....เชิญชวนเลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมฟังเพลงและแสดงความเห็นเพิ่มเติมที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=3&month=07-2005&date=06&blog=1
PS, I Love You , รักนี้ไม่มีวันลืมเลือน(Cecelia Ahern-เขียน / ณัฏฐินี ชูเชิดศักดิ์-แปล /สำนักพิมพ์-โพเอม่า)
.....ฮอลลี่กับเจอร์รี่ เป็นคู่รักที่คบกันมาตั้งแต่วัยเด็กทั้งคู่กลายมาเป็นสามีภรรยาและก่อนที่จะเข้าสู่วัย30ปี ฮอลลี่ต้องสูญเสียเจอร์รี่ไปตลอดกาล มาจนถึงวันเกิดของเธอในปีนั้นเธอได้รับโน้ตที่เป็นลายมือของเจอร์รี่ ผู้เป็นทั้งสามี เพื่อนและคนที่เธอรักมากที่สุดพร้อมกับเนื้อความที่เป็นภารกิจบางอย่างสำหรับเธอ ในแต่ละเดือนก็จะมีโน้ตข้อความนั้นพร้อมลงท้ายข้อความว่า ปล.ผมรักคุณ โน้ตฉบับแล้วฉบับเล่าที่รอคอยการเปิดออกในแต่ละเดือน ที่ทำให้ฮอลลี่และคนอ่านเฝ้ารอด้วยความลุ้นและรวดร้าว ทั้งอยากจะให้ถึงฉบับสุดท้ายปนเปไปกับไม่อยากจะอ่านโน้ตฉบับสุดท้ายเช่นกัน เพราะไม่รู้ว่าชีวิตที่ยังเหลืออยู่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?
....ไม่น่าเชื่อว่าผู้เขียน Cecelia Ahern จะเขียนนิยายเรื่องนี้ด้วยวัยเพียง22ปี เพราะเธอถ่ายทอดความรู้สึกของหญิงสาวผู้ที่ต้องสูญเสียคนรักออกมาได้ทุกแง่มุมทั้งด้านชีวิต สังคม รวมไปถึงสื่ออารมณ์ผ่านตัวอักษรออกมาประหนึ่งว่าเธอเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ประโยคในหนังสือประโยคหนึ่งที่บรรยายความรู้สึกตัวละครไว้ได้ดีในตอนต้น คือ การใช้ชีวิตที่ไม่มีชีวิตเหลืออยู่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ชีวิตที่ไม่เหลืออยู่แล้วไม่ใช่แค่ชีวิตของคนรักที่จากไปแต่ยังมีอีกนัยยะหนึ่งนั่นคือชีวิตจิตใจของคนที่เหลืออยู่ก็สูญสลายไปแล้วเช่นกัน
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะนึกภาพว่า ชีวิตตัวเองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อคนรักของเราได้จากเราไปแล้วจริงๆ
เราจะเก็บข้าวของๆเขาและของเราสองคนไว้ที่ไหน กรอบรูปบนโต๊ะ เสื้อผ้าที่เคยแขวนอยู่ในตู้ ฯลฯ จะเก็บไว้เหมือนเดิมหรือไม่ แหวนแต่งงานจะถอดเมื่อไหร่และถ้าถอดจะทำอย่างไรกับมันต่อไป?
เพื่อนของเรามีความสุขกับคนรัก เพื่อนของเราแต่งงาน แต่เรากลับไม่สามารถรู้สึกยินดีไปกับพวกเขา ที่แย่กว่านั้นเราเองก็รู้สึกผิดที่รู้สึกแบบนี้และลึกๆไปกว่านั้นเราเองกลับรู้สึกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น คงเป็นเหมือนกับตอนหนึ่งที่ฮอลลี่พรั่งพรูความรู้สึกออกมาว่า ชีวิตของฉันดำเนินต่อไปอย่างที่ทุกคนทำไม่ได้แล้วฉันก็แกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ด้วย
บทเพลงที่เคยร้องร่วมกัน งานที่เคยไปสนุกด้วยกันเมื่อไม่มีเขาอีกต่อไปเราจะร้องเพลงนั้นได้อย่างไร ยิ่งร้องก็ยิ่งเจ็บปวด ยิ่งตอกย้ำความเป็นเราทั้งสองคนที่ไม่มีเหลืออีกแล้ว หรือเราจะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ไปตลอด
สถานที่ๆเราและเขาเคยไปร่วมกัน เราพร้อมที่จะเดินซ้ำรอยในเส้นทางเดิมอยู่อีกหรือไม่ถ้าเส้นทางนั้นไม่มีเขาเดินเคียงข้างเราอีกต่อไปแล้ว และถ้าเราต้องเดินกับคนอื่นความรู้สึกผิดที่มันถาโถมกระหน่ำเข้ามาเราจะจัดการกับมันอย่างไร
....ทั้งหลายทั้งปวงนี้คือสิ่งที่ Cecelia Ahern บรรยายออกมาได้เห็นภาพและรู้สึกได้อย่างเหมือนจริงจนน้ำตาซึมตั้งแต่ต้นจนจบ คำถามที่ตั้งไว้ข้างต้นว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรนั้น ล้วนได้รับการเฉลยอย่างแยบยลผ่านพล็อตอีกส่วนที่เป็นความฉลาดของผู้เขียนที่นอกจากจะใช้โน้ตของเจอร์รี่ในการชวนติดตามของคนอ่านไปจนถึงฉบับสุดท้ายแล้ว มันยังถูกใช้ในการเยียวยาใจ ใช้เป็นตัวคลี่คลายสิ่งที่ค้างคาใจในตัวละครให้กระจ่างชัด และทำให้เกิดพัฒนาการของจิตใจของฮอลลี่ โดยไม่ต้องอธิบายอื่นใดให้มากความให้เธอเข้าใจว่า การที่ใครบางคนตายไม่ได้หมายความว่าคนที่เหลือต้องหยุดใช้ชีวิตด้วย
......นอกจากนี้ผู้เขียนยังใส่ใจในรายละเอียดของคาแรกเตอร์ต่างๆ ให้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างมีความหมาย ไม่มีตัวละครใดที่ใส่มาเพื่อถูกทอดทิ้งแต่ทุกตัวละครจะค่อยๆคลี่คลายปมที่ขัดแย้งในตัวนางเอกและในตัวของกันและกัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ผู้เขียนใส่ความขัดแย้งแล้วค่อยๆเลาะปมนั้นออกพร้อมๆกับการคลายปมของฮอลลี่ ทำให้PS, I Love You มีหลายมุมมองให้จับต้องและทุกมุมมองนั้นต่างก็เชื่อมโยงให้กับกันและกัน
...แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้จะมีThe letterที่เป็นภาพยนตร์เล่าเรื่องเนื้อหาใกล้เคียงกัน แต่การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ผมกลับรู้สึกอินได้มากกว่ากับเรื่องราวที่ไม่เร้าอารมณ์ให้พรั่งพรูจนเกินไป ความรู้สึกขณะอ่านชนิดน้ำตาท้นพร้อมกับรอยยิ้มอยู่เป็นห้วงๆนั้นเกิดขึ้นตลอดตั้งแต่ต้นจนจบนั่นทำให้ผมอ่านทั้ง479หน้าจบภายใน2วัน หลายตอนที่เรียกได้ว่าจี๊ดไปถึงหัวใจและบางตอนก็อบอุ่นเหลือเกิน(แค่ตอนเฉลยเรื่องทัวร์สเปนผ่านการเล่าสองเหตุการณ์ก็ทะลายความรู้สึกคนอ่านได้มากมาย) เสียดายอย่างเดียวที่ตอนจบนั้นเป็นการจบที่ค่อนข้างจริงไปซักหน่อย กับเรื่องราวที่เล่ามาแบบเมโลดราม่ามาตั้งแต่ต้นทำให้ผมผิดหวังอยู่มากกับตอนจบเพราะตัวเองรู้สึกว่าไหนๆก็เร้าอารมณ์กันมาตลอดแล้วหากจะเร้าแบบสูตรสำเร็จจนจบซักหน่อยจะเป็นไรไปเชียว อย่างไรก็ดีนี่เป็นนิยายรักเล่มถัดมาจากThe Rescueของนิโคลาส สปาร์ค ที่สามารถสั่นคลอนความรู้สึกจนน้ำตาได้รับการเรียกหา
การที่ใครคนหนึ่งไม่ได้อยู่ตรงที่เดิม ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีเขาอีกต่อไป ความทรงจำที่เราเคยมีกันและกัน จะทำให้มีเธออยู่เคียงข้างฉันตลอดไป
ดังที่ประโยคที่ฮอลลี่และเจอร์รี่บอกต่อกันและกันว่า
เก็บความทรงจำที่แสนวิเศษของเราไว้ แต่อย่ากลัวที่จะสร้างความทรงจำดีๆใหม่ให้มากขึ้น
ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
ได้ยินเสียงบทเพลงที่เธอชอบฟังและทุกครั้งก็ยังแอบมีน้ำตา ยิ่งเวลารู้สึกไม่มีไม่เหลือใครอยู่ตรงนี้
ขอบฟ้าที่เรานั่งมองคราวนั้นยังมีความหมาย ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย
ชีวิตที่มันขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป
แค่ได้คิดถึงก็เป็นสุขใจ
และจะคิดถึงเธอตลอดไป
เชิญชวนมาแวะอ่านเรื่องเก่าๆเรื่องอื่นๆ +ร่วมพูดคุยแสดงความเห็นที่
http://aorta.bloggang.com
Lost in translation , เวลาที่หยุดเดินในชีวิตที่ชะงักงัน
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=04-2005&date=26&group=2&blog=1
Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=03-2005&date=26&group=1&blog=1
War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=03-2005&date=26&group=1&blog=1
จากคุณ :
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
- [
6 ก.ค. 48 17:11:06
]