Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    บันทึก...ของระริน ตอนที่1

    ตอนที่๑ ห้องสมุด

    เชียงราย จังหวัดเหนือสุดยอดในสยาม ที่ใคร ๆ ก็ว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว หากแต่ ยามบ่ายแก่ ๆอากาศ ช่างร้อนอบอ้าว จนรู้สึกเหนียวเหนอหนะ แม้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ยังไม่สามารถจะบดบังไอร้อน ได้เลย

     ทั้งๆ ที่ ก็ไม่ได้จะตั้งใจอ่านหนังสือสักเท่าไหร่ แต่ ริน ก็ลุกขึ้น และมุ่งหน้าไปยัง  “ห้องสมุด”

    ริน  เป็นเด็กสาวร่างสูงโปร่ง ผมยาวถูกรวบด้วยเชือกหนังสีน้ำตาล สวมแว่นตา กรอบสีชา คู่ใจ ภายใต้กรอบแว่นตา มีดวงตากลมโตสดใส จมูกรั้นๆ ที่ดูจะขี้งอน และดื้อดึง  รินเป็นน้องคนสุดท้องของครอบครัว เธอมี พี่ชายที่ออกจะ บ้าอำนาจ 2 คนซึ่งตอนนี้ จบวิศวะ กับสถาปัตย์ สถาบันชื่อดัง
    พี่ชายคนโตทำงานที่กรุงเทพฯ คอย ส่งค่าเทอม และค่าใช้จ่ายมาให้ ริน อย่างสม่ำเสมอ สมค่าที่เป็น น้องรักของพี่ๆ  

    ส่วนพี่ชายคนรองเพิ่งเข้ารับราชการ ที่จังหวัดลำปาง ได้ตำแหน่งค่อนข้างดี ได้สิทธิ์เข้าพัก ในบ้านพัก ของหน่วยงาน

    และมีทำเล  เหมาะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว สามพี่น้องเลยตกลงใจให้พ่อกับแม่ไปอยู่ ที่ลำปาง กับพี่ชายคนรอง และเพราะริน ได้โควต้า มหาลัยชื่อดัง ในจังหวัดเชียงราย โดยได้ทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาเรียนดี รินจึงได้รับอนุญาต ให้อยู่เชียงรายเพียงลำพัง

    และด้วยความที่ริน เป็นน้องสาวคนสุดท้องที่ คลุกคลี อยู่กับพี่ชาย  ทำให้ออกจะก๋ากั่น เกินหญิง บ้าเรียน และค่อนข้างเอาแต่ใจ ทุกคนในครอบครัวก็เลยค่อนข้าง มั่นใจว่า ริน จะต้องรับผิดชอบตัวเอง  ได้

    ในห้องสมุดของมหาลัย แอร์คอนดิชั่น ทำงานของมันอย่างเอาเป็นเอาตาย  ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก็สัมผัสได้กับความเย็นฉ่ำ  (เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย ร้อนแทบจะลมใส่อยู่แล้ว)

    “ริน  ริน   ริน” มีเสียงกระซิบแผ่ว ๆ แนนเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง โบกไม้โบกมือเรียก
    รินค่อยๆ เดินหลบบรรดาเพื่อนนักศึกษาที่มาหนีร้อน มานั่งอ่านหนังสือกันเต็มห้องสมุด

    “มาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่ชวนเราเลยละ”  รินบ่น
    “ก็เพิ่งมาถึง นี่แหละ กินข้าวกลางวันเสร็จก็รีบมานั่งอ่านเลยละ วันจันทร์นี้จะสอบแล้วเรายังท่องจำกฎหมายอาญายังไม่ค่อยแม่นเลย”    

    “จะเครียดทำไม จารย์ สอนอะไรก็สอบอันนั้นแหละ ว่าแต่ อ่านอะไรนะ อ้าว! อะไรกันก็ไหนว่าจะท่องหนังสือเตรียมตัวสอบไม่ใช่เหรอแก นั่งอ่านอะไรเนี่ย   ....รอยรักในเงามืด ”  
    “แกมีฉาก ระทึกด้วยนะ อ่านแล้วใจเต้นตึกตั๊ก”  

    “ไอ้บ้าแล้วแกจะมามัวอ่านแต่หนังสือ ยังงี้ ทำไมละ ยังท่องไม่ได้ไม่ใช่เหรอไอ้กฎหมายอาญานะ”
    “อยากรู้ต้องลองอ่านเอง ฉันหยิบมาอ่านแก้เครียดนะ อ่านกฎหมายอาญามันก็ไม่เข้าหัว ก็เลยต้องหาอะไร รีแล็กซ์ก่อนไง ลองอ่านดู ไหม ใจสั่นเลยนะแก” แล้วแนนก็ยกหนังสือ ที่กำลังอ่านอยู่ยื่นให้ริน รินทำหน้าเบ้ ผลักหนังสือออกห่าง

    หากแต่ ไอ้เหตุผลประหลาดๆ ทำให้ริน นึกอยากอ่านขึ้นมาตะหงิด ๆ แล้วหละ อะไร เหรอที่ทำให้ใจเต้นตึกตั๊ก ใจสั่น เว่อร์จัง แต่จะว่าไป รินก็ เคยแต่อ่าน จิตวิทยาอาชญากร กับกฎหมายพิจารณาคดีความอาญาเนี่ยแหละ

    หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ริน เริ่มอ่านหนังสือที่เต็มไปด้วย เรื่องราว... และนิยาย ที่ริน ชอบอ่านเป็นพิเศษ ก็คือ บรรดาหนังสือแปล ต่างๆ ซึ่งมักมีบทพิศวาส น่าตื่นระทึกเต็มไปหมด ที่บรรดานักอ่านเรียกว่า อีโรติก

    ด้วยความ อยากรู้อยากเห็น ริน จะห้ามใจยังไงไหว  หลังจากทบทวนบทเรียน รินก็มักจะอ่าน หนังสือแปล บทพิศวาส ที่แสนหวาดเสียว ทำเอาหัวใจ เฉยๆ ชาๆ กับเด็กบ้าเรียนอย่างรินเขวไปเหมือนกัน บางครั้ง ยังนึกอยากจะลองดูเสียด้วยซ้ำไป แต่ก็ไม่กล้า

    และมีบางสิ่ง ที่ทิ้งให้ริน สงสัยอยู่ตลอดเลย หากว่ารัก แล้วจะยอมทุกอย่าง รักจนไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหน ก็จะยอมทุกข์ทน เพื่อคนที่เรารัก และไอ้คำว่า “ความรักทำให้ตาบอด” มันเป็นยังไง
    บ่ายแก่ๆ ของวันสอบ ปลายภาค วันสุดท้าย   (ริน นั่งสบายอกสบายใจ อยู่ที่ม้านั่งหน้าคณะ และยิ้มให้กับ กองหนังสือข้อกฎหมาย เพราะมั่นในว่า A แน่นอน

    ปิดเทอมปลายภาคนี้ รินทราบดีว่า ห้องสมุดจะเปิด เพราะมีการลงเรียน ซัมเมอร์ รินตั้งใจจะอยู่ที่หอพัก ในมหาวิทยาลัย แทนที่จะกลับบ้าน เพื่อ อ่านหนังสือในห้องสมุด

    เมื่อนั่งรอเพื่อน จนเบื่อ เพื่อนก็ยังไม่ออกมาจากห้องสอบสักที รินจึงตัดสินใจเดินเข้าห้องสมุดเพื่อ หยิบหนังสือ แปล มาอ่าน แต่ทว่า อาจารย์ จริยา อาจารย์ประจำภาควิชา นิติศาตร์ มาเดินตรวจห้องสมุด และด้วยความสนิทสนมคุ้นเคย อาจารย์ก็เดินเข้ามาทัก ริน

    “อ่านหนังสืออะไรนะเรา ขนาด สอบเสร็จแล้วยังขยันไม่เลิกเลยนะเนี่ย เตรียมตัวคว้าเกียรตินิยมตั้งแต่ ปี 1 เลยหรือไงจ๊ะ ฤทธิรินทร์ ”   ริน สะดุ้งเฮือก ด้วยที่ว่า หนังสือที่เธออ่านวันนี้ไม่ใช่หนังสือเรียน อย่างที่อาจารย์ คิด แล้วทำไมต้องรู้สึกผิดด้วยแฮะ

    แต่คิดอีกที คงไม่เป็นอะไรมากละมั้ง ถ้า อาจาร์ยจะรู้ว่าเราอ่านนวนิยาย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ หนังสือปกขาว ละกันน่า ว่าแล้วรินก็ส่งสายตา หวานๆ ไปยังอาจารย์ จริยา  

    “เพิ่งสอบเสร็จค่ะ จารย์ขา แต่ยังไม่ถึงเวลาปาร์ตี้ค่ะ หนูก็เลย มานั่งอ่านหนังสือ เบาสมอง รอเพื่อนค่ะ จารย์ ป่านนี้ยังไม่ออกจากห้องสอบเลย ค่ะ

    อาจารย์ ก็คงพอเข้าใจ บ้างแหละว่าการอ่านหนังสือเตรียมสอบมันเครียดขนาดไหน แล้ว อาจารย์ก็เดินยิ้มๆ ผ่านไป  เฮ้อ! ดีนะที่ไม่หยิบหนังสือที่ฉันอ่านขึ้นมาดูว่า กำลังอ่านเรื่องเพลิงพิศวาส  กำลังอ่านถึงตอนสำคัญด้วยละ สงสัยคราวหน้าคงต้องยืมไปอ่านที่หอพักซะแล้วซิ

      แล้ว รินก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อไป โดยไม่รู้หรอกว่ามีใครกำลังแอบมองเธออยู่  และเธอก็ไม่รู้ตัวเลยว่า ขณะที่รินอ่านหนังสือ ริน มักจะแสดงออกทางสีหน้าจนคนข้าง ๆ รู้สึกเลยหละ

    บางครั้ง ที่อ่านถึงตอนเศร้า รินก็นั่งร้องไห้ น้ำตาไหลพรากๆ พอถึงบทที่พระเอกกับนางเอก กำลังเริงรัก กัน รินก็แก้มแดง ไปจนถึงหู

    จนกระทั่ง แนน เพื่อนซี้ แวะมารับเธอที่ห้องสมุดก่อนจะไป ทำสวยด้วยกันเพื่อไปงานปาร์ตี้ ฉลองสอบ ( จริงๆ แล้ว เป็นงานเลี้ยงส่งรุ่นพี่ปีสุดท้ายที่จะจบด้วยนะแหละ ) แต่เราก็เหมาว่ามันเป็นงานของเราปาร์ตี้สอบเสร็จ ของเด็กปีหนึ่งไปเลย มันฟังดูเท่ห์ดี ออก

    “ริน ยัยริน แกเป็นอะไรไปนะ” รินค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ พร้อมแววตา สงสัย
    “อะไร ฉัน เป็นอะไร”  

    “ก็ ฉันยืนดูแกอยู่พักหนึ่ง เดี๋ยวหน้าแดง เป็นลูกตำลึงเดี๋ยว ทำซึมเหมือนจะร้องไห้ เป็นนางเอกมิวสิค เหรอแก อ่านอะไรอยู่นะ” พูดพลางแนนก็หยิบหนังสือที่รินกำลังอ่านขึ้นมาดู
    “เอ้อ  ก็ ไอ้นิยายที่แก อ่านพักก่อนไง”

    “อ้อ! งั้นฉันรู้ละ อินจัดละซิท่า เรื่องอะไรละเนี่ย”
    “น่า อย่าเพิ่งสนเลยว่าแต่จะไปกันหรือยังละ นั่งรอแกตั้งนานแล้วนะเนี่ย จะเอา เอบวกหรือไงก็ไม่รู้ ทำข้อสอบไม่เสร็จสักที ฉันนั่งรอแกตั้งครึ่งชั่วโมงได้มั้ง”

    “ก็ใครจะไปฉลาดอย่างแกละ”
    “ไม่ตั้งใจเรียนเอง อย่ามาโบ้ย เลย ถ้าตั้งใจเรียนตอน จารย์ สอนตั้งแต่ทีแรกนะ แทบจะไม่ต้องอ่านเลย อาจารย์ เหมือนบอกโน้ตย่อของข้อสอบอยู่ นั่งทำข้อสอบอยู่ได้ตั้ง 2 ชั่วโมงเต็ม บ้าหรือเปล่า”

    “ก็มันจำไม่ได้  นี่หน่า ข้อกฎหมายงี้ โอ้ย! มั่วเอาก็ตั้งเยอะ ตายแน่เทอมนี้”
    “ช่างมันเหอะ ได้ยินว่าวันนี้มีเต้นรำด้วยนะ ไปสนุกกันดีกว่า อย่าไปคิดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ถ้าเจ็บใจ เทอมหน้าก็เอาใหม่ละกันนะเพื่อน”

    ทั้งสองก็มองหน้ากันแบบปลง ๆ

    “อือ คงต้องเป็น ยังงั้นนะแหละ ไปทำสวยกันเถอะ”

    จากคุณ : nany_happy - [ 12 ก.พ. 50 16:19:46 ]


 
 


หน้าหลัก แจ้งลบ bookmark ส่งต่อกระทู้ พิมพ์ โหวตกระทู้ เก็บเข้าคลังกระทู้ กระทู้ก่อนหน้า กระทู้ถัดไป

[กติกามารยาท] [Help & FAQ
ความคิดเห็น : คลิกที่นี่เพื่อใช้งาน icon
ชื่อ : ตรวจสอบสถานะของ member ที่นี่

ไฟล์ประกอบ : (ไม่เกิน 150 K / Member เท่านั้น / Preview ไม่ได้)
(gif, jpg, png, mid, wav, mp3, wma, swf)

วาดภาพประกอบ : คลิกเพื่อวาดภาพประกอบ
(ข้อควรระวัง : ต้องทำก่อนขั้นตอนอื่น มิฉะนั้นข้อความที่พิมพ์ไว้ และค่าที่เลือกจะหายไป - ใช้ได้เฉพาะสมาชิก)

แตกประเด็น : ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่

  : ไม่อนุญาตให้แสดงผลผ่านระบบมือถือ
 
(ส่งไฟล์ประกอบ และวาดภาพประกอบ Preview ไม่ได้)  
 
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom