ความคิดเห็นที่ 1 ตอบอย่างกำปั้นทุบดินว่าเรื่องที่ชอบค่ะ ส่วนเรื่องไหนจะเรียกว่าชอบ ก็ลองดูที่ - เคยอ่านฉบับภาษาไทยแล้วชอบ - เคยอ่านของนักเขียนคนนี้แล้วชอบ - เคยดูหนังที่ทำจากหนังสือเล่มนี้แล้วชอบ - เพื่อนเล่าพล็อตให้ฟังแล้วชอบ - อ่านเรื่องย่อจากเน็ทแล้วชอบ - ไปยืนอ่านหลังปกแล้วชอบ ถ้าไม่แน่ใจว่าจะอ่านไหวไหม ลองเปิดอ่านสองสามหน้าแรก แล้วก็หน้าที่ 69 ดู ถ้าอ่านไหว ชอบ สนุก ก็ลองซื้อมาอ่านค่ะ ถ้ายังไม่อยากจ่ายเต็ม เดินหาตามร้านหนังสือมือสองก่อนก็ดี ส่วนเรื่อง The Firm ถ้าคุณชอบกริแชม และมีความรู้พื้นฐาน เรื่องกฎหมายอยู่บ้าง ก็น่าจะพออ่านได้มังคะ เราก็อ่านเมื่อ นานมาแล้ว จำไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะว่ายากง่ายขนาดไหน (รวมทั้งไม่เคยสอบโทอิค และบอกศาลากับหนังสือ ตากริแชมไปนานแล้ว) แต่ถ้าจะเอานิยายรักน่ารักๆ ก็แนะนำ Meg Cabot ค่ะ สนุก น่ารัก อ่านง่าย และมีขายอยู่เสมอ แถม: ที่ไม่แนะนำอย่างแรงสำหรับมือใหม่คือพวกนิยาย คลาสสิคที่หมดอายุลิขสิทธิ์แล้วทั้งหลาย พวกเพนกวิน เล่มละ 95 บาทน่ะ อย่าเห็นแก่ของถูก (จริงๆ มี edition แพงๆ เหมือนกัน นั่นก็ไม่แนะนำค่ะ) นิยายพวกนี้ศัพท์ยาก สำนวนยาก วิธีการเล่าเรื่องซับซ้อน อ่านแล้วบั่นทอน กำลังใจเปล่าๆ รออีกสักห้าปีสิบปีค่อยไปอ่านก็ยังไม่สายค่ะั ปล. เราเริ่มอ่านจากอกาธา คริสตี้ค่ะ รับประกันว่าอ่านง่าย ถ้าชอบแนวนี้ก็แนะนำค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 50 22:44:18 จากคุณ : the grinning cheshire cat - [ 23 พ.ค. 50 22:40:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามา cheer อากาธาค่ะ จากคุณ : ltoeyl - [ 24 พ.ค. 50 00:10:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากแนะนำนิยายของ Nicholas Sparks ทุกเรื่องค่ะ ทุกเรื่องเลยจริงๆ Sparks ใช้ภาษาง่ายๆ อ่านสบายๆ อย่างเช่น The Notebook The Wedding A Walk to Remember The Rescue The Guardian True Believer Dear John ของ John Grisham แต่ละเรื่องค่อนข้างยาว หลายๆเรื่องมีศัพท์เกี่ยวกับกฎหมายรวมอยู่ด้วย อาจเข้าใจยากนิดถ้าไม่คุ้นเคยนะคะ ชอบนิยายของเขาทุกเรื่องเหมือนกัน เหตุหนึ่งก็เพราะชอบเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย เกี่ยวกับการว่าความ เคยได้รับเลือกเป็นลูกขุนคดีแพ่งคดีหนึ่ง คนอื่นบ่นว่าเสียเวลาทำมาหากิน แต่ตัวเองชอบมากๆ เสียดายก็อยู่ตรงที่ว่าไม่ใช่คดีอาญา ไม่งั้นคงสนุกกว่านั้น ตอนที่ได้เป็นลูกขุน ก็เรียนรู้ศัพท์เกี่ยวกับคดีความมาเยอะ ทำให้อ่านนิยายของ Grisham กับ Scott Turow สนุกขึ้นอีกหลายเท่า พอเสร็จคดีนั้นก็ไปเอา Presumed Innocent ของ Scott Turow มาอ่านอีกรอบ ถ้าชอบเรื่องเกี่ยวกับคดีความ ก็อยากแนะนำนิยายของนักเขียน 2 คนนี้ค่ะ ไม่มีนักเขียนคนไหนอีกแล้วที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับศาล คดีความ กฎหมาย ได้สนุกเท่า 2 คนนี้ ของ John Grisham ที่อยากแนะนำก็มี A Time to Kill (เรื่องนี้สนุกมากๆๆ) The Rainmaker The Runaway Jury The Street Lawyer The Brethren The Last Juror แล้วก็เล่มใหม่ล่าสุดของเขา เป็น non-fiction ชื่อ The Innocent Man ค่ะ ของ Scott Turow อยากแนะนำ Presumed Innocent The Burden of Proof Ordinary Heroes เรื่องอื่นที่อยากแนะนำนะคะ Snow Falling on Cedars ของ David Guterson (นิยายเรื่องนี้ได้รางวัลเยอะแยะไปหมด) ใช้ภาษาสวยมาก บรรยายสภาพแวดล้อมของสถานที่เกิดเหตุ ของเกาะที่เกิดเหตุในฤดูหนาวแล้วให้ความรู้สึกหนาวเยือกจริงๆค่ะ Memoirs of a Geisha ของ Arthur Golden ตัวละครในเรื่องนี้อาจเหมือน cardboard ไปหน่อย คือแบนราบ มีด้านเดียว นางเอกก็แสนจะน่าสงสาร นางร้ายก็ช่างร้ายเหลือ เหมือนนางอิจฉาในนิยายไทยสมัยก่อนยังไงยังงั้น แต่เป็นเรื่องที่เก็บรายละเอียดได้เยี่ยมจริงๆค่ะ นิยายเรื่องนี้ยาวหน่อยนะคะ ขนาดตัวเองเป็นคนอ่านหนังสือได้เร็ว นั่งอ่านเรื่องนี้ตอนขามาเมืองไทยคราวหนึ่ง ก็ใช้เวลาอ่านบนเครื่องบินตลอดเดินทางหลายๆชั่วโมงนั่นแหละค่ะกว่าจะจบ ตอนนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ ถ้ากระทู้นี้ยังไม่ตกไปข้างล่างไกลมากๆ นึกเรื่องไหนออก จะมาบอกอีกค่ะ คือเป็นคนที่อ่านนิยายเยอะน่ะค่ะ อ่านแล้วก็ชอบแนะนำให้คนอื่นได้อ่านด้วย นิยายที่เป็นภาษาอังกฤษที่ขายอยู่ที่เมืองไทยแพงไหมคะ ถ้าแพง คือปกติไปเมืองไทยปีละครั้งสองครั้ง ขาไปก็นั่งอ่านนิยายไปด้วย ส่วนมากก็จบก่อนถึงกรุงเทพ อ่านจบแล้วก็ทิ้งไว้ที่เมืองไทย มาเมืองไทยคราวต่อไปก็อยากส่งไปให้ค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียตังซื้อ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 24 พ.ค. 50 02:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เดี๋ยวนี้นานมีเอาหนังสือพวกนักสืบง่ายๆมาแปลเช่น Daddy's Little Girl ของMary Higgins Clark เรื่องนี้นะ ภาษาอังกฤษอ่านง่ายดี แต่เรื่องที่ยากโหดๆสุดๆที่นานมีเพิ่งเอามาแปลก็คือเรื่อง Hannibal Rising ของ Thomas Harris มันยากเสียจนนักแปลซึ่งทีแรกมีตั้ง 4 ตาแน่ะ แต่พอแปลเสร็จกลายเป็นมี 6 ตา ....แปลๆไปนะ นักแปลเกือบจะพ๊ะบู๊กะกับแฟนเธอเนื่องจากว่าแฟนเธอไม่ให้กำลังใจเธอ (แบบว่า ตีนไม่พายแต่เอาหัวราน้ำ) โดยการทำให้นักแปลท้อใจโดยพูดว่า "แปลไปทำไมกันฟระยากฉิบหายเลย" หนังสือของ Agatha Christie โครตยากมั่กๆเลย ใครอ่านได้รู้เรื่องนะ เราว่าต้องเก่งสูสี native speaker เลย ลองไปอ่านบทวิเคราะห์ที่เราวิเคราะห์หนังสือเล่มหนึ่งของ Agatha Christie เอาไว้ดิ แล้วประมาณการดูว่าภาษาอังกฤษคุณเจ๋งจริงๆอย่างที่คิดไว้หรือเปล่า ในกระทู้นั้น เราใช้ชื่อว่า sensitive reader ตอนนั้นเราใช้ login name คือ chatterbot พอเปิด blog ได้ไม่กี่วันก็โดนแฟนเก่าเราเข้ามาถล่ม เลยปิด blog หนี ....ตอนนี้ ไม่หนีแล้วจะเข้ามา discredit เรากี่รอบก็ไม่กลัว เพราะว่าเราไม่ได้แปลหนังสือแล้ว (ไม่กลัวเสียชื่อ) ถึงแปลหนังสือต่อ (ซึ่งอาจจะทำ) ก็ไม่กลัวหนังสือขายไม่ได้ เนื่องจากขายได้ไม่ได้มันขึ้นอยู่กับการตลาดของ สนพ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับเขียนหรือไม่เขียน blog หรือกระทู้ดีๆ ......แต่ถ้าเราโดนแฟนเก่าเราถล่มมากยิ่งๆขึ้นเราก็อาจเปลี่ยนเป็นเขียนนิยายขาย ว่าตัองขายดีเพราะคนเขียนมีเรื่องอื้อฉาวก็ได้......แบบ Madonna ทำตัวเองให้อื้อฉาวจนดัง ...55++ ลองตาม link ข้างล่างเข้าไปอ่านดู แล้วจะเห็นว่า หนังสือ Agatha Christie มันไม่ง่ายอย่างที่หลายๆคนคิด http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/K3954683/K3954683.html แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 50 09:54:15 จากคุณ : tansy (iwrite4u) - [ 24 พ.ค. 50 09:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ tansy คะ ชื่นชมคนที่แปลหนังสือค่ะ เพราะคิดว่าเป็นงานที่ยาก ถึงตัวเองจะไม่อ่านหนังสือแปล แต่ก็คิดเสมอว่าทำกันได้อย่างไร คือภาษาทุกภาษาในโลก คำทุกคำมันดิ้นได้ มัน dynamic ความหมายเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ คำๆเดียวกันในสมัยก่อนมีความหมายอย่างหนึ่ง มาสมัยนี้ความหมายหรือแม้แต่ connotation ของมันเปลี่ยนไปแล้ว แถมภาษาเดียวกันแต่ใช้ในคนละประเทศ หลายๆคำมีความหมายต่างกันเสียอีก อย่างเรื่อง Harry Potter ฉบับที่มาพิมพ์ขายที่อเมริกานี่ต้องแปลจากอังกฤษเป็นอังกฤษกันอีกรอบ เพราะภาษาอังกฤษที่ใช้ในอังกฤษ กับภาษาอังกฤษที่ใช้ในอเมริกา มีหลายๆคำที่ใช้ในความหมายต่างกัน จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 24 พ.ค. 50 10:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีอีกเรื่องค่ะ เพิ่งนึกได้ ลืมเรื่องนี้ไปได้ไงก็ไม่ทราบ Midnight in the Garden of Good and Evil ของ John Berendt   เป็นเรื่องที่ใช้เหตุการณ์จริงที่เกิดเมื่อปี 1980 กว่าๆมาเป็นโครงเรื่องแบบหลวมๆ คือไม่ตรงกับเหตุการณ์นั้นเป๊ะน่ะค่ะ ใช้ฉากเมือง Savannah รัฐ Georgia เป็นที่เกิดเหตุ ตามเหตุฆาตกรรมคราวนั้นจริงๆ บ้านที่เกิดเหตุก็มีอยู่จริง (ชื่อMercer House ค่ะ) เพราะเหตุนั้น บวกกับการบรรยาย การสร้างตัวประกอบในเรื่องที่สะท้อนสภาพชีวิตของคนเมืองนั้นได้คล้ายคลึงมาก คนที่อาศัยอยู่เมือง Savannah ก็เลยเรียกหนังสือเล่มนี้ว่า "The Book" แล้วร้านหนังสือส่วนใหญ่ในอเมริกาเอาหนังสีอเล่มนี้ไปไว้ในหมวด non-fiction ค่ะ คือจัดเป็นหนังสือสำหรับการท่องเที่ยว บางแห่งก็ไปไว้รวมกับหนังสือประเภท true crime ที่เมือง Savannah มีร้านหนังสือที่ขายหนังสือเฉพาะของ John Berendt ด้วยนะคะ ทั้งๆที่เขาก็เพิ่งเขียนหนังสือไม่กี่เล่มเอง มีทัวร์ Midnight... คือทัวร์สถานที่ทุกแห่งที่พูดถึงในหนังสือ ผู้คนที่นั่นนิยมหนังสือเล่มนี้กันถึงขนาดนั้นค่ะ หนังสือเรื่องนี้อยู่ใน New York Times bestseller list นานถึง 216 อาทิตย์ติดต่อกัน เทียบรัศมี The Da Vinci Code ได้สบายๆเลยค่ะ แถมจัดเป็นหนังสือประเภท non-fiction ที่โด่งดังที่สุดตลอดกาลด้วยค่ะ ที่แนะนำมาทั้งหมดเป็นเรื่องที่ตัวเองชอบนะคะ คือทุกเรื่องอ่านแล้ววางไม่ลงเลยค่ะ คืออ่านรวดเดียวได้จนจบ ไม่จบไม่ยอมเลิกอ่าน ประมาณนั้น แต่ไม่ทราบว่าคุณเจ้าของกระทู้จะชอบหรีอเปล่านะคะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 24 พ.ค. 50 11:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าอยากฝึกอ่าน ก็ต้องเลือกแนวที่ชอบนะครับ  หนังสือดีๆ ภาษาอังกฤษ ที่พอเข้าใจได้ง่าย มีเยอะมากๆ แต่ถ้าเป็นแนวที่เราไม่ชอบ อ่านไปซักพักมันก็ไม่อิน และจะท้อเอา และแนะนำว่า ควรจะเป็นเล่มบางๆ ไอ้พวกพันหน้าเนี่ย ทิ้งไปเลย ไม่ต้องหยิบขึ้นมาเป็นเล่มแรก ฮ่าๆๆ ถ้าชอบแนวรักๆ หวานๆ แนะว่าหยิบเล่มไหนก็ได้ ของพวกนิยายรักหวานแหววเล่มบางๆ  ภาษาอังกฤษนิยมเรียกกันว่า Mills & Boon (เพราะเป็น สนพ แรกๆ ที่ทำจนดัง)  พวกนี้ภาษาอ่านง่าย เนื้อหาเบาๆ มีภาษาพูดเยอะ แต่อ่านไม่รู้เรื่องก็ข้ามได้ ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง แล้วก็ทำให้ได้เรียนรู้ภาษาพูดกับคำพื้นๆ ที่เขาใช้ในชีวิตจริงได้ดี  แต่รูปประโยคจะไม่สวยงามมากมาย ถ้าชอบแนวไซไฟ แนะนำหนังสือสำหรับวัยรุ่นหรือเยาวชน เล่มบางๆ อีกเหมือนกัน ส่วนใหญ่เขียนเข้าใจง่าย ภาษาเข้าใจง่าย เนื้อเรื่องตื่นเต้นชวนติดตาม อ่านแล้วไม่อยากวาง  นักเขียนดังๆ ก็หลายคน ที่ผมชอบมากๆ ก็คือ Katherine A. Applegate ที่เขียนชุด Animorph ภาษาง่ายมาก อ่านแล้วสนุกมาก ถ้าชอบแนวสยองขวัญ ก็ดูพวก Goosebump ครับ เป็นหนังสือวัยรุ่นอีกเหมือนกัน เด็กๆ อ่านได้ ถ้าโตขึ้นมาหน่อยก็ต้อง Christopher Pike ภาษาอ่านง่าย แต่เรื่องน่ากลัวสุดยอด จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) - [ 25 พ.ค. 50 09:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เชียร์เรื่อง  Daddy's Little Girl ด้วยคนค่ะใช้ภาษาง่าย อ่านแล้วเข้าใ จ จากคุณ : poockey - [ 27 พ.ค. 50 01:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าจากประสบการณ์ส่วนตัว ก็คงต้องบอกว่าลองอ่านแนวนิยายที่ตัวชอบก่อน ถ้าแนวตลกน่ารักก็คงต้องแนะนำของนักเขียน Sophie Kinsella เป็นงานเขียนที่อ่านง่าย เนื้อหาแนวน่ารักสนุกมากค่ะ จากคุณ : SPARROW99 - [ 1 มิ.ย. 50 14:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 "Jonathan Livingston" by Richard Bach จากคุณ : sorchilL (sorchill) - [ 10 ก.ค. 50 02:16:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 555+ โบว์เคยอ่านเรื่องเดียว(ที่อ่านแล้วพอจะรุ้เรื่อง) คือ!!... Princess Diary ค่ะ >.< ว่ากำลังจะอ่านเรื่อง Walk to A remember ของ Nicolas Spark น่ะค่ะ แต่หาซื้อไม่ได้เลย ใครพอจะรู้ว่ามีขายที่ไหนช่วยหลังไมค์มาบอกทีนะค้า ^^ จากคุณ : Lavinia - [ 24 ส.ค. 51 14:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ลองๆเข้าไปหาข้อมูล หนังสือนิยายภาษาอังกฤษที่ Amazon.com ดูน่าจะได้ไอเดียเยอะแยะเพียบเลยครับคือละลานตาสามารถเลือกหาตามหมวดหมู่ที่ชื่นชอบได้เลยว่าเราชอบ นักแต่งท่านไหน และสไตล์อะไร หรือจะเป็นหนังสือที่กำลังขายดีอยู่ทางเว็บเค้าก็มีลิสต์ต่างขึ้นมาเป็นไกด์ไลน์ให้เราสามารถเลือกหาได้อย่างจุใจครับ นอกจากอ่านนิยายฝึกฝนทักษะแล้วก็อย่าลืมหาแนวข้อสอบออนไลน์ TOEIC มาลองฝึกมือกันดูนะครับ พอดีผมมีข้อมูลอยู่ในมือเลยขอแชร์ไว้เผื่อว่าเพื่อนจะลองเข้าไปทำข้อสอบกันได้ จาก Pornpan Academy http://www.kbeautifullife.com/test-center http://study.vcharkarn.com/pretest จากคุณ : izephyr888 - [ 17 ธ.ค. 54 10:35:51 ]