ แต่เป็นเรื่องรักแบบชวนคิด หลายๆ มุมของเรื่องมีนัยยะแบบเสียดสี ประชดประชันคล้ายๆแต่ไม่เจ็บเท่า Sex and the city (เวอร์ชั่นทีวีนะ น่าจะดีกว่าเวอร์ชั่นหนังสือ) ...บังเอิญเรื่องทำนองนี้เข้าทางครับ เลยอ่านปุ๊บๆ สองวันจบ ผมชอบนะ ถ้าให้เป็นคะแนนก็จะให้ซัก 85 จาก 100 ครับ.. แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 47 13:26:05 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 47 09:37:43 จากคุณ : Filippo - [ 15 พ.ย. 47 09:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อีกเล่มที่อ่านจบไปนะครับ โจรกรรมวิตถาร Hickory Dickory Dock ของอกาธา คริสตี้ แปลโดยปรีชา-ดวงตา คดีขโมยของเล็กๆ น้อยๆ ในหอพักนักศึกษานานาชาติบนถนนฮิกคอรี่ที่พี่สาวของมิสเลมอน เลขานุการของแอร์คูลต์ ปัวโรต์ทำงานอยู่นำไปสู่เหตุการณ์ฆาตกรรมที่มีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายถึง 3 รายกว่าที่ปัวโรต์จะคลี่คลายคดีได้... เป็นหนังสือเก่าเก็บที่ไปขุดเจอจากในกรุครับ(เป็นฉบับของสำนักพิมพ์น้องใหม่ที่แปลงานของคริสตี้ออกมาแยะมากในช่วงเมื่อสักเกือบสิบปก่อนน่ะครับ) ก็เรียกได้ว่าอ่านเพลิน ใช้เวลาอ่านแบบวันเดียวจบ...เดาตัวคนร้ายไม่ออกอีกต่างหาก ที่ขัดใจมีอยู่นิดเดียวตรงการแปลชื่อตัวละคร มีคนหนึ่งที่น่าจะชื่อว่า Nigel แต่คนแปลดันแปลว่านิเกล ไม่ใช่ไนเจล ทำเอาผมหงุดหงิดตอนอ่านอ่ะครับ และที่น่ารำคาญใจเวลาอ่านอีกอย่างคือตัวละครแยะมาก ทำเอาคนมีอายุแบบผมจำชื่อตัวละครไม่หวาดไม่ไหวต้องพลิกกลับไปเปิดอ่านตอนต้นๆ เสียทุกที ฮ่าๆๆๆ ขอคุยต่ออีกหน่อย เรื่องที่คุณมะวันรีวิวก็น่าสนดีนะครับ เดี๋ยวต้องลองไปสำรวจแถวเอเชียบุ๊คส์ดูดีกว่าว่ามีไหม... เดี๋ยวมาคุยใหม่นะครับ จากคุณ : Filippo - [ 15 พ.ย. 47 09:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่ได้เล่นเน็ตแป๊บเดียว กลับมากระทู้วิ่งอีลุ่ยฉุยแฉกดีจัง ตอบคำถามกระทู้ จำไม่ได้อ่ะ ว่าหนังสือแต่ละแนวที่อ่านเล่มแรกคือเรื่องอะไร เพราะว่ามันสะเปะสะปะมั่วไปหมด ส่วนใหญ่จะเป็นการ์ตูนซะมากกว่า หาซื้อได้ง่ายกว่าหนังสือเล่ม และที่ได้อ่านเนี่ยจะหนักหนังสือเรียนมากกว่า หนังสืออื่นๆ ก็จะอ่านจำพวกนิตยสารที่พ่อแม่ซื้อมา เคยจำได้ว่าครั้งหนึ่งไปขุดกรุนิยายมาเล่มหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเป็นของพ่อหรือแม่หรือน้าหรืออา เป็นนิยายเรื่องแรกของโบตั๋น ชื่อเรื่อง ทางชีวิต จำได้แค่นี้อ่ะ ส่วนใหญ่จะยืมจากห้องสมุด มาซื้อหนังสือเป็นเรื่องราวก็ตอนเรียนมหาวิทยาลัย กับตอนทำงานแล้ว เพราะมีรายได้เป็นของตัวเอง นอกเรื่องซะได้ สรุปคือจำได้เรื่องเดียว จากคุณ : envy_econ - [ 15 พ.ย. 47 09:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หวัดดีค่ะ พี่มะ คุณโป้ คุณenvy ส่วนเรื่องที่พี่มะ ถามถึงหนูได้อ่านแล้วเล่มหนึ่งค่ะ เพราะแปลเป็นไทยแล้วชื่อ "รอวันนั้น" (Are you there, God? It's me, Margaret) เป็นหนังสือเกี่ยวกับเด็กสาว (มาร์กาเร็ต) ที่ต้องย้ายจากนิวยอร์คไปอยู่ที่นิวเจอร์ซีย์ และได้พบกับเพื่อนกลุ่มใหม่ ในวัยที่ต้องเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงมากมาย แถมพ่อกับแม่เธอก็นับถือคนละศาสนา (คนหนึ่งเป็นยิว คนหนึ่งเป็นคริสต์) มาร์กาเร็ตก็เลยมีเรื่องสับสนมากมาย หนังสือเล่มนี้จะคล้ายๆ ชีลาฯ น่ะค่ะ ไม่ค่อยหนุกเท่าไหร่ แต่เหมาะสำหรับเด็กสาวที่กำลังจะเป็นวัยรุ่นนะ (เก็บให้น้องตาหวานดีกว่านะพี่มะ) คิดอยู่เหมือนกันค่ะ ว่าหนังสือเซ็ตนี้ พอเราพ้นวัยรุ่นมาแล้ว มันก็ไม่ค่อยอินเท่าไหร่แล้วค่ะ แต่จำได้ว่าตอนเด็กๆ อ่าน "น้องเล็กฯ" แล้วรักมากๆๆๆๆ หนูว่าจูดี้ บลูมเก่งนะที่ดึงตัวเองสมัยเด็กๆ กลับมาได้ นี้หนูก็พยายามอยู่หลายทีจะเขียนหนังสือเด็ก (กะไปส่งนายอินทร์อวอร์ดกะเขามั่ง) แต่ทำไปทำมา ก็ไปได้ไม่เกินสิบหน้าซะที 555 (ว่าแต่หมู่นี้พี่มะเขียนเรื่องยาวอยู่เปล่าคะ นอกเหนือจาก "ไพ่" อะไรนั้นแล้ว) ตอบคำถามคุณคิทนานแทนคุณติ่มอีกทีค่ะ ร้านหนังสือ 50% ที่สยามจะมีสองร้านนะคะ ร้านแรกอยู่ตีนสะพานลอยฝั่งตรงข้ามมาบุญครองตรงตึกโบนันซ่าน่ะค่ะ ถ้ามองเข้าไปจะสะดุดกับกองการ์ตูนมากกว่า แต่ตาดีๆ จะได้หนังสือใหม่ๆ นะคะ อีกร้านก็อยู่ถัดไปตรงซอยที่มีป้อมยาม (ฝั่งขวา ไปจุฬาน่ะค่ะ) แล้วที่อนุเสาวรีย์ก็มีอีกสองร้าน ร้านแรกอยู่ตรงฝั่งภัตตาคารอาหารจีนน่ะค่ะ (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ^-^" อีกร้าน ต้องเดินเข้ามาลึกหน่อย (เกือบถึงสวนสันติภาพน่ะค่ะ) จะอยู่ในฟู้ด ไลออนส์เก่า อีกร้านที่จำได้ว่ามีอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ บางกระปิค่ะ ใกล้ตรงไหน ไปที่นั้นคะ ร้านพวกนี้ต้องไปในจังหวะดีๆ จะได้หนังสือราคางามๆ มานอนอ่านให้ชื่นใจ พูดแล้วก็ยั่วกิเลศนิดหน่อย ด้วยรายชื่อหนังสือที่ไปกวาดมาจากร้านพวกนี้เมื่อสัปดาห์ก่อนค่ะ 1. งานของจิมมี่ เลา สามเล่ม (หุๆ ไม่ซื้อราคาเต็มเพราะราคามันแพ้ง แพง มาได้ราคานี้ถูกใจค่ะ) 2. ลูซี่ ซัลลิแวน รักแท้แค่หัวใจเอื้อมถึง (เห็นปุ๊บ ตะครุบปั๊บ) 3. เนเวอร์เอ็นดิ้ง สตอร์รี่ฉบับแปล (เล่มนี้เคยยืมห้องสมุดมาอ่าน นานแล้ว แต่ชอบ ไหนก็ลดราคา เลยสอยมาเก็บซะเลย) ไปหาเงินต่อดีกว่าค่ะ สวัสดีวันจันทร์ วันเริ่มต้นการทำงานของหลายๆ คนค่า จากคุณ : นารูมิ - [ 15 พ.ย. 47 09:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ลูซี่ ซัลลิแวน รักแท้แค่หัวใจเอื้อมถึง คุณนารูมิ อยากได้เล่มนี้อ่ะ...อิจฉาจัง จากคุณ : Filippo - [ 15 พ.ย. 47 10:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เล่นไปเล่นมา เครื่องจะแฮงค์ TT^ เกือบจะโม่งกับพี่นารูมิ ดีว่าเครื่องดันแฮงค์ซะก่อน ไม่งั้นเจ็บหัวแย่ อิอิ ตอนนี้อ่านหนังสือพร้อมกันอยู่ 4 เล่ม (บ้ารึเปล่าเนี่ย) เพราะว่าไปต่างจังหวัดมา แต่อ่านสลับกันมั่วไปหมด ใครเคยอ่านหนังสือพร้อมๆ กันหลายเล่มบ้าง แต่กะว่าจะหาเล่มที่ 5 มาอ่านแทนแล้วเอา 4 เล่มที่เหลือเข้ากองดอง แต่ว่า 4 เล่มที่อ่านใช่ว่าน่าเบื่อ แต่ว่าไม่ได้เข้าอารมณ์ตัวเองเท่านั้น หนึ่งในเล่มนั้น คือ มากกว่ารัก ที่อ่านขยักขย่อนซะจริงๆ อาจจะเป็นเพราะไม่เข้าทางเราด้วยมั้งเนี่ย (ไม่เหมือนพี่โป้ อิอิ) อย่างที่คำนำว่าไว้ว่าอาจจะรำคาญการบ่นของนางเอก ซึ่งก็รำคาญจริงๆ ก็เลยว่าจะเก็บไว้ในกองดองดีกว่า จากคุณ : envy_econ - [ 15 พ.ย. 47 10:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เฮ้ย เอนวี่ ทนอ่านอีกหน่อยสิ แล้วจะเข้าใจว่าอะไรเอ่ยมีค่ามากกว่าความรัก จากคุณ : Filippo - [ 15 พ.ย. 47 11:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คำถามของน้องปันยากจัง เดี๋ยวต้องขอเวลารวบรวมสติสตังคิดนิดนึงนะคะ ช่วงนี้งานยุ่งๆ ด้วย เลยยังไม่มีเวลานั่งนึกย้อนอดีต อิดฉาหนังสือที่น้องนารูมิได้มาจังเลย แต่ละเล่มดีๆ ทั้งน้าน แวะมาให้กำลังใจไอซ์นะคะ ไอซ์สู้ๆๆๆ จากคุณ : Bigcrab - [ 15 พ.ย. 47 11:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 48 นั่นซิคะ คุณนารูมิ น่าอิจฉาจริง อยากได้หนังสือจิมมี่ เหลียว ลดราคาด้วย จากคุณ : grappa - [ 15 พ.ย. 47 12:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ห่างหายไปหลายกระทู้ คนแถวนี้อ่าน & คุยเก่งกันจริง ๆ คนหลังเขาตามอ่านแทบไม่ทันแน่ะค่ะ อือม์ ..ถ้าจะตอบคำถามหัวข้อกระทู้เนี่ย คงต้องรำลึกอดีตย้อนหลังไปยาวนานมากกกก เอิ้ก.. แต่จะพยายามก็แล้วกันค่ะ เอาเท่าที่นึกออกแล้วกันนะคะ อ่านนิยายประโลมโลก(ย์)เป็นตั้งกะอยู่ป.สอง จำได้ว่านิยายเรื่องแรก ๆ ที่อ่านแล้วติดใจ เป็นนิยายในนิตยสารรายสัปดาห์ “ดรุณี” มีที่ประทับใจมาก ๆ อยู่ สองสามเรื่อง เช่น ดงผู้ดี (แหะ ๆ เรื่องนี้จำไม่ได้ค่ะว่าใครแต่ง ) หมูแดง ของวราภา แล้วก็ ฯลฯ นิยายภาษาอังกฤษ ถ้าไม่นับหนังสือนอกเวลาที่ต้องอ่านนะคะ เรื่องแรกที่อ่านก็อ่านเล่มโตเลย Gone With the Wind ค่ะ เห็นมันว่าง ๆ อยู่ห้องสมุด ไม่มีคนยืม จำได้ว่ากว่าจะอ่านจบ ( ตอนนั้นยังเรียนม.ต้นอยู่เลยค่ะ อ่านแบบรู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง อาศัยว่าเคยดูหนังมาก่อน เลยพอจับเรื่องราวได้) ยืมต่อเนื่องถึง ห้าหรือหกครั้งแน่ะค่ะ (ครั้งละเจ็ดวัน หุหุ) วรรณกรรมเยาวชนมาเริ่มอ่านตอนโตมากแล้ว (แบบว่า วัยกลับมังคะ) มีเพื่อนแนะนำให้อ่านหนังสือของจูดี้ บลูม - Fourth Grade of Nothing - ไม่มีใครร้ายเท่าน้องเล็ก –ฟัดจี้ อ่านแล้วติดอกติดใจ จากที่เคยมองข้ามนิยายเด็ก ๆ ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองโตแล้ว กลายมาเป็นว่าในช่วงที่เริ่มเป็นผู้ใหญ่ ไอ้เรากลับสรรหาแต่วรรณกรรมเด็ก ๆ อ่าน เข้าห้องสมุดทีไรก็จะตรงดิ่งไปแต่ส่วนที่เป็นหนังสือสำหรับเด็ก (แน่นอนค่ะ ว่าไม่ใช่ห้องสมุดบ้านเรา ถ้ามีการแบ่งเซ็กชั่นให้เด็ก ๆ ชัดเจนอย่างนั้นล่ะก็) จนโตเต็มที่ หาเงินซื้อหนังสือได้เองแล้ว หนังสือที่ซื้อเองส่วนใหญ่จึงเป็นวรรณกรรมเยาวชนซะเยอะ แม่ไก่ก็เป็นแฟนจูดี้ บลูมชนิดติดหนึบเหมือนกันค่ะ คุณนารูมิ แต่มาผิดหวังนิด ๆ กับนิยายสำหรับเด็กรุ่นโตหน่อยของเค้าสองสามเล่ม อย่าง Forever (เล่มนี้อ่านด้วยความเหนียม เพราะมีเลิฟซีนแบบโจ่งแจ้ง ละเอียดเชียว) กับ Summer Sister – ไงไม่รู้นะคะ ไม่ค่อยชอบเรื่องราวมั่ว ๆ ของเด็กวัยรุ่นที่ควรจะเป็นวัยใส ๆ แบบนี้เท่าไหร่ (แหะ ๆ ความรู้สึกส่วนตัวค่ะ) หลังจากนั้นก็อ่านหนังสือสะเปะสะปะมาก เลยไม่มีแนวของตัวเองเลยค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับว่าอ่านได้ทุกแนวหรอกนะคะ อย่างชิกลิทเนี่ยก็อ่านแค่บริทเจ็ต โจนส์(Edge of Reason) สาวนักช้อปฯ อ่านแล้วไม่ประทับใจนัก ( อ้อ...แต่ชอบบริทเจ็ต โจนส์ มากกว่ารีเบคก้านะคะ)ก็เลยไม่ได้อ่านเล่มอื่นอีก ช่วงนี้ไม่ได้ซื้อหนังสือใหม่ ๆ เลยค่ะ เพราะไปอยู่บนดอยมา แต่เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังถึงหนังสือเด็กที่เคยอ่านนานมากแล้ว แต่เห็นว่าพากย์ภาษาไทยเพิ่งออกมา เป็นเล่มโปรดอีกเล่มหนึ่งค่ะ แต่ตอนนี้ขอแปะก่อน ยังใช้เน็ตโบราณอยู่...เดี๋ยวข้อความหายไปแล้วเสียความรู้สึกค่ะ จากคุณ : แม่ไก่ - [ 15 พ.ย. 47 12:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แหะ ๆ เพิ่งเห็นว่าข้างบนไม่ได้สวัสดีใคร ๆ เลย... สวัสดีเพื่อนพ้องน้องพี่นักอ่านทุกคนนะคะ ^^ เห็นเพื่อนเล่าให้ฟังว่า หนังสือเด็กเล่มโปรดเล่มหนึ่งแปลเป็นไทยออกมาแล้วนะ หลังจากที่นึกสงสัยอยู่นานว่า หนังสือออกสนุก ทำไมไม่มีคนแปลซักที ทราบแต่ว่าสนพ.ผีเสื้อได้ลิขสิทธิ์ตั้งนานแล้ว (เอ๋...หรือเค้าเคยพิมพ์แล้วเราตกข่าวก็ไม่ทราบได้นะคะ) Mrs.Frisby & the Rats of NIMH ค่ะ ออกแนวแฟนตาซีนิดๆ ค่ะ เป็นเรื่องราวของแม่หนูม่าย มิซซิสฟริสบี้ ที่อาศัยอยู่ในฟาร์ม ๆ หนึ่งกับลูก ๆสี่ตัว เรื่องเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เมื่อลูกชายคนเล็ก เอ๊ย...ตัวเล็กของเธอเกิดล้มป่วยลง และวันนั้นเธอก็เริ่มสังเกตเห็นว่าอากาศเริ่มเปลี่ยนแล้ว จวนถึงฤดูไถหว่านของชาวไร่ชาวนาเต็มที่ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เธอและลูก ๆ จะตัอง"ย้ายบ้าน" ไปสู่บ้านฤดูร้องริมลำธารเหมือนที่เธอปฏิบัติอยู่ทุกปี...แต่เมื่อทิโมธีเกิดล้มป่วยลงเช่นนี้ การย้ายบ้านอาจจะทำให้อาการของเขาทรุดหนักลงกว่าที่เป็นอยู่ เธอจึงไปปรึกษา Mr.Ages พ่อหนูสูงอายุที่เป็นประหนึ่งพ่อหมอประจำครอบครัวของเธอ Mr.Ages จึงได้พาเธอไปไปขอความช่วยเหลือจากหนูกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเคยเป็น"หนูลองยา" หรือ The Rats of NIMH และที่นั่น...จากหนูไฮเทคกลุ่มนั้นเธอจึงได้รับรู้เรื่องราวการผจญภัยอันพิลึกพิลั่น รวมถึงความเป็นมาของความฉลาดเฉลียวของสามีที่จากไปของเธอ รวมถึงสติปัญญาอันผิดไปจากธรรมชาติหนู ๆ ของลูก ๆ บางตัวของเธอด้วย... หนูกลุ่มนี้ช่วยเหลือเธอและลูก ๆ อย่างเต็มอกเต็มใจ และผลจากปฏิบัติการครั้งนี้ Mrs.Frisby เองก็ได้มีโอกาส 'ช่วย' ชีวิตหนูลองยาเหล่านี้ด้วยเช่นกัน เรื่องราวสนุกมากค่ะ เป็นหนังสือรางวัลนิวเบอรี่และรางวัลลูอิส แครอลด้วยนะคะ(แหะ ๆ จำปีไม่ได้ ขอประทานโทษค่ะ) เห็นเพื่อนบอกว่า ภาษาไทยใช้ชื่อว่า "หนูลองยา" ไม่แน่ใจชื่อผู้แปล แต่เป็นหนังสือของสำนักพิมพ์ผีเสื้อค่ะ คนเขียนชื่อ Robert C.O'Brien แม่ไก่ตามเก็บหนังสือของนักเขียนผู้นี้ ได้แค่สามเล่มเองค่ะ มี เรื่องนี้ แล้วก็ Silver Crown กับ Z For Zachariah (เรื่องหลังก็สนุกค่ะ ไว้ถ้าไม่ลืมวันหลังจะมาเล่าให้ฟังค่ะ) โห.....ยาว...วันนี้ว่างแล้วค่ะ ทักทายและเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่กำลังทำงานกันอยู่นะคะ จากคุณ : แม่ไก่ - [ 15 พ.ย. 47 13:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แว่บมาอีกที...มีใครเคยอ่านงานเขียนของนักเขียนโนเบลหญิงมั่งหรือยังเอ่ย พอดีไปเจอเรื่องราวของเธอเลยแวะเอาลิงก์มาฝากค่ะ http://www.khonnaruk.com/html/book/personage/Elfriede_Jelinek.html จากคุณ : แม่ไก่ - [ 15 พ.ย. 47 13:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามาอิจฉาพี่นารูมิอีกทีหนึ่งกับหนังสือราคาย่อมเยาเยอะมากๆๆ ง่ะ ตะกี้ไปเห็น ลูซี่ซัลลีแวน ที่ร้านหนังสือ อยากได้อ่ะ อิจฉาพี่นารูมิจริงๆ แพงง่ะ แต่อยากอ่าน จากคุณ : envy_econ - [ 15 พ.ย. 47 13:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ฮือๆ ..แวะมาโวยวายค่ะ เพิ่งสอบของวันแรกเสร็จ แย่มากๆมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆเลย ทำไม่ได้ ทำไม่ทัน ยากมากๆ อ.กะเอาตายเลยรึไง แง...ทำไมไม่มีคนบอกเราเลยนะว่ามันจะสาหัสขนาดนี้ กลัวตกจังเลยค่ะ ตามมากระทู้ใหม่เลยนี่ ยังไม่ได้อ่านของเก่าหรอกค่ะ ชอบหัวข้อกระทู้ใหม่สองอันนี่จัง ..... ไว้สอบเสร็จจะมาตอบทีเดียวเลยนะคะ ใจจะขาดแล้ว จากคุณ : ลูกหนอน. - [ 15 พ.ย. 47 13:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณแม่ไก่คะ piano teacher ตาลซื้อมาแล้วล่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านเลย เจอน้องยึดไปเรียบร้อยเพราะเขาติดใจหนังมากๆน่ะค่ะ พี่ติ่มคะ เจอนาร์เนียเล่ม 5 แต่ไม่ได้ซื้อให้เพราะไม่แน่ใจว่าตกลงพี่ซื้อไปหรือยัง เมื่อเย็นวานโทรไปถามแต่พี่ไม่ได้รับน่ะ นอนอยู่ล่ะสิเนี่ย คุณ grappa คะที่ 2 ร้านนั้นมีหนังสือ jimmy อยู่หลายเล่มเชียวล่ะ ไปทีไรก็เห็นทุกที ถ้าได้ผ่านไปลองไปหาดูสิคะ หรือจะฝากซื้อก็ได้นะคะ ตาลไปบ่อยเลยล่ะ พี่ kitnan คะ เมื่อวานตาลยังเห็น 5 สหายผจญภัยอยู่หลายเล่มเหมือนกันค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่ามีครบทุกเล่มหรือเปล่า จากคุณ : Angel Eyes - [ 15 พ.ย. 47 14:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ว๊า ตาล พูดถึงนาร์เนียเพิ่งนึกได้ว่าเราลืมซื้อ ว่าแล้วก่อนกลับจากมีทติ้งที่แล้วเราว่าไปเอเชียบุ๊คว่าจะซื้ออะไร ปรากฏว่าเรื่องนี้เอ๊ง ที่เราลืมซื้อ 555 จากคุณ : JewNid - [ 15 พ.ย. 47 14:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณคุณนารูมิกับคุณตาลสำหรับข้อมูลร้านหนังสือค่ะ เดี๋ยวเลิกงานแว่บไปดูดีกว่า ^^ จากคุณ : kitnan - [ 15 พ.ย. 47 16:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีทุกๆคนค่ะ แต่ ตายละ จะตอบกระทู้ก้..มีความรู้สึกคล้ายๆคุณป้า (คงวัยใกล้กันนะคะ) ว่ามันดูเหมือนนานมากแล้ว จำไม่ค่อยได้ คร่าวๆนะคะ - นิยายไทย เล่มแรกน่าจะมงกุฎหนามของคุณทมยันตี - นิยายกำลังภายใน คิดว่าเซี้ยวฮื้อยี้ - การ์ตูน น่าจะเป็นพวกชัยพฤกษ์ หนูจ๋า สตรีสาร - วรรณกรรมเยาวชน คุ้นๆว่าเป็น "4 ดรุณี" - หนังสือท่องเที่ยว จะเป็นของคุณพิมพ์สี ค่ะ เหมือนคุณมะวัน - Romance เป็นของ Barbara Cartland ต่อด้วย Daniel Steel - ส่วนวรรณกรรมเยาวชน แฟนตาซี ก็ Harry Potter ค่ะ ส่วนมากจะอ่านอะไรเบาๆพวก Romance นะคะ แต่สปีดการอ่านนี้ ยกให้น้องๆในห้องนี้เลยค่ะ เร็วจริงๆค่ะ จากคุณ : AM - [ 15 พ.ย. 47 19:33:53 A:203.144.241.41 X: TicketID:043628 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีค่า ตั้งกระทู้ก่อนไว้แล้วไม่ได้ตามดูผลงาน แบบว่ายุ่งๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีตอนนี้กำลังรีบเคลียร์งาน รอรับงานชิ้นใหม่ที่อาจจะ เป็น The Big Project กับสนพ.ใหม่สำหรับปุ๋ย แต่คงไม่ใหม่ สำหรับหลายคนในที่นี้ แต่ขออุบไว้ก่อนนะคะว่าเป็นที่ไหน อิอิ ใครจะทายก็ได้นะคะ ถ้าทายถูกให้หอมแก้มเอนวี่หนึ่งที 555 โห คำถามปันแบบว่ายากมากอะ ไปคิดมาหลายวันเลยนะ แต่ตอบแบบเจาะจงไม่ได้จริงๆ อ่านเละเทะไปหมด เอาแบบที่จำได้เลยนะคะ ชิกลิทเล่มแรก - บริดเจต โจน แฟนตาซี - ลอร์ด ออฟเดอะริง แปลญี่ปุ่น - ริง คืออย่างนิยายเนี่ย ก็อ่านหลายเรื่องพร้อมๆกัน เพราะตอน เด็กที่บ้านรับหนังสือสกุลไทย วรรณกรรมเด็กก็คงพวกหนังสือนอกเวลาตอนม.ต้น ซึ่งก็จำ ลำดับไม่ได้แล้ว จำได้ว่ามี ล่า เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก ตลิ่งสูงซุงหนัก ข้างหลังภาพ นิกกะพิม ฯลฯ หน้งสือท่องเที่ยว - อ่านแต่นิตยสารค่ะ การ์ตูน ยิ่งบอกไม่ได้ใหญ่เลย นิยายเกาหลี - หนุ่มฮอตสาวเฮี้ยวฯ (วิดวิ้ว) นิยายฝรั่งเศส - เรื่องเล่าของหมูสาว (อันนี้ยอมรับว่าอ่าน มัน แต่ไม่ค่อยเก๊ทอะค่ะ) ที่เหลือที่ไม่ตอบคือ ถ้าไม่เคยอ่าน ก็แปลว่าจำไม่ได้แล้วค่ะ ไปละค่ะ เอาใจช่วยทุกคนที่กำลังต่อสู้กับเรื่องงาน เรื่องเรียน และทุกเรื่องด้วยนะคะ สู้ตายค่ะ! จากคุณ : มณฑารัตน์ - [ 15 พ.ย. 47 22:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 59 การ์ตูน----มายาสีชมพู นิยายจีน--ผู้ชนะไตรภพ นิยายเกาหลี--ริง ชิกลิทเล่มแรก - บริดเจต โจน แฟนตาซี ------Harry Potter Romance------Kingdom of dream (Judth Mcnaught) จากคุณ : aislinn - [ 16 พ.ย. 47 00:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อวานนี้ลองไปสำรวจร้านหนังสือที่น้องนารูมิแนะนำแล้วหล่ะคะ แถวๆ อนุสาวรีย์ชัยฯ ทั้งสองร้านเลยแต่ก้อไม่ได้อะไรติดมือกลับมา แฮ่ๆๆ อยากบอกว่าร้านที่อยู่ตรงแถวๆ สวนสันติภาพไกลมากเลย แถมพี่เดินหลงเลยไปตั้งไกลแน่ะเหนื่อยมากเจงๆ แถวนั้นคนเยอะมากเลยนะคะ แต่ว่าร้านตรงหน้าภัตตาคารจีนพงหลีนี่โอเคเลย จากรถไฟฟ้าก้อเดินนิดเดียวเองพอไหวหน่อย ร้านนี้มีหนังสือชุดกำเนิดนาร์เนียหลายเล่มเลยหล่ะคะ นิดสนใจภาษาไทยหรือป่าวค่ะ เห็นว่าลืมซื้องัย อุอุ แหมซื้อซะจนขนกลับไม่ไหวแล้วนะ ยังมีลืมซื้ออีกแนะ จะให้พี่ซื้อเก็บไว้ให้ก่อนบอกได้นะคะ (ร้านนี้ไปง่ายค่ะ) ถ้านิดจะไปซื้อนาร์เนียที่เอเซียบุคส์คาดว่าคงได้ไม่ครบชุดแน่ๆ ค่ะ เพราะตอนพี่สะสมเนี่ยได้จากเอเซียบุคส์ 5 เล่ม ที่เหลือต้องไปซื้อจากคิโนะ (ขนาดเล่มเลยไม่เท่ากันเลย คนละไซส์ ยังกลุ้มๆ อยู่เลยค่ะ) ปันจ๋า แปะคำตอบไว้ก่อนนะคะ สมองอันกิ๊กก๊อกของพี่ยังบู้ตไม่ขึ้นเลย^^ จากคุณ : Bigcrab - [ 16 พ.ย. 47 07:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ตาล แท้งกิ้วนะจ๊ะ วันนี้ว่าจะไปสีลม เลยกะจะแวะร้านหนังสือมือสองแถวสยาม เคยมีคนแถวนี้หลังไมค์มาบอกชื่อร้านและที่ตั้งแล้วเหมือนกัน ชอบหนังเรื่อง Piano Teacher น้องตาลที่ชอบหนังเรื่องนี้เป็นผู้ชายใช่ไหม ผู้ชายที่ชอบเรื่องนี้เด็ดเลยน้า เพราะหนังมีฉากที่ผู้ชายถูก sexual harassment อยู่เหมือนกัน คุณแม่ไก่เอาคำประกาศที่เธอได้รางวัลมาฝากค่ะ(ยังไม่ได้อ่านหนังสือเหมือนกัน ) "for her musical flow of voices and counter-voices in novels and plays that with extraordinary linguistic zeal reveal the absurdity of society's clichés and their subjugating power" จากคุณ : grappa - [ 16 พ.ย. 47 08:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ว่าแล้วเชียวว่าได้ Lucy เนี่ย ต้องมีคนอิจฉา ฮี่ๆๆ เล่มนี้ไม่ซื้อที่งานหนังสือ เพราะราคาแพงมั่กๆ แถมยังเกร็งๆ กับคนแปลด้วยน่ะค่ะ กะว่าจะหาต้นฉบับมาอ่านแทน แต่พอเห็นครึ่งราคาอย่างนี้ มันก็อดใจไม่ไหวจริงๆ (เนอะพี่ติ่มเนอะ) *แม่ไก่* รู้สึกเหมือนคุณแม่ไก่เลยค่ะ สำหรับเรื่อง Summer Sister เคยมาบ่นๆ ให้พี่ๆ น้องๆ แถวนี้ฟังเหมือนกันว่า เรื่องนี้อ่านจบแล้วให้ A-/+ เพราะไม่รู้ว่าจะชอบหรือไม่ชอบดี ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจูดี้ บลูมถึงต้องใส่ฉาก XXX เยอะขนาดนั้นด้วย โดยเฉพาะระหว่างเด็กสาวกับเด็กสาวเนี่ย (กรี๊ดดดด !!! ) รับไม่ได้ ช่วงแรกถึงขั้นไม่ชอบเลยนะคะ แต่พออ่านจบทั้งเล่ม มันอิ่มใจประหลาดๆ น่ะค่ะ แถมหลอนด้วย ทำเอาไม่รู้จะอ่านอะไรต่อ ถ้ารู้สึกอย่างนี้ได้แสดงว่าหนังสือมี power พอสมควรค่ะ ก็เลยตัดใจใส่ + ห้อยท้ายไปอย่างนั้น แต่รวมๆ แล้ว "น้องเล็ก" สามเล่มแรกค่ะ สุดยอดที่สุดแล้ว หยิบมาอ่านได้บ่อยๆ ด้วย ดีใจที่ได้รู้จักแฟนจูดี้ บลูมอีกคนค่ะ (^_^) ส่วนหนังสือที่คุณแม่ไก่รีวิว เห็นวางแผงแล้วค่ะ หน้าปกเป็นรูปหนู ว่าจะไปซื้อมาเก็บเหมือนกัน แล้วมีอีกเรื่องเป็นรูปลาน่ะค่ะ ใครอ่านแล้วมั่ง ขอรีวิวหน่อย *พี่ปุ๋ย* เอ น่ากลัวจะได้หอมแก้มพี่ปุ๋ยแฮะ 555 จะใช้ สนพ. ที่คิดไว้มั้ยหนอ *พี่ปู* กลัวอยู่เหมือนกันค่ะว่าจะหาอีกร้านไม่เจอ เพราะอยู่แบบลึกลับมาก พี่ปูหมู่นี้หายไปบ่อยๆ นะคะ งานยุ่งหรือเปล่า จากคุณ : นารูมิ - [ 16 พ.ย. 47 08:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวัสดีวันอังคารค่ะ มารีวิวหนังสืออีกแล้ว (โอ๊ย ฟิตจริง) ทีแรกไม่ตั้งใจจะอ่านเลย กะว่าจะอ่านพอผ่านๆ ซักนิดแล้วจะกลับไปเคลียร์งาน แต่ปรากฎว่าติดหนึบค่ะ ตะลุยหลังดู Friends จบจนถึงตีสอง สนุกค่ะ ลุ้นด้วย สรุปว่างานการไม่เป็นอันทำ (-_-") =================== The Good Doctor By Damon Galgut =================== ฉากหลังอยู่ที่ South Africa ในยุคหลังการกีดกันสีผิว (ปี 1994 มั้งคะ ที่รัฐบาลมีคนผิวดำ) ที่โรงพยาบาลเล็กๆ อัตคัตแห่งหนึ่ง เรื่องเล่าผ่านมุมมองของ Frank Eloff คุณหมอที่หนีอดีตของตัวเองมาที่นี้ (ชื่อเสียงของพ่อ + ภรรยาที่คบชู้กับเพื่อนสนิทของเขา) ด้วยความหวังว่าจะได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแทน Dr.Ngema ซึ่งเป็นหมอผู้หญิงอาวุโสที่กำลังจะเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นที่อื่น แต่ระหว่างนั้น กลับเกิดเหตุติดขัด จนบัดนี้ผ่านมาได้ 7 ปี เธอก็ยังไม่ไปไหน เขาก็ยังเป็นแค่หมอธรรมดา และทำงานแบบซังกะตายไปวันๆ เรื่องเริ่มต้นเมื่อมีหมอคนใหม่มาที่โรงพยาบาล Laurence เป็นนักศึกษาแพทย์จบใหม่ มองโลกในแง่ดี มาที่นี้ด้วยอุดมการณ์ ความมุ่งมั่น และไอเดียใหม่ๆ โดยหวังจะชุบชีวิตโรงพยาบาลแห่งนึ้ขึ้นมาใหม่ ทั้งคู่แชร์ห้องอยู่ด้วยกัน เพราะเป็นหมอผิวขาวเพียงสองคนในโรงพยาบาล และการมาของ Laurence นี้เอง ที่ผลักดันให้ Frank กลับไป มีสัมพันธ์กับสาวชาวบ้าน ซึ่งก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นตามมา ในช่วงนั้น มีข่าวลือว่าท่าน Brigadier อดีตท่านผู้นำเขตคนดำ ที่ถูกขับไล่ หลังการกีดกันสีผิวล่มสลาย กำลังจะกลับมา และเหมือนจะตอกย้ำความจริงข้อนี้ เมื่อทหารกลุ่มใหญ่กลับเข้ามาในเมือง วันหนึ่ง Frank ไปเจอความลับของบุรุษพยาบาลคนหนึ่ง (ที่ทุกคนเชื่อว่ามีสายสัมพันธ์กับ Brigadier) เขาเล่าให้ Larence ฟัง ก่อนตัวเองจะกลับบ้านเพื่อไปสะสางเรื่องหย่ากับภรรยา แต่พอเขากลับมาอีกที โลกที่เขารู้จักก็พลิกกลับหน้าเป็นหลัง (betray + twist) เขาต้องพยายามปะติดปะต่อ และทำความเข้าใจเรื่องทั้งหมด ที่เหลือต้องอ่านเองค่ะ เล่าไปเดี๋ยวไม่สนุก *** อ่านไปแล้วเสียดายที่ไม่ค่อยเข้าใจการเมืองที่ South Africa เท่าไหร่ ก็เลยไม่มั่นใจว่าตัวเองเข้าใจถูกหรือเปล่า แต่เรื่องสนุกค่ะ ลึกลับ ตื่นเต้น ตึงเครียด และน่าค้นหา ที่สำคัญเพราะเรื่องเล่าผ่าน point of view ของ Frank คนเดียว ทำให้เรื่องออกจะคลุมเคลือ จำกัด ไม่รู้อะไรจริง อะไรเท็จ (เหมือน Frank รู้สึก) และออกจะสะเทือนใจนิดๆ ด้วยค่ะ พอจบก็เลยหลอนๆ ภาษาก็อ่านง่ายมากค่ะ เล่มก็บางๆ รีบเอามารีวิวเผื่อใครได้อ่าน วานช่วยเฉลยทีว่า ตกลงท้ายเรื่องมันเกิดอะไรขึ้นแน่ เพราะอ่านจบแล้ว คนอ่านก็ยังไม่เข้าใจแน่ชัด (เหมือนตัวพระเอกเลย) อ้อ! เล่มนี้เป็น finalist ของ Booker Prize ด้วยนะคะ จากคุณ : นารูมิ - [ 16 พ.ย. 47 09:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พี่ปุ๋ย ทายถูกเนี่ยมีเลี้ยงรึเปล่า ฮ่าๆๆๆ ดีใจด้วย พี่ไอซ์ งานที่ไหนก็มีปัญหาทั้งนั้นแหละ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำใจยอมรับมันได้แค่ไหน สู้ๆๆๆๆ ช่วงนี้คงไม่ได้อ่านหนังสือไปพักหนึ่ง เพราะวุ่นๆ กับชีวิตอยู่ งานปัจจุบันก็หนักเหลือเกิน TT0TT เอาใจช่วยให้ทุกคน เซอร์ไวเวอร์ นะครับ จากคุณ : envy_econ - [ 16 พ.ย. 47 09:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดีค่ะ กลับมาอีกทีทู้ยาวดีจัง ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเล่าเรื่องเล่มแรกกัน เอ.. คำถามยากไปเหรอเนี่ย สำหรับปันมันไม่ยากมากเพราะไม่เซียนเท่าหลายๆคนที่นี่น่ะค่ะ (ที่อ่านได้ทุกแนว + อ่านเยอะมากๆจนจำไม่ได้) เพิ่งรู้ตัวเองว่าสับสน บอกว่าหนังสือเด็กเล่มแรกคือโต๊ะ โตะจัง แต่หนังสือญี่ปุ่นเล่มแรกดันเป็นริง ฮิๆ เอาเป็นว่า ริงเป็นแนวสยองขวัญญี่ปุ่นเล่มแรกละกันนะ ว๊าย คุณโป้ อกาธามีแปลเล่มใหม่ออกมาอีกหรือคะ โจรกรรมวิตถาร ยังไม่เคยอ่านด้วยอ้ะ ต้องไปหาซะแล้ว (ว่าจะไม่เข้าร้านหนังสืออีก 3 เดือนเลยนะ เพราะดองเยอะ+ต้องเก็บกะตังค์ไปช็อปปิ้งปลายปี ดูซิ ตบะแตกซะแล้ว) ลูซี่ นารูมิได้ราคาถูกเหรอ อิจฉาจัง พี่มีต้นฉบับยังไม่หยิบอ่านเพราะมันหนามาก เป็นภาษา E ต้องอ่านช้ากว่าไทยอยู่แล้ว เลยไม่เริ่มซะที สงสัยได้อ่านรีวิวซะก่อนตัวเองจะเริ่มมั้ง ตอนนี้อ่าน confession of an ex อยู่นะคะ ใครรอรีวิวอยู่ใจเย็นนิดนึงน้า เพิ่งอ่านได้ 3 บท แต่ขอบอกว่ามีแววดี คือนางเอกบ่น แต่ไม่น่าเบื่อ สำนวนแปลดีกว่าเล่มอื่นของสนพ.นี้ เว้นแต่ใช้คำว่า "เธอ" มากไปหน่อยบางตอน เป็นกำลังใจให้ไอซ์ฝ่าฟันอุปสรรคที่ทำงานไปได้ด้วยดีนะคะ ไปทำงานบ้างและ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 47 13:32:55 จากคุณ : L.I.R.A. - [ 16 พ.ย. 47 11:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 66 รู้สึกว่ามีแต่คนดวงพุ่งกันหลายคนเลยนะ ไง๋เราพุ่งลงอยู่คนเดียวเนี่ย มานึกคำตอบของกระทู้ต่อ ถ้าเป็นชิกลิทเนี่ย ส่วนใหญ่ก็คงเป็น บริเจ็ทฯ กันทั้งเลยเนอะ เป็นจุดเริ่มต้นของชิกลิทก็ว่าได้ เราเองก็อ่านเล่มนี้เหมือนกัน ถ้าเป็นนิยายญี่ปุ่นเนี่ย ก็คง ริง เหมือนคนอื่นๆ อีกเหมือนกันแหละ ว่าแต่ พอพูดถึง ชิกลิท เนี่ย มันจัดอยู่ใน วรรณกรรมร่วมสมัยใช่ป่ะ แต่ไม่ใช่ คอทเทมโพลารี่ โรมานซ์ กับ โรแมนติก คอมมาดี้ ใช่ไหมเนี่ย รู้สึกว่ามันคล้ายๆ กัน แต่ว่าชิกลิทจะไม่เน้นความรัก แต่เน้นความสัมพันธ์ วุ้ย งงเองซะ จากคุณ : envy_econ - [ 16 พ.ย. 47 12:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อ่าน สายลับรสมะนาวจบแล้ว ลืมรีวิว ไม่เรียกว่ารีวิวดีกว่า เพราะปันจะไม่เล่าเรื่องย่อ เอาแค่ความรู้สึกหลังอ่านจบนะคะ เล่มนี้ ทายง่ายม๊ากกกกกกกกกกกกกก แบบว่า อ่านไม่ถึงครึ่งเล่มก็เดาได้ อ่านเลยครึ่งเล่มไปหน่อยยิ่งรู้ชัด มันไม่เนียนเลยอ้ะ ซึ่งกับหนังสือชุดนี้ ขอบอกว่าเดาได้ง่ายมา 3 เล่มซ้อน (จาก 4 เล่ม) เลยเชียว(ไม่รู้คุณโป้ได้อ่านชุดนี้ไหม ถ้าคุณโป้คิดว่างานของ เคท ไวท์ ทายง่ายละก็ ขอบอกว่าเล่มนี้จะยิ่งหมูมากเลยละ) แต่... ปันก็ยังชอบค่ะ เพราะชอบบรรยากาศในเรื่อง ชอบร้านคุกกี้ จาร์ ชอบญาติๆนางเอก ชอบบรรยากาศบ้านนอกๆของเลค อีเดน ก็เลยอ่านเพลิน ดีไปอย่างที่ไม่มันส์จนวางไม่ลง เป็นประมาณอ่านไปเรื่อยๆ เวลาว่างๆ จากคุณ : L.I.R.A. - [ 16 พ.ย. 47 16:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 68 วันนี้แอบว่าง เคลียร์งานได้ไวกว่าทุกวัน แต่ไม่ค่อยมีคนตอบกระทู้เลยอ่ะ ไปไหนกันหมดนะ เจ๊ปุ๋ย ใช่สนพ.ที่ขึ้นต้นด้วยบ.รึเปล่า พยางค์เดียวรึเปล่า บุกเบิกหนังสือแนวชิกลิทกับสืบสวนญี่ปุ่นด้วยใช่มั้ย พี่นารูมิ อ่านลูซี่ฯ จบมาวิวกันหน่อยนะ แบบว่าอยากอ่านน่ะ พี่ปันอ่าน confess ฯ จบก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ มีคนบอกว่าสนุก จากคุณ : envy_econ - [ 16 พ.ย. 47 18:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ตอบคุณแม่ไก่ว่าหนังสือของผีเสื้อออกค่อนข้างช้าค่ะ คงเป็นเพราะ บ.ก.ทำงานประณีตมากมังคะ ป้ามีความรู้สึกว่าหนังสือของผีเสื้อเหมาะจะซื้อเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน เพราะทั้งการเลือกเรื่อง และเลือกภาษาที่ใช้แปลนี่ เหมาะกับเด็กจริงๆ ค่ะ (แต่คนแก่อย่างป้าก็ยังสู้ไหว) ได้แต่ภาวนาให้ทางสำนักพิมพ์อยู่ยืนยงไปนานๆ ไม่โดนกระแสพัดออกนอกสายตานักอ่านรุ่นเยาว์... (ใครมีลูกมีหลานอย่าลืมอ่านเรื่องชุดหมาหัวเราะให้เขาฟังนะคะ จะได้มาเป็นแฟนสำนักพิมพ์นี้ด้วย) ป้าอ่าน the good doctor ไปแล้วเหมือนกัน นักเขียนคนนี้เขียนหนังสืออ่านง่ายค่ะ ให้บรรยากาศชัด ภาษากระชับสมเป็นนักเขียนชาย หลายคนวิจารณ์ว่า Galgut เป็น Coetzee ฉบับอ่านง่าย และหดหู่น้อยกว่า รู้สึกจะเคยบอกไว้ว่าน่าลองสำหรับคนที่อยากลิ้มรสเรื่องที่บรรยากาศแปลกออกไปแต่ไม่หนักหน่วงนัก theme ที่ว่าด้วยแอฟริกาใต้ยุคหลังการเหยียดผิวนี่รู้สึกว่าจะถูกใจ กรรมการบุ๊คเกอร์ไพรซ์ ไม่น้อย เพราะปีนี้ก็มีเข้ารอบสุดท้ายมาอีกเรื่อง แต่โอกาสที่จะได้อ่านแบบแปลคงมีน้อย ... นอกจากจะได้รางวัลขึ้นมา ไว้คุยกันใหม่ค่ะ จากคุณ : ป้า - [ 17 พ.ย. 47 00:22:20 A:210.203.176.59 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มีข่าวเรื่องหนัง Davinci Code มาฝากค่ะ http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9470000082766 จากคุณ : Bigcrab - [ 17 พ.ย. 47 07:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 71 โห เช้านี้เงียบจังครับ มารีวิวหนังสือที่เพิ่งอ่านจบไปนะครับ มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอนคดีพาหนี ของอาคากาวะ จิโร แปลโดยสมเกียรติ ชเวงกิจวาณิช ตอนที่ 5 ของนิยายชุดแมวสามสี เรื่องเริ่มจากการพากันหนีของหนุ่มสาวคู่รักที่ครอบครัวของทั้งสองคือคาตาโอกะกับนามานามิ เป็นอริกัน(ตามแบบโรมิโอจูเลียต) ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจกระโดดน้ำหายไปด้วยกัน เวลาผ่านไป ครอบครัวของทั้งคู่ยังคงเป็นศัตรูกันและก็ยังอยากให้ลูกชายและลูกสาวกลับบ้าน พวกเขาส่งคนออกตามหาคนทั้งคู่ในโตเกียว บังเอิญที่หนุ่มสาวทั้งคู่นั้นมีชื่อเดียวกันกับคาตายามากับน้องสาว คือโยชิทาโรและฮารูมิ เรื่องเลยชุลมุนมากขึ้นเมื่อสองพี่น้องถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหนุ่มสาวที่หนีตามกันมา เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นเมื่อมีการตายเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวคาตาโอกะและยามานามิอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การทำงานของคาตายามาและโฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบอีกครั้ง(ผมว่าครั้งนี้โฮล์มส์มีบทบาทมากขึ้นด้วย น่าสนใจจริงๆ) สรุปได้เลยว่าชอบครับ สนุกและน่าสนใจมากๆ เรื่องราวในตอนนี้เข้มข้นขึ้น และตลกมากขึ้น อ่านแล้วถูกใจมากครับ เป็นงานที่ดีที่สุดของอาคากาวะ จิโรที่ผมเคยอ่านมาเลยก็ได้นะ...(พูดเหมือนกับอ่านงานของจิโรแยะอย่างนั้นแหละ) จากคุณ : Filippo - [ 17 พ.ย. 47 12:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอคุยอีกนิดก่อนนะครับ คุณปัน...เรื่องโจรกรรมวิตถารเป็นงานแปลเก่าแล้วนะครับไม่ได้ออกใหม่ บังเอิญผมไปขุดกรุหนังสือตัวเองแล้วเจอนะครับ เลยหยิบมาอ่าน ยังไม่เคยอ่านงานชุดสายลับกับของกินเลย (เรียกแบบนี้ได้ไหมเห็นมันเกี่ยวกับของกินอ่ะครับ) กะจะซื้อหลายครั้งแต่ก็ผ่านไปทุกที งานหน้าไม่พลาดเด็ดๆ ครับ ปกติเรื่องเดาตัวคนร้ายในนิยายฆาตกรรมนี่ ผมมักจะเดาถูกใน twist แรกอ่ะครับ ถ้านิยายมี twist ซ้อนอีกรอบผมมักจะเดาไม่ได้เลยอ่ะ คุณป้า-คุณนารูมิ เรื่อง The Good Doctor นี่เคยทำเป็นหนังแล้วมีฌอน คอนเนอรี่แสดงหรือเปล่าอ่ะครับ เหมือนคุ้นๆ ชอบกล รออ่าน confession of an ex กับเรื่อง When in Rome (ชอบเดวิดแต่เลือกไมค์หรืออะไรสักอย่าง) อยู่นะครับ โดยเฉพาะเรื่องหลัง อยากอ่านเพราะเห็นว่าฉากหลังอยู่ที่อิตาลีนี่แหละ แล้วคุยกันครับ! จากคุณ : Filippo - [ 17 พ.ย. 47 12:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณคุณนารูมิ กับคุณแม่ไก่มากค่ะ ที่คุยถึงหนังสือ Are You There, God? It's Me, Margaret กับ Forever ให้ฟัง สรุปแล้วสอง เล่มนี้มะวันคงตัดออกไปล่ะ ฟังแล้วไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เลย ส่งกำลังใจให้คุณมณฯ ด้วยนะค้า ทำงานตัวเป็นเกลียวเลย สู้ๆๆ จ้ะ ส่วนสนพ.นั้นพี่มะเดาไม่ออกง่า ((เอนวี่โล่งอกเลยล่ะสิ ฮ่าๆๆ)) แต่ถ้า เป็น บ. จริงๆ พี่มะขอกรี๊ดด้วยนะจ๊ะ คุณนารูมิอีกรอบ...The Good Doctor ท่าทางจะไม่เข้าทางพี่แฮะ ประเภทตึงเครียดๆ อ่านแล้วจอดทุกเล่มเลย แต่ถึงยังไงก็ชอบอ่านรีวิวค่ะ รอๆๆ คุณปันรีวิว confession of an ex ด้วยคนค่ะ ก่อนไปรีวิวหนังสืออีกเล่มนะคะ Generation X ของ Douglas Coupland เป็นหนังสือเก่า อาจจะมีหลายคนอ่านแล้วนะคะ แต่ยังไงมะวันอยาก เล่านิดนึงค่ะ ใครเคยดูเรื่อง Big Fish ในความคิดของมะวัน คิดว่า หนังสือเล่มนี้บรรยากาศค่อนข้างคล้ายๆ กันเลยค่ะ คือเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ จะเป็นการเล่าเรื่อง... แอนดี้ แด๊ก และแคลร์ ทุกคนต่างมีการศึกษา แต่พวกเขาทิ้งงานออฟฟิศ ทิ้งบ้านเกิด ทิ้งครอบครัวชนชั้นกลาง โดยเลือกมาใช้ชีวิตที่บังกะโล ในทะเลทรายย่านเวสต์ ปาล์ม สปริง โดยทำงาน McJob ซึ่งเป็นงานด้านบริการ รายได้ต่ำ ไม่มีอนาคต ไม่มีเกียรติ์ พวกเขาใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยการผลัดกันเล่า bedtime stories โดยมีทั้งเรื่องจริง เรื่องแต่ง และเรื่องปูมหลังของแต่ละคน หนังสือเล่มนี้ไม่มีพล็อต ในแต่ละตอนจะเป็นเรื่องที่ทั้งสามคนเล่า ส่วนใหญ่จะจบในตอน และบางครั้งก็มีเพื่อนของพวกเขาคนอื่นมาร่วม แจมด้วย ซึ่งบางตอนจะหลุดโลกมากๆ อย่างเช่นเรื่องนักบินอวกาศนำ ยานมาจอดลงบ้านหลังหนึ่งที่มีลูกสาวสามคน เมื่อนักบินมาถึงโลกเขา เป็นโรค space poison ทำให้นอนหลับตลอดเวลา จะตื่นแค่ตอนกินข้าว ประมาณสามสิบนาที ทีนี้ลูกสาวคนโตของเจ้าของบ้านดันโดนไล่ออกจาก งานที่เซเว่น อีเลฟเว่น แม่ก็เลยให้เธอเป็นคนหาข้าวให้เขากิน พอนักบิน ตื่นมาพบพี่สาวคนโต เขาก็หลงรักเธอ และบอกจะพาเธอออกไปจากเมืองนี้ ซึ่งยานของเขาจะใช้ได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อมีพลังรักมาขับเคลื่อน แต่มีข้อแม้ว่า เมื่อยานติดแล้ว เธอต้องตาย และเมื่อเธอปฏิเสธ เรื่องก็อย่างเดิมก็เกิดขึ้น กับน้องสาวอีกสองคน... และยังมีอีกหลายเรื่องที่แปลกพอๆ กัน แต่โดยรวมๆ แล้ว Coupland จับเอา modern culture มารวมกันให้เป็นเรื่องเล่าอย่างมีสีสัน สไตล์การเขียนและ อะไรๆ หลายอย่างในหนังสือเล่มนี้ ทำให้มะวันชอบมากๆ อาจจะเป็นว่าครั้งนึง ตัวเองเคยเป็นแบบนั้นมาก่อนก็ได้ แบบลาออกจากงาน ทิ้งบ้าน ทิ้งครอบครัว ไปทำงาน McJob กลับถึงบ้านก็นอนคุยกับเพื่อนถึงตีหนึ่งตีสองทุกวัน เล่มนี้ไม่ใช่หนังสือสนุก อ่านติดหนึบ หรือว่าอ่านแล้วไม่อยากวาง แต่เป็น หนังสือที่ตัวเองคิดว่าอยากจะหยิบมาอ่านอีก เพราะรอบแรกดูเหมือนเก็บ ไม่หมดยังไงไม่รู้น่ะค่ะ ในหนังสือมีประโยคโดนใจเยอะเหมือนกัน ยกมาฝาก สองสามอันนะคะ "I should realize that the only reason we all go to work in the morning is because we're terrified of what would happen if we stopped. We are not built for free time as a species. We think we are, but we aren't" "Nothing very very good and nothing very very bad never ever lasts for very very long." และท่อนนี้เป็นท่อนโปรดของมะวันเลยล่ะค่ะ ฮี่ๆๆๆ "And one day, I don't know when, I'm going to come over a sand dune and I'll find someone else out there dowsing for water, too. And I don't know who that someone will be, but that's who I'm going to fall in love with. Someone who's dowsing for water, just like me." จากคุณ : มะวัน - [ 17 พ.ย. 47 15:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ...คุณโป้คะ ไม่น่าจะใช่นะ หนังสือเล่มนี้เพิ่งออกปี 2003 นี้เองค่ะ (ถ้าหนูไม่เข้าใจผิดนะ) ...พี่มะ ตกลง generation X เนี่ย มันคนรุ่นไหนกันแน่ จำได้ว่าตอนเด็กๆ เคยถูกตราหน้าว่าเป็นคน generation X  อ้อ the good doctor เนี่ย มันก็ไม่ถึงกับตรึงเครียดนะคะ หนูว่าคนเขียนเขาเก่งที่เขียนประโยคแรกให้เราอยากอ่านประโยคต่อไป (ไม่รู้จะอธิบายยังไง) แต่หนังสืออ่านง่ายมากค่ะ ลุ้นด้วย ทุกคนค่ะ มีใครเริ่มเปิดชิมลาง unputdownable mystery ของอมรินทร์บ้างแล้วหรือยัง เมื่อวานอ่าน "หาย" ของคนเขียน "อย่าบอกใคร" ไปค่ะ รวดเดียวจบเหมือนกัน โดนคนเขียนหลอกตลบซ้ายตลบขวา ตีลังกาหงายหน้าหงายหลัง เหมือนเดิม (คาแรคเตอร์ตัวเองคล้ายพระเอกเรื่องก่อนเลยค่ะ) แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 47 17:30:31 จากคุณ : นารูมิ - [ 17 พ.ย. 47 17:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ไปตั้งตัวมาลองรีวิว A Nice Girl Like Me แล้วค่ะ เรื่องเริ่มต้นเมื่อเอมิลี่นางเอกของเรื่องแต่งงานได้พักหนึ่งตอนแต่งก็คนรอบข้างก็ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะคบกันได้แค่ 6 อาทิตย์แถมผู้ชายยังแก่กว่า 19 ปี พอมาตอนนี้นางเอกก็ไปเจอหนุ่มหล่อที่เธอปิ๊งอย่างแรง เลยเริ่มคิดว่าที่แต่งไปนี่ถูกไหม แล้วจะทำอย่างไรต่อดี มุขของเรื่องนี้อยู่ที่ว่านางเอกกับฟลอร่าเพื่อนสนิททำงานเป็นนักชิมวิสกี้อยู่ที่สโมสรวิสกี้ในสก็อตแลนด์ แล้วตัวฟลอร่ามีปรัชญาว่าชีวิตก็เหมือนวิสกี้ ต้องเริ่มชิมจากอย่างอ่อนๆก่อนแล้วค่อยไล่ไปเข้มขึ้น เรื่องราวจึงแบ่งเป็นห้าส่วน โดยมีบันทึกเกี่ยวกับวิสกี้ แต่ละชนิดเป็นตัวเปิดเรื่อง ตั้งแต่อย่างอ่อนตอนชีวิตแต่งงานยังสดใส ไปจนถึงวิสกี้รสแรงตอนท้าย อ่านแล้วไม่ค่อยชอบก็ตรงที่นางเอกมีกิ๊กนี่ล่ะค่ะ ถึงจะคืนเดียวก็เถอะ ก็เข้าใจว่าชีวิตจริงคงเป็นอะไรแบบนี้ ชอบหวานๆนี่นา ถ้าชอบเรื่องรักกุ๊กกิ๊กแนะนำให้ผ่านค่ะ แต่ถ้าชอบเรื่องดราม่าหน่อยๆ ก็โอเคค่ะ จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 17 พ.ย. 47 20:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 76 โอ้ ตกลงคุณมะวันคือคนที่แปล Lazy Way ฯ จริงๆด้วย ดีจัง วันหลังมีอะไรจะได้ขอคำแนะนำ อิอิ เอ รู้อย่างนี้แล้วก็เริ่มสะดุดใจว่าคุณมณฑารัตน์ใช่ คนที่แปลบันทึกของเจ้าหญิงรึเปล่าคะเนี่ย แถวนี้มีขาประจำร้าน 50 % เหมือนกันด้วยแฮะ ตัวเองไปทุกวันเลยค่ะ บางวันก็สองครั้ง จนซี้กับคนขายพูดแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเคยซื้อ Generation X ที่คุณมะวันรีวิวจากร้านนี้มาแฮะ เดี๋ยวต้องรีบอ่านดูแล้ว จำได้ว่าอ่านMicroserf ของนักเขียนคนนี้แล้วชอบมากเลยค่ะ จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ 17 พ.ย. 47 20:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีทุกคนค่ะ คุณโป้ ฌอนเล่นเรื่อง Medicine Man ค่ะ (ชอบมากเลย เท่ห์ซะ) แต่นึกไม่ออกว่าใครเป็นนางเอกแฮะ อ่านรีวิวชิกลิท e ของคุณมะวันกับทินาแล้ว รู้สึกว่านางเอกฝรั่งแบบสองเรื่องเป็นแบบที่ติ่มไม่ชอบเหมือนกันค่ะ ดีที่มีคนรีวิวแล้ว พอรู้พล็อตว่าเป็นแบบนี้ จะได้ไม่ต้องอ่าน ไม่ชอบเรื่องที่นางเอกมีกิ๊กเหมือนกันค่ะ (เอ๊ะ แต่ปก nice girl นี่ออกจะหวานเนอะ?) เห็นรีวิว Good Doctor รอบที่สองแล้วชักอาย ขอสารภาพว่ามีเล่มนี้ตั้งแต่ก่อนคุณป้าอ่าน จนเกือบปีต่อมา คุณนารูมิอ่านจบไปอีกคน ของติ่มก็ยังดองเค็มอยู่เช่นเดิม ...แถมอยู่กล่องไหนก็ไม่รู้ คุณมะ ติ่มจำได้ว่าเล่มนี้ขึ้นต้นน่าอ่านดีค่ะ ไม่ใช่เพราะพล็อตหวือหวา แต่สำนวนชวนให้อ่านต่อดีค่ะ แนวแปลกดีด้วย ขอโทษคุณ kitnan ด้วยค่ะที่ไม่ได้เข้ามาตอบ ช่วงต้นสัปดาห์งานยุ่งพอดี (ความจริง อ่านกำลังภายในด้วย เลยยิ่งเอ๋อใหญ่) ตอนแรก จำได้ว่าซื้อห้าสหายผจญภัย เล่ม 10 ซ้ำ กำลังว่าจะมาโละแลกแจกแถม แต่พอไปคุ้ย กลับไม่มี แล้วก็ขาดเล่ม 9 วันนี้ว่างเลยไปร้านเดิม โชคดีมากที่เหลือเล่มที่หายไปพอดี อิอิ นอกจากนั้น ยังได้วรรณกรรมเด็กเจ้าหญิงมังกรทั้งสองเล่ม ซีบิสกิต อาถรรพ์เหรียญซาคาร์มันด์ ให้ตัวเอง แล้วก็ซับแสงแสลงหนังให้น้องในนี้ โรคตาร้อนที่กำเริบ (เมื่อได้ยินว่ามีลูซี่ลดครึ่งราคา) เลยหายทันที อุอุ นอกจากนี้ ยังเห็นกาชิโกกิ, dance dance dance, Girl who Played Go เล่มแปล แล้วก็บารามอส 1 ด้วยค่ะ ใครสน รีบไปคว้าเลย แต่ที่ดีใจสุด ๆ คือไปเจอการ์ตูน 'ดวงดาวแห่งนิทรา' 5 เล่มจบ กับ ZERO I, III ของวิบูลยกิจ (โชคดีที่ไปคุ้ยกองบนพื้น) ดวงดาวฯ นี่คือเรื่องเดียวกับ 'ปริศนาดาวมังกร' ที่สยามสปอร์ตฯ เคยพิมพ์ ใครเป็นแฟนชิมิซึ เรียวโกะคงจำแจ๊คกับเอเลน่าได้ โดยส่วนตัวแล้ว ติ่มชอบเรื่องยาวเรื่องนี้ที่สุด มากกว่า moonchild หรือเจ้าหญิงจันทรา ซึ่งเริ่มยืดยาดแล้ว อือม์... ว่าจะรีวิวบ้าง แต่ไม่มีให้รีอ่ะ รีวิวการ์ตูนได้ป่ะ? อิอิ อ้อ วันก่อนไปนั่งอ่านนิยายแปลเกาหลีในบีทูเอส ชื่อคล้าย ๆ 'เธอหายไป..อะไรสักอย่าง' หน้าปกเป็นรูปการ์ตูนเด็กผู้หญิง ดูน่ากลัวนิดหน่อย พล็อตเป็นเรื่องของเด็กหนุ่มสาว 5 (หรือหกหว่า?) ที่ขึ้นเขาแล้วหายตัวไปเพราะอุบัติเหตุ แล้วศพก็เริ่มปรากฏมาทีละรายสองราย ยกเว้นตัวนางเอก ซึ่งคนมักลือว่าเธอมี 'องค์' ลง แม่เธอเป็นคนทรง พ่อเป็นคนแปลกถิ่นที่หนีไปจากเมือง นายตำรวจที่ดูแลคดีนี้เห็นใจแม่เธอ เลยขึ้นเขาไปหาตัวเด็กสาวคนนี้ ทำให้เขาหลงป่า ได้พบครอบครัวพรานบนเขา จากจุดนั้น เรื่องจะเล่าจากมุมมองของนายตำรวจ ซึ่งนั่งฟังพรานเล่าถึงเสือคู่อาฆาตของครอบครัวพราน เสียงขลุ่ยในป่า ฯลฯ ... อ่านแล้วสนุกใช้ได้ค่ะ ติ่มสะดุดกับทัศนคติของตัวละครนิดหน่อย แต่คงเพราะนี่เป็นนิยายเกาหลีที่ไม่ชินมากกว่า เรื่องนี้เพลินตอนลุ้นว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น-ใครเป็นใครแล้ว ก็อยากรู้ว่าจะลงเอยกันยังไง อ่านไปอ่านมาก็จบพอดี ถ้าเจอลดราคา เหมาะจะซื้อมาอ่านฆ่าเวลาค่ะ ไปเปิดอ่าน 'ผู้ชายที่หลงรักตัวเลข' มานิดนึงด้วย อยากเอาหัวโขกกำแพงตาย ทำไมไม่ซื้อจากงานสัปดาห์เนี่ย? อยากได้จัง ขำตอนที่ตัวเอกเห็นเด็กแล้วร้องว่า 'แอ็บซาลอน' (สะกดถูกเปล่าเนี่ย?) เดี๋ยวต้องไปเปิดหาว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ ปุ๋ย ขอให้โชคดีเรื่องงานนะจ้ะ (กระซิบบอกพี่ด้วยว่าจะมีแปลเรื่องอะไรบ้าง พี่จะได้ไม่ซื้อซ้ำ) เบลอมากแล้ว ไว้ค่อยคุยกันค่ะ ป.ล. คุณทินา ใช่แล้วค่ะ ปุ๋ยคือมณฑารัตน์คนนั้นค่ะ ... the Montharat อิอิ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 17 พ.ย. 47 21:52:12 A:202.183.174.142 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โอ๊ยโหย! เผลอปุ๊บเดียวกระทู้ยาวยืดแล้ว บลูยังไม่ได้ตอบ คำถามของพี่ปันเลย เคยพิมพ์ไว้ทีนึงแล้ว แต่รู้สึกว่ามัน ยาวเกินไป แหะๆ (เรื่องรำลึกความหลังนี่มันสนุกถูกใจน่ะ ค่ะ อิอิ) เห็นพี่ปูยังแปะไว้ก่อน งั้นบลูขอแปะไว้มั่ง อย่าเพิ่ง แตกไปไหนเน้อ ขอไปรวบรวมปุ๊บนึงค่ะ แต่นี่ต้องรีบมาส่ง เสียงก่อน เดี๋ยวนึกว่าบลูหายไปแล้ว 555 แอบมาพิมพ์ตอนเช้า ก่อนออกจากบ้าน ได้เวลาต้องจรลี แล้วหละค่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ อ้อ! พี่ติ่มคะ ขอบคุณสำหรับ ซับ แสง สแลง หนัง น้า (น้องในนี้คือบลูเองใช่เปล่า?) ขอบคุณพี่ตาลด้วยค่ะที่ส่ง เมสเสจร้อนมาบอก รีบตอบตกลงทันทีเลยเหมือนกัน 555 กรี๊ด ไปจริงๆ แล้วค่ะ เดี๋ยวสายแล้ว หกโมงเนี่ย คนอื่นเค้า ตื่นกันยังน้อ แง สงสารตัวเองจริง จริ๊งงงง ทักทายพี่ๆ ทุกคนด้วยค่ะ เดี๋ยวมาใหม่ จากคุณ : บลู (PinkyPiE) - [ 18 พ.ย. 47 06:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คุณปู   นึกภาพ ทอม แฮงค์ เป็น ศ.แลงดอน ไม่ค่อยออกเลย จอร์จ คลูนีย์ดูเร้าใจกว่า  ส่วนนางเอกหนูโตตูร์แห่งอามีลีนี่ได้อยู่ คุณมะวัน พี่กรี๊ด Gen 'X ที่คุณมะมารีวิวมาก กรี๊ดรีวิวนะคะยังไม่อ่านหนังสือเลย ที่จริงน่าจะอ่านตั้งนานแล้ว  ได้ยินแต่คนพูดถึงมานาน นักวิจารณ์วรรรณกรรมมือรางวัลอย่างอาจารย์ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ก็เคยชื่นชมหนังสือเล่มนี้มาก จำได้ว่าเมื่อก่อนจะมีคำพวกนี้มาให้เราคิดว่า เป็นแบบไหนหนอ อย่าง Generation X , Yuppie ,Generation Y ที่คุณมะเลือกโค้ดมาก็น่าสนใจหมดเลย สงสัยต้องไปข้าวสารคว้าหนังสือเล่มนี้มาเสียที วันสองวันนี้อากาศดีจัง เข้าๆ ตื่นมารู้สึกได้ว่ามีลมหนาวมานิดๆ ดีจัง แต่อีกสักพักคงร้อนอีก กรุงเทพหนอกรุงเทพ ขอรีวีวเรื่องรักขมๆ แกล้มกาแฟตอนเช้าสักหนึ่งเรื่องค่ะ ฉันเคยรัก  อธิชา มัญชุนากร แปลจากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสของ แอนนา กาวาลดา นักเขียนหญิงร่วมสมัยเบสท์เซลเลอร์ของฝรั่งเศส   วันก่อนนู้นเห็นคุณนารูมิ พูดถึงเรื่องที่นางเอกถูกทิ้ง เรื่องนี้ก็ใช่อีกค่ะ โค้ดบางตอนจากหนังสือค่ะ       "คุณรักผู้ชายคนนึง คุณมีลูกกับเขาสองคน และเช้าวันนึงในฤดูหนาว คุณก็รู้ได้ว่าเขาจากไปเพราะรักผู้หญิงคนอื่น ตอกย้ำเข้าไปด้วยว่าก่อนหน้านั้นเขาสับสนและทำพลาดไป      เหมือนตอบรับโทรศัพท์ "ขอโทษครับ ผมต่อผิด"      ไม่เป็นไรมิได้ค่ะ         ... เรื่องเริ่มต้นด้วยควาหม่นเศร้าของผู้หญิงคนนึงที่พึ่งถูกสามีทิ้งไป ตอนแรกนึกว่าเรื่องจะดำเนินไปกับความฟูมฟายของผู้หญิงคนนี้ แต่เมื่ออ่านไปสักพัก คนเขียนให้ตัวละครอีกตัวคือพ่อของสามีเข้ามาเล่า ความระทมทุกข์ของคนที่ทิ้งคนอื่น คนที่ไม่กล้าเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง คล้ายๆ เรื่องจะตั้งคำถามว่า ใครจะจมอยู่กับความทุกข์มากกว่ากันระหว่างคนที่ถูกทิ้งกับคนที่ทิ้งคนอื่น ไม่อยากเล่าเรื่องมาก เพราะมีตอนที่ตัวละครในเรื่องค่อยๆ เปิดเผยความจริงออกมา สำหรับคนที่อยากลองอ่านนวนิยายที่ไม่ใช่มาจากอเมริกันหรืออังกฤษ อย่างที่เห็นส่วนมากในบ้านเรา ลองอ่าน พล็อทแบบนี้ดูก็ไม่เลวนะคะ หนังสือเล่มไม่หนา ไม่ถึงสองร้อยหน้า ตั้งใจอ่านจริงๆ ก็แป๊บเดียวจบค่ะ คุณติ่ม อาจจะลองนั่งอ่านที่ B2S ได้ พิมพ์โดยสำนักพิมพ์วงกลม คงวางแผงวันสองวันนี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 47 08:46:54 จากคุณ : grappa - [ 18 พ.ย. 47 08:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 80 หน้าตาหนังสือค่ะ จากคุณ : grappa - [ 18 พ.ย. 47 08:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 81 หนังที่คุณโป้พูดถึงน่าจะเป็นเรื่อง the good man in africa เรื่องนั้นมี Connery แสดงนำ คู่กับพระเอกหนุ่ม (ตอนนั้น) อีกคน หลายปีแล้วค่ะ สร้างจากหนังสือของ William Trevor เรื่องนั้นเขียนหลังจากที่แอฟริกายกเลิกระบบเหยียดผิวใหม่ๆ ป้าจำได้ว่าเคยอ่านเบื้องหลังการถ่ายทำเรื่องนี้ ซึ่งคณะผู้ถ่ายทำพบว่าถึงจะยกเลิกระบบไปแล้วแต่การกีดกันสีผิวก็ยังชัดเจน เช่นมีพื้นที่บางส่วนที่เปิดเฉพาะคนขาว หนังเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ ทั้งที่ระหว่างถ่ายทำคาดว่าน่าจะเป็นที่สนใจพอสมควร เข้าใจว่าเป็นเพราะบทหนังค่อนข้างอืด (ไม่น่าแปลกใจ เพราะหนังสือของ trevor ค่อนข้างเนิบอยู่แล้ว) ป้าจำได้ว่าอ่านเรื่องนี้ไปหนึ่งบทแต่ตอนนั้นยังเด็กกว่านี้มาก ...อ่านไม่จบค่ะ ถ้ากลับไปอ่านตอนนี้อาจจะชอบก็ได้...ตามวัยค่ะ ยังพันตูอยู่กับ cloud atlas ใครเจอเรื่องนี้ราคาไม่แพงซื้อไว้นะคะ (ถ้าราคาแพงอย่าเพิ่งเสี่ยงเพราะโอกาสจะอ่านไม่จบมีสูง) ภาษาชวนเวียนหัวจริงๆ ถ้ามีการแปลภาษาไทยตามลีลาต้นฉบับ (ถ้าทำได้) สงสัยคนอ่านด่าตรึม (ได้ยินว่าภาษาอังกฤษก็มีคนด่าตรึมเหมือนกัน) คุณ Grappa พูดถึงคำใหม่แล้วป้าขอถามหน่อยว่า hip เนี่ยมันน่าจะตรงกับภาษาไทยว่าอะไรคะ (ใครไม่รู้บอกว่ามันย่อมาจาก highly influential person หรือ highly important person) ป้าก็ออกจะงงๆ เพราะเวลาเขาพูดกันว่าคนนั้นฮิป คนนี้ฮิป ป้าก็ตีความไม่ได้ชัดเจนว่าเขาเป็นยังไงแน่ อย่างท่านนายก ท่านก็คงไม่ฮิป (หรือฮิป?) ออกนอกเรื่องมากไปเรอะเปล่าเนี่ย จากคุณ : ป้า - [ 18 พ.ย. 47 09:45:37 A:210.203.176.90 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เพิ่งคุยโทรศัพท์กับพี่กลาง เขารายงานข่าวสดว่าที่คิโนะ-เอ็มโพเรียมเอาหนังสือมาลดราคากว่า 50% เริ่มวันนี้ค่ะ ใครอยู่ใกล้หรือมีแผนจะแวะไปแถวนั้นลองไปดูนะคะ ขอให้ช้อปให้สนุก+ได้หนังสือถูกใจค่ะ จากคุณ : Angel Eyes - [ 18 พ.ย. 47 16:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เอ คุณป้าๆๆๆๆ คะ hip เนี่ยน่าจะหมายถึง highly individual person อ๊ะป่าวคะ ถ้าหนูจำไม่ผิดเน้อ เพราะถ้าบอกว่าคนนั้น ฮิปอย่างโน้น คนนี้ฮิปอย่างนี้ ก็น่าจะหมายถึงคนนั้นเท่ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และนำเทรนด์สุดๆ หยิบจับอะไร คนก็แห่ซื้อตามกันเป็นฝูง น่าจะประมาณนั้นนะคะ (เห็น NYTimes ก็จัด mcewan ของเราเป็น hip writer เหมือนกันนะค้า อิอิ ปลื้มซะ ...) ปอลอ เมื่ออังคารที่ผ่านมา ดูคุณพี่แบริชนิคอฟ เต้นสโลว์กับแครี่ (ในชุดสุดสวยของ oscar de la renta) แล้วยังไม่หายหัวใจละลายเลยค่า กรี๊ดดดดด สลบ แหม้ คนอาไร้เท่ระเบิดเลยวุ้ย (โอ๊ะ ....ไม่นึกว่าแก่แล้วยังเท่ซะขนาดนี้ หนุ่มอื่นๆในเรื่องกระเด็นค่ะ ขอบอก สมแล้วกับที่กรี๊ดดดดมั่กๆตั้งแต่ สมัย white nite เรยยยย) จากคุณ : เพติ๊ด - [ 18 พ.ย. 47 17:13:12 A:203.107.200.126 X: TicketID:013865 ]

ความคิดเห็นที่ 84 จริงด้วย...คุณเพติ๊ด ว่าแต่ถ้าหยิบจับอะไรแล้วคนแห่ตามก็ไม่ individual อะดิ... ว่าแต่คนอ่าน hip wirter นี่ฮิปด้วยมั้ย เผื่อป้าจะตามฮิป ด้วยคน เออ...ป้าก็ว่าหนุ่มใหญ่ในเรื่อง Sex in the city นี่หน้าตาคุ้นๆ จำไม่ได้ว่าเป็นคนเดียวกับเรื่อง white night (มันนานโขมาแล้วน้อ...) จากคุณ : ป้า - [ 18 พ.ย. 47 18:55:22 A:210.203.176.219 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 85 พี่เพติ๊ดหายยุ่งขิงแล้วเหรอค่ะ คิดถึงพี่จัง ไม่เห็นพี่เข้าทู้เลยหล่ะเดี๋ยวนี้ ว๊า...อ่านข่าวเซลส์ของตาลช้าไปหน่อย ไม่งั้นคงได้ไปตั้งกะเมื่อวานแล้วหล่ะ วันนี้คงไปไม่ได้แน่ๆ เลย ขอบคุณพี่กลางที่น่ารัก กะน้องตาลด้วยค่า เอาข่าวดีมาฝากอีกแร๊ะ คุณแป๊ดค่ะ เนี่ยก้อตั้งตาคอยดูหนังเรื่อง Davinci Code อย่างใจจดใจจ่อเลยหล่ะคะ แต่ใครแสดงก้อไม่เป็นรัย คิดว่าผู้กำกับเรื่องนี้คงต้องทำสุดฝีมืออยู่แล้ว บอกเพื่อนสุดเลิฟไว้แล้วค่ะว่าหนังเรื่องนี้เข้าเมื่อไหร่จะลากเค้าไปดูตั้งแต่วันแรกเลย อุอุ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนค่ะ จากคุณ : Bigcrab - [ 19 พ.ย. 47 08:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ้อๆ ตกลงลุงใน sex in the city เนี่ย แกก็ฮ็อตไม่ใช่เล่นใช่มั้ยคะ (พอดีเกิดไม่ทันน่ะค่ะ) ยังแอบเคืองในใจเลย ว่านางเอกของเราไหงได้ผู้ชายแก่จัง ทีซาแมนธานะ...โอ้ ว้าววว (แต่ตอนที่แล้วน่าสงสารมากๆ ) ถามหน่อยคะ ตอนก่อนที่ซาแมนธาขึ้นลิฟต์ไป ตกลงเธอได้ having a fun ก่อนลงมาเจอสมิทหรือเปล่าคะ (น่ากลัวว่า HBO จะเซ็นเซอร์นะ หัวเจ๊ยุ่งลงมาขนาดนั้น) คุณป้าคะ hip ที่ป้ากำลังพูดถึงเนี่ย ใช่ "เด็กแนว" หรือเปล่าเอ่ย จากคุณ : นารูมิ - [ 19 พ.ย. 47 10:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 87 วันนี้กระทู้ตัองเงียบแน่เลย วันศุกร์ มารีวิว confessions of an ex-girlfriend ตามสัญญาค่ะ (เวลารีวิวปันจะเล่าเรื่องย่อแบบกว้างมากๆ กินเนื้อเรื่องไม่เกิน 1 บท หรือไม่ก็คล้ายๆกะที่เขียนในปกหลังนะคะ จะได้ไม่ยาว และคนยังไม่อ่านไม่ต้องกลัวเสียอรรถรส แต่จะเน้นความรู้สึกหลังอ่านมากกว่า) Confessions of an Ex-Girlfriend เป็นเรื่องราวของสาวนักเขียนคอลัมน์ในนิตยสารเจ้าสาวฉบับหนึ่ง ที่ถูกทำให้กลายเป็นแฟนเก่าโดยไม่เต็มใจ เนื่องจากแฟนหนุ่มนักเขียนของเธอได้งานที่แอล เอ และขอจบความสัมพันธ์เสียเฉยๆ เพื่อก้าวต่อไป แต่นางเอกของเรากลับก้าวต่อไม่ถูกเอาเลยเพราะอายุก็ 31 เข้าไปแล้ว แถมยังรักแฟนหนุ่มอยู่ไม่เสื่อมคลาย นอกจากนั้นยังกังวลอีกว่าต่อไปจะพบรักแท้กับเขาได้หรือไม่ ด้วยอายุขนาดนี้ นอกจากรักคุดแล้ว นางเอกยังต้องฝ่าฟันกับปัญหาด้านอาชีพอีก งานที่ทำไม่ใช่งานที่เธอรักอย่างแท้จริง พอจะขอเลื่อนตำแหน่งก็เจออุปสรรค ไหนจะเรื่องครอบครัวที่เธอรู้สึกว่าออกจะพิลึกกว่าครอบครัวอื่นอยู่ซักหน่อย แต่เธอก็ยังมีเพื่อนสาวคนสนิท 2 คนที่อยู่เคียงข้าง แม้ว่าต่างคนจะมีปัญหาเรื่องความรักกันคนละอย่าง 2 อย่างก็ตาม ความรู้สึกหลังอ่านจบ เห็นพล็อตแล้วก็รู้สึกไม่มีอะไรแปลกใหม่ เหมือนอ่านแนวนี้มาเยอะแล้ว แต่พอเปิดอ่านดู ก็พบว่าคงจะใช้ได้ เพราะถึงนางเอกจะเล่าเรื่องแย่ๆให้ฟัง แต่ก็ไม่รู้สึกเหมือนฟังคนบ่น นอกจากนี้ นิสัยของนางเอกก็ไม่ได้ขัดใจอะไร เพื่อนสาว 2 คนก็น่ารักดี และเรื่องของพวกเธอก็น่าสนุกและน่าลุ้นไม่แพ้เรื่องของนางเอก ส่วนสำนวนการแปล ตอนแรกคิดว่าค่อนข้างดี อ่านลื่น แต่พออ่านไปๆ ก็ไม่ชอบบางประโยค บางตอน มันแปลกตรงที่ว่า บางคนถ้าสำนวนถูกใจ เราจะรู้สึกอย่างนั้นไปทั้งเล่ม แต่คนนี้ บางตอนใช้ได้ บางตอนก็ เอ๊ะ ยังไงเนี่ย ที่รู้สึกขัดสุดๆ คือ ผู้แปลใช้คำว่าเธอ พร่ำเพรื่อมาก คุยกันกับเพื่อน เรียกเพื่อนว่าเธอ ก็ไม่แปลก แต่พอเมาท์บุคคลที่ 3 ขึ้นมา ก็ยังใช้คำว่าเธออีก ปันว่าน่าจะเลี่ยงไปใช้คำว่าหล่อนบ้างก็ได้ หรือว่าผู้แปลกลัวจะดูฝรั่งเกินไปไม่รู้เลยไม่ใช้เลย อ้อ.. ที่เด็ดสุดคือ พูดถึงสุนัขของเพื่อนนางเอก (ตัวเมีย) ก็ยังใช้เธอตลอดเลย แปลเถรตรงมาก ปันว่าใช้มันบ้างก็ไม่ได้น่าเกลียดนา.. อ้อ คาใจ mr.right now ด้วยแปลว่า นายเดี๋ยวนี้เลย พอเข้าประโยคอ่านแล้วเง็ง ประมาณว่า ฉันอาจจะไปพบนายเดี๋ยวนี้เลย คนต่อไปก็ได้ สรุป อ่านได้เพลินๆ เนื้อเรื่องไม่แปลกใหม่ แต่ก็ไม่ถึงกะน่าเบื่อ ถ้าซื้อมาอ่านก็ไม่เสียดายตังค์ แต่ถ้าไม่ซื้อก็ไม่พลาดอะไรค่ะ กระซิบว่า ถ้าอ่านต้นฉบับอาจสนุกกว่านี้ เล่มนี้ให้คะแนน8/10ค่ะ จากคุณ : L.I.R.A. - [ 19 พ.ย. 47 10:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอแก้ข่าวที่บอกระทู้เงียบ เนื่องจากนั่งพิมพ์กระทู้ตอน8โมงเศษยังไม่เห็นใครตอบ หลังจากนั้นก็ไปทำงาน กว่าจะกลับมารีวิวเสร็จ ส่งกระทู้มาถึงรู้ว่ามีพี่ปู กะน้องนารูมิมาสวัสดีรับวันศุกร์กัน 2 คนแล้ว ไปทำงานต่อก่อนค่ะ จากคุณ : L.I.R.A. - [ 19 พ.ย. 47 11:07:20 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สรุปแล้วเนี่ย confess เนี่ยพออ่านได้ ใช่มั้ยครับพี่ปัน พูดถึงคำว่า "เธอ" เนี่ย เคยเจอหลายเล่มเหมือนกัน ที่ใช้เธอซ้ำๆ (แต่คงไม่เยอะเท่าเรื่องนี้มั้ง) พูดกับเพื่อนก็ เธอ กล่าวถึงคนที่ 3 ก็ เธอ เลยไม่รู้เลยว่า เธอ ไหน กันแน่ ง่ะ ไม่ได้ดู sex and the city ตอนแรกๆ น่ะ เพิ่งมานึกขึ้นได้ก็ดูตอนใกล้จะจบแล้ว มันเป็นไงอ่ะ ตอนนี้เอาทั้ง 4 เล่มที่อ่านไว้เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนเข้าลังไปแล้ว หยิบ "รหัสหัวใจ" ของ กิ่งฉัตร มาอ่านดีกว่า (เผอิญติดละคร ในเรือนใจ น่ะ) หลังจากไม่ได้อ่านนิยายไทยมานาน อ่านเรื่องนี้ถ้าจะม่วนดี จากคุณ : envy_econ - [ 19 พ.ย. 47 13:48:25 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แวะมาเล่าให้ฟังค่ะว่านิตยสารดิฉันเล่มใหม่ (no. 666) มีเรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือที่เราอ่านกันค่อนข้างเยอะทีเดียว และมีสัมภาษณ์คุณกวีวุฒิ วุฒิวิภู หุ้นส่วนเจ้าของร้านดาสา ที่วันนั้นมีคุณป้า น้องไอซ์ พี่กลาง น้องตาล ไปร้านดาสากันแล้วเจอเค้านั่งแปลหนังสืออยู่ คนที่น้องไอซ์คุยด้วยตอนจ่ายเงินหน่ะคะ มาแบบกุดๆ ไปแล้วค่ะ จากคุณ : Bigcrab - [ 19 พ.ย. 47 14:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แวะมาอ่านแล้วอ่านอีก แต่ไม่รู้จะเขียนอะไรดีอ่ะ เมื่อคืนอ่าน james and the giant peach ชอบๆน่ารักดีค่ะ อ่านไปขำไป รู้สึกแปลกดีที่อ่านหนังสือเด็กของ Roald Dahl ทำให้ตาลขำได้มากกว่าอ่านหนังสือ fiction ทั่วๆไปอีกล่ะ นิตยสารดิฉันที่พี่ปูมาเล่าให้ฟังน่าสนใจดี ว่าแต่ว่าหนังสือที่เราอ่านกันเนี่ยมันหนังสืออะไรเหรอ.... 555 ...ไว้ไปยืนอ่านที่แผงดีกว่า แหม พี่ปูน่าจะบอกด้วยว่าหน้าที่เท่าไร จะได้เปิดอ่านเฉพาะหน้านั้นเลย อิอิ ไม่เสียเวลาค้นหา จากคุณ : Angel Eyes - [ 19 พ.ย. 47 14:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อุ้ยเรื่อง james and the giant peach หนุกเหรอค่ะตาล ดีจังไว้จะได้หยิบมาอ่านมั่ง เล่มนี้ได้มาตอน B2S ลดราคา 50% เห็นว่าเป็นหนังสือของลุงโรอัลเลยหยิบมาด้วย ตอนแรกนึกว่าไม่หนุกซะแร้ว ไปเปิดๆ หนังสือจดๆ มาให้แล้วจ้า ตามคำขอของน้องสาวคนเก่ง หน้า 68, 124, กะ 128 จะเป็นหน้าแนะนำหนังสือภาษาไทย มีแนะนำเรื่อง five ppl you meet in heaven เล่มละ 125 บาทด้วย หน้าที่ 232-235 เป็นเรื่อง ฉายอักษรบนจอเงิน คิดว่าคงคล้ายๆ กับกระทู้ที่เราเคยคุยกันว่าอยากเห็นหนังสือเล่มใดทำเป็นหนัง ประมาณนั้นอ่ะคะ มีเรื่องสาวนักช้อปฯ กะดาวินซี่โค้ด เข้ารอบด้วย เราก้ออยากเห็นสองเล่มนี้เป็นหนังมั่กๆ ด้วยเหมือนกัน ส่วนคุณกวีวุฒิเธออยากเห็นเรื่อง Ash Wednesday ทำเป็นหนังค่ะ จากคุณ : Bigcrab - [ 19 พ.ย. 47 14:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คุณกวีวุฒิ ต้องอยากเห็นเรื่อง Ash Wednesday เป็นหนังซิคะ คุณปู เธอแปลเรื่องนี้อยู่ ป่านนี้คงแปลเสร็จแล้ว คุณกีวี่เป็นเจ้าของร้านที่อัธยาศัยดีนะคะ คุณป้าคะ ตอนนี้รู้สึกว่าคำพวกนี้ Hip Cool Chic ถูกใช้มาก โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นคำเก๋ เพื่อใช้โฆษณาสินค้าเสียมาก แต่เดี๋ยวจะถามผู้รู้มาให้ค่ะ ที่จริงก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันมีความเป็นมาอย่างไร จากคุณ : grappa - [ 19 พ.ย. 47 17:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ทีแรกว่าจะเข้ามาตอบคำถาม พออ่านไล่ลงมาเรื่อยๆ เป็นอันว่า ลืมคำตอบของตัวเองไปแล้ว จำไม่ค่อยได้จริงๆ ว่าอ่านเรื่องไหน ของแต่ละแนวเป็นเรื่องแรก ช่างเป็นคำถามที่ต้องการเวลารื้อฟื้นจริงๆ นะเนี่ย ขอบคุณสำหรับรีวิวหนังสือหลายเล่ม จากหลายๆ ท่านข้างบน กระตุ้นต่อมอยากของเราอีกแล้ว จากคุณ : นัทธ์ - [ 19 พ.ย. 47 23:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 95 สวัสดีค่ะ มาทักทายนิดหน่อย หายไปหลายวัน เพราะไปสัมมนามา กลับเข้ามางานยุ่งหัวหมุนเลย เคลียร์งานเสร็จแล้วจะแวะกลับมาคุยค่ะ จากคุณ : tc - [ 20 พ.ย. 47 10:51:42 A:203.151.122.240 X: TicketID:046716 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เมื่อวานแวะไปร้าน 50% ได้หนังสืออีกแล้วค่ะ ได้ เทลส์ออฟโอโตริเล่ม 2 กับ cairo trilogy - palace walk พี่เพติ๊ดเคยแนะนำว่าดีมาก... ตาลไปดูเล่ม E แล้วคิดว่าอ่านไม่ไหว โชคดีที่มีแปลไทย อิอิ จากคุณ : Angel Eyes - [ 20 พ.ย. 47 11:40:24 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สวัสดีค่ะ พี่ๆ ^^ หายหน้าหายตาไประยะนึง เนื่องจากยุ่งขิงเป็นอันมาก (ฮ่ะๆ ชอบจริงๆ ไอ้คำว่า ยุ่งขิงเนี่ย ใช้แล้วรู้สึกเหมือน เป็นนางเอกชิกลิทอะ) พองานยุ่งก็เลยไม่มีสมองมาเรียบเรียง คำตอบของกระทู้ ที่เคยพิมพ์จะตอบก็ยาวยืดอย่างกะเรียงความ เลยขอไปสรุปมาใหม่ดีกว่า ตอบก่อนเลยแล้วกันค่ะ เล่มแรกที่บลูอ่าน คือหนังสือเรียนค่ะ สมัยอนุบาลโน่นเลย (ไกลไปมั้ย?) แต่ที่เอามาบอกด้วยเพราะว่าชอบค่ะ "แบบเรียน เร็วใหม่เล่ม ๑" (ต้องเป็นเลขไทยด้วยนะ ฮ่ะๆ) ถือเป็นนิทาน เล่มแรกของบลูเลย แม้ว่าด้านหน้าจะเป็น กะ-อะ-กะ, กอ-อา-กา แต่ด้านหลังมันเป็นเรื่องค่ะ คำไหนยากๆ นี่จะแทนด้วยรูปภาพเอา ซึ่งทำให้บลูพยายามอ่านหน้าแรกๆ เลยชาวบ้านเค้าไป เพราะ อยากไปอ่านไอ้เรื่องๆ ด้านหลัง รู้จักเล่มนี้กันมั้ยเอ่ย? เล่มสองที่ประทับใจตอนอนุบาลสอง ทั้งเล่มเหมือนเป็นนิทานค่ะ ทำให้บลูไม่เคยขี้เกียจอ่านหนังสือเลย ไม่ใช่มานี ชูใจค่ะ เพราะอันนั้น เรียนตอนป.1 หนังสือที่บลูพูดถึงคือ "ดรุณศึกษา" มีใครเรียน เล่มเดียวกะบลูบ้างหรือเปล่าคะ (อันนี้ดูจะสากลกว่าเล่มแรกนิดนึง อิอิ) หลังจากนั้นก็เริ่มอ่านนิทานอีสป สองภาษาเล่มเล็กๆ ชอบถึงขนาดว่า บลูไปทำหนังสือนิทานส่งประกวดกะเค้าด้วยแหละ ได้รางวัลด้วยนะ ตอนนั้นอยู่อนุบาลสอง เขียนได้เป็นเรื่องเป็นราว โอ๊ย! ภูมิใจมั่กๆ พอป.1 ก็มานี ชูใจค่ะ เรื่องที่ประทับใจใครๆ หลาย ๆคน แต่ที่บลูชอบที่สุดสมัยนั้นเป็นหนังสือประเภท Pop UP ค่ะ จำได้ว่า กลับบ้านมานั่งดูอาจารย์พรจันทร์ กะ พี่กระรอกน้อยทางช่อง 11 ตอนเย็นๆ เกือบทุกวันเลย การ์ตูน โดราเอมอนค่ะ คงเหมือนหลายๆ คนมั้ง อ่านจบแล้วมักจะรู้สึกว่า ไม่น่าให้โดราเอมอนไปอยู่กะโนบิตะเล้ยยย น่าเอามาอยู่กะบลูมากกว่า 555 การ์ตูนตาโตเล่มแรก เพราะหัวใจเพรียกหา หรือ Virgin Blue ตอนนั้นป.6 จำได้ว่าเพื่อนๆ ในห้องฮิตกันมาก บลูอ่านไปเล่มนึง ไม่เห็นชอบเลยค่ะ สงสัยอ่านไม่รู้เรื่องมั้ง แต่การ์ตูนตาโตที่ทำให้บลูหันมากลายเป็นคนอ่านการ์ตูนกะเค้ามั่ง คือเรื่อง "หมายเลย 1 คือเธอ" ที่เกี่ยวกะวอลเลย์บอลน่ะค่ะ อ่านจบไปสมัครเป็น นักกีฬาวอลเลย์ของโรงเรียนเลย 555 (แต่แล้วก็รู้ตัวว่าไม่รุ่งง่ะ T^T ) สืบสวนเล่มแรก เป็นหนังสือนักสืบที่เป็นเกมค่ะ จำชื่อไม่ได้ แต่จะเป็นเรื่องๆ แล้วมีคำถาม ให้เราทาย แล้วมีเฉลยท้ายเล่ม และหลังจากนั้น ก็เลยมาอ่าน เชอร์ล็อค โฮล์ม เพราะในหนังสือเกมนั่น พูดถึงบ่อยมาก sci-fi เมื่อก่อนบลูชอบแนวนี้มาก เรื่องจินตนาการแล้วเกี่ยวข้องกะวิทยาศาสตร์ หรือเทคโนโลยีเนี่ยค่ะ จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วมันนานมาก แต่รู้สึกว่า ส่วนมาก คนเขียนที่บลูอ่านเรื่องของเค้า คือ คุณ วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์ น่ะค่ะ วรรณกรรมเยาวชน The Secret Garden ของ ฟรานเชส ฮอดจ์สัน เบอร์เนต แปลโดย คุณ เนื่องน้อย ศรัทธา เรื่องนี้ทำให้บลูอ่านแล้วติดใจวรรณกรรมเยาวชนไปเลยค่ะ ซึ่งส่วนมากเป็นของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ และทำให้ ลุงดาห์ลเป็นขวัญใจบลูไปใน ตอนนั้น แต่เรื่องที่บลูชอบที่สุดไม่ใช่ของลุงดาห์ลค่ะ แต่เป็นเรื่อง "ต้นส้มแสนรัก" ภาค 1 อ่านไปน้ำตาไหลไปพรากๆ ชิกลิทเล่มแรก ไม่ใช่บริดเจ็ท โจนส์แฮะ เป็นเรื่องคำสารภาพของสาวนักช้อปค่ะ และทำให้ บลูกลายเป็นสาวกของเบคกี และคุณพลอยไปตั้งแต่วันนั้น 555 ebook เรื่องแรก Mediator ค่ะ ยังไม่มีความรู้สึกหลังอ่านจบ เพราะยังอ่านไม่จบซักที ^^' Romance ยังไม่เคยอ่านเลยค่ะ กลัวปก ฮ่ะๆ ปรัชญา ปรัชญาชีวิตของคาลิล ยิบราลค่ะ ก่อนอ่านนี่รู้สึกขี้เกียจอ่านมากๆ แต่จำใจอ่าน เพราะตอนเรียนเค้าบังคับ แต่พออ่านจบแล้ว เออแฮะ! ชอบเหมือนกัน ศาสนา ท่องแดนนรกกับพระอรหันต์จี้กง อ่านจบแล้วรู้สึกว่า เป็นคนดีเกินเหตุ ไปสองสัปดาห์ค่ะ ฮ่าๆ ขาดแนวไหนอีกมั้ยน้อ? นี่ขนาดสรุปแล้วยังยาวเป็นหน้าเลยค่ะ แต่อยากตอบมากๆอะ ขอโทษทีแล้วกันนะคะ สงสัยบลูจะแก่ค่ะ ชอบรำลึกความหลัง เอิ๊กๆๆๆ จากคุณ : PinkyPiE - [ 20 พ.ย. 47 12:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขอคุยต่ออีกสักนิดค่ะ เมื่อวานซืนไปร้าน 50% สยามฯ มาค่ะ จริงๆ แล้วบลูตั้งใจว่าเดือนนี้ จะไม่ช้อปหนังสืออะไรแล้ว รอไปงานเนลสันอย่างเดียว (เพราะกรอบไปแล้ว) แต่ที่ไปเนี่ยเพราะอยากได้บารามอส เล่ม 1 เห็นพี่ติ่มมาบอกว่าเจอที่ร้าน 50% ตอนงานหนังสือบลูได้มาแต่เล่ม 2 เพราะเล่มหนึ่งมันดันหมด (ตอนที่บลูซื้อพอดีเวนกำมาก) สรุปว่า ไปวันนั้น ไม่ทันบารามอส ตามเคยค่ะ แต่จ่ายไป 365 บาทถ้วน งือๆๆ แล้วตอนงานเนลสันบลูจะไปปั๊มเงินที่ไหนไปช้อปกะพี่ๆ เค้าเนี่ย ได้หนังสือมา 3 เล่มดังนี้ 1. สารลับจากความตาย 2. สาวน้อยผู้เพรียกหาความตาย 3. กลองสังกะสี (แรงจูงใจจากพี่ตาลเลยค่ะ หลังจากที่ลังเลมาหลายรอบ เอิ๊กๆ) ทักทายพี่ๆ ทุกคนด้วยค่ะ แหม! ใครๆ ก็มารีวิวหนังสือกันใหญ่เลย เดี๋ยวบลูเอามั่ง อิอิ ^^' **แอบแซวนิดนึง พี่ไอซ์คะ เลขสวยมาแล้วค่ะ มาโพสท์เร้ววว (ล้อเล่นเน้อ) จากคุณ : PinkyPiE - [ 20 พ.ย. 47 12:18:29 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ว้าย ๆๆ เลขสวย ๆ กร๊ากกก มาแปะ ๆ อุ๊ย เจ้าบลู รู้ทันพี่ได้ไงเนี่ย ฮี่ ๆๆ จากคุณ : Clear Ice - [ 20 พ.ย. 47 13:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 100 อุ๊ย เนทช้า ... ตั้งใจว่าจะแปะจองเลขแล้วค่อยเข้าไปแก้ไขข้อความนะเนี่ย ทำไม่ได้แฮะ ไม่เป็นไรค่ะ เอาคคห.ใหม่ เหอ ๆ อ่านทู้ไม่ทัน เอิ๊กส์ ทุกคนอ่านหนังสือ และรีวิวกันอย่างเมามันส์ มาก ๆ เลยแฮะ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอซ์ยุ่งกับงาน ((และตบตีกับหัวหน้า)) มาก ๆ เลยค่ะ เลยไม่ได้อ่านอะไรเลย นอกจากการ์ตูน เอิ๊กส์ คลายเครียด ๆ ไปไล่อ่าน ซามูไรพเนจร จนครบชุดเลย ชอบเรื่องนี้จริง ๆ หนังสือที่อ่านจบ มีเล่มบาง ๆ เล่มเดียวค่ะคือ รักร้างแรงอธิษฐาน เขียนโดย ทากุจิ แรนดี แปลโดย ยุพกา ฟุคุชิมะ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นของญี่ปุ่นหลากหลายรสชาติ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับพันกับความรัก ความหลัง อะไรประมาณนี้ ตัวละครจะสะท้อนถึงคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ส่วนหนึ่ง ทั้งในด้านความรัก หน้าที่การงาน ความคิด .... ส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยชอบเล่มนี้เท่าไหร่อะค่ะ มันญี่ปุ่นไปนิด หลาย ๆ เรื่องอ่านแล้วเข้าใจ แต่เข้าไม่ถึง ทำให้ความประทับใจลดลง พออ่านได้อะค่ะ ((หารูปไม่เจออะ แปะเลยละกัน ง่ำ)) ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 20 พ.ย. 47 13:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อ๊าย TT_TT เนตหลุดอ่ะ ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่หมดเลย เนตที่ทำงานใจหลายที่สุด มาขอจองเลขสวยบ้าง ขอให้ได้เดินทาง <b>ร้อยเอ็ด</b>เจ็ดย่านน้ำด้วยเถอะ สาธุ!!! ช่วงนี้ยุ่งขิงเช่นกัน หลังจากอ่านไม่จบมาสีส้าห้าเล่มแล้ว ได้อ่าน รหัสหัวใจ แล้วสนุกใจกับสำนวนของพี่ปุ้ย กิ่งฉัตร ใครอยากอ่านนิยายไทยน่าจะเริ่มอ่านจากงานของพี่ปุ้ยนะ สำนวนไพเราะโดนใจดี ลุ้นให้มีคนมาแตกกระทู้ เห็นใจคนใช้เนตส่วนรวมอย่างเราด้วยเถอะ พี่ไอซ์ งานยุ่งแต่ก็อ่านหนังสือสปีดได้ไวดีแท้ จากคุณ : envy_econ - [ 20 พ.ย. 47 14:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 102 *^^* อยากให้หนังสือเล่มไหนได้รับการแปลเป็นภาษาไทยบ้าง *^^* ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K3133810 จากคุณ : Clear Ice - [ 20 พ.ย. 47 15:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ช่วงนี้ไม่มีอะไรมากรีวิวเลยค่ะเพราะว่าอ่านหนังสือเก่าๆ ที่พี่น้องอ่านไปแล้ว อย่างเรื่องตายเพราะความสวย และที่จ่อคิวอีกเล่มก็เป็นเรื่องศพในสปา ชอบฟ้อนท์ของหนังสือ Bliss แล้วก็ของ Image จังค่ะเพราะว่าอ่านง่าย แล้วที่สำคัญคือรู้สึกว่าคุ้มกับค่าเงินที่ซื้อหนังสือจริงๆ เวลาเห็นฟ้อนท์ตัวหนังสือ ความหนา และสีสรรของหนังสือ ชมพู๊ชมพู .... พรุ่งนี้ใครไปดูโมโม่มาก็แวะมาเล่าบรรยากาศด้วยนะค่ะว่าสนุกหรือเปล่า เรื่องนี้อาจจะได้กระชากวัยบางคนที่ไปดูด้วยนะค่ะ กริ กริ จากคุณ : นิดค่ะ (JewNid) - [ 20 พ.ย. 47 15:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 15 พ.ค. 48 21:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เล่มแรกที่อ่าน----------------------------ดั่งดวงหฤทัย เล่มล่าสุดที่อ่าน(ยังไม่จบ)----------------ของขวัญวันวาน ปล.ไม่นับที่เป็นประเภท อาจารย์สั่งอ่านนะค่ะ พวกหนังสือนอกเวลา จากคุณ : ต้นไม้ในบ้านหลังเก่า - [ 16 พ.ย. 48 13:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 108 แอบตาม #43 ไปหาเล่มนี้ ในเวปมติชน 2. ลูซี่ ซัลลิแวน รักแท้แค่หัวใจเอื้อมถึง (เห็นปุ๊บ ตะครุบปั๊บ) กำลังลดราคาต้อนรับวาเลนไทล์ จาก 400 เหลือ 100 ถ้วน เห็นปุ๊บตะครับปั๊บตามที่บอกไว้เลย :) จากคุณ : I wanna be DJ - [ 30 ม.ค. 52 22:11:12 ]