มังกรสอนลูกสาว ตอน หลังสิ้นเสียงปืนในรั้วโรงเรียน
ขอไว้อาลัยกับเหตุการณ์ในมหาวิทยาลัย Virginia Tech
ด้วยบทความตอนนี้
ผู้ประพันธ์ หลิว ยง
ผู้แปล อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
ถ้าไม่มีคนถูกรังแก ไม่มีคนถูกเหยียดหยาม
ไม่มีคนถูกกีดกัน ไม่มีคนอาฆาตแค้น
มีแต่ความรัก ความเอาใจใส่แล้วละก็...
คดีฆ่าสังหารในรั้วโรงเรียน จะเกิดขึ้นได้หรือ ?
หลังสิ้นเสียงปืนในรั้วโรงเรียน
คุณครูสั่งว่า ถ้ามีเพื่อนนักเรียนข่มขู่เรา ต่อให้เป็นการล้อเล่น ก็ต้องบอกให้ผู้ใหญ่ทราบ
พอลูกเดินเข้าประตูบ้านมาก็พูดขึ้นทันที จากนั้นก็มองตรงมายังพ่อกับแม่
และพ่อกับแม่จะฟังเล่น ๆ ไม่ได้ พ่อกับแม่ต้องตั้งใจฟังนะ
หมายความว่ายังไง ? พ่อไม่เข้าใจ
คุณครูบอกว่า เมื่อไม่กี่วันก่อน มีเด็กนักเรียนชายก่อเหตุยิงปืนในโรงเรียน Santana High school เด็กชายคนนั้นได้บอกกับเพื่อนถึงสี่คนว่าจะพกปืนมาโรงเรียน แต่เพื่อน ๆ พวกนั้นคิดว่าเขาพูดเล่น เลยไม่มีใครบอกผู้ใหญ่ ผลสุดท้ายทำให้มีคนตายสองคน บาดเจ็บอีกสิบสามคน
ต่อจากนั้นลูกก็หยิบข่าวหลายฉบับที่คุณครูตัดแจกออกมา ในนั้นยังขีดเส้นใต้ ทำเครื่องหมายตรงส่วนเนื้อหาสำคัญเอาไว้ด้วย คุณครูสั่งว่านอกจากต้องอ่านให้ละเอียดแล้ว ยังต้องเขียนรายงานหลังการอ่านส่งด้วย
พ่อรับข่าวนั้นมาพลิกอ่าน ในนั้นเขียนว่าเด็กนักเรียนชายคนที่ก่อเหตุ เนื่องจากเขามีรูปร่างเล็ก หูกาง เสียงเล็กแหลม จึงมักถูกเพื่อนล้อเสมอ นักเรียนคนอื่นนอกจากทุบตีเขา ขโมยของเขา ซ้ำยังถ่มน้ำลายใส่เขา เอาปืนฉีดน้ำบรรจุน้ำปัสสาวะยิงใส่เขา
ในข่าวยังรายงานอีกว่า บรรดา หางแถว ที่มักถูกเพื่อนนักเรียนกีดกัน ถูกหาว่าเป็นหนอนหนังสือบ้าง เป็นไอ้กระจอก บ้าง เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุรุนแรงได้มากที่สุด
เพราะฉะนั้น ต่อไปไม่ควรรังแกเพื่อนนักเรียน พ่อพูดอย่างถอดใจ
ปรากฏว่า ลูกกลับเอ่ยขึ้นเสียงดังว่า การรังแกเพื่อนนักเรียนเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอยู่แล้ว! เจ้าสองคนที่ถ่มน้ำลายใส่ เอาฉี่มาฉีดใส่ ถูกยิงตายทั้งคู่ สักครู่หนึ่ง ลูกก็พูดอีกว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียน ที่นักเรียนคนที่ถูกรังแกเคยไปฟ้องเขา แต่เขาไม่ยอมรับฟัง ซ้ำยังด่ากลับ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ ก็ถูกยิงบาดเจ็บด้วยอีกคน
********
ฟังลูกบ่นเป็นกระบุง เอาละ! ถึงตาพ่อพูดบ้างแล้ว---
ลูกบอกว่าลูกไม่มีวันรังแกเพื่อน พ่อก็เชื่อว่าลูกไม่มีวันรังแกเพื่อน แต่ลูกกล้าปฏิเสธมั๊ยว่า ลูกไม่เคยกีดกันหรือรังเกียจเพื่อน ?
ลูกเล่าให้พ่อฟังบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือว่าไม่ถูกใจเด็กผู้ชายคนไหน เพราะเขาเกเรเกินไป ลูกไม่ชอบใจ หากเขาเข้ามายั่วลูก ลูกก็จะเตะเขา แล้วยังมีนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่ง ที่ลูกบอกว่าเธอปลิ้นปล้อน ช่างแสดงอีกล่ะ ?
ในทางกลับกัน ลูกก็จะชื่นชมคนบางคนเป็นพิเศษ มักจะอยู่เป็นกลุ่มกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แม้กระทั่งเวลาขึ้นรถ ก็ต้องไปเบียดอยู่ด้วยกัน
ลูกรู้มั๊ย ? บางครั้งแม้กระทั่งการย้ายที่นั่ง ก็อาจกลายเป็นการรังเกียจกีดกันแล้ว
********
เล่าเรื่องจริง ๆ ให้ลูกฟัง---
หลายปีก่อน พ่อได้ตั้ง ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาวัยรุ่น ที่เมืองไทเป
มีนักเรียนระดับมัธยมจำนวนมากมาคุยกับพ่อ เพื่อระบายเรื่องที่พวกเขากลัดกลุ้มเป็นทุกข์ที่สุด
นักเรียนหญิงคนหนึ่ง โตกว่าลูกนิดหน่อย พูดไปก็ร้องไห้ไป สาเหตุก็คือเธอถูกเพื่อนนักเรียนหญิงคนอื่น ๆ ในห้อง รังเกียจกีดกัน
โดยสาเหตุที่ถูกรังเกียจกีดกันนั้น เป็นเพราะครั้งหนึ่งเธอขึ้นรถประจำทางแล้วนั่งผิดที่ผิดทาง
กล่าวคือ วันนั้นเธอขึ้นรถประจำทางพร้อมกับเพื่อน ๆ นักเรียนหญิงคนอื่น ๆ บนรถมีที่ว่าง แต่บังเอิญคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่ว่างตรงนั้น เป็นนักเรียนหญิงอีกคนหนึ่งที่เพื่อน ๆ ในกลุ่ม ของเธอไม่สู้จะชอบหน้าเท่าไหร่นัก
นักเรียนหญิงกลุ่มนั้นจึงพูดกันว่า ยัยตัวแสบนั่งอยู่นั่น พวกเราอย่าไปนั่งด้วยนะ
แต่หนูคนนี้เห็นว่าเก้าอี้ตรงนั้นยังว่างอยู่ และ นักเรียนหญิงคนนั้น มองมาที่เธอด้วยสายตาเชื้อเชิญ เธอจึงเดินเข้าไปนั่งด้วย
นับแต่นั้นมา เพื่อน ๆ ที่เคยดีด้วยก็บึ้งตึงใส่เธอทันที โดยจัดให้เธออยู่ในบัญชียัยตัวแสบด้วยอีกคน หนูคนนี้เสียใจถึงกับนอนไม่หลับหลายคืน จนกระทั่งอยากฆ่าตัวตาย
ลูกคิดดูสิ แม้แต่การนั่งรถประจำทาง ก็อาจแสดงถึงการรังเกียจกีดกัน อาจเป็นการทำร้ายคนอื่น หรือถูกคนอื่นทำร้ายได้แล้ว
********
ลูกรัก ลูกกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่น
วัยรุ่นก็เหมือนกับฤดูใบไม้ผลิ กำลังสบาย กำลังน่ารัก ทำให้ลูกอดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งออกไปสูดอากาศ สัมผัสความรู้สึกสดชื่นของความอบอุ่นที่เหมือนกับดอกไม้กำลังจะผลิบาน
เด็กในช่วงวัยรุ่น จะค่อย ๆ มีความคิดเป็นของตัวเอง เริ่มรู้สึกว่าคำพูดของพ่อแม่ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป กลับกลายเป็นว่าคำพูดของเพื่อน ๆ ฟังดูดีมีเหตุผลมากกว่า
ลูกจะตื่นเต้นดีใจ เมื่อพบว่าเพื่อน ๆ ของลูกส่วนใหญ่มีความคิดแบบเดียวกันกับลูก อะไรที่พ่อกับแม่ไม่ยอมเห็นใจ เพื่อน ๆ ของลูกจะเห็นใจ พวกเขาจึงจะเป็น คนรู้ใจ ของลูก
พอนานเข้า ลูกก็เริ่มมีความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ยอมเล่าให้พ่อแม่ฟัง แต่ไปเล่าให้คนรู้ใจของลูกฟัง
และแล้ว พวกลูกก็จะค่อย ๆ จับกลุ่มกันเป็นวงเล็ก ๆ คนที่ นิสัยใจคอตรงกัน ก็มักจะอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม สำหรับคนที่มีความเห็นไม่ตรงกับพวกของลูก แม้กระทั่งใครที่มีเสียงตลกหน่อย สีผิวแตกต่างกันหน่อย หรือแม้แต่ใครที่ทางบ้านของเขามีกฎระเบียบพิเศษกว่ากันหน่อย ก็จะถูกกีดกันให้อยู่นอกวงเล็ก ๆ ของพวกลูก
ลูกรัก ลองคิดดู ถ้าหากวันใดวันหนึ่ง ลูกจับกลุ่มเป็นวงกับเพื่อนเช่นกัน บรรดาเพื่อน ๆ ที่ถูกพวกลูกกีดกันอยู่นอกวง จะรู้สึกเสียอกเสียใจมั๊ย ?
พวกเขาอาจจะแอบร้องไห้ รู้สึกอ้างว้าง ว้าเหว่ รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมาย
ลูกรู้มั๊ย ? บางทีเมื่อผลการเรียนของเพื่อนลูกจู่ ๆ ก็ตกฮวบ แววตาฉายแววโกรธแค้น นับวันก็ยิ่งตีตัวออกห่างจากผู้คน ใครจะรู้... เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ลูกอาจมีส่วนเกี่ยวข้องก็เป็นได้!
********
ลูกรัก พ่อก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน ตอนนั้นพ่อเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมต้าถง มักจะเดินกลับบ้านเป็นกลุ่มกับเพื่อน ๆ ทางถนนซินเซิงตอนใต้
แต่ว่าพวกเราไม่เคยให้เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งร่วมวงด้วย ถ้าพวกเราเห็นเขาเดินอยู่บนทางเดียวกัน ก็จะจงใจเดินให้ช้าลง เพื่อทิ้งระยะห่างให้มากขึ้น และบางทีพวกเราก็จะแอบปาดินโคลนใส่เขาเสียด้วยซ้ำ
พวกเรายังกุเรื่องขึ้นต่าง ๆ นานา เป็นการเสียดสีเพื่อนนักเรียนคนนั้น กล่าวหาเขาว่า แม้แต่ลิงที่เขาเลี้ยงอยู่ที่บ้านยังงกเหมือนเจ้าของ ซ้ำยังโลภมาก ครั้งหนึ่งมีเพื่อนไปที่บ้านเขา ทำเหรียญห้าสิบสตางค์หล่นลงพื้น เจ้าลิงตัวนี้รีบกระโดดลงไปคว้าหมับแล้วกลืนลงท้องทันที เพื่อนคนนี้โกรธมาก วิ่งไปบีบคอเจ้าลิง ปรากฏว่ามีเสียงกรุ๊งกริ๊ง เจ้าลิงคายเหรียญคืนออกมาตั้งหลายสิบเหรียญ
ภายหลังพ่อมักจะคิดทบทวนบ่อย ๆ เพื่อนนักเรียนคนนั้นเขาทำอะไรผิดหรือ ? เขาไม่มีอะไรเสียหายเลยแม้แต่อย่างเดียว เพียงแค่ช่างอ่านหนังสือ เมื่อไหร่ที่ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ ก็จะไม่สนใจใคร ซ้ำยังไม่ยอม บอกคำตอบ เพื่อน ๆ ตอนสอบเลย
เขาทำถูกแล้ว ไม่ได้ผิด แต่ทำไมพ่อจึงกีดกันและรังเกียจเขานักนะ ? ทำไมทุกคนต้องช่วยกันกุเรื่องใส่ร้ายเขาด้วยนะ ?
พ่อยังคิดถึงอยู่บ่อย ๆ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนนะ ? ยังจะมีโอกาสได้พบกันอีกมั๊ยนะ ? พ่อรู้สึกติดค้างเขามากมาย
********
ลูกรัก ! โลกเราช่างกว้างใหญ่ไพศาลนัก ได้พักอาศัยอยู่ในเขตเดียวกัน ได้เข้าเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน ถือเป็นบุญวาสนาที่ทำร่วมกันมาจริง ๆ
เพราะฉะนั้น ขณะที่คุณครูของลูกบอกพวกลูกว่า เมื่อมีใครข่มขู่ลูก ต้องรีบแจ้งให้ครูและผู้ปกครองทราบทันที เพื่อทางโรงเรียนจะได้พักการเรียนพวก นักเรียนเลว เสีย
ขณะที่ สมาคมผู้ปกครอง กำชับให้ทางโรงเรียนติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยหรือกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงภายในโรงเรียน
สิ่งที่พ่อคิดอยู่ กลับเป็นการสอนวิธีการเอาใจใส่เพื่อน ๆ ให้กับลูก---
เวลาที่ลูกหัวเราะตัวงอกับเพื่อน ๆ ทั้งกลุ่ม จงสังเกตคนที่แอบยืนหลบมุมไม่หัวเราะกับใคร เวลาที่ลูกดีอกดีใจเพราะความสำเร็จ จงหันไปให้กำลังใจคนที่ล้มเหลว เวลาที่มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาจากโรงเรียนอื่น อย่าไปกลัวว่าเขาจะเรียนตามเพื่อนไม่ทันแล้วจะทำให้ผลการเรียนเฉลี่ยของห้องต้องตกลง แต่จงคิดดูว่าหากวันหนึ่งเราเองก็ต้องย้ายโรงเรียน เราจะต้องเจอกับอุปสรรคทำนองนี้บ้างมั๊ย?
อีกอย่างหนึ่ง เมื่อลูกนั่งอยู่บนที่ว่างที่หนึ่ง เห็นคนอื่นกวักมือเรียก ก่อนที่ลูกจะลุกขึ้นย้ายที่นั่ง ลูกควรเอ่ยปากขอตัวกับคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ลูกว่า ขอโทษนะคะ! ทางโน้นเขาอาจต้องการหนู ถ้าคุณไม่ว่าอะไร หนูขอตัวไปนั่งทางโน้นนะคะ
ลูกคิดดูสิ ถ้าไม่มีคนถูกรังแก ไม่มีคนถูกเหยียดหยาม ไม่มีคนถูกกีดกันรังเกียจ ไม่มีคนอาฆาตแค้น มีแต่ความรัก ความเอาใจใส่แล้วละก็ คดีฆ่าสังหารในรั้วโรงเรียน จะเกิดขึ้นได้หรือ ?
แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 50 20:02:30
จากคุณ :
beer87
- [
20 เม.ย. 50 00:45:13
]