ความคิดเห็นที่ 1 นานจนนับไม่ถ้วนเลยค่ะ แหะๆ เพราะปกติแล้ว เราจะอ่านการ์ตูนเป็นหลัก หนังสืออื่นเป็นรองค่ะ แต่ตอนนี้ไม่น่าเชื่อเลย! จำนวนหนังสือเริ่มเคลื่อนเข้าใกล้จำนวนการ์ตูนแล้ว!!! (ส่วนเล่มที่อ่านจบจริงๆนั้น ..shock มากค่ะ เพิ่งมีโอกาสได้ทำlist หนังสือที่มี .. แค่ 1 ใน 3 ของทั้งหมดเอง ..แง หัดนิสัยนี้ตั้งแต่เริ่มอ่านซ้าแร้ว) จากการที่มีหนังสือค้างเยอะขนาดนี้ รู้สึกกดดันเหมือนกัน พักหลังๆอ่านอะไรไม่ค่อยสนุกได้สุดๆเลย แบบมีเวลาว่างเกิน 5 ชม.ที (ชอบอ่านแบบทีเดียวจบเล่มค่ะ^^) ก็ต้องขอคว้าอะไรมาอ่านหน่อย ..เหมือนอ่านเพราะถูก assign เลยค่ะ แหะๆ ส่วนหนังสือที่ทำให้ออกจาก reader's block นี่เป็นหนังสือที่ทุกคนอ่านและรู้จักกันดีอยู่แล้วค่ะ นึกออกอยู่เล่มเดียว(เพราะตอนนั้นมันช่วยได้จริงๆ แบบปิดเทอมหลายวัน แต่ดันไม่มีอารมณ์อ่านรัยเลย ทั้งๆที่ก็ไม่มีอะไรทำT-T) ..คงเพราะมันอ่านง่ายและสนุกดีมั้งคะ แต่ล่าสุดเล่ม 5 นี่ไม่ค่อยช่วยกาตุ้นเท่าไหร่เลย -_- จากคุณ : ลูกหนอน. - [ 8 ธ.ค. 47 00:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถามได้ตรงใจมากเลยค่ะไอซ์  พี่นิดนี่เลยช่วงก่อนหน้านี้อ่านอะไรก็ไม่ได้มันเบื่อๆ ไปหมด  หยิบอะไรมาอ่านแต่ละเล่มก็เนือยๆ อ่านได้ผ่านไปบทสองบทก็ชัก เอ๊ะ ไม่หนุกเลย ไม่เข้าแก็บ  หลังจากนั้นก็เอาไปวางแล้วก็หวนหยิบเล่มอื่นๆ ( ที่เคยเอาวางหิ้งมาก่อนแล้ว ) มาอ่านต่ออีก  แต่ก็เป็นอีกล่ะ  นี่ล่ะเน้อ Reader''s Block จริงๆ เพราะว่าหยิบอะไรก็อ่านไม่ถึง 20 หน้าก็วางอีกล่ะ แต่ตอนนี้หาได้แล้วค่ะ 1 เล่ม ก็เป็นเรื่องสืบสวนของคอนเนลลี่ตามเคย  เป็นเล่มที่ซื้อมาตอนนัดเจอกันคราวก่อนนี้ล่ะค่ะเรื่อง The Black Echo   หยิบมาอ่านแรกๆ ไม่เข้าท่าแต่ว่าตอนนี้ทนอ่านผ่านไปได้สัก 2 บทเริ่มเข้าเค้าแล้ว  ตอนนี้เลยรู้สึกสนุกแล้วเพราะว่าได้หนังสือที่อ่านติด   แฮ่ๆ อันนี้เป็นหนังสือแนวที่อ่านบ่อยๆ นะค่ะ ถ้าหากว่าแนะนำให้คนอื่นอ่านถ้าหากว่ารู้สึกว่าอ่านอะไรไม่หนุกเลยก็ไม่รู้เหมือนกันล่ะค่ะ  เพราะว่าตัวเองก็อ่านหนังสือไม่กี่แนวเอง  เดี๋ยวรอพี่ๆ น้องๆ แวะมาช่วยกันตอบนะค่ะจะได้มีอ่านกับเค้ามั่ง ถ้าถามเมื่อก่อนนี้หมดใจกับหนังสือนานที่สุดก็คงเป็นประมาณเดือนนึงเพราะว่าอ่านอะไรแล้วไม่สนุกเลย  ก็เลยหาทางหันไปดูหนังแทน  พอกลับมาอ่านอีกเจอเรื่องเพชรพระอุมา  คราวนี้ล่ะเลยติดหนึบไป 3 ภาค เลย  คิดแล้วอยากอ่านอีกจังเลยเพชรพระอุมา แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 47 01:57:42 จากคุณ : JewNid - [ 8 ธ.ค. 47 01:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วิธีอ่านหนังสือสนุก 1. หยุดอ่านโดยสิ้นเชิง ไปเที่ยวดูโน่นดูนี่ นัดเพื่อนคุยกัน สักอาทิตย์ กลับมารับรองอ่านโลด 2. อ่านตอนที่สมองแจ่มใส ถ้าเลือกวันว่างได้ด้วยยิ่งดี ไม่ใช่เหนื่อยจนตาแทบปิดแล้วมาอ่าน (ข้อนี้ยกเว้นอยากเอาหนังสือกล่อมนอน เช่น อ่าน quarantine สองย่อหน้าแล้วหลับปุ๋ย 5555 ... ล้อเล่นค่ะ ล้อเล่น) 3. อ่านแนวที่อยากอ่านตอนนั้น ...หรืออีกนัยหนึ่งคือ จงซื้อหนังสือเก็บไว้แนวละเล่มสองเล่มให้ครบทุกหมวด เวลาต้องการจะได้หยิบได้เลย หมดแล้วมั้ง? ล่าสุด อาการ RD ครั้งล่าสุด พี่ได้หัวขโมยบารามอสช่วยไว้ได้อ่ะ แต่พอจบเรื่องนี้ก็เป็นต่อ แนวที่อ่านได้แต่ไม่ถึงกับแก้ RD คือพวกโรมานซ์ค่ะ น้ำตาลช่วยคลายเครียดได้ อิอิ ยังอ่านการ์ตูนได้นี่ถือว่าโอเคนะ ไอซ์ ถ้าขนาดการ์ตูนยังอ่านไม่ได้นี่วิกฤติ อาจต้องหามส่งรพ. เช็คด่วน แว๊ก เผลออีกแล้ว ไปทำงานก่อนค่ะ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 8 ธ.ค. 47 02:12:50 A:202.183.171.134 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จำไม่ได้อ่ะ เพราะ ถ้าช่วงไหนอ่านก็อ่านแหลก ถ้าเบื่อก็เลิกไปเลย แล้วค่อยกลับมาอ่านอีก จากคุณ : นางสาว ภูมิใจ - [ 8 ธ.ค. 47 05:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยกะพี่ติ่มซำทุกข้อเลยค่ะ ของตัวเองเนี่ยเวลาเกิดอาการ RD (ยืมใช้มั่ง) ก้อจะหากิจกรรมอย่างอื่นทำแทนไปพลาง อย่างเช่นไปดูหนัง เดินเล่นช้อปปิ้ง กินข้าวฟังเพลง ซักพักนึง แต่ช่วงนั้นจะไม่แตะหนังสือเลยค่ะ หลังจากนั้นก้อไปเดินหาซื้อหนังสือออกใหม่ (ต้องเสียตังก่อนค่ะ แล้วจะรู้สึกดีขึ้น) ที่รู้สึกว่าเราอยากอ่านเล่มนี้มากถึงมากที่สุดมาอ่าน จากคุณ : Bigcrab - [ 8 ธ.ค. 47 08:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นเหมือนกันค่ะ ช่วงนี้ก็เป็นอยู่ เพราะอ่านไม่คืบหน้าเลย โรมานซ์ขาประจำก็อ่านได้คืนละประมาณ 5 หน้าเท่านั้น แล้วก็เซ็ง เปลี่ยนเรื่องไปอ่านเรื่องอื่นก็สถานการเหมือนกัน ผลก็คือ จำนวนในกองคั่งค้างมาก ที่ซื้อจากงานหนังสือคราวนี้ แทบจะยังไม่ได้แตะเลย แต่ก็ไม่หยุดซื้อ กองก็เลยขยายออกมาเรื่อย ๆ พออ่านอะไรไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะไปทำอย่างอื่นสักพัก เช่น ช่วงนี้ติดปักผ้า ข้อดีของการปักผ้าก็คือปักไปด้วย ดูโทรทัศน์ไปด้วยได้ ช่วงนี้เลยติดรายการทีวีพอสมควร โดยเฉพาะช่อง 9 ช่วงหลังข่าว มีรายการดีๆหลายรายการเลยล่ะค่ะ ขอแนะนำกบนอกกะลา คืนวันศุกร์ แต่คืนนี้ดู Amazing Race ค่ะ ทีนี้ถ้าไม่ปักผ้า ก็บ้าเล่นเกมคอมพิวเตอร์ล่ะ (เคยเล่นจนการ์ดจอโน้ตบุ๊คไหม้มาแล้ว) ทั้งนี้ทั้งนั้น พอผ่านไปสักเดือน ก็จะเกิดความคิดถึงหนังสือกลับมาตะลุยอ่านได้ค่ะ จากคุณ : tc - [ 8 ธ.ค. 47 08:49:30 A:203.151.122.253 X: TicketID:046716 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หวัดดีตอนเช้าครับ... คำถามโดนใจมากครับคุณไอซ์...ขอตอบเลยว่าอาการ RD (ขอยืมคุณติ่มมาใช้มั่ง) สำหรับผมนี่จะเป็นเวลาที่งานหนัก เหนื่อย เบื่อหรือไม่ก็อ่านเรื่องทำนองเดียวกันติดๆ กัน หรืออ่านนิยายภาษาอังกฤษติดๆ กันหลายเล่มไม่หยุดอะไรทำนองนั้น...วิธีการแก้ก็คล้ายๆ คุณติ่มคุณปูบอกแหละครับ...ออกไปเดินเล่น หางานอย่างอื่นทำ หรือไม่ก็เปลี่ยนเล่มอ่านเผื่ออะไรจะดีขึ้น...(เหมือนตอนที่ผมอ่าน Snow ของ Orhan Pamuk ไง อุตส่าห์แบกไปอ่านที่ปักกิ่งด้วยยังวางแทบไม่ทัน) อีกวิธีที่ผมใช้เป็นประจำก็คือพยายามสลับการอ่านของตัวเองให้เป็นอ่านภาษาไทยมั่ง ภาษาอังกฤษมั่ง และก็อ่านสลับแนว ไม่ให้แนวซ้ำๆ ติดกันมากเกินไป ก็จะช่วยหลีกเลี่ยงอาการ RD ได้หน่อยนึง อาการ RD หลังสุดของผมก็น่าจะเป็นตอนที่อ่านงานของ Pamuk คือ Snow นั่นแหละ...กินเวลาแค่ช่วงไปดูงานที่ปักกิ่งเท่านั้นล่ะครับเพราะพอกลับมาก็รีบเปลี่ยนเรื่องอ่านและก็อ่านได้ฉลุยต่อไป..ว่าแต่อาการแบบที่เราเรียกว่า RD เนี่ย ไม่นับเรื่องสปีดในการอ่านใช่ไหม?? คำถามสุดท้ายของคุณไอซ์ถามว่ากำลังอ่านอะไรอยู่...ตอบว่าอ่าน The Line of Beauty นั่นแหละครับ...ใกล้จบแล้ว ตอนแรกคิดว่าตัวเองมีอาการ RD กับนิยายเรื่องนี้เหมือนกันเพราะไม่ปลื้มตัวเอกเท่าไร แต่อ่านๆ ไปถึงกลางเรื่องชักเริ่มมัน...เมื่อคืนอ่านถึงตี 2 อ่ะครับ... แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 47 14:26:07 จากคุณ : Filippo - [ 8 ธ.ค. 47 08:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วกัน นึกว่าเป็นอยู่คนเดียว หนังสือใหม่กองอยู่สิบเอ็ดหยิบขึ้นมาอ่านไม่ติดมือซักเล่มเดียว ตอนนี้ค้นหนังสือกำลังภายในมาอ่านแก้ขัดไปก่อนนางพญาผมขาวอ่านรอบเท่าไรแล้วจำไม่ได้ หนังสือใหม่หยิบขึ้นมาอ่านได้ไม่เกินห้าสิบหน้า ตอนนี้ก็มีืั้ที่คั่นหน้ารอทิ้งไว้สี่เล่มเพราะอาการนี้เอง หายดีเมื่อไหร่จะกลับไปอ่านต่อ จากคุณ : อางู้ - [ 8 ธ.ค. 47 09:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โหม่งกับคุณกลางพอดิบพอดี...หวัดดีครับผม! มาคุยต่อนะครับ...คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ ผมแวะกลับไปจัดการสะสางปัญหาพาดพิงแล้วครับ ฮ่าๆๆ จะว่าไปผมก็ไม่เคลียร์เองนั่นแหละ ถ้าเขียนให้เคลียร์กว่านี้น่าจะไม่ทำให้คนอื่นข้องใจได้มากกว่านี้... คุณไอซ์ ผมแวะไปหาที่กระทรวงดีกว่าไหม เอาหนังสือทั้งของน้องและของผมไปให้เซ็น ว่าแต่ที่ทำงานเราอยู่ใกล้กันไหมหว่า? ของผมน่ะอยู่ใกล้พระราชวังครับ... คุณป้าครับ แฟนผมเขาไม่ว่าเรื่องแตะเนื้อต้องตัวสุภาพสตรีคนอื่นหรอกครับ เขาเข้าใจ อิอิ เพราะฉะนั้นทำมากกว่าแปะมือ เป็นต้นว่าเชคแฮนด์กันหรือว่าตบไหล่แบบสนิทสนมเป็นไอ้น้องชายก็ได้ ฮ่าๆๆๆ ไปลองทบทวนดูในบันทึกของตัวเอง(ผมมีบันทึกส่วนตัวเขียนถึงเหตุการณ์และรายละเอียดในชีวิตเป็นช่วงๆ) พบว่ามีนิยายประเภท Best Read ของปีนี้ที่ยังไม่ได้พูดถึงอีกเลยขอแถมพกมาในกระทู้กินเนื้อที่นิดนึงนะครับ (ที่เขียนคราวที่แล้วนั่นคือเท่าที่นึกออกอ่ะครับ) 1. The Eyre Affair, Lost in a good book และ The Well of lost plots ของ Jasper Fforde สั้นๆ ครับ "จินตนาการบรรเจิด" 2. House of Sand and Fog ของ Andre Dubus III เริ่มจากการอยากดูหนังพัฒนาไปเป็นหาหนังสือมาอ่าน(อ่านจบก่อนดูหนังเสียอีก) เรื่องลึกซึ้ง กินใจและชวนอึ้ง! แนะนำให้อ่านด้วยประการทั้งปวงครับ 3. ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน 2 การเขียนอีเมลล์โต้ตอบกันระหว่างสองซีไรต์ วินทร์ เลียววารินทร์และปราบดา หยุ่น หนังสือเล่มนี้ช่วยทำให้ต่อมความคิดทำงานมากขึ้นทันตาเห็นครับ 4. ชุดนี้เป็นชุดเก็บตกประมาณว่าอ่านสนุก อ่านแล้วชอบแต่ถ้าพลาดก็ไม่เสียหายอะไรครับ - The Time Traveller's Wife ของ Audrey Niffenegger ละเมียดและละมุนอารมณ์ หวานซึ้งและตรึงใจ (คุณไอซ์ครับ เรื่องนี้เอเชียบุ๊คส์มีขายนะ) - ตายเพราะความสวย-ศพในสปา-จนกว่าความตายจะพรากเราจากกัน ของเคท ไวท์ แปลโดยลำเนา งานชุดนี้โดดเด่นตรงตัวละครเบลี่ย์ เวกกิ้นส์ครับ เป็นนักสืบจำเป็นที่ทำให้เรื่องที่ตัวเองเข้าไปพัวพันสนุกได้ทุกที แม้จะเดาเรื่องง่าย โครงเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ตัวละครน่าสนใจก็ไปโลดครับ - งานชุดแมวสามสียอดนักสืบ และงานอื่นๆ ของอาคากาวะ จิโร อารมณ์ขันกับเรื่องสืบสวน เข้ากันได้เหมาะเหม็ง โดยเฉพาะเล่มล่าสุด คดีพาหนีของแมวสามสีนี่ เป็นตอนที่ผมว่าสนุกที่สุดเลย! เอาล่ะครับ ฝอยมาแยะแล้ว ไปทำงานก่อนดีกว่า งานกองเต็มหัวเลย จากคุณ : Filippo - [ 8 ธ.ค. 47 09:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะทุกคน เข้ามาอ่านบ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้คุยอะไรในห้องนี้หรอกค่ะ แบบว่าหัวข้อนี้ตรงใจจนไม่อาจผ่านเลย ...ก็เคยเป็นค่ะ อาการประหลาด ๆ แบบนี้ ได้แต่อ่านการ์ตูนอย่างเดียวเหมือนกันค่ะ อ่านจนเศร้าไปเลยเหมือนกัน หลัง ๆ ก็พอแก้ได้นะคะ คิดว่าแก้ได้ คือหยิบหนังสือเล่มเก่ามาก ๆ ที่ตัวเองประทับใจไม่เลิก อ่านซ้ำไปซ้ำมาก็หลายรอบแล้วอะไรอย่างนั้นน่ะค่ะ ก็หยิบมาอ่านซ้ำอีก ส่วนตัวก็มีเชอร์ล็อค โฮล์มส์ กับ งานของ อกาธา คริสตี้ น่ะค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มจากโฮล์มส์ก่อน แล้วก็ไปอกาธา ถ้าอ่านซ้ำจนหมดบ้านแล้ว (เมื่อก่อนมีน้อยค่ะ) ก็จะอ่านเรื่อง "เพลงขลุ่ยในฝัน" ของ เฮอร์มานน์ เฮสเส ถ้าอ่านจบแล้วยังไม่หายอีก ก็จะอ่านงานของ โนดาร์ ดุมบัดเซ่ (มีใครรู้จักบ้างคะ) งานของเขาจะเป็นแบบอบอุ่นน่ะค่ะ ุถ้าอ่านงานของดุมบัดเซ่จบแล้วยังไม่หาย ก็จะอ่านงานชุด "น้องเล็ก" ของจูดี้ บลูม แล้วก็ต่อด้วย "ต้นส้มแสนรัก" ปกติก็จะหายนะคะ คือ ส่วนใหญ่เป็นงานเขียนแนวอบอุ่น เป็นวรรณกรรมเด็ก ดูแล้วใกล้เคียงการ์ตูนมาก อ่านแล้วสบายใจ พอสบายใจปุ๊บ อาการอยากหนังสืออื่นก็กลับมาปั๊บ ดิฉันเคยเป็นหนัก ๆ เป็นเดือนเหมือนกัน ตอนนั้นทำงานหนักมาก จนไม่อยากอ่านอะไรทั้งนั้น นอกจากการ์ตูน เกือบลาออกจากงานแน่ะค่ะ เพราะรู้สึกอาชีพเป็นอุปสรรคต่อการอ่านหนังสือ แบบว่าเครียดเอ๋อไปเลย ดังนั้นน้องไอซ์ไม่ต้องเศร้าไป พยายามอ่านงานอุ่น ๆ ชโลมหัวใจเอาไว้ พอหัวใจอบอุ่นพอ ทุกอย่างก็จะดีขึ้นค่ะ จากคุณ : Mrs. Holmes - [ 8 ธ.ค. 47 09:26:47 A:61.90.108.193 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บลูว่าช่วงนี้ต้องมีคนปล่อยของใส่พวกเราแหงๆ ค่ะ เพราะหันไปคุยกะใครทางไหนส่วนมากก็กำลังเกิด อาการ RD (เอาด้วย) แทบทั้งนั้น ซึ่งสำหรับบลูเนี่ย เกิดมาสักระยะนึงแล้วค่ะ หลังจากงานหนังสือโน่นแหละ ไม่ได้เป็นเพราะว่าหนังสือเค้าน่าเบื่อไม่สนุกหรืออะไรหรอกนะคะ แต่มันเกิดจากการที่กองดองเพิ่มพูนมากเป็นพิเศษ แล้วก็เลย ลนลานไม่รู้จะอ่านอันไหนให้มันจบเร็วๆ ดี เปลี่ยนไปเปลี่ยน มาอยู่นั่นแหละ สรุปเลยไม่จบซักกะเรื่อง เลยต้องดองมัน ต่อไปทั้งหมด เวรกรรม!! แต่ถ้าเกิดอาการรู้สึกเบื่อไม่อยากอ่านหนังสือขึ้นมาจริงๆ บลูมีวิธีแก้อยู่สองสามวิธีค่ะ วิธีแรก ไปดูหนัง ดูเรื่องโน้นเรื่องนี้ ยิ่งเรื่องที่ทำมาจากหนังสือเนี่ยดูเข้าไปค่ะ มันจะอยากอ่านหนังสือขึ้นมาทันทีเลยเชียว วิธีต่อมา ให้ลองคิดว่ามีงานที่ต้องทำค่ะ มีเต็มไปหมดเลย ต้องเป็นงานที่น่าเบื่อด้วยนะ มันจะอยากอ่านหนังสืออีกแล้วค่ะ อยากอ่านมากกว่าทำงานง่ะ (ฮ่ะๆๆ) สุดท้าย ขอนำเสนอวิธีที่ชะงัดมากสำหรับบลูเลยค่ะ นั่นก็คือ เข้ามาอ่านกระทู้ในห้องสมุด โอ้ว! เข้ามาทีเดียว อยากอ่าน เล่มนู้นเล่มนี้เต็มไปหมดค่ะ แต่วิธีนี้จะเปลืองนิดนึงค่ะตรงที่ มันจะอยากอ่านเล่มที่เราไม่มีไปด้วย ทำให้ช้อปกระจายอีก ^^' ถือว่าวิธีนี้เป็นดาบสองคมสำหรับบลูเลยค่ะ แหะๆ แต่ก็ขยันใช้ วิธีนี้ประจำ สวัสดีตอนสายพี่น้องผองเพื่อนทุกคนด้วยค่ะ จากคุณ : PinkyPiE - [ 8 ธ.ค. 47 09:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อิอิ ปกติตาลจะเกิด RD (ยืมบ้าง)เฉพาะเวลาอ่านเล่ม E น่ะค่ะ วิธีการแก้ปัญหาก็คือ -- เปลี่ยนไปอ่านเล่มภาษาไทย -- สลับไปนั่งดูดีวีดีแทน -- เอาหนังสือเด็กสนุกๆมาอ่าน ตอบไอซ์อีกข้อ ตอนนี้อ่าน Time Traveler's wife จ้า อ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้ว สนุกดีจังเลย ต้องขอบคุณพี่พัทที่ให้ยืมหนังสือค่ะ เล่มใหญ่มากเลย ตัวหนังสืออ่านง่ายดี เมื่อวานไปดูหนังรอบสื่อมวลชน โชคดีน้องไม่มีแฟนตั๋วอีกใบเลยเสร็จพี่สาวตลอด อิอิ เรื่องที่ดูก็คือ Vanity Fair (จากหนังสือของ William Makepeace Thackeray) เป็นเรื่องของหญิงสาวที่ชื่อว่า Becky Sharp(แสดงโดย Reese Witherspoon) เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะไต่เต้าเข้าสู่สังคมของผู้ดีอังกฤษด้วยการหาสามีดีๆ เข้าหาคนใหญ่คนโตด้วยการใช้ไหวพริบและสติปัญญาอันชาญฉลาดของเธอ เธอเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ชีวิตของเธอต้องผ่านพบกับอะไรบ้าง ติดตามดูได้ที่โรงหนังนะคะ หนังสนุกดีเหมือนกันค่ะ ครึ่งแรกตลกดี มีถ้อยคำเสียดสีเจ็บๆคันๆมันส์ดี ครึ่งหลังจะเป็นอีกอารมณ์นึง ก็ใช้ได้ค่ะ เสียดายหนังดูรวบรัดตัดตอนมากเกินไปหน่อยในครึ่งหลัง ทำให้อารมณ์มันดูขาดๆไม่ค่อย smooth เท่าไร จากคุณ : Angel Eyes - [ 8 ธ.ค. 47 09:39:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างที่คุณติ่มบอก ต้องทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การอ่าน เดี๋ยวพอคิดถึงการอ่านก็กลับมาเอง อีกอย่างเห็นด้วยกับคุณ Filippo ว่าต้องอ่านสลับแนวค่ะ เวลาเราค้นพบ Shelf ใหม่ๆให้ค้นหาหนังสือจะสนุกมาก อ่านหนังสือหวานมากๆ ก็เอาประเภทขม เครียด ๆ มาแก้เลี่ยน อ่านซีเรียสมากไป ก็เอาประเภทฮาๆ มาอ่าน หรืออ่านนวนิยายมากไป ก็เอาประเภทความเรียง สารคดีมาถ่วง เข้าใจว่านักอ่านในทู้นี้ใช้วิธีนี้อยู่เหมือนกัน คนอื่นๆ ว่าไงคะ จากคุณ : grappa - [ 8 ธ.ค. 47 09:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โหม่งกับเพียบเลย ขอต่ออีกนิดละกัน แหม... เห็นด้วยกับบลูเลย เวลาหยิบหนังที่ทำจากหนังสือมาดูเนี่ย จะเป็นแรงใจที่ดีให้เรารีบไปค้นหาหนังสือดีๆมาอ่านต่อ ตกลงพวกเราจะนัดวันไปเที่ยวเมืองโบราณกันใช่ปะ เห็นหลายๆคนสนใจเนอะ เอาวันไหนดีเอ่ย สิ้นปีว่างกันหรือเปล่าคะ ถือว่าไปฉลองปีใหม่กันดีมั้ย ไปละ ทำงานต่อดีกว่า ไว้ค่อยคุยต่อ จากคุณ : Angel Eyes - [ 8 ธ.ค. 47 09:45:45 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กำลังเป็นอยู่เหมือนกันค่ะ จากคุณ : นน (nn_naw) - [ 8 ธ.ค. 47 10:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อกี๊นี้ลืมค่ะ พอดีที่กระทู้โน้น คุณนารูมิพูดถึงภาพยนตร์เรื่อง Charlie and The Chocolate Factory ขึ้นมา อิอิ ได้ข่าวว่าได้ฤกษ์ฉาย July 15th 2005 แต่ที่ไทยนี่จะเมื่อไหร่กันน้อ? เรื่องนี้บลูอยากดูมากๆ เพราะ ลุงดาห์ล เป็นขวัญใจบลูเช่นกัน อิอิ แถมเรื่องชาลีเนี่ย เป็นเรื่องแรกที่บลูอ่านเป็นภาค E อีกประทับใจสุดๆ สมัยที่อ่านตอนโน้นจำได้ว่าอยากแอบเข้าไปในโรงงานมั่งเลยเชียว เอาจอห์นนี่ เดปป์มาเล่นเป็นวิลลี่วองก้า นี่ก็รู้สึกดี บลูว่าจอห์นนี่ เดปป์เนี่ย เค้าเล่นเป็นตัวอะไรประหลาดๆ ลึกลับๆ แล้วรู้สึกว่าเหมาะกะเค้าดีเนอะ พูดถึง ทิม เบอร์ตัน แล้วนึกได้ถึงหนังสือเรื่องนึง คือ The Oyster Boy (เด็กชายหอยนางรม) ชื่อนี้เปล่าหว่าไม่แน่ใจ ใครเคยอ่านบ้างคะ บลูชอบเรื่องนี้ม้ากกมากเหมือนกัน ฉบับ E เล่มบางๆ แต่แพ๊งงง แพง(บ่นๆ) แหะ แหะ แหะ แปะ รูปโปสเตอร์เรื่องชาลีฯ ให้ดูกันก่อนดีกว่า ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : PinkyPiE - [ 8 ธ.ค. 47 10:07:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ้าวเวรกรรม! เค้าไม่ให้ใหญ่กว่า 64K ถึงจะแสดงรูป ดันอ่านผิดเดี๋ยวเอาใหม่ๆ จากคุณ : PinkyPiE - [ 8 ธ.ค. 47 10:11:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณบลู... ดิฉันอยากดูมาก ๆ เหมือนกัน เรื่องนี้มีความทรงจำดี ๆ มากเลยค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นไม่มีเงินเลย ไม่ได้ซื้อหนังสือใหม่สักเล่ม แต่อยากอ่านวรรณกรรมเด็ก เรื่องใหม่ ๆ มากเลยค่ะ ก็เลยไปที่ร้านหนังสือข้างหอ แล้วก็เจอชาร์ลี ก็ยืนอ่านฟรีวันละนิด ๆ อยู่หลายวัน จนกระทั่งใกล้จบเล่ม จากนั้นชีวิตก็ยุ่ง ๆ เวลาไปร้านหนังสือทีไร ก็อยากอ่านต่อให้จบ เพราะเหลืออยู่นิดเดียว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ (ขนาดนั้นเลย...:)) ก็หลายปีแล้วนะคะ นับเป็นเล่มที่อ่านนานที่สุด เพราะทุกวันนี้ก็ยังอ่านไม่จบ และยังไม่ได้ซื้อ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เพราะปกติถ้าอ่านหนังสือไม่จบ จะกลุ้มใจมาก เข้าใจใช่ไหมคะตรงนี้ จนกระทั่งวันก่อน... เข้าไปในอีบุ๊ค เห็นคุณบลูโพสต์ไว้ ความรู้สึกวินาทีนั้นมันโศกซึ้งพิลึกเลยค่ะ เหมือนคำตอบปริศนามาอยู่ในมือ ...รอให้เราเปิดดูก็เท่านั้น ขอบคุณนะคะคุณบลู จากคุณ : Mrs. Holmes - [ 8 ธ.ค. 47 10:27:47 A:61.90.108.193 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ดีค่ะ วันนี้ได้อ่าน boy meet girl หนุกดี เดี๋ยวพุ่งนี้ค่อยไปอ่านต่อ(พอดีไปห้องสมุดแล้วเจอ ลืมหยิบบัตรไป ฮ่าๆๆๆๆ ว่าจะไปอ่านหนังสือเรียน ปรากฏ กระเป๋ายังไม่ได้เปิดเลย ฮ่าๆๆๆๆ) จากคุณ : นางสาว ภูมิใจ - [ 8 ธ.ค. 47 12:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แหม! อาการโรค RD เนี่ย ชื่อเก๋จังนะคะ แต่ทำไมไหงไม่ใช่ RB syndrom ล่ะคะ 555 วิธีแก้ใช้เหมือนที่หลายๆ คนแนะนำค่ะ หันมาหาเล่มบางๆ ประเภทหนังสือเด็กเนี่ย เครื่องติด วิ่งฉิวค่ะ ไม่ก็หันไปหานิตยสาร ดูหนัง ฟังเพลง เมาท์โทรศัพท์ ฯลฯ อีกวิธีที่ได้ผลคือ ไปเที่ยวร้านหนังสือค่ะ ไปเปิดหูเปิดตา เห็นหนังสือออกใหม่เยอะๆ ความอยากก็จะพุ่งกระฉูดตาม จะรีบกลับมาอ่าน จะได้ไปซื้อเล่มใหม่ๆ แต่วิธีป้องกันโรค RD อันนี้นารูมิขอเสนอค่ะ ให้เลิกซื้อหนังสือ และไปพึ่งบริการห้องสมุด กับร้านเช่า (โดยเฉพาะร้านเช่าเนี่ยได้ผล) ความงกจะผลักดันให้คุณอ่านหนังสือจนจบเองค่ะ (จริงๆ นะ) ตอบคำถามต่อไปค่ะ ตอนนี้กำลังอ่าน Remember Me ของ Trezza Azzopardi อยู่ค่ะ ไว้จะมารีวิวให้อ่านนะคะ คุณบลู กรี๊ดดด ชอบทั้งทิม เบอร์ตัน ทั้งจอห์นนี่ เดปป์ (ลุงดาห์ลด้วยเอ้า ) เหมือนกันเลย รอดูอยู่เหมือนกันค่ะ คุณ Holmes คะ เจอ RD แล้วเกือบจะลาออกจากงานเหรอคะ อยากคุยกับคนที่ตัดสินใจลาออกจากงานเพราะพบว่าอ่านหนังสือไม่สนุกมั้ยคะ (คนนี้แหละค่ะ) จำได้ว่าตื่นมาพบว่า เมื่อคืนหลับไปทั้งๆ ที่อ่านการ์ตูนไม่จบเนี่ย ช็อคมาก หันไปเจอหนังสือกองเบ้อเริ่มที่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะเอาออกจากถุง...ช็อคเป็นสองเท่า ตอนนี้ให้รางวัลชีวิตกับตัวเองซักปีสองปีค่ะ 5555 พี่ๆ น้องๆ คะ มีงานที่ไหนเขารับสมัครนักอ่านมืออาชีพบ้างมั้ยคะ (ได้ยินเสียงนับติ๊กต๊อกไล่หลังมาทุกวันๆ) ป.ล. จิ้มอมยิ้มน้องภูมิใจดูแล้ว โอ้ เด็กมั่กๆ อิจฉาความสาว จากคุณ : นารูมิ - [ 8 ธ.ค. 47 12:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 โอ้วว์ กระทู้วิ่งฉิวอย่างไม่น่าเชื่อ... เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลครับ ตอนแรกก็ว่าจะทำงานแหละแต่แล้วก็เปลี่ยนใจออกไปหาหมอให้ตรวจอาการ RD (ฮ่าๆๆๆ) เปล่าครับ ล้อเล่น บังเอิญวันก่อนทะลึ่งตกบันไดน่ะครับ ผลก็คืออาการฟกช้ำและเจ็บที่แขนและข้อมือ แฟนผมบอกให้ไปหาหมอนานแล้ว แต่เพิ่งได้ฤกษ์ไปหลังจากมีอาการมาอาทิตย์นึง...ฮ่าๆๆๆ แวะมาทักทายอีกรอบครับ คราวนี้ไปทำงานจริงๆ แล้วล่ะ! จากคุณ : Filippo - [ 8 ธ.ค. 47 12:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ใช่ ๆ เลยคุณนารุมิ เคยช็อคเหมือนกัน แบบว่าแค่การ์ตูนน่ะ อ่านไม่จบได้ไง... ตอนนั้นก็พยายามลาออกค่ะ แต่สงสารเจ้านายมากกว่าตัวเอง แบบว่าคนลาออกหมดแล้วน่ะค่ะ ขอบคุณโลก...ตอนนี้ดิฉันพ้นภาวะแบบนั้นแล้ว แม้จะช่วงสั้น ๆ ก็เหอะ ...ก็ไม่มีใครรับสมัครคนอ่านหนังสือนี่คะ ถ้ามีคนรับจริง ๆ ก็คงเกรงใจเนอะ... จากคุณ : Mrs. Holmes - [ 8 ธ.ค. 47 13:42:02 A:61.90.108.49 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาวี้ดกรี๊ด กะหนังเรื่องนี้อีกทีค่ะ ชอบหมดเลยค่ะ ทิม เบอร์ตัน ลุงดาห์ล จอห์นนี่ เดปป์ (สำนักพิมพ์ผีเสื้อด้วย อิอิ) จะไม่ได้ดูได้ไงเนอะเรื่องเนี้ย แหม คุณ Mrs. Holmes ซะบลูลอยเลยค่ะ ที่เอา ebook เรื่องนี้ ไปใส่ไว้ในเมลล์นั่น แต่ดีใจจังมีคนชอบมากๆ เหมือนเราด้วย เย้ๆ ที่ๆ เค้ารับสมัครคนอ่านนี่น่าจะมีนะคะคุณนารูมิ แต่ว่า คงไม่ได้ให้อ่าน อย่างเดียว ต้องรีวิวออกมาได้ด้วย แต่แหม! คุณนารูมิ ก็เคยมีคนมาจ้าง ให้อ่านแล้วไม่ใช่เหรอคะ? แค่ต้องแปลด้วยเท่านั้นเองนี่นา อิอิ เก่งจังอะ อยากทำได้มั่ง ^^ แอบจิ้มอมยิ้มน้องนางสาวภูมิใจตามคุณนารูมิด้วยค่ะ กรี๊ดๆ ด้วยความ อิจฉาในความละอ่อนด้วยอีกคน รู้สึกวันนี้มา(อู้)หลายรอบมากเลยแฮะ จากคุณ : PinkyPiE - [ 8 ธ.ค. 47 15:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อสักเดือนสองเดือนที่แล้วก็เพิ่งกำเริบเลยค่ะ ยืมหนังสือในห้องสมุดมาแล้วอ่านไม่จบตั้งหลายเล่ม วิธีแก้ก็คือหันไปตลุยการ์ตูนแทนค่ะ ช่วงนั้นอ่านการ์ตูนต่างข้าวเลย ตอนนี้เลยเป็น CB (Cartoon's Block แทน) ขนาดการ์ตูนที่ตามอยู่ออกมา ยังขี้เกียจอ่านเลย เฮ้อ เดี๋ยวไปดู Gantz เล่ม 9 ที่ร้าน SIC แถวบ้านให้นะคะ แล้วจะรีบมารายงานผล ท้าวความเรื่องการ์ตูนหมอเล็กน้อย ตอนนี้ชอบหัตถ์เทวดาเทรุมากเลยค่ะ ออกมา 7 เล่มแล้ว เห็นความเห็นคุณ Filippo แล้วก็นึกได้ว่า ลืมใส่ Thursday Next เข้าไปใน Best Read แฮะ เมื่อไหร่ Something Rotten จะออกปกอ่อนน้า คำถามสุดท้าย ตอนนี้อ่าน Wheel of Time ตอน New Spring อยู่ค่ะ เป็นprequel ของชุดใหญ่สิบเอ็ดเล่มนั่น ตอนเห็นในรายชื่อที่อาจารย์ให้ก็บ่นแทบแย่ เพราะไม่ค่อยถูกโรคกับแฟนตาซีแบบ epic เท่าไหร่ แต่อ่านไปอ่านมาชักสนุกแฮะ จากคุณ : ทินา - [ 8 ธ.ค. 47 16:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาขอลอกคำตอบคุณติ่มซำค่ะ (นิสัยนี้ติดมานานตั้งแต่เรียน ไม่เคยหายค่ะ) คือ เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น และ อ่านในช่วงที่สมองแจ่มใส แต่ไม่ลอกข้อ 3 เรื่องที่สะสมหนังสือหลายๆแนวไว้เลือกอ่านนะคะ เพราะยังอ่านซ้ำซากแนวเดิม คือบันเทิงเริงรมย์นะคะ อย่างอื่นอ่านแล้วไม่ไปเลยค่ะ แต่จะเข้ามาขอบคุณเพื่อนๆในห้องค่ะ ที่แนะนำ the traveler's wife ให้ อ่านสนุกค่ะ ชอบค่ะ เพลิน แต่มีบางช่วงที่มึนงงกับเวลาเหมือนกัน จากคุณ : AM - [ 8 ธ.ค. 47 18:10:36 A:203.144.241.41 X: TicketID:043628 ]

ความคิดเห็นที่ 26 มาสวัสดีคุณนายโฮล์มค่ะ มีคำถามส่วนตั๊วส่วนตัวจะถาม คิอ...ลุงของป้าเขาบอกว่าคุณโฮล์มเขามีความสัมพันธ์เกินเพื่อนกับคุณหมอวัตสัน นี่จริงเรอะเปล่าคะ (ถามไปแล้วจะโดนแฟนๆ คุณโฮล์มรุมถล่มมั้ยเนี่ย...-_-") ป้าไม่ค่อยบล็อคค่ะคุณไอซ์ อ่านหนังสือทีละสี่เล่ม เล่มไหนสนุกสุดก็ได้แซงหน้าเพื่อนๆ อ่านต่อจนจบก่อนเล่มอื่น ถ้าอ่านไปแล้วไม่สนุกถือว่าเป็นความผิดของผู้เขียนสถานเดียว ฮ่าๆๆๆ...ผู้บริโภคถูกเสมอค่ะ ตอนนี้สี่เรื่องที่อ่านอยู่คือ I'll go to bed at noon สนุกทีเดียวค่ะ แต่บางฉากเขละเหลือเกินเพราะคนเมาในเรื่องเมาเละเทะมาก busy body หนังสือนักสืบรุ่นเก่า เก๊าเก่า ตลกมากๆ เอาไว้อ่านก่อนนอนค่ะ จะได้ฝันดี The end of our teethers รวมเรื่องสั้นของ Alasdair Gray สำหรับอ่านในห้องน้ำค่ะ อ่านวัฒนธรรมการเมืองไทย ของ อ.นิธิ อ่านในห้องน้ำเหมือนกัน คุณโป้ ป้าเตรียม House of Sand and Fog ไปติดเกาะปลายปีนี้แล้ว (แซง atonement ของคุณเพติ๊ดไปด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ของเพื่อนร่วมทาง) จากคุณ : ป้า - [ 8 ธ.ค. 47 20:58:02 A:210.203.177.197 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แง..คุณติ่ม เราเคยขนาดอ่านการ์ตูนไม่ได้จริงๆด้วยนะ แบบตอนนั้นอยากเที่ยวอย่างเดียวไม่อยากทำรัยเลย แต่ไม่มีเพื่อน T-T อา..คุณ PinkyPie เราชอบเด็กชายหอยนางรมมากๆเลยค่ะ (ฉ.ไทยนะ) ชอบทั้งเรื่องและภาพเลย น่ารักที่ซู้ดด ..เรื่องนี้ทำให้ตั้งตัวเป็นแฟนทิม เบอร์ตันเลยล่ะ(ทั้งๆที่ยังไม่เคยดูหนังเค้าซักเรื่อง^^) พักนี้มีคนเอาวรรณกรรมเยาวชนไปทำหนังเยอะจังเลยเนอะ ตั้งแต่ชาร์ลี, อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย,the neverending story,หลุม ...(?) เห็นด้วยว่าทู้ห้องนี้ทำให้อยากอ่าน และ เปลืองเงินมากกกขึ้นมาก ^^ จากคุณ : ลูกหนอน. - [ 8 ธ.ค. 47 23:27:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอนอกเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้นะคะ คุณโป้คะ รีวิวเรื่อง house of sand and fog ให้หน่อยได้เปล่าคะ อยากได้รีวิวเรื่อง boy next door ด้วยค่ะ มีใครจำได้ว่ารีวิวเรื่องนี้อยู่ในกระทู้ไหนมั้ยเอ่ย ไม่รู้จะตามหายังไงน่ะค่ะ ถึงป้า ชอบเรื่อง the catcher in the rye เหมือนกันค่ะ ชอบภาษาด้วย ไม่อธิบายเยิ่นเย้อ สั้น ๆ เข้าใจ รู้สึกดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ ชอบมาก เป็น 1 ในหนังสือในดวงใจเลยจริง ๆ แล้วป้าที่ชอบดำน้ำรึเปล่าคะ ถามอีกนิดนะคะ อยากไปสอบ toefl ค่ะ เห็นเพื่อนบอกหนังสือของ kaplan ดี ลองไปดูเห็นมี 2 แบบ คือ paper and pencil กับ computer-based toefl ควรเลือกเล่มไหนดีอ่ะคะ อยากให้ผู้รู้แนะนำหน่อยน่ะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ จากคุณ : Killevippen (Killevippen) - [ 9 ธ.ค. 47 00:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 *quote* มีอาการ RD กับนิยายเรื่องนี้เหมือนกันเพราะไม่ปลื้มตัวเอกเท่าไร แต่อ่านๆ ไปถึงกลางเรื่องชักเริ่มมัน...เมื่อคืนอ่านถึงตี 2 อ่ะครับ... ---->>> อ๋อ แบบว่าอ่าน ๆ ไปแล้วเริ่ม coming out รึเปล่าคะ คุณโป้? เอิ้กส์ๆๆๆ เมืองบาปยังกองอยู่เลยค่ะ เดือนนี้คงไม่ได้อ่านอะไรเป็นเรื่องเป็นราวแน่ มีแต่ตารางงานแล้วก็นัดเที่ยว ถามคุณนายโฮล์มส์ (ผู้อาจก่อคดีพิษรักแรงหึงกับดร. วัตสัน) หน่อยค่ะ โนดาร์ ดุมบัดเซ่ที่พูดถึงนี่มีผลงานแปลไทยรึเปล่าคะ? เผื่อติ่มเคยอ่านแล้วจะได้นึกออกว่าคนไหน นักเขียนแนวอบอุ่นนี่หายากอ่ะ ใครแนะนำต้องรีบจำแล้วไปหามาลองอ่านบ้าง หุหุ น้องบลูอาการตรงข้ามกับพี่ ถ้าพี่เข้ากระทู้บ่อย พี่กลับอ่านไม่ค่อยได้แฮะ มัวแต่เม้าท์ ลืมอ่านไปเลย ความจริงกระทู้นี้ไม่ดีนะคะ ใครเผลออ่านจะ overinformed กลายเป็นพวกไล่ซื้อเล่มที่เค้าบอกว่าดี หมดตัวเอาง่าย ๆ แต่มีข้อดีคืออยากอ่านเล่มไหน ก็วานคนอื่นอ่านได้ อิอิ (คุณป้าขา รอรีวิว I'll go to bed at noon ค่ะ ติ่มเป็นคนดีไม่กินเหล้าเมายาค่ะ เล่มนี้คงไม่อ่านแน่) เอ๊ะ เห็นคนกรี๊ดกันเยอะจัง น้องภูมิใจอายุเท่าไหร่หว่า? เดี๋ยวไปจิ้มบ้างดีกว่า อยากรู้ตะหงิด ๆ โหยยย เริ่มอยากอ่าน Gantz, คุณหมอกะโปโล แล้วก็หัตถ์เทวดาแล้วสิ มีคนแนะนำแบบนี้ต้องลอง ไม่รู้ร้านมือสองจะมีไหม คุณทินาเรียนอะไรอยู่หรือคะ? เห็นให้อ่าน DiscWorld ซีรี่ส์นี้ติ่มบายอ่ะ เยอะเกินบรรยาย ไม่รู้จะอ่านจบได้ยังไง คุณลูกหนอน อาการไม่อยากอ่านแต่อยากเที่ยวนี่น่าจะเป็น Broken-Heart หรือ Anti-Read Syndrome ค่ะ ส่วนกรณีคุณโป้ก็ Tortoise Syndrome ..โรคนี้ติ่มก็เป็นบางครั้ง ก๊ากกก ไว้ค่อยมาวินิจฉัยกันทีหลังว่ารักษากันยังไง (เช่น เรียกคนทรงมาไล่วิญญาณเต่าออกจากร่าง ตามช่างมาประสานใจที่แตก หรือเพาะหนอนพันธุ์หนังสือ) ชักง่วงแล้วแฮะ เดี๋ยวจะเอาตัวอย่างการแปลมาให้ดูค่ะ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 9 ธ.ค. 47 01:18:24 A:202.183.171.148 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ติ่มเพิ่งไปเปิดอ่านเจอวันนี้ กำลังคิดว่าอยากลองอ่านเรื่องมีสาระสักหน่อย แต่เจอสำนวนแปลนี้เข้า ประทับใจจนต้องลอกมาให้ดูกันค่ะ (เครื่องหมายทุกอย่างเหมือนในหนังสือเลยนะคะ) มันคือเดียร์บอร์น, ไม่ใช่ดีทรอยต์ที่อยู่ใกล้ ๆ, ที่เป็นจุดตั้งต้นของเฮนรี่ ฟอร์ด, ผู้ซึ่งอาคารและสถานที่สำคัญท้องถิ่นหลายแห่งยังคงจารึกชื่ออยู่. นี่เป็นการทดลองเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ของวารสารศาสตร์, หรือบางทีอาจจะเป็นความมีประโยชน์ของมัน, และก็ได้ถูกเสนอ ณ ที่นี่พร้อมด้วยความถ่อมตนและความเย่อหยิ่งที่ขาดมิได้. เมื่อการถกเถียงระหว่างประเทศเกี่ยวกับ "การเปลี่ยนระบอบอำนาจ" ในอิรักเริ่มสุกงอม, เมื่อมันเริ่มที่จะดูเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้อุทิศตัวให้กับนโยบายนี้อย่างจริงจังในที่สุด, ผมได้เริ่มเขียนปฏิวาทชุดหนึ่งให้กับนิตยสาร State. ... จากคุณ : ติ่ม - [ 9 ธ.ค. 47 01:22:44 A:202.183.171.148 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หนังสือเล่มนี้ดีตรงที่ผู้แปลทำเชิงอรรถบรรยายเหตุการณ์ไว้ค่อนข้างหลายแห่งค่ะ เหมาะกับพวกไม่สนความรู้รอบตัวอย่างติ่ม เช่น วันที่ ซึ่งปกติไม่ทำเชิงอรรถก็ได้ แต่เขาก็ทำไว้บอกว่าเป็นวันที่ปธน.อเมริกาเพิ่งประกาศทำอะไรไป แบบนี้ช่วยให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น จากคุณ : ... ถ้าเข้าใจเนื้อเรื่องได้นะ - [ 9 ธ.ค. 47 01:27:34 A:202.183.171.148 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ดีค่ะ พี่นารูมิ พราวก็ลองกดของพี่ดูนะ แต่ไม่เขียนบอกไว้อ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ เห็นพี่ๆๆ พูดถึงการ์ตูนกันอยากอ่านบ้างจัง แต่ก่อนเราเช่าทุกวัน วันละ3-4 เล่ม เทอมนั้นเกรดตกอย่างน่าใจหาย ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้เลิกหมดแล้วอ่ะการ์ตูนเนื่องจากกลับมาเรียนทีการ์ตูนถูกอุ้มไปขายที เซ็งเลย โชคยังดี นิยายไม่ถูกอุ้มด้วย ปล เรื่องอายุ นั้นเป็นเพียงตัวเลข อิอิอิ จากคุณ : นางสาว ภูมิใจ - [ 9 ธ.ค. 47 04:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ Killevippen คะ รีวิวของอาจารย์โป้ค่ะ พอดีเล็งไว้ว่าจะอ่านเหมือนกันค่ะ แม้ว่าถึงป่านนี้จะยังไม่ได้อ่านก็เถอะค่ะ House of Sand and Fog นิยายเรื่องนี้ผมแอบตั้งชื่อเป็นไทยว่า "วิมานทรายหมอก" ซึ่งเรื่องราวจะเกี่ยวพันกับตัวละครกลุ่มหนึ่งซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือครอบครัวชาวอิหร่านอพยพที่มีเบรานี่เป็นผู้นำครอบครัว และยังประกอบไปด้วยนาีดี ภรรยาของเบรานี่และเอสเมล ลูกชายวัย 14 ของพวกเขา เบรานี่เคยเป็นนายพลที่มีทั้งยศและศัึกดิ์ในอิหร่าน ทว่าต่อมาเมื่อเกิดเหตุการณ์จราจลไล่ฆ่าพวกศักดินาในประเทศ เขาก็พาครอบครัวหนีออกมาที่อเมริกาด้วยความหวังว่ามันจะเป็นโลกใบใหม่ให้เขาและครอบครัว ทว่า ในอเมริกา เบรานี่ไม่รู้จักใคร ไม่มีใครรู้จักเขา เขาก็เลยต้องทำงานทุกอย่างเพื่อทำให้่ครอบครัวของเขาซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นพวกจมไม่ลงให้ดำเนินอยู่ได้ต่อไป...เบรานี่ทำงานเก็บขยะในตอนเช้าและเป็นพนักงานในร้านสะดวกซื้อในตอนกลางคืน พร้่อมๆ กับหลอกตัวเองและคนอื่นๆ ว่าเขาจะต้องมีโอกาสกลับไปเป็นคนที่มีคนนับหน้าถือตาแน่ในอีกไม่นาน อีกฝ่ายหนึ่งคือเคธี่ นิโคโล่ ลาซาโร่ อดีตขี้ยาสาวที่เพิ่งจะถูกสามีทิ้งไปเสียเฉยๆ และเลสเตอร์ เบอร์เด็น นายตำรวจที่ไม่เคยพอใจในชีวิตของตัวเองจนกระทั่งได้มาพบกับเธอ เรื่องของทั้งสองฝ่ายมาประสานงากันเมื่อจู่ๆ วันหนึ่งเจ้าหน้าที่สรรพากรก็เอาหมายมายึดบ้านของเคธี่ บ้านที่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของพ่อที่มอบให้เธอและน้องชาย(ที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จกว่าเธออย่างเห็นได้ชัด) โดยสรรพากรอ้างว่าเธอไม่ได้จ่ายภาษีมานานมากแล้วและพวกเขาจำเป็นต้องยึดบ้านเธอแทนการเก็บภาษีย้อนหลัง ทว่าเจ้าหน้าที่สรรพากรเพิ่งจะตรวจพบที่หลังว่าพวกเขาทำงานผิดพลาดและเรียกยึดบ้านผิดหลัง ยึดทรัีพย์จากเจ้าทรัพย์ผิดตัว แต่ทุกอย่างกลับสายไปแล้วเพราะเบรานี่ซึ่งอ่านประกาศประมูลขายบ้านได้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เพื่อที่จะนำไปขายต่อ(เขาตั้งใจจะเอาดีเป็นนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์) สงครามเย็นระหว่างคนสองคนสองขั้วจึงเกิดขึ้นและค่อยๆ ทวีความรุนแรงดึงเอาคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นภรรยาและลูกชายของเบรานี่ หรือเลสเตอร์ ตำรวจที่มาติดพันเคธี่ถึงกับทิ้งครอบครัวมาช่วยเหลือเธอ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ทำให้เราทั้งอึ้ง ทั้งเศร้าและสะเทือนใจไปในเวลาเดียวกัน จุดเด่นของนิยายเรื่องนี้อยู่ที่การเล่าเรื่องของ Dubus III ครับ เขาฉลาดมากที่เลือกเล่าเรื่องโดยใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 เล่าแทนตัวละครทั้งสองตัว(แต่จะสลับกันเล่าเป็นช่วงๆ) ดังนั้นคนอ่านจึงได้รับรู้รายละเอียดความคิดและจิตวิญญาณของตัวละครอย่างถึงแก่น ทำให้เราเลือกข้างได้ด้วยว่าเราเอาใจช่วยฝ่ายไหน ในขณะเดียวกัน Dubus III ก็ฉลาดมากขึ้นเมื่อเขาเลือกเล่าเรื่องเป็นสรรพนามบุรุษที่ 3 เมื่อจำเป็นต้องเล่าเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวละครทั้งสองตัวนี้(คือเมื่อตัวละครสองตัวนี้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ หรืออยู่แต่ไม่ได้ต้องการให้คนอ่านรับรู้มุมมองความคิดของพวกเขา...ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงที่เลสเตอร์เป็นคนดำเนินเรื่องในตอนท้ายๆ ครับ) อยากแนะนำให้อ่านกันมากเลย...ผม PROUDLY RECOMMENDED ครับ...และถ้าอ่านแล้วอยากจะหาหนังไปดูก็หากันได้แล้วครับ ตอนนี้ดีวีดีโซนหนึ่งออกแล้ว แต่อย่าให้โดนเหมือนผมนะครับ นี่เอาไปเปลี่ยนมาสามรอบแล้ว ถอดใจแล้ว กะว่าจะรอซื้อแผ่นลิขสิทธิ์เลยดีกว่า....(กระซิกๆ) จากคุณ : นารูมิ - [ 9 ธ.ค. 47 08:11:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น้องภูมิใจคะ พอพี่อายุเกิน 17 พี่ก็เลิกนับอายุไปเลยค่ะ ไหนๆ พี่ไอซ์ (เหมาแล้วเน้อ) เปิดเผยอายุไปแล้ว พี่ก็บอกได้แค่ว่าพี่อ่อนกว่าพี่ไอซ์ค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าพี่ไอซ์เรียกใครพี่ ขออนุญาตเรียกตามค่ะ 55555 ความจริงพี่เกิดปีเดียวกับคุณ envy นะ แต่คุณ envy ชอบมาเรียก "พี่นารูมิ" อยู่เรื่อย...ไม่โกรธ แต่มีเคือง 55555 พรุ่งนี้วันหยุดอีกแล้ว...กระทู้คงจะเงียบแน่เลย หนีไปเที่ยวกันหมดสิท่า พี่ติ่ม...หนังสืออะไรเหรอคะ จะได้ไปหามาเก็บไว้เป็นกรณีศึกษา อะไรจะเก็บ "รูปแบบ" ต้นฉบับมาขนาดนั้น จากคุณ : นารูมิ - [ 9 ธ.ค. 47 08:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หวัดดีตอนเช้าครับ ฮ่าๆๆ คุณติ่ม อยากอ่านThe Line of Beauty แล้ว Coming Out เหมือนกัน แต่เป็น Out of the book นะ ไม่ใช่ Out of the closet  ที่บอกว่าถึงกลางเรื่องแล้วชักเริ่มสนุกเป็นเพราะเรื่องมันมีสีสัน รายละเอียดมากขึ้นน่ะครับ ไม่ได้พล่ามพรรณนาตะพึดตะพือแบบตอนแรกๆ พอเรื่องเริ่มมีทิศทาง และเราอ่านจับทางเรื่องได้มันก็เลยสนุกขึ้นน่ะครับ...ตอนนี้เหลืออีกราวๆ 70 หน้าครับ แต่ไม่ไหวอ่ะ อากาศเย็นชวนง่วง อ่านแล้วอาจเผลอม่อยหลับได้ ฮ่าๆๆ เมื่อวานไปดูหนังฟรีเรื่อง Ocean's Twelve กับแฟนมาครับพอดีแฟนผมเค้าได้บัตรฟรีมา...หนังไม่สนุกแบบภาคแรกอ่ะ แล้วผมก็ม่อยหลับไปตอนช่วงต้นด้วย แย่ชะมัด แต่ที่ชอบมากๆ คือช่วงที่มีบรูซ วิลลิสมาแจม สนุกมากครับตอนฉากนั้น... โหม่งกับคุณนารูมิพอดิบพอดี ขอบคุณสำหรับรีวิวเก่าที่ผมเคยเขียนไว้ครับ กำลังเล็งๆ จะบอกเชียวล่ะว่าให้ลองไปหาในกระทู้เก่าอ่ะครับ! คุณปันครับ รบกวนคุณปันแวะไปดูในคิโนะฯ เอ็มโพเรี่ยมให้หน่อย(ทราบว่าคุณปันทำงานที่ตึกนั้นพอดี เดี๋ยวนี้แฟนผมเขาย้ายไปทำงานที่ตึกใหม่ของช่องสามแถวพระราม 4 แล้ว) ได้ไหมครับว่าที่นั่นยังลดราคา 20% หนังสือเรื่อง Blood Canticle ของ Anne Rice กับ The Last Juror ของ John Grisham หรือเปล่า? ผมจะได้หาโอกาสแวบไปสอย(แอบสอยด้วยอีกต่างหาก กลัวแฟนรู้ อิอิ)  ถ้าเลิกลดแล้วจะได้ไปซื้อที่เอเชียบุ๊คส์ใช้อานิสงส์เลขสมาชิกของคุณปูแทน...ขอบคุณมากครับผม! (ข้อความจากกระทู้เก่าครับ เอามาแปะอีกรอบเผื่อคราวที่แล้วคุณปันไม่ทันได้อ่าน แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับผม!) เมื่อวานแวะไปเดินเอเชียบุ๊คส์ที่สยามฯ อืมม์ หนังสือออกใหม่เพียบ เห็นเรื่อง Cloud Atlas แล้วล่ะครับ แต่ยังหวั่นๆ ไม่กล้าซื้ออ่ะ...กลัวอ่านยาก แหะๆๆ ไปทำงานก่อนดีกว่า แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 47 08:43:22 แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 47 08:23:47 จากคุณ : Filippo - [ 9 ธ.ค. 47 08:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีค่ะคุณป้าและคุณติ่ม ดิฉันมาตอบคำถามค่ะ เริ่มจากคุณป้าก่อนนะคะ ต้องขอเรียนว่า มิสเตอร์วัตสันนั้น มีเสน่ห์ น่าหลงไหล ในแบบฉบับของตัวเขาเองนะคะ ดิฉันอาจพูดเล่น ๆ ได้ว่า แอบปันใจให้ แต่ความจริงก็เป็นความจริง ดิฉันเป็นของมิสเตอร์โฮล์มส์คนเดียวค่ะ T_T อุ๊ย! พิมพ์สัญลักษณ์ผิดนี่นา มันต้อง สิคะ สำหรับคุณติ่ม งานของโนดาร์ ดุมบัดเซ่ น่ารักและอบอุ่นมากจริง ๆ ดิฉันเองก็อ่านฉบับที่แปลเป็นไทยค่ะ ไปเจอที่แผงหนังสือเก่าข้างถนน มี 2 เรื่องค่ะ คือ "ย่า อิลิโก้ อิลลาริอันและผม" เล่มนี้เป็นเรื่องเดียวกับที่มีคนแปลว่า "คืนวันอันแสนงาม" (ดูตั้งชื่อสิคะ งามงด อบอุ่น) เริ่มแรกเนี่ย ดิฉันมีเล่ม "คืนวันฯ" นี่แหละค่ะ แต่ให้เพื่อนยืมไป แล้วเพื่อนก็เอาไปเลย ตอนนั้นดิฉันไม่ค่อยกล้าทวงถามเอาคืนน่ะค่ะ ก็ปล่อยไป จากคุณ : Mrs. Holmes - [ 9 ธ.ค. 47 09:13:49 A:61.90.108.226 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แหม... คนรักหนังสือ พูดเรื่องหนังสือนี่ นึก ๆ แล้วยาวจริง ๆ หัวดิฉันหมุนติ้ว ๆ เลย อยากพูดให้ฟัง จากนั้นดิฉันก็ไปเจอ "คืนวันฯ" ที่ เดอะมอล์ล เล่มละ 20 บาทเฉยเลย ใครเอามาลดก็ไม่รู้ ดิฉันก็ซื้อมาสองเล่ม กะเก็บไว้เล่มหนึ่ง อีกเล่มแจกเพื่อน ก็ปรากฎว่าแจกแล้วหนึ่ง อีกหนึ่งคนยืมไปแล้วก็ไม่คืนอีก เฮ้อ...โชคดีพี่ที่แผงหนังสือเก่าเป็นคนรู้จักกัน ดิฉันไปเล่าให้เขาฟัง เขาก็เลยไปตระเวนหา ได้เล่ม "ย่า...และผม" มาแทน คนแปลเป็นคนเดียวกัน แต่เขาเปลี่ยนสำนักพิมพ์ แล้วเลยเปลี่ยนชื่อหนังสือกับนามปากกามั้งคะ คุณทราย ชยาน่ะค่ะ สำหรับ "ความรื่นรมย์แห่งชีวิต" ดูเขาตั้งชื่อสิคะ แถมยังเขียนตรงหน้าปกโปรยไว้ว่า "เรื่องราวของผู้คนสวยงาม จากดินแดนแห่งการให้อภัยชั่วนิรันดร์" ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ คือ "The Law of Eternity" นี่แหละน้า...ดิฉันถึงรักภาษาไทย ใครรู้จักคุณทราย ชยา เป็นการส่วนตัวบ้างมั้ยคะ ดิฉันอยากให้พิมพ์อีกจัง ทุกคนจะได้อ่านหนังสือดี ๆ เพิ่มขึ้นอีกสองเล่ม จากคุณ : Mrs. Holmes - [ 9 ธ.ค. 47 09:30:03 A:61.90.108.226 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โอ๊ย... คุยแล้วมันปลุกความทรงจำของดิฉันตอนเซิร์ทหาใน google ดิฉันก็เลยไปเซิร์ทอีก ก็เลยเจอนี่เลย เข้าไปอ่านกันค่ะ http://faylicity.com/book/granny.html จากคุณ : Mrs. Holmes - [ 9 ธ.ค. 47 09:37:36 A:61.90.108.226 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ Mrs Holmes คะ ตอนนี้คุณ ทราย ชยา ไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วอ่ะค่ะ แต่บางทีก็ยังแปลงานให้บางสำนักพิมพ์อยู่บ้าง งานแปลช่วงนั้น เข้าใจว่าแปลโดยยังไม่ขอลิขสิทธิ์ (ถ้าเข้าใจผิดขออภัยสำนักพิมพ์ด้วยนะคะ ) ถ้าจะพิมพ์ใหม่ สงสัยต้องขอลิขสิทธิ์กันเป็นเรื่องเป็นราว เห็นด้วยว่าพี่ทราย ตั้งชื่อหนังสือได้น่ารักเหลือเกิน อยากให้พิมพ์ใหม่เหรอคะ จากคุณ : grappa - [ 9 ธ.ค. 47 10:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณโป้ ปันตอบไปนานแล้วทางหลังไมค์นะคะ ไม่ได้รับแน่เลย? The Last Juror ของ John Grisham ลดอยู่ (ณ.ตอนนั้นที่ไปดู ปลายพย.มั้ง) แต่ว่าอีกเรื่องไม่เห็นเลยค่ะ เห็นแต่ที่เอเชียบุ๊คนะ ไม่รู้ปันหาไม่ทั่วรึเปล่า วันนี้อาจไม่ได้ไปดูให้ซ้ำ เพราะว่างานยุ่งมาก ต้องรีบๆกินข้าวเที่ยงและขึ้นมาทำงานต่อค่ะ (ที่แผนกลาพักร้อน 2 คน ไปเทรน อีก 4 คน เหลือคนรับศึกอยู่แค่นิดเดียว) จากคุณ : L.I.R.A. - [ 9 ธ.ค. 47 12:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เจอแล้วครับคุณปัน ขอบคุณมากครับ พอดีข้อความหลังไมค์ของคุณปันส่งมาพร้อมกับคำตอบของคุณนิด ผมเลยเบลอๆ ไม่ทันสังเกต ถ้าคุณปันงานยุ่ง ไว้ก่อนก็ได้ครับ บางที Blood Canticle ผมอาจจะแวบไปซื้อที่เอเชียบุ๊คส์แทนก็น่าจะดี... ขอบคุณนะครับ! จากคุณ : Filippo - [ 9 ธ.ค. 47 12:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ======================= Remember Me By Trezza Azzopardi ======================= วินนี่เป็นหญิงชราวัย 74 ปี ที่ตอนนี้ก็พอใจกับสภาพความเป็นอยู่ของตัวเอง วินนี่มีกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบใส่บรรดาสิ่งละอันพันละน้อยของเธอ วินนี่อาศัยอยู่ในอาคารร้างที่เจ้าของตัวจริงทิ้งไปเพราะหนีหนี้ ด้วยวัยขนาดนี้ เธอไม่ห่วงเรื่องอนาคตของตัวเองแล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็พบว่าตัวเองถูกปล้น โดยผู้หญิงผมแดง และเธอก็คิดได้ว่า เธอเองก็ผมแดง แรกเกิด เธอเข้าชำระบาปด้วยชื่อ Lilian (ตั้งตามแม่) แต่พ่อของเธอยืนยันจะเรียกเธอว่า Patsy (ย่อมาจาก Patricia) เพราะไม่ชอบขี้หน้าพ่อตาที่ยืนยันว่าให้ใช้ชื่อลิเลียน หลังจากแม่เธอฆ่าตัวตาย เพราะเชื่อว่าตัวเองถูกวิญญาณตามหลอกหลอน พ่อของเธอก็ส่งให้เธอไปอยู่กับปู่ เธอก็กลับไปเป็นลิเลียน ด้วยความที่เป็นเด็กผมแดง ปู่จึงบังคับให้เธอใส่หมวกเบเร่ต์ไป รร. แต่เธอก็ยังถูกแกล้งอยู่ดี พอรู้อย่างนั้น วันหนึ่งผู้ชายที่ขอแบ่งเช่าบ้านของปู่ของเธอ ก็จับเธอย้อมผมเป็นสีเงิน พอเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เธอก็ถูกส่งไปอยู่กับป้าที่บ้านนอกพร้อมกับผู้เช่าบ้านคนนั้น ป้าของเธอกับเขาตกหลุมรักกัน แต่ไม่เป็นที่ยอมรับของหมู่บ้าน ทำให้เขาต้องทิ้งเธอไว้กับป้าตามลำพัง ที่นั้น เธอตกหลุมรักกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เธอเคยเจอสมัยอยู่ในเมือง เขาเป็นพี่ชายของเด็กผู้หญิงที่ชอบแกล้งเธอที่ รร. และเธอก็ตั้งท้อง ทำให้ป้าต้องส่งเธอกลับไปหาปู่ (อายุ 15) แต่พอเธอกลับไป ก็พบว่าปู่ไม่ได้อยู่ที่บ้านอีกต่อไปแล้ว เธอพลัดไปอยู่กับคณะคนทรงเจ้า เขาบอกว่าเธอมีสัมผัสพิเศษ (Gift) เธอก็เชื่อว่าเธอเห็นวิญญาณได้จริงๆ อย่างที่แม่ของเธอเคยเป็น เธอได้ชื่อ Winnie มาจากที่นั้น ผมแดงของเธอถูกปกปิดด้วยวิกผมสีดำ ซึ่งหลังจากนั้นก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ ชีวิตเธอตกต่ำลงเรื่อยๆ จนกลายมาเป็น "คนจรจัด" +++++++++ สนุกมากๆ ค่ะ ลุ้นด้วย ยิ่งอ่านตอนจบ ยิ่งอึ้ง คนเขียนเขาเขียนมีสไตล์มากเลยค่ะ แปลกดี เพราะไม่ใช่เครื่องหมายคำพูด (") เลยค่ะ อาศัยย่อหน้าเอา แถมจังหวะของการเว้นประโยค และตัว Capital เนี่ย ล้วนมีความหมายหมดเลยค่ะ เรื่องจะเล่าสลับไปสลับมาระหว่าง วินนี่ตอนชรา กับอดีตของเธอ เวลาอ่านต้องตั้งสมาธิให้ดีเอามากๆ ว่าตรงไหนเป็นส่วนบรรยาย ตรงไหนเป็นส่วนคำพูด และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนไหน โชคดีที่ศัพท์ง่ายมากๆ ค่ะ อ่านเลยไหลไปเรื่อยๆ หนังสือก็ไม่หนา คนเขียนเล่าได้อย่างมีชีวิตชีวา ในขณะเดียวกันก็มีความลึกลับอึมครึมซ่อนอยู่ ชวนให้อ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนหลัง พอมีคนมาตามหาเธอ เราก็ยิ่งอยากรู้ว่า หลังจากที่จบอดีตของเธอไปแล้วนั้น ไอ้ช่วงที่ไม่ได้เล่า เธอไปทำอะไรมาบ้าง ลุ้นดีค่ะ สรุปว่าเล่มนี้อ่านสนุกค่ะ และเจ็บแสบดีด้วย อยากให้ลองได้อ่านกันจัง ชอบค่ะ ให้ A ไปเลย ถามคนที่รู้หน่อยสิคะ เห็นในข้อมูลบรรณารักษ์อะไรซักอย่างนี้แหละค่ะ มีหมวด Reminiscing in Old age เนี่ยหมายถึงอะไรเหรอคะ จากคุณ : นารูมิ - [ 9 ธ.ค. 47 15:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดีค่ะ คุณ grappa ก็อยากให้พิมพ์ใหม่ค่ะ เรื่องอุ่น ๆ แบบนี้น่าจะพิมพ์เรื่อย ๆ น่ะค่ะ ว่าแต่คุณ grappa รู้จักกับคุณทราย ชยา เป็นการส่วนตัวหรือเปล่าคะ ถ้ารู้จัก ดิฉันก็จะรบกวนฝากไปบอกพี่เขาด้วยน่ะค่ะ จากคุณ : Mrs. Holmes - [ 9 ธ.ค. 47 18:50:46 A:61.91.85.169 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ....คุณโป้(ขออ้างชื่ออีกรอบนะครับเพราะเคยคุยด้วยอยู่คนเดียว) เคยบอกผมว่าให้ลองมารีวิวหนังสือบ้างนอกจากหนังที่ตัวเองชอบเขียนถึงเวลาไปดูมา ผมก็บอกว่าไม่ถนัดและอีกอย่างอ่านไม่จบซักที ทั้งที่กองอยู่หลายเล่ม แต่เมื่อวานนี้ไม่น่าเชื่อว่าผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบภายในวันเดียวก็เลยลองมารีวิวดูครับ(พอดีขอก็อปไปโพสต์ในห้องคลับนักสืบด้วยครับ) โกธ คดีตัดข้อมือ ...เรื่องสั้นทั้งหมด6เรื่อง แต่ละเรื่องก็เป็นคดีของมันเองซึ่งความแยบยลอยู่ที่มันเชื่อมต่อด้วยตัวละครเด่นๆ2ตัวที่เป็นนักเรียนม.ปลาย ชาย/หญิง คือ ผม และ โมริโนะ ซึ่งมีความคิดที่แปลกประหลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ทั้ง2คนมีด้านมืดในตัว(ที่ไม่เหมือนกับDarthvederแต่จะเป็นอย่างไรคงบอกไม่ได้)และสนใจในเรื่องเดียวกันคือความตาย ....อย่าเพิ่งคิดไปว่ามันจะเหมือนคินดะอิจิหรือโคนันนะครับ เรื่องราวในแต่ละตอนไม่ใช่ในแนวใครเป็นคนฆ่า(แบบปัวโรต์) หรือฆ่าอย่างไรและสืบสวนอย่างไร(แบบโฮล์ม) แต่เป็นในมุมที่ว่าคนฆ่ากำลังคิดอะไรและตัวเอกของเราคิดยังไง ไปมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ....หลายตอนมีการสอดแทรกปมที่น่าสนใจถึงแม้ว่าจะไม่ลึกซึ้งก็ตามเช่น ตอนหมาที่พูดถึงสาเหตุในใจที่ทำให้คนคนหนึ่งต้องไปฆ่าเพราะความอ่อนแอและโกรธแค้นที่แปลงมาลงกับคนที่อ่อนแอกว่าและตัวเองก็ไม่ต่างจากผู้กระทำตัวเอง รวมทั้งก็มีอีกหลายตอนที่อ่านแล้วสามารถซาบซึ้งน้ำตาซึมได้ทั้งที่เลือดนอง(แฝด) .....สิ่งที่ได้จากการอ่านคือบรรยากาศที่ผมรู้สึกว่ามันสยดสยองมาก และการได้เข้าไปอยู่ในความคิดที่บรรยายออกมาหลายตอนเข้าขั้นน่าสะอิดสะเอียน เป็นหนังสือที่อ่านแล้วรู้สึกได้บรรยากาศในการฆ่าเหมือนได้กลิ่นตามออกมา และมันก็ปลุกด้านมืดในใจคนอ่านออกมาเพราะบางครั้งผมก็เผลอลุ้นว่า"ผม"จะฆ่าหรือไม่ และ จะฆ่าเมื่อไหร่ ....ความสนุกอยู่ที่การลุ้น ลุ้นว่าเหยื่อจะรอดหรือไม่หรือลุ้นว่า"เค้า"จะทำ"สิ่งนั้น"หรือไม่ ผู้เขียนฉลาดมากในการล่อหลอกให้คนอ่านหลงเชื่อเพื่อที่ต่อมาจะพบว่า สิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด เมื่อเรารู้ตัวกับกับดักของคนเขียนและคิดว่าบทต่อไปเราจะเดาได้ก็จะพบกับการตวัดกลับอีกรอบจนอึ้ง(เห็นได้ชัดในตอนจบที่ผมถูกหลอกอย่างแรง) รวมทั้งการหลอกให้ลุ้นในเนื้อเรื่องทางหนึ่งแต่ตอนหักมุมไปหักอีกจุดเรียกได้ว่าปวดหลังไปหลายรอบเลย ....ส่วนหนึ่งที่โดดเด่นและตอนแรกผมไม่ชอบเลยคือการที่เขียนบทพูดและความคิดต่อกันเป็นพรืดๆ จนไม่รู้ว่าเรากำลังอ่านเรื่องของใคร ต้องกลับมาอ่านซ้ำ แต่ผมกลับพบว่าส่วนนี้นี่แหละที่ทำให้กลยุทธของผู้เขียนสำเร็จไปในหลายตอน ส่วนในเรื่องของการแปลผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้มีติดขัดคาใจอะไรมาก .....สรุปว่าเป็นหนังสือสยองขวัญกึ่งสืบสวนที่ผมเชียร์ให้อ่านอย่างเต็มที่สำหรับแฟนหนังสือแนวนี้ ผมเคยอ่านงานของOtsuichiไปแค่เล่มเดียวคือโทรศัพท์สลับมิติ ซึ่งก็ไม่ได้ประทับใจมากนักแต่ก็ทึ่งในความช่างคิดของคนเขียน แต่กับเล่มนี้ประทับใจมากครับ แต่ความรุนแรงระดับนี้คิดว่ามันอาจไม่เหมาะสมกับเด็กที่ยังอายุน้อยเกินไปนะครับ(แต่จะเท่าไหร่ก็กะไม่ถูกเหมือนกัน) ตอนนี้ก็รอลุ้นอยากจะให้มีคนเอามาสร้างเป็นหนังและมันก็คงท้าทายอีกเหมือนกันว่าจะหลอกล่อคนดูเหมือนตัวหนังสืออย่างไร ***ต่อไปนี้เป็นSpoiler สำหรับคนอ่านแล้วนะครับ*** ปริศนาดำ.....ตอนจบนี่ทำเอาผมงงไปเลยเพราะยังไม่คุ้นกับเรื่องของเล่มนี้เรียกได้ว่าเฮ้ยจบกันแบบนี้เลยเหรอ อ่านๆไปเหมือนดูมินิซี่รี่ไปด้วย ตัดข้อมือ....ตอนนี้ผมชอบน้อยที่สุดเลยครับ แต่มันก็สะท้อนตัวละคร ผม ได้เห็นชัดเจนขึ้นมากเลยว่าด้านมืดของเค้ามันน่ากลัวขนาดไหน หมา....ผมนึกว่า"ผม"จะเป็นคนแทงเสียอีก หนังสือชวนให้ลุ้นเหลือเกินว่า"ผม"จะทำหรือไม่เมื่อไหร่ พร้อมกับไอเดียที่ดีเหลือเกินที่ให้เรื่องเล่าโดย "หมา" แฝด...ผมชอบตอนนี้มากครับกับการหักมุม ผมหลงคิดตามไปว่าโมริโนะฆ่าน้องเธอหรือไม่(ใจลึกๆคิดว่าฆ่า) แต่หนังสือกลับหักมุมไปที่จุดว่าคนที่ตายกลายเป็นอีกคนเฉยเลย รวมทั้งตอนจบที่ลุ้นว่า"ผม"จะฆ่าโมริโนะหรือไม่ เพราะหนังสือสร้างให้คนอ่านเชื่อได้ว่า"ผม"สามารถทำอย่างนั้นได้จริง ดิน.....ตอนนี้ก็แยบยลหลอกผมได้สนิทใจเลย ทั้งจากบริบทและลักษณะคำพูดที่ทำให้คิดว่าคนในหลุมนั้นคือโมริโนะแน่ๆ แต่พอตอนขุดออกมาเจอศพแล้วมันสลดมากๆเลยครับตอนนี้ เสียง....เศร้ามากๆ อ่านแล้วไม่อยากให้พี่สาวของนะสึมิตายเลยทั้งที่ก็รู้แน่อยู่แล้วว่าเค้าตายไปแล้ว รวมทั้งการหลอกได้อย่างแนบเนียนหักมุมมากที่"ผม"ไม่ใช่"ผม"อีกแล้วในตอนนี้ เล่นแบบว่าตอนก่อนหน้านี้ไม่บอกชื่อพระเอกแต่แทนที่ด้วย"ผม"มาตลอด พอเห็นชื่อตอนแรกใครจะคิดว่าเป็นพระเอก เพราะ"ผม"ในตอนนี้กับตอนที่ผ่านมาก็มีความคิดคล้ายๆกัน และสุดท้าย"ผม"ก็ไม่ได้ฆ่าใคร จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 9 ธ.ค. 47 20:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 45 หวัดดีค่ะ หนาแน่นมากๆเลยท฿ แทบเบียดเข้ามาไม่ทัน อิอิ Reminiscing in Old age ที่คุณนารูมิถาม พัทคิดว่าน่าจะเป็นแนวหนังสือรำลึกถึงความหลังรึเปล่าคะ ทำนอง nostalgia เล็กๆ ใครทราบแน่ชัด วานบอกค่ะ อาร์ดีของไอซ์นี่เป็นบ่อยม้ากมากหลังๆ โดยเฉพาะหลังจากกลับมาไทยแล้ว กิจกรรมมากมายเลยห่างเหินหนังสือหนังหา ปกติถ้ามันตึ้บหัวมากจริงๆก็เลิกอ่านนะ เพราะหลังจากนั้นจะอ่านลื่นปื้ดเลย อีกทีก็หาหนังสือแนวที่มันสดใสกว่ามาอ่านคั่นหนังสือหนักๆน่ะจ้ะ ง่วงแล้ว หยุดยาวด้วย ไว้มาเม้าใหม่นะคะ ตอนนี้ยังอ่านอะไรไม่ไปไหนเหมือนเคย หลังจากจบ eyre แล้วก็มาจับ dante club ต่อ ลูบๆคลำๆอยู่นี่ล่ะค่ะ ฝันดีนะคะ จากคุณ : Il Maze - [ 9 ธ.ค. 47 23:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แวบเข้ามาหน่อยก่อนหนีไปเที่ยวทะเล ยังไม่ได้ไปร้าน SIC เลยค่ะ ติดเรื่อง Gantz ไว้ก่อนนะคะ ขอตอบเรื่อง Toefl ที่คุณ Killevippen ถามหน่อย เพราะเพิ่งไปสอบมาหมาดๆ เดี๋ยวนี้ที่เมืองไทยมีแต่ Computer based แล้วนะคะ ซื้อแบบนั้นน่าจะดีกว่า Dante Club ของพี่ Il Maze นี่ที่มีฆาตกรรมตาม Divine Comedy รึเปล่าคะ อันนั้นอ่านแล้วนอนไม่หลับเลย สยดสยองเหลือเกิน ศพแรกนี่ทำเอากินข้าวแทบไม่ลง ตอบพี่ติ๋ม เรียนเภสัชฯอยู่ค่า ไม่เกี่ยวอะไรแม้แต่นิดเดียว จริงๆแล้ว Discworld นี่ไม่ต้องอ่านต่อกันตลอดก็ได้ค่ะ แต่เพราะกลุ่มตัวละครดำเนินเรื่องจะแยกได้เป็น 4 กลุ่ม จึงน่าจะอ่านเรื่องใน subserie ให้ต่อกันเท่านั้นเอง ตัวเองเริ่มอ่านตั้งกะอยู่ปี 1 ตอนนี้ก็เพิ่งอ่านเกือบครบเอง ตอบที่ค้างพี่ไอซ์ไว้ด้วยละกันว่า ถ้าสนใจเริ่มอ่านแนะนำให้เริ่มที่ Men at Arm ค่ะ เป็นเรื่องในช่วงกลางๆของชุดใหญ่ และเล่มสองในชุดย่อยที่ว่าด้วยตำรวจประจำเมือง จึงยังไม่มีท้าวความมากนัก แล้วโทนเรื่องก็ออกกลางๆไม่เน้นฮา หรือหนักเกินไป โอ๊ย ซีรี่ย์นี้โปรดมากจนคุยได้เป็นวันเลยค่ะ อ้อ ถ้าเป็นสมาชิกห้องสมุดหายืม Men at Arm ได้นะคะ Mrs. Holmes เคยได้ยินไหมว่าวัตสันอาจเป็นผู้หญิง! ประมาณว่าเธอคือ คุณนาย โฮล์มส์ ตัวจริงแต่ปลอมเป็นชายมาเขียนหนังสือน่ะค่ะ คนคิดเนี่ยไอเดียบรรเจิดจริงๆ จากคุณ : ทินา (ทินา) - [ วันรัฐธรรมนูญ 00:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เคยได้ยินค่ะ คุณทินา แต่ดิฉันตัวจริงกว่า รู้สึกว่าคนที่ตั้งข้อสังเกตจะเป็น มิสเตอร์ไอแซค อาซิมอฟ นะคะ (ไม่ยืนยัน) ถ้าโลกนี้ไม่มีมิสเตอร์โฮล์มส์ ดิฉันก็อาจจะรักมิสเตอร์อาซิมอฟไปแล้ว อืม... ทันสมัยหน่อยดีกว่านะคะ ประมาณว่า...เป็นกิ๊กของดิฉันไง...โฮะโฮะ ว่าแต่คุณทินาเถอะ เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมยังไม่นอนจ๊ะ ส่วนดิฉันเพิ่งสระผมด้วยความทนไม่ไหว ก็เลยต้องทนง่วงให้ผมแห้ง...ชดใช้ความขี้เกียจของตัวเอง แต่เดี๋ยวจะไปเล่นเกมแล้วนะ เพราะคลับนักสืบเขาโพสต์ตัวอย่างกล่องดำของห้องไซไฟให้ดูน่ะค่ะ แล้วมันก็มีเกมน่ะ ดิฉันกำลังติด...แหง็กเลย จากคุณ : Mrs. Holmes - [ วันรัฐธรรมนูญ 01:24:33 A:61.90.33.9 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณคุณนารูมิ และคุณทินาที่ตอบนะคะ :) จากคุณ : Killevippen - [ วันรัฐธรรมนูญ 03:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อิอิ เรารุ่นดึกเลยอยู่ดึกได้ .. ไม่ต้องกลัวโดนเอ็ดแบบคุณทินา ว้าย คุณนายโฮล์มส์ขา ติ่มเคยเห็นเรื่อง "ย่า อิลิโก้ อิลลาริอันและผม" แล้วค่ะ แต่เห็นมันบ๊างบาง เลยไม่ได้หยิบขึ้นมาอ่าน เสียดายจังเลย รู้สึกจะเห็นอยู่แป๊บเดียวก็หายไปแล้ว (เล่มนี้น่าจะเป็นลิขสิทธิ์แล้วรึเปล่าคะ? เพราะเห็นไม่นานนี้เอง) แหะแหะ ยังดอง Goth อยู่เลย อุตสาห์วางแผนว่าจะอ่านก่อนงานสัปดาห์แท้ ๆ ทู้นี้อาถรรพ์จริง ๆ อ่ะ พอไอซ์พูดถึง RD พี่เลยเริ่มเป็นเลยอ่ะ ว่าจะอ่านชิกลิทใหม่ของซาร่าให้จบก็ไม่จบซะที ไอซ์ ๆ พี่เห็นมัจจุราชหมายเลข 9 เล่ม 1, 2, 4, 5, 7 กับ 8 อ่ะ ไม่ได้ซื้อเพราะไม่รู้ไอซ์จะเอาแบบครบชุดหรือว่าไง อยู่ร้านริมถนนตรงข้ามมาบุญครองนะ (ร้านใกล้รร.สอนพิเศษ) คุณนารูมิ ติ่มจำชื่อหนังสือไม่ได้แล้วค่ะ ชื่อหลักเป็นชื่อใครสักคนที่จำยากอ่ะ ฮิตเชนส์..อะไรทำนองเนี้ย แล้วก็มีชื่อรองที่ไม่สะดุดหูเท่าไหร่ ประมาณว่าพูดถึงอิรัก (อ่านแล้วลืมในสามนาที) วันนี้ไม่ได้อ่านอะไรเลยค่ะ มีแต่ซื้อเพิ่ม ไปเห็นนิยายเรื่อง ล่า กับ ตราบาป ปกใหม่ของทมยันตีลด 50% อยู่ เลยอดซื้อมาอีกรอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ปกเก่าอยู่ไหน แล้วก็คว้า ลูกผู้ชายหัวใจมีรัก (Man and Wife), ไมรอน, พ่อกอลิโกต์ มาแบบเผลอ ๆ ไม่รู้ซื้อมาทำไมเนี่ย? อ่านไม่ทันแล้ว (แหะแหะ แต่ถ้าตาลเห็นนิยายใหม่ของสิริมา เจ้าหญิงมังกรเล่ม 3 นาร์เนีย 5 หรือดิโอเมน ..ซื้อเผื่อพี่ด้วยนะ) ไปอ่านการ์ตูนก่อนดีกว่าค่ะ อิจฉาคนได้หยุดจังเลย จากคุณ : ติ่มซำ - [ วันรัฐธรรมนูญ 03:11:32 A:202.183.171.136 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มาโบกมือบ๊ายบายส่งคนจะได้ไปพักผ่อนในวันหยุดยาวค่ะ อย่างน้อยก็เห็นน้องทินาคนนึงล่ะ สงสัยคุณป้าก็จะไปแอ่วด้วย ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้มีเรียน จะหาเรื่องหนีเที่ยวเหมือนกัน งือ หยุดไม่เคยตรงชาวบ้านชาวช่องเขาเลย แต่วันนี้อากาศเย็นสบาย น่าฝังตัวในที่นอนจริงๆ เลย ติดคำถามน้องภูมิใจไว้เมื่อกระทู้ที่แล้ว เห็นว่าใกล้จะได้กลับเมืองไทยแล้วใช่มั้ย พี่คิดออกแล้วว่าจะแนะนำ หนังสืออะไรให้อ่าน ไปอยู่ที่อื่นนาน เผื่อคิดถึงนิยายไทย พี่แนะนำเรื่อง "เหตุเกิดเพราะแสงจันทร์" ของ พี่ตา "สิรินดา" ของ สนพ.แจ่มใส ค่ะ เล่มนี้เป็นโรแมนซ์สไตล์ไทยๆ ค่ะ น่ารักและวี้ดวิ้วตามควรค่ะ พระเอกเป็นหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของรีสอร์ตบนเกาะแสงจันทร์ แต่อาชีพจริงๆ ที่ทำเงินคือ นักเขียนนิยายอีโรติกชื่อดังระดับ International Best Seller ส่วนนางเอกเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่หนีจาก กทม. มาเพราะ ตำรวจพบยาเสพย์ติดในคอนโดของเธอ ที่ต้องมาเกาะนี้ เพราะพระเอกเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทค่ะ อ่านแล้ว พี่ว่าหนูน่าจะชอบนะ ^-^ พี่ติ่มคะ เห็นโอเมนที่ร้าน 50% สาขาอนุสาวรีย์อยู่สองสามเล่มน่ะค่ะ เพิ่งมีโอกาสไปคุ้ยมาเมื่อวานเหมือนกัน ได้หนังสือมาใหม่อีกสามเล่ม 1. โกธ (คุณข้างหลังฯ คะ เดี๋ยวอ่านจบจะมาตามอ่านรีวิวนะคะ ) 2. ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน 3. ปั้นหนังเป็นตัว (เล่มนี้เห็นแล้วดีใจสุดๆ เพราะอยากได้อยู่พอดี) เห็นหนังสือราคาถูกทีไร เงินหลุดลอยออกจากกระเป๋าทุกที อ้อเห็นมี Lovely Bones ฉบับแปลหลงมาเล่มหนึ่งด้วยค่ะ มาบอกไว้เผื่อใครอยากได้จะได้ไปสอย มี tin drum ปกแข็งของนานมีด้วยนะคะ (สนุกมั้ยคะ เห็นมันหนามาก แล้วมีโนเบลแปะหัวเลยหวั่นๆ) ... ขอบคุณค่ะคุณพัทสำหรับความรู้ ดูแล้วน่าจะเป็นอย่างที่คุณพัทว่าจริงๆ นั่นแหละค่ะ ... น้องทินา พี่ข้องใจนิดนึง ถ้าจำไม่ผิดพี่เห็นหนูตั้งกระทู้เกี่ยวกับหนังสือเพราะ อาจารย์สั่ง อะไรประมาณนี้นี่คะ (แต่ก็เห็นในประวัตินักแปลเหมือนกันว่าเรียนเภสัช) น้องทินาทำสองปริญญาหรือว่าไงคะ ขยันจัง ดูท่าจะชอบหนังสือแนวแฟนตาซีหรือเปล่าเอ่ย สงสัยวันหลังต้องมาขอความรู้หน่อยแล้ว เพราะพี่ไม่ค่อยได้อ่านเลย ถึงอ่านก็ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ อย่าง Lord of the Ring เนี่ย อ่านหนังสือก็งั้นๆ นะ ชอบ "หนัง" มากกว่า มันตื่นตาตื่นใจดี ... คุณ Killevippen ยินดีค่ะ ยินดี ว่าแต่มีหนังสืออะไรน่าสนใจก็มาบอกกันบ้างนะคะ ไปล่ะค่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ จากคุณ : นารูมิ - [ วันรัฐธรรมนูญ 08:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 พี่นารูมิขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวกลับไทยจะรีบไปซื้อ แต่ไม่จะได้แบกมาหมดป่าว เพราะน้ำหนัก ได้แค่25โลเองอ่ะ อิจฉาคนที่ได้ไปเที่ยว คือเราหยุดเยอะแต่ไม่รู้จะไปไหนฮ่าๆๆๆ อาทิดนึงเรียน2หยุด5 ว่างมากๆๆๆ จากคุณ : นางสาว ภูมิใจ - [ วันรัฐธรรมนูญ 10:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 52 หวัดดีครับ วันหยุดยาวแบบนี้สงสัยกระทู้จะชะงักนะ... อ่าน The Line of Beauty จบแล้วครับ เดี๋ยวขอไปเรียบเรียงความคิดก่อนแล้วจะมารีวิวให้อ่านกันเน้อ... คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ...ดีใจมากครับสำหรับรีวิวหนังสือฝีมือของคุณ หวังว่าเราจะได้อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆ อีกนะครับ เดี๋ยวจะไปธุระที่ต่างจังหวัดกับแฟนหน่อยครับ...อาจไม่ได้เข้ามาในกระทู้ช่วงหยุดยาวนี้ ค่อยคุยกันใหม่อีกทีวันจันทร์นะครับ... จากคุณ : Filippo - [ วันรัฐธรรมนูญ 14:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อยากรู้ว่าใครไม่ได้หยุด ก็ต้องดู ค.ห. ต่าง ๆ สินะคะ อยากมีส่วนร่วมในการอิจฉาคนไปเที่ยวด้วยคน คุณติ่มคะ คราวหน้าถ้าเห็นอีก ต้องซื้อเก็บไว้นะคะ เห็นว่าขนาดที่เป็นภาษาอังกฤษยังหายากเลยค่ะ อ่านแล้วจะอมยิ้มเป็นช่วง ๆ น้ำตารื้นเป็นแห่ง ๆ ค่ะ:)) ลาไปเล่นเกมต่อละค่า คุณโฮล์มส์ไปสืบคดี ดิฉันเลยว่าง... ปกติต้องตามไปด้วยนะคะเนี่ย เอ๊ะ...หรือว่าวัตสันกับดิฉันเป็นคนเดียวกันจริง ๆ (นี่คือผลจากการเล่นเกมมาก ท่านจะเบลอจนจำตัวเองไม่ได้ น้อง ๆ โปรดจำไว้) จากคุณ : Mrs. Holmes - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:39:26 A:61.90.108.49 X: TicketID:039940 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ฮั่นแน่...คุณโป้สงสัยจะไปหาฤกษ์ มิสซิสโฮล์มคะว่าแต่หนังสือที่ถูกจิ๊กไปทำไมไม่ให้คุณโฮล์มแกช่วยตามหาให้ล่ะคะ น่าจะตามกลับมาได้ครบถ้วน... ป้าไม่เคยดำน้ำค่ะหนู kil (ชื่อเรียกยากมาก ขอย่อตามนิสัยคนทู้นี้แล้วกันนะคะ) กลัวปลาตกใจอ้ะ แต่ตอนนี้กำลังฝึกว่ายน้ำแข่งกับฉลามหนุ่มอยู่ค่ะ อ่าน I'll go to bed at noon จบแล้วค่ะ ใครใคร่ซื้อซื้อได้เลยเพราะ หนังสือเขียนได้ดีจริง ส่วนจะชอบหรือไม่นั้นอีกเรื่อง อีกวันสองวันจะมารีวิวค่ะ คงได้มาประชันกับรีวิว the line of beauty ของคุณโป้ (แตะมือไม่ผิดตัวจริงๆ ถ้าขืนแตะมือคุณติ่มสงสัยต้องรออีกอนันตกาล ) ว่าแต่คุณติ่มได้อ่าน man and wife รึยัง น่าเบื่อไหม ป้าเคยอ่านไปได้บทนึงแต่วางไว้ก่อนเพราะดูท่ามันจะคล้ายกับ man and boy มากไป แถมเรื่องอื่นที่เขียนตามๆ มาหลังจากนั้นก้ดูท่าจะเป็นแนวเดียวกันหมดเลยเลิกอ่านไปเลยค่ะ เห็นหนังสือเล่มใหม่ของ Kate Atkinson ที่คิโนะคินุยะ ใครไปเห็นที่ร้านหนังสือมือสองที่ไหนไหว้วานมาบอกกันหน่อยนะค้า ...(แต่ดันจำชื่อเรื่องไม่ได้น่อ สงสัยสมองฝ่อตามวัย) จากคุณ : ป้า - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:16:44 A:210.203.177.250 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 55 หนังสือที่ชอบมาก ๆ คิดว่าคงมีคนได้อ่านเยอะแล้วอ่ะค่ะ เรื่อง หนูน้อยนิโกลา Le petit Nicolas by Sempe & Goscinny เป็นหนังสือเก่าแล้วค่ะ แต่พอหาได้ที่ร้านโอเดียน สยามสแควร์ เหลือไม่กี่เล่ม เป็นหนังสือเด็ก ใส ๆ ขำแบบเด็กอ่ะค่ะ ไม่รู้จะรีวิวไงดี หนังสือก็จะเป็นเรื่องของนิโกลากับเพื่อน ๆ ยกตัวอย่าง อัลแซส์ต เพื่อนตัวอ้วนชอบกินตลอดเวลา ขนาดตอนจะถ่ายรูปรวม อัลแซส์ตยังกินขนมปังอยู่เลยค่ะ ช่างภาพบอกให้หยุดกิน อัลแซส์ตก็บอกว่า "จำเป็นต้องกิน เดี๋ยวจะผอม" อีกเรื่องที่ชอบเป็นวรรณกรรมเยาวชนสเปนค่ะ ชื่อเรื่อง กุ๊ชโฉ่ เขียนโดย โฆเซ่ หลุยส์ โอไลยโซล่า แปลโดย อาจารย์ รัศมี กฤษณมิษ เรื่องจากหลังปกนะคะ "กุ๊ชโฉ่กับลุงอันโตนิโอไปเล่นดนตรีหงายหมวกขอเงินอยู่ข้างถนน ช่างเป็นความสำเร็จ! เพราะนอกจากผู้คนจะหยุดฟังดนตรีแล้ว ยังหยุดดูลุงอันโตนิโออีกด้วย เพราะชุดแฟนซีที่ลุงสวมใส่และผ้าขนสัตว์โพกแบบแขกที่กุ๊ซโฉ่พันไว้รอบศีรษะของลุง ทำให้ดูตลกเสียจริง ๆ" คนที่มีอาการ reader's block ลองอ่านเล่มนี้ก็ดีนะคะ เล่มบาง ๆ แป๊บเดียวก็จบ เป็นหนังสือนอกเวลาให้เด็กมัธยมต้นน่ะค่ะ เรื่องสนุกค่ะ อ่านแล้วอบอุ่น และมองโลกในแง่ดี สรุปนะคะ ทั้ง หนูน้อยนิโกลา กับ กุ๊ชโฉ่ อ่านแล้วสุขหัวใจค่ะ ซื้อให้เป็นของขวัญกับน้อง ๆ หลาน ๆ ก็ดีค่ะ เค้าน่าจะชอบ ถามอีกนิดนะคะ เรียน toefl ที่ไหนดีอ่ะคะ มีใครเรียนที่ไหนบ้างมั้ยเอ่ย จากคุณ : Killevippen (Killevippen) - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เป็นครั้งแรกที่ได้ตอบกระทู้เวลานี้ ณ เวลานี้ยังอยู่ที่ทำงานอยู่เลยอ่ะ ตอบคำถามกระทู้ อาการเช่นนี้ เป็นอยู่เสมอครับ วิธีแก้คือหาอะไรก็ได้อ่าน ซึ่งส่วนใหญ่ตัวเองจะอ่านสิ่งที่ได้จากเน็ต จะได้ไม่เอาท์เดต อิอิ ช่วงนี้ก็เป็น เลยไม่ได้อ่านหนังสือสักเล่มเลย เอาแต่อ่านอะไรที่หาอ่านได้จากอินเตอร์เน็ต แล้วก็ปรินท์ๆ มาอ่าน เป็นคนที่อ่านจากหน้าจอได้ไม่นาน จะแสบตา เป็นเหตุให้กองดองในคอมฯ มีเยอะมาก เห็นห้องสยาม (รึเปล่าหว่า???) มีนัดกินเบียร์กัน เอ๊ะ ห้องสมุดจะมียังงั้นบ้างไหมนะ อิอิ จากคุณ : envy_econ - [ 11 ธ.ค. 47 02:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โห คุณป้ากับคุณโป้นี่ทีมเวิร์คกันดีจริงค่ะ ใช้ได้ ๆ ปีหน้าส่งไปแข่งอ่านหนังสือในฐานะตัวแทนกระทู้ได้เลย I'll go to bed นี่จ้างอ่าน ติ่มยังต้องขอคิดดูก่อนเลยค่ะ อย่าว่าแต่แตะมงแตะมือเลย (เออ ถ้าเปลี่ยนคุณป้าเป็นหนุ่มหล่อกล้ามโต คิ้วเข้มนัยน์ตาคม ก็ว่าไปอย่าง หุหุ) ติ่มไม่เคยอ่าน Man and Wife ค่ะคุณป้า เห็นว่ากันว่าไม่สนุกเลยไม่สน นี่ถ้าไม่เจอลด 50% คงไม่สนอยู่ดี (ต่อให้แปลเถอะ) แต่ในเมื่อเจอแล้วก็ซื้อมาหน่อย เดี๋ยวหนังสือมันจะเสียใจ เพราะจะไปหา คุณย่า อิลิก้าฯ ที่ Mrs. Holmes แนะนำ วันนี้เลยไปยืนอ่าน Sleeping Sword ฉบับแปลของนานมีจนจบ อ่านไปสามสิบหน้า น้ำตารื้นเลยค่ะ (ฮอร์โมนวัยทองทำพิษรึปล่าวหว่า?) พลิกไปดูชื่อคนแต่งโดยพลัน อ้าว...คนแต่งเดียวกับ 'จากเถ้าธุลี' ที่วันก่อนไปยืนอ่านฟรีและถูกใจนี่เอง ไว้มีโปรโมชั่นลดได้ซื้อแน่ Sleeping Sword เป็นเรื่องของบัน เด็กชายชาวเกาะที่เกิดเปลี่ยนใจไปว่ายน้ำตามที่เพื่อนชวน เขาวิ่งออกไปที่ท่าแล้วก็กระโดดตูม ไม่ทันฟังคนห้าม ผลคือเกิดอุบัติเหตุเพราะระดับน้ำตื้นเกินไป บันบาดเจ็บหนัก หัวกระแทกกับหิน ต้องนำส่งโรงพยาบาลในเมือง เขาพันแผลรอบหัวอยู่นาน และมองไม่เห็นอะไรเลยเมื่อแกะผ้าออก ยังดีที่พ่อแม่คอยเป็นกำลังใจให้เขา แต่ปัญหาเรื่องเงินก็เล่นงานครอบครัวเขา เพราะช่วงนั้นไร่มันมีปัญหาพอดี บันเองก็เข้าโรงเรียนปกติไม่ได้ ต้องข้ามไปที่เกาะใหญ่ ความลับอีกอย่างที่ความทรงจำของบันหายไปบางส่วนเหมือนภาพจิ๊กซอว์ แต่เขาไม่กล้าบอกใคร ...เรื่องเดินมาอย่างเข้มข้นน่าอ่านถึงแถว ๆ นี้แล้วก็พลิกไปเป็นแนวพบสมบัติคิงอาเธอร์ ดาบวิเศษ ฯลฯ เฉยเลยค่ะ เล่นเอาติ่มงง แต่จำชื่อ Michael Morpurgo ไว้แล้วว่าจะตามอ่านค่ะ ติ่มอ่านงานเขาแล้วบิวท์อารมณ์ได้เร็วมากเลย สงสัยถูกโฉลกกัน ใครสนใจอยากลองอ่านงานของเขา ติ่มแนะนำเรื่อง "จากเถ้าธุลี" ค่ะ องค์ประกอบโดยรวมของเรื่องจะลงตัวกว่า นอกจากนั้นยังเห็นวรรณกรรมเยาวชนน่าอ่านอีกเพียบ ถ้าตอนเด็กมีหนังสือเยอะแบบนี้ ติ่มดีใจตายเลย แต่ละเล่มภาพสวย ๆ ทั้งนั้น (ว่าแล้วก็เริ่มแผนการเก็บสะสมไว้เผื่อหลาน แต่ตอนนี้เอามาอ่านก่อน) น่าเสียดายที่ความสุขจากหนังสือมลายหายวับไปในพริบตา เมื่อกลับมาพบปัญหาเรื่องงาน (กรี๊ด พรุ่งนี้วันหยุดด้วย จะมีคนไหมเนี่ย?) แล้วก็โมโหหิว ซื้อยำกลับมาบ้านแต่เขาไม่ให้น้ำยำ กรี้ดดดด เสียดายเงิน งึ่มๆๆๆ แช่ง ๆๆๆ ดังนั้น ขอให้เอนวี่จงมีความสุขกับการทำงาน และดีใจซะเถิดว่าที่ทำงานยังเปิดอยู่ ตอนนี้ พี่ล่ะอยากไปที่ทำงานเป็นบ้าเลย ตอนนี้อิจฉาคนได้หยุดไปเที่ยวเป็นสามเท่าเลยค่ะ ฮือออ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 11 ธ.ค. 47 03:25:44 A:202.183.171.65 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ Killevippen คะ สงสัยหมายถึง "ป้า" คนนี้หรือเปล่าคะ คนนี้ดำน้ำคะ แล้วก็วัยก็สมควรเป็นป้าได้เหมือนกัน ตามอ่านทุกกระทู้ค่ะ แต่ไม่ค่อยมีอะไร contribute ก็เลยอ่านเงียบ ๆ แต่ได้ประโยชน์มากเลย เพราะแม้ว่าจะเป็นคนชอบหรือจะว่าบ้าอ่านหนังสือ แต่ก็จะอ่านเฉพาะแนวที่ชอบไม่กี่แนว และอ่านนักเขียนอยู่ไม่มากคน ถ้าชอบคนไหนก็จะตามเก็บทุกเล่ม ตั้งแต่ตามกระทู้นี้มาเรื่อย ๆ ก็เลยเริ่มหัดอ่านนักเขียนคนที่ไม่รู้จัก ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง แต่ก็ทำให้โลกทัศน์เปิดกว้างขึ้นนะคะ ต้องขอบคุณมาก ๆ เลย แต่ว่ายังทำใจให้อ่านอะไรเศร้า ๆ หนัก ๆ หรือที่อ่านแล้วกดดันยังไม่ได้เลยค่ะ หรือว่าอ่านอะไรยาก ๆ ปรัชญาก็ไม่เป็น (ทั้ง ๆ ที่แก่แล้วนะ) ตอนนี้เพิ่งเริ่ม The Dante Club ค่ะ font ตัวเล็กจังเลย จากคุณ : scuba734 - [ 11 ธ.ค. 47 08:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ทักทายวันเสาร์ค่ะ ยังทำงานอยู่เลยค่ะวันนี้ เฮ้อ อยากจะเบี้ยวหยุด ก็ยังไม่ได้เลย สิ้นปีจะสิ้นใจ งานก็ยุ่ง เคลียร์ไม่ออก อิจฉาพี่ติ่มจะตายไป (แต่น่าสงสารจัง ซื้อยำแต่ไม่ได้น้ำยำ เหมือนแกะซองมาม่าแล้วไม่มีซองผงปรุงรสอยู่ข้างใน) ทำงานก่อนแล้วค่ะ จากคุณ : tc - [ 11 ธ.ค. 47 08:33:54 A:203.151.122.229 X: TicketID:046716 ]

ความคิดเห็นที่ 60 กร๊ากกกก ขอมารายงานว่า หลังจากตั้งกระทู้นี้ อาการหายไปเลยค่ะ เบื่อการ์ตูน กลับมาอ่านหนังสืออีกแล้ว ตอนนี้อ่าน Gallows Thief อยู่ค่ะ เป็นหนังสือที่อังกฤษมาก ๆ ((อ่านแล้วคิดถึง ฮือ ๆๆๆ)) จบแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ ขอบคุณพี่น้องผองเพื่อนที่เข้ามาร่วมแบ่งปัน อาการประหลาดนี้นะคะ ฮี่ ๆๆ มีคนเป็นกันหลายคน แต่คนที่ไม่เคยเป็น ก็ไม่เคยเป็นเลยเนาะ ยังอ่านกระทู้ไม่ครบเลย แต่ขอกรี๊ดหน่อยเหอะ เห็นพอดี พี่ติ่ม มีคนเอาหนังสือของ Michael Morpurgo มาแปลแล้วหรือคะ ไอซ์จะบอกว่า เรื่องของนักเขียน คนนี้แหละ เป็นเรื่องที่ไอซ์เสนอ สนพ. ไปตั้งแต่แจ่มใส แพรว ฯลฯ ทำตัวอย่างไปด้วย ชื่อเรื่อง Kensuke's Kingdom แล้วได้เล่มอื่นมาแปลแทน ฮา ถ้าใครเห็นเชียร์ให้อ่านเรื่อง Kensuke's Kingdom นี้นะคะ ไอซ์ว่าไอซ์เคย เล่าไว้แล้วมั้ง แต่เดี๋ยวจะกลับมาเชียร์ใหม่ ขอมาสั้น ๆ ก่อนค่า ต้องออกไปไหว้ก๋งแล้วล่ะ ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 11 ธ.ค. 47 09:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โอ้ย ดีใจ มีแนวร่วมอ่านหนังสือ (ที่คาดว่าจะอ่านจบก่อนพัทแหงมๆ) คุณ scuba คะ มาอ่านด้วยกันเถอะ อิอิ น้อง Kil คะ พี่ไม่ได้เรียนโทเฟลเลยน่ะ คงแนะนำไม่ได้ แต่จากประสบการณ์สอบทั้งโทเฟลและไอเอลส์ของพี่นะ พี่ว่าไม่ต้องเรียนหรอก ถ้าอ่านหนังสือเยอะๆนะ จะมีก็ฝึกเขียนน่ะค่ะ แล้วแนวมันก็มีอยู่แล้วอ่ะ พี่ว่าเขียนของไอเอลส์ง่ายกว่านะ ยังไงหลังไมค์หรือเมล์มากันไหมคะ จะได้คุยสบายๆ สวัสดีทุกคนด้วยค่ะ คุณโป้ ได้ฤกษ์แล้วอย่าลืมแบ่งปันนะคะ อิอิ จากคุณ : Il Maze - [ 11 ธ.ค. 47 09:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบอกน้อง kil เหมือนกันว่า TOEFL เนี่ย ไม่ต้องเรียนก็ได้ค่ะ แต่ต้องซื้อหนังสือมาอ่าน และฝึกทำแบบฝึกหัดเยอะๆนะคะ หนังสือดีๆของพวก  Baron, KAPLAN, Cambridge อะไรพวกนี้น่ะ เอาซีดีมานั่งทำ นั่งอ่านบ่อยๆแล้วจะดีเองค่ะ อ่านเจอในนสพ Bangkok Post อีกแล้วค่ะ เลยเอามาฝาก Symphony Under the Sky As the mercury drops, it signals the coming of the "Music in the Park" festival. The annual even helf by the Bangkok Metropolitan Admin and the BKK Symphony Foundatrion will celevrate its 12th anniversary this year. The BKK Sym ORchestra will perform a programme ranging from favourite classic pieces to jazz, pop and Broadwat hits every Sunday at 5pm at the Palm Court of Lumpini Park, starting tomorrow. Tomorrow's program will feature Saovanit Navapan as guest singer and Vanich Potavanich as conductor. the music includes the 'William Tell Overture', 'Summon the Heroes', 'Over the Rainbow', 'Wind Beneath My Wings', 'Hero', 'I love you for sentimental reason's', 'Ngao Mai', and 'Klai Rung'. โปรแกรมเพลงของวันที่ 19 กับ 26 ขี้เกียจพิมพ์แล้วน่ะ ไว้ใกล้ๆจะมาพิมพ์อีกทีนะคะ Concert in the park will take place every Sunday at 5 pm at Sala Bhirom Bhakdi, Palm Court, Lumphini Park, until Feb 6 (there will be no show on Jan 2). Admission is free. แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 47 12:03:03 จากคุณ : Angel Eyes - [ 11 ธ.ค. 47 12:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตอนนี้อ่าน 1. The idot หรือ ไอ้งั่ง ของ Dostoevsky อยู่ครับ ตอนแรกก็ไม่ค่อยชอบ เพราะเยิ่นเย้อ แต่อ่านไปอ่านมาก็สนุกดี ผู้เขียนสร้างตัวละครได้ลึกซึ้ง เข้าไปถึงห้วงลึกของจิตใจ 2. กำลังจะเริ่มต้นอ่าน รวมเรื่องสั้น ชุด "มิคสัญญี" ของ นากิบ มาห์ฟูซ อยู่ครับ ติดใจจากเล่มแรก "ทางโลงผ่าน" 3. พึ่งอ่าน วิทยานิพนธ์ "วิเคราะห์งานของ Dante" จบไป ทำให้สนใจยุคกลางมาก เลยไปอ่านหนังสือ "บทวิเคราะห์การเมืองของ Thomas Aquinus" รู้สึกดีมากๆเลยครับ รู้สึกว่า ยุคกลาง ไม่ได้มืดอย่างที่คิด แต่ได้เป็นการสั่งสมอะไรหลายๆอย่าง ก่อนที่จะพุ่งทะยานไปสู่ยุค Renaissance อันรุ่งเรือง ซึ่งเป็นพื้นฐานของการปฏิวัติอุตสาหกรรม อันนำมาซึ่งความมั่งคั่งทางวัตถุอย่างทุกวันนี้นั่นเอง 555 4. ถ้าคุณ ไอซ์ โดน block ก็อ่าน The history of reading สิครับ อ่านเล่มนี้จะรู้สึกดีๆกับหนังสือ เพราะมีเรื่องหลายที่มีเสน่ห์หลายมุมของการอ่านหนังสือ ลองดูนะครับ พึ่งรู้ว่าย้ายกระทู้ เลยนำความคิดเห็นที่เขียนไปเมื่อวาน มาร่วมแสดงด้วยครับ 1. ชื่นชม Angel Eyes ความคิดเห็นที่ 4 มาก อ่านไปได้อย่างไร ตั้ง 20 เล่ม หนังสือดีๆทั้งนั้น 2. ผมพึ่งเห็นที่นี่แหละ ที่เข้ามาพูดคุยวรรณกรรมได้ตั้ง 100-200 ความเห็น amazing มาก พบไม่เคยเจอ ขอแสดงความชื่นชม ด้วยคำว่า Sublimility 3. Norwegian Wood หรือในชื่อไทยว่า "ความรัก ความตาย หัวใจสลาย" อ่านแล้วให้อารมณ์มากๆๆ หรือซึ่งหงอยเหงา เบาหวิว เหมือนกับลมหนาวในญี่ปุ่น แต่ขณะเดียวกันก็ไม่รู้สึกเศร้าหรือทุกข์ทม แต่กลับลิ้มรสความเงียบอย่างเต็มใจ (อ่านประมาณ กรกฏาคม 47) 4. The Castle อ่านเล่มนี้แล้ว ทำให้เราขบคิดมากมาย นึกถึงบรรยากาศอันมืดมัวของบ้านเมืองยุคกลาง และยุโรปตะวันออก อันเป็นบ้านเกิดของผู้เขียน ทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนทุบหัว และจามด้วยขวาน อันเป็นจุดประสงค์ในการอ่านหนังสือของผู้ประพันธ์ 555 (ธันวาคม 47) 5. "มุ่งสู่ความขาวของหิมะ" เป็นบทบันทึกต่อการเดินทางไปแสวงหาจิตวิญญาณ และความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ผมอ่านแล้วเข้าถึงความตระหง่านง้ำของขุนเขาหิมาลับ ซึ่งทำให้รู้สึกว่าชีวิตของเรานั้นต่ำต้อยเพียงใด แต่ขณะเดียวกันก็ยิ่งใหญ่หากเราทำตัวให้หลอมกลืนกับธรรมชาติอันมหึมาเหล่านั้น (ตุลาคม 47) 6. The West Canon อ่านแล้ว รู้สึกว่า ก่อนหน้านี้ เราอ่านวรรณกรรม วิเคราะห์ผิดหมดเลย 555 (มีนาคม 47) 7. "ทางโลงผ่าน" ตอนแรกไม่ค่อยอยากอ่าน เพราะเป็นเรื่องสั้น อยากอ่าน "โคตรไคโร" งานชิ้นเอกของ มาห์ฟูซ มากกว่า แต่อ่านไปอ่านมา ก็ติดใจ ในความเหนือกาลเวลา มีเวทย์มนตร์ สะท้อนจิตวิญญาณของอียิปต์ ตั้งแต่สมัยฟาโรห์ จวบปัจจุบัน (อ่านประมาณ ธันวาคม 2547 หลังอ่าน Castle ทำให้เราได้แนวคิดในการตีความงานวรรณกรรมในมุมใหม่ จึงเป็นความงามของ "ทางโลงผ่าน") จากคุณ : ฟ้าหลังฝน - [ 11 ธ.ค. 47 15:48:30 A:210.246.162.91 X: TicketID:080854 ]

ความคิดเห็นที่ 64 วันนี้ ขอทำตัวเป็นนายหน้าปั่นหนังสือซักเล่มสิคะ ============================== ฆาตกรรมแฟนเทเซีย (Dead Famous) Ben Elton เขียน กฤษ จรัสสุ แปล ============================== เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนอีกแล้วจ้า!!! เล่มนี้เห็นพูดถึงกันมาตั้งแต่ฉบับแปลยังไม่ออก แต่พอดี เพิ่งได้อ่านค่ะ เลยขอมาเชียร์คนที่สนใจและมองข้ามไป เล่มนี้ต้องถูกใจคอเกมส์โชว์ประเภทเรียลลิตี้ โชว์แน่ๆ เรื่องก็เกิดขึ้นในยุคที่เกมส์ประเภทนี้กำลังงเป็นที่นิยมจนเริ่มเฝือ หนึ่งในรายการหนึ่งที่เรทติงกำลังพุ่งกระฉูดนั่นก็คือ House Arrest ซึ่งจับเอาหนุ่มสาวแปลกๆ และมีเอกลักษณ์โดดเด่นสิบคนมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน และในแต่ละสัปดาห์ คนในบ้านจะเสนอชื่อเพื่อนร่วมบ้านมาสองคน และสองคนแรกที่มีคนโหวตออกมากที่สุด จะถูกตัดสินอีกทีโดยเสียงโหวตของผู้ชมทางบ้าน เกมส์ดำเนินไปได้ด้วยดี มีเหตุการณ์ตื่นเต้นและน่าเบื่อสลับเป็นระยะๆ จนกระทั่งในสัปดาห์ที่สี่ ก็เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมขึ้นจะๆ ต่อหน้ากล้อง ผู้ร่วมแข่งขันคนหนึ่งเสียชีวิต โดยผู้ต้องสงสัยก็คือผู้แข่งคนที่เหลือคนใดคนหนึ่ง!!! แต่ถึงอย่างนั้น เกมส์ก็ยังดำเนินต่อไป เรทติ้งพุ่งกระฉูดถล่มทลาย ตำรวจที่เข้ามาคลี่คลายคดี นำทีมโดยนักสืบวัยใกล้เกษียร หัวโบราณ ที่ไม่สนใจเกมส์ประเภทนี้เลย แต่ความปรารถนาลับๆ ของเขา คือการได้ขึ้นแสดงบทแฮมเล็ต (ซึ่งตรงนี้ ใครเคยรู้เรื่องแฮมเล็ตมาแล้ว จะยิ่งทำให้อ่านหนังสือเล่นนี้ได้สนุก ชนิดฮาตกเก้าอี้แน่ๆ ) * * * อ่านจบด้วยความเพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง Elton เขียนเล่มนี้มาเป็นหนึ่งในหลักไมล์ของศตวรรษที่ 21 แท้ๆ ชอบใจที่นักเขียนกัดดะไปหมด ทั้งโปรดิวเซอร์ปากหมาที่ไร้หัวจิตใจที่ขายวิญญาณ เพื่อแลกกับเงินและเรทติ้ง ทีมงานเบื้องหลังที่เน้นแต่ตรงหน้าอกหน้าใจของสาวๆ และกะแต่จะจับภาพและสถานการณ์ดราม่า หรือแม้แต่กระทั่งผู้เข้าแข่งขันที่ หลงใหลในชื่อเสียงและเงินจนหน้ามืดตามัว รวมถึงคนดู (อย่างเราๆ) ที่บ้าจี้ไปกับรายการจำพวกนี้ มันส์จริงๆ ป,ล. เซอร์ไวเวอร์ภาคใหม่นี้ไม่สนุกเลยเนอะ ป.ล. เราย้ายไปดู American Next Top Model ดีกว่า เย้! คุณฟ้าหลังฝนตามมาถูกระทู้แล้ว ว่าแต่หนุ่มคนอื่นๆ อย่างคุณ madman, คุณ Blue White Red หายไปไหนน้า อ.โป้คะ รออ่านรีวิว the line of beauty อยู่เน้อ จากคุณ : นารูมิ - [ 12 ธ.ค. 47 14:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 65 หวัดดีวันหยุดค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ใต้ค่ะ เหตุการณ์สงบ แต่ฝนตกตลอด รู้สึกได้ว่าเราอยู่ประเทศมรสุมจริงๆ Mrs Holmes เจอพี่ทรายแล้วจะบอกให้ค่ะ คุณฟ้าหลังฝน มุ่งสู่ความขาวของหิมะนี่ ของพจนา จันทรสันติใช่ไหมคะ คุณป้าคะ รอรีวิว ฉันจะเจ้านอนตอนเที่ยงอยู่ สนใจตั้งแต่คุณป้าบอกว่าเมาเละเทะแล้วล่ะค่ะ เอาเทวา ซาตานมาอ่าน ไม่รู้ว่าจะจบทริปนี้หรือเปล่า พล็อท (ตอนเริ่มต้น) คล้ายดาวินชี่ โค้ด มั่กๆ ไว้คุยกันใหม่นะค้า มีความสุขกับการอ่าน ในวันหยุดยาวค่ะ จากคุณ : grappa - [ 12 ธ.ค. 47 16:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ที่นี่น่ารักจังเลยค่ะ มีคนตอบกระทู้ให้ด้วย ถึง Scuba อยากดำน้ำเป็นจังค่ะ แต่ว่าช่วงนี้ต้องเรียนหนังสือก่อน กะว่าปิดเทอมแล้วจะไปเที่ยวเกาะ วันนั้นเห็นบอกว่าเรื่องวัยกระเตาะ ตึ่ง ตึง ตึ๊ง สนุก ก็เลยลองไปซื้อมาอ่านค่ะ สนุกดีเนอะ วาดภาพน่ารักด้วย เด็กอะไรจมูกรั้น ๆ ได้น่าร้ากมาก ช่วงอ่านการ์ตูนก็เพิ่งจะได้ดูหนังเรื่อง Nobody Knows ค่ะ เป็นหนังที่ได้ใจไปเลย ดูแล้วรักพี่ ๆ น้อง ๆ ขึ้นมาอีกเยอะเชียว ซื้อเป็น dvd ค่ะ 99 บาท ราคาประมาณเดียวกับ vcd เลย โอ๊ย โม้ยาวแล้ว ไปแล้วค่ะ อิอิ ก่อนไป ขอถามอีกนิด การ์ตูนเรื่องไหนที่น่ารัก ๆ น่าอ่าน ๆ บ้างป่ะคะ ตอนนี้กำลังหา ผีซ่ากับฮานาดะ มาอ่านอยู่ หายากแฮะ เพราะมันนานแล้วอ่ะ แต่ว่าคนขายบอกว่าจะเอามาให้ภายในอาทิตย์นี้ล่ะค่ะ ใกล้สอบแล้ว เรายังจะมาอ่านการ์ตูนอีก เฮ้อ dilemma จริง ๆ ไม่ชอบวันอาทิตย์เท่าไหร่เล้ย เพราะว่า ต้องไปเรียนวันจันทร์ จากคุณ : Killevippen - [ 12 ธ.ค. 47 17:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 67 กลับมาจากทะเลแล้วค่า ได้ลงน้ำแค่แตะๆเพราะคลื่นแรงมาก แต่ถือว่าไปเปลี่ยนที่กิน แล้วก็นอนรับลมแทน ถึงคุณ Killevippen ถ้าอยากอ่านการ์ตูนมีข้อคิดนิดๆ แนะนำป๋าอัจฉริยะ ยานางิซาว่าค่ะ ชอบมากๆ พอดีตัวเองเพิ่งไปสอบ Toefl มาเมื่อศุกร์ที่แล้ว ถ้าสนใจประสบการณ์โดยละเอียด หลังไมค์มานะคะ พี่นารูมิขา หนูไม่ได้เรียนหลายปริญญาอะไรหรอกค่า เคยคิดเหมือนกันแต่หมดแรงไปก่อน วิชาที่ว่านี่เป็นวิชาเลือกไปเรียนเองค่ะ คือขอลงเป็นกรณีพิเศษ ไม่คิดเกรดใดๆทั้งสิ้น ที่จริงแล้วแฟนตาซีแนว Lord of the Ring นี่ก็ไม่ปลื้มเท่าไหร่เหมือนกันค่ะ ชอบแฟนตาซีประมาณ Harry มากกว่า เจ้าของบทความนั้นคือ Rex Stout นักเขียนเรื่องนักสืบ เหมือนกันค่ะคุณนายโฮลมส์ อันที่อาซิมอฟเขียนน่าจะ เป็นบทความชำแหละตรรกและเหตุผลของโฮลมส์ล่ะมั้ง อาซิมอฟนี่ก็นักเขียนคนโปรดเหมือนกันค่ะ ชอบที่ไซไฟของเขาเน้นเรื่องมนุษย์มากกว่าเทคโนโลยี ปล. ยังไม่ได้ไปร้านการ์ตูนอยู่ดี ติดไว้ก่อนนะคะ จากคุณ : ทินา - [ 12 ธ.ค. 47 22:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณพัทคะ สงสัยจะหลบ Dante Club แล้วล่ะ มันอ่านแล้วอืด ๆ ไม่ไวอย่างเคย วางไป 2 วัน อ่านนักสืบจบไป 2 เล่มแล้ว แล้วก็ต้องเอาหนังสือไปคืนอังคารนี้แล้วสงสัยต้องไล่ตามที่ e-book กำลังตามเก็บเรื่องที่มี vampire ต่าง ๆ อยู่ แต่สังเกตุดูว่าทั้ง 4-5 เรื่องที่อ่านแบบข้าม ๆ นี่มันมีฉากใกล้ติด rate X ทั้งนั้นเลยแปลกจัง ตั้งแต่ชุดของ Undead ของ Christine Feehan มาจนตอนนี้อ่าน Sothern Vampire ของ Charlaine Harris มีใครอ่าน 2 ชุดนี้บ้างไหมคะ จากคุณ : scuba734 - [ 12 ธ.ค. 47 23:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 69 คุณ Killevippen คะ ผีซ่าส์กับฮานาดะนี่เป็นเรื่องห้ามพลาดเลยนะคะ น่ารักขนาดที่พี่ซื้อเก็บสองชุดรวดเดียว (เพื่อที่จะหายพร้อมกัน T_T ) ถ้าแนวน่ารัก ตอนนี้คิดถึงเรื่องเก่าของวิบูลย์กิจ รู้สึกจะชื่อ 'ความสุขของเจ้าส้ม' มั้ง? ลายเส้นสบายตา เรื่องเบา ๆ อีกเรื่องที่เข้มข้นขึ้นมาหน่อยแต่ยังน่ารักอยู่คือ 'พี่น้องคู่วุ่น' หรือจะข้ามไปรักสัตว์ 'ยุ่งชะมัดเป็นสัตวแพทย์' ก็ดีค่ะ โหวตให้ป๋าอัจฉริยะเหมือนกันค่ะ กับ เรื่องใหม่ Wonder Boy อ่านแล้วได้แง่คิดดี ไอซ์ เท่าที่เจอ ตอนนี้มีคนแปลงานของ Michael Morpurgo มาสามเรื่องนะ แต่ไม่มีเรื่องที่ไอซ์พูดถึงแฮะ Out of the Ashes, Sleeping Sword กับ Why the Whales Came (เล่มหลังนี่เคยเปิด ๆ อยู่แล้วมันหายไปจากร้าน เลยลืม) คุณ grappa อยู่ใต้หรือคะ? อยากทราบสถานการณ์โปรยนกกระเรียนเท่าที่เห็นหน่อยค่ะ (ถ้าเห็นนกที่ใช้แบงค์ยี่สิบพับ เก็บเผื่อด้วยค่ะ กำลังยากจน) ทักทายทุกคนค่ะ พรุ่งนี้คงเปิดมาเจองานกองโตเหมือนกัน สู้ตายค่ะ! จากคุณ : ติ่ม - [ 13 ธ.ค. 47 05:36:42 A:202.183.171.131 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อรุณสวัสดิ์ครับ แฟนบึ่งรถมาส่งจากต่างจังหวัดครับเลยมาถึงเร็วกว่าที่เคย แต่แก้ตัวก่อนนะครับ...ไม่ได้ไปดูฤกษ์ครับ ไปแวะเวียนเยี่ยมเยียนผู้ใหญ่ตามประสาคนคุ้นเคยต่างหาก อะแฮ่ม...ยังไม่พร้อมถูกผูกมัดครับ...พูดถึงเรื่องผูกมัดวันก่อน แฟนเก่าสมัยเรียนปริญญาตรีโทรศัพท์มาหาบอกว่าเธอจะแต่งงานแล้ว...อืมมม์ แล้วเมื่อเดือนก่อน เพื่อนสนิทที่มีชื่อเหมือนกันกับผมเด๊ะๆๆ(ทำให้ต้องนั่งเรียนติดกันมาตลอดตอนเรียนปีหนึ่งเพราะเขาให้นั่งตามรายชื่ออ่ะครับ)ก็แต่งงานไปแล้ว...หรือว่าจะถึงเวลาสมควรแล้วหว่า???? วันหยุดยาวงวดนี้ อ่านหนังสือจบไปสามเล่มครับ...รีวิวเลยแล้วกัน... The Line of Beauty ของ Alan Hollinghurst นิยายรางวัลแมนบุ๊กเกอร์ไพรซ์ปีนี้ครับ...เล่าเรื่องของนิโคลาส หรือนิค เกสต์ เด็กหนุ่มที่สบโอกาสเหมาะได้ย้ายเข้าไปอาศัยอยู่กับครอบครัวเฟดเดนซึ่งเป็นครอบครัวนักการเมืองสังกัดพรรค Tory (หรือพรรค Conservative นั่นแหละครับ)  เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนของโทไบแอส ลูกชายของครอบครัวนี้  นอกเหนือจากโทไบแอสแล้ว ครอบครัวเฟดเดนก็ประกอบไปด้วยเจอรัลด์ และราเชล พ่อแม่ของโทไบแอส และแคทรีน น้องสาวของโทไบแอสที่มีอาการทางประสาทเล็กน้อย(หรือไม่น้อยก็ไม่แน่ใจ ฮ่าๆๆ)   นิยายแบ่งเรื่องออกเป็นสามส่วน สามตอน ตอนแรกThe Love -Chord จะเป็นการเปิดปูประเด็นของเรื่อง แนะนำตัวละครหลักๆ โดยเฉพาะตัวละครนิค ซึ่งแค่เพียงไม่กี่หน้า ก็ถูกเปิดเผยความลับที่เขาเป็นเกย์ออกมาเสียแล้ว...อย่างไรก็ดีความเป็นเกย์ของนิคไม่ได้เป็นที่เปิดเผยมากนัก และแม้ว่าคนในครอบครัวเฟดเดนจะรู้สึกแปลกๆ กับนิค แต่พวกเขาก็อยากจะคิดว่านิคเป็นพวกรักสวยรักงาม(นี่คือที่มาของคำว่า Line of beauty ครับ) เหมือนหนุ่มเจ้าสำอางทั่วไปมากกว่า  เรื่องราวในตอนแรกจะติดตามรายละเอียดของ นิคซึ่งบอกกล่าวเล่าขานตัวตนของเขาให้คนอ่านรู้จัก เปิดเผยความรู้สึกลุ่มหลงที่เขามีต่อสิ่งสวยงามรวมไปถึงความสวยงามและรื่นรมย์แบบผู้ดีชั้นสูงในสังคมที่ครอบครัวเฟดเดนหยิบยื่นให้เขาด้วย เรื่องมาจบลงที่ความรักระหว่างนิคกับลีโอ หนุ่มผิวสีที่เป็นความรักที่กึ่งๆ ต้องแอบๆ หลบๆ ซ่อนๆ   จากนั้นเรื่องก็กระโดดมายังตอนที่สอง To whom you beautifully belong? เวลาผ่านไป นิคเปลี่ยนตัวเองจากเด็กหนุ่มไร้ประสบการณ์มาเป็นหนุ่มเหน้าประสบการณ์ช่ำชอง และกำลังสนุกกับยาเสพติดและหนุ่มหน้าใหม่ที่ชื่อวานี  วานีเป็นลูกของมหาเศรษฐีชาวเลบานอนที่หน้าฉากทำตัวเป็นหนุ่มเสเพล มีคู่หมั้นสาวแสนสวย แต่ลับหลังแล้วกลับเป็นไอ้ขี้ยา ที่มีนิสัยชอบเซ็กซ์หมู่ นิคเป็นคู่ขาลับๆ ของวานี ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเพริดอยู่กับสังคมชั้นสูงที่ครอบครัวเฟดเดนยื่นส่งมาให้ และยิ่งเขามีวานีเป็นเพื่อนสนิทด้วยแล้ว ประตูอันหนาหนักของสังคมชั้นสูงก็ยิ่งเปิดให้เขาเดินผ่านไปได้อย่างสะดวกใจ (มีอยู่ฉากหนึ่งที่นิคได้เต้นรำกับมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ด้วยครับ...) ในตอนที่สองมาจบเศร้าหน่อยด้วยการเปิดเผยให้เห็นว่าลีโอ คู่รักของนิคในตอนแรกหายไปไหน...และเขาไม่ได้หายไปไหนหรอกครับแต่หนีหน้านิคไปเพราะป่วยเป็นโรคเอดส์ต่างหาก จากนั้นเรื่องก็รวบเข้าสู่ตอนที่สาม The End of street ซึ่งเป็นฉากปิดท้ายนี้เป็นบทสรุปโดยรวม หลังจากที่เกริ่นถึงโรคเอดส์มาแล้วสองครั้งในตอนที่สอง(นอกจากลีโอแล้วก็มีลุงของโทไบแอสและแคทรีนที่เป็นเอดส์ตาย) ในตอนนี้เรื่องก็ขมวดเข้าสู่ฉากปิดท้ายที่ความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เริ่มจากความจริงที่ว่าวานีเป็นเกย์ และนิคเป็นคู่ขาลับๆ ของเขา แถมทั้งคู่ยังเคยร่วมเสพสังวาสมั่วยาเสพติดกันในคฤหาสน์ของครอบครัวเฟดเดนอีกด้วย  ข่าวที่ว่าทำให้เจอรัลด์ และราเชล เฟดเดน(โดยเฉพาะเจอรัลด์) รับไม่ได้ เพราะข่าวอื้อฉาวทำให้ชื่อเสียงของเขาโฉ่ไปด้วยไม่แพ้กัน อย่างไรก็ดีนอกจากข่าวการเป็นเกย์ของวานีแล้ว ข่าวที่ตามมาติดๆ ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเจอรัลด์กับเลขานุการของตัวเองที่กระฉ่อนได้ไม่แพ้กัน เรื่องมาปิดท้ายที่นิคจำต้องระเห็จออกจากคฤหาสน์ของครอบครัวเฟดเดน เขารู้ว่าวานีเป็นเอดส์ (และตรงนี้เองที่คนเขียนฉลาดมากตรงที่เลี่ยงไม่บอกว่าแล้วนิคจะเป็นอย่างไรบ้าง เราจะได้เอาไปเดากันต่อเอง...) ฉากสุดท้ายปิดฉากด้วยการให้นิคเข้ามาเก็บของใช้ส่วนตัวของเขาในคฤหาสน์และมองข้าวของสวยงามอย่างอาลัยอาวรณ์เป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับรำพึงรำพันว่าช่างสวยเสียจริงอะไรทำนองนั้นครับ.... ยาวไปไหมเนี่ย? พยายามอ่านเต็มที่เพื่อคุณป้าเลยนะครับ ฮ่าๆๆ  สรุปหน่อย ผมว่าเนื้อเรื่องหลักๆ ของนิยายเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากครับ เป็นเหมือนการสำรวจสังคม สภาพการณ์ และการปรากฏตัวของโรคเอดส์เสียมากกว่า นิยายเล่าเรื่องไปแบบเนิบๆ มีนัยยะเสียดสีแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเสียดสีเรื่องการเมือง สังคมชนชั้นสูง (บางส่วนตรงนี้คล้ายกับเรื่อง Snobs ของ Julian Fellowes ที่ผมเคยอ่านไปแล้ว) เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ถ้าอ่านแล้วเบื่อก็อาจจะทำให้เผลอวางทิ้งไปเลยครับ เรื่องมาหักเหและสนุกมากขึ้นในส่วนที่เป็นตอนที่สองและขมวดปมตอนท้ายในตอนที่สามได้ดี แม้จะยืดยาวอยู่บ้างก็ตาม สรุปผมให้เกรดประมาณ 75-80% เป็น So-so reading ครับ อ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้... ปล. ไปอ่านรีวิวใน amazon มีบางคนก็ชม มีบางคนก็ด่าด้วยแหละครับ! แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 47 10:09:20 จากคุณ : Filippo - [ 13 ธ.ค. 47 08:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 71 OK มาต่อกันอีกสองเล่มนะครับ สองเล่มนี้ขอรีวิวแบบคร่าวๆ แล้วกัน "วีรกรรมทำเพื่อเงินภาค 3" (Three to get deadly) ของเจเน็ท อีวาโนวิช แปลโดยฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ สเตฟานี พลัมกลับมาเป็นครั้งที่สาม คราวนี้เธอจำเป็นต้องรักษาอาชีพการเป็นนักล่าพวกหนีประกันที่ดีด้วยการตามจับลุงโม เจ้าของร้านลูกกวาดและไอศครีมใจดีที่ชาวบ้านรัก การทำแบบนี้มีแต่จะทำให้ชาวบ้านเกลียดขี้หน้า แต่สเตฟานีก็ยังเดินหน้าต่อไป แต่ยิ่งหาลุงโมเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือฆาตกรรมต่อเนื่องและอันตรายที่เหมือนจะวิ่งดิ่งเข้ามาหาเธอทุกเมื่อ... ผมบอกตรงๆ ว่าอ่านแล้วเฉยๆ ไม่ถึงกับอ่านเพลินแบบวางไม่ลงแต่ก็ไม่ถึงกับอ่านแล้วเซ็งสุดขีด เป็นนิยายที่อ่านไปได้เรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุด สรุปว่าผมชอบตอนแรกมากที่สุด พอตอนที่สองก็ยังไหว ตอนที่สามผมว่าน่าจะได้ดีกว่านี้ครับ แต่ก็นั่นแหละ หนังภาคต่อมักจะทำได้ไม่ดีเท่าภาคแรกเสมอนี่ครับ อีกเรื่องนะครับ "พิมมาลา" ของแก้วเก้า เรื่องนี้เหมือนคุณป้ากับคุณติ่มเคยพูดถึงมาแล้ว ผมเองก็เคยอ่านมาแล้วตอนที่ลงในสกุลไทยครับ แต่อยากอ่านอีกเพราะอ่านนิยายที่แบบว่า So-so มาแล้วสองเล่มติดกัน สรุปก็คืออ่านเพลินครับ ใช้เวลาวันเดียวอ่านจบ...ผมว่านอกจากกฤษณา อโศกสินแล้ว ก็มีว.วินิจฉัยกุลหรือแก้วเก้านี่แหละที่เขียนเรื่องให้อ่านได้ลงตัวจริงๆ คุณ scuba734 ไม่สนใจ Vampire Chronicles ของป้า Anne Rice หน่อยหรือครับ เห็นถามหานิยายเรื่องแวมไพร์ แล้วได้อ่าน Something Rotten หรือยังครับ? ผมรอเล่มปกอ่อนอยู่นี่แหละ...ฮึ่ม! ตอนนี้ที่เอเชียบุ๊คส์เริ่มโปรแกรมซื้อสองแถมหนึ่งแล้วครับ แต่เป็นหนึ่งที่บังคับเลือกจากเล่มที่เขาจัดไว้ เมื่อวันก่อนตอนไปต่างจังหวัดกับแฟน แวะไปกินข้าวที่ซีคอน เลยจัดแจงสอยมาเสียสองเล่ม(แฟนไม่ว่าครับ ไม่น่าเชื่อ) คือ Cloud Atlas กับ Blood Canticle (ของแอนน์ ไรซ์ที่เล็งมานาน) ได้แถมมาเล่ม แฟนผมเลือก The Secret Lives of Bees ให้ ใครเคยอ่านแล้วมั่งครับ??? ไปล่ะครับ ขอไปเคลียร์งานวิจัยก่อน 11 โมงมีประชุมครับ! จากคุณ : Filippo - [ 13 ธ.ค. 47 08:16:35 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดีเช้าตรู่วันจันทร์ค่ะ คนไปเที่ยวกลับมาทำงานกันหรือยังเอ่ย ตอบคำถามไอซ์ก่อนเลย อาการที่ว่าเป็นประจำไม่เคยหายขาดค่ะ ส่วนใหญ๋ ถ้าอ่านไม่รอดจริงๆ จะใช้วิธีข้ามๆ อ่านกระโดดไปตอนจบโลด เอิ๊กส์... เห็นหลายคนคุยกันเรื่องการ์ตูน เลยนึกอยากอ่านมั่ง เมื่อวันก่อนเลยไปยืม ห้องสมุดมาเล่มนึง ชื่อเรื่อง Fruits Basket ของ Natsuki Takaya แต่ปรากฏ ว่าหนังสือต้องเปิดอ่านจากข้างหลังมาข้างหน้า อ่านแล้วงงมั่กๆ เลยค่ะ ใครเคยอ่านการ์ตูนจากหลังมาหน้า รบกวนถามหน่อยค่ะว่า เวลาอ่าน จะต้องเรียงจากซ้ายไปขวา หรือจากขวาไปซ้ายคะ Kensuke's Kingdom นี่พี่ก็ซื้อตามคำยุยงของไอซ์มาหนึ่งคน อ่านแล้ว ชอบมากๆ ค่ะ และเป็นหนังสืออีกเล่มนึงที่หยิบมาอ่านบ่อยมาก แนะนำๆๆ ค่ะ รออ่านรีวิว I'll go to bed at noon ของคุณป้าด้วยค่ะ ทักทายทุกๆ คนด้วยนะคะ ไปก่อนล่ะ ชะแวบ จากคุณ : มะวัน - [ 13 ธ.ค. 47 08:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 73 คุณโป้คะ The Secret Life of Bee ก็สนุกใช้ได้เลยค่ะ คุณไอซ์มั้งคะที่เคยมารีวิวไว้ แต่ขอบอกว่าหนูไม่ชอบตอนจบเลยล่ะ มันยังไงก็ไม่รู้ รู้แต่คนเขียนเขาจงใจน่ะค่ะ (ฮึ่ม) อีกอย่าง พอดีหยิบ The Colour Purple มาอ่านในช่วงใกล้ๆ กัน เรื่องนี้เลยกระเด็นตกกระป๋องไปอย่างไม่รู้ตัว 555 พี่มะวันคะ เวลาอ่านหนังสือกลับหลังก็ต้องสแกนอ่านจากขวามาซ้ายด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้คนไทยเขาชินไปแล้วค่ะ เพราะหลายสนพ. ใช้วิธีนี้มานานมากๆ การ์ตูนน่ารักๆ มาช่วยน้องทินาเชียร์ "ป๋าอัจฉริยะ" ด้วยค่ะ เรื่องนี้เก๋มากๆ เสียดายหลังๆ ไม่ค่อยหนุกเท่าไหร่ ถ้าการ์ตูนกุ๊กกิ๊ก นารูมิชอบเรื่อง "แค็ตตาล็อครัก" ค่ะ น่ารักดี แต่ถ้าอยากได้สไตล์ฮาๆ ประมาณผีซ่าส์ อยากให้อ่านจิบิมารุโกะค่ะ เรื่องนี้เป็นไรไม่รู้ ช้อบ ชอบ สุขสันต์วันทำงานค่ะ จากคุณ : นารูมิ - [ 13 ธ.ค. 47 09:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 74 กำลังอ่าน vampire chronicles อยู่ค่ะ ก็สนุกไปอีกแบบ คงอีกสักพักกว่าจะครบทุกเล่ม แต่ใช่ชุดรี้ไม่มี rate x เหมือน 2 ชุดที่พูดถึง something rotten ถ้ารอนาน เอาไปอ่านก่อนไหมคะ แล้วค่อยซื้อเก็บทีหลัง ถ้าสนใจส่ง address มาให้หลังไมค์แล้วจะส่งไปรษณีย์ไปให้ค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 13 ธ.ค. 47 10:42:50 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณมากครับคุณ scuba734 แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ...ตอนนี้หนังสือในกองดองมีแยะมากจนอ่านไม่ทันแล้ว แถมยังมีงานต่างๆ ที่รอให้สะสางอีก คงไว้ก่อนดีกว่า แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับ... เรื่องชุด Vampire Chronicles นี่หลังๆ มาออกทะเลสุดๆ เลยล่ะครับ เล่มล่าสุดคือ Blood Canticle นี่ถูกด่าเละประมาณว่าเจ๊ไรซ์แกต้องออกมาฉะคนที่ด่าแกและบอกว่าถ้าไม่ชอบนิยายเล่มนี้ แกก็พร้อมคืนเงินให้ด้วยอ่ะครับ ไปประชุมแล้วนะครับ! จากคุณ : Filippo - [ 13 ธ.ค. 47 10:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณคุณโป้สำหรับรีวิว the line of beauty ค่ะ ตาลอ่าน secret life of bees แล้วเหมือนกัน แต่ไม่ได้ชอบมากมายค่ะ เมื่อวานไปดูดนตรีในสวน - สวนลุมมาค่ะ อุตส่าห์ไป survey ให้ก่อนเลย สนุกดีค่ะ เพลงเพราะมากๆเลย มีคุณเสาวนิตมาเป็นนักร้องรับเชิญค่ะ วง BSO ก็เล่นได้ดีเหมือนทุกๆครั้ง เพลงที่เล่นก็มีทั้งเพลงไทย, เพลง pop, classic, เพลงพระราชนิพนธ์ เขามีจุดดอกไม้ไฟด้วย อากาศก็ดีค่ะ สนับสนุนให้เพื่อนๆลองหาโอกาสไปกันนะคะ พาครอบครัว, แฟน, เพื่อน หรือไปคนเดียวก็ได้ค่ะ (ตาลก็ไปคนเดียว) ได้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบนะคะ ประชาสัมพันธ์เต็มที่เลย อยากให้เพื่อนๆได้ไปเจอะเจอกับอะไรดีๆน่ะค่ะ ระหว่างที่ฟังดนตรี ตาลหยิบหนังสือติดไปนั่งอ่านด้วยเล่มนึง แต่สงสัยจะเลือกผิดไปหน่อย ไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศ ก็ดันหยิบ life and times of michael K - j.m. coetzee ไปเนี่ยสิ อ่านไปหน้าเครียดไป สุดท้ายเลยต้องหยุดอ่านเพราะมันหดหู่เกินไป(อีกแล้ว) แต่เป็นหนังสือที่ดีจริงๆนะคะ ไว้คงจะอ่านต่อเร็วๆนี้ ตอนนี้หยิบ bitter fruit อีกหนึ่งเล่มใน shortlist booker prize ปีนี้ค่ะ เห็นกระแส booker มาแรง ต้องขอลองอ่านบ้างสักเล่ม ท่าทางเล่มนี้ก็คงจะหดหู่ไม่แพ้กันเลยนะเนี่ย จากคุณ : Angel Eyes - [ 13 ธ.ค. 47 11:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณคุณนารูมิที่รีวิว DEAD FAMOUS ค่ะ กำลังอยากรู้เลยอ่ะว่าเล่มนี้สนุกหรือเปล่า ทำไงได้ดันติด AF เลยสนใจเล่มนี้อยู่เหมือนกัน อ.พิษณุ ศุภนิมิตร ออกหนังสือเล่มใหม่แล้ว(ออกมาซักพักแระ) ชื่อ สีเปื้อนฟิล์ม พูดถึงศิลปะที่ปรากฎในหนังอ่ะคะ ยังอ่านไม่จบแต่เท่าที่อ่าน สนุกค่ะ ได้ความรู้ด้วย แนะนำคนชอบดูหนังและชอบศิลปะ อยากรู้จักจิตรกรชื่อดังอ่ะค่ะ จากคุณ : กำจาย (กำจาย) - [ 13 ธ.ค. 47 12:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 หวัดดีอีกรอบครับ ประชุมวันนี้โดนสองเด้งแบบเครียดๆ เฮ้อ...เหนื่อยหน่ายใจ ลืมบอกไปว่าใน The Line of Beauty นี่มีตัวละครที่ไม่ปรากฏกายแต่ปรากฏนามซึ่งเป็นตัวละครที่ตัวเอกในเรื่องหลงใหลนั่นก็คือเฮนรี่ เจมส์ด้วยล่ะครับ...รู้สึกเหมือนคุณป้านี่แหละที่เคยบอกว่าปีนี้มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเฮนรี่ เจมส์มาเอี่ยวในรางวัลบุ๊คเกอร์ไพรซ์หลายเล่ม นอกจากเล่มนี้อีกเล่มก็คือ The Master ของ Colm Toibin ครับ...เล่มนี้อยู่ในลิสต์ของผมนานแล้ว เพราะผมชอบงานของเจมส์พอสมควร(ตั้งแต่อ่านเรื่อง The Wings of the dove) มีใครเคยอ่านหรือยังครับ? เห็นแวบๆ ที่เอเชียบุ๊คส์ ขยับจะซื้อมาหลายหนแล้วแต่ยังครั่นคร้ามกลัวว่าจะไม่สนุกอ่ะดิ... ไปเตรียมตัวสอนรอบเย็นก่อนนะครับ! ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : Filippo - [ 13 ธ.ค. 47 15:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แวะเข้ามาถาม ......อยากถามว่าชิคลิท นี่มันมาจากคำเต็มว่าอะไรครับ พอรู้ว่าหมายถึงแนวไหนแต่เดาไม่ถูกซะทีว่าไอ้ตรง"ชิค"หมายถึงอะไร แวะเข้ามาเล่า .....Gantzเล่ม9เค้าว่าจะเข้ามาใหม่นะครับ ลองไปหาดูได้ที่เจซีสาส์น ส่วนผมรอร้านการ์ตูนเปิดใหม่ที่siam disc ดูเค้าเอาใจใส่ลูกค้าดี(แต่ร้านประจำผมคือข้างดอกหญ้าสยาม คนขายอัธยาศัยดี ยอมฉีกพลาสติกให้ดูก่อนได้ด้วยว่าชอบหรือเปล่า) + คุณหมอกะโปโลเล่ม9ออกแล้วครับเชิญชวนไปอ่านกันครับ .....ตอนนี้มุ่งมั่นกับ ใครฆ่า(TheSculptress) อยู่ครับ จบเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังนะครับ แวะเข้ามาชวน ....อาทิตย์ที่ผ่านมาดูหนังไป2เรื่อง หมานคร กับ ocean12 ความรู้สึกชอบพอๆกันทั้ง2เรื่องคือชอบแต่ไม่มาก เรื่องหลังนี่ถ้าใครชอบ พิทท์ ละก็ไม่ควรพลาดเลยนะครับ เรื่องนี้มีเสน่ห์มากๆ (แวะไปอ่านหรือลงความเห็นได้ครับ ผมเขียนเล่าไว้แล้วทีห้องเฉลิมไทย แต่ไม่กล้าลิงค์มาเด๋วจะว่ามาโปรโมท ) ..........แล้วจะเข้ามาใหม่ครับ อากาศแบบนี้ระวังหวัดกันนะครับ ขนาดผมเองก็ยังเป็นอยู่เลยตอนนี้........... จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 13 ธ.ค. 47 18:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สวัสดีทุกคนค่ะ ขอบคุณคุณโป้ที่รีวิว Line of Beauty ด้วยค่ะ จากที่เล่ามา ติ่มคงอ่านสิบหน้าวางลืมแน่นอน อ่านรีวิวดีกว่า (เริ่มคิดถึงวรรณกรรมที่เขาเอามา retold เป็นเล่มบาง ๆ ขึ้นมาตะหงิด ๆ ... มันก็มีข้อดีเหมือนกันนิ) คุณ kil คะ เรื่องที่ติ่มแนะนำชื่อ 'บันทึกของเจ้าส้ม' ค่ะ ตอนนี้ร้านมือสองตรงข้ามมาบุญครองมีอยู่หลายเล่ม ลองไปเปิดอ่านได้ คุณ scuba คะ Christine Feehan นี่เขียนโรมานซ์เลยนี่คะ ไม่แปลกหรอกถ้าจะเจอฉากวาบหวิวในเรื่อง แต่พล็อตเขาน่าอ่านดีนะคะ Vampire Chronicles ที่อ่านอยู่นี่เป็นฉบับรวมสามเรื่องแรกใช่ไหมคะ? ติ่มเห็นออกนานแล้ว ไม่เห็นเล่ม 2 ซะที หรือว่าไม่มีในไทย? คุณมะ ห้องสมุดมีการ์ตูนให้ยืมด้วย? โอ้โห ดีจังเลยค่ะ Fruit Basket แปลไทยใช้ชื่อ 'เสน่ห์สาวข้าวปั้น' ค่ะ เป็นอีกเรื่องที่ติ่มชอบ ทั้งที่บางจุดเขาแปลงง ๆ ยังไงไม่รู้ นี่กำลังลุ้นว่าพวกสิบสองนักฉัตรนี่เขามีปัญหาอะไรกันแน่ ส่วนการอ่านนั้น ยึดหลักตรงข้ามกับปกติที่เราอ่านค่ะ หรือคิดซะว่าอ่านหนังสือจีนละกัน วันนี้ไปธุระข้างนอก เลยแว่บไปร้าน 50% ตรงข้ามมาบุญครอง เจอคนขนหนังสือถุงใหญ่มาขายเกือบสิบถุงแน่ะค่ะ แล้วเขาก็ไม่ให้รื้อ บอกให้รอเช็คก่อน (แว๊ก จะกลับแล้วอ่ะ) ติ่มเลยรอจนชม. สุดท้ายค่อยแวะไปอีกที เขายังไม่รื้อหนังสือ แต่ยอมให้เปิดมาเหล่ ๆ ได้หน่อย ติ่มคว้าได้กำลังภายในมาสองเรื่อง กับ 'หนูทดลอง' เท่าที่เห็น มีหนังสือแปลของ Amy Tan ทั้งสองเรื่อง นาร์เนียเพียบ ไมรอน หนังสือท่องเที่ยว แล้วก็สามก๊กฉบับยาขอบ พรุ่งนี้ใครว่าง แนะนำให้แวะค่ะ น่าจะมีหนังสือเยอะ (แต่สงสัยว่าเขาอาจทยอยเอามาวาง เพราะหนังสือทั้งหมดเยอะมาก) ไว้คุยกันค่ะ ใครมีสูตรคลายเครียดบ้างคะ? บอกหน่อย หมู่นี้เครียดจนฝันร้ายสองคืนแล้วค่ะ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 13 ธ.ค. 47 22:51:15 A:202.183.171.66 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณติ่มคะมันไม่ใช่หวาบหวิวแบบ romantic นะซิ มันจะออก sadist หน่อย ๆ ด้วยซ้ำไป ก็เลยข้าม ๆ ไปอ่านเนื้อเรื่อง แต่คิดว่าชอบ Southern vamp มากกว่าค่ะ Vampire Chronicles กำลังไล่อ่านใน e-book ประหยัดตังค์กับไม่รกบ้านดีด้วย เวลาเครียด ๆ ลองฝึกสมาธิดูซิคะ ช่วยได้แยะเชียว แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 47 22:57:46 จากคุณ : scuba734 - [ 13 ธ.ค. 47 22:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณทั้งคุณนารูมิและก็คุณติ่มมากนะคะ ทีนี้จะได้เริ่มอ่านซะที ว่าแต่ว่า เรื่องนี้มีหลายเล่มหรือเปล่าคะ อ่านจากที่คุณติ่มบอกดูเหมือนยังไม่จบ กลัวเก้อจัง ไม่อยากอ่านการ์ตูนเพราะอย่างนี้อ่ะค่ะ อ่านติดๆ แล้วต้องรอ ขอบคุณคุณโป้ สำหรับรีวิว The Line of Beauty เล่มนี้คงโบกมือ บ๊ายบายแน่นอน แพ้ทางหนังสือสไตล์นี้มากๆ ค่ะ เพิ่งอ่าน Do You Remember the First Time? จบอ่ะค่ะ มีใคร สนใจบ้างหรือเปล่าคะ จะได้กลับมารีวิวน่ะค่ะ อ้อ พูดถึงแวมไพร์แล้ว มีใครได้เล่มอ่าน Undead and Unwed บ้างคะ อยากรู้ว่าสนุกหรือเปล่า เอาปกมาแปะด้วย รู้สึกจะเป็นโรแมนซ์มั้งคะเล่มนี้ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 47 15:56:12 จากคุณ : มะวัน - [ 14 ธ.ค. 47 15:53:33 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ชิคลิทมาจาก Chicken Literature ฝากบอกคุณโป้ ขื่ออ่านว่าโทเบียสนะ จากคุณ : kiri - [ 14 ธ.ค. 47 18:58:59 A:203.151.225.180 X: TicketID:082161 ]

ความคิดเห็นที่ 84 หวัดดีครับผม! วันนี้โดดงานอีกแล้ว แหะๆๆ กำลังรีบเคลียร์งานวิจัยที่ละล้าละลังไม่เสร็จซักทีครับ ในที่สุดก็ทำเสร็จจนได้ เหลือแต่เก็บตกรายละเอียด สรุป ก็ส่งได้แล้ว YEAH! ขอบคุณคุณ kiri มากครับสำหรับชื่อของตัวละคร ผมก็ลังเลอยู่แหละว่าจะพิมพ์เป็นโทเบียสหรือโทไบแอสดี แต่เลือกแบบหลังเพราะฟังดูเท่ดีอ่ะครับ ฮ่าๆๆๆ เพิ่งจะรู้ว่า Chic Lit นี่มาจาก Chicken ที่แปลว่าไก่อ่ะครับ...ทำไมเขาใช่ไก่กับวรรณกรรมผู้หญิงอ่านล่ะครับ? แล้วอย่างนี้ Lad Lit ล่ะครับ ตัว Lad มาจากอะไร? อ้อ...คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ Chic Lit (ผมเขียนผิดแหง มันน่าจะ Chick มากกว่า) แปลว่าวรรณกรรมสำหรับผู้หญิงสมัยใหม่ครับ อันนี้ตามความเข้าใจผมนะ มันน่าจะเริ่มๆ มาจากนิยายผู้หญิงอย่าง Bridget Jones' Diary อะไรทำนองนั้นอ่ะครับ... คุณผมอยู่ข้างหลังคุณอีกที ผมยังไม่ได้ไปดู หมานคร เลยครับ อาจจะไม่ได้ไปดูแล้วแหละ งานยุ่งมากครับช่วงนี้ แต่เมื่อวานแฟนได้บัตรฟรี The Polar Express เวอร์ชั่น IMAX เลยไปดู ฉายเป็นสามมิติด้วย หนังดีกว่าที่ผมหวังไว้แยะ(อาจจะเพราะผมไม่ได้คาดหวังเลยก็ได้) แต่เมื่อยและปวดหัวกับระบบสามมิติครับ...มันต้องเพ่งนานไปหน่อยอ่ะ... ตอนนี้ผมกำลังอ่าน Cloud Atlas ครับ ต้องตั้งสติอ่านหน่อยเพราะเกรงว่าจะยาก...อืมม์ ไปล่ะครับ! ปล. รายชื่อผู้เข้าชิงลูกโลกทองคำปีนี้ครับ ตามลิงก์นะครับ http://www.thaidvd.net/forum/upload/index.php?act=ST&f=23&t=67370&s=1e4656dccc888ce2ccf1463c26182487 แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 47 19:38:36 จากคุณ : Filippo - [ 14 ธ.ค. 47 19:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 85 Lad มันแปลว่า boy or man Lad Lit ก็เลยเป็นวรรณกรรมเกี่ยวกับผู้ชาย (รึเปล่า) ส่วน ชิกลิท น่าจะมาจากคำว่า Chick ซึ่งเป็น Informal terms for a (young) woman หรือไม่ก็ Chic ที่แปลว่า Elegance by virtue of being fashionable จึงกลายเป็นวรรณกรรมเรื่องราวของผู้หญิงที่มีแฟชั่น หุหุหุ มั่วสุดพลัง จากคุณ : envy_econ - [ 14 ธ.ค. 47 21:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณคุณโป้เป็นพิเศษค่ะสำหรับ the line of beauty คิดอยู่เหมือนกันว่าเรื่องต้องลงเอยที่เอดส์ ตรงจุดใดจุดหนึ่งแน่ อ้อ...ชื่อ Tobias นี่ป้าถาม talking dict. รุ่น 100+kg ประจำตัวเขาออกเสียง โทไบแอส อย่างคุณโป้นี่แหละค่ะ (ทำเสียงแบบไฮโซหน่อยๆ ด้วยพอรู้ว่าเป็นลูกชายสส.พรรคอนุรักษ์นิยม) รออ่านรีวิว the master ด้วยค่ะ เรื่องนี้ป้าคงผ่านแน่ เพราะไม่เคยอ่านหนังสือของเฮนรี่ เจมส์สักเรื่อง อ้อ...ยังมี author,author ของ david lodge อีกเรื่องนะคะ ที่ว่าด้วยเฮนรี่ เจมส์ ได้ยินว่าเดิมทีก็เก็งกันว่าอาจจะได้เข้ารอบบุ๊คเกอร์เหมือนกัน เพิ่งคุยกับคุณเพติ๊ดไปไม่นานว่าในบรรดานักเขียนชาวเกย์ (เท่าที่รู้) นี่มีแต่อี.เอ็ม. ฟอร์สเตอร์นี่แหละที่เป็นขวัญใจ เพราะเขียนพระเอกได้หล่อเหลาเหลือกำลัง (พระเอกโรมานซ์ยังอายเลยนะค้า...) ดูแต่ฮิว แกรนท์ในเรื่อง Maurice ยังหล่อกว่าเรื่องอื่นตั้งหลายขุม ข้างล่างเป็นรีวิว I'll go to bed at noon ใครอยากลองเรื่องนี้เตรียมรินสุรายาเมาไว้เลยค่ะ จากคุณ : ป้า - [ 15 ธ.ค. 47 00:59:34 A:210.203.185.212 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 87 I'll go to bed at noon by Gerard Woodword เป็นเรื่องของครอบครัวโจนส์ที่ผู้เขียนคนนี้เคยนำเสนอมาแล้วในงานเขียนเรื่องแรกของเขา –August แต่ก็อ่านได้โดยไม่มีปัญหาว่าต้องอาศัยเนื้อความจากเรื่องก่อน ตั้งแต่เริ่มเรื่องเราก็รู้ว่าครอบครัวโจนส์กำลังมีปัญหาอย่างหนักกับลูกชายคนโต – เจนัส ที่ติดเหล้าอย่างแรงและมักก่อเหตุวิวาท หรือป่วนงานทุกงานที่เขามักเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อกินเหล้าฟรี เจนัสเป็นอัจฉริยะทางดนตรี แต่กลับใช้ชีวิตไม่เป็นโล้เป็นพายเปลี่ยนงานครั้งแล้วครั้งเล่า ที่สำคัญคือยังอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับพ่อแม่ และจูเลียน น้องชายคนเล็กที่ทั้งเกลียดและกลัวพี่ชาย ทุกคนในบ้านกลั้นใจรอเวลาที่เจนัสเมากลับมาทุกคืนเพราะไม่รู้ว่าเขาจะอาละวาดอะไรบ้าง แต่ความจริงไม่ใช่แค่เจนัสที่เป็นปัญหา แม่ของเจนัส – คอเลตต์ก็มีปัญหาเช่นกัน เราได้รู้ว่าเธอเคยติดเหล้า และถึงขนาดติดกาว (เพราะเมาได้มากกว่าในปริมาณน้อยกว่า) มาแล้ว และยังต้องดื่มบาร์เล่ย์ไวน์ตั้งแต่เช้ายันเข้านอนทุกวัน ส่วนจูเลียตลูกสาวแม้จะไม่ติดเหล้าแต่ก็ออกจากโรงเรียนกลางคันไปแต่งงานกับคนขายเนื้อหัวเอียงซ้ายที่เป็นเพื่อนร่วมก๊งกับเจนัส ทั้งบ้านดูเหมือนจะมีแต่พ่อ- อัลดัส ที่ไม่ได้ติดเหล้าและดื่มน้อยมาก แต่เขาก็มักฝังตัวอยู่กับหนังสือ ดูเหมือนจะพยายามหนีจากความผิดหวังในตัวลูกๆ และความเครียดในครอบครัว เมื่อเจนัสไบรอัน พี่ชายของคอเลตต์เสียภรรยาไป เขาดื่มเหล้าอย่างหนัก ด้วยความเหงาและเมากร่ำทั้งวันและคืน อาการติดเหล้าของเจนัสไบรอันหนักถึงขนาดในวันที่เหล้าหมดบ้านเขาถึงกับต้มยาขัดรองเท้าพยายามสกัดเอาแอลกอฮอลล์ออกมาให้ได้ (เขาบอกว่าไม่ได้ผลค่ะ แอลกอฮอล์ที่ได้ออกจะดำเป็นโคลนจนกินไม่ลง - กรุณาอย่าเอาเยี่ยงอย่าง) ส่วนสภาพส่วนตัวก็ออกจะน่าขยะแขยงเพราะตะแกเล่นถ่ายเละเทะ แถมกินอะไรเข้าไปก็ท้องเสีย มิหนำซ้ำยังเดินเปลือยรอบบ้านเป็นประจำ เดือดร้อนถึงคอเลตต์ต้องตามดูแลปรนนิบัติพี่ชาย ซึ่งเธอทำด้วยความยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งจนถึงขนาดพาไปฮอลิเดย์ด้วยกัน ท่ามกลางความหน่ายของจูเลียน เรื่องราวในครอบครัววนเวียนอยู่กับเหล้า ผับ การก่อเรื่องไม่รู้จบของเจนัส การเติบโตของจูเลียนที่ต้องรับรู้ทุกอย่าง และแน่นอนเขากินเบียร์ตั้งแต่อายุยังน้อย และเข้าผับกับพ่อแม่ก่อนวัยอันควร กับความรู้สึกสิ้นหวังของอัลดัส ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีที่ไป ท่ามกลางความแร้นแค้นของครอบครัวที่ต้องกระเบียดกระเสียรตลอดเวลา ชีวิตของครอบครัวโจนส์ค่อยดีขึ้นเมื่อเจนัสไบรอันตาย ทิ้งมรดกก้อนโตไว้ให้คอเลตต์ แต่เจนัสกลับทำให้เรื่องแย่ลงด้วยการใช้กำลังไล่พ่อแม่ออกจากบ้าน อัลดัสจึงตัดสินใจใช้อำนาจกฏหมายไล่ลูกชายออกจากบ้าน ขณะที่คอเลตต์กำลังจะใจอ่อน อัลดัสก็หันเข้าหาเหล้าอีกคน ทำให้เธอรู้ตัวว่าต้องดำเนินการจริงจังแน่นอนก่อนที่จะมีขี้เหล้าเพิ่มมาในบ้านอีกคน แต่วันเดียวกับที่ศาลออกคำสั่งเจนัสก็ถูกตำรวจจับข้อหาขู่ฆ่า ต้องโทษจำคุกหกเดือน และทุกคนก็ใช้ชีวิต (กับเหล้า) อย่างเป็นสุข แต่เมื่อเจนัสออกจากคุก คอลเลตต์ก็ใจอ่อนอีกครั้ง... และกว่าจะถึงตอนจบก็ต้องมีการตายกันบ้างแหละน่า (ส่วนจะเป็นใครขอไม่บอกค่ะ อ่านเอาเองก็แล้วกัน) ผู้เขียนทำให้เรามีอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้ดีค่ะ รู้สึกถึงความอับจนของพ่อ ความอัดอั้นตันใจของลูกชายคนเล็กและความไม่เอาไหนของแม่ (แต่ทำไมไม่เกลียดเธอก็ไม่รู้) ที่ชอบที่สุดคือเขาเล่าเรื่องเรื่อยๆ ไม่พยายามเร้าอารมณ์คนอ่าน ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างที่ควรจะเกิด และเป็นอย่างที่ควรจะเป็น (เมื่ออัลดัสเครียดจนคว้าวิสกี้ของคอเลตต์ไปดื่มจนเมาครั้งแรก ปฏิกริยาของคอเลตต์เป็นแบบคนติดเหล้าแท้ๆ คือโกรธที่มีคนเอาเหล้าตัวเองไปดื่ม และเมื่อเจนัสลงมือซ้อมแม่จูเลียนก็เลือกหลบเข้าห้องนอนแทนที่จะเข้าไปช่วย) ที่แปลกคือเรื่องนี้ไม่ยักกะให้อารมณ์หดหู่ มันเหมือนกับเรานั่งดูครอบครัวเพื่อนบ้านด้วยความรำคาญใจนิดๆ อนาถใจหน่อยๆ แถมตอนจบออกจะแฮปปี้เอนดิ้งเอาด้วยซ้ำ แต่ที่ประทับใจมากคือฝีมือบรรยายโวหารของผู้เขียนค่ะ เรียกว่าเข้าบ้านเจนัสไบรอันทีไรก็เหม็นหึ่งผ่านหน้ากระดาษมาเลยละ แถมมีหลายตอนที่อาจใช้เป็นคู่มือการเที่ยวผับในลอนดอนเหนือได้อีกต่างหาก และยังมีฉากหลังสภาพสังคมในสมัยที่อังกฤษกำลังเข้าสู่ยุคแธตเช่อร์ ยุคที่มีการขาดแคลนน้ำอย่างหนัก แถมให้ได้บรรยากาศเสริมมากขึ้นไปอีก โดยส่วนตัวแล้วป้าไม่ค่อยชอบเรื่องชนิดที่ตัวละครปล่อยตัวเองให้ตกเป็นเหยื่อโดยไม่ดิ้นรน (อย่างนี้) และรู้ตั้งแต่ต้นเรื่องว่าตัวละครทั้งหลายคงไม่ลุกมาเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีแน่ แต่ก็ถูกผู้เขียนชักนำให้อ่านไปจนจบจนได้ ชอบค่ะ ไม่ถึงกับชอบเป็นพิเศษ แต่ก็ดีใจที่ได้อ่าน และได้รู้จักนักเขียนฝีมือดีเพิ่มมาอีกคน แนะนำให้ลองค่ะ ไม่ถึงกับพลาดไม่ได้ แต่ทั้งเนื้อหาและอารมณ์ของเรื่องมีหลายส่วนที่ชวนให้คิดได้มากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องภาระของการเป็นพ่อแม่คน จากคุณ : ป้า - [ 15 ธ.ค. 47 01:19:46 A:210.203.185.212 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขออภัยที่ข้างบนยาวไปนิดค่ะ จะมาเสริมอีกนิดว่าคนติดเหล้าเขาเข้านอนโดยมีขวดเหล้าวางข้างเตียง พอตื่นมาก็กรึ๊บได้เลย ทำให้ป้าสงสัยว่ามีใครในทู้นี้ เข้านอนโดยมีหนังสือวางข้างเตียง และพอตื่นลืมตาปุ๊บก็คว้ามาอ่านปั๊บบ้างหรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นอาจต้องเข้าบำบัดกันหน่อย... ตอนนี้พักอารมณ์ด้วยหนังสือแฟนตาซีของ Brian Jacques ค่ะ เผื่อจะลดรอยย่นบนหน้าได้บ้าง ... ไว้คุยกันใหม่ค่ะ จากคุณ : ป้า - [ 15 ธ.ค. 47 01:28:38 A:210.203.185.212 X: TicketID:076066 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สวัสดีตอนเช้าค่ะ รู้สึกกระทู้นี้ จะวิ่งเร็วในวันทำงานนะค่ะ อิอิอิอิ ตอนนี้เพิ่งได้หนังสือมาให้จากไทย ก็เลยตะลุยอ่านอยู่ จากคุณ : นางสาว ภูมิใจ - [ 15 ธ.ค. 47 03:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 90 นอนอยู่ข้างกำแพงหนังสือเลยค่ะ กองยาวเท่าฟูก ตอนแรกสูงชั้นเดียว ตอนนี้สี่ชั้นแล้ว ...แผ่นดินไหวเมื่อไหร่ คงได้ตายคาหนังสือสักวัน ขอบคุณคุณป้าสำหรับรีวิวค่ะ เอิ้กส์ กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว แล้วไม่มีใครในครอบครัวนี้ติดการพนันหรือผู้หญิงบ้างเหรอคะ? จะได้ครบสูตรแบบไทย ๆ หวาย เช็คการออกเสียงชื่อกันด้วยเหรอคะ ติ่มรีวิวทีไร สะกดมั่ว ๆ ตามแบบที่คิดว่าน่าจะเป็นทุกที เคยเจอนามสกุล Lledo ยังสะกดโง่ ๆ ไปเลยว่า เลโด้ :P คุณมะ Fruit แปลไทยถึงเล่ม 11 แล้วค่ะ แต่ต้นฉบับญี่ปุ่นน่าจะล่วงหน้ากว่านี้เยอะ เพราะจำได้ว่าเคยเห็นในห้องการ์ตูนมีคนเล่าเนื้อเรื่องไว้ไกลกว่าปัจจุบันเยอะเหมือนกัน แต่ยังไม่อวสานค่ะ กำลังเข้าไคลแมกซ์มากกว่า (ถ้าคนเขียนไม่ยืดนะ) Undead นี่ไม่ได้อ่านค่ะ ร้องเพลงรอไปก่อน ขอบคุณคุณ scuba ค่ะ เคยหัดนั่งสมาธิค่ะ แต่นั่งแล้วเกร็ง คิดโน่นคิดนี่ตลอด ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ ตอนนี้กำลังหาหนังสือที่ทำให้ลืมโลกอยู่ค่ะ เวลาอ่านหนังสือที่ดีมาก ๆ ก็น่าจะเหมือนนั่งสมาธินะ ..เคยอ่านจากที่ไหนสักแห่ง วันนี้เปิดดู Les Miserables ทางยูบีซีไม่ทัน เสียดายมาก อยากดูฉากที่เจ้าคณะบอกว่าซื้อวิญญาณพระเอกด้วยเครื่องเงิน (รึเปล่าหว่า? จำไม่ค่อยได้) ... ทำไมไม่เห็นฉบับแปลเรื่องนี้ลด 50% บ้างเลย? ใครเคยเห็นบ้างไหมคะ? ไว้คุยกันค่ะ จากคุณ : ติ่มซำ - [ 15 ธ.ค. 47 05:53:22 A:202.183.171.82 X: TicketID:013789 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ชุด undead 3 เล่มอ่านแล้วค่ะ ขอเวลารื้อฟื้นความจำหน่อย เดี๋ยว review ให้ค่ะ ก็เกือบใช่นะคะ การอ่านหนังสือดี ๆ หรือการทำอะไรที่ทำให้ความสนใจเราพุ่งไปที่จุดเดียวจนลืมเรื่องอื่น ๆ ได้ ก็อาจจัดได้ว่าเป็นสมาธิเบื้องต้นอย่างหนึ่ง แต่มันก็ช่วยได้ เฉพะเมื่อเราทำกิกรรมนั้นอยู่ เมื่อเลิกอะไร ๆ ที่หายไปก็กลับมาอีกเท่านั้นเองค่ะ จากคุณ : scuba734 - [ 15 ธ.ค. 47 07:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 92 วันนี้จิตตกอย่างแรง เลยเดินมานั่งจ๋องๆ ข้างพี่ติ่มรอคนแนะนำวิธีคลายเครียดด้วยคน แงๆๆ ทำไมปีหนึ่งๆ มันถึงผ่านไปเร็วแบบนี้นะ มัวแต่หลงระเริง เผลอแป๊บเดียวจะสิ้นปีแล้ว เรื่องที่ต้องทำยังไม่ได้ทำอีกเยอะเลย (T^T) สงสัยเดือนหน้าจะต้องเก็บตัวจัดการสะสางเรื่องเรียนซะที (แน่ะ ดูสิๆๆๆ ยังผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ อีก) เมื่อวานอ่าน "ลูซี่ ซัลลิแวน" จบแล้วค่ะ สนุกสมกับที่พี่ปันเชียร์จริงๆ มาเรียน คียส์ เป็นนักเขียนที่อารมณ์ขันเหลือเฟือจริงๆ ตัวละครที่ชื่อว่า "กัส" ออกโรงทีไรได้ฮากลิ้งทุกที แถมพระเอกก็สุดจะ perfect เล่มนี้คนแปลแปลดีกว่าเรื่อง "นางมารฯ" เยอะนะคะ สำนวนดีขึ้นมากๆ เลย แต่ติดๆ ขัดๆ เรื่องสรรพนามนิดหน่อยค่ะ (ส่วนตัวนะคะ) แถมด้วย "ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน" ที่พี่ติ่มเคยรีวิว อ่านเรื่องแรกจบแล้วก็เข้านอน ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาจะพยายามบิลด์อารมณ์เราไว้ตามคำนำเลย ใครอยากอ่านเรื่องสยองขวัญสไตล์ญี่ปุ่นๆ ประเภทอ่านแล้วต้องคว่ำปกหนังสือ แนะนำ "ริง" เล่มแรกค่ะ *คุณโป้ & คุณป้า* ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ รีวิวกันได้ถึงลูกถึงคนเช่นเคยนะคะ *ผมอยู่ข้างหลังคุณ* ได้คำตอบจากพี่ๆ น้องๆ แล้วนะคะ เรื่องชิคลิท เท่าที่เคยผ่านตา ก็เห็นเขาใช้กันทั้งสองแบบค่ะ ทั้ง chic และ chick ขอบคุณสำหรับ Gantz กำลังลุ้นอยู่ว่าคนเขียนจะจนมุมอีท่าไหน ตอนนี้เปลี่ยนตัวละครใหม่ยกชุดอีกแล้ว *พี่มะวัน* ยกมือๆ อยากอ่านรีวิวค่ะ *พี่ติ่ม* แหะๆ เห็นเรื่อง Les Miserable ฉายเมื่อคืนเหมือนกันค่ะ แต่อยากดู Sex and the City มากกว่า เห็นว่าวันนี้จะรีรันตอนเก้าโมงกว่าๆ นะคะ จากคุณ : นารูมิ - [ 15 ธ.ค. 47 08:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณคุณป้าสำหรับรีวิวค่ะ ตาลนอนโดยมีหนังสือกองอยู่บนเตียงเลยล่ะค่ะ พอดีไม่มีหัวเตียง เลยจำเป็นต้องใช้พื้นที่บนเตียงมาวางพวกหนังสือ, กระเป๋า, อะไรงี้น่ะค่ะ ปกติจะมีประมาณ 4 เล่มวางๆไว้แล้วแต่ว่าอารมณ์ในคืนนั้นอยากอ่านแนวไหน พี่ติ่มคะ ยังไม่เคยเห็น Les Miserable ที่ร้าน 50% แต่ว่าบ้านตาลมีเล่มนี้ล่ะ ของน้องชายตาลเอง ถ้าสนใจจะยืมบอกได้นะคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยคืบหน้าในการอ่านหนังสือค่ะ ค่อยๆอ่านไปได้แค่วันละไม่กี่หน้าเท่านั้นเอง จากคุณ : Angel Eyes - [ 15 ธ.ค. 47 09:10:59 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณคุณป้ามากๆ เลยค่ะ สำหรับรีวิว I'll Go to Bed at Noon อ่านรีีวิวแล้วน่าสนใจจังค่ะ แต่ปรากฏว่าพอแวะไปดูจำนวนหน้าในอเมซอนยูเคแล้ว สงสัยคงต้องรอให้ว่างๆ ก่อนล่ะ เพราะหนาตั้งสี่ร้อยกว่าหน้าแน่ะค่ะ คุณติ่ม เรื่อง fruits basket ที่ห้องสมุดมีถึงเล่ม 6 เองค่ะ สงสัยกลับไทย ต้องไปกว้านซื้อซะละมั้งนี่ เดี๋ยวจะเขียนรีวิวมาให้นะคะคุณนารูมิ รอแป๊บบบ ช่วงนี้วิ่งหาซื้อ ของขวัญหัวปั่นมากๆ เลย รออ่านรีวิว undead ด้วยค่ะ เล่มนี้ที่ห้องสมุดรอคิวนานมากๆ รอมา สามเดือนแล้วยังไม่ได้อ่านเลย ฮ็อตจริงๆ สุขสันต์วันทำงานนะคะ...อีกแป๊บเดียวก็จะสิ้นปีแระ จะได้หยุดยาวๆ สักที มะวันเองก็อู้มาตั้งแต่เช้า ไปทำงานเหมือนกันนะคะ บายๆๆ ค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 10:06:20 แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 10:03:54 จากคุณ : มะวัน - [ 15 ธ.ค. 47 10:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 95 น้องนารูมิ คนแนะนำ lucy น่ะ เป็นพี่ติ่มนะคะ พี่ก็มีเล่ม E ยังไม่ได้ฤกษ์อ่านเลย คงเป็น Q.1 ของปีหน้า ^_^ ไปก่อนแระ งานเยอะมากเลย จากคุณ : L.I.R.A. - [ 15 ธ.ค. 47 10:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คุณป้าคะ พูดแทงใจดำเลยค่ะ ใช่เลย วางหนังสืออยู่บนเตียง หัวเตียง และเวลาพื้นที่ไม่พอก็ใต้เตียงค่ะ อ่านแล้วง่วงก็วาง สะดวกมาก ตื่นขึ้นมากลางดึก นอนไม่หลับก็เปิดไฟอ่านหนังสือ และถ้าเป็นวันหยุด ตื่นแล้วถ้ายังไม่จำเป็นต้องลุก ก็คว้าขึ้นมาอ่านต่อ ช่วงนี้ อ่านหนังสือไปได้วันละหน้าสองหน้าเหมือนตาลค่ะ เฮ้อ นับถอยหลังวันทำงานอย่างใจจดใจจ่อ เหลืออีก 13 วันแล้วค่ะ จากคุณ : tc - [ 15 ธ.ค. 47 10:05:47 A:203.151.122.232 X: TicketID:046716 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ตอบคุณป้า ก่อนนอนจะต้องอ่านหนังสือครับ แล้วด้วยที่มีอยู่จำกัด เลยต้องเอาหนังสือนอนเป็นเพื่อน แต่ตื่นขึ้นมาคว้ามับเลยเนี่ย เฉพาะเสาร์อาทิตย์ครับ วันธรรมดาไม่สามารถ (ประมาณตื่นสาย) จากคุณ : envy_econ - [ 15 ธ.ค. 47 10:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ตอบคุณป้า ของ ก็กองไว้พื้นข้างเตียงค่ะ เพราะขี้เกียจหาเวลาจะอ่าน พี่ๆๆค่ะ มาเรียน คียส์ นี้เขียนหนังสือ แนวไหนค่ะ จากคุณ : เซ็ง แอนด์ ซวย (นางสาว ภูมิใจ) - [ 15 ธ.ค. 47 11:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 99 หวัดดีครับ ยุ่งขิงจริงๆ เลยวันนี้ วิ่งรอกไปสอนแล้วกลับมาเตรียมการประชุมนักศึกษาเรื่องเลือกวิชาโท(เป็นเลขาฯฝ่ายวิชาการของโปรแกรมด้วยอ่ะครับ) เฮ้อ... ปกติผมจะวางหนังสือเล่มที่กำลังอ่านอยู่ไว้ที่หัวนอนครับคุณป้า พอตื่นลืมตาได้สติอยากจะหยิบมาอ่านก็จะได้คว้าได้พลันทันใจ...ส่วนถัดขึ้นไปอีกทางด้านทิศเหนือศีรษะคือหนังสือกองใหญ่ที่แฟนบ่นว่าถ้าวันหนึ่งมันทับจะสะใจให้ดู...และที่ใกล้ๆ ปลายเท้าก็คือกองนิตยสารที่พะเนินเทินทึกอีกหนึ่งกองครับ...พอนึกสภาพห้องนอนหนุ่มโสดออกไหมเอ่ย? ฮ่าๆๆๆ เฮนรี่ เจมส์เป็นเกย์เหรอครับ? ผมเพิ่งจะทราบนะเนี่ย(เห็นคุณป้าบอกวาบรรดานักเขียนเกย์แล้วยกตัวอย่างเทียบกับอีเอ็ม ฟอสเตอร์อ่ะ) ไปอ่านเจอมาเหมือนกันว่าแกเป็นเหมือนไมเคิล แจ็คสันคือไม่มีเพศระบุไม่ใช่เหรอ? Along the way it offers hints, no more, of James's troubled sexual identity, including his fascination with a young English manservant, his (apparently platonic) night in bed with Oliver Wendell Holmes and his curious obsession with a dashing Scandinavian sculptor of little talent but huge charisma.  อันนี้ไปเอามาจากคำวิจารณ์ใน amazon ครับ ไปทำงานก่อนนะครับ ถ้าว่างจะมาใหม่ ปล. คุณภูมิใจ แมเรียน คียส์ นี่น่าจะเป็น Chic Lit ครับ ถ้าชอบนักเขียนคนนี้แนะนำ Maeve Binchey เขียนเรื่องได้น่ารักกุ๊กกิ๊กไม่แพ้กัน... ป.ปล. ผมชิงเลขนำโชคคุณไอซ์ไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 11:38:40 แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 11:37:14 จากคุณ : Filippo - [ 15 ธ.ค. 47 11:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 100 กลับมาทันกระทู้ที่ 100 คุณติ่ม ไม่ได้ลงไปสามจังหวัดที่เขาโปรยนกกันอ่ะค่ะ เลยไม่มีนกมาฝาก แต่ก็อยู่ใกล้กันมาก ไม่รู้สึกว่าน่ากลัวอะไรน่ะคะ สื่อสมัยนี้ทำงานกันเร็วและแรง จนทำให้สถานการณ์ใต้น่ากลัวกว่าที่จะเป็น ( เอ๊ะ พูดเหมือนใคร) ไม่รู้ว่าใครเก็บนกของนายกได้หรือยัง แหม แค่สองตัว คงหายากหน่อยนะคะท่านนายก เทวา ซาตานเริ่มสนุกแล้วค่ะ เมื่อคืนนอนอ่านมาบนรถไฟ อ่านไปได้เกือบครึ่งเล่ม  มีใครได้อ่านบ้างแล้วหรือยังคะเห็นหลายคนที่นี่ชอบดาวินชี โค้ด กำลังคิดว่าสนุกมากกว่าดาวินชี่ โค้ด น่ะค่ะ อาจเป็นเพราะฉากในอิตาลี โรม ชอบอิตาลีเป็นการส่วนตัว  เคยได้ไปแหงนคอตั้งบ่าดูภาพพระจ้าสร้างอาดัม อันเลื่องชื่อที่ ซิสทีน ชาเพล ใช้เวลาเป็นวันๆ ที่วาติกัน และอีกหลายวิหารในโรม โดยเฉพาะ พาเธนอน โอยยิ่งอ่าน ยิ่งอยากไปเที่ยวอิตาลีอีกเหลือเกิน แต่มาคิดได้ว่าตอนนี้เงินยูโร แพงเหลือเกิน เลยสงบจิตสงบใจได้ อ่านหนังสือต่อดีกว่า เด๋ว จะกลับขึ้นไปอ่าน รีวิวอันหนักแน่นของคุณป้า และคุณFilippo ค่ะ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 12:47:22 แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 47 12:44:13 จากคุณ : grappa - [ 15 ธ.ค. 47 12:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ยาวแล้ว แตกกระทู้เลยแล้วกันนะคะ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K3178011 จากคุณ : นารูมิ - [ 15 ธ.ค. 47 14:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 102 หาอย่างอื่นทำ แล้วลืมและเลิกคิดอ่านหนังสือไปเลย ซักพักใหญ่ ๆ ค่อยกลับมาเริ่มด้วยหนังสือแนวใหม่ ๆ ที่ไม่เคย(คิดจะ)อ่าน จากคุณ : bogie's mama - [ 19 ธ.ค. 47 21:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 9 ม.ค. 51 15:29:04 ]