กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก K3520593
... ช่วงสัปดาห์นี้รู้สึกเหมือนติดกับค่ะ
ค้างคาวยึดโรงหนัง! เรียกได้ว่าไม่ต้องแวะโรงหนังใกล้บ้านไปจนสัปดาห์หน้า
เดินเข้าร้านหนังสือ เห็นนิยายแปลออกใหม่ 4-5 เรื่อง แต่ไม่ปิ๊ง ..แถมซ้ำกับ e อีก
Death Note เล่มใหม่ก็ยังไม่ออก แฮร์รี่ 6 ก็ต้องรออีกครึ่งเดือน
อย่ากระนั้นเลย กำจัดกองดอง กับเหลียวมองคนอื่นบ้างว่าเขาอ่านอะไรกันอยู่
ขอประเดิมด้วย 2 เล่มนี้ เล่มแรกเพิ่งอ่านจบไปสด ๆ ร้อน ๆ
* * * * * * * * * * * * * * *
The Death and Life of Charlie St. Cloud
โดย Ben Sherwood
เรื่องรักไม่ธรรมดาระหว่าง เทส แครอล ...หญิงสาวผู้ฝันจะทำสถิติล่องเรือคนเดียวไปรอบโลก เพื่อใช้ชีวิตตามคติพจน์ dive for dreams ที่พ่อผู้ล่วงลับไปแล้วสอนไว้ กับ ชาร์ลี เซนต์คลาวด์...ผู้ดูแลสุสานที่แทบไม่เคยย่างเท้าออกนอกเมือง เพราะต้องรักษาสัญญากับแซม..น้องชายที่เสียไปเมื่อ 13 ปีก่อน ในวันที่เขาเกิดนึกสนุกอยาก racing the moon ขึ้นมา
ความรักเบ่งบานในโลก In Between ซึ่งชาร์ลีสามารถมองเห็นและพูดคุยกับวิญญาณในเขตสุสานได้ แต่อุปสรรคตามมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเทสไม่สามารถอยู่กับชาร์ลีได้ ชาร์ลีพบว่าเขาไม่อาจพอใจกับโลกที่มีแค่เขากับวิญญาณน้องชายได้เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป
มีแต่ True Wind เท่านั้นถึงจะขจัดความเศร้าและความยึดติดทั้งหลายให้หมดไปจากใจ และพัดพาความสุขอันแท้จริงเข้ามาสู่ชีวิตของทุกคน
แนะนำสำหรับผู้ต้องการทำใจ และก้าวต่อไปข้างหน้าค่ะ
= = = = = = = = = = = = = =
นิยายเล่าแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้:
Introduction, (เกริ่นเรื่อง)
Racing the Moon, (อดีตความเป็นมาของชาร์ลี)
Dive for Dreams, (อดีตความเป็นมาของเทส + เริ่มเข้าประเด็น)
In Between, (ปัจจุบันของทุกคน)
True Wind (ไคลแมกซ์)
และ Afterword
... ความรู้สึกหลังอ่าน ...
คิดว่าเป็นนิยายที่เดินเรื่องได้น่าติดตาม ชวนซึ้งและถูกใจที่สุดในบรรดานิยายแนวรันทดหดหู่ที่หยิบมาอ่านระยะนี้ สรุปได้คำเดียวว่า ลงตัว ดี เนื้อเรื่องไม่เนิบนาบอ้อยอิ่ง--อ่านแล้วเศร้าเกินไป ไม่ยืดเยื้อจับโน่นผสมนี่--ชวนให้สงสัยว่านี่แนวอะไร สำนวนอ่านแล้วก็รื่นใช้ได้ สอดแทรกแง่คิดเรื่อง life after death ได้ดีในระดับหนึ่ง
ข้อเสียคือเดาพล็อตออกได้ง่าย แทบไม่มีอะไรให้ประหลาดใจเพราะคำโปรยที่ปกหลังเผยไต๋ความพิเศษของตัวเอกไปเรียบร้อยแล้ว (อ้างอิงจากเวอร์ชั่นปกอ่อนอเมริกา) หากแต่ลีลาการเดินเรื่องช่วยให้รู้สึกลุ้นอยากอ่านได้ตั้งแต่บทเกริ่น ถึงจะเดาพล็อตได้ตรงกลางเรื่องก็ยังอ่านต่อไปได้โดยไม่เบื่อ อาจเป็นเพราะเดินเรื่องได้อ่านง่ายดี แถมไม่ค่อยยาวนัก เลยอ่านจบก่อนที่จะรู้สึกอยากตัดคะแนน
เห็นข้อมูลบอกว่ามีการซื้อสิทธิ์ไปทำเป็นหนังแล้ว ...ใครไม่อยากอ่าน รอดูหนังเลยก็ได้ค่ะ คิดว่าน่าจะได้อารมณ์ไม่ต่างกัน
ภาพ: ปกซ้ายสุดเป็นปกแข็ง นอกนั้นเป็นปกอ่อนที่ออกมาหลากหลายเวอร์ชั่น
คนบ้าปกอย่างเราดูแล้วเศร้า ดันซื้อถูกเล่มขวาสุด ปกจืดมากเลย
แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 48 05:50:32